ตอนที่ 11 : 10 [100%]
บทที่ 10
‘เนี่ยนะคนไม่ได้เป็นอะไรกัน ?’
‘ปกติรุ่นพี่รุ่นน้องเขาก็หอมหัวกันกลางมหา’ลัยได้ มันปกติเว้ย…’
‘ปกติมากเลยสิไอ้เหี้ยบอล เสียงสูงขนาดนั้น…’
‘เห็นปะ แล้วพวกมึงหาว่ากูไปเอาข่าวมั่ว ๆ มาพูดให้โดนไอ้ฟ้าด่า เห็นอยู่ว่ามันมีซัมติง’
‘ก็ไอ้ฟ้ามันปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วมึงจะให้พวกกูคิดยังไง พวกกูก็ต้องเชื่อคนที่ไม่เคยโกหกมากกว่าคนขี้โม้อย่างมึงไหม…’
‘กูว่างานนี้ต้องจับตาดูไปเรื่อย ๆ คุณหมื่นฟ้าอาจจะปากแข็ง’
‘เออ พอก่อน ๆ เพื่อนฟ้ามึงเดินมาแล้ว’
ประโยคสนทนาของเพื่อน ๆ ตอนที่อยู่ในซุ้มสูบบุหรี่วนกลับเข้ามาในหัวหมื่นฟ้าขณะใช้นิ้วรูดรอยหักยับบนมวนสีขาว พวกนั้นคงไม่คิดว่าเขาจะได้ยินมันถกเถียงกันเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับที่รักอย่างออกรสออกชาติ เป็นครั้งแรกที่หมื่นฟ้าไม่รู้สึกหงุดหงิดที่เพื่อนพยายามจะรู้เรื่องส่วนตัวของเขาให้ได้ แต่เขากลับรู้สึกผิดมากกว่าที่ยังไม่สามารถอธิบายอะไรให้ฟังได้
อะไร ๆ มันยังไม่แน่นอน
พวกมึงรอก่อนละกัน
กูกำลังพยายามอยู่…
หมื่นฟ้ารู้ว่าเพื่อนรู้จักเขาเป็นอย่างดีพวกมันถึงไม่คิดจะถามอะไรหลังจากที่เขากลับเข้าไปนั่งในซุ้มแล้ว เพื่อนทุกคนทำเพียงแค่มองบุหรี่สามมวนสภาพยับเยินที่อยู่ในมือเขา ยกเว้นดอมที่นั่งอมยิ้มแล้วสะกิดถามว่าอยากได้มวนใหม่ไหม พอดอมกล้าเปิดประเด็นถามอย่างนั้น เพื่อนคนอื่น ๆ จึงถามเขาเช่นกันพร้อมทั้งแย่งกันยื่นบุหรี่สภาพสมบูรณ์ให้เขา แต่เขาส่ายหน้าปฏิเสธแล้วใช้นิ้วรีดรอยหักยับพวกนั้นให้มันเรียบมากขึ้น
ทุกคนคงจะพอเดาความรู้สึกของเขาที่มีต่อรุ่นน้องได้บ้างจากการกระทำที่แสดงออกอย่างชัดเจน หมื่นฟ้ารู้สึกผิดน้อยลงเมื่อรู้วิธีที่จะช่วยยืนยันเรื่องที่เพื่อนสงสัยได้จากการแสดงออกนี้ แม้จะยังยืนยันด้วยคำพูดไม่ได้ แต่ทุกอย่างที่เขาสื่อผ่านการกระทำคงพอจะทำให้เพื่อนเข้าใจอะไรได้บ้าง และเพราะเพื่อนต่างรับรู้อะไรบางอย่างได้ถึงได้พากันเงียบไม่ถามอะไรอีก บ้างก็ถอนหายใจแล้วนั่งมองเขาแทน
เหมือนเรียวที่เพิ่งเดินมานั่งลงตรงข้ามแล้วนิ่งเงียบมองเขาอย่างเดียว
“รวยขนาดนี้ แต่ไปเก็บบุหรี่จากกองขยะมาสูบเนี่ยนะ…”
“ปากดี เดี๋ยวกูก็ปล่อยให้ดูร้านคนเดียวเลย”
“…” เรียวยิ้มขำ เขาจ้องมองบุหรี่สภาพยับเยินในมือเพื่อนสนิท เรียวไม่รู้ว่าหมื่นฟ้าไปได้มันมาจากไหน แต่ถ้าให้เดาเขาคิดว่าคงได้มาจากน้องแก้มย้อยแน่ ๆ เพราะเขามั่นใจว่าของอะไรก็ตามที่เพื่อนได้รับมาจากอีกฝ่าย ของชิ้นนั้นจะมีค่าเสมอ ไม่ว่าจะมีสภาพอย่างไร “นี่ใช่ไหมที่เมื่อวานกูถามว่าบุหรี่มึงไปไหน แล้วมึงบอกว่าฝากบางคนเก็บไว้...”
หมื่นฟ้าพยักหน้ารับก่อนจะยกมวนสีขาวที่พอจะใช้การได้แล้วจรดที่ริมฝีปากเพื่อจุดสูบพลางคิดว่าสูบบุหรี่มาก็เยอะ แต่ไม่มีบุหรี่ซองไหนทำให้มีความสุขได้เท่าสามมวนที่เพิ่งได้รับมา หมื่นฟ้าเผลออมยิ้มพอนึกได้ว่าอะไรที่เป็นสาเหตุของความแตกต่าง
“ฝากน้องรักเก็บไว้เหรอวะ ?”
“อือ”
“แล้ววันนี้เขาเอามาคืนแล้วใช่ปะ ? อารมณ์ดีเลย เมื่อวานหงุดหงิดเหมือนหมาบ้า กูอุตส่าห์แบ่งให้ก็ไม่เอา”
“คืนมาแล้ว…แต่แค่สามมวน”
“อ้าว ! ทำไมวะ ?”
“เหตุผลน่ารักเกินจนมึงทนฟังไม่ได้หรอก…”
“ไอ้สัด ได้ยินแค่นี้ก็เขินแทนคนแอบรักอย่างมึงแล้ว…งั้นเก็บไว้ปริ่มคนเดียวเถอะพ่อ กูยอมไม่รู้ก็ได้” เรียวพูดปนขำ
“…”
“นี่คือวิธีจีบแบบใหม่เหรอวะ ? เอาบุหรี่ไปฝากเขาไว้แล้วให้เขามาส่งบุหรี่ให้ตัวเองทุกวัน ความจริงแล้วหาเรื่องเจอเขาทุกวันนั่นแหละ…”
“…”
“น้องแก้มย้อยกลายเป็นเด็กส่งบุหรี่ไปแล้ว”
“อย่าเรียกว่าเป็นเด็กส่งบุหรี่…มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ให้เข้าใจว่ากูไปขอเบิกกับเขาดีกว่า เขาให้แค่ไหนก็สูบแค่นั้น…จะไม่เรียกร้องมากกว่าที่ได้รับ”
“ฟ้าเอ๊ย ~ ยิ่งกว่าเสือสิ้นลาย ยิ่งกว่าหมารอเจ้าของกลับบ้าน ยิ่งกว่าอะไรอีกมึงเนี่ย ยอมจำนนต่อเขาไปหมด…ตอนแรกที่กูจับได้ว่ามึงชอบน้องเขา กูคิดแค่ว่าชอบเฉย ๆ นะ ไม่ได้เผลอรักไปเยอะขนาดนี้”
"ไม่เผลอ…กูรู้ตัวตลอด” หมื่นฟ้าอัดนิโคตินเข้าปอดอีกครั้งก่อนเอ่ย “คนเราเวลาตกหลุมรักใครสักคน ไม่มีทางเผลอหรือไม่รู้ตัวหรอก มีแต่จะยอมรับหรือไม่ก็เท่านั้น”
“นานไหมวะกว่ามึงจะยอมรับว่าตกหลุมรักน้อง ?”
“สักพัก…แต่ก็ไม่นานมาก”
“หลังจากนั้นก็เริ่มรักเรื่อย ๆ ใช่ปะ ?”
หมื่นฟ้าพยักหน้ารับ “อือ โตแล้ว…การคุยกับตัวเองให้รู้เรื่องไม่ใช่เรื่องยากหรอก”
“…”
“ถ้าได้คำตอบชัดเจนว่าตัวเองต้องการอะไร รู้สึกยังไง มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่มึงต้องฝืนหรือรั้งความรู้สึกตัวเองไว้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะรู้ใจตัวเองเร็ว…ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา”
“แล้วมึงว่า…” ไม่ถามดีกว่าว่ะ กลัวไปจี้ใจเพื่อน
“ถามมา…”
มึงเปิดมาเองนะไอ้ฟ้า จะมาแดกหัวกูทีหลังไม่ได้นะโว้ย “มึงว่าถ้าวันหนึ่งน้องแก้มย้อยตกหลุมรักใครสักคนขึ้นมาจริง ๆ น้องเขาจะใช้เวลานานไหมวะ ?...กว่าเขาจะรู้ตัว”
“…” หมื่นฟ้าเอาก้นบุหรี่ที่อยู่ในมือไปวางในถ้วยกระเบื้องสีขาว ก่อนเอ่ย “รักเป็นที่รักของทุกคน แน่นอนว่าเขาได้รับความรักจากทุกคนมาตลอด การที่เขาจะรู้ตัวเลยเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะอย่าลืมว่าไม่ใช่แค่กูที่ทำดีกับเขา คนรอบข้างไม่ว่าจะสนิทหรือไม่ก็ปฏิบัติกับเขาเป็นอย่างดี…”
“…”
“ไม่อย่างนั้นเขาก็จะตกหลุมรักทุกคนที่ทำดีด้วย คิดว่าทุกคนรู้สึกกับตัวเองแบบคนรักหมด เพราะฉะนั้นรักจะมองทุกคนคล้าย ๆ กัน ไม่ได้รู้สึกว่าคนนี้ต่างจากคนนั้น แต่ก็ใช่ว่าจะแยกไม่ได้เลย กูเชื่อว่าเขาจะค่อย ๆ ซึมซับและรู้ตัว…รู้ว่าตัวเองรู้สึกพิเศษกับใครบางคน และรู้ว่ากูแตกต่างจากคนอื่น แค่ต้องใช้เวลาอย่างที่บอก”
“นับถือมึงจริง ๆ อดทนรอเวลามาก ๆ ”
“คงเป็นเพราะกูตัดสินใจยกเวลาทั้งหมดของตัวเองให้เขาไปแล้ว กูก็เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันนานอะไร…จะช้าหรือเร็ว สุดท้ายกูก็อยู่ที่เดิม ระยะเวลาไม่สำคัญเท่าความสบายใจของเขาหรอก”
“ไอ้ฟ้า…ไม่คิดเลยจริง ๆ ว่ามึงจะคิดอะไรลึกซึ้งกับใครแล้ว เพราะตั้งแต่เลิกกับแยมก็เหมือนว่ามึงจะรักใครไม่ได้อีก”
หมื่นฟ้าเผยยิ้มบาง “แต่หลังจากคนนี้…กูคงรักใครไม่ได้อีกแล้ว”
มันเป็นความสัตย์จริงที่ดังก้องอยู่ในใจ…
เป็นเรื่องจริงที่ว่า…รักจนหมดใจมันเป็นแบบนี้
ไลน์ ~
หมื่นฟ้าเหลือบมองโทรศัพท์ที่ดังแจ้งเตือน ข้อความจากใครบางคนที่กำลังคิดถึงทำให้เขาหลุดหัวเราะเบา ๆ ก้านนิ้วยาวปัดหน้าจอเพื่อเปิดเข้าไปในช่องสนทนา
ที่รัก : เวลานี้รักไม่รู้ว่าพี่ฟ้ากลับถึงบ้านหรือยัง
ที่รัก : แต่รักว่าพี่ฟ้ายังทำงานอยู่ที่ร้านแน่ ๆ
ที่รัก : รักแค่จะมาบอกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็ดีนะครับ เดี๋ยวจะเป็นหวัด ถ้าสระผมได้จะดีมาก ๆ
ที่รัก : รักไม่ได้ว่าพี่ฟ้าหัวเน่านะ…อย่าเข้าใจผิดนะครับ
ที่รัก : รักไปแล้วนะครับ ไม่กวนแล้ว
หมื่นฟ้าไม่ได้ตอบอะไร เขาคิดว่าคนตัวเล็กคงจะปิดโทรศัพท์แล้วโยนมันไว้ที่ไหนสักแห่งหลังบอกลา เขาพรมนิ้วไปบนแป้นพิมพ์เตรียมจะบอกฝันดีทั้งที่ไม่รู้ว่าจะได้รับการตอบกลับไหม
แต่อยากให้รู้ว่ายังเหมือนเดิม
ยังอยู่ที่เดิม
ที่รัก : ก่อนจะไปจริง ๆ
โดยไม่คิดว่าใครบางคนจะรออยู่ตรงนี้เหมือนกัน
รอเขาเหมือนกัน…ยังไม่ไปไหน
หมื่นฟ้ากดลบคำว่าฝันดีที่เป็นประโยคตัดจบการสนทนาแล้วเปลี่ยนเป็นบางประโยคที่ช่วยยื้อให้คนในแชตอยู่คุยกันต่ออีกสักหน่อย
M.FAH : พี่ฟ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วครับ แต่คงต้องกลับไปสระผมที่คอนโด
ที่รัก : อ่า…พี่ฟ้ายังไม่กลับคอนโดจริง ๆ ด้วย
M.FAH : ตัวดื้อมีอะไรจะบอกพี่ฟ้าก่อนจะไปครับ ?
ที่รัก : รักจะบอกให้พี่ฟ้าขับรถระวัง ๆ นะครับ กลางคืนมันอันตราย
M.FAH : พี่ฟ้าจะระวังครับ
ที่รัก : เท่านี้แหละครับ
M.FAH : ครับ
ที่รัก : แต่มีอีกอย่างครับ
M.FAH : ว่าไงครับ ?
ที่รัก : ตอนนี้พี่ฟ้ายังทำงานอยู่…อยากได้ยินเสียงน้ำทะเลไหมครับ ?
คนโดนถามหัวเราะในลำคอเบา ๆ
M.FAH : อยากครับ อยากรู้ว่าเสียงทะเลตอนกลางคืนต่างจากกลางวันไหม ?
ที่รัก : send a voice
หมื่นฟ้ากดเปิดข้อความเสียงที่คนใจดีส่งเสียงน้ำทะเลมาเป็นกำลังใจให้กัน
‘พี่ฟ้า ~’
เขาหลุดหัวเราะออกมาพอได้ยินเสียงคนตัวเล็กพูดปนหาว ชื่อของเขาจึงเพี้ยนไปจากเดิมเล็กน้อย แต่ก็พอจะเดาออกว่าเจ้าตัวเรียกชื่อเขา หมื่นฟ้าตั้งใจฟังประโยคต่อไปที่ที่รักกำลังพูดหลังจากหาวเสร็จ
‘แหะ ๆ ขอโทษทีครับ รักง่วงจนตาจะปิดแล้ว ดันหาวตอนเรียกพี่ฟ้าพอดีเลย’
‘เสียงน้ำทะเลตอนกลางคืนมันจะเอื่อย ๆ หน่อยนะครับ…ซู่ ~~~ ซู่ ~~~ ค้าบ’
ทันทีที่ฟังจบหมื่นฟ้าก็พิมพ์ข้อความกลับไป
M.FAH : ขอบคุณนะครับ คุณท้องทะเลไปนอนได้แล้วครับ
ที่รัก : ค้าบ
M.FAH : กู๊ดไนท์ครับ ตัวดื้อ
ที่รัก : ค้าบ ฝันดีครับคุณท้องฟ้า
ที่รัก : : )
“ไม่ได้น่ารักน้อยเลย…น่ารักจนใจสั่น น่ารักฉิบหาย” เรียวที่นั่งมองอยู่นานแล้วเอ่ยขึ้น
“จริง”
แล้วสัญลักษณ์ : ) ที่ส่งมาให้…
ทำให้คุณเขาน่ารักเท่าท้องทะเลกับท้องฟ้ารวมกัน
#กี่หมื่นฟ้า
“อีไทป์ มึงกินให้ช้า ๆ หน่อย อีแก้มย้อยมันกินไม่ทันมึงแล้ว !”
“มึงก็ป้อนมันสิ แม่งมัวแต่นั่งหัวเราะอยู่กับไอ้ลี้…”
“รัก…เดี๋ยวมึงค่อยดู หันหน้ามากินก่อนเร็ว อีไทป์จะสวาปามหมดแล้ว”
คนโดนเรียกละสายจากหน้าจอโทรศัพท์ที่พันลี้เป็นคนถือให้ดูคลิปตลก ๆ เพื่อกินบิงซู เขาชอบกินขนมหวานมาก แต่ก็ชอบดูคลิปที่พันลี้สรรหามาให้ดูพอ ๆ กัน
“แดกกันไปเถอะ ถ้าหมดเดี๋ยวกูซื้อให้ใหม่…กูชอบดูมันนั่งหัวเราะ พวกมึงก็ขัดจังเลยว่ะ”
“ลี้…หาเมียสักคนเชื่อกู มึงจะมาหลงเพื่อนตัวเองแบบนี้ไม่ได้” จอยว่าพลางตักผงโอวัลตินที่มีนมข้นปนใส่ปากเพื่อนแก้มย้อย
“หาแล้ว…แต่ไม่มีใครน่าเอ็นดูเท่ามันเลย”
“ก่อนจะให้ลี้หาเมีย มึงก็ช่วยหาผัวแล้วมีลูกของตัวเองสักทีเถอะ…จะได้ไม่ต้องเอ็นดูเพื่อนเหมือนลูก”
“อีไทป์ !”
ที่รักหัวเราะขณะตักบิงซู “ใจเย็น ๆ ที่รักคนนี้เป็นทุกอย่างให้แล้ว…ยันกระทั่งท้องทะเลเลย”
“อะไรวะ ? ท้องทะเลอะไร ?”
คำถามของไทป์ช่วยเรียกสติของที่รักกลับมา เขาถึงได้รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป คนโดนถามในเวลานี้ได้แต่ส่งยิ้มเจื่อน ๆ ที่รักกำลังคิดว่าจะตอบเพื่อนสามคนที่รอคำตอบอย่างไรดี ความจริงเขาสามารถอธิบายความหมายของประโยคที่หลุดพูดออกไปได้ แต่ทุกคนจะต้องล้อเขาจนอายแน่ ๆ
เพราะคำว่า ท้องทะเล มาจากหมื่นฟ้า
หมื่นฟ้าให้เขาเป็นท้องทะเล
“ก็ที่พักใจไง…ใครไม่สบายใจหรือต้องการกำลังใจก็มาหาที่รักคนนี้ได้ มีกำลังใจให้เสมอ…ซู่ ~ ซู่ ~ ที่ดังเหมือนเสียงน้ำทะเล ไม่เคยได้ยินกันเหรอ ?”
“เพิ่งเคยได้ยินจากมึงนี่แหละอีแก้มย้อย”
“กูว่าทุกคนจะสู้ต่อไม่ไหวเพราะเสียง ซู่ ~ ซู่ ~ ของมึงมากกว่า”
ที่รักขมวดคิ้วก่อนเอ่ย “ทำไมล่ะลี้ ?”
“เพราะมันน่ารักจนใจยวบเลยไง” พันลี้ว่าพลางส่งมือไปหยิกแก้มย้อย ๆ
“เอ็นดูกูมาก ๆ เลยใช่ไหมล่า ~”
“อีแก้มย้อยหยุดทำน่ารักเดี๋ยวนี้ ! กูจะขยำแก้มมึง”
ที่รักหัวเราะจนปากบานเพราะจอยยกมือทั้งสองข้างขึ้นทำท่าจะขยำแก้มเขา แต่ต้องหักห้ามใจไว้เพราะกลัวเขาจะหนีไปอีก หลังจากเหตุการณ์เมื่อวานก็ไม่มีใครกล้าหยิกแก้มเขาแรง ๆ อีก
บอกแล้วว่าถ้าไม่มีแก้มย้อยคนนี้…อยู่กันไม่ได้หรอก
“เออ แล้วเมื่อกี้พี่ฟ้าแวะมาหามึงที่หน้าโรงอาหารทำไม ?” พันลี้ที่เหมือนเพิ่งนึกได้ถามขึ้น
“มาเอาบุหรี่ เพราะเมื่อเช้ากินข้าว”
“อ้าว…เมื่อวานมึงไม่ได้คืนพี่ฟ้าไปทั้งซองแล้วเหรอ ?” ไทป์ถาม
“เปล่า ๆ กูยึดไว้อยู่ ให้วันละสองสามมวน…ถ้าคืนหมดคุณหมื่นฟ้าคนดื้อคงไม่ยอมตื่นมากินข้าวอีกแน่ ๆ ”
พันลี้หัวเราะชอบใจ ยกนิ้วโป้งให้เพื่อนสนิท “เก่งมาก ๆ ไอ้แก้มย้อย เราต้องเจ้าเล่ห์แบบนี้แหละถึงจะเอาพี่ฟ้าอยู่”
คนโดนชมเหมือนจะได้ใจอมยิ้มจนแก้มแทบแตกพร้อมพยักหน้าหงึกหงัก “กูเชื่อว่าอีกไม่นานคุณหมื่นฟ้าคนดื้อจะกลายเป็นหมื่นฟ้าเด็กดี”
“แง... ~ อีแก้มย้อย เรียกเขาแบบนั้นอะ…เอ็นดูเขามากไหมมึง…”
ที่รักหันมองจอยก่อนจะคิดทบทวนประโยคคำพูดของตัวเอง แล้วภาพต่าง ๆ ตอนที่อยู่กับหมื่นฟ้าก็ลอยวนกลับเข้ามาอีกครั้ง
มีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกว่าคุณหมื่นฟ้าคนดื้อก็มีมุมน่ารักเหมือนกัน
เช่น…
ตอนที่เจ้าตัวยอมรับผิด…‘วันนั้นพี่ฟ้าเกเรจริง ๆ พี่ฟ้ายอมรับ’
ตอนที่ทำหน้างอแงตามสไตล์หมื่นฟ้าแล้วบอกว่า…‘หิวแล้วครับ’
ตอนที่กลัวเขาโกรธจนยกเลิกการเป็นคนสนิทกัน…‘อยากตีกี่ทีก็ตีเลยครับ พี่ฟ้าให้ตัวดื้อตีมือเลย’
ตอนที่ยอมก้มหัวให้เช็ดผม…
คนตัวเล็กที่มีหลายสิ่งหลายอย่างอยู่ในหัวหลับตาลงหายใจเข้าช้า ๆ ก่อนจะถามตัวเองอีกครั้ง และคำตอบที่ได้มาก็ต้องถ่ายทอดต่อเพราะเพื่อนรอคำตอบอยู่
“เหมือนจะเอ็นดูมากขึ้นเรื่อย ๆ เลย…”
“ฮือ ~ กูอยากกรี๊ด…ทำไมมันเขินแบบนี้ เขินกว่าตอนแฟนกูขอคบอีก”
พันลี้อมยิ้ม ก่อนเอ่ย “เอ็นดูแล้วห้ามเลิกนะเว้ย ต้องเอ็นดูต่อไปเรื่อย ๆ ”
“คนเราเลิกเอ็นดูกันได้ด้วยเหรอลี้ ?...ไม่มีหรอก”
“ไม่รู้ เผื่อมึงเบื่อพี่กูแล้วเลิกเอ็นดูขึ้นมา…ใครจะไปรู้”
“มันจะมีวันนั้นไงได้ แบบนั้นก็เหมือนขอความรู้สึกคืนจากเขาสิ…ไม่มีทางหรอก กูไม่เคยทำแบบนั้นกับใคร ให้ความรู้สึกกันไปแล้วก็ให้ไปเลย”
“พูดแล้วนะเว้ย…” พันลี้ย้ำ
“อื้อ ! จะเอ็นดูไปเรื่อย ๆ จะเป็นกำลังใจให้เขาไปเรื่อย ๆ นี่แหละ”
พันลี้พยักหน้ารับพลางคิดในใจ...
‘ใกล้แล้วนะพี่ฟ้า…ไอ้แก้มย้อยหันหลังกลับไปมองบ้างแล้ว’
50%
ต่อจากข้างบนเลยจ้า
“เออ อิ๋วเซคหนึ่งเรียกเด็กเซคเราเข้าประชุมวันนี้อีกรอบนะ เรื่องงานโอเพนเฮาส์ เห็นว่าจะคุยเรื่องเปลี่ยนสถานที่” ไทป์ที่กำลังก้มหน้าเช็กไลน์กลุ่มพูดขึ้น
“ทักมาบอกในไลน์กลุ่มเหรอ ?”
“เออ…”
“ตอนไหน ?”
“เย็น ๆ ตอนพวกเราเลิกเรียนแล้ว เดี๋ยวเพื่อนรออยู่ที่ห้องสมุดชั้นห้า เห็นบอกว่าจองห้องประชุมใหญ่ไว้แล้วจะได้เป็นส่วนตัว”
ตอนนี้โทรศัพท์ของทุกคนดังแจ้งเตือนแข่งกันจนต้องหยิบขึ้นมาดู ที่รักไล่อ่านข้อความที่ไทป์ได้บอกไปแล้วซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะกดออกเพราะพิมพ์รับทราบไปแล้ว แต่ไลน์กลุ่มที่รวมพี่ปีสามและน้องปีสองก็เด้งขึ้นมาเหมือนกัน เพื่อนปีสองคนหนึ่งทักมาถามเรื่องงานวิชาถ่ายภาพที่อาจารย์สั่งไปเมื่อหลายวันก่อน
Lay : พี่ ๆ ครับ พวกผมขอปรึกษางานหน่อยได้ไหมครับ
Ball : ว่ามา ๆ
Lay : อาจารย์เพิ่งสั่งงานโฟโต้ที่ให้ถ่ายท้องฟ้าครับ
Ball : ที่ให้ถ่ายท้องฟ้าทุก ๆ ครึ่งชั่วโมงใช่ไหม ?
Lay : ใช่ครับ แล้วให้เราเอาภาพท้องฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลามาจัดเรียงต่อกันเป็นภาพเดียว
Ball : งานนี้ก็คือให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของท้องฟ้านั่นแหละ จากสว่างไปจนมืดแบบนี้
Lay : .ใช่ครับ ๆ
Ball : อันนี้อาจารย์ให้ถ่ายตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็นใช่ไหม ?
Lay : ใช่ครับ
Ball : อยากปรึกษาอะไรว่ามา…
Lay : มันมีเทคนิคอะไรยังไงบ้างครับ พวกผมฟังอาจารย์มาบ้างแล้ว ก็พอเข้าใจ แต่อยากมาขอคำแนะนำจากพวกพี่ ๆ เพิ่ม จะได้ผิดพลาดน้อยที่สุด
Ball : จริง ๆ มันต้องอธิบายเยอะเลยนะ วันนี้เพื่อนคนไหนเอากล้องมาปะ ? เดี๋ยวไปอธิบายให้ฟัง
Lay : มีครับ วันนี้พวกผมมีประชุมกันเรื่องงานโอเพนเฮาส์พอดี
Ball : เอางี้ เดี๋ยวพวกพี่ไปหา
Lay : ขอบคุณมากครับพี่บอล
ที่รักกำลังจะกดปิดช่องสนทนาเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่ตอบตกลงจะมาอธิบายเรื่องงานให้พวกเขาเย็นนี้ ทว่าไทป์บอกให้เขาถามบางอย่างกับรุ่นพี่
“เดี๋ยวพี่เขามาก็ค่อยถามก็ได้มั้ง…”
“ถามไปเหอะ เผื่อลืม”
“แล้วทำไมมึงไม่ถามเอง ? ” จอยถาม
“กูน่าเอ็นดูเท่าไอ้รักเหรอ ?”
ที่รักไม่ได้สนใจเพื่อนทั้งสองคนที่เถียงกันอยู่ เขาพิมพ์ถามในสิ่งที่เพื่อนอยากรู้
ที่รัก : พี่ครับ สถานที่เหมาะกับงานนี้คือตึกสูง ๆ ใช่ไหมครับ ?
M.FAH : ครับ เช่น บนดาดฟ้าของตึก
M.FAH : หาจุดที่บดบังทัศนวิสัยให้น้อยที่สุด
Ploy24 : พลอยก็ว่าจะถามพี่ ๆ เรื่องนี้อยู่พอดีเลยค่ะ พลอยฟังอาจารย์มาแล้วเหมือนกัน เขาแนะนำเหมือนพี่ฟ้าเลย แต่ที่ถามอีกก็เผื่อว่าพี่ ๆ จะแนะนำสถานที่ดี ๆ ให้เพิ่มเติม
DomBabe : ดาดฟ้าหอหรือคอนโดพวกน้อง ๆ ก็เหมาะนะ ขอแค่เห็นท้องฟ้ามุมกว้างไม่มีอะไรบังน่ะ
Ploy24 : อ๋อ ขอบคุณค่ะพี่ดอม
พอเห็นเพื่อนผู้หญิงคนนั้นขอบคุณพี่ดอมไปแล้ว ที่รักก็รู้ได้ทันทีว่าตัวเองจะต้องขอบคุณรุ่นพี่ที่ให้คำแนะนำเช่นกัน ตั้งแต่อยู่กลุ่มนี้มาเขาไม่เคยเห็นหมื่นฟ้าตอบใครเลย
จนกระทั่ง…
ที่รัก : ขอบคุณครับพี่ฟ้า
M.FAH : เย็นนี้อยู่ประชุมกับเพื่อน ๆ คนอื่นด้วยหรือเปล่าครับ ?
ที่รัก : อยู่ครับ
M.FAH : เดี๋ยวพี่ฟ้าเรียนเสร็จแล้วเข้าไปหา โอเคไหมครับ ?
Ploy24 : โอเคค่า
JaJa : ค่า
Teman : โอเคครับบ
“เขาไม่ได้บอกตัวเองเลยยย…”
“เออ ยังไง…ยังไม่รู้ตัวกัน”
“ใช่ไหมอีไทป์…อ่านแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาคุยกับแก้มย้อยคนสนิทคนเดียว”
“กูเข้าใจพี่ฟ้าแล้ว เหตุผลที่ไม่ค่อยตอบไลน์กลุ่มเพราะโดนรุมนี่เอง…”
ที่รักเงยหน้ามองจอยและไทป์ที่พูดรับส่งกันอย่างเมามันก่อนจะก้มหน้าจ้องตัวอักษรที่พิมพ์ค้างไว้ คำว่า ‘โอเคครับพี่ฟ้า’ ยังคงค้างอยู่บนหน้าจอไม่ถูกกดส่งเพราะยังมีเพื่อนหลาย ๆ คนส่งข้อความตอบรับหมื่นฟ้าไม่หยุด ที่รักเลยอยากรอให้สงบก่อน แต่ดูท่าจะไม่ง่ายเลย ที่รักเลยตัดสินใจจะทักแชตแยกไปบอกหมื่นฟ้า ทว่าประโยคคำถามที่ปรากฏในตอนนี้ทำให้เขาเลือกที่จะอยู่ตรงนี้ต่อ
M.FAH : โอเคไหมครับตัวดื้อ ?
M.FAH : พี่ฟ้ารอคำตอบอยู่นะครับ
ที่รัก : โอเคครับพี่ฟ้า
M.FAH : ครับ
Ball : อะ ๆ น้อง ๆ คนอื่นไม่ต้องน้อยใจไป พี่บอล พี่ทิม พี่รัน พี่ดอม ยังว่างให้คำปรึกษาอยู่นะครับ แถมพี่เบบแฟนพี่ดอมให้อีกคนด้วย
DomBabe : แต่วันนี้พี่เบบไม่ได้มานะครับ เพราะป่วย
Run : เด็กสังกัดใครสังกัดมันครับผม ใครอยากสังกัดพี่รันเย็นนี้แบ่งกลุ่มไว้รอเลยครับ พี่รับติวแค่ 5 คน
Tim : ถ้าอยู่สังกัดพี่รันจะข้อมูลไม่แน่นเท่าสังกัดพี่ทิม
พอที่รักเห็นว่าไม่ได้มีอะไรสำคัญในไลน์กลุ่มแล้วเลยกดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับบิงซูต่อ ทว่าเสียงแจ้งเตือนจากไลน์เรียกความสนใจจากเขาอีกครั้ง
M.FAH : ตัวดื้อครับ…
ที่รักหยิบโทรศัพท์มาพิมพ์ตอบหมื่นฟ้า
ที่รัก : ครับพี่ฟ้า
M.FAH : ดอมบอกพี่ฟ้าว่าเบบกำลังหาสถานที่ถ่ายงานให้ตัวดื้ออยู่เหรอครับ
ที่รัก : ใช่ครับ ตอนแรกจะถ่ายที่บ้าน แต่ว่ามันไม่ได้ จะไปถ่ายที่คอนโดเพื่อนพี่เบบก็ไม่ได้อีก เพราะเพื่อนพี่เบบย้ายออกแล้ว ส่วนบ้านพี่ดอมก็ไม่โอเคเหมือนกันเพราะต้นไม้เยอะเลย
M.FAH : แล้วพันลี้ไปถ่ายที่ไหนครับ ?
ที่รัก : เมื่อวานลี้บอกว่าจะไปถ่ายที่คอนโดเพื่อนเก่าครับ
M.FAH : คนอื่น ๆ ล่ะครับ
ที่รัก : ก็ถ่ายที่หอตัวเอง คอนโดเพื่อน คอนโดแฟนหมดแหละครับ แต่ไม่เป็นไรหรอกพี่ฟ้า เมื่อคืนพี่ดอมบอกว่าวันนี้จะไปถามเพื่อนคนหนึ่งให้ คอนโดของเพื่อนคนนี้เหมาะจะถ่ายงานชิ้นนี้มาก เดี๋ยวเย็นนี้รอคำตอบจากเขาว่าอนุญาตไหม
M.FAH : อนุญาตนะ
เดี๋ยว….เดี๋ยวนะ
M.FAH : ตัวดื้อมาถ่ายบนดาดฟ้าคอนโดพี่ฟ้าได้เลย พี่ฟ้าอนุญาต
ใช่จริง ๆ เหรอ…
เพราะความไม่แน่ใจที่รักจึงทิ้งหมื่นฟ้าไว้ในห้องแชตก่อนจะยกหูโทรหาพี่ดอมทันที ไม่นานนักพี่ดอมก็รับสาย เสียงรุ่นพี่ปีสามกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานดังเล็ดลอดเข้ามาในสายทำให้ที่รักยังไม่กล้าถามเรื่องนั้นออกไป แต่พี่ดอมคงเดาได้ถึงลุกออกมาหาที่ส่วนตัวก่อนจะถามเขา
[ว่ายังไงครับ ? ]
“พี่ดอมครับ เมื่อคืนที่พี่ดอมบอกว่าจะไปถามเพื่อนให้เรื่องสถานที่ถ่ายงาน…ใช่ที่คอนโด…คอนโดพี่ฟ้าหรือเปล่าครับ ?”
[ใช่ครับ ฟ้าทักไปหาแล้วเหรอ ?]
T___________T โธ่เอ๊ย…พี่ดอมนะพี่ดอม ถ้าบอกกันตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องมารู้สึกปั่นป่วนแบบนี้หรอก
“คะ ครับ ทักมาแล้วครับ”
[งั้นนัดวันเวลากันเองเลยนะ]
“ไม่มีที่อื่นแล้วใช่ไหมครับพี่ดอม ?”
[คอนโดฟ้าเจ๋งสุดแล้ว ตอนที่มันทำงานชิ้นนี้อาจารย์ยังชมเลยว่าโลเคชันดีมาก พี่คิดไว้สักพักแล้วว่าถึงตอนเราจะขอมาถ่ายที่คอนโดไอ้ฟ้านี่แหละ]
“คะ ครับ ถ้าพี่ดอมว่าดี รักก็ว่าดีครับ”
[งั้นเจอกันตอนเย็นนะแก้มย้อย พี่เข้าไปหาที่ห้องประชุมด้วย แล้วตอนเย็นเรากลับด้วยกัน เดี๋ยวพี่ไปส่งบ้านเพราะจะซื้อโจ๊กให้เบบด้วย]
“ค้าบ…”
หลังจากวางสายเขาก็ตกเป็นเป้าสายตาของเพื่อน ๆ ทันที ทุกคนคงได้ยินเรื่องที่เขาถามพี่ดอมแล้วถึงได้ทำหน้าอยากรู้อยากเห็นขนาดนั้น แต่พันลี้ดูจะอยากรู้น้อยกว่าคนอื่นหน่อย
“ยังไง…ยังไงเนี่ยอีแก้มย้อย”
“อ๋อออ ที่ปฏิเสธไม่มาถ่ายหอกูก็เพราะแบบนี้นี่เอง…”
“ไม่ใช่อย่างที่มึงคิดเลยไทป์…กูเห็นว่าหอมึงมีเพื่อนในสาขาไปถ่ายเยอะแล้วต่างหาก จะไปเบียดกันถ่ายได้ไงเล่า !”
“พอ ๆ พวกมึงเลิกแซวมันสักที เดี๋ยวมันอายมาก ๆ แล้วไม่ยอมไปคอนโดพี่กู คราวนี้ไม่มีงานส่งต้องโทษพวกมึงนะ”
“ใช่ ! คราวนี้กูจะพาลพวกมึงให้หมดเลย !”
“ไปถ่ายที่คอนโดพี่กูน่ะดีแล้ว มึงไม่ควรปฏิเสธด้วยรัก เพราะพี่ฟ้ามันไม่ได้อนุญาตให้ไปทุกคน น้องอย่างกูยังขอแล้วขออีก ครั้งนี้ถือว่าพี่ฟ้าใจดีกับมึงมาก ๆ ”
“มึงน่ารักไม่พอไงลี้…” จอยว่า
“เออ ยอมรับ แต่ถ้าบอกไม่หล่อนะจอย มึงไปเรียกแฟนวิศวะมาต่อยกับกูเลย กูไม่ยอมแน่ ๆ ”
ที่รักที่นั่งฟังเพื่อน ๆ เถียงกันอยู่ตัดสินใจเปิดช่องแชตของหมื่นฟ้าอีกครั้ง เขาพิมพ์บางประโยคเตรียมจะส่ง แต่สุดท้ายก็กดลบจนไม่เหลือสักตัวอักษร ที่รักทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ต้องรวบรวมความกล้าถามออกไป
ที่รัก : พี่ฟ้าครับ
M.FAH : ครับ
ที่รัก : คอนโดพี่ฟ้าว่างวันไหนบ้างครับ ?
ที่รัก : คือรักหมายถึงรักสามารถเข้าไปถ่ายวันไหนได้บ้างครับ ?
M.FAH : แล้วแต่เลยครับ คอนโดพี่ฟ้าว่างทุกวัน
ที่รัก : งั้นวันมะรืนได้ใช่ไหมครับ ? รักเห็นเพื่อน ๆ ก็จะเริ่มถ่ายกันหมดแล้ว รักคงไม่ได้เริ่มเร็วไปเนอะ
M.FAH : ไม่หรอกครับ งานแบบนี้เสร็จก่อนเวลาดีที่สุด เพราะมันไม่ใช่งานที่สร้างได้ด้วยโปรแกรม
ที่รัก : โอเคครับพี่ฟ้า งั้นเรามีนัดกันวันมะรืนที่คอนโดพี่ฟ้านะครับ
M.FAH : ครับ แต่เย็นนี้เราต้องเจอกันที่ห้องประชุมก่อน
ที่รัก : ครับ รักเกือบลืมไปเลย
M.FAH : พี่ฟ้าเรียนก่อนนะครับ ไว้เจอกันครับ
ที่รัก : ค้าบ
#กี่หมื่นฟ้า
หลังจากเรียนวิชาสุดท้ายเสร็จ ที่รักและเพื่อน ๆ ก็มารวมตัวกันที่ห้องประชุม ระหว่างรอรุ่นพี่ปีสามมาช่วยอธิบายงานวิชาถ่ายภาพให้พวกเขาก็เคลียร์เรื่องงานโอเพนเฮาส์ไปพลาง ๆ การเปลี่ยนสถานที่ให้ใหญ่ขึ้นส่งผลให้พวกเขาต้องเปลี่ยนแผนดำเนินงานใหม่เกือบทั้งหมด แล้วยังต้องตั้งกลุ่มใหม่ขึ้นเพื่อรองรับงานในส่วนที่ถูกเพิ่มขึ้นมาด้วย
และกลุ่มใหม่ที่ถูกแบ่งนั้นต้องมีหัวหน้าทีม
“ขอหัวหน้าทีมฝ่ายอาร์ตหน่อยค่ะ…”
“ใครหัวหน้าทีมฝ่ายอาร์ตอะ จัดทำเรื่องทำป้าย เรื่องบูธ”
“เราเอง ๆ…”
ที่รักพยายามยกมือจนสุดแขนแล้ว แต่เพื่อนสองคนที่เป็นคนจดรายชื่อไม่เห็นเขาเพราะโดนเพื่อนคนอื่นที่นั่งอยู่ข้างหน้าบังมิดเลย ที่รักเลยต้องตะโกนเสียงดังแข่งกับเพื่อนอีกนับสิบที่คุยกันเรื่องอื่นนอกเหนือจากเรื่องงาน
“เมื่อกี้ใครนะ หัวหน้าอาร์ต?”
“เพื่อนผมเองครับ…รัก นิรันดร์”
คนจดชื่อที่เตรียมจะลุกขึ้นยืนเพื่อตามหาหัวหน้าฝ่ายอาร์ตพยักหน้ารับเดือนคณะปีตัวเอง เสียงของพันลี้ทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าหยุดคุยแล้วหันมามองแวบหนึ่งก่อนจะกลับเข้าสู่สภาวะเดิม
ห้องประชุมนี้เป็นห้องขนาดใหญ่ที่ไม่มีโต๊ะหรือเก้าอี้ ทุกคนเลยต้องนั่งพื้น สิ่งอำนวยความสะดวกมีเพียงจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ไว้สำหรับฉายสไลด์เท่านั้น
ภายในห้องสามารถบรรจุคนได้ถึงสามสิบคน แต่ว่ารูปร่างของแต่ละคนไม่เท่ากัน ตอนนี้มีนักศึกษาชั้นปีที่สองเพียงแค่ยี่สิบห้าคนก็เริ่มแน่นแล้ว
ถ้าพี่ปีสามมาอีกห้าคน
คงอัดกันไม่ต่างจากปลากระป๋อง
ที่รักเคยมาห้องนี้ตอนปีหนึ่ง เขาจำได้ว่ามันเป็นห้องที่เขาชอบมากที่สุดเพราะกว้างโล่งนอนได้สบาย แถมแอร์ยังเย็นฉ่ำสุด ๆ แต่ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกอึดอัดและร้อนขึ้นมาเล็กน้อย
“นั่นพวกพี่ปีสามปะ ?”
“ใช่ ๆ พี่บอล”
“พี่ฟ้าด้วย…พี่ฟ้าเดินตามมาข้างหลัง”
ดูเหมือนว่าหัวข้อการสนทนาของทุกคนในห้องประชุมจะเปลี่ยนเป็นเรื่องพี่ปีสามที่เพิ่งปรากฏตัว จากตอนแรกที่ต่างคนต่างคุยกันโดยไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
“รอนานไหมเด็ก ๆ วันนี้พวกพี่เรียนกับอาจารย์ขาโหด แกชอบปล่อยสายประจำ”
“ไม่นานครับพี่บอล พวกเราประชุมงานกันเสร็จพอดี”
ประตูบานใหญ่ถูกพี่ดอมเปิดอ้าไว้รอเพื่อนตัวเองเข้ามาด้านใน คนสุดท้ายที่รับช่วงปิดประตูต่อคือหมื่นฟ้า รุ่นพี่ทั้งห้าคนทิ้งตัวนั่งลงตรงข้างหน้า ที่รักที่นั่งอยู่ท้ายแถวได้แต่ชะเง้อคอมองว่าพวกพี่ ๆ เริ่มอธิบายงานวิชาถ่ายภาพไปถึงไหนแล้ว ที่จริงเขาได้พี่เบบสอนเทคนิคและคำแนะนำมาเยอะพอสมควร แต่ที่รักเป็นพวกชอบเรียนรู้ เขาเลยอยากฟังพี่ ๆ คนอื่นแนะนำด้วย
“จริง ๆ งานนี้ไม่ยากหรอก อาจารย์ประจำวิชาใจดีด้วย”
ที่รักพยักหน้ารับขณะฟังพี่บอลพูด
“จุดประสงค์ของงานนี้อาจารย์แกอยากให้เราเรียนรู้พวกฟังก์ชันของกล้องให้มากขึ้น รู้การใช้สปีดชัตเตอร์ การตั้งค่าเอฟ สต็อป และอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง เพราะตอนแรกเราเรียนทฤษฏีกันมาก่อนใช่ปะ ?”
“…”
“หลังจากนั้นก็ต้องปฏิบัติแหละ…งั้นเดี๋ยวพี่เริ่มอธิบายการใช้งานเบื้องต้นให้ก่อนละกัน คงฟังอาจารย์กันมาบ้างแล้ว แต่เดี๋ยวพวกพี่ทวนให้ น้องนั่งแยกกันเป็นกลุ่มเลย เดี๋ยวพวกพี่กระจายกันไปจะได้เสร็จเร็ว ๆ ”
พอพี่บอลพูดจบทุกคนก็เริ่มกระจายตัวกันเป็นวงกลม แบ่งกลุ่มกันตามอัธยาศัย ส่วนที่รักก็นั่งจับกลุ่มอยู่หลังห้องกับเพื่อนตัวเองเหมือนเดิม
ที่รักส่งยิ้มให้พี่ดอมที่เดินตรงมาทางกลุ่มเขาพร้อมกวักมือเรียกทำให้พี่ดอมหลุดหัวเราะออกมา แต่ระหว่างนั้นเสียงของเพื่อนกลุ่มข้าง ๆ ก็ดังขึ้นเล็กน้อย ที่รักจึงหันไปมองทางต้นเสียง แต่เพื่อนกลุ่มนั้นกลับจ้องมองเขาชั่วครู่ก่อนจะเปลี่ยนจุดสายตาไปที่บางสิ่งที่อยู่สูงเหนือศีรษะเขา
คนตัวเล็กที่พอจะเดาได้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับตัวเองรีบหันหน้ากลับมา ที่รักหลุบตามองที่พื้นเป็นอันดับแรกก็เห็นรองเท้าผ้าใบยี่ห้อ Vans สีดำที่คุ้นตา เขากลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
รอยยิ้มที่เหมือนแสงแดดยามเช้าในเวลานี้ชัดเจนจนใจสั่นไปหมด
“พี่ฟ้า”
“ครับ พี่ฟ้าเอง…”
“…”
ที่รักไม่ได้ตอบอะไร เขาทำแค่กะพริบตาปริบ ๆ มองหมื่นฟ้าที่ดูหล่อกว่าทุก ๆ วัน เวลาที่หมื่นฟ้าอยู่ในองศานี้ เหมือนเจ้าตัวส่งผลให้หัวใจเขาเต้นผิดปกติอยู่เรื่อย
“พอจะมีที่ข้าง ๆ เหลือให้พี่ฟ้าบ้างไหมครับ ?”
“พี่ฟ้านั่งเลย ๆ เดี๋ยวไทป์จะย้ายก้นเอง” ไทป์พูดก่อนจะลุกไปนั่งเบียดจอยที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
คนตัวสูงที่มีร่างกายใหญ่พอสมควรค่อย ๆ ทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ เขา ที่รักต้องเขยิบให้เจ้าตัวเล็กน้อยเพราะเห็นใจในความพยายาม ดีที่อีกข้างของหมื่นฟ้าเป็นรุ่นน้องผู้ชาย ถ้าเป็นผู้หญิงคงน่าสงสารน่าดูเพราะจะโดนหมื่นฟ้าทับจนแบน รุ่นน้องทุกคนยอมนั่งเบียดจนเข่าเกยกันเพื่อเว้นที่ว่างตรงกลางไว้ให้รุ่นพี่ได้นั่งสบาย ๆ
แต่ดูคุณหมื่นฟ้าทำสิ…
คุณหมื่นฟ้าคนดื้อก็คือคนดื้อนั่นแหละ เป็นหมื่นฟ้าเด็กดีไม่ได้นานหรอก
“พี่ฟ้า ! ลี้อึดอัดนะโว้ย…” พันลี้ที่นั่งอยู่อีกข้างของที่รักโวยวายขึ้น ทำให้ทุกคนในกลุ่มจับจ้องไปที่สองพี่น้องตระกูลพิสุทธิ์
“งั้นก็ย้ายไปนั่งตรงกลาง”
“ก็นั่นมันที่ของรุ่นพี่ไง…”
“รุ่นพี่อนุญาตแล้วไง”
“แล้วเป็นอะไรต้องมาเบียด…”
“อยากนั่งข้างตัวดื้อ”
พันลี้ส่ายหน้าเอือมระอาก่อนจะย้ายไปนั่งตรงกลางแทนหมื่นฟ้า ไม่นานพี่บอลก็เดินมานั่งลงข้าง ๆ พันลี้ ที่รักขมวดคิ้วสงสัยก่อนจะหันไปมองหมื่นฟ้าที่นั่งหน้านิ่งมองเพื่อนตัวเองเริ่มอธิบายงานให้รุ่นน้องฟัง เขาคิดว่าทุกคนคงงงแล้วนึกสงสัยไม่ต่างกัน แต่เพื่อเป็นการให้เกียรติพี่บอลที่ตั้งใจให้คำแนะนำเป็นอย่างดี
ทุกคนเลยต้องลืมคุณหมื่นฟ้าหน้ามึนไปก่อน
แต่…
อดไม่ได้จริง ๆ เลยกระซิบถาม “พี่ฟ้า…ทำไมไม่ไปช่วยพี่บอลครับ ?”
“เพราะพี่ฟ้ามีอะไรที่อยากทำมากกว่านั้นครับ…”
“…”
“พี่ฟ้าอยากนั่งข้างตัวดื้อมากกว่าครับ”
“พี่ฟ้าจะงอแงแบบนี้ไม่ได้นะครับ พี่ฟ้าต้องช่วยเพื่อน ๆ ด้วยรู้ไหม ?”
หมื่นฟ้าส่ายหน้าก่อนจะทิ้งหัวหนัก ๆ ลงบนไหล่เขา เป็นในตอนนั้นที่วิญญาณของที่รักหลุดออกจากร่างเพราะโดนกลิ่นตัวหอม ๆ ของหมื่นฟ้ากระแทกอย่างแรงจนปลิวออกไปจากห้องประชุม
และไม่ใช่เขาคนเดียวที่เหลือสติอยู่น้อยนิด แม้กระทั่งพี่บอล พันลี้ และคนอื่น ๆ ก็ดูจะปั่นป่วนกับการกระทำของหมื่นฟ้า แต่เจ้าตัวกลับนอนนิ่ง ๆ ไม่สะทกสะท้านอะไร พี่บอลที่พูดเก่งมาก ๆ ในตอนนี้กลายเป็นคนพูดติดอ่างไปแล้ว ส่วนพันลี้ก็ก้มหน้ายกมือขึ้นกุมขมับตัวเอง มีแต่จอยที่พยายามตั้งสติแล้วส่งสัญญาณบอกเขาว่า…ตอนนี้หมื่นฟ้าหลับตาอยู่
ที่รักรู้ดีว่าคุณหมื่นฟ้าคนดื้อไม่ได้ง่วง
ไม่ได้หลับ
เพราะฉะนั้นเขาจะต้องพูดให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าเขารู้ทัน…
“พี่ฟ้า…โดนดุแล้วห้ามอ้อนสิครับ”
“…”
“รักไม่ใจอ่อนหรอกนะ…”
“พี่ฟ้าต้องออกไปอธิบายจริง ๆ เหรอครับ”คุณหมื่นฟ้าคนดื้อถามทั้งที่อยู่ท่าเดิม
“พี่ฟ้าเตรียมตัวมาบ้างหรือเปล่าครับ ?”
“ไม่ครับ แต่จำได้หมด”
“งั้นลองดูสักหน่อยไหมครับ ? รุ่นน้องหลายคนกำลังรอพี่ฟ้าคนเก่งช่วยให้คำแนะนำอยู่นะครับ”
“ไม่มีใครหลอกล่อได้เก่งเท่าตัวดื้อ”
“สักหน่อยเนอะ…” ที่รักโน้มหน้าลงไปกระซิบเสียงแผ่ว เพราะเขาอยากให้หมื่นฟ้าได้ยินแค่คนเดียว “ทุกคนจะได้รู้ว่าคุณท้องฟ้าน่ะเก่งแค่ไหน…”
และเหมือนว่าสิ่งที่ที่รักพูดจะได้ผลเพราะหมื่นฟ้ายอมยกศีรษะออกจากไหล่เขา เจ้าตัวยกมือขึ้นเสยผมสีน้ำตาลช็อกโกแลตแบบลวก ๆ เพื่อจัดแต่งทรงหลังจากที่นอนซบไหล่เขา หมื่นฟ้าลุกจากพื้นที่คับแคบที่นั่งเบียดกันเมื่อครู่เดินไปนั่งลงข้าง ๆ พี่บอล ส่วนพันลี้ย้ายกลับมานั่งแทนที่หมื่นฟ้า
“เมื่อกี้อธิบายถึงไหนแล้วบอล ?”
“นอนซบ…เอ๊ย ! กูนี่เป็นเหี้ยอะไร ชอบมีภาพติดตา…”
“…”
“ถึงตรงสปีดชัตเตอร์…”
“งั้นเดี๋ยวผมจะทวนให้พวกคุณฟังใหม่…”
ที่รักตั้งใจฟังในสิ่งที่หมื่นฟ้ากำลังอธิบาย เจ้าตัวพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนเคย ๆ แต่ไม่ว่าจะแสดงสีหน้าท่าทางแบบไหน หมื่นฟ้าก็ยังดึงดูดสายตาของทุกคนอยู่ดี
ที่รักปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหมื่นฟ้าดูดีจริง ๆ
“หมดแค่นี้นะครับ…ถ้าพวกคุณอยากรู้เพิ่มเติมถามบอลต่อได้เลย ”
หมื่นฟ้าลุกออกจากที่นั่งตรงกลางเดินกลับมาทวงตำแหน่งเดิมคืนจากพันลี้ ที่รักมองตามเพื่อนสนิทที่ยอมย้ายไปนั่งข้างพี่บอลเหมือนเดิม
“พี่ฟ้าเก่งสุด ๆ ”
“ตอนกล่อมให้พี่ฟ้าออกไปอธิบายตัวดื้อทำยังไงครับ…ตอนชมพี่ฟ้าก็ต้องทำแบบนั้นสิ”
ที่รักขมวดคิ้วจ้องมองคนตัวสูง “ก็พูดปกตินี่ครับ”
หมื่นฟ้าส่ายหน้าก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาหาเขาเล็กน้อยแล้วเอานิ้วชี้ที่ใบหูของตัวเอง “ตอนนั้นตัวดื้อกระซิบที่หูพี่ฟ้าไม่ใช่เหรอครับ ?”
ตอนนั้นมันไม่รู้ตัว…
แต่ตอนนี้รู้แล้ว…ทำยังไงดี
“ระ รักชมแบบปกติไม่ได้เหรอครับ ?...เวลาเราชมใครสักคนต้องพูดเสียงดัง ๆ ให้เขารู้สึกภูมิใจ ถ้ากระซิบคงไม่น่าภูมิใจหรอกครับเพราะได้ยินคนเดียว”
หมื่นฟ้าอมยิ้ม เจ้าตัวโน้มหน้าเข้ามาใกล้เขาอีกหน่อยก่อนจะกระซิบเสียงแผ่ว “คิดจะเจ้าเล่ห์เหรอครับตัวดื้อ ?”
ที่รักส่ายหน้าปฏิเสธทันทีที่หมื่นฟ้าผละใบหน้าออก คนที่แกล้งเขาให้เขินอายได้สำเร็จหัวเราะในลำคอก่อนจะส่งมือมาขยี้ผมเขาแล้วลุกตามพี่ดอมที่ชวนไปซื้อน้ำดื่ม
“แม่มึงเอ๊ย…รู้กันทั้งสาขาแล้วมั้งว่าพี่ฟ้าสนิทกับไอ้รัก” ไทป์พูด
“สนิทเกินด้วย สนิทจนกูต้องย้ายที่นั่งสองรอบสามรอบ กูล่ะปวดหัวกับพี่กูจริง ๆ ”
คนฟังรู้สึกหน้าเห่อร้อนไปหมด ที่รักไม่ได้เขินอายในสิ่งที่เพื่อนพูด แต่เป็นเพราะเสียงทุ้มต่ำที่คลออยู่ข้างใบหูและลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดข้างแก้มเมื่อครู่ต่างหาก
หมื่นฟ้าคนเกเร ! ชอบแกล้งกันอยู่เรื่อยเลย T______T
TBC
#กี่หมื่นฟ้า
Talk
ไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากยิ้มเหมือนในมีม 555555
ตอนหน้าก็คือขึ้นคอนโดพี่ฟ้าาา อย่าาาา อย่าหวังให้เกิดอะไรขึ้นนะคุณแมะ ๆ
ยังไม่ถึงเวลา 55555 เรารู้นะคิดอะไรกันยูวววว
อัปทีละครึ่งแบบนี้ก็ดีนะคะ เราว่าได้เจอกันบ่อยดี ทุกคนโอเคไหมเอ่ย ?
แต่ตอนหน้านี้จะรีบมาาาา รอกันด้วยน้า
ปล.ตรงข้อมูลเรื่องวิชาถ่ายภาพที่เขียนเราขอไม่ลงรายละเอียดเยอะและเป็นเชิงลึกนะคะ เพราะจากที่เราไปศึกษาข้อมูลกับรุ่นพี่ที่เรียนมารายละเอียดเชิงลึกมันค่อนข้างเยอะ เราเลยเอาข้อมูลต่าง ๆ มาปรับเขียนให้เข้าใจง่ายขึ้น แต่ยังคงเป็นข้อมูลที่อ้างอิงมาจากคนที่เรียนจริง ๆ
หากผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

โอยยย...อ่านไปยิ้มไป 🥰🥰
เว้ยยยยยยยเกินเบอร์มาก
ขอบคุณไรท์ที่เขียนนิยายดีต่อใจ ดีต่อความรู้สึกมาให้รีดได้อ่าน 💞💕❣️
พี่ฟ้าคือชัดเจนมากนะคะ yv y ในไลน์กลุ่มเอย ตอนห้องประชุมเอย แงงงง ชัดเจนกับน้องเราไม่มีใครเกินละค่ะ เย่มมากพี่ฟ้า!
พี่ฟ้าาาาาา มาทำกับลูกเราได้ยังไง ไม่ไหวแล้วเจอโหมดนี้ของพี่ฟ้าเข้าไป ฮืออออ