คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : This heart must clear 120%
8
This heart must clear
“สวบ” เสียงลูกบาสเกตบอลที่ถูกโยนได้3แต้ม
“เฮ้ย! ไอ้อีเทนมึงเอาอีกแล้วน่ะพวกกูจะไม่มีแต้มแล้วน่ะมึง” เสียงออฟเทนพูด
“ก็มันสนุกนี่หว่า” อีเทนตอบ
“ทำไมมึงไม่ไปชมรมมวยว่ะมาเล่นบาสกับพวกกูทำไมว่ะ” เฮ็กเซนถามอีเทน
“กูเบื่อว่ะ” หน้าเบื่อๆของอีเทนตอบ
“รุ่นพี่อีเทนเบื่อหรอครับในชมรมก็มีสาวสวยๆทั้งนั้นรุ่นพี่อีเทนไม่ชอบหรอครับ” เท็ปเทนชี้แจงข้อเสนอดีๆให้อีเทนฟัง
(บันทึกอีเทน)
“เบื่อก็เบื่อสิว่ะพอจะต่อยทีแม่งไม่มีสมาธิเลยว่ะต่อยที่กรี๊ดที่แม่งกูโคตรเซ็งเลยว่ะ” นี่แหละคือเหตุผลที่ผมมาเล่นบาสกับพวกมันใครจะไปอยากอยู่ว่ะกรี๊ดอยู่ได้หูผมจะแตกอยู่แล้วผมหล่อตรงไหนเนี่ยกรี๊ดกันอยู่ได้ (ไม่หล่อคงไม่กรี๊ดหรอกมั้ง)
“มึงชอบนักไม่ใช่หรอแบบเนี่ยอ่ะแล้วเป็นไงว่ะ” มันไม่ดูหน้าผมบ้างเลยหรือไงว่าเป็นอย่างไร
“ชอบกูก็ชอบหรอกแต่...” ทำไมว่ะถึงพูดไม่ออก
“แต่อะไรของว่ะ” ไอ้เฮ็กเซนถามผม
“ก็ไม่ชอบกรี๊ดแบบนั้นนี่หว่า” ถึงผมจะเป็นคนแบบนี้แต่ถ้าเจอกรี๊ดแบบนั้นผมก็ไม่เอาหรอก
“กูก็เห็นมึงได้ทุกแนวนี่หว่า” พูดเกินไปแล้วไอ้ออฟเทน
“หรือว่ามึงหันมาชอบแนวพีแทนแล้วว่ะ” มันรู้ด้วยหรอว่าผมหันมาชอบแนวพีเทนแล้วแต่บอกได้เลยว่าตรงประเด็นมาก...ไอ้เดเทน
“เออ” ตอนนี้ผมเหมือนหมาจนตรอกจริงๆ
“มึงคิดแล้วหรอกับคำพูดของมึงเนี่ย” ผมคิดทบทวนแล้วล่ะ
“กูเห็นมึงชอบพีเทนตั้งแต่ปี2แล้วมึงยังไม่เลิกชอบอีกหรือไงว่ะ” ใช่ครับผมชอบเธอตั้งแต่เธออยู่ปี1แล้วแต่ผมไม่เคยบอกแล้วก็ไม่เคยทำท่าทางที่บ่งบอกว่าชอบเลยนอกจากพวกเพื่อนผมเท่านั้นที่รู้ว่าผมชอบเธอ แต่ทำไงได้ล่ะครับผมทำตัวไม่ดีกับพีเทนไว้มากถ้าบอกว่าชอบพีเทนต้องปฏิเสธแน่
“ทำไมว่ะกูจะชอบหรือรักใครมันหนักส่วนไหนของพวกมึงว่ะ” พวกมันเริ่มทำให้ผมเครียดแล้ว
“ก็เห็นรุ่นพี่อีเทนควงคนอื่นเป็นว่าเล่นนี่ครับ” ผมเองก็ไม่ได้เจ้าชู้อะไรขนาดนั้นก็แค่ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเองหรือไม่ก็เปลี่ยนผู้หญิงควงทุกอาทิตย์ก็แค่นี้เอง
“เออ...อันนั้นแค่เล่นๆโว๊ย” ขอบอกว่าแค่ควงเล่นๆเฉยๆไม่มีอะไรเกินเลยแน่นอนผมว่าพีเทนน่าจะของจริงมากกว่า
“เฮ้ยพวกพีเทนนี่เดินมาทางนี้ด้วย” ออฟเทนพูดพร้อมชี้ไปทางพีเทน มีเทน และบิวเทนที่กำลังเดินมาทางผม
“นี่ยัยนวมแดงไม่ไปชมรมมวยหรออย่าบอกน่ะว่าเบื่อ” ผมถามหลังจากเธอมายืนอยู่หน้าผม
“เออเบื่อเบื่อทุกๆอย่างรวมทั้งนายด้วยไม่รู้จะมาอยู่ชมรมนี้ทำไมวุ่นวายชิบ” ผมไม่น่าถามเลยดูหน้าก็รู้แล้วว่าเบื่อแต่...
“อ้าวเฮ้ย!มันไปเกี่ยวอะไรกับผมด้วยเนี่ย” ผมถามอย่างสงสัย
“ก็ถ้านายไม่มาอยู่ในชมรมนี้ยัยพวกนั้นคงไม่ต้องทำตัวรักสวยรักงามกันขนาดนั้นหรอกเห็นแล้วน่าเบื่อแล้วก็วุ่นวาย” ความจริงพวกนั้นก็สนใจทุกคนในกลุ่มผมนั้นแหละเว้นเสียแต่พวกมันไม่ยุ่งกับพวกนั้นไม่เหมือนผมที่อะไรก็ได้
“ทำไงได้ล่ะก็คนมันหล่อนี่” ผมตอบอย่างเท่ๆลึกๆก็กวนนิดๆ
“หล่อตายแหละ” ดูทำหน้าเข้าสิผมหล่อออก
“หล่อไม่หล่อก็ไม่รู้สิแต่อย่างน้อยพวกสาวๆในชมรมก็กรี๊ดผมก็แล้วกัน” ผมแย้งขึ้น
“เฮ้ย! จะทะเลาะกันอีกนานไหมเนี่ย” หน้าไอ้เฮ็กเซนมันเหมือนจะเอียมละอายผมที่ผมชอบทะเลาะกับพีเทนทุกทีที่เจอหน้ากัน
“พีเทนเรามีธุระต้องไปทำกันน่ะ” เหมือนมีเทนจะเตือนสติพีเทนว่าพวกเขามีสิ่งที่สำคัญต้องไปทำกัน
“นั้นสิรีบไปกันเหอะเดี่ยวรุ่นพี่อีเทอร์จะรอนาน” เอ๊ะ...รุ่นพี่ที่บิวเทนพูดถึงมันใช่ไอ้อีเทอร์เพื่อนร่วมคณะเดียวกับผมนี่ แต่ไหงมาเกี่ยวกับยัยนวมแดงด้วยหรือว่า...ทั้งสองคนอาจจะเป็นแค่คนรู้จักกัน ผมพยายามคิดในแง่ดี
“ใครหรอครับอีเทอร์” ถ้าจะบอกว่าไอ้เท็ปเทนมันไม่รู้จริงๆผมไม่เชื่อมันหรอกเพราะชื่อห่วยแตกแบบนั้นมีแค่มันเดียวเท่านั้น
“อย่าแกล้งโง่หน่อยเลยก็พี่อีเทอร์ที่อยู่คณะเดียวกับนายไง” ผมว่าแล้วต้องเป็นมัน แต่สมน้ำหน้าชิบที่ไอ้เท็ปเทนโดนยัยแว่นด่าว่าโง่ ฮ่าๆๆๆ
“ไม่ได้โง่แค่ถามให้แน่ใจเฉยๆ”
“หรอไอ้โง่” โหด่าแรงไปป่าวเนี่ยยัยแว่นเดี่ยวไอ้เท็ปเทนมันไม่เอาไว้หรอก
“จะไปกันได้ยังเนี่ย” สีหน้าของมีเทนผมว่าเธอคงลำคราญแล้วล่ะ
“มีอะไรกับรุ่นพี่อีเทอร์หรอครับ” ความเสือกได้ครอบงำไอ้เท็ปเทนแล้วมันจะอยากรู้ไปทำไมแต่ก็ดีเหมือนกันที่มันถาม
“ไม่ใช่เรื่องของเด็กอย่างนายกลับไปกินนมแม่ที่บ้านป่ะ ส่วนนายอีเทนเราต้องมีเรื่องต้องเคลียร์เกี่ยวกับชมรมกันยาวแน่” เธอทิ้งประโยคท้ายไว้จากนั้นก็เดินออกไปอย่างรวดเร็วโดยที่ผมไม่ทันได้พูดอะไรเลย
“รุ่นพี่อีเทนครับผมว่าพีเทนเธอ...”
“เออ มันไม่ใช่เรื่องของเรานี่กลับไปเล่นบาสต่อเหอะ” อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรผมไม่รู้แต่ตอนนี้อารมณ์ผมไม่ดีเลย
“เริ่มสนใจยัยนั่นแล้วสิ” ปากหมาๆของไอ้เฮ็กเซนทำให้ไอ้พวกเพื่อนที่เหลือหันมาเหมือนจะถามผมว่ามันเป็นเรื่องจริงไหม นั่นสิผมแค่สนยัยนั่นนิดหน่อยเองจะอารมณ์เสียไปทำไมว่ะ(นิดหน่อยหรอ)
“มึงจะเล่นบาสกันไหมว่ะ” อาการโกธรตอนนี้มันเริ่มเพิ่มขึ้นแล้วสิก็พวกมันเล่นจ่องผมเหมือนเป็นนักโทษของพวกมัน
“เออๆๆไปเล่นต่อเหอะ” พวกเพื่อนผมนี่มันจะมาสงสัยอะไรตอนนี้ด้วยฮ่ะสังสัยไม่ถูกเวลาจริงๆ เล่นบาสต่อดีกว่าเกลียดไอ้พวกนี้จริงๆทำเป็นเดาออกว่าผมเริ่มสนพีเทนแล้ว
และแล้วเวลาผ่านไป ณ เวลาใดเวลาหนึ่งซึ่งอันนี้ผมเองก็ไม่รู้ว่าเวลาเท่าใดยัยนวมแดงก็เดินดุ่มๆออกมาจากสนามบอลโดยที่เธอนั้นเดินมากับมีเทนแค่สองคน แล้วก็เดินมาทางผมโดยไม่ได้มีท่าทีสนใจผมเลยแถมยังทำหน้าเมินอีกตั้งหากคิดหรอว่าผมสนฮึไม่มีวันหรอกยัยนวมแดง
“เป็นไงบ้างพีเทนสีหน้าไม่ค่อยดีเลย” ไอ้เดเทนนี่มันก็รู้อยู่ยังจะถามอีกผมอุสาห์ไม่เรียกแล้วน่ะเนี่ยมันดันเสือกเรียกเองซะงั้น
“ทะเลาะกับรุ่นพี่อีเทอร์มาหรอครับ” เห็นหน้าเธอแล้วอารมณ์ผมเริ่มขึ้นอีกแล้วถามอะไรก็ไม่ตอบผมอยากตะโกนถามว่าเป็นอะไรมากไหมฮ่ะยัยนวมแดง
“แค่มีเรื่องเคียร์กันไม่ลงตัวกันก็เท่านั้นจะถามไปทำไมเนี่ยสาระไหม” ยัยนี่เริ่มกลับมากวนเหมือนเดิมแล้วล่ะผมถามเธอกวนแบบนี้ก็ดีเหมือนกันถ้าเงียบเหมือนมีเทนไปอีกคนล่ะก็...เวรเอ๋ยก็อะไรก็ชั่งมันเหอะ
“พีเทนมากับพี่หน่อยพี่มีเรื่องจะคุยด้วย” เสียงนั้นมาพร้อมกับหน้าตาหล่อๆของไอ้อีเทอร์ ไอ้นี่เสน่ห์แรงใช่เล่นเลยล่ะครับจัดว่าเดินไปไหนต้องมีกรี๊ดกราดที่นั้นแต่ผมว่ายังไงก็ไม่ได้ครึ่งของผมหรอกครับ(หลงตัวเอง)
“ฉันบอกว่าไม่ก็ไม่สิคนไม่รักพี่อีเทอร์ก็ไม่มีสิทธิที่จะบังคับอะไรได้” นั้นสิผมเห็นด้วน แต่...เฮ้ย!พูดเรื่องอะไรกันเนี่ยอย่าบอกน่ะว่าไอ้อีเทอร์มัน...
“พีเทนเองก็รู้นี่ว่าพี่คิดอย่างไงพีเทนจะไม่เห็นใจพี่หน่อยหรอ” ผมเห็นหน้าไอ้นี้แล้วอยากฆ่ามันจริงๆคนไม่เล่นด้วยตามตื้ออยู่นั้นแหละถ้าผมเป็นพีเทนล่ะก็ได้ตอกหน้ากลับแน่ๆ
“ก็ได้ แต่...” อะไรว่ะยอมกันง่ายๆอย่างนี้เลยหรอ
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นแล้วพรุ่งนี้ไปหาพี่ที่เดิมด้วยถือว่าพีเทนรับปากแล้วน่ะ พี่ไปแล้วน่ะครับน้องรัก” ไอ้อีเทอร์พูดจบก็วิ่งเหมือนพายุพัดไปอย่างรวดเร็ว หน้าของเธอเหมือจะอึ้งๆไปกับคำพูดรวบรัดของไอ้อีเทอร์ใช่สิขนาดผมยังทั้งอึ้งแล้วก็เหมือนจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
“ไปกันเหอะพีเทนเรามีคลาสเรียนตอนบ่ายน่ะเดียวไปไม่ทัน” ผมนึกว่ามีเทนสุดรักของไอ้เฮ็กเซนจะลืมเอาปากมาแล้วล่ะครับเงียบได้เงียบดีจริงๆ
“เฮ้ย...” ผมถอนหายใจกับตัวเองเบาๆ หลังจากที่พีเทนกับมีเทนเดินออกไปแล้วส่วนไอ้พวกเพื่อนผมมันก็เล่นบาสกันต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งต่างกับผมที่ยังเก็บเรื่องนั้นมาคิดอยู่
เช้าวันต่อมา
ผมอยากให้ถึงวันนี้สักทีวันที่ผมจะได้รู้ความจริงวันที่ผมจะได้ไม่โง่เหมือนไอ้เท็ปเทน(ยัยแว่นบอก) ตอนนี้ผมอยู่ที่สนามบอลใกล้ๆกับสนามบาสโดยที่ผม...ไม่สิต้องบอกว่าพวกผมเพราะเพื่อนผมทุกตัวดันตามมาด้วยพวกผมหลบอยู่ที่หลังพุ่มไม้พุ่มใหญ่เพื่อไม่ให้ พีเทนรู้ว่าผมกำลังแอบฟังเธอและเพื่อนๆคุยกับไอ้อีเทอร์อยู่
“พูดอะไรกันว่ะไม่เห็นได้ยินเลย” ไอ้ออฟเทนมีสีหน้าขัดใจเมื่อจับใจความไม่ได้ว่าพีเทนกับไอ้อีเทอร์พูดเรื่องอะไรกัน
“กูจะไปรู้หรอก็ฟังอยู่ด้วยกันมึงไม่ได้ยินกูจะได้ยินยังไงว่ะ” แววตาไอ้เดเทนก็เหมือนจะลำคลานเหมือนกันที่ไม่ได้ยิน นั้นสิคุยอะไรกันผมก็อยากรู้เหมือนกัน
“มึงอยากรู้ใช่ไหมไอ้ออฟเทน มึงไปฟังเองก็แล้วกัน” เมื่อผมพูดประโยคนี้จบผมก็เชิญ...ไม่สิต้องบอกว่าถีบไอ้ออฟเทนจนมันกระเด็นออกไปชนกับไอ้อีเทอร์ ทั้งไอ้ออฟเทนและไอ้อีเทอร์เหมือนจะตกใจว่าไอ้ออฟเทนมันมาได้อย่างไง นั้นสิไปได้อย่างไง(ผมป่าวทำน่ะครับ)
“เออคือ...เออ...” เห็นมันพูดไม่ออกแบบนี้ก็นึกอดสงสารมันไม่ได้เลย ใครกันนะที่ทำกับมันอย่างนี้(ยังไม่รู้ตัวอีกเนียนได้อีกนะจอมวัยร้าย)
“นายจะเอออีกนานไหมฮ่ะ” เออ...ของมันนี้ได้เรื่องจนโพลเพนถามว่าจะเออ...เพื่ออะไร
“เออ...ก็ผมแค่กำลังคิดอยู่เนี่ย” โหคิดเยอะเนอะ อย่างนี้ต้องเออ...
“ไม่มีอะไรหรอกครับ” พวกผมเลยวิ่งตามไปสมทบหลังจากที่ฟังมันเออจนมันจะเอ๋อแล้วล่ะครับ
“มากันเป็นโขงเลย...” นอลพูดแทรกขึ้นก่อนที่พีเทนจะด่าพวกผม
“พวกผมไม่ได้เป็นหมานะครับ” หมาบ้านไอ้เท็ปเทนมันสิที่เรียกกันเป็นโขง
“ช้างย่ะไอ้โง่” ยัยแว่นดันตอบแนวด่าอย่างเจ็บแสบ
“เป็นกลุ่มก็พอแล้วไม่ต้องถึงขนาดเป็นโขงก็ได้” ไอ้เดเทนบอกกับนอล ผมว่าทั้งสองคนนี้ต้องมีซัมธิงรองแปลกๆ
“แล้วตกลงมากันทำไมกันเนี่ยฮ่ะ” พีเทนเริ่มเปิดประเด็นถาม ผมว่างานนี้ถ้าบอกความจริงไปได้มีน่วมกันบ้างล่ะ
“คือ...แค่มาเดินเล่นๆทำไมมีปัญหาไง” ผมพูดอ้างเหตุผมซึ่งเหตุผลนี้ดูไร้สาระสุดๆ
“หรอ” ไอ้พวกเพื่อนเวรทำไมต้องสมัคใจพูดพร้อมกันด้วยมันก็รู้อยู่ว่าผมโกหก แล้วดูหน้าแต่ละคนสิยังมีหน้ามาล้อเลียนผมอีก
“นี่พีเทนพี่มีธุระต่อไว้เราค่อนคุยกันนะ” ไปได้ก็ดีไอ้อีเทอร์ พีเทนเหมือนจะรับรู้ว่าไอ้อีเทอร์กำลังไปโดยที่เธอจ้องจับผิดพวกผมอยู่ด้วยสายตาอาคาดแค้น
“ตกลงยังไง” คิ้วของพีเทนเริ่มขมวดติดกันนิดๆเมื่อคำถามนั้นไม่มีคำตอบที่แท้จริง
“ผมแค่อยากรู้ว่าคุยเรื่องอะไรกัน แต่อย่าเข้าใจผิดผมแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของเพื่อนร่วมคณะไม่รู้ว่าจะกลับไปครบ32ป่าวก็ไม่รู้” ผมหวังว่าการโกหกครั้งนี้พีเทนน่าจะเชื่อน่ะ สาธุ...
“หรอ” ไอ้พวกเพื่อนเวรเอ๋ยผมพูดผิดไปนิดเดียวเอง แค่เปลี่ยนจากไอ้อีเทอร์มาเป็นพีเทนแค่นี้ผมผิดตรงไหน (ถูกมากกก)
“นายเป็นห่วงความปลอกภัยของตัวเองก่อนดีไหม ส่วนพี่อีเทอร์นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“ทำไมรักมันมากเลยหรอทีกับผมไม่เห็นสนใจ” เฮ้ย! ผมพูดอะไรออกไปเนี่ยปากหนอปาก
“ฮิ๊ว...อาการแบบนี้ห่วงหรือหึงกันแน่ว่ะ” ไอ้ออฟเทนผมล่ะอยากเอาหมาออกจากปากมันจริงๆเล่นไม่ดูเวลาเลยมึง
“หรือทั้งสองอย่างว่ะ” ยิ้มหยอกล้อกันเข้าไปไอ้เดเทนถึงคราวมันบ้างผมจะเอาคืนให้แสบเลย
“ตกลงอะไรกันฮ่ะว่าไง” ใจผมเต้นไม่อยู่กับที่แล้วตอนนี้เหมือนจะหยุดหายใจเลยด้วยซ้ำ เมื่อผมได้ยินคำถามที่หลุดออกมาจากปากของบิวเทน
“เฮ้ย...ไอ้แดเทนมึงยังมีงานวิจัยไม่ใช่หรอรีบไปกันเหอะ” ผมหาเรื่องชวนพวกนี้กลับหากผมยังยื่นอยู่ผมต้องได้ตายก่อนแน่เลย
“ทำเสร็จตั้งแต่เมื่อวานแล้วโว๊ย” แต่ไอ้เดเทนมันก็ไม่ยอมร่วมมือทำตามแผนของผมเลยงั้นชวนไอ้เฮ็กเซนดีกว่าเผื่อมันจะช่วยผม
“เออ..ไอ้เฮ็กเซนมึงยังประกอบหลังคาไม่เสร็จไม่ใช่หรอรีบกลับเหอะ” เหมือนพวกเธอจะดูงงๆกับอาการผิดปกติของผม โอ๊ยๆๆๆมองพีเทนที่ไรใจทำไมมันเต้นแรงอย่างนี้ว่ะ
“มึงนะมึงเมื่อวานมึงก็ช่วยกูประกอบหลังคาจนเสร็จแท้ๆยังทำเป็นอึนอีก” เออจริงด้วยทำไงดีทีนี้คิดไม่ออกจริงๆ
(คุณเคยไหมเวลาที่เจอคนที่เรามีความรู้สึกดีๆให้ใจมันจะเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วก็เต้นแรงมากยิ่งคนคนนั้นมาใกล้ๆก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูกหัวสมองตอนนั้นดูเหมือนจะว่างปล่าวไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น)
“เออ...แล้วมึงล่ะไอ้...”
“กูว่ารีบกลับเหอะถ้าอยู่นานกว่านี้หมอจะไม่รับเย็บแน่” เสียงไอ้ออฟเทนพูดขัดจังหวะก่อนที่ผมจะหาเรื่องหน้าแยกไปมากกว่านี้มันคงรู้ดีว่าตอนนี้ผมรู้สึกอย่างไร
“ผมว่างั้นแหละครับรุ่นพี่ขืนอยู่ต่อรุ่นพี่ต้องรามมาถึงเราแน่เลย”
“เออไปก็ไปสิ” ผมพูดจบก็เดินออกจากจุดนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้ผมรู้สึงมึนงงไปหมดแล้วแต่ก็เอาเหอะผมต้องเคียร์เรื่องนี้ให้ได้เพราะพีเทนกับไอ้อีเทอร์มันค้างคาใจผมมากขอบอก
(จบบันทึกอีเทน)
ความคิดเห็น