ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FicEXO]Lovely Manager รักสุดท้ายนายผู้จัดการ[KrisHo]

    ลำดับตอนที่ #6 : คุ ณ ผู้ จั ด ก า ร ll CHAPTER 4 [60%]

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 57










     

    lCHAPTER 4l

     

    สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวโซเซียลแคมวันนี้มาพบกับนุ้งศรีโด้ผู้เป็นไทนะคะ  อย่างที่ทุกท่านได้ทราบกันว่าตอนนี้น้องโด้ได้เป็นอิสระเนื่องจากถูกปลดแอกจากคุณดาราขาวีนโดยถาวรค่าเพราะว่าน้องนี่ยนะคะเป็นบุคคลที่พูดได้เลยว่ามีจิตใจที่ดีและประเสริฐงดงามเกินกว่าจะพยายามหลุดพ้นจากอำนาจมืดของซุปตาร์มาเฟียได้  (ไม่ได้ยอมไม่ได้อะไรนะคะไม่มีจริงๆ)  ต้องขอบคุณหัตถ์เทพฟ้าประทานปราบไททันของคุณชายชานยอลจริงๆค่า 

    ตอนนี้นอกจากจะพ้นมือมารแล้วยังตกอยู่ใต้ปีกเทพบุตรด้วยค่า~

    “คยองครับ  ผมขอน้ำดื่มหน่อยได้มั้ยครับ”

    “อ่อๆๆ ได้ครับๆ”

    พ่อเทพบุตรสุดหล่อที่สว่างไสวใต้แสงไฟของน้องโด้ช่างน่ารักน่าหยิกเหลือเกิน แหมๆ~ ทูนหัวของบ่าว  ผมสีบลอนด์บนผิวสีแทนเหมือนนมข้นราดบนช็อคโกแลต  ซิกแพ็คสุดเซ็กซี่ขยี้ใจไหนจะกางเกงที่เลื่อนต่ำจนหมิ่นเหม่สะโพกแกร่งนั้นอีก

    ยอมค่ะยอม...พูดเลยว่ายอมให้หมดเลยจริงๆ!

    “น้ำแร่แล้วกันนะครับ  เหนื่อยมั้ยเอ่ย  เดี๋ยวเสร็จงานนี้ก็พักผ่อนได้แล้วครับ”

    “อื้ม...ไม่เหนื่อยเลยครับ  ขอบคุณมากนะครับ  เดี๋ยวเสร็จงานวันนี้แล้วเราไปทานข้าวกันดีกว่า  ขอบคุณที่คยองดูแลผมดีขนาดนี้”

    หืม? พูดอย่างงี้สายตาอย่างงี้คิดอะไรกับน้องโด้หรือเปล่า?? ตอบ!  ถึงจะแก้มแดงขวยเขินจนแทบลงไปแดดิ้นแต่ก็ทำเพียงส่งยิ้มหวานน้อยๆก่อนจะขยับทิชชู่เช็ดเหงื่อตามไรผมให้เบาๆ  แถมด้วยการจับหลอดป้อนน้ำจากขวดถึงปากอย่างดี  จนได้ยินเสียงตากล้องเรียกคนหล่อเข้าเฟรมถึงได้ถอยออกมานั่งประจำที่เหมือเดิม

    มองรูปร่างสัดส่วนดูดีสมบูรณ์แบบกับใบหน้าหล่อที่ติดจะเรียบนิ่งเหมือนเด็กดื้ออยู่กลายๆแต่ก็คล้ายจะติดเย็นชาแบบมาเฟียอยู่บ้างแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่  คิม จงอินเจ้าชายแห่งวงการคนใหม่สินะ  อายุก็ไม่เท่าไหร่ถึงจะเป็นไฮโซแต่ก็ทำงานเก่งตั้งอกตั้งใจจนน่าชื่นชมแถมยังสุภาพวางตัวดีไม่มีใครเกิน

    ยิ่งมีน้องโด้คนนี้เป็นผู้จัดการดูแลผลักดันอยู่เบื้องหลัง...คอนเฟิร์มเลยค่าว่าดังไกลแน่นอน

    .

    .

    .

    “คยองเหนื่อยมั้ยครับ  ช่วงนี้งานหนักพอสมควรเลย”

    “อืม...ไม่เหนื่อยหรอกครับ  ต่อไปถ้าจงอินดังกว่านี้ก็ต้องเหนื่อยกว่านี้อีกเยอะเลย”

    “จริงเหรอครับ  งั้นผมดังแค่นี้ได้มั้ย...ผมกลัวคยองเหนื่อย”

    ณ จุดจุดนี้พูดเลยว่าจิกหมอนขาด!!  แล้วบรรยากาศในรถบนถนนโล่งๆตอนห้าทุ่มกว่าๆกับเสียงดนตรีคลอเบาๆจากเครื่องเล่นนี่มัน  หืม?  นี่เต๊าะหรือเปล่า?? ตอบ!!

    คิม  จงอินเป็นผู้ชายแบบที่ดีแสนดีจนน่าใจหาย  น้องโด้คนดีก็กลัวคุณเด็กในสังกัดสุดแซ่บจะไก่ตื่นก็เลยต้องนิ่งๆเนียนๆน่ารักๆเข้าสู้  ถามว่าตอนอยู่กับพี่อู๋เป็นงี้มั้ย  ต้องขอบอกว่าแรกๆก็เป็นค่ะ  แต่พอรู้ฤทธิ์คุณชายแล้วก็บอกเลยว่ายอมเหมือนกัน...ยอมไปอยู่ดาวพลูโตเสียดีกว่าคิดไม่ดีกับชายอู๋ค่ะ

    แต่คนนี้บอกเลยว่า...มันอยู่ไม่ด้ายยยย~!!  ลูกชายรัฐมนตรีค่ะคุณหญิงแม่ก็เป็นไฮโซไฮซ้อ  เครดิตดีไม่มีที่ติ  หน้าตานิสัยรูปร่างบอกเลยว่าผ่าน  โปรไฟล์ดีมากและน้องโด้ก็โชคดีมากที่ได้ชิดใกล้กับผู้ชายคนนี้ค่ะ  แซ่บแค่ไหนรู้มั้ยค่ะ...ขับรถให้นั่งไปรับไปส่งเช้าเย็น  คือน้องเขาไม่ชอบนั่งรถบริษัทเหมือนชายอู๋แหล่ะค่ะ  แต่ว่าเขาก็ไม่ยอมให้น้องโด้ขับรถเหมือนกัน

    ทีแรกก็ไม่ยอมเป็นสาวเป็นนางจะมานั่งรถผู้ชายไปไหนมาไหนดึกดื่นไม่ดีไม่งาม  แต่ว่าก็พบกันครึ่งทาง  โดยตอนเช้าน้องโด้จะขับรถมาจอดที่คอนโดน้องแล้วน้องก็จะขับรถพาน้องโด้ไปกองไปนู่นไปนี่เองค่ะ 

    หึ! อิจฉาล่ะสิเธอออ 

    “คยองครับ  ทำอาหารให้ผมทานได้มั้ย  ผมไม่อยากไปนั่งกินที่ร้านแล้วอ่ะครับ”

    “อ่า...ผมทำอาหารไม่เก่งนะจงอิน  จงอินจะกินได้หรือเปล่า  พรุ่งนี้มีงานนะถ้าท้องเสียจะทำยังไง”

    มุสาวาทาฯ พ่อเป็นเชฟแม่เป็นปาติชิเย่ร์ทำอาหารไม่เก่งคืออะไร??  ไม่ได้หรอกเรื่องแบบนี้ต้องยืดเยื้อไว้จะให้รีบเปิดรีบปังรีบจบมันไม่ใช่! อิทส์นอทมายสไตล์น้อ~

    “โธ่~ ผมรู้ว่าคยองอ่ะทำเป็น  ทำให้ผมกินหน่อยนะ  อะไรก็ได้ครับ นะๆๆ”

    “อืมมมม?  ทำดีไม่ทำดีน้า”

    “ทำเถอะครับนะๆ  สงสารคุณท้องน้อยๆที่อยากกินฝีมือคุณคยองนะครับ”

    “ฮ่าๆๆๆ ครับๆโอเคครับ  งั้นแวะซุปเปอร์ก่อนเนอะ  รอหน่อยนะครับคุณท้องของคุณจงอิน”

    โชคดียิ่งกว่าถูกหวยลอตเตอรรี่ที่รางวัลแปดล้าน!  สัญญาว่ารวยเมื่อไหร่จะถอยรถใหม่ไปให้คุณชานยอล  ขอตัวไปดูแลเด็กก่อนนะ  แล้วเจอกันค่าเพื่อนๆชาวโซเซียลแคม จุ้บๆค่ะ~

     

    “ทำไมต้องให้ลากออกไปทำงานตลอด รถก็ให้ขับแล้วอะไรก็ให้แล้ว นิสัยนะ!

    “นั่นสิ! เธอไม่เหนื่อยบ้างหรือไงที่ต้องมาจ้ำจี้จำไชฉันทั้งวันน่ะ”

    ขาเรียวหยุดก้าวฉับ  หันมาจ้องหน้าเด็กในสังกัดที่วันนี้ดูจะอารมร์ดีดี๊ดีถึงได้ทำตัวกวนประสาทนัก  ตื่นหรือก็ทำอิดออดไปวิ่งออกกำลังกายก็ทำเป็นขี้เกียจ  พอเร่งให้อาบน้ำแต่งตัวเร็วๆก็ช้าจนกินเวลาไม่รู้เท่าไหร่  แล้วงานสัมภาษณ์รายการกว่าจะนัดแนะคิวกว่าจะถ่ายไหนจะต้องคัทต้องตัดต้องซ้อม  งานเดียวก็กินเวลาไปทั้งวันแล้ว  ยังจะมาลอยหน้าลอยตาเดินลากเท้า  พูดจาดน่าตบอีกต่างหาก

    “เหนื่อยสิยะ  ถ้านายให้ความร่วมมือดีๆบ้างมันก็คงไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้หรอก”

    “อืม...ถ้าเธอเหนื่อยขนาดนั้น  ทำไมไม่เลิกทำไปล่ะ”

    “ห๊ะ??”

    “ถ้าเหนื่อยก็ไม่ต้องทำ ก็ไปทำอะไรที่มันไม่เหนื่อยซะสิ”

    ไม่เห็นด้วยตาไม่ฟังเองกับหูนี่ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าไอ้ดารามาเฟียปีศาจร้ายอย่างอู๋อี้ฟานจะเป็นคนพูดอะไรแบบนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงอันอบอุ่นอ่อนโยน  สมกับแท็ก #มหกรรมคนหน้าโจรแต่อ่อนโยนดังจุดซ่อนเร้น เหลือเกินนอกจากมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งปัญญาอ่อนไม่สมกับหน้าไปวันๆแล้วก็ยังคิดพูดอะไรแบบนี้ได้ด้วย

    โอ้หม่ายก็อด! พระเจ้าจอร์จออกลูกเป็นไข่

    “สมองกลับป่ะ ไหนมาเช็คหน่อย”

    ป้าบ! ป้าบ! ป้าบ!

    ว่าแล้วก็ไม่รอช้าที่จะโน้มคออีกคนลงมาพร้อมกับฟาดมือตบๆเคาะๆไปทั้งกระหม่อมทั้งหน้าผาก  เป็นวิธีเช็คสมองที่ผ่านมาตรฐานโดยปาร์คยูราคนงาม  จับๆดึงๆยืดหุที่เต็มไปด้วยจิวเงินอันน้อยใหญ่ให้กางออกเหมือนของน้องชายคนเล็ก  เขย่าๆเผื่อจะมีตัวอะไรหล่นออกมา...แต่ก็ไม่  บางทีเมื่อวันก่อนเธออาจจะลงไม้ลงมือกับคุณซุปตาร์มากไปหน่อย  จนส่งผลกระทบต่อสติสตางค์ไปซักเล็กน้อยก็เป็นได้

    “เฮ้ย! จะเคาะให้สมองมันไหลออกมาทางหูเลยมั้ย”

    “อืม  ลองหน่อยมั้ย  เผื่อจะได้ดีกว่าไอ้ที่เป็นอยู่บ้าง”

    “เหอะ!  ตอนนี้ฉันก็ดีจนกระดิกตัวไปไหนไม่ได้แล้วเนี่ย”

    “อย่าทำมาพูดเลย  หมาที่ไหนมันป่วนเขาไว้แล้วหนีไปเมื่อวันก่อน  อย่าให้ฉันต้องเอาเรื่องแกอีกนะอู๋อี้ฟาน”

    “หึ!  ตอนนี้เอาเรื่องได้ก็เอาให้คุ้มล่ะ  เดี๋ยวต่อไปก็ทำไม่ได้แล้วน้า”

    “ห๊า!!  ว่าอะไรนะ”

    ยกยิ้มร้ายขึ้นน้อยๆ  ตอนนี้เป็นแผนเขย่าบัลลังก์ปาร์คยูรา  แผนมีอยู่ว่าต้องทำให้ยัยยูราหวั่นไหวใจสั่น ระริกระรี้ในใจว่าจะได้ไปพ้นๆจากเขาซักที  อย่างที่ชานยอลบอกนั่นแหล่ะ  เขาต้องดึงยูรามาเป็นพวก  เพราะถ้ายูราว่ายังไงคนเป็นน้องชายหัวอ่อนที่รักพี่สาวซะขนาดนั้นก็ต้องว่าตามอยู่แล้ว

    ใครบอกเขาฉลาดน้อย โนวๆ!  นี่คือคนหล่อแล้วยังฉลาดของแท้ครับ

    “ก็บอกว่า...อีกไม่นานเดี๋ยวฉันก็ได้ผู้จัดการใหม่มาแทนเธอแล้วไง”

    “หึ!  ตลกตายล่ะ!  จ้างเป็นล้านก็ไม่มีใครเขาอยากมาเป็นคนรองรับอารมณ์แกหรอกย่ะ  ฝันแล้วแกเอ้ย!  นี่มีฉันมาคอยจ้ำจี้จ้ำไชก็ดีเท่าไหร่  อย่าหวังว่าถ้าเป็นผู้เป็นคนไม่ได้แล้วจะรอดไปง่ายๆ  ไม่มีทาง”

    “เธอจะไปรู้อะไร  ฉันมันประเภทหน้าตาดีมีรถขับโทรศัพท์มีกล้องห้องมีเครื่องทำน้ำอุ่นนะเว้ย! เรื่องแค่นี้สบายอยู่และ จิ๊บๆ”

    พรีเซนต์ตัวเองนี่งานถนัดขอให้อู๋ฟานได้จัดซักวันละดอกสองดอก  แต่การมีข้อดีดังกล่าวก็มิได้นำพาแต่อย่างใดเมื่อพุ่งชนเข้ากับใบหน้าเรียบตึงของแม่มดยูรา  เธอส่งเสียงหึในลำคอเบาๆไม่มีพูดจาก่อนจะลากเขาไปต่อ  นี่ไม่สนใจกันเลยใช่มั้ย! ตอบ!

    “เอาไว้มีจริงๆแล้วจะรีบบินกลับอเมริกาแทบไม่ทันเลยจ้า! อยากจะไปใจจะขาด!!

    “จริงอ่ะ”

    หลุดปล่อยหน้าลิงโลดออกไป  ต้องรีบอึ๊บเข้ามาเก็บไว้ภายใน  โธ่! เห็นมั้ยเรื่องราวมันช่างง่ายดายไม่ได้มีอะไรยากเย็นเลยซักนิดเดียว  เดี๋ยวเว้นจังหวะนิดหน่อยแล้วก็ปล่อยของต่อว่าเออ! เราก็มีแล้วนะไอ้ที่เธอว่าอ่ะ  ทีนี้เธอก็รีบๆไปเลยนะ เดี๋ยวเราจะออกค่าตั๋วเครื่องบินให้เองก็ได้เลยว่ะ เฮ่อๆๆๆๆ!!

    “นี่จะถามเอาอะไรนักหนา  อย่าเยอะได้ป่ะ!  วันนี้สายจนไม่รู้จะสายยังไงแล้วค่ะ”

    “เดี๋ยวๆ ขอเวลาแป๊บนึง”

    30 วินาทีถ้วน  ด่วนมากๆเร็วๆ”

    “เออๆๆๆ คือฉันมีผู้จัดการส่วนตัวแบบโคตรส่วนตัวแล้ว  คือถ้าเธอไม่สะดวกใจจะทำงานกับฉัน  เธอสามารถจะลาออกได้ตอนนี้เลย  แล้วฉันก็ถามไอ้ชานเรียบร้อย  พาไปเจอแล้วให้ไอ้ชานพิจารณาแล้ว เออ! เธอไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนอกลู่นอกทางนะ  คือถ้าฉันนอกลู่นอกทางเมื่อไหร่เธอก็...”

    “หมดเวลา! โอเคไปกองได้แล้วตอนนี้”

    “เฮ้ยยย! เดี๋ยวดิ  แล้วยังไงให้คำตอบก่อน”

    “ฉันคุยกับชานยอลแล้ว” อิช่า~ งานนี้มันง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากช้าง (เฮ้ย! คือมั่วป่ะยูวว~ เอามารวมกันเพื่อออ?!!)

    “แล้ว ??????? โอเคใช่ป่ะ! เฮ้ย!!! คือโคตรรักเธออ่ะยูรา”

    ว่าแล้วก็คล้าหมับเอาคนที่กลายร่างเป็นนางฟ้ามากอดเสียเต็มรัก  อยากจะเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเหมือนในหนัง  รู้สึกเหมือนตอนนี้น้ำตากำลังจะไหล  เกือบเดือนกับยูราไม่ใช่เรื่องสนุกเลย  เขาโหยหาอิสรภาพเป็นอย่างมาก  และสิ่งแรกที่เขาจะทำคือการออกไปเที่ยวผับให้สุดเหวี่ยง หิ้วสาวกลับห้องซักโหลสองโหลเป็นอย่างน้อย ไม่งั้นก็...

    “คุยแล้วก็ไม่มีอะไร  ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง  ทุกอย่างยังเหมือนเดิม  ยังโอเค”

    “เฮ้ย! ได้ไงอ่ะ”

    โลกในฝันสีชมพูแหววแตกสลาย  สาวๆเปลือยกายใต้ร่างเหลือแต่หมอนข้างเน่าๆ  อารามความตกใจจนมือไม้สั่นเลยผลักเสียคนที่ใช้ชีวิตอยู่บนส้นสูงเจ็ดนิ้วเกือบหงายหลังลงไปนอนกับพื้น  ติดว่าใช้ชีวิตบนส้นสูงมานาน  การทรงตัวเลยดีเป็นพิเศษ!

    “อิบ้า!  ผลักมาได้เกือบหงายหลัง”

    “ไม่ๆๆๆ! คือทำไมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”

    “ทำไมต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลง! เธอ! ผู้จัดการซุปตาร์ระดับจักรวาลอย่างจัสตินบีเบอร์ก็เอาเธอไม่อยู่จ้า!  อย่าคิดหวังว่าคุณหนูตัวขาวจั๊วะบั๊วะคนนั้นจะสามารถ”

    “อย่าดูถูกกัน!  เดี๋ยวฉันโทรไปให้เธอคุย  เธอจะได้มั่นใจ”

    “ไม่ต้องเลย! สายแล้วเนี่ย! โอ้ยยย!! จะบ้าตาย ไปๆๆๆ”

    ว่าแล้วก็ต้องออกแรงฉุดกระชากกันอีกครั้ง  นี่อีกนิดเดียวก็จะได้เข้าสตูดิโอแล้วถ้าไม่ติดว่าคนไม่ให้ความร่วมมือแล้วยังโยกโย้จนน่ารำคาญ  เท่าไหร่ก็ไม่ยอมแถมยังกดโทรศัพท์โทรออกยิกๆ  นี่จะเอาให้ได้เลยใช่มั้ย! ดื้อเป็นเด็กๆเลยนะอู๋อี้ฟาน ฮึ่ย!

    “แป๊บนึงนะ  เบอร์นี่...ทำไมมันโทรไม่ติดวะ!!

    ปักหลักกดจนโทรศัพท์จะทะลุไม่มีขยับไปไหน  แต่โทรเท่าไหร่มันก็ไม่ติด  นี่ปิดเครื่องหรือเปลี่ยนเบอร์หนี  จะว่าไป...ตั้งแต่วันนั้นที่แยกกันตอนเช้าเขาก็ไม่ได้ติดต่ออะไรไป  ส่วนอีกคนก็ไม่ได้ติดต่อกลับมา  หรือว่าเขาจะโดนชิ่งเข้าแล้ว!  เฮ้ย! จะทำงี้ใช่มั้ยคิมจุนมยอน  ไม่ทำตามสัญญาแล้วจะปล่อยให้ฉันหน้าแตกเร๊อะ!  รับโทรศัพท์เดี๋ยวนี้นะเฟ้ย!!

    “...”

    “เออๆ จะให้ฉันบอกแคนเซิลงานเขามั้ย”

    “แป๊บเดียวๆ ทำไมไม่รับสายวะ!!!

    “...”

    “เฮ้ย!  แม่งเอ้ย!!  เดี๋ยวนะขออีก 30 วิ”

    “...”

    “เดี๋ย...”

    โลกหมุนช้าลงหรือว่าไอเย็นที่แผ่ไปทั่วบริเวณนี้จะทำให้เขาหยุดนิ่งลงอย่างช้าๆ  แม่แต่เสียงตู๊ดๆจากโทรศัพท์ที่ติดต่อไม่ได้  ก็ดูเหมือนจะดังช้าลงจนค่อยๆดับไป  ทำไมมันเย็นหลังวาบๆหรือว่าเราจะคิดไปเองนะ แต่ก็ไม่น่าใช่...

    O O;;

    “จะ-ให้-บอก-แคน-เซิล-งาน-เขาเลยมั้ยห๊ะ! อู๋อี้ฟาน!ไอ้ดาราเจ้าปัญหา!!!

    “อะ...อ้ากๆ เจ็บๆเจ็บแล่ว ยอมแล่ว โอ๊ยยย!! มันเจ็บบบบบบ”

    .

    .

    .

    .

    “คราวหน้าแวะมาอีกนะครับคุณลุง  กลับดีๆนะครับ  ขอบคุณที่มาอุดหนุนครับ”

    เด็กเสิร์ฟตัวขาวโค้งเก้าสิบองศาให้คุณลุงขาประจำที่เดินยิ้มแย้มออกนอกร้านไปอย่างมีความสุข  ก่อนคนที่ทักทายคนนู้นคนนี้ไปหมดทั้งร้านจะลงมือเช็ดถูพื้นตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างตั้งอกตั้งใจ  วันนี้ก็ถือเป็นนิมิตหมายอันดีพอสมควรเพราะลูกค้าที่เข้าร้านกันอย่างเนืองแน่นจนแทบจะไม่มีที่นั่งว่างสำหรับลูกค้าใหม่  ตอนนี้ทุกคนก็เลยต่างคนต่างทำงาน  ไม่งั้นคงได้ยินเสียงคิมจงฮยอนว่าแซวอะไรเขามาแล้วแน่ๆเลย    

     “จุนเดี๋ยวถูพื้นเสร็จแล้วไปช่วยหลังร้านทีนะ”

    “ครับผม”

    พี่อนยูเต้าหูฟองดูผู้ขาพับขาอ่อนได้ทุกสถานการณ์และสร้างความพินาศระดับสิบได้ไม่ต่างจากคิมจุนมยอนแอบมาซุ่มกระซิบอยู่หลังน้อง  ว่าเป็นคำสั่งจากนายใหญ่ประจำร้านนามคิมคีย์ 

    “คีย์บอกว่าเดี๋ยวจุนไปทำเป๋อใส่ลูกค้าหน้าเลือดเหมือนตอนนั้นอีก”

    “โธ่!  ถ้ามีอะไรแบบนั้นอีกผมลาตายเลยพี่  ไม่เอาแล้ว!  ฝันร้ายสุดๆ”

    “อือ...งั้นทีหลังก็ระวังด้วยละ..เฮ้ยๆๆๆ!!!

    “พี่อนยู!! ฮืมมมมมีหน้ามาบอกคนอื่นให้ระวัง  พี่เองนั่นแหล่ะต้องระวังให้ดีเลย”

    ช่วยคนแก่แข้งขาอ่อนแรงไม่ให้ล้มจนเทซุปใส่หัวลูกค้าเสร็จแล้ว  ก็เดินเลยไปถูพื้นตรงอื่นต่อให้วาววับ  ในหัวก็ครุ่นคิดนึกถึงคนที่ไม่ได้ติดต่ออะไรมา  แล้วเขาเองก็ไม่รู้จะต้องติดต่ออะไรไป  ตั้งแต่วันที่แยกกันตอนเช้าวันนั้น  เขารู้สึกว่าดูคุณดาราขาเหวี่ยงจะแปลกๆไปสักหน่อย  บางทีวันนั้นเขาอาจจะมีแคสติ้งบทพระเอกก็ได้เลยทำตัวอบอุ่นนุ่มละมุนเกินปกติไปมากโข (แถมยังพูดว่า...ขอบคุณอีกต่างหาก) 

    แล้วไอ้สัญญาที่ว่าให้เป็นผู้จัดการชดใช้หนี้   แต่ก็ไม่ได้มีอะไรนอกเหนือเขียนไว้เป็นพิเศษในสัญญา  เขาบอกไปแล้วว่าเขาทำไม่เป็นหรอก  แล้วอยู่ดีๆคนเราจะไปทำหน้าที่อะไรแบบนั้นได้ง่ายๆเลยเหรอ  ไม่เข้าใจอะไรเลย!แต่วันนั้นก็โดนลากไปไม่มีบอกกล่าว  แถมยังไม่เห็นวี่แววว่าจะได้เป็นไอ้ผู้จัดการส่วนตัวนี่ซักนิด  เขาว่านะ...ถ้าจับเขาเซ็นสัญญาเป็นคนใช้หรือข้อทาสอะไรแบบนี้ยังจะเข้าท่าซะกว่าเลย

    บางที...คนคนนั้นอาจจะลืมเรื่องสัญญาพวกนี้ไปแล้วก็ได้มั้ง  คนรวยนี่นามีสิทธิ์จะทำเรื่องประหลาดไม่เข้าท่าได้ล้านแปดแบบไม่มีใครว่า  หรือบางที...ถ้าเขาจะเรียกใช้เขาอาจจะโทรมาเองก็ได้มั้ง  เบอร์โทรเราเขาก็มีนี่นะ  แต่ไอ้เบอร์โทรเขาเราก็มี TT โอ้ยยย~ คิดอะไรนักเนี่ยน่าปวดหัวจังเลย!  

    จะว่าไปวันนี้ถึงแม้จะต้องทำงานมือเป็นระวิงแต่เขายังไม่ได้ทำของข้าวเสียหาย  หรือก่อความวุ่นวายเป็นมหันตภัยใดๆทั้งสิ้น  ทุกสิ่งภายใต้รัศมีสองเมตรของคิมจุนมยอนยังคงปลอดภัยดี  แม้จะไม่น่าเชื่อเท่าไหร่ก็ตาม

    แต่เมื่อกี้ต้องลาคุณลุงแล้วก็รู้สึกเหมือนหางตากระตุกแปลก  เขาว่าขวาร้ายซ้ายดีแล้วถ้ากระตุกสองข้างพร้อมกันอย่างงี้จะเรียกอะไรดีล่ะเนี่ย

    “คุณจุนมยอน!/พี่จุนมยอน!

    อ่อ...เข้าใจแล้วว่าหางตากระตุกสองข้าง หมายถึงโคตรอภิมหาบรรลัยสินะ!!

    ประตูร้านที่เปิดออกพร้อมปรากฏร่างของคุณลูกค้า VIP ที่ต่างส่งเสียงเรียกคนน่ารักประจำร้านอย่างพร้อมเพรียง  ไม่วายเขม่นมองหน้ากันก่อนจะพยายามพาตัวเองผ่านประตูมาพร้อมกันทั้งคู่  คนนึงก็มหาอาแป๊ะผู้ทรงธรรม  อีกคนก็แพนด้าหน้าคล้ำอมพอร์ตจากเมืองจีน 

    แทบจะทิ้งไม้ถูแล้ววิ่งหนีไปหลบอยู่หลังร้าน  แต่อะไรๆมันก็ไม่เอื้ออำนวยเอาเสียเลย!!!

    “คุณจุนจะไปไหนครับ/พี่จุนจะไปไหน!

    ข้อมือขาวสองข้างถูกรั้งไว้จากสองทิศทางด้วยความไวแสง  เมื่อคนทั้งขู่ที่เขม่นเขี้ยวเคี้ยวฟันสามารถผลักดันตัวเองผ่านประตูเข้ามาได้พร้อมกันทั้งคู่  มองซ้ายก็เห็นคนหน้าตอบๆสวมแว่นหน้าเป็นนิ้ว ยิ้มแฉ่งทีนี่ตีนกาก็ฟาดเต็มหน้า  มองขวาก็เห็นแต่ชุดแน่นมองเลยขึ้นไปก็จะเจอคางแหลมๆกับหน้าตาแป้นแล้นแสนโมเอ้ ยิ่งมองมุมเสยยิ่งปวดใจกับรอยคล้ำใต้ตาที่ก็ฟาดมาไม่ยั้งเช่นเดียวกัน!

    ชีวิตคิมจุนจะปังก็งานนี้แหล่ะคะคุ๊ณณณ~!!

    “ปะ...ปล่อยผมเถอะครับ  ผมจะไปทำงาน”

    “โธ่! อย่าทำร้ายจิตใจผมอย่างนี้สิครับ  ผมพึ่งจะมาพึ่งจะได้เห็นหน้าคุณจุนยังไม่ทันหายคิดถึงเลย”

    “พี่จุนคร้าบ! น้องเทาเลิกเรียนแล้วก็รีบมาหาพี่เลยนะครับ  น้องเทาไม่เถลไถล น้องเทาไม่นอกใจ  น้องเทารักพี่จุนคนเดียวนะครับ”

    “ปล่อย...ปล่อยนะทั้งคู่เลย”

    มันปังมั้ยล่ะ TT อืมมม...ไม่เจ็บอย่างฉันใครจะเข้าใจ  พยายามจะสะบัดสุดแรงเกิด  แต่ไม่รู้ว่ามือคนหรือมือกาวมันถึงได้เกาะแน่นเหนียวหนึบขนาดนี้  แล้วคนปฏิเสธใครไม่ได้แบบนี้จะมีที่ยืนในสังคมได้อย่างไร

    “คุณจุนมยอนครับ  ตกลงกับผมก่อนว่าวันนี้เลิกงงานแล้วจะให้ผมไปส่งคุณ...นะครับ”

    อ่ะแฮ่ม! ขอพื้นที่ให้คนหล่อขอทำดีได้ออกมาหาเสียงให้ท่านผู้อ่านได้เห็นหน้าเห็นตากันบ้างนะครับ  คือกระผมมายเนมอีสคิมจงแดครับแต่เพื่อนๆนักปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่ก็จะเรียกเฉิน น่ารักหน่อยก็เฉินเฉิน  หรือไม่ก็เรียกมหา,ไอ้มหาตามสะดวกครับ แฮะๆ  ผมเป็นคนพูดน้อยครับแต่รักใครแล้วรักจริงไม่ติงนัง  ไม่มีทิ้งขว้างอย่างแน่นอน  โปรดเชียให้คุณคิมจุนมยอนได้ตกเป็นของผมอย่างสมบูรณ์ด้วยนะครับ  ถ้าอยากร่วมขบวนทอดผ้าป่าสามัคคีรักเจ็ดปีดีเจ็ดหน  ติดต่อได้ที่ทวิตเตอร์หรือเฟสบุ๊คอินสตราแกรม ฯลฯ ด้านล่างนะครับ  ขอบคุณครับ ^^

    “พี่จุน! อย่าไปสนใจลุงแก่ๆเลยครับ  วันนี้ผมขับฮารเล่ย์คันใหญ่มาเลยครับ  นั่งสบายลมพัดเย็นๆด้วยฮะ  เดี๋ยวผมไปส่งพี่ที่ห้องเลยนะ”

    คนแก่หลบไปเด็กรุ่นใหม่เค้าต้องเฟี้ยวใจใหญ่สปอร์ตกรุงโซลครับ  ผมคือฮวัง จื่อเทาคนหล่อขอทำเพื่อพี่จุนมยอนครับ  ผมเป็นเด็กมัธยมปลายที่พ่วงตำแหน่งลูกเจ้าพ่อมาเฟียด้วยครับ  ผมเลวกับทุกคนครับไม่ไว้หน้าใคร  แต่คนที่ยอมหมดทั้งใจก็มีแค่พี่จุนคนเดียว  ผมไม่เคยรักใครเท่าพี่จุนมาก่อนเลยครับ  ถ้าไม่มีตัวมารอย่างคิมจงดักแด้คอยขัดขวาง  เราคงได้แต่งงานแล้วใช้ชีวิตอยู่ในปราสาทอย่างมีความสุขแบบฟอร์เอเวอร์ไปแล้ว  แต่ผมก็จะไม่ท้อหรอกครับ  ผมมีใจรักจริงเจ็บจริงแล้วผมยังถือคติว่ามือเท้าปากชนะทุกอย่าง  ต่อให้ผมต้องฟาดฟันคนอีกร้อยล้านที่เข้าคิวจะมาแย่งพี่จุนมยอนของผมไป  ผมก็จะใช้วิชาปากว่ามือขยับจับขาพาดบ่าแล้วฟาดหน้าด้วยข้อศอกให้สลบหงายหายไปทุกคนเลย  ช่วยเชียร์ให้พี่จุนมยอนเลือกผมทีนะครับ  ผมจะมอบหัวใจให้คุณสองดวงเลย จุ๊บๆครับ ^^

    “เออๆๆ มากันอีกแล้ว  จะเต๊าะเขาไปอีกกี่ปีกี่ชาติวะ  เขาไม่เอายังไม่รู้ตัวอีกไง”

    ผู้พิทักษ์ชั่วคราวเดินมาคล้องคอลากน้องออกมาให้พ้นจากสองมือมารที่ปากว่าตาขยิบเหลือเกิน  ทำเป็นพูดดีแต่ก็เห็นแอบแต๊ะอั๋งทุกที  นี่ก็ไม่เคยรู้เรื่องรู้ราวให้เขายืนจับมืออยู่ได้ตั้งนานสองนาน  เห็นแล้วก็หงุดหงิดรำคาญลูกตาของคิม  จงฮยอนเสียเหลือเกิน

    มากี่ครั้งก็มีอันต้องฟาดฟันทุกครั้ง  บ้างทีนะถ้าจุนมยอนตัดปัญหาโดยการมีแฟนเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่ไอ้สองคนนี้คงจะดีไม่น้อย  เผื่อว่ามันจะท้อจนเลิกเต๊าะไปซักที

    “ความรักชนะทุกสิ่งนะครับคุณจงฮยอน”

    “พี่เตี้ยหลบไปเถอะ  ผมมีความรักของผมก็พอแล้ว”

    พอพูดคำว่าเตี้ยแล้วก็ดึงคิ้วกระตุกทั้งพี่ทั้งน้อง  คือตอกย้ำทำไมเหรอ?  มันผิดมากใช่มั้ยที่คนเราจะเกิดมามีส่วนสูงที่แตกต่างตามความหลากหลายทางชีวภาพที่พึงมี  ทำไมต้องตอกย้ำต้องทำให้เจ็บช้ำในหัวใจ  เรื่องแบบนี้มันกำหนดกะเกณฑ์กันได้เหรอ  คิดเหรอว่าจุนมยอนคนนี้อยากจะเกิดมาสูงแค่หัวไหล่ไอ้เด็กจีนตาแพนด้าที่เกิดมาช้ากว่าตั้งหลายปี

    โอ๊ย! ของขึ้น!!

    “เฮ้ย! แล้วฉันไปเตี้ยบนหัวนายไงวะ ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นใบไผ่!!

    “พี่จงฮยอนนนน~ ใจเย็นๆครับ”

    .

    .

    .

    สงครามสงบลงพร้อมกับคิมจุนมยอนผู้ยัก็ล้างคงมีหัวใจตุ้มๆต่อมๆ  มือก็วนๆลูบๆล้างจานทั้งต้องคอยระวังไม่ให้ทำจานแตกแล้วก็ยังต้องคอยออกมาชะเง้อมองดูว่าผู้ชายสองคนจะสร้างปัญหาอะไรให้ร้านต้องวุ่นวายจนเขาจะพลอยโดนดุไปด้วยหรือเปล่า

    ก่อนหน้านั้น 10 นาที  หลังจากลากคิมจงฮยอนไปเก็บไว้ในตู้เย็นเขาก็ต้องออกมาจัดการตัวก่อความวุ่นวายที่มีแนวโน้มจะสร้างหายนะระดับสิบ  วันนี้คงไม่ใช่วันของเขาเท่าไหร่เขาไม่สามารถจับสองคนนั้นแยกกันได้เหมือนที่ไม่สามารถทำให้แยกออกไปจากตัวเขาเสียที  จุนมยอนจำใจต้องบังคับให้ทั้งสองคนนั่งอยู่ด้วยกันอย่างสันติ  เพื่อเอื้ออำนวยต่อลูกค้าคนอื่นเนื่องจากยังไงสองคนนี้ก็ไม่มีทางจะกลับก่อนเวลาร้านปิดแน่นอน

    เผลอๆบางที...ถ้าเกิดว่าเปลี่ยนใจไปได้กันเองนั้นจะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน

    “เป็นอะไรน่ะจุนมยอน  เห็นชะเง้อๆอะไรอยู่นานแล้วนะ  เมื่อไหร่จะล้างจานเสร็จ”

    “อ่า...ขอโทษทีครับ  ผม...กลัวร้านจะวุ่นวายเพราะผมน่ะ”

    ตอบคำถามพี่ชายตัวสูงคอตก  มือก็ถูๆลูบๆให้จานใบน้อยนั้นสะอาดขึ้นมาแต่ก็ยังคงความระมัดระวังอย่างดีเพื่อไม่ให้หลุดร่วงจนสร้างความเสียหาย  ทำปากยื่นเป็นน้องเป็ดจนพี่นึกเอ็นดูอดจะเอื้อมมือมาตบบนกลุ่มผมนุ่นนิ่มเบาๆ  เป็นกำลังใจให้ได้อย่างเดียวเท่านั้นเอง  ถ้าถามเขาสองคนนั้นไม่มีสิทธิ์ผ่านซักคนถึงจะแวะเวียนมาตั้งเป็นนานเกือบปี  แต่ก็ไม่มีแววเลยซักนิดเดียว

    “แล้วนี่จะกลับบ้านกับใคร  ต้องเลือกมั้ยหรือยังไง”

    “ฮื่อ  ผมไม่อยากกลับกับทั้งสองคนนั่นแหล่ะ!  ต้องเลือกด้วยเหรอ”

    “ฮ่าๆๆๆ เอ้า! ปกติก็เห็นเราสองสามคนทุกที  ถ้าจงฮยอนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวน่ะ”

    “เราสองสามคนแบบนี้  ผมอยู่คนเดียวดีกว่า”

    โคลงศรีษะคนตัวขาวที่ทำปากยื่นปากยาวอย่างน่ารัก  ก็น่ารักแบบนี้ไงเขาถึงได้ตามขายขนมจีบกันอยู่แบบนี้ 

    “ก็หลบออกหลังร้านแล้วกัน  ถ้ามีอะไรก็โทรมา  กลับก่อนร้านปิดก็ได้”

    “หลบออกหลังร้านอาจจะได้  แต่ถ้ามีอะไรให้โทรไปจริงๆนี่คงไม่ได้อ่ะครับ”

    “อ้าว!  ยังไงล่ะเรา  ตังค์โทรศัพท์หมดเหรอ”

    “เปล่า  ผมทำหายแบบหายไปเลย  หายไปไหนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้”

    ความซุ่มซ่ามไม่เลือกที่เลือกทางของคนเราสินะ  โทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งก็ใช่ว่าจะราคาวอนสองวอน  ถึงจะเลือกแบบที่ราคาไม่แพงมากจอขาว-ดำแค่โทรเข้าโทรออก  สำหรับคิมจุนมยอนที่รายได้ถูกจำกัดให้พอถูไถใช้อย่างพอดีตลอดเดือนก็จัดว่าการซื้อมือถือใหม่เป็นสิ่งฟุ่มเฟือยอย่างไม่น่าให้อภัย

    “เฮ้ย! มันก็ต้องมีโทรศัพท์นะ ปุบปับธุระจำเป็นจะได้มีไว้ติดต่อ”

    “เอาไว้ผมหยอดกระปุกเหลือๆพอซื้อแล้วค่อยว่ากัน  ตอนนี้เงินจะกินจะใช้ยังแทบไม่พอ”

    “ไว้พี่จะหามาให้ยืมใช้...”

    “ไม่เอานะ!  ผมไม่ใช่หรอก  ตอนนี้โอเคไม่มีโทรศัพท์ก็ไม่เห็นเป็นไร  ไม่มีใครโทรหาผมหรอก”

    “แน่ใจ?”

    “อืม...แน่ใจสิครับ  ทำงานๆเถอะวันนี้ลูกค้าเยอะจัง เฮ้อๆ”

    โทรศัพท์เขาน่ะเหรอ...ไม่มีใครโทรมาหรอก  พ่อกับแม่ก็คงโทรมาช่วงสิ้นๆเดือนๆจะว่าไปความจริง...ก็ไม่ได้มีใครติดต่ออะไรเป็นพิเศษซักหน่อย  เดี๋ยวยังไงหยอดตู้โทรศัพท์ไปก่อนก็แล้วกัน

    .

    .

    ว่าแต่ว่า...รู้สึกลางไม่ดียังไงไม่รู้แฮะ  เหมือนโคตรอภิมหาบรรลัยจะยังไม่จบแค่สองคนนั้น

    .

    .

    .

     

    รู้สึกว่าซุปเปอร์อภิมหาบรรลัยจะคลืบคลานมาใกล้ยังไงไม่รู้สิ


















     

    ----- 60% -----



























    *ขอแปะโป้งคำผิดไว้ก่อนนะคะ*
    *ขอโทษที่มาต่อช้าคะ TT *


























     


     
    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×