สมุดบันทึกส่วนตัว - สมุดบันทึกส่วนตัว นิยาย สมุดบันทึกส่วนตัว : Dek-D.com - Writer

    สมุดบันทึกส่วนตัว

    ผู้เข้าชมรวม

    771

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    771

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 ต.ค. 53 / 16:18 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     

    Hip Hop Cheerleading Dance Moves - Wind It Up!

    ถ้อยคำ-สายตา เพียงเท่านี้เธอก็ฆ่าฉันได้ ถูก-ที่ยังหลงเหลือลมหายใจ เเต่เธอรู้จักคำนี้ไหม....ตายทั้งเป็น







    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       

       

      ปรากฏการณ์รักหมดหัวใจ


      ถ้าคุณเป็นผม

      คุณจะทำยังไง?

      การที่เราได้รักใครสักคนนั้น มันเป็นความสุข เต่การถูกรักนั้น เป็นอะไรที่มากยิ่งกว่า ทว่าตอนนี้ มันจะสายเกินไปไหม? ที่ผมจะพูดความจริง

      ''เราเลิกเป็นเพื่อนกันเถอะ'' เป็นครั้งที่สองเล้วที่เธอตอกย้ำประโยคนี้กับผม

      ''ทำไม?''

      ''…..........'' ความเงียบ คือคำตอบ ผู้หญิงที่เข้มเข็งอย่างเธอกำลังจะร้องไห

      ''ฉันทำอะไรผิด'

      ''นายคิดว่าฉัน ไม่คิดอะไรจริงๆน่ะเหรอ คิดว่าฉันไม่รู้สึกอะไรจริงๆน่ะเหรอ คิดว่าฉันทำใจได้จริงๆน่ะเหรอ เล้วต่อไปนี้ ฉันจะมองหน้านายด้วยความรุ้สึกยังไงกัน''

      ''ก็เหมือนเดิมดิ เหมือนที่เคยทำมาตลอดน่ะดีเล้ว อน่าเสียใจเลยนะ'' คำพูดของผมมันทำให้เธอยิ่งเสียใจและมันยิ่งทำให้เธอยิ่งร้องไห้หนักกว่าเก่า

      ''หมายความว่า....นายต้องการให้ฉันกลัวไปรักนายเหมือนเดิมน่ะเหรอ ให้ฉันกลับไปรักนายเหมือนเดิม เหมือนที่คิดคนเดียวมาตลอดว่านั่นคือรักข้างเดียว ถ้านายอยากให้ฉันทำเบบนั้น นายมันก็ใจร้ายมาก........'' เธอน้ำตาไหลไม่หยุดเละนั่นคือสิ่งที่ผมทำ

      ''มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมเล้วเนสสึ ความรู้สึกของนายไม่มีฉันเล้ว เละที่สำคัญ ผู้ชายที่ฉันรักเขาข้างเดียวน่ะ เขาเคยรักฉัน!''

      ''อย่าทำร้ายกันอย่างนี้เลย ฉันยังอยากเป็นเพื่อนเธอนะ'' ผมอ้อนวอน เต่เธอส่ายหน้า ผมเข้าไปหาเธอ เต่เธออผลักไส เต่ว่านั้น....ก็สมควรเล้ว

      ''ให้อภัยได้ไหม?''

      ''ที่ฉันเคยเสียใจน่ะ ฉันให้อภัยนายหมดเล้ว''

      ''งั้น เธอ...''

      ''เต่ความรู้สึกที่เสียไปน่ะ มันไม่มีวันได้คืน คตวามรักที่ฉันมีให้นายมันหมดเล้ว มันไม่เหลืออะไรเล้ว ฉันไม่มีความรักให้นายเล้ว!'' เธอหันหลังให้ผม เธอไม่ต้องการให้ผมเห็นเธอร้องไห้ ผมก้าวเดินเข้าไปหาเธอช้าๆเละทำในสิ่งที่ผมทำได้นอกจากทำเธอเสียน้ำตา

      ''ขอโทษ''

      ''…............''

      ''ขอโทษ''

      ''…............''

      ''ได้โปรด ฉันอ้อนวอนเธอ''

      ''…..............''

      ''ขอโทษ ขอโทษ''

      ''ไม่ต้องขอโทษหรอก....'' เธอหันเสี้ยวหน้ามามองผม

      ''เค่บอกมาเลย ว่าไม่เคยรักกัน''

      จะให้ผมพูดอะไรล่ะ ก็คำว่า 'ไม่เคยรักเธอ' มันไม่เคยเป็นความจริง......

      7 วันก่อนหน้านั้น

      ''ลูกปลาก็อายุย่างเข้า 18 แล้ว แม่ว่าเร็วๆนี้เตรียมจัดงานหมั้นเอาไว้เลยนะ'' คุณหญิงศรีประจัน ประธานบริษัทส่งออกผาไหมไทยเอ่ยขึ้นบนโต๊ะอาหาร ก่อนจะหันไปขอความคิดเห็นจากว่าที่ลูกสะใภ้คนงาม เธอคือลูกปลา ลูกสาวของพันเอกชวัลวิทย์และท่านหญิงพินทุวดีแห่งตระกูลอัครเสถียร ตระกูลดังที่มีชื่อเสียงด้านความมั่งคั่งร่ำรวยในขณะนี้

      ''เอิ่ม.....เอ่อ....'' ลูกปลาอ้ำอึ้งจนพูดไม่ออก ที่จริงแล้วเธอไม่ได้อ้ำเอ้อเพราะถูกขอหมั้นทางอ้อมหรอกนะ เธอเป็นเพราะสิ่งที่เธอควรจะพูด มันไม่มีในสกิปต่างหาก

      นัยน์ตาของลูกปลาเหลือบมองคุณพ่อที คุณแม่ที ก่อนจะหยุดสายตาไว้ที่มโนภาพของเด็กหนุ่มหน้าตาคมคาย ผู้ที่กำลังจะมาเป็นคู่หมั้นของเธอหรือสามีในอนาคต เธอรู้ดีว่าการปฏิเสธเขามันต้องเป็นเรื่องโง่เง่าที่สุดในรอบ 10 ปีแน่ๆ ก็เขาน่ะออกจะหล่อ ข่าวและก็หุ่นดียังกะนายแบบ แต่นั่นก็เป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น เธอเคยเข้าใจเขาในสถานะของความเป็นเพือ่นมาตลอด แต่เพราะครอบครัวของเธอกับเขารู้จักมักจี่กันเป็นอย่างดี นั่นล่ะคือ ปัจจัย

      ''ลูกปลาคงจะอายจนไม่กล้าพูด แหม เรื่องแบบนี้ให้ผู้ใหญ่เป็นคนจัดการเองดีกว่า'' คุณหญิงพินทุวดีเอ่ยขึ้นอย่างเห็นดีเห็นงาม เธอไม่ได้ถามความคิดเห็นของคนเป็นลูกสาวเลยแม้แต่น้อย อันที่จริงเธอไม่เคยถามเลยสักครั้ง

      ''แต่....คุณป้าครับ....คุณแม่คุณพ่อ....ผม....'' เด็กหนุ่มเพียงคนเดียวในโต๊ะอาหารเอ่ยขึ้นในที่สุดและก่อนที่เขาจะง้างปากพูดอีกครั้ง ลูกปลาก็โพล่งขึ้นตัดหน้าเขาเสียก่อน

      ''ทับทิมกรอบร้านนี้อร่อยนะคะ มากๆเลย'' เธอเอ่ยก่อนจะตักอาหารเข้าปากอีกคำ

      ''เอ่อ...ครับอร่อย....ผมกำลังจะพูดอยู่พอดี'' เขากระตุกยิ้มก่อนจะหันไปมองนางหมูตอนตัวดี อันที่จริงเขาคิดว่าง 'ลูกปลา' น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น 'ลูกหมู' ด้วยซ้ำ

      ''อุ๊ย!นายก็คิดว่าอร่อยเหรอ''

      ''เออ''

      ''งั้นขออีก 2 ถ้วยนะ''

      ''เออ'' เธอและเขาสบสายตากันอย่างลองเชิง หนึ่งคนต้องการคัดค้าน ส่วนอีกหนึ่งก็ต้องการ....

      ''ทับทิมกรอยสำหรับ 2 ที่ค่ะ'' เธอหันไปสั่งพนักงานก่อนจะก้มลงทานขนมทับทิมกรอบต่ออย่างเอร็ดอร่อย

      และนี่....คือจุดเริ่มต้นของจุดจบ

      จุดจบ....ของใครบางคน

      -----------------------------------------------


       

      ''ฉันรู้ว่าใคร''

      ''จริงดิ''

      ''อื้อ!''

      ''เธอรู้จักผู้ชายหน้าหล่อคนนั้นอะนะ''

      ''เอ้อ!''

      ''ตายเล้วเก้วตา นี่เธอไปรู้จักเขาได้ยังไงอะ''

      ''ก็ฉันเรียนห้องเดียวกันกับเขานี่นา'' เก้าตา พนักงาประจำร้าน วินดี้เอ่ยตอบในขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ถ้วยขนมทับทิมกรอบที่กำลังจะนำไปเสิร์ฟยังโต๊ะ เอ 8 โต๊ะอาหาที่มีเขานั่งอยู่ตรงนั้น

      ''ที่รักจ๋า...ให้ฉันเอาทับทิมกรอบจานนั้นไปเสิร์ฟเองนะ'' จิ๊จัง พนักงานรุ่นพี่รี่เข้ามาเย่งงานของเก้วตาหน้าตาเฉย

      ''อา....จิ๊จัง1 เธอมีหน้าที่ทำอะไร?''

      ''อือ...ก็ เป็นพนักงานต้อนรับ'' จิ๊จังเสียงอ่อนก่อนจะเริ่มชักสีหน้า

      ''ไปเลย.....ไป'' แก้วตายกถาดขนมออกห่างจากจิ๊จังอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันไปยิ้มอย่างผู้มีชัย

      ''ถ้าชอบนะ จะขอเบอร์ให้''

      ''สัญญานะ''

      ''ไม่!!''

      ''โหย ยัยกั๊ก จะเก็บไว้คนเดียวล่ะสิ'' แก้วตาเสร้งทำเป็นไม่ได้ยินประโยคสุดท้ายที่จิ๊จังพูด เธฑอรีบปั้นสีหน้าสงบเวงี่ยมเล้วจึงเดินตรงไปยังโต๊ะเอ 8

      ทันทีที่เธอย่างกายเข้าสู่พื้นทีเอ 8 บรรยากาศของวโต๊ะอาหารก็เป็นไปอย่างที่เธอคาดการณ์เอาไว้ คุณหญิงทั้ง 2 และท่านพันเอกกำลังสนทนากันถึงเรื่องหุ้นบริษัท ส่วนคุณหนูลูกปลาก็ดูกระตือรือล้นขึ้นมากกว่าเก่าเมื่อเห้นถ้วยขนมที่เธอถาดมาให้ถึงที่ เละ'เขา' ก็ยังคงหลบสายตาเธเหมือนเคย

      เหมือนที่เคยเป็นมาตลอด....

      เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อน และจบลงเมื่อ 5 ปีก่อนเช่นกัน เมื่อครั้งที่เธอกับเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน ก่อนหน้านั้น เขาเป็นคนเงียบขรึมและมีโลกส่วนตัวสูงและไม่ชอบเขจ้าสังคม แต่เพราะในขณะนั้นเธอคอยช่วยเหลือเขา เป็นที่ปรึกษาในเรื่องบางเรื่อง จนเธอกับเขาเริ่มสนิมสนมกัน แต่เพราะกลุ่มเพื่อนในห้องดริ่มปล่อยข่าวว่าเธอกับเขาเป็นแฟนกัน ในที่สุด ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาก็....จบลง

      เธอไม่เคยเข้าใจในการกระทำของเขา และอาจจะไม่อยากเข้าใจมันเลย เพราะทุกวันนี้ การที่เธอยังต้องทนรับรู้ความจริงว่าเธอยังรักเขาอยู่ มันก็เจ็บปวดมากพอเล้ว

      เป็นความเจ็บปวดที่เธอไม่อาจโทษใครได้

      นอกเสียจาก.......






      ''แบงค์ยี่! แบงค์ยี่!''

      ''อะไรเล่า!''

      ''แม่เรียกกินข้าว''

      ''เออ....เดี๋ยวไป'

      ''เร็วๆ''

      ''เดี๋ยวดิ! คุยเอ็มกะเพื่อนอยู่''

      ''อะไร....คุยกะผู้ชายอ๋อ''

      ''อะไร!''

      ''ไปก็ได้''

      ''ไอ้เด็กกวนตีน''

      ดิ่ง ดิง ดิ๊ง~

      ผมละเซ็ง พูดว่า : เราคุยถึงไหนกันแล้ว

      ผมละเซ็ง พูดว่า : เฮ้ย!ใช่ที่ไหนเล่า!

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า :ฉันรู้นะ แค่มองตานายฉันก็เห็นทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว

      ผมละเซ็ง พูดว่า : เฮ่อ...ไม่พูดด้วยแล้ว

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : รีบๆเป็นแฟนกันเข้าล่ะ

      ผมละเซ็ง พูดว่า : -*-

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : ถ้าฉันของอะไรนาย....

      ผมละเซ็ง พูดว่า : อะไรครับ

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : พูดคุยกับแก้วตาบ้างได้ไหม

      ผมละเซ็ง พูดว่า : --

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : แค่ 3 คำ

      ผมละเซ็ง พูดว่า : ว่า?

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : I Love You

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : คุยถึงเรื่องที่ว่า นายชอบนีวาร์

      ผมละเซ็ง พูดว่า : No Way

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : ใจร้าย

      ผมละเซ็ง พูดว่า : ทำไมพูดงั้น ฉันเคยทำร้ายเธอเหรอ

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : 555+เคยดิ

      ผมละเซ็ง พูดว่า : ตอนไหน

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : หลายตอน แต่ชินแล้ว ก็เพื่อนกัน

      ผมละเซ็ง พูดว่า : ดีแล้ว

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า


      ผมล่ะเซ็ง พูดว่า : ได้ข่าวว่าอกหัก

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : บอสบอกล่ะสิ

      ผมล่ะเซ็ง พูดว่า : ก็นั่งเล่นเกมอยู่ด้วยกัน

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : ออ...อือ....นายเคยรักใครผิดที่ ผิดเวลาบ้างไหม

      ผมล่ะเซ็ง พูดว่า : ไม่รู้ดิ อาจจะถูกที่ ถูกเวลามั้ง

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : แล้วไง

      ผมล่ะเซ็ง พูดว่า : อยู่ๆทำไมเข้าเรื่องคนอื่นเนี่ย

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : ไม่ยุ่งก็ได้ ฉันอกหักแล้วแหละ

      ผมล่ะเซ็ง พูดว่า : ก็เห็นจะเป็นยังงั้น อย่าเสียใจไปเลย

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : แต่อกหักยกกำลัง 2 เลยนะ

      ผมล่ะเซ็ง พูดว่า : ไปรักใครเข้าอีกล่ะ

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : มันนานมาแล้วน่ะ

      ผมล่ะเซ็ง พูดว่า : อืม

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : ที่จริงแล้ว....ก่อนหน้านั้นฉันเคยรักฯษญ

      ผมล่ะเซ็ง พูดว่า : แปล

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : ฯษญ”.

      ผมล่ะเซ็ง พูดว่า : กด Caps lock

      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : โทษๆๆคือ ชั่งเถอะ

      ผมล่ะเซ็ง พูดว่า : ไม่ชั่ง

      ''เฮ่อ เอาไงล่ะ'' แบงค์ยี่ถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจกดปุ่มเอ็นเทอร์ เธอหวังในใจว่า ทุกอย่างจะจบ

      ''แบงค์ยี่!''

      ''เอ้อ....'' เธอผละออกมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างโมโหน้องชายจอมขัดจังหวะ

      ''ไปกินข้าวเลยไป เราจะเล่นพีบี ''


      ผมล่ะเซ็ง เพิ่งส่งการเขย่าหน้าจอให้กับคุณ

      _________________________________


      ก็อซซิล่าพ้นไฟ พูดว่า : ฉันเคยรักนาย











      3 วันต่อจากนั้น


      ''ฉันเสียใจที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง'' แบงค์ยี่เอ่ยด้วยสีหน้าสำนึกผิด

      ''หน่าๆตอนนี้แก้วตาก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรแล้วนี่นา เรื่องมันก็ผ่านมานานมากแล้ว'' นีวาร์ สาวน้อยน่ารักเพื่อนร่วมห้องของแก้วตากับแบงค์ยี่กล่าว

      ''เธอพยายามแก้ไขแล้ว แต่ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะมีปัญหาตรงที่เขาคนเดียว'' นีวาร์เอ่ยพร้อมกับพยักพะเยิดไปทางซ้าย ที่ซึ่งเนสสึ หนุมหล่อประจำโรงเรียนกำลังเดินมา

      ''ฉันมีเหตุผลที่จะไม่สู้หน้าเขาในตอนนี้'' แบงค์ยี่ทำท่าทางขยาดก่อนจะรีบโกยอ่าว

      ''เดี๋ยว! ฉันมีเรื่องจะบอกเธอ มันต้องเป็นข่าวดีแน่ เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้น''

      ''เอาไว้เป็นคราวหน้าแล้วกันนะ'' แบงค์ยี่เดินหนีขึ้นตึกเรียน ก่อนจะหันมาพูดทิ้งท้าย

      ''ฉันคิดว่า...ทุกอย่างมันชัดเจนแล้วล่ะ ถึงเรื่องมันใกล้จะจบ''0

      ''เดี๋ยว!'

      ''แบงค์ยี่ หนีฉันใช่ไหม?'' เสียงนุ่มทุ้มแสนคุ้นเคยของเนสสึดังขึ้นข้างๆ เธอเพียงพยักหน้ายืนยันคำตอบ

      ''เรื่องแก้วตา มันไม่เกินกว่าเหตุไปหน่อยเหรอ''

      ''มามุกเดียวกันกับแบงค์ยี่อีกแล้วสินะ''

      ''ฉันจริงจังนะ ฉันสงสารแก้วตา'' นีวาร์หันไปสบสายตากับเนสสึ

      ''เธอเนี่ย เป็นคนดีนะ เธอแคร์ความรู้สึกของเพื่อนเสมอ''

      ''ใช่! และนั่นเป็นสิ่งที่นายไม่มี''

      ''เราไม่จำเป็นต้องทำร้ายกันเลย เธอพยายามเอาเรื่องแก้วตามาตีกับฉัน''

      ''นั่นเพราะฉันละอาย'' เนสสึจับมือนีวาร์แต่เธอดึงมือกลับ

      ''โปรดรู้ไว้ด้วยว่าทุกครั้งที่เราใกล้กัน อีกสามคนจะรู้สึก'' นีวาร์สะพายกระเป๋าแล้วเตรียมหนี แต่เนสสึก็โพล่งขึ้นมาเสียก่อน

      ''เธอแคร์ความรู้สึกของพวกเขา ไม่ใช่ฉัน'' นีวาร์ชะงักแต่เธอไม่มีอะไรจะโต้ตอบ

      ''เราจะรักกันได้ไหม''

      ''ฉันจะถือซะว่า นายกำลังซ้อมพูดกับลูกปลาอยู่ก็แล้วกัน''

      ''เธอไม่เข้าใจเลยรึไง''

      ''นายต่างหากที่ไม่เข้าใจว่ามันจะมีความหมายยังไง ฉันไม่ใช่คู่หมั้นของนาย ไม่ใช่เพื่อนสนิทของนายและไม่ใช่รักแรกขแงนายด้วย เพราะฉะนั้น.....เราไม่ควรจะรักกัน''

      ''….......''

      ''…......''

      ความรักของเธอมันเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะมันเกี่ยวพันกับคนถึง 5 คน เธอไม่อาจมั่นใจได้ว่าการรับรักเขาจะไม่ทำให้ใครสียใจ เธอม่มั่นใจเลยว่ามันจะเป็นความรักที่ทำให้เธอเจ็บปวดรึเปล่า แต่สิ่งที่เธอมั่นใจ คือเธอได้หลงรักเขา อย่างถอนตัวไม่ขึ้นจริงๆ
      *///**********
       

      ลูกปลามองหน้าเนสสึอย่างใช้ความคิด และแล้วช่วงเวลานี้ก็เกิดขึ้นดังที่เธอคาดไว้ไม่มีผิด เพียงแต่มันเกิดเร็วกว่าที่เธอคาดไว้เท่านั้นเอง ตอนนี้ความรู้สึกของเธอเรียกได้ว่าเข้าขั้นโคม่าสุดๆและเธอก็ป็อดเกินกว่าจะเดินจูงมือเนสสึแล้วออกไปบอกคุณพ่อคุณแม่ข้างนอกว่า 'พวกเราจะไม่มีทางหมั้นกันเด็ดขาด'

      ''ไอยา...ฉันตายแน่.'' ลูกปลาเบ้หน้า เธอกำลังจะร้องไห้ด้วยความกลัว

      ''เธอตายแน่ ถ้าเธอหมั้นกับฉัน'' นี่คือคำปลอบโยนจากเนสสึ

      ''ถ้านายปลอบใจใครไม่เป็นล่ะก็ หุบจิ้มไปเลยไป''

      ''ฮะ?''

      ''ไม่ต้องงง ที่ฉันพูดว่าหุบจิ้ม ฉันหมายถึงปากของนาย''

      ''ยัยหมูน้ำ!!!''

      ''กรี๊ด!!!กล้าดียังไงนะ อีตาบ้า....''

      ''นี่!ไม่เอาหน่า นี่ไม่ใช่เวลาที่เราจะมาทะเลาะกันนะ เธอต้องช่วยฉัน''

      ''ชิส์! ก็ได้....เรื่องคัดค้านการหมั้นน่ะฉันร่วมด้วย เพียงแต่ว่าฉันไม่มั่นใจว่า คุณหญิงศรีประจัน ประธานส่งออกผ้าไหมไทยที่กำลังนั่งคุยกับแม่ฉันอยู่ข้างนอกนั่นน่ะ เขาจะรับเรื่องนี้ได้รึเปล่า''

      ''ไม่ได้ก็ชั่ง''

      ''นั่นแม่นายนะ''

      ''ก็เพราะแม่ฉันไง แม่เธอต่างหาก ท่านจะผิดหวังรึเปล่า''

      ''แหมดูพูดเข้า หน้าอย่างนายใครเขาจะมาคาดหวัง''

      ''อย่าให้ฉันหมดความอดทน''

      ''ก็แล้วจะทำไม นายจะทำไมฉัน''

      ''ฉันก็จะกลิ้งเธอออกจากห้องนี้อะดิ ตกลงว่าเธอโอเคใช่ไหม ''

      ''ไม่!''

      ''มีอะไรจะพูด?'' เนสสึสบสายตาของลูกปลาอย่างจริงจัง

      ''ถ้าสมมติว่าฉันผอมกว่านี้สัก 8 กิโล ถ้าฉันกลับนายเรียนอยู่ห้องเดียวกัน ถ้าเรารู้จักกันเร็วกว่านี้ นายก็จะยกเลิกงานหมั้นของเรา....ใช่ไหม?''

      ''ก็ใช่อยู่แล้ว เพราะยังไงซะ เราสองคนก็จะไม่มีวันรักกัน เราน่ะเกลียดการคลบุมถุงชนจะตาย'' เนสสึตอบกลับอย่างหนักแน่น เล่นเอาคนถามแอบถอนหายใจอย่างผิดหวัง

      ''อื้อ''

      '''เพราะงั้นสิ่งที่เราต้องทำคือ จูงมือเดินไปบอกความจริงให้พวกแม่ๆได้รู้ความว่าท่านคิดผิด''

      '''แต่ฉันไม่คยขัดใจคุณแม่เลย''

      ''ตื่นเต้นอ๋อ''

      ''ชิส์!....ตื่นกลัวล่ะสิไม่ว่า'' ลูกปลาส่งมือไปให้เนสสึก่อนที่ทั้งสองจะเดินจับมือกันออกไป

      ''นี่เนสสึ....อย่าได้นึกว่าฉันทำเพื่อนายนะ''

      เธอก็แค่ไม่อาจ 'รัก' คนที่ไม่ 'รัก' เธอ...


      15 ชั่วโมงต่อมา

      นีวาร์เหลียวมองซ้ายมองขวาอย่างเหนื่อยหน่าย วันนี้ควรจะเป็นวันหยุดที่เธอจะออกไปช๊อปปิ้งกับเพื่อนซี้แท้ๆ แต่แล้วก็ต้องมาติดปัญหาตรงที่เนสสึ คาดคั้นให้เธอมาหาเขาที่นี่ตามนัดหมายให้ได้น่ะสิ เธอเฝ้ารออเขามานานมากแล้วถึงใจจะอยากออกไปจากร้านกาแฟผีสิงนี่ก็เถอะ

      ''รอนานไหม?''

      ''มาได้สักทีนะ'' นีวาร์ตอบกลับอย่างหงุดหงิด

      ''ขอโทษ''

      ''มีอะไรถึงได้นัดมาจะคุยกันทางมือถือก็ไม่ได้รึไง''

      ''ไม่....เรื่องนี้ฉันอยากบอกเธอเอง''

      ''แล้วมันอะไรเล่า''

      ''ฉันกับลูกปลาเราจะยกเลิกการหมั้น''

      ''แล้ว...มาบอกทำไม''

      '''โธ่....ถามได้ เธอก็ต้องการแบบนั้นไม่ใช่เหรอ''

      ''….....'' เธอสบสายตาเขา

      ''คราวเนี้ยจะรับรักฉันแล้วยัง''

      ''แล้วแก้วตาล่ะ''

      ''เมื่อคืนฉันกับแก้วตาน่ะ เราปรับยความเข้าใจกันแล้ว''

      ''แบงค์ยี่'' เนสสึชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะหาเหตุผลมาโต้ตอบ

      ''ก็ได้ข่าวว่ารักกันกับรุ่นพี่...ไม่ใช่เหรอ''

      ''…....''

      ''ไม่เป็นไรแล้ว ฉันมั่นใจว่าไม่มีใครเสียใจ...''

      ''เหรอ?''

      ''เป็นแฟนกันนะ''

      ''ไม่!''

      ''ทำไมอะ''

      ''เมื่อไหร่ที่ฝนตกลงมาเป็นโดเรม่อน เมื่อนั้นแหละฉันถึงจะเป็นแฟนกับนาย'' นีวาร์แย้มยิ้มอย่างยียวนก่อนจะวิ่งออกจากร้านกาแฟไป โดยทิ้งให้เนสสึวิ่งตามออกมาทีหลัง นีวาร์ชะรอฝีเท้าช้าๆเมื่อวิ่งลงจากฟุธบาท เธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งข้ามถนนโดยไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า เบื้องบนมีเงาของบางสิ่งบางอย่างกำลังใกล้เข้ามา

      ''นีวาร์!!! ระวัง!!!''

      ''กรี๊ด!!! '' แต่ช้าไปเสียแล้ว...ตุ๊กตาโดเรม่อนตัวสีฟ้า ต่างไซส์ ต่างขนาด จำนาวนนับไม่ถ้วน ร่วงลงจากรถตู้คอนเทนเนอร์ที่พลิกคว่ำอยู่บนถนน แรงกระแทกของอุบัติเหตุนั้นทำให้ประตูของรถตู้คอนเทนเนอร์เปิดออก และตุ๊กตาโดเรม่อนที่กำละงจะไปสูสยามทอย ก็ร่วงชลงมาตัวแล้วตัวเล่าอย่างน่าตกใจ

      ''เนสสึ!''

      ***************

      :
      *******************
       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×