ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ละอองฝนชโลมใจ

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2 การกลับมาของสายฟ้า

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 56


    ตอนที่การกลับมาของสายฟ้า

                    เสียงสายน้ำกระทบโขดหินนี้มันบ้านตาเรานิ  นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้กลับมา  ปีได้แล้วมั้ง  ตั้งแต่วันนั้น  วันที่เขาเดินจากไป  แงๆๆ  เสียงเด็กที่ไหนร้องนะ  “เอ้ายายขี้แยใครรังแกมาอีกล่ะ  บอกเรามาซิ  เดี่ยวเราไปจัดการให้”  เด็กผู้ชายที่คล้ายกับเขาคนนั้นพูดขึ้น กับเด็กผู้หญิงหัวกระเซิง  ที่หน้าตามอมแมมเปื้อนคราบน้ำตาที่ดูยังไงก็คล้ายฉันต้องเรียกว่าเป็นฉันเลยด้วยซ้ำ   ใช่นั้นคือภาพในความทรงจำของฉันที่มีเขาคนนั้นอยู่  “ไม่ต้องหรอกนายหัวเน่า ฮึกๆๆ  ไม่ต้องหรอกนายสู้พวกเขาไม่ได้หรอกนะ  เขาตัวใหญ่ๆกว่านายเยอะเลยน่ะ  ฮึกๆๆๆ”  เสียงฉันในตอนเด็กพูดมาด้วยเสียงสั่นเครือปนเสียงสะอื้น  “ยังไม่ได้สู้กัน  จะรู้ได้ไงว่าสู้ไม่ได้  เธอจะไปยอมให้คนอื่นรังแกเธอไปถึงไหนห๊ะยัยขี้แย”  เขาคนนั้นพูดพร้อมมือจับไหล่ฉันไว้  “ตะตะแต่ว่าพวกเขาตัวใหญ่มากเลยนะ  เสียงก็น่ากลัว  แถมยังเป็นรุ่นพี่ ป.5 ผู้ชายอีกเราสู้เขาไม่ได้หรอกนายหัวเน่า  ฉันก็ป.2  นายเองก็ ป.ยังไงก็สู้ไม่ได้อยู่ดี  เชื่อฉันสิ ฮึกๆๆกลับบ้านกันเถอะ  นะๆกลับบ้านกัน”  ฉันพูดด้วยแววตาหวาดกลัว พร้อมทั้งชวนเขากลับบ้าน  “ไม่ ฉันไม่กลับ  ยัยขี้แยเธอต่างหากที่ต้องเชื่อฉัน  เราสู้ได้ถ้าเราคิดที่จะสู้  นี้เธอยังไม่พยายามลองสู้เลยเธอจะรู้ได้ไงว่าเราจะแพ้  บางทีเราอาจชนะก็ได้นะ  ถึงโอกาสชนะจะน้อยก็เหอะ  เธอไม่สู้  แต่ฉันจะสู้ เธอยู่ด้านหลังของฉันไว้ล่ะกัน  ฉันขอสัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่าต่อแต่นี้ไปไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอฉันจะคอยปกป้องเธอเอง  ยัยขี้แยน้องสาวตัวน้อยของฉัน” เขาพูดพร้อมกับยิ้มเป็นรอยยิ้มที่สวยที่สุดเท่าฉันเคยเห็นมา  เป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นจริงๆเมื่อยามสะท้อนกับแสงพระอาทิตย์ที่ใกล้จะตกดิน ฉันมองดูเขาคนนั้นที่พยายามจะต่อสู้จากด้านหลังของเขา  แม้เขาจะแพ้หรือต้องล้มอีกกี่ครั้ง  แต่เขาก็ยังพยายามที่จะลุกขึ้นสู้  จนในที่สุดเขาก็ชนะใช่เขาชนะ  เขาทำให้ฉันได้รู้ว่าไม่มีอะไรที่เราจะทำมันไม่ได้  ถ้าเราพยายาม  และเขาทำให้ฉันเชื่อมั่นว่าเขาจะสามารถปกป้องฉันจากอันตรายได้ตลอดไป  ตอนนั้นฉันเได้แต่มองแผ่นหลังของเขา  แผ่นหลังที่ให้ฉันซบเมื่อยามมีน้ำตา  แผ่นหลังของคนที่คอยปกป้องฉันเสมอมา  ฉันได้แค่เฝ้ามองด้านหลังของเขามาตลอด  มันนานซะจนฉันเริ่มรู้สึกว่าฉันคงขาดเขาไม่ได้  แต่ในขณะเดียวสำหรับเขาฉันก็ยังเป็นแค่น้องสาวตัวเล็กๆที่เขาต้องคอยปกป้อง    ฉันได้เพียงแค่แอบหวังลึกๆในใจว่า  สักวันหนึ่งฉันคงไม่ต้องคอยแอบมองด้านหลังของเขา  หรือแอบหลบซ่อนด้านหลังของเขาเพื่อให้เขาคอยปกป้องเหมือนตอนเด็กๆ  ฉันเพียงแค่หวังว่าสักวันหนึ่งฉันคงได้ก้าวไปอยู่ตรงข้างๆเขา  กุมมือเขาและก้าวไปพร้อมกันไม่ใช่ในฐานะน้องสาว  แต่ฉันอยากให้เขากุมมือฉันปกป้องฉันในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งหรือคนรัก  ฉันได้แต่แอบหวังอย่างนี้มาตลอดจนถึงตอนนี้  แต่ตอนนี้ในฐานะน้องสาวฉันก็ไม่มีสิทธิ์  เมื่อตอนนี้เขาจากฉันไปแล้ว  เพราะคำพูดบ้าๆของฉัน  เขาจึงจากฉันไปโดยไม่มีแม้จะบอกลา ทิ้งคำสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะคอยปกป้องฉันตลอดไป   ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนกันนะพี่ชายที่ “ฉันรัก”

                    “อัยย์  ยายอัยย์  ตื่นสิว่ะ  แกตื่นสิ”  แป้งหมี่ส่งเสียงเรียกอัยย์เมื่อเห็นว่าเพื่อนของเธอส่งเสียงสะอี้นและมีน้ำตา  “สัญญา  สัญญา  ปกป้อง  ไหนจะปกป้อง  อยู่ไหน  อยู่ที่ไหน”  อัยย์ส่งเสียงละเมอดังขึ้นพร้อมสะดุ้งตื่น  ทำให้เพื่อนๆต่างส่งเสียงดีใจ  “แกฟื้นแล้ว  โอ๊ยฉันดีใจอ่ะ  แกเป็นไงบ้าง  หลับสบายเชียวนะแก  ปล่อยพวกฉันนั้งอดหลับอดนอนเป็นห่วงแกเนี๊ยย  แกอ่ะใจร้ายม๊ากกกกก”ยัยสกายกอดฉันไว้ด้วยอาการดี้ด้าพร้อมทั้งส่งเสียประชดประชันฉัน  แหมมมถ้ายัยสกายไม่ประชดประชันใครรก็ไม่ครบสูตรล่ะน่ะ  “มะแหมๆๆๆ  ไม่หลับไม่นอน  ช่างกล้าพูด  แล้วเมื่อคืนใครกันน๊าส่งเสียงกรน  ใครกันน๊านอนกัดฟันซะคนอื่นไม่ต้องหลับ  ใครกันน๊าที่แตะยัยบิวตี้ตกเตียงซะเอวแทบหลุด  ใครกันน๊าใครกัน”  ยัยแป้งหมี่ส่งเสียงประชดตามมาหลังสกายพูดจบ  โดยมีน้ำแข็งกับบิวตี้เป็นลูกคู่ เอามือปิดตาพร้อมทั้งเอานิ้วชี้ไปทางสกาย  เหมือนกับว่ายัยสกายเป็นผู้ต้องหาคดีร้ายแรง  ยัยน้ำแข็งเล่นกับแป้งหมี่ฉันไม่แปลกใจหรอกนะ  แต่นี้ยัยบิวตี้ผู้แสนเงียบเชียบกุลสตรีหมายเลขหนึ่งของกลุ่มร่วมเล่นงานสกายด้วยนี้ซิ  ต้องเป็นอะไรที่ร้ายแรงมากแน่ๆ  ถ้าเป็นคดีก็น่าจะเป็นคดีอาญาและมีโทษประหารชีวิตสถานเดียวเท่านั้น  “อะไร  ทำไม  ฉันเปล่านะ  อย่ามองฉันด้วยสายตาเหมือนฉันไปฆ่าใครตายซิ  ไม่เอาๆอย่ามัวพูดเรื่องแบบนี้เลย  ไร้สาระจะตายเราโตๆกันแล้วนะ  นี้ดูซิยัยอัยย์เพิ่งรู้สึกตัวนะ  แกจะไม่ถามมันหน่อยเหรอว่าเป็นไงบ้าง  ดีขึ้นป่าวเนอะยัยอัยย์เนอะ”  ยัยสกายรีบเปลี่ยนเรื่องคุยและพยายามจะพาฉันไปเป็นพวกด้วย  แต่ใครจะไปช่วยมันล่ะ  นานๆยัยตัวร้ายประจำกลุ่มพลาดพลั้งเราก็ต้องช่วยซ้ำเติมมันซิจริงป่าว  “หรอค่ะ  แกเป็นห่วงฉันมากซินี้  ถึงขนาดไม่รู้สึกตัวจนแตะยัยบิวตี้ตกเตียงขนาดนั้น  เป็นห่วงฉันม๊ากมากเน๊อะเพื่อนรัก”  ฉันพูดไปแล้วอมยิ้มเมื่อเห็นอาการของสกายยัยตัวร้ายประจำกลุ่มที่อายหน้าแดง  ก็ยัยนี้อ่ะทุกอย่างต้องแป๊ะ  แต่ตอนนี้พวกเรารุมแซวจนและไปเรียบร้อยแล้ว  “เออจริงซิ  ใครมาช่วยเราอ่ะ”  ฉันถามในสิ่งที่ฉันสงสัยเพราะตอนที่ฉันจะสลบไปฉันเห็นเหมือนเขาคนนั้นที่เข้ามาช่วยฉัน  อาจเป็นเพราะฉันคิดถึงเขาคนนั้นมากก็ได้  “ไม่รู้อ่ะว่าไคร  น่าจะเป็นรุ่นพี่เราละมั้ง  แต่ที่รู้ๆนะแกหล่อม๊ากกกกกกกก   เท่ม๊ากกกกกกกกก  น่ารักม๊ากกกกกก ที่สำคัญฉันอยากได้เป็นแฟนม๊ากกกกก”  แป้งหมี่พูดลากเสียงยาวม๊ากกกกกพร้อมทั้งทำนัยน์ตาเพ้อฝันราวกับจะหลุดทะลุออกไปยังดาวอังคารซะแล้ว  พวกเราจึงได้แต่ส่ายหน้าปลงกับความหื่นที่ไม่เลือกเวลาและสถานการณ์ของมัน   “พอแล้วแก  มากของแกอ่ะยาวม๊ากกกเกินไปแล้ว  เออแล้วเลิกทำอาการหื่นแบบนั้นซะทีเถอะ  เช็ดน้ำลายด้วย เยิ้มเชียว  ยัยหื่น”  น้ำแข็งพูดพร้อมเอามือจิ้มหน้าผากยัยแป้งหมี่ที่ยังไม่เลิกทำหน้าหื่นสักที  ฉันว่ามันคงเป็นเอามากซะจนกรู่ไม่กลับแล้ว ใครก็ได้พายัยหื่นนี้ไปเก็บใส่ลิ้นชักที ฉันว่านะอาการยัยแป้งหมี่มันเริ่มหนักขึ้นทุกวันซะแล้วซิ  “ฉันก็ไม่รู้จักหรอกแก  แต่ก็หล่อดีนะ  ดูเป็นผู้ชายร้ายๆยังไงไม่รู้  สายตาเขานะเย็นชามาก  แต่แปลกอ่ะ”  สกายพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน  สงสัยจะเลิกอายแล้วมั้ง  “แปลกไงอ่ะแก  ทำไมอ่ะเขามีสามตา  หูซ้ายมี2อันหรือไง หุๆๆ” ฉันถามแบบกวนๆก็มันตลกนิไม่รู้จักแต่กลับบอกว่าเขาแปลกซะงั้น “ก็แปลกจริงๆนิ  แกรู้ป่าวว่าตอนเขามาเห็นแกเป็นลมอ่ะเขาทำหน้าตกใจมากเลยนะโว๊ย”  สกายพูดพร้อมทำหน้าครุ่นคิดไปด้วย  “ไม่เห็นจะแปลกนิ  ใครเห็นสภาพฉันตอนนั้นก็ตกใจหมดแหละ  ขนาดแกแตะยัยบิวตี้ตกเตียง  น้ำแข็งกับแป้งหมี่ยังตกใจเล๊ย”  ฉันพูดแซวสกายอีกครั้ง  โดยมีแป้งหมี่กับน้ำแข็งพยักหน้าเป็นพยานปากเอกคนสำคัญ   สกายจึงได้แต่ส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอยาวๆของหล่อนแล้วก้มหน้าแก้มแดงไม่ยอมพูดต่อ  “แต่ ตอนที่เขาอุ้มคุณอัยย์  เขามองคุณอัยด้วยสายตาที่เป็นห่วง  อ่อนโยนและอบอุ่นมาก ยังกับคนที่รู้จักกันมาก่อนจริงๆนะค่ะ”  บิวตี้พูดขึ้นพร้อมที่ยัยสองเกลอเจอหมีนั้นก็ยังทำหน้าที่พยานปากเอกคนสำคัญต่อไป  โดยการพยักหน้าต่อ  ให้ตายซิพระเจ้าฉันอยากจับหัวสองคนนั้นชนกันจริงๆช่างทำหน้าที่ของพวกมันได้ดีแท้ไม่มีบกพร่องสักนิดเลย   “ความจริงคุณอัยย์อาจจะรู้จักเขาก็ได้นะค่ะ  จริงซิวันนี้เขาบอกเขาจะมาเยี่ยมคุณอัยย์เดี่ยวคุณอัยย์ก็รู้เองแหละค่ะว่าเขาเป็นไครกันแน่”  ฉันได้แต่ครุ่นคิดตามที่บิวตี้พูด  และรอให้เขามาด้วยความสงสัย

                    13.00 น.  กรุ๊งๆๆกริ๊งๆๆ  เสียงโมบายรูปดาวและพระจันทร์กระทบกันเป็นเสียงดังระรื่นหู  เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีคนเข้ามาในห้องนี้ โดยมีบิวตี้กระซิบให้ฉันรู้ว่า  “คุณอัยย์คนนี้แหละค่ะที่ช่วยพวกเราไว้”  ขนาดฉันไม่ได้หันหลังกลับมามองฉันก็ยังสามารถเดาได้เลยว่าเขาต้องเป็นคนหล่อเอาการมากแน่ๆ  ก็ดูซิยัยแป้งหมี่เริ่มทำสายตาเพ้อฝันอีกแล้ว  ฉันจึงฉีกยิ้มเต็มที่เพื่อจะหันกลับมาขอบคุณเขา  “ขอบคุณนะค่ะ  ที่ช่วยพวกเราไว้  ถ้าไม่ได้คุณพวกเรา...........”  เมื่อฉันหันกลับมา  ฉันเหมือนกับคนเป็นใบ้รอยยิ้มที่เตรียมส่งมาให้เขาก็ค้าง  คำพูดที่จะพูดก็ถูกกลืนลงคอไม่สามารถเปล่งมันออกมา  ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเพื่อนๆคนอื่น  ได้ยินเพียงแต่เสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นดังเหมือนมันจะทะลุออกมา  เหมือนโลกกำลังสั่นไหว  ฉันเกือบลืมแม้กระทั้งหายใจชั่วขณะหนึ่ง  เมื่อหันกลับมาแล้วพบว่าคนที่ฉันรอมาตลอด 5 ปี  คนที่ทิ้งฉันไปโดยไม่มีแม้คำลาสักคำ  คนที่ลืมและทอดทิ้งคำสัญญาว่าจะคอยปกป้องฉัน  คนที่ทำให้ฉันจมอยู่กับความเศร้าและทุกข์ทรมานตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา  ตอนนี้เขาคนนั้นกลับมายืนอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว   “ นายสายฟ้า...........”


    สวัสดีค่ะ  หลังที่ห่างหายกันไปนาน  ยอดคนอ่านก้ไปช้าๆ  คนเม้นก้ไม่มี  เฮ้ออ

    แต่ก้ยังมีกำลังใจแต่ง  ตรงที่ทุกคนถึงไม่เม้นให้กำลังใจแต่ก็ยังเข้ามาอ่านกันบ้างพอให้มีกำลังใจเขียนมากเลยค่ะ

    เพราะแค่นี้ก็เป็นกำลังใจอย่างมากแก่คนหัดแต่งแล้วล่ะค่ะ ><


    ช่วงนี้ใกล้เปิดเทอมจึงยุ่งเป็นพิเศษเลยไม่ได้ค่อยมาอัพบ่อย  แต่ไม่ทิ้งเรื่องนี้แน่นอนค่ะ ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านนะค่ะ

    ขอบคุณจริงๆค่ะ  >___________<      ละอองจันทรา

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×