คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 5 :: กลับคืนสู่อ้อมกอดมาร (1)
ซื้อ e-book จิ้มที่ชื่อเรื่องค่า
หน้าทียูบาร์
ฟาริดาเงยหน้ามองเจ้าของเสื้อคลุมตัวใหญ่ที่เพิ่งห่มลงบนตัวเธอ ร่างสูงใหญ่หน้าตึงนิดๆ ขณะถอยห่าง และแม้ว่าร่างกายของเธอจะมีสิ่งห่อหุ้มจนเสื้อผ้าที่สวมใส่มาถูกปกปิดไว้จนมิดแล้ว แต่สีหน้าของอีกฝ่ายก็ยังไม่ดีขึ้น
หญิงสาวก้มหน้าลงเล็กน้อย ระบายยิ้มออกมาบางๆ
เตชทัตเป็นรุ่นพี่ของเธอหนึ่งปี ดูกระด้างไม่อ่อนหวาน ทว่าพอได้รู้จักจริงๆ แล้วก็น่ารักกว่าที่คิด เธอนึกเสียดายวันเวลาอยู่ตลอด ทำไมถึงไม่เจอเขาก่อนจะเจอจิณณ์กัน “อนุญาตให้ฟองมาเอง แล้วทำไมถึงทำหน้าไม่พอใจแบบนั้นล่ะ”
นัยน์ตาเรียวคมตวัดมามอง น้ำเสียงติดจะกระด้างดังขึ้น “ใส่ชุดอะไรก็ไม่รู้ ไม่หนาวหรือไง”
ฟาริดาก้มสำรวจตัวเองพลางถอดเสื้อคลุมออก ก่อนจะหมุนตัวให้เขาดูประหนึ่งว่าเขายังไม่เห็นเดรสสั้นสีดำแนบเนื้อของตน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเพียงเสี้ยววินาทีคือชายหนุ่มกระชากเธอเข้ามาในอ้อมกอด คำรามเสียงเขียวใส่ จากนั้นก็ดึงเสื้อคลุมขึ้นให้มันอยู่ในร่องในรอยเดิม
“เธอนี่มัน…”
ไม่รู้เพราะความใกล้ชิด หรือเพราะเสียงหัวใจใต้แผ่นอกหนาที่ดังกระทบใบหู ที่ทำให้เธอหน้าแดง แต่แก้มนวลนั้นซับสีเรื่ออยู่เป็นนานสองนาน
รอจนเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง คนหน้าแดงก็อดประท้วงไม่ได้ “ปล่อยได้แล้วมั้ง”
เตชทัตหลุบตาลงมอง แล้วก็โน้มลงมาหอมหน้าผากอย่างรวดเร็ว
“ฮื้อ”
“หวงเนื้อหวงตัวอะไรนักหนา ให้กอดบ้าง”
“เดี๋ยวก็เกเรอย่างทุกทีที่ผ่านมา”
“ก็เห็นเธอคอยตบคอยตีฉันตลอด เคยได้ทำอะไรอย่างใจคิดไหมล่ะ”
“เตอันตรายนี่นา ฟองก็ต้องดูแลตัวเองดีๆ สิ”
ชายหนุ่มกระชับอ้อมกอด แกล้งรัดคนตัวเล็กแรงๆ ให้ร้องเสียงหลง
หญิงสาวเจ็บจนร้องไม่หยุด ท่าทางนั้นยิ่งทำให้อีกฝ่ายอยากแกล้งหนักขึ้นอีก
“คืนนี้เห็นทีฉันคงต้องผิดสัญญาที่ตกลงกันไว้แล้วแน่ๆ”
เธอช้อนตาขึ้นมองเขาหน้าตื่นๆ พอเห็นแววตาอันตรายในนัยน์ตาเรียวคมคู่นั้นก็แทบผงะ “ไม่ได้นะเต…”
“งั้นก็หยุดทำตัวน่ารัก ถ้าไม่อยากถูกฉันจับกิน”
“ได้ๆ จะไม่ดื้อไม่ขัดคำสั่งด้วย บอกอะไรจะเชื่อฟังทุกอย่าง”
เตชทัตหัวเราะในลำคอให้คนที่หงอลงทันตา หนีบเธอเดินเข้าร้านทั้งอย่างนั้น ไม่คิดจะปล่อยให้ห่างกาย
ภาพนั้นสะท้อนความรู้สึกต่างๆ ออกมามากโข ลูกค้าที่ยืนเล่นอยู่หน้าร้านสามสี่คนพูดถึงชายหญิงคู่นั้น บ้างก็ว่าเป็นคู่ที่น่ารัก บ้างก็ว่าผู้หญิงน่าอิจฉา เสียงพูดคุยของพวกเขาแน่นอนว่าดังประมาณหนึ่งเพราะไม่อย่างนั้นก็จะถูกเสียงเพลงและเสียงรถกลบเอาได้ ทำให้เป็นที่รำคาญของคนที่ได้ยินเข้าพอดี
ทว่าจริงๆ แล้ว เสียงเป็นแค่เหตุผลรองที่ทำให้เขาบังเกิดโทสะ ภาพบาดตานั่นต่างหากที่ทำใจเขาลุกเป็นไฟ
จิณณ์ถูกสมุนลากออกมาจากจุดที่พากันยืนอยู่เมื่อครู่ด้วยความทุลักทุเล เพราะเขาเอาแต่สะบัดตัวออกจะพุ่งไปหาฟาริดากับเตชทัต ใบหน้าคมคายดำคล้ำ เสียงหายใจที่ดังออกมาก็ดูน่ากลัวประหนึ่งเสียงลมเตือนก่อนจะเกิดพายุ
“นาย ใจเย็นๆ ก่อนครับ!บุ่มบ่ามเข้าไปเป็นเรื่องใหญ่แน่”
นัยน์ตาสีเข้มตวัดมองเจ้าของเสียง พริบตานั้นเขาก็ใช้ศีรษะโขกหน้าอีกฝ่ายด้วยความโมโห
ธันวาเบี่ยงตัวหลบได้ทัน จึงไม่มีการบาดเจ็บแต่อย่างใดเพียงแค่ใจเต้นไม่เป็นส่ำเท่านั้น คนสนิทหน้าหล่อรู้สึกอับจนปัญญากับเจ้านายเหลือเกิน บทจะเลือดร้อนก็สติขาดไปเลย
“ปล่อยกู!”
“ไหนสัญญากับพวกผมแล้วว่าจะใจเย็น”
“กู-บอก-ให้-ปล่อย”
“ถ้านายเข้าไปโดยไม่มีแผน คราวนี้แม้แต่ตัวน้องฟองอาจจะหาไม่เจอก็ได้”
จิณณ์ถลึงตาใส่ ลูกตาทั้งสองข้างแทบถลนออกมานอกเบ้า
ความคิดเห็น