ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมียเนื้อหวาน

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 :: งานแต่งงานของสองเรานั้น... [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.76K
      318
      7 พ.ค. 61

    *** แก้ไขเนื้อหาในเหมือนใน e-book ***


    บทที่ 1 :: งานแต่งงานของสองเรานั้น...

    __________________

    ไพนารี



    ความเจ็บที่ผุดขึ้นกลางอกทำให้หญิงสาวดึงความคิดตัวเองกลับมา เธอเงยหน้าขึ้นมองแผ่นหลังหนาใหญ่ของอีกคน สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วเอ่ยขึ้นว่า “หลินจะไปกรุงเทพฯ แล้ว คุณเผ่าไปส่งที่ท่ารถได้ไหมจ๊ะ”

    วันนี้เป็นวันแต่งงาน แต่พรุ่งนี้เป็นวันรายงานตัวของมหาวิทยาลัย เธอต้องเดินทางไปตอนนี้เลยเพราะกลัวจะไปถึงห้องพักค่ำมืด เธอมีที่เรียนอย่างที่ตั้งใจแล้ว ฉะนั้นจะไม่ให้ความสำคัญไม่ได้

    ทว่าพริษฐ์กลับเงียบ เขานั่งทำอะไรบางอย่างที่หัวเตียงโดยไม่สนใจเธอ

    ลลนาสูดลมหายใจแล้วผ่อนออกช้าๆ พูดคำเดิม “หลินจะไปกรุงเทพฯ ถ้าคุณเผ่าไม่สะดวกไปส่ง บอกคนให้ไปส่งหน่อยได้ไหมจ๊ะ” เธอมั่นใจว่าถ้าตนเป็นฝ่ายไปพูดกับคนงานของเขาคงไม่มีใครทำตามคำสั่งแน่

    เงียบอีกแล้ว สิ่งที่สะท้อนกลับมามีแต่ความเงียบ รออยู่กี่นาทีก็ยังเป็นเช่นเดิม หญิงสาวพ่นลมหายใจแล้วเข้าใจคำตอบของเขา เธอหมุนตัวจะลงไปข้างล่างแต่นึกบางอย่างขึ้นมาได้ก็เลยเงยหน้ามองร่างสูงใหญ่อีกครั้ง พูดออกมาเสียงจริงจัง “หลินขอโทษที่ทำให้คุณต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แม้หลินจะสำนึกผิดแต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ต่อไปหลินสัญญาว่าจะไม่สร้างความวุ่นวายให้คุณแม้แต่เรื่องเดียว จะไม่ก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของคุณ แต่ก่อนคุณเคยทำแบบไหน ตอนนี้คุณก็ทำเหมือนเดิมได้นะ ถ้าหากไม่สบายใจกับสถานะของเรา คิดซะว่าหลินไม่ใช่เมีย เป็นแค่หมาซักตัวที่...”

    ปึก!

    หมอนใบใหญ่ลอยลิ่วมาอย่างเร็ว แต่โชคดีที่เธอหลบทัน กระนั้นลลนาก็ยังรู้สึกว่าผมบางส่วนของตัวเองโดนแรงปะทะอยู่ดี

    เธอตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี ทั้งๆ ที่อยากคุยกับเขาให้รู้เรื่องและแสดงถึงการรับผิดชอบที่เธอสามารถมีให้ได้ในตอนนี้ ทว่าพริษฐ์กลับบันดาลโทสะใส่ เกลียดชังกันก็ไม่เห็นต้องใช้ความรุนแรงแบบนี้เลย คิดว่าเธอผิดแล้วจะโกรธไม่เป็นงั้นหรือ

    พลันหญิงสาวก็กลืนคำด่าที่อออยู่เต็มริมฝีปากลงท้องเมื่อใบหน้าคมคายหันมาหาช้าๆ นัยน์ตาของเขาถมึงทึงน่ากลัว รังสีอันตรายลอยคลุ้งอยู่เต็มรอบตัว หัวใจเธอหล่นฮวบลงพื้น พอตั้งสติได้ก็รีบกระวีกระวาดออกจากห้องหอราวกับหนีตาย

    ลลนาวิ่งลงมาสงบสติอารมณ์ที่ข้างล่าง เธอหายใจจนได้ยินเสียงหอบ จากนั้นก็รีบไปยกกระเป๋าเสื้อผ้าที่วางอยู่ข้างโซฟามาสะพาย พูดกันวันนี้ไม่ได้ก็รอให้เขาอารมณ์เย็นลงแล้วกัน หวังเหลือเกินว่าจะมีวันนั้นที่เธอรอคอย

    หญิงสาวเดินออกมาถึงชานบ้านก็ต้องชะงักเมื่อเห็นแม่นั่งกอดสินสอดอยู่ สองสายตาประสานกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายหลบ แต่พอขยับเท้าได้เพียงก้าวเดียวเสียงของแม่ก็ดังขึ้น

    “แกจะไปแล้วเหรอ”

    “...จ้ะ”

    “จะไปรถอะไร”

    “ว่าจะออกไปจ้างรถร้านป้าแช่ม คุณเผ่าไม่ไปส่ง”

    แม่พยักหน้าให้ ลลนาก็นึกว่าไม่มีอะไรแล้ว หมดธุระจะคุยกันแล้ว เธอกำลังจะลงบันไดก็ได้ยินเสียงแม่รั้งไว้อีกหน “เดี๋ยว”

    เธอหยุดนิ่งยืนมองเงียบๆ รอฟังว่าจะได้ยินคำถามอะไร แต่กลับเห็นแม่ดึงแบงค์สีเทาออกมาจำนวนหนึ่ง จากนั้นก็เดินเอามายื่นให้ “เอาไป”

    เธอรับมาโดยไม่พูดอะไร

    “เงินนี่ฉันจะเก็บเอง”

    “...”

    “อย่าลืมล่ะว่าใครมีบุญคุญกับแก”

    หญิงสาวมองเงินในมือนิ่ง พยักหน้าให้เบาๆ แล้วผละออกมา ยิ่งเดินมาไกลจากบ้านของพริษฐ์เท่าไร รอยยิ้มเย้ยหยันบนดวงหน้าเล็กก็ยิ่งชัดเจน

    ไม่รู้ว่าระหว่างภาวนาให้เงินที่เธออุตส่าห์ใช้ความหน้าด้านแลกมายังเหลือไว้เป็นทุนการศึกษากับขอให้แม่รู้สึกเอ็นดูเธอขึ้นมาสักนิดที่ยอมทำตามความต้องการแล้ว...อย่างไหนมันจะง่ายกว่ากัน

    ...หรือไม่มีอย่างไหนง่ายเลย

    ลลนาเป่าลมออกจากปาก ขับไล่ความอุ่นร้อนที่กัดเซาะหัวใจให้ห่างกาย แต่มันกลับทะลักล้นออกมาเต็มสองตาจนเธอต้องยกมือขึ้น

    เช็ดหลายครั้งกว่าความรู้สึกที่แสบร้อนในโพรงอกจะบรรเทาเบาบางลง

     


    ไม่พูดไม่จา แต่ปาหมอนใส่เลย

    ทำไมคุณเผ่าไม่อ่อนโยน!!!!


    เริ่มอัปเนื้อหาแล้วน้า ฝากนิยายเรื่องใหม่ล่าสุดด้วยค่า

    ไม่ดราม่า หวานแหวว และไม่ปวดสมอง อิอิ 

    กดแอดเรื่องไว้รออัป 

    V

    V


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×