คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2 การกลับมาของสายฟ้า
ตอนที่2 การกลับมาของสายฟ้า
เสียงสายน้ำกระทบโขดหินนี้มันบ้านตาเรานิ นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้กลับมา 5 ปีได้แล้วมั้ง ตั้งแต่วันนั้น วันที่เขาเดินจากไป แงๆๆ เสียงเด็กที่ไหนร้องนะ “เอ้ายายขี้แยใครรังแกมาอีกล่ะ บอกเรามาซิ เดี่ยวเราไปจัดการให้” เด็กผู้ชายที่คล้ายกับเขาคนนั้นพูดขึ้น กับเด็กผู้หญิงหัวกระเซิง ที่หน้าตามอมแมมเปื้อนคราบน้ำตาที่ดูยังไงก็คล้ายฉันต้องเรียกว่าเป็นฉันเลยด้วยซ้ำ ใช่นั้นคือภาพในความทรงจำของฉันที่มีเขาคนนั้นอยู่ “ไม่ต้องหรอกนายหัวเน่า ฮึกๆๆ ไม่ต้องหรอกนายสู้พวกเขาไม่ได้หรอกนะ เขาตัวใหญ่ๆกว่านายเยอะเลยน่ะ ฮึกๆๆๆ” เสียงฉันในตอนเด็กพูดมาด้วยเสียงสั่นเครือปนเสียงสะอื้น “ยังไม่ได้สู้กัน จะรู้ได้ไงว่าสู้ไม่ได้ เธอจะไปยอมให้คนอื่นรังแกเธอไปถึงไหนห๊ะยัยขี้แย” เขาคนนั้นพูดพร้อมมือจับไหล่ฉันไว้ “ตะตะแต่ว่าพวกเขาตัวใหญ่มากเลยนะ เสียงก็น่ากลัว แถมยังเป็นรุ่นพี่ ป.5 ผู้ชายอีกเราสู้เขาไม่ได้หรอกนายหัวเน่า ฉันก็ป.2 นายเองก็ ป.3 ยังไงก็สู้ไม่ได้อยู่ดี เชื่อฉันสิ ฮึกๆๆกลับบ้านกันเถอะ นะๆกลับบ้านกัน” ฉันพูดด้วยแววตาหวาดกลัว พร้อมทั้งชวนเขากลับบ้าน “ไม่ ฉันไม่กลับ ยัยขี้แยเธอต่างหากที่ต้องเชื่อฉัน เราสู้ได้ถ้าเราคิดที่จะสู้ นี้เธอยังไม่พยายามลองสู้เลยเธอจะรู้ได้ไงว่าเราจะแพ้ บางทีเราอาจชนะก็ได้นะ ถึงโอกาสชนะจะน้อยก็เหอะ เธอไม่สู้ แต่ฉันจะสู้ เธอยู่ด้านหลังของฉันไว้ล่ะกัน ฉันขอสัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่าต่อแต่นี้ไปไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอฉันจะคอยปกป้องเธอเอง ยัยขี้แยน้องสาวตัวน้อยของฉัน” เขาพูดพร้อมกับยิ้มเป็นรอยยิ้มที่สวยที่สุดเท่าฉันเคยเห็นมา เป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นจริงๆเมื่อยามสะท้อนกับแสงพระอาทิตย์ที่ใกล้จะตกดิน ฉันมองดูเขาคนนั้นที่พยายามจะต่อสู้จากด้านหลังของเขา แม้เขาจะแพ้หรือต้องล้มอีกกี่ครั้ง แต่เขาก็ยังพยายามที่จะลุกขึ้นสู้ จนในที่สุดเขาก็ชนะใช่เขาชนะ เขาทำให้ฉันได้รู้ว่าไม่มีอะไรที่เราจะทำมันไม่ได้ ถ้าเราพยายาม และเขาทำให้ฉันเชื่อมั่นว่าเขาจะสามารถปกป้องฉันจากอันตรายได้ตลอดไป ตอนนั้นฉันเได้แต่มองแผ่นหลังของเขา แผ่นหลังที่ให้ฉันซบเมื่อยามมีน้ำตา แผ่นหลังของคนที่คอยปกป้องฉันเสมอมา ฉันได้แค่เฝ้ามองด้านหลังของเขามาตลอด มันนานซะจนฉันเริ่มรู้สึกว่าฉันคงขาดเขาไม่ได้ แต่ในขณะเดียวสำหรับเขาฉันก็ยังเป็นแค่น้องสาวตัวเล็กๆที่เขาต้องคอยปกป้อง ฉันได้เพียงแค่แอบหวังลึกๆในใจว่า สักวันหนึ่งฉันคงไม่ต้องคอยแอบมองด้านหลังของเขา หรือแอบหลบซ่อนด้านหลังของเขาเพื่อให้เขาคอยปกป้องเหมือนตอนเด็กๆ ฉันเพียงแค่หวังว่าสักวันหนึ่งฉันคงได้ก้าวไปอยู่ตรงข้างๆเขา กุมมือเขาและก้าวไปพร้อมกันไม่ใช่ในฐานะน้องสาว แต่ฉันอยากให้เขากุมมือฉันปกป้องฉันในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งหรือคนรัก ฉันได้แต่แอบหวังอย่างนี้มาตลอดจนถึงตอนนี้ แต่ตอนนี้ในฐานะน้องสาวฉันก็ไม่มีสิทธิ์ เมื่อตอนนี้เขาจากฉันไปแล้ว เพราะคำพูดบ้าๆของฉัน เขาจึงจากฉันไปโดยไม่มีแม้จะบอกลา ทิ้งคำสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะคอยปกป้องฉันตลอดไป ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนกันนะพี่ชายที่ “ฉันรัก”
“อัยย์ ยายอัยย์ ตื่นสิว่ะ แกตื่นสิ” แป้งหมี่ส่งเสียงเรียกอัยย์เมื่อเห็นว่าเพื่อนของเธอส่งเสียงสะอี้นและมีน้ำตา “สัญญา สัญญา ปกป้อง ไหนจะปกป้อง อยู่ไหน อยู่ที่ไหน” อัยย์ส่งเสียงละเมอดังขึ้นพร้อมสะดุ้งตื่น ทำให้เพื่อนๆต่างส่งเสียงดีใจ “แกฟื้นแล้ว โอ๊ยฉันดีใจอ่ะ แกเป็นไงบ้าง หลับสบายเชียวนะแก ปล่อยพวกฉันนั้งอดหลับอดนอนเป็นห่วงแกเนี๊ยย แกอ่ะใจร้ายม๊ากกกกก”ยัยสกายกอดฉันไว้ด้วยอาการดี้ด้าพร้อมทั้งส่งเสียประชดประชันฉัน แหมมมถ้ายัยสกายไม่ประชดประชันใครรก็ไม่ครบสูตรล่ะน่ะ “มะแหมๆๆๆ ไม่หลับไม่นอน ช่างกล้าพูด แล้วเมื่อคืนใครกันน๊าส่งเสียงกรน ใครกันน๊านอนกัดฟันซะคนอื่นไม่ต้องหลับ ใครกันน๊าที่แตะยัยบิวตี้ตกเตียงซะเอวแทบหลุด ใครกันน๊าใครกัน” ยัยแป้งหมี่ส่งเสียงประชดตามมาหลังสกายพูดจบ โดยมีน้ำแข็งกับบิวตี้เป็นลูกคู่ เอามือปิดตาพร้อมทั้งเอานิ้วชี้ไปทางสกาย เหมือนกับว่ายัยสกายเป็นผู้ต้องหาคดีร้ายแรง ยัยน้ำแข็งเล่นกับแป้งหมี่ฉันไม่แปลกใจหรอกนะ แต่นี้ยัยบิวตี้ผู้แสนเงียบเชียบกุลสตรีหมายเลขหนึ่งของกลุ่มร่วมเล่นงานสกายด้วยนี้ซิ ต้องเป็นอะไรที่ร้ายแรงมากแน่ๆ ถ้าเป็นคดีก็น่าจะเป็นคดีอาญาและมีโทษประหารชีวิตสถานเดียวเท่านั้น “อะไร ทำไม ฉันเปล่านะ อย่ามองฉันด้วยสายตาเหมือนฉันไปฆ่าใครตายซิ ไม่เอาๆอย่ามัวพูดเรื่องแบบนี้เลย ไร้สาระจะตายเราโตๆกันแล้วนะ นี้ดูซิยัยอัยย์เพิ่งรู้สึกตัวนะ แกจะไม่ถามมันหน่อยเหรอว่าเป็นไงบ้าง ดีขึ้นป่าวเนอะยัยอัยย์เนอะ” ยัยสกายรีบเปลี่ยนเรื่องคุยและพยายามจะพาฉันไปเป็นพวกด้วย แต่ใครจะไปช่วยมันล่ะ นานๆยัยตัวร้ายประจำกลุ่มพลาดพลั้งเราก็ต้องช่วยซ้ำเติมมันซิจริงป่าว “หรอค่ะ แกเป็นห่วงฉันมากซินี้ ถึงขนาดไม่รู้สึกตัวจนแตะยัยบิวตี้ตกเตียงขนาดนั้น เป็นห่วงฉันม๊ากมากเน๊อะเพื่อนรัก” ฉันพูดไปแล้วอมยิ้มเมื่อเห็นอาการของสกายยัยตัวร้ายประจำกลุ่มที่อายหน้าแดง ก็ยัยนี้อ่ะทุกอย่างต้องแป๊ะ แต่ตอนนี้พวกเรารุมแซวจนและไปเรียบร้อยแล้ว “เออจริงซิ ใครมาช่วยเราอ่ะ” ฉันถามในสิ่งที่ฉันสงสัยเพราะตอนที่ฉันจะสลบไปฉันเห็นเหมือนเขาคนนั้นที่เข้ามาช่วยฉัน อาจเป็นเพราะฉันคิดถึงเขาคนนั้นมากก็ได้ “ไม่รู้อ่ะว่าไคร น่าจะเป็นรุ่นพี่เราละมั้ง แต่ที่รู้ๆนะแกหล่อม๊ากกกกกกกก เท่ม๊ากกกกกกกกก น่ารักม๊ากกกกกก ที่สำคัญฉันอยากได้เป็นแฟนม๊ากกกกก” แป้งหมี่พูดลากเสียงยาวม๊ากกกกกพร้อมทั้งทำนัยน์ตาเพ้อฝันราวกับจะหลุดทะลุออกไปยังดาวอังคารซะแล้ว พวกเราจึงได้แต่ส่ายหน้าปลงกับความหื่นที่ไม่เลือกเวลาและสถานการณ์ของมัน “พอแล้วแก มากของแกอ่ะยาวม๊ากกกเกินไปแล้ว เออแล้วเลิกทำอาการหื่นแบบนั้นซะทีเถอะ เช็ดน้ำลายด้วย เยิ้มเชียว ยัยหื่น” น้ำแข็งพูดพร้อมเอามือจิ้มหน้าผากยัยแป้งหมี่ที่ยังไม่เลิกทำหน้าหื่นสักที ฉันว่ามันคงเป็นเอามากซะจนกรู่ไม่กลับแล้ว ใครก็ได้พายัยหื่นนี้ไปเก็บใส่ลิ้นชักที ฉันว่านะอาการยัยแป้งหมี่มันเริ่มหนักขึ้นทุกวันซะแล้วซิ “ฉันก็ไม่รู้จักหรอกแก แต่ก็หล่อดีนะ ดูเป็นผู้ชายร้ายๆยังไงไม่รู้ สายตาเขานะเย็นชามาก แต่แปลกอ่ะ” สกายพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน สงสัยจะเลิกอายแล้วมั้ง “แปลกไงอ่ะแก ทำไมอ่ะเขามีสามตา หูซ้ายมี2อันหรือไง หุๆๆ” ฉันถามแบบกวนๆก็มันตลกนิไม่รู้จักแต่กลับบอกว่าเขาแปลกซะงั้น “ก็แปลกจริงๆนิ แกรู้ป่าวว่าตอนเขามาเห็นแกเป็นลมอ่ะเขาทำหน้าตกใจมากเลยนะโว๊ย” สกายพูดพร้อมทำหน้าครุ่นคิดไปด้วย “ไม่เห็นจะแปลกนิ ใครเห็นสภาพฉันตอนนั้นก็ตกใจหมดแหละ ขนาดแกแตะยัยบิวตี้ตกเตียง น้ำแข็งกับแป้งหมี่ยังตกใจเล๊ย” ฉันพูดแซวสกายอีกครั้ง โดยมีแป้งหมี่กับน้ำแข็งพยักหน้าเป็นพยานปากเอกคนสำคัญ สกายจึงได้แต่ส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอยาวๆของหล่อนแล้วก้มหน้าแก้มแดงไม่ยอมพูดต่อ “แต่ ตอนที่เขาอุ้มคุณอัยย์ เขามองคุณอัยด้วยสายตาที่เป็นห่วง อ่อนโยนและอบอุ่นมาก ยังกับคนที่รู้จักกันมาก่อนจริงๆนะค่ะ” บิวตี้พูดขึ้นพร้อมที่ยัยสองเกลอเจอหมีนั้นก็ยังทำหน้าที่พยานปากเอกคนสำคัญต่อไป โดยการพยักหน้าต่อ ให้ตายซิพระเจ้าฉันอยากจับหัวสองคนนั้นชนกันจริงๆช่างทำหน้าที่ของพวกมันได้ดีแท้ไม่มีบกพร่องสักนิดเลย “ความจริงคุณอัยย์อาจจะรู้จักเขาก็ได้นะค่ะ จริงซิวันนี้เขาบอกเขาจะมาเยี่ยมคุณอัยย์เดี่ยวคุณอัยย์ก็รู้เองแหละค่ะว่าเขาเป็นไครกันแน่” ฉันได้แต่ครุ่นคิดตามที่บิวตี้พูด และรอให้เขามาด้วยความสงสัย
13.00 น. กรุ๊งๆๆกริ๊งๆๆ เสียงโมบายรูปดาวและพระจันทร์กระทบกันเป็นเสียงดังระรื่นหู เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีคนเข้ามาในห้องนี้ โดยมีบิวตี้กระซิบให้ฉันรู้ว่า “คุณอัยย์คนนี้แหละค่ะที่ช่วยพวกเราไว้” ขนาดฉันไม่ได้หันหลังกลับมามองฉันก็ยังสามารถเดาได้เลยว่าเขาต้องเป็นคนหล่อเอาการมากแน่ๆ ก็ดูซิยัยแป้งหมี่เริ่มทำสายตาเพ้อฝันอีกแล้ว ฉันจึงฉีกยิ้มเต็มที่เพื่อจะหันกลับมาขอบคุณเขา “ขอบคุณนะค่ะ ที่ช่วยพวกเราไว้ ถ้าไม่ได้คุณพวกเรา...........” เมื่อฉันหันกลับมา ฉันเหมือนกับคนเป็นใบ้รอยยิ้มที่เตรียมส่งมาให้เขาก็ค้าง คำพูดที่จะพูดก็ถูกกลืนลงคอไม่สามารถเปล่งมันออกมา ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเพื่อนๆคนอื่น ได้ยินเพียงแต่เสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นดังเหมือนมันจะทะลุออกมา เหมือนโลกกำลังสั่นไหว ฉันเกือบลืมแม้กระทั้งหายใจชั่วขณะหนึ่ง เมื่อหันกลับมาแล้วพบว่าคนที่ฉันรอมาตลอด 5 ปี คนที่ทิ้งฉันไปโดยไม่มีแม้คำลาสักคำ คนที่ลืมและทอดทิ้งคำสัญญาว่าจะคอยปกป้องฉัน คนที่ทำให้ฉันจมอยู่กับความเศร้าและทุกข์ทรมานตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา ตอนนี้เขาคนนั้นกลับมายืนอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว “ นายสายฟ้า...........”
สวัสดีค่ะ หลังที่ห่างหายกันไปนาน ยอดคนอ่านก้ไปช้าๆ คนเม้นก้ไม่มี เฮ้ออ
แต่ก้ยังมีกำลังใจแต่ง ตรงที่ทุกคนถึงไม่เม้นให้กำลังใจแต่ก็ยังเข้ามาอ่านกันบ้างพอให้มีกำลังใจเขียนมากเลยค่ะ
เพราะแค่นี้ก็เป็นกำลังใจอย่างมากแก่คนหัดแต่งแล้วล่ะค่ะ ><
ช่วงนี้ใกล้เปิดเทอมจึงยุ่งเป็นพิเศษเลยไม่ได้ค่อยมาอัพบ่อย แต่ไม่ทิ้งเรื่องนี้แน่นอนค่ะ ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านนะค่ะ
ขอบคุณจริงๆค่ะ >___________< ละอองจันทรา
ความคิดเห็น