คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Lesson 2 : จดหมายกลายเป็นฝุ่น
Lesson 2
“ หลบ!!! ” เสียงของไดน์ดังขึ้น สองสาวเอี้ยวตัวหลบอย่างรู้งานก่อนที่สิ่งนั้นจะกระโจนไปอีกฝั่งและหันกลับมาจ้องมองพวกเขาทั้งสาม
“ ตัวอะไรน่ะ ?? ” โดโร่มองมันอย่างฉงน
สี่เท้าของมันกำลังจะค่อย ๆ ย่างกรายเข้ามาอย่างช้า ๆ นัยน์ตาสีแดงเพลิงสองดวงจ้องเขม็งมายังพวกเขาอย่างไม่ลดละ ลำตัวที่ยาวถึงสองเมตรนั้นทำให้ใจของพวกเขาตกลงไปที่ตาตุ่ม
“ คงจะเป็นริงไทเกอร์ ” ไดน์พูดห้วน ๆ
“ ริงไทเกอร์เหรอ ?? ” เอเลนหันมามองหน้าเพื่อนชายที่ตอนนี้ดูหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด
“ เป็นสัตว์จำพวกเสือน่ะ มันจะอาศัยอยู่ในเขตแดนที่อยู่ลึกสุดของแดนเวทย์มนต์ ค่อนข้างดุพอสมควร แต่มันจะไม่ทำร้ายใครก่อนถ้าพวกมันไม่หิวหรือไม่ก็ .... ” ไดน์สะอึก
“ อะไร!!?? ” สองสาวตะโกนพร้อมกัน
“ ไปลุกล้ำเขตแดนของมันน่ะสิ ” เขาพูดอย่างเฉื่อยชา
โฮกกกกกกก!!!
เสียงคำรามของริงไทเกอร์ดังก้องไปทั่ว เป็นสัญญาณเตือนให้ตัวอื่น ๆ ได้รู้ว่า มีผู้บุกรุกเขตแดนของมัน
“ จะเอาไงดี ... ” โดโร่คิด
สวบบบบบบบ .... เสียงย่ำเท้าของฝูงริงไทเกอร์ ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ตัวของพวกเขาเรื่อย ๆ
“ มีทางเดียวที่จะฝ่าวงล้อมนี้ไปให้ได้ ” เอเลนกำตรีศูรย์แน่น
โดโร่และไดน์หันมามองหน้าเพื่อนสาวและยิ้มให้เหมือนกับว่ารู้กัน
“ สู้!!! ”
ไดน์เริ่มกระโจนออกมาจากกลุ่มก่อนที่จะยิงธนูขึ้นฟ้าไปดอกหนึ่ง
โฮกกกก!!!
ฝูงริงไทเกอร์คำรามเสียงดังพร้อมกับวิ่งกระโจนเข้ามาหาไดน์ ลูกธนูที่พุ่งขึ้นฟ้าค่อย ๆ ดิ่งลงมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับตอนยิงขึ้นฟ้า
ลูกธนูดิ่งลงมาจากท้องฟ้านับร้อย!!!
“ เกรตบาเรีย!!! ” โดโร่ร่ายมนต์บทหนึ่งออกมา ลูกแก้วคู่ใจทั้งสองของเธอค่อย ๆ แปรสภาพเป็นเกาะกำบังให้ทั้งสามปลอดภัย
“ ทำบ้าอะไรของเธอน่ะ เราจะตายกันหมดรู้ไหม!!! ” เอเลนติเพื่อนหนุ่ม
“ แต่มันก็ได้ผลไม่ใช่เหรอ ... ” ไดน์พูดก่อนที่จะมองดูผลงานของตัวเอง
เหล่าริงไทเกอร์นับสิบต่างนอนแน่นิ่งไม่เป็นท่า เลือดสีเขียวขุ่นค่อย ๆ ไหลออกมาจากตัวของมันอย่างช้า ๆ
“ สุดยอดไปเลยไดน์ พลังของนายเจ๋งจริง ๆ !! ” โดโร่ตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
“ ไดน์ซะอย่าง ของแบบนี้ กล้วย ๆ ^^ ” เขายิ้มกว้าง
ในตอนนั้นเอง ริงไทเกอร์ตัวหนึ่งที่ยังตายไม่สนิทค่อย ๆ ทรงตัวขึ้นโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว
“ ไปกันต่อเหอะนะ เดี๋ยวเกิดมาอีกฝูงหนึ่งซวยเลย ” เอเลนพูด
โฮกกก!!
เสียงคำรามของมันดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่ปากของมันจะปรากฏวงแหวนสีเหลืองออกมาจากปาก วงแหวนนั่นกำลังพุ่งตรงมาทางเอเลน
“ เอเลน!! ” ไดน์รีบวิ่งเข้ามาช่วยเอเลน
โชคร้ายของไดน์ที่วงแหวนนั่นโดนเข้าที่หัวไหล่
“ โอ๊ยยย!!! ” เขากุมหัวไหล่ข้างซ้ายของตัวเองอย่างช้า ๆ เลือดค่อย ๆ ไหลซึมออกมาไม่ต่างกับริงไทเกอร์เลย
“ แกทำอะไรเพื่อนฉันน่ะ ” โดโร่มองริงไทเกอร์ที่ค่อย ๆ จะตายอยู่ตรงนั้น
“ อควาเรียส!!! ” ลูกแก้วของโดโร่ค่อย ๆ แปรสภาพเป็นธนูน้ำแข็งก่อนที่จะพุ่งเข้าปลิดชีพของริงไทเกอร์อย่างทรมาณ
“ ไม่เป็นไรนะ ” เอเลนเริ่มใจไม่ดี
“ พิษของริงไทเกอร์ ... ฉันโดน .. พิษของมันจนได้ ” เขาเริ่มพูดติด ๆ ขัด ๆ
“ ทำไม ?? พิษของมันเป็นยังไงกันน่ะ ” โดโร่เสียงสั่น
“ มันจะค่อย ๆ ละลายกระดูไปช้า ๆ จนร่างกายค่อย ๆ สลายไปน่ะสิ ... เหมือนกับผงกั๊มไม่มีผิด ” เขาเริ่มกระอักเลือดออกมา
“ เฮ้! ไดน์ อย่าทำงี้ดิ ไหนบอกจะไปสมัครเรียนด้วยกันไง ... นายมาทำแบบนี้ได้ไง ” น้ำตาของโดโร่เริ่มไหลออกมา
เหตุการณ์คับขันกำลังจะ จบลง พร้อมกับจดหมายที่ลอยออกมาจากกระเป๋าของไดน์
จดหมายสีลายครามกลางออกอย่างช้า ๆ พร้อมกับเสียงประหลาดที่ดังขึ้น
“ คุณไม่สามารถเดินทางไปต่อได้ เนื่องจากร่างกายของคุณถูกพิษของริงไทเกอร์ ... กรุณาตัดสินใจอีกครั้งว่าคุณจะมาที่นี่อีกหรือเปล่า ?? ” เสียงของหญิงสาวจากจดหมายนั้นฟังดูหนักแน่นและขึงขัง
“ ไดน์ ... ” เอเลนมองหน้าเพื่อนที่ค่อย ๆ สลายกลายเป็นฝุ่นไปเรื่อยเรื่อย
“ เดินทางต่อไปให้ถึงนะ อีกไม่นาน พวกเธอก็จะถึงจุดหมายกันแล้ว พยายามกันต่อไปล่ะ แล้วฉันจะเป็นกำลังใจให้พวกเธอ ” ไดน์ยิ้มอย่างมีความสุขก่อนที่พิษของริงไทเกอร์จะค่อย ๆ กัดเซาะร่างของเขาไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงฝุ่นที่ล่องลอยไปตามลม
“ ไดน์ ... ” โดโร่เอามือป้องปากตัวเองราวกับไม่เชื่อสายตา
จดหมายยังคงลอยอยู่แบบนั้นพร้อมกับเสียงของสาวเจ้าเดิม
“ คุณไม่สามารถเดินทางมายังสถาบันได้ คุณถูกตัดสิทธิ์ ” สิ้นเสียงของจดหมายลายคราม มันค่อย ๆ สลายไปเป็นผงไม่ต่างอะไรกับไดน์เลยแม้แต่น้อย
เอเลนค่อย ๆ ยืนขึ้นอย่างช้า ๆ ท่ามกลางการตื่นตระหนกของเพื่อนสาว “ รีบไปกันเถอะนะโดโร่ พวกริงไทเกอร์คงได้กลิ่นเลือดของพวกมันแล้วล่ะ ”
“ อ .. อืม ” เธอยันตัวขึ้นก่อนที่จะมองไปยังพื้นที่ที่ว่างเปล่านั้น
“ ไดน์ ... ขอบใจนายมากนะ ” เอเลนยิ้มออกมาคนเดียว
ชั่วอึดใจเดียวในเวลาต่อมา พวกเธอทั้งสองได้เดินทางผ่านฝูงริงไทเกอร์มาจนถึงแม่น้ำสายหนึ่ง
“ เดินตามแม่น้ำไปก็คงจะถึงแล้วล่ะ ... ” โดโร่พูดพลางเอามือวักน้ำเล่น
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายแก่ ๆ แล้ว ตะวันยังคงส่องแสงแดดเจิดจ้าอยู่อย่างนั้นราวกับว่าจะแผดเผาสิ่งมีชีวิตให้หมดไปจากผืนแผ่นดินนี้
“ เธอคอยอยู่ตรงนี้ด่อน เดี๋ยวฉันจะว่ายน้ำไปตามแม่น้ำนี่ รออยู่ที่นี่นะ ” เอเลนพูดก่อนที่จะกระโดดลงไปในน้ำ พลันขาเรียวยาวทั้งสองค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นหางของนางเงือกเกล็ดน้ำเงิน ร่างของเธอดำดิ่งลงไปตามแม่น้ำไปตามทางน้ำเรื่อย ๆ
ตอนนี้เหลือโดโร่อยู่เพียงคนเดียว เธอนั่งคอยเพื่อนอยู่ตรงแม่น้ำ มือทั้งสองยังคงวักน้ำเล่นอย่างสบายใจ เธอวักเล่นบ้างเอามาล้างหน้าบ้างตามแต่อารมณ์ของเธอ
พลันสิ่งมีชีวิตบางอย่างก็พุ่งขึ้นมาจากน้ำตรงที่โดโร่นั่งอยู่
“ กรี๊ดดดดดดด!!! ” เธอร้องลั่น
“ เฮ้ย! ฉันเองเอเลน ... แกนี่ไม่ได้ดูอะไรเลยนะ ร้องไว้ก่อนตลอด ” เอเลนมุ่ยปาก
“ ใครจะไปรู้เล่าว่าแกจะโผล่มาตรงนี้ ” โดโร่ลุกขึ้นยืน
“ โทษที ๆ ” เธอขอโทษเพื่อนเป็นการใหญ่ก่อนที่จะค่อย ๆ ขึ้นมาจากน้ำ ตอนนี้หางเงือกกลายเป็นขาปกติแล้ว
“ ช่างมันเถอะ ๆ ๆ แล้วว่าไงล่ะ ” โดโร่ถามเพื่อน
“ ตรงไปอีกนิดหน่อยก็ถึงแล้ว รีบไปกันดีกว่าเพราะฉันเห็นคนมากันเยอะแล้วล่ะ ” เอเลนรีบจับมือเพื่อนสาวเท้าไปอย่างรวดเร็ว
เพียงไม่นานนักพวกเธอทั้งสองก็มาถึงทางเข้าควอซ สถาบันที่พวกเธอตามหาอยู่
“ ถึงซะทีนะ รีบเข้าไปกันดีกว่า ” เอเลนพูดพลางวิ่งเข้าไปในสถาบันที่กว้างใหญ่มหาศาล
โดโร่ไม่ได้พูดอะไรนอกจากเดินตามเข้าไปอย่างช้า ๆ ...
พวกเธอเดินเข้ามายังโถงกลางของสถาบันซึ่งมีความใหญ่พอสมควรที่จะสามารถรองรับนักเรียนได้เกือบร้อยคน โถงใหญ่มีทั้งหมดสองชั้น ชั้นแรกและชั้นสองนั้น พื้นกระเบื้องลายครามถูกปูด้วยพรมกำมะหยี่สีแดงดำที่ตัดกับพื้นกระเบื้องโดยสิ้นเชิง ส่วนด้านบนของโถงนั้นเป็นหลังคาที่ทำด้วยกระจกใส สามารถมองเห็นบรรยากาศรอบนอกได้เป็นอย่างดี
“ สวยจริง ๆ เลยนะ ” โดโร่มองขึ้นไปบนฟ้าอย่างตื่นเต้น
ส่วนเอเลนเพื่อนสาวของเธอกำลังกวาดสายตามองหาประชาสัมพันธ์ที่แจกใบสมัครของนักเรียน
“ เจอแล้ว ... ” เธอพูดก่อนที่จะรีบเดินฝ่าผู้คนไปที่ห้องประชาสัมพันธ์ มืออีกมือก็ยังคงจับโดโร่ไว้ไม่ห่าง
“ ขอใบสมัครสองใบค่ะ ^^ ” เอเลนยิ้มอย่างเป็นมิตร
“ งั้นขอจดหมายเชิญของพวกคุณด้วยนะคะ ” ประชาสัมพันธ์ยิ้มอย่างเป็นมิตร
“ จดหมายเหรอ ?? ” เอเลนและโดโร่หยิบจดหมายออกมาจากกระเป๋าของตัวเองพร้อมกับยื่นให้เจ้าหน้าที่คนสวย เธอรับมันก่อนที่จะปั๊มตราของสถาบันไว้ จดหมายลายครามของคนทั้งสองค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นใบสมัครสีเหลืองทอง
“ เรียบร้อยแล้วค่ะ กรุณากรอกรายละเอียดให้ครบแล้วเอาไปให้เจ้าหน้าที่ที่ชั้นสองนะคะ ” เธอพูดอย่างมีมารยาท
ทั้งสองสาวรับจดหมายมาพร้อมกับยิ้มเพื่อผูกมิตร พวกเธอหาเก้าอี้เหมาะ ๆ ก่อนที่จะตรงไปและเขียนใบสมัครของตัวเองอย่างเงียบ ๆ
_______________________________________________
ความคิดเห็น