ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แกล้งจีบให้มึงรัก[1 Month of mission]

    ลำดับตอนที่ #1 : -01- รับคำท้า

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 65


    บรรยากาศหลังเลิกเรียนเต็มไปด้วยความครึกครื้น จากเสียงเชียร์ของเหล่าเด็กนีกเรียนที่ร่วมกันซักซ้อมกิจกรรมกีฬาสีกันอย่างพร้อมเพรียง

    พรางบรัฟสีข้างๆกันอย่างเอาเป็นเอาตายทั้งที่เวลาแข่งมันหนึ่งเดือนเต็มๆ

    "พักก่อนน้าๆ" ชายหนุ่มร่างเพรียวยกมือบอกน้องๆที่กำลังซ้อมดรัมเมเยอร์กันอย่างสวยงาม

    "เหนื่อยจริงพี่ปุ้น" ปุ้น หรือ ข้าวปุ้น เด็กหนุ่มหน้าตาสะสวยแถมจริตกิริยายังออกสาวจนเป็นที่รู้จักกันดีว่าเขาคือเพื่อนสาว 

    "มาๆๆกินน้ำๆๆ" รุ่นพี่ใจดีกวักมือเรียกน้องๆให้มาตักน้ำที่กระติกน้ำเพื่อคลายร้อน แดงเมืองไทยนี่ก็แรงจนจะไหม้อยู่แล้ว

    "โคตรร้อนเลย" สาวรุ่นน้องทั้งสองพ่วงตำแหน่งดรัมเมเยอร์ของสีพูดคุยเป็นกันเองกับรุ่นพี่คนสนิทพรางยกมือพัดให้เกิดลมตรงหน้า 

    "ไว้วันหลังพี่หาหมวกกับเสื้อแขนยาวมาให้นะ"

    "ขอน้ำเย็นๆละกันพี่" หนึ่งในสองสาวพูดติดตลก

    "เอามาให้ทุกวันอยู่แล้วไหมล่ะ" ทั้งสามนั่งหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน หารู้ไม่ว่ามีสายตากำลังจับจ้องมาทางพวกเขา

    ข้าวปุ้นเป็นประธานฝ่ายพาเหรดในปีนี้ เขาเลยมาซักซ้อมให้กับรุ่นน้องที่เป็นดรัมเมเยอร์เพื่อเตรียทสำหรับงานกีฬาสีทั้งยังเตรียมชุดให้กับเหล่าสมาชิกที่จะเดินพาเหรดอีก 

    "ดรัมฯปีนี้สวยดีนะ" เสียงทุ้มของธาม ประธานฝ่ายกีฬา ที่ไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับสักเท่าไหร่ รู้กันดีว่าแม่ของธามนั้นเป็นครูที่ปรึกษาของคณะสีเลยดันลูกตัวเองให้ร่วมกิจกรรมก็เท่านั้น

    "งั้นๆอะ" คาเฟ่ เพื่อนสนิทของธาม พูดเสียงห้วนก่อนจะหยิบหมากฝรั่งขึ้นมาเคี้ยวไม่ได้ใส่ใจนัก 

    "มึงไม่มองดูก่อนอะ" ธามหันมามองเพื่อนสนิทที่ทำหน้าไม่สนโลกมองนู้นมองนี้ไปเรื่อย

    "ก็งั้นๆแหละ กูไม่ได้สนใจ" พูดไปพรางเคี้ยวหมากฝรั่งสบายใจเฉิ่มทั้งที่คนอื่นหน้าที่ท่วมหัวกันจนเดินวุ่นไปหมด

    "นี่มึง ดูๆๆ" มือหนาจับคางเพื่อนสนิทให้หันไปมองกลุ่มสามคนที่นั่งคุยกันอย่างออกรสออกชาติ 

    "ก็แค่ผู้หญิงธรรมดากับกระเทยอีกคนปะ" คาเฟ่ปัดมือเพื่อนสนิทออกพรางถอนหายใจอย่างระอา 

    พลันสายตาเหลือบมองไปเห็นร่างเล็กที่นั่งอยู่บนพื้นหญ้ามองตอบกลับมาด้วยเช่นกัน

    ข้าวปุ้นหลบสายตาคาเฟ่ทันทีแล้วหันกลับไปพูดคุยต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็พอสังเกตเห็นได้ว่าแก้มนวลนั้นมีสีชมพูให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นซะงั้น

    "เหอะ" ธามมองเพื่อนสนิทตัวเองพรางสลับกับข้าวปุ้นที่นั่งอยู่ไม่ไกลแต่ก็สังเกตได้ว่ามีเรื่องอะไรรบกวนจิตใจอยู่ไม่มากก็น้อย 

    "กูมีอะไรสนุกๆให้มึงเล่น" ธามเกริ่นขึ้นเรียกความสนใจจาดคาเฟ่ได้พอควร

    "ว่า?" 

    "พนันกันไหม" คาเฟ่ร้องฮะออกมาแต่ก็ตั้งใจฟังเพราะใบหน้าจริงจังปนเจ้าเล่ห์ของเพื่อนสนิท

    "ว่ามาเลย"

    "กูให้มึงหนึ่งเดือน ถ้ามึงจีบข้าวปุ้นติดกูให้ห้าพัน"

    "บ้าปะเนี่ย" เสียงหัวเราะขบขันดังมาจากร่างสูง

    "มึงหาเงินเติมเกมอยู่นี่ ไม่สนใจจริงเหรอ" ธามเลิกคิ้ว ดวงตาตี่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์พรางกอดอกมองเพื่อนสนิทตัดสินใจอย่างใจเย็นปนกดดัน

    "ให้จีบข้าวปุ้นเนี่ยนะ ไม่เท่ากับกูเป็นเกย์หรอกเหรอ"

    "กูให้จีบเล่นๆเองมึงจริงจังทำไม" คาเฟ่นิ่งเงียบไปสักพักก่อนธามจะพูดขึ้นอีก "หรือมึงไม่กล้า กากอะดิ" 

    "กูรับคำท้าเว้ย" ขึ้นชื่อว่าคาเฟ่ต่อให้เป็นคนคิดถี่ถ้วนแค่ไหนก็มักจะแพ้คำสบประมาทเสมอ

    สมกับเป็นเพื่อนกูจริง ธามคิดในใจก่อนจะวางมัดจำไว้หนึ่งพัน 

    "มัดจำไว้ก่อนหนึ่งพัน เผื่อมึงต้องใช้ทุน" ธามยกยิ้มหน่อยๆก่อนจะลุกเดินออกไปผิวปากอย่างอารมณ์ดี 

    ดีจริงๆเลย คาเฟ่คว้าเอาแบงค์หนึ่งพันบาทใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะมองตามหลังเพื่อนรักไป

    การที่มีเพื่อนสนิทกันมากๆจนรู้จุดอ่อนมันก็เป็นเหมือนดาบสองคมได้เหมือนกันแฮะ

    ข้าวปุ้นเดินแบกกระติกน้ำเข้าไปเก็บในห้องเก็บของก่อนจะจัดวางให้เป็นระเบียบเรียบร้อยพร้อมกัับเก็บกระเป๋าหนังสือของตัวเอง 

    "ไง"

    "อ้าวธาม" มือเรียวยกกระเป๋าหนังสือขึ้นมาก่อนจะสะพานไว้บนหลัง 

    "ยังไม่กลับอีกเหรอ" เสียงทุ้มเอ่ยถามร่างเล็กกว่า ข้าวปุ้นเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยและถามกลับพร้อมรอยยิ้มอ่อน 

    "ทำไมอยู่ๆถามเนี่ย" ร่างเล็กยืนตัวตรงมองอีกคนที่ยืนพิงประตูอยู่

    "ก็แค่ทักทาย ไม่ได้?"

    "ได้ดิกำลังจะกลับแล้ว ธามอะ" 

    "กำลังกลับ" ข้าวปุ้นพยักหน้าก่อนจะโบกมือลาแล้วเดินออกไป

    "ขอให้โชคดีกับเพื่อนร่วมทางนะ"  ธามมองตามแผ่นหลังของข้าวปุ้นที่เดินออกไปก่อนหน้านี้ 

    "ข้าวปุ้นๆๆ" เหมย ประธานฝ่ายสันทนาการ เพื่อนสาวสุดสวยคนสนิทของข้าวปุ้นเดินมาเพื่อนสนิทอย่างรุกรี้รุกรน

    "มีอะไร"

    "ช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหมอะ ฉันลืมเอกสารงบประมาณไว้บนห้องอะแล้วต้องใช้แล้วด้วย ฉันต้องคุมน้องๆก่อนอะ แกช่วยฉันหน่อยได้ไหม" 

    เพื่อนสาวทำตาปริบๆ แขนเล็กยกนาฬิกาขึ้นมาดูพบว่านี่เป็นเวลาเกือบห้าโมงกว่าแล้ว ท้องฟ้าก็ไม่ได้มืดขนาดนั้นจึงพยักหน้ารับไป

    "เดี๋ยวเอาขึ้นไปให้" เหมยยิ้มร่าด้วยความดีใจ 

    "เดี๋ยวเลี้ยงหนมเลย ขอบใจน้า"

    หลังจากที่ตบปากรับคำเป็นที่เรียบร้อย ข้าวปุ้นก็เดินขึ้นบันไดมาจนถึงชั้นสาม ที่เป็นห้องที่ตนเรียนอยู่ 

    ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องแล้วไปค้นใต้โต๊ะของเพื่อนสนิท 

    อยู่ไหนเนี่ย

    "ขโมยของเหรอ" ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกก่อนจะยกมือขึ้นทาบอกมองไปทางต้นเสียง 

    "คาเฟ่" ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องเรียนก่อนจะเดินผ่านข้าวปุ้นไปหลังห้อง มือหนาดันหน้าต่างออกแล้วยกตัวขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ หยิบยุหรี่ออกมาสูบอย่างสบายใจ 

    "มองไม ไม่เคยเห็นคนเหรอ" ข้าวปุ้นถอนหายใจอย่างระอาก่อนจะก้มลงไปหยิบเอกสารขึ้นมาจัดเรียงให้เรียบร้อย 

    "โรงเรียนเลิกแล้วทำไมไม่ออกไปสูบข้างนอกอะ" ใบหน้าสวยหันไปมองอีกคนที่นั่งเหม่อมองไปนอนหน้าต่าง

    "ไปสูบข้างนอกจะได้บรรยากาศแบบนี้ไหม" ข้าวปุ้นชะโงกหน้าไปมอง "อยากมาดูก็ดูสิ"

    เมื่อได้รับคำเชิญชวนข้าวปุ้นก็เดินเข้าไปหา มือเล็กยกมือขึ้นเกาะขอบหน้าต่างมองวิวพระอาทิตย์ตกตัดกับตึกราบ้านช่อง กับถนนตัดผ่าน 

    "สวยอะ ช่างสันหานะเนี่ย" เสียงหวานเอ่ยแซวคนด้านข้างก่อนจะเดินกลับ 

    "ดูแค่นี้เอง?"

    "ไม่ชอบกลิ่นไอนี่อะ" นิ้วชี้ยกชี้ไปทางบุหรี่ที่เขาชูออกไปนอกหน้าต่างถึงอย่างไรกลิ่นมันก็คละคลุ้งอยู่ดีสำหรับคนที่ไม่ชอบ 

    "เหอะ" 

    "เด็กที่ไหนมาสูบบุหรี่แถวนี้วะ" ทั้งสองสะดุ้งโหยงก่อนค่เฟ่จะทิ้งก้นบุหรี่ลงนอกระเบียง

    "ทำไรเนี่ย"

    "ชู่ว" มือหนาเอื้อมไปปิดมือเล็กไว้ก่อนจะดึงเข้ามาแอบตรงหลังโต๊ะมุมห้อง 

    แผ่นหลังเล็กสัมผัสอกกว้าง หัวใจของคาเฟ่เริ่มเต้นตึกตักรุนแรงขึ้นตามเสียงลมหายใจที่รินรดอยู่ใกล้กัน

    สายตามองตามลุงยามที่เดินสำรวจแต่ละห้องอย่างลวกๆ ตามหน้าที่ 

    เม็ดเหงื่อใสผุดขึ้นมาบนใบหน้าร้อนผ่าว มือเล็กจับมือหนาที่ปิดปากตัวเองแน่น

    "ปวดท้องว่ะ รีบลงไปดีกว่า" ลุงยามเดินกลับไปข้าวปุ้นกับคาเฟ่จึงผละตัวออกจากกัน ร่างเล็กรีบลุกขึ้นก่อนจะเดินไปหยิบของที่โต๊ะหันหลังให้คาเฟ่

    มือเบ็กยกขึ้นมาวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ข้างในพองโตขึ้นอย่างบอกไม่ถูกก่อนจะรีบเก็บของแล้วจะเดินออกไป 

    "เดี๋ยว"

    "ฮะ?"

    "ลืมไอนี่" มือหนาหยิบกล่องหมากฝรั่งกล่องเล็กเขกหัวของร่างเล็กไปที ข้าวปุ้นเอื้อมมือไปหยิบก่อนจะยัดใส่มือของอีกคน 

    "มึงกินเองเถอะ จะได้สดชื่น" คาเฟ่ก้มมองหมากฝรั่งในมือ

    "ว่ากูปากเหม็นปะเนี่ย"

    "รู้ตัวแล้วก็หัดปรับปรุงตัวซะสิ" ข้าวปุ้นพูดแล้วเดินหันหลังเปิดประตูออกจากห้องไป 

    ข้าวปุ้นเดินลงบันไดตามทางที่เริ่มมืดสงัดลงมาเรื่อยๆก่อนจะหยุดลงตรงทางเดินที่มืดมิดไร้แสงสว่างสอดส่อง

    "ถ้ากลัวก็น่าจะรอกันสิ" เสียงทุ้มเอ่ยตามลังก่อนจะล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปืดไฟฉายแล้วเดินนำทางไป "จะตามมาหรือยืนอยู่ตรงนั้น"

    "ตามๆๆ"  ใบหน้าสวยรีบพยักหน้ารับหน้าตาตื่นก่อนจะวิ่งตามร่างสูงลงมา 

    "ฉิบหาย" เสียงอุทานออกมาอย่างตื่นตระหนกพร้อมร่างสูงที่หงุดชะงักพาร่างเล็กกว่าที่ไม่ทันสังเกตฝังหน้าลงบนแผ่นหลังกว้างอย่างไม่ได้ตั้งใจ

    "โอ้ย อะไรเนี่ย" มือเรียวรูปหัวป้อยๆก่อนจะชะเง้อคอออกมาดูตรงชั้นล่างที่เป็นประตุทางออกตึก

    ฉิบหายจริงๆ

    ประตูเหล็กถูกเลื่อนปืดลงมาแล้วแถมยังถูกล็อกอยู่ด้วย

    "เราจะออกไปยังไงดี" ข้าวปุ้นเต็มไปด้วยความกังวลก่อนจะนึกได้ว่าเพื่อนสาวของเขายังไม่กลับบ้าน จึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาเพื่อนสนิททันที

    "โทรได้ไหม" 

    "รอสักพักอะ ไปหาพี่ยามก่อน" ข้าวปุ้นนั่งลงบนขั้นบันไดข้างๆคาเฟ่ เสียงหวานสั่นเครือเล็กน้อยด้วยความกลัว พยายามหันหลังให้ความมืดแล้วเปิดไฟฉายจากโทรศัพท์ให้สว่างที่สุด

    "เดี๋ยวแบตก็หมด" คาเฟ่หันมาเตือนร่างเล็กที่กำแสงสว่างในมือแน่น

    "กูกลัวความมืดมากกว่า"

    "เขยิบเข้ามานั่งใกล้กูแล้วประหยัดแบตมือถือไว้ก่อน" ข้าวปุ้นพยักหน้าหงึกๆ ใบหน้าซีดเผือดค่อยๆขยับร่างเข้าไปหาร่างสูง 

    ยิ่งเข้าใกล้รู้สึกเหมือนไฟฟ้ากำลังแล่นไปทั่วร่างกายเลยแฮะ

    ทั้งสองนั่งนิ่งเงียบหลังจากที่มีเครื่องให้ความสว่างเพียงเครื่องเดียว

    "ทำไมถึงกลัวความมืดขนาดนั้น บอกกูได้ไหม" คาเฟ่เป็นคนเปิดคำถามทลายความเงียบลง 

    ข้าวปุ้นกลืนน้ำลายอึกใหญ่ มือเรียวกำหมัดแน่นบนหน้าขานั่งตัวตรงจนเกร็งสั่น "ตอนเด็กๆเคยโดนพ่อจับขังไว้ในห้องมืดๆน่ะ"

    "ทำไมพ่อถึงทำแบบนั้นล่ะ" คาเฟ่เริ่มหัรมาให้ความสำคัญกับหนุ่มน้อยข้างกาย 

    "เพราะอยากให้กูเข้มแข็งเหมือนเด็กผู้ชายล่ะมั้ง" ข้าวปุ้นเงยหน้ามาส่งยิ้มฝืนๆให้กับคนที่นั่งอยุ่ด้านข้างก่อนจะก้มหน้าลงไปมองกำปั้นของตัวเอง 

    "คนเราไม่ว่าจะเพศไหน แค่ขึ้นชื่อว่าคนก็มีเรื่องที่อ่อนแอกันทั้งนั้นนั่นแหละ" ข้าวปุ้นเงยหร้าขึ้นมามองคาเฟ่อีกครั้งด้วยความประหลาดใจ 

    "กูคิดว่ามึงเหยียดเพศซะอีก" คาเฟ่เลิกคิ้วประหลาดใจ

    "กูดูเป็นคนอย่างนั้น"

    "อือ" ใบหน้าสวยพยักหน้าหงึกๆ คาเฟ่ถึงกับหลุดขำออกมาก่อนจะมองใบหน้าสวยที่เริ่มสดใสขึ้นต่างจากเมื่อครู่

    "กูแค่พูดตรงไปตรงมาจนดูไม่มีมารยาท แต่กูไม่อยากมองว่าการที่คนเรามีรสนิยมยังไงเป็นเรื่องแปลก เลยไม่ได้คิดอะไร" คาเฟ่ยกมือขึ้นมาลูบท้ายทอยตัวเอง แสร้งเสมองไปทางอื่นเมื่อสายตาคู่นั้นของข้าวปั้นเปล่งประกายเมื่อได้ฟังที่เขาพูด 

    "คิดงี้จริงเหรอ" คาเฟ่พยักหน้า

    "เมื่อไหร่จะมากันเนี่ย" ใบหน้าคมจ้องมองไปที่บานประตุแค่กลับนิ่งสนิท 

    "คงอีกสักพักมั้ง" ข้าวปุ้นโน้มตัวลงมาเท้าคางกับหน้าขาของตัวเองอย่างเบื่อหน่าย "ว่าแต่คาเฟ่"

    "หืม"

    "มึงมีสิ่งที่กลัวบ้างไหม" คาเฟ่มองคนที่นั่งอยู่ข้างกายถ่มคำถามขึ้นมาโดยไม่ได้หันมามองหน้าเขา 

    ร่างสูงนั่งคิดอยู่สักพัก 

    "กู... กลัวผีมั้ง"

    เพี๊ยะ

    "โอ้ย!" ฝ่ามือเล็กตีต้นแขนแน่นของคนตัวสูงดังลั่น พร้อมกับยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะริมฝีปากตัวเองเป็นสัญลักษณ์ว่าห้ามพูด 

    "อยู่มืดๆแบบนี้ใครเขาพูดเรื่องผีกัน"

    คาเฟ่ลูบแขนตัวเองเบาๆ เล่นเอาแสบเหมือนกีนนะเนี่ย ตัวก็เล็กแค่เนี่ยไม่รู้เอาแรงมาจากไหน 

    "แฮร่!" ไม่วายยังแกล้งให้ตัวเล็กตกใจเล่นจนต้องพุ่งตัวเข้ากอดเขาอย่างเผลอตัว 

    คาเฟ่ชะงักไปชั่วครู่เมื่อข้าวปั้นเข้ามาสวมกอดแน่นด้วยความตกใจ ร่างเล็กเมื่อเริ่มได้สติจึงรีบผละออกจากร่างของคาเฟ่ราวกับมีไฟฟ้าช็อตเมื่อทั้งสองสัมผัสกัน

    ตึกตัก ตึกตัก 

    หัวใจที่เคยเต้นคงที่ตอนนี้เริ่มจับจังหวะไม่ถูก ภาวนาอย่าให้คนข้างๆได้ยินเสียงหัวใจของใครอีกคนเลยนะ ใบหน้าที่เคยซีดเผือดกับขึ้นสีอย่างหน้าประหลาดจนความเงียบกลับมาปกคลุมทั้งสองอีกครั้ง

    "มึงตกใจขนาดนั้นเลยเหรอวะ" 

    "ลองมาโดนเองไหมล่ะไอบ้า" 

    ทั้งสองหันมาสบตา ริมฝีปากอวบเบะคว่ำอย่างไม่พอใจจนร่างสูงเผลอยิ้มด้วยความเอ็นดู รู้ตัวอีกทีก็เผลอหัวเราะกลับความงอนของคนตรงหน้าไปเสียแล้ว 

    "ขำไรเนี่ย ไม่ต้องมาขำเลย"

    "ขำมึงอะแหละ อย่างกับเด็กน้อยเลย"

    "มึงนั่นแหละเล่นเป็นเด็ก" ทั้งสองเอ่ยแซวกันไปมาจนเผลอขำออกมาทั้งคุ่ก่อนจะได้ยินเสียงกุกกักที่บานประตู 

    ทั้งสองหันไปมองพร้อมกันก่อนบานประตูจะถูเลื่อนขึ้นเพื่อเปิดออก 

    "ข้าวปุ้นเป็นไงบ้าง"

    "เหมย" เสียงหวานเรียกเพื่อนสนิทที่เข้ามาช่วย เหมยหันไปมองคาเฟ่ที่นั่งอยู่ข้างๆอย่ากตกตะลึง 

    "มึงติดกับคาเฟ่เหรอ" ข้าวปุ้นพยักหน้าอย่างใสซื่อต่างกับเหมยที่มองคาเฟ่อย่างเหลือเชื่อ "แปลกพิลึก"

    To be continue 

    สวัสดีจ้าา เปิดตอนแรกก็ฟินชวนจิกหมอนแช้วใช่ไหมล่ะ ฝากติดตามพี่เฟ่กับน้องปุ้นด้วยนะจ๊ะ

    ตอนเปิดเรื่องแรกๆอาจจะงงหน่อยๆว่าใครเป็นพระเอก ไรท์ก็งงเหมือนกันค่ะ พี่ธามดูสนใจน้องนะคะเนี่ย แต่โทษทีจ้ะพระเอกคือพี่เฟ่ 

    ข้าวปุ้น:หนูจะเลือกเองง//ท้าวสะเอว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×