คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : -01- รับคำท้า
บรรยากาศหลังเลิกเรียนเต็มไปด้วยความครึกครื้น จากเสียงเชียร์ของเหล่าเด็กนีกเรียนที่ร่วมกันซักซ้อมกิจกรรมกีฬาสีกันอย่างพร้อมเพรียง
พรางบรัฟสีข้างๆกันอย่างเอาเป็นเอาตายทั้งที่เวลาแข่งมันหนึ่งเดือนเต็มๆ
"พักก่อนน้าๆ" ชายหนุ่มร่างเพรียวยกมือบอกน้องๆที่กำลังซ้อมดรัมเมเยอร์กันอย่างสวยงาม
"เหนื่อยจริงพี่ปุ้น" ปุ้น หรือ ข้าวปุ้น เด็กหนุ่มหน้าตาสะสวยแถมจริตกิริยายังออกสาวจนเป็นที่รู้จักกันดีว่าเขาคือเพื่อนสาว
"มาๆๆกินน้ำๆๆ" รุ่นพี่ใจดีกวักมือเรียกน้องๆให้มาตักน้ำที่กระติกน้ำเพื่อคลายร้อน แดงเมืองไทยนี่ก็แรงจนจะไหม้อยู่แล้ว
"โคตรร้อนเลย" สาวรุ่นน้องทั้งสองพ่วงตำแหน่งดรัมเมเยอร์ของสีพูดคุยเป็นกันเองกับรุ่นพี่คนสนิทพรางยกมือพัดให้เกิดลมตรงหน้า
"ไว้วันหลังพี่หาหมวกกับเสื้อแขนยาวมาให้นะ"
"ขอน้ำเย็นๆละกันพี่" หนึ่งในสองสาวพูดติดตลก
"เอามาให้ทุกวันอยู่แล้วไหมล่ะ" ทั้งสามนั่งหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน หารู้ไม่ว่ามีสายตากำลังจับจ้องมาทางพวกเขา
ข้าวปุ้นเป็นประธานฝ่ายพาเหรดในปีนี้ เขาเลยมาซักซ้อมให้กับรุ่นน้องที่เป็นดรัมเมเยอร์เพื่อเตรียทสำหรับงานกีฬาสีทั้งยังเตรียมชุดให้กับเหล่าสมาชิกที่จะเดินพาเหรดอีก
"ดรัมฯปีนี้สวยดีนะ" เสียงทุ้มของธาม ประธานฝ่ายกีฬา ที่ไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับสักเท่าไหร่ รู้กันดีว่าแม่ของธามนั้นเป็นครูที่ปรึกษาของคณะสีเลยดันลูกตัวเองให้ร่วมกิจกรรมก็เท่านั้น
"งั้นๆอะ" คาเฟ่ เพื่อนสนิทของธาม พูดเสียงห้วนก่อนจะหยิบหมากฝรั่งขึ้นมาเคี้ยวไม่ได้ใส่ใจนัก
"มึงไม่มองดูก่อนอะ" ธามหันมามองเพื่อนสนิทที่ทำหน้าไม่สนโลกมองนู้นมองนี้ไปเรื่อย
"ก็งั้นๆแหละ กูไม่ได้สนใจ" พูดไปพรางเคี้ยวหมากฝรั่งสบายใจเฉิ่มทั้งที่คนอื่นหน้าที่ท่วมหัวกันจนเดินวุ่นไปหมด
"นี่มึง ดูๆๆ" มือหนาจับคางเพื่อนสนิทให้หันไปมองกลุ่มสามคนที่นั่งคุยกันอย่างออกรสออกชาติ
"ก็แค่ผู้หญิงธรรมดากับกระเทยอีกคนปะ" คาเฟ่ปัดมือเพื่อนสนิทออกพรางถอนหายใจอย่างระอา
พลันสายตาเหลือบมองไปเห็นร่างเล็กที่นั่งอยู่บนพื้นหญ้ามองตอบกลับมาด้วยเช่นกัน
ข้าวปุ้นหลบสายตาคาเฟ่ทันทีแล้วหันกลับไปพูดคุยต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็พอสังเกตเห็นได้ว่าแก้มนวลนั้นมีสีชมพูให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นซะงั้น
"เหอะ" ธามมองเพื่อนสนิทตัวเองพรางสลับกับข้าวปุ้นที่นั่งอยู่ไม่ไกลแต่ก็สังเกตได้ว่ามีเรื่องอะไรรบกวนจิตใจอยู่ไม่มากก็น้อย
"กูมีอะไรสนุกๆให้มึงเล่น" ธามเกริ่นขึ้นเรียกความสนใจจาดคาเฟ่ได้พอควร
"ว่า?"
"พนันกันไหม" คาเฟ่ร้องฮะออกมาแต่ก็ตั้งใจฟังเพราะใบหน้าจริงจังปนเจ้าเล่ห์ของเพื่อนสนิท
"ว่ามาเลย"
"กูให้มึงหนึ่งเดือน ถ้ามึงจีบข้าวปุ้นติดกูให้ห้าพัน"
"บ้าปะเนี่ย" เสียงหัวเราะขบขันดังมาจากร่างสูง
"มึงหาเงินเติมเกมอยู่นี่ ไม่สนใจจริงเหรอ" ธามเลิกคิ้ว ดวงตาตี่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์พรางกอดอกมองเพื่อนสนิทตัดสินใจอย่างใจเย็นปนกดดัน
"ให้จีบข้าวปุ้นเนี่ยนะ ไม่เท่ากับกูเป็นเกย์หรอกเหรอ"
"กูให้จีบเล่นๆเองมึงจริงจังทำไม" คาเฟ่นิ่งเงียบไปสักพักก่อนธามจะพูดขึ้นอีก "หรือมึงไม่กล้า กากอะดิ"
"กูรับคำท้าเว้ย" ขึ้นชื่อว่าคาเฟ่ต่อให้เป็นคนคิดถี่ถ้วนแค่ไหนก็มักจะแพ้คำสบประมาทเสมอ
สมกับเป็นเพื่อนกูจริง ธามคิดในใจก่อนจะวางมัดจำไว้หนึ่งพัน
"มัดจำไว้ก่อนหนึ่งพัน เผื่อมึงต้องใช้ทุน" ธามยกยิ้มหน่อยๆก่อนจะลุกเดินออกไปผิวปากอย่างอารมณ์ดี
ดีจริงๆเลย คาเฟ่คว้าเอาแบงค์หนึ่งพันบาทใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะมองตามหลังเพื่อนรักไป
การที่มีเพื่อนสนิทกันมากๆจนรู้จุดอ่อนมันก็เป็นเหมือนดาบสองคมได้เหมือนกันแฮะ
ข้าวปุ้นเดินแบกกระติกน้ำเข้าไปเก็บในห้องเก็บของก่อนจะจัดวางให้เป็นระเบียบเรียบร้อยพร้อมกัับเก็บกระเป๋าหนังสือของตัวเอง
"ไง"
"อ้าวธาม" มือเรียวยกกระเป๋าหนังสือขึ้นมาก่อนจะสะพานไว้บนหลัง
"ยังไม่กลับอีกเหรอ" เสียงทุ้มเอ่ยถามร่างเล็กกว่า ข้าวปุ้นเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยและถามกลับพร้อมรอยยิ้มอ่อน
"ทำไมอยู่ๆถามเนี่ย" ร่างเล็กยืนตัวตรงมองอีกคนที่ยืนพิงประตูอยู่
"ก็แค่ทักทาย ไม่ได้?"
"ได้ดิกำลังจะกลับแล้ว ธามอะ"
"กำลังกลับ" ข้าวปุ้นพยักหน้าก่อนจะโบกมือลาแล้วเดินออกไป
"ขอให้โชคดีกับเพื่อนร่วมทางนะ" ธามมองตามแผ่นหลังของข้าวปุ้นที่เดินออกไปก่อนหน้านี้
"ข้าวปุ้นๆๆ" เหมย ประธานฝ่ายสันทนาการ เพื่อนสาวสุดสวยคนสนิทของข้าวปุ้นเดินมาเพื่อนสนิทอย่างรุกรี้รุกรน
"มีอะไร"
"ช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหมอะ ฉันลืมเอกสารงบประมาณไว้บนห้องอะแล้วต้องใช้แล้วด้วย ฉันต้องคุมน้องๆก่อนอะ แกช่วยฉันหน่อยได้ไหม"
เพื่อนสาวทำตาปริบๆ แขนเล็กยกนาฬิกาขึ้นมาดูพบว่านี่เป็นเวลาเกือบห้าโมงกว่าแล้ว ท้องฟ้าก็ไม่ได้มืดขนาดนั้นจึงพยักหน้ารับไป
"เดี๋ยวเอาขึ้นไปให้" เหมยยิ้มร่าด้วยความดีใจ
"เดี๋ยวเลี้ยงหนมเลย ขอบใจน้า"
หลังจากที่ตบปากรับคำเป็นที่เรียบร้อย ข้าวปุ้นก็เดินขึ้นบันไดมาจนถึงชั้นสาม ที่เป็นห้องที่ตนเรียนอยู่
ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องแล้วไปค้นใต้โต๊ะของเพื่อนสนิท
อยู่ไหนเนี่ย
"ขโมยของเหรอ" ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกก่อนจะยกมือขึ้นทาบอกมองไปทางต้นเสียง
"คาเฟ่" ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องเรียนก่อนจะเดินผ่านข้าวปุ้นไปหลังห้อง มือหนาดันหน้าต่างออกแล้วยกตัวขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ หยิบยุหรี่ออกมาสูบอย่างสบายใจ
"มองไม ไม่เคยเห็นคนเหรอ" ข้าวปุ้นถอนหายใจอย่างระอาก่อนจะก้มลงไปหยิบเอกสารขึ้นมาจัดเรียงให้เรียบร้อย
"โรงเรียนเลิกแล้วทำไมไม่ออกไปสูบข้างนอกอะ" ใบหน้าสวยหันไปมองอีกคนที่นั่งเหม่อมองไปนอนหน้าต่าง
"ไปสูบข้างนอกจะได้บรรยากาศแบบนี้ไหม" ข้าวปุ้นชะโงกหน้าไปมอง "อยากมาดูก็ดูสิ"
เมื่อได้รับคำเชิญชวนข้าวปุ้นก็เดินเข้าไปหา มือเล็กยกมือขึ้นเกาะขอบหน้าต่างมองวิวพระอาทิตย์ตกตัดกับตึกราบ้านช่อง กับถนนตัดผ่าน
"สวยอะ ช่างสันหานะเนี่ย" เสียงหวานเอ่ยแซวคนด้านข้างก่อนจะเดินกลับ
"ดูแค่นี้เอง?"
"ไม่ชอบกลิ่นไอนี่อะ" นิ้วชี้ยกชี้ไปทางบุหรี่ที่เขาชูออกไปนอกหน้าต่างถึงอย่างไรกลิ่นมันก็คละคลุ้งอยู่ดีสำหรับคนที่ไม่ชอบ
"เหอะ"
"เด็กที่ไหนมาสูบบุหรี่แถวนี้วะ" ทั้งสองสะดุ้งโหยงก่อนค่เฟ่จะทิ้งก้นบุหรี่ลงนอกระเบียง
"ทำไรเนี่ย"
"ชู่ว" มือหนาเอื้อมไปปิดมือเล็กไว้ก่อนจะดึงเข้ามาแอบตรงหลังโต๊ะมุมห้อง
แผ่นหลังเล็กสัมผัสอกกว้าง หัวใจของคาเฟ่เริ่มเต้นตึกตักรุนแรงขึ้นตามเสียงลมหายใจที่รินรดอยู่ใกล้กัน
สายตามองตามลุงยามที่เดินสำรวจแต่ละห้องอย่างลวกๆ ตามหน้าที่
เม็ดเหงื่อใสผุดขึ้นมาบนใบหน้าร้อนผ่าว มือเล็กจับมือหนาที่ปิดปากตัวเองแน่น
"ปวดท้องว่ะ รีบลงไปดีกว่า" ลุงยามเดินกลับไปข้าวปุ้นกับคาเฟ่จึงผละตัวออกจากกัน ร่างเล็กรีบลุกขึ้นก่อนจะเดินไปหยิบของที่โต๊ะหันหลังให้คาเฟ่
มือเบ็กยกขึ้นมาวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ข้างในพองโตขึ้นอย่างบอกไม่ถูกก่อนจะรีบเก็บของแล้วจะเดินออกไป
"เดี๋ยว"
"ฮะ?"
"ลืมไอนี่" มือหนาหยิบกล่องหมากฝรั่งกล่องเล็กเขกหัวของร่างเล็กไปที ข้าวปุ้นเอื้อมมือไปหยิบก่อนจะยัดใส่มือของอีกคน
"มึงกินเองเถอะ จะได้สดชื่น" คาเฟ่ก้มมองหมากฝรั่งในมือ
"ว่ากูปากเหม็นปะเนี่ย"
"รู้ตัวแล้วก็หัดปรับปรุงตัวซะสิ" ข้าวปุ้นพูดแล้วเดินหันหลังเปิดประตูออกจากห้องไป
ข้าวปุ้นเดินลงบันไดตามทางที่เริ่มมืดสงัดลงมาเรื่อยๆก่อนจะหยุดลงตรงทางเดินที่มืดมิดไร้แสงสว่างสอดส่อง
"ถ้ากลัวก็น่าจะรอกันสิ" เสียงทุ้มเอ่ยตามลังก่อนจะล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปืดไฟฉายแล้วเดินนำทางไป "จะตามมาหรือยืนอยู่ตรงนั้น"
"ตามๆๆ" ใบหน้าสวยรีบพยักหน้ารับหน้าตาตื่นก่อนจะวิ่งตามร่างสูงลงมา
"ฉิบหาย" เสียงอุทานออกมาอย่างตื่นตระหนกพร้อมร่างสูงที่หงุดชะงักพาร่างเล็กกว่าที่ไม่ทันสังเกตฝังหน้าลงบนแผ่นหลังกว้างอย่างไม่ได้ตั้งใจ
"โอ้ย อะไรเนี่ย" มือเรียวรูปหัวป้อยๆก่อนจะชะเง้อคอออกมาดูตรงชั้นล่างที่เป็นประตุทางออกตึก
ฉิบหายจริงๆ
ประตูเหล็กถูกเลื่อนปืดลงมาแล้วแถมยังถูกล็อกอยู่ด้วย
"เราจะออกไปยังไงดี" ข้าวปุ้นเต็มไปด้วยความกังวลก่อนจะนึกได้ว่าเพื่อนสาวของเขายังไม่กลับบ้าน จึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาเพื่อนสนิททันที
"โทรได้ไหม"
"รอสักพักอะ ไปหาพี่ยามก่อน" ข้าวปุ้นนั่งลงบนขั้นบันไดข้างๆคาเฟ่ เสียงหวานสั่นเครือเล็กน้อยด้วยความกลัว พยายามหันหลังให้ความมืดแล้วเปิดไฟฉายจากโทรศัพท์ให้สว่างที่สุด
"เดี๋ยวแบตก็หมด" คาเฟ่หันมาเตือนร่างเล็กที่กำแสงสว่างในมือแน่น
"กูกลัวความมืดมากกว่า"
"เขยิบเข้ามานั่งใกล้กูแล้วประหยัดแบตมือถือไว้ก่อน" ข้าวปุ้นพยักหน้าหงึกๆ ใบหน้าซีดเผือดค่อยๆขยับร่างเข้าไปหาร่างสูง
ยิ่งเข้าใกล้รู้สึกเหมือนไฟฟ้ากำลังแล่นไปทั่วร่างกายเลยแฮะ
ทั้งสองนั่งนิ่งเงียบหลังจากที่มีเครื่องให้ความสว่างเพียงเครื่องเดียว
"ทำไมถึงกลัวความมืดขนาดนั้น บอกกูได้ไหม" คาเฟ่เป็นคนเปิดคำถามทลายความเงียบลง
ข้าวปุ้นกลืนน้ำลายอึกใหญ่ มือเรียวกำหมัดแน่นบนหน้าขานั่งตัวตรงจนเกร็งสั่น "ตอนเด็กๆเคยโดนพ่อจับขังไว้ในห้องมืดๆน่ะ"
"ทำไมพ่อถึงทำแบบนั้นล่ะ" คาเฟ่เริ่มหัรมาให้ความสำคัญกับหนุ่มน้อยข้างกาย
"เพราะอยากให้กูเข้มแข็งเหมือนเด็กผู้ชายล่ะมั้ง" ข้าวปุ้นเงยหน้ามาส่งยิ้มฝืนๆให้กับคนที่นั่งอยุ่ด้านข้างก่อนจะก้มหน้าลงไปมองกำปั้นของตัวเอง
"คนเราไม่ว่าจะเพศไหน แค่ขึ้นชื่อว่าคนก็มีเรื่องที่อ่อนแอกันทั้งนั้นนั่นแหละ" ข้าวปุ้นเงยหร้าขึ้นมามองคาเฟ่อีกครั้งด้วยความประหลาดใจ
"กูคิดว่ามึงเหยียดเพศซะอีก" คาเฟ่เลิกคิ้วประหลาดใจ
"กูดูเป็นคนอย่างนั้น"
"อือ" ใบหน้าสวยพยักหน้าหงึกๆ คาเฟ่ถึงกับหลุดขำออกมาก่อนจะมองใบหน้าสวยที่เริ่มสดใสขึ้นต่างจากเมื่อครู่
"กูแค่พูดตรงไปตรงมาจนดูไม่มีมารยาท แต่กูไม่อยากมองว่าการที่คนเรามีรสนิยมยังไงเป็นเรื่องแปลก เลยไม่ได้คิดอะไร" คาเฟ่ยกมือขึ้นมาลูบท้ายทอยตัวเอง แสร้งเสมองไปทางอื่นเมื่อสายตาคู่นั้นของข้าวปั้นเปล่งประกายเมื่อได้ฟังที่เขาพูด
"คิดงี้จริงเหรอ" คาเฟ่พยักหน้า
"เมื่อไหร่จะมากันเนี่ย" ใบหน้าคมจ้องมองไปที่บานประตุแค่กลับนิ่งสนิท
"คงอีกสักพักมั้ง" ข้าวปุ้นโน้มตัวลงมาเท้าคางกับหน้าขาของตัวเองอย่างเบื่อหน่าย "ว่าแต่คาเฟ่"
"หืม"
"มึงมีสิ่งที่กลัวบ้างไหม" คาเฟ่มองคนที่นั่งอยู่ข้างกายถ่มคำถามขึ้นมาโดยไม่ได้หันมามองหน้าเขา
ร่างสูงนั่งคิดอยู่สักพัก
"กู... กลัวผีมั้ง"
เพี๊ยะ
"โอ้ย!" ฝ่ามือเล็กตีต้นแขนแน่นของคนตัวสูงดังลั่น พร้อมกับยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะริมฝีปากตัวเองเป็นสัญลักษณ์ว่าห้ามพูด
"อยู่มืดๆแบบนี้ใครเขาพูดเรื่องผีกัน"
คาเฟ่ลูบแขนตัวเองเบาๆ เล่นเอาแสบเหมือนกีนนะเนี่ย ตัวก็เล็กแค่เนี่ยไม่รู้เอาแรงมาจากไหน
"แฮร่!" ไม่วายยังแกล้งให้ตัวเล็กตกใจเล่นจนต้องพุ่งตัวเข้ากอดเขาอย่างเผลอตัว
คาเฟ่ชะงักไปชั่วครู่เมื่อข้าวปั้นเข้ามาสวมกอดแน่นด้วยความตกใจ ร่างเล็กเมื่อเริ่มได้สติจึงรีบผละออกจากร่างของคาเฟ่ราวกับมีไฟฟ้าช็อตเมื่อทั้งสองสัมผัสกัน
ตึกตัก ตึกตัก
หัวใจที่เคยเต้นคงที่ตอนนี้เริ่มจับจังหวะไม่ถูก ภาวนาอย่าให้คนข้างๆได้ยินเสียงหัวใจของใครอีกคนเลยนะ ใบหน้าที่เคยซีดเผือดกับขึ้นสีอย่างหน้าประหลาดจนความเงียบกลับมาปกคลุมทั้งสองอีกครั้ง
"มึงตกใจขนาดนั้นเลยเหรอวะ"
"ลองมาโดนเองไหมล่ะไอบ้า"
ทั้งสองหันมาสบตา ริมฝีปากอวบเบะคว่ำอย่างไม่พอใจจนร่างสูงเผลอยิ้มด้วยความเอ็นดู รู้ตัวอีกทีก็เผลอหัวเราะกลับความงอนของคนตรงหน้าไปเสียแล้ว
"ขำไรเนี่ย ไม่ต้องมาขำเลย"
"ขำมึงอะแหละ อย่างกับเด็กน้อยเลย"
"มึงนั่นแหละเล่นเป็นเด็ก" ทั้งสองเอ่ยแซวกันไปมาจนเผลอขำออกมาทั้งคุ่ก่อนจะได้ยินเสียงกุกกักที่บานประตู
ทั้งสองหันไปมองพร้อมกันก่อนบานประตูจะถูเลื่อนขึ้นเพื่อเปิดออก
"ข้าวปุ้นเป็นไงบ้าง"
"เหมย" เสียงหวานเรียกเพื่อนสนิทที่เข้ามาช่วย เหมยหันไปมองคาเฟ่ที่นั่งอยู่ข้างๆอย่ากตกตะลึง
"มึงติดกับคาเฟ่เหรอ" ข้าวปุ้นพยักหน้าอย่างใสซื่อต่างกับเหมยที่มองคาเฟ่อย่างเหลือเชื่อ "แปลกพิลึก"
To be continue
สวัสดีจ้าา เปิดตอนแรกก็ฟินชวนจิกหมอนแช้วใช่ไหมล่ะ ฝากติดตามพี่เฟ่กับน้องปุ้นด้วยนะจ๊ะ
ตอนเปิดเรื่องแรกๆอาจจะงงหน่อยๆว่าใครเป็นพระเอก ไรท์ก็งงเหมือนกันค่ะ พี่ธามดูสนใจน้องนะคะเนี่ย แต่โทษทีจ้ะพระเอกคือพี่เฟ่
ข้าวปุ้น:หนูจะเลือกเองง//ท้าวสะเอว
ความคิดเห็น