คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : คุ ณ ผู้ จั ด ก า ร ll CHAPTER 4 [60%]
lCHAPTER 4l
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวโซเซียลแคมวันนี้มาพบกับนุ้งศรีโด้ผู้เป็นไทนะคะ อย่างที่ทุกท่านได้ทราบกันว่าตอนนี้น้องโด้ได้เป็นอิสระเนื่องจากถูกปลดแอกจากคุณดาราขาวีนโดยถาวรค่า~ เพราะว่าน้องเนี่ยนะคะเป็นบุคคลที่พูดได้เลยว่ามีจิตใจที่ดีและประเสริฐงดงามเกินกว่าจะพยายามหลุดพ้นจากอำนาจมืดของซุปตาร์มาเฟียได้ (ไม่ได้ยอมไม่ได้อะไรนะคะไม่มีจริงๆ) ต้องขอบคุณหัตถ์เทพฟ้าประทานปราบไททันของคุณชายชานยอลจริงๆค่า
ตอนนี้นอกจากจะพ้นมือมารแล้วยังตกอยู่ใต้ปีกเทพบุตรด้วยค่า~
“คยองครับ ผมขอน้ำดื่มหน่อยได้มั้ยครับ”
“อ่อๆๆ ได้ครับๆ”
พ่อเทพบุตรสุดหล่อที่สว่างไสวใต้แสงไฟของน้องโด้ช่างน่ารักน่าหยิกเหลือเกิน แหมๆ~ ทูนหัวของบ่าว ผมสีบลอนด์บนผิวสีแทนเหมือนนมข้นราดบนช็อคโกแลต ซิกแพ็คสุดเซ็กซี่ขยี้ใจไหนจะกางเกงที่เลื่อนต่ำจนหมิ่นเหม่สะโพกแกร่งนั้นอีก
ยอมค่ะยอม...พูดเลยว่ายอมให้หมดเลยจริงๆ!
“น้ำแร่แล้วกันนะครับ เหนื่อยมั้ยเอ่ย เดี๋ยวเสร็จงานนี้ก็พักผ่อนได้แล้วครับ”
“อื้ม...ไม่เหนื่อยเลยครับ ขอบคุณมากนะครับ เดี๋ยวเสร็จงานวันนี้แล้วเราไปทานข้าวกันดีกว่า ขอบคุณที่คยองดูแลผมดีขนาดนี้”
หืม? พูดอย่างงี้สายตาอย่างงี้คิดอะไรกับน้องโด้หรือเปล่า?? ตอบ! ถึงจะแก้มแดงขวยเขินจนแทบลงไปแดดิ้นแต่ก็ทำเพียงส่งยิ้มหวานน้อยๆก่อนจะขยับทิชชู่เช็ดเหงื่อตามไรผมให้เบาๆ แถมด้วยการจับหลอดป้อนน้ำจากขวดถึงปากอย่างดี จนได้ยินเสียงตากล้องเรียกคนหล่อเข้าเฟรมถึงได้ถอยออกมานั่งประจำที่เหมือเดิม
มองรูปร่างสัดส่วนดูดีสมบูรณ์แบบกับใบหน้าหล่อที่ติดจะเรียบนิ่งเหมือนเด็กดื้ออยู่กลายๆแต่ก็คล้ายจะติดเย็นชาแบบมาเฟียอยู่บ้างแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คิม จงอินเจ้าชายแห่งวงการคนใหม่สินะ อายุก็ไม่เท่าไหร่ถึงจะเป็นไฮโซแต่ก็ทำงานเก่งตั้งอกตั้งใจจนน่าชื่นชมแถมยังสุภาพวางตัวดีไม่มีใครเกิน
ยิ่งมีน้องโด้คนนี้เป็นผู้จัดการดูแลผลักดันอยู่เบื้องหลัง...คอนเฟิร์มเลยค่าว่าดังไกลแน่นอน
.
.
.
“คยองเหนื่อยมั้ยครับ ช่วงนี้งานหนักพอสมควรเลย”
“อืม...ไม่เหนื่อยหรอกครับ ต่อไปถ้าจงอินดังกว่านี้ก็ต้องเหนื่อยกว่านี้อีกเยอะเลย”
“จริงเหรอครับ งั้นผมดังแค่นี้ได้มั้ย...ผมกลัวคยองเหนื่อย”
ณ จุดจุดนี้พูดเลยว่าจิกหมอนขาด!! แล้วบรรยากาศในรถบนถนนโล่งๆตอนห้าทุ่มกว่าๆกับเสียงดนตรีคลอเบาๆจากเครื่องเล่นนี่มัน หืม? นี่เต๊าะหรือเปล่า?? ตอบ!!
คิม จงอินเป็นผู้ชายแบบที่ดีแสนดีจนน่าใจหาย น้องโด้คนดีก็กลัวคุณเด็กในสังกัดสุดแซ่บจะไก่ตื่นก็เลยต้องนิ่งๆเนียนๆน่ารักๆเข้าสู้ ถามว่าตอนอยู่กับพี่อู๋เป็นงี้มั้ย ต้องขอบอกว่าแรกๆก็เป็นค่ะ แต่พอรู้ฤทธิ์คุณชายแล้วก็บอกเลยว่ายอมเหมือนกัน...ยอมไปอยู่ดาวพลูโตเสียดีกว่าคิดไม่ดีกับชายอู๋ค่ะ
แต่คนนี้บอกเลยว่า...มันอยู่ไม่ด้ายยยย~!! ลูกชายรัฐมนตรีค่ะคุณหญิงแม่ก็เป็นไฮโซไฮซ้อ เครดิตดีไม่มีที่ติ หน้าตานิสัยรูปร่างบอกเลยว่าผ่าน โปรไฟล์ดีมากและน้องโด้ก็โชคดีมากที่ได้ชิดใกล้กับผู้ชายคนนี้ค่ะ แซ่บแค่ไหนรู้มั้ยค่ะ...ขับรถให้นั่งไปรับไปส่งเช้าเย็น คือน้องเขาไม่ชอบนั่งรถบริษัทเหมือนชายอู๋แหล่ะค่ะ แต่ว่าเขาก็ไม่ยอมให้น้องโด้ขับรถเหมือนกัน
ทีแรกก็ไม่ยอมเป็นสาวเป็นนางจะมานั่งรถผู้ชายไปไหนมาไหนดึกดื่นไม่ดีไม่งาม แต่ว่าก็พบกันครึ่งทาง โดยตอนเช้าน้องโด้จะขับรถมาจอดที่คอนโดน้องแล้วน้องก็จะขับรถพาน้องโด้ไปกองไปนู่นไปนี่เองค่ะ
หึ! อิจฉาล่ะสิเธอออ
“คยองครับ ทำอาหารให้ผมทานได้มั้ย ผมไม่อยากไปนั่งกินที่ร้านแล้วอ่ะครับ”
“อ่า...ผมทำอาหารไม่เก่งนะจงอิน จงอินจะกินได้หรือเปล่า พรุ่งนี้มีงานนะถ้าท้องเสียจะทำยังไง”
มุสาวาทาฯ พ่อเป็นเชฟแม่เป็นปาติชิเย่ร์ทำอาหารไม่เก่งคืออะไร?? ไม่ได้หรอกเรื่องแบบนี้ต้องยืดเยื้อไว้จะให้รีบเปิดรีบปังรีบจบมันไม่ใช่! อิทส์นอทมายสไตล์น้อ~
“โธ่~ ผมรู้ว่าคยองอ่ะทำเป็น ทำให้ผมกินหน่อยนะ อะไรก็ได้ครับ นะๆๆ”
“อืมมมม? ทำดีไม่ทำดีน้า”
“ทำเถอะครับนะๆ สงสารคุณท้องน้อยๆที่อยากกินฝีมือคุณคยองนะครับ”
“ฮ่าๆๆๆ ครับๆโอเคครับ งั้นแวะซุปเปอร์ก่อนเนอะ รอหน่อยนะครับคุณท้องของคุณจงอิน”
โชคดียิ่งกว่าถูกหวยลอตเตอรรี่ที่รางวัลแปดล้าน! สัญญาว่ารวยเมื่อไหร่จะถอยรถใหม่ไปให้คุณชานยอล ขอตัวไปดูแลเด็กก่อนนะ แล้วเจอกันค่าเพื่อนๆชาวโซเซียลแคม จุ้บๆค่ะ~
“ทำไมต้องให้ลากออกไปทำงานตลอด รถก็ให้ขับแล้วอะไรก็ให้แล้ว นิสัยนะ!”
“นั่นสิ! เธอไม่เหนื่อยบ้างหรือไงที่ต้องมาจ้ำจี้จำไชฉันทั้งวันน่ะ”
ขาเรียวหยุดก้าวฉับ หันมาจ้องหน้าเด็กในสังกัดที่วันนี้ดูจะอารมร์ดีดี๊ดีถึงได้ทำตัวกวนประสาทนัก ตื่นหรือก็ทำอิดออดไปวิ่งออกกำลังกายก็ทำเป็นขี้เกียจ พอเร่งให้อาบน้ำแต่งตัวเร็วๆก็ช้าจนกินเวลาไม่รู้เท่าไหร่ แล้วงานสัมภาษณ์รายการกว่าจะนัดแนะคิวกว่าจะถ่ายไหนจะต้องคัทต้องตัดต้องซ้อม งานเดียวก็กินเวลาไปทั้งวันแล้ว ยังจะมาลอยหน้าลอยตาเดินลากเท้า พูดจาดน่าตบอีกต่างหาก
“เหนื่อยสิยะ ถ้านายให้ความร่วมมือดีๆบ้างมันก็คงไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้หรอก”
“อืม...ถ้าเธอเหนื่อยขนาดนั้น ทำไมไม่เลิกทำไปล่ะ”
“ห๊ะ??”
“ถ้าเหนื่อยก็ไม่ต้องทำ ก็ไปทำอะไรที่มันไม่เหนื่อยซะสิ”
ไม่เห็นด้วยตาไม่ฟังเองกับหูนี่ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าไอ้ดารามาเฟียปีศาจร้ายอย่างอู๋อี้ฟานจะเป็นคนพูดอะไรแบบนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงอันอบอุ่นอ่อนโยน สมกับแท็ก #มหกรรมคนหน้าโจรแต่อ่อนโยนดังจุดซ่อนเร้น เหลือเกินนอกจากมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งปัญญาอ่อนไม่สมกับหน้าไปวันๆแล้วก็ยังคิดพูดอะไรแบบนี้ได้ด้วย
โอ้หม่ายก็อด! พระเจ้าจอร์จออกลูกเป็นไข่
“สมองกลับป่ะ ไหนมาเช็คหน่อย”
ป้าบ! ป้าบ! ป้าบ!
ว่าแล้วก็ไม่รอช้าที่จะโน้มคออีกคนลงมาพร้อมกับฟาดมือตบๆเคาะๆไปทั้งกระหม่อมทั้งหน้าผาก เป็นวิธีเช็คสมองที่ผ่านมาตรฐานโดยปาร์คยูราคนงาม จับๆดึงๆยืดหุที่เต็มไปด้วยจิวเงินอันน้อยใหญ่ให้กางออกเหมือนของน้องชายคนเล็ก เขย่าๆเผื่อจะมีตัวอะไรหล่นออกมา...แต่ก็ไม่ บางทีเมื่อวันก่อนเธออาจจะลงไม้ลงมือกับคุณซุปตาร์มากไปหน่อย จนส่งผลกระทบต่อสติสตางค์ไปซักเล็กน้อยก็เป็นได้
“เฮ้ย! จะเคาะให้สมองมันไหลออกมาทางหูเลยมั้ย”
“อืม ลองหน่อยมั้ย เผื่อจะได้ดีกว่าไอ้ที่เป็นอยู่บ้าง”
“เหอะ! ตอนนี้ฉันก็ดีจนกระดิกตัวไปไหนไม่ได้แล้วเนี่ย”
“อย่าทำมาพูดเลย หมาที่ไหนมันป่วนเขาไว้แล้วหนีไปเมื่อวันก่อน อย่าให้ฉันต้องเอาเรื่องแกอีกนะอู๋อี้ฟาน”
“หึ! ตอนนี้เอาเรื่องได้ก็เอาให้คุ้มล่ะ เดี๋ยวต่อไปก็ทำไม่ได้แล้วน้า”
“ห๊า!! ว่าอะไรนะ”
ยกยิ้มร้ายขึ้นน้อยๆ ตอนนี้เป็นแผนเขย่าบัลลังก์ปาร์คยูรา แผนมีอยู่ว่าต้องทำให้ยัยยูราหวั่นไหวใจสั่น ระริกระรี้ในใจว่าจะได้ไปพ้นๆจากเขาซักที อย่างที่ชานยอลบอกนั่นแหล่ะ เขาต้องดึงยูรามาเป็นพวก เพราะถ้ายูราว่ายังไงคนเป็นน้องชายหัวอ่อนที่รักพี่สาวซะขนาดนั้นก็ต้องว่าตามอยู่แล้ว
ใครบอกเขาฉลาดน้อย โนวๆ! นี่คือคนหล่อแล้วยังฉลาดของแท้ครับ
“ก็บอกว่า...อีกไม่นานเดี๋ยวฉันก็ได้ผู้จัดการใหม่มาแทนเธอแล้วไง”
“หึ! ตลกตายล่ะ! จ้างเป็นล้านก็ไม่มีใครเขาอยากมาเป็นคนรองรับอารมณ์แกหรอกย่ะ ฝันแล้วแกเอ้ย! นี่มีฉันมาคอยจ้ำจี้จ้ำไชก็ดีเท่าไหร่ อย่าหวังว่าถ้าเป็นผู้เป็นคนไม่ได้แล้วจะรอดไปง่ายๆ ไม่มีทาง”
“เธอจะไปรู้อะไร ฉันมันประเภทหน้าตาดีมีรถขับโทรศัพท์มีกล้องห้องมีเครื่องทำน้ำอุ่นนะเว้ย! เรื่องแค่นี้สบายอยู่และ จิ๊บๆ”
พรีเซนต์ตัวเองนี่งานถนัดขอให้อู๋ฟานได้จัดซักวันละดอกสองดอก แต่การมีข้อดีดังกล่าวก็มิได้นำพาแต่อย่างใดเมื่อพุ่งชนเข้ากับใบหน้าเรียบตึงของแม่มดยูรา เธอส่งเสียงหึในลำคอเบาๆไม่มีพูดจาก่อนจะลากเขาไปต่อ นี่ไม่สนใจกันเลยใช่มั้ย! ตอบ!
“เอาไว้มีจริงๆแล้วจะรีบบินกลับอเมริกาแทบไม่ทันเลยจ้า! อยากจะไปใจจะขาด!!”
“จริงอ่ะ”
หลุดปล่อยหน้าลิงโลดออกไป ต้องรีบอึ๊บเข้ามาเก็บไว้ภายใน โธ่! เห็นมั้ยเรื่องราวมันช่างง่ายดายไม่ได้มีอะไรยากเย็นเลยซักนิดเดียว เดี๋ยวเว้นจังหวะนิดหน่อยแล้วก็ปล่อยของต่อว่าเออ! เราก็มีแล้วนะไอ้ที่เธอว่าอ่ะ ทีนี้เธอก็รีบๆไปเลยนะ เดี๋ยวเราจะออกค่าตั๋วเครื่องบินให้เองก็ได้เลยว่ะ เฮ่อๆๆๆๆ!!
“นี่จะถามเอาอะไรนักหนา อย่าเยอะได้ป่ะ! วันนี้สายจนไม่รู้จะสายยังไงแล้วค่ะ”
“เดี๋ยวๆ ขอเวลาแป๊บนึง”
“30 วินาทีถ้วน ด่วนมากๆเร็วๆ”
“เออๆๆๆ คือฉันมีผู้จัดการส่วนตัวแบบโคตรส่วนตัวแล้ว คือถ้าเธอไม่สะดวกใจจะทำงานกับฉัน เธอสามารถจะลาออกได้ตอนนี้เลย แล้วฉันก็ถามไอ้ชานเรียบร้อย พาไปเจอแล้วให้ไอ้ชานพิจารณาแล้ว เออ! เธอไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนอกลู่นอกทางนะ คือถ้าฉันนอกลู่นอกทางเมื่อไหร่เธอก็...”
“หมดเวลา! โอเคไปกองได้แล้วตอนนี้”
“เฮ้ยยย! เดี๋ยวดิ แล้วยังไงให้คำตอบก่อน”
“ฉันคุยกับชานยอลแล้ว” อิช่า~ งานนี้มันง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากช้าง (เฮ้ย! คือมั่วป่ะยูวว~ เอามารวมกันเพื่อออ?!!)
“แล้ว ??????? โอเคใช่ป่ะ! เฮ้ย!!! คือโคตรรักเธออ่ะยูรา”
ว่าแล้วก็คล้าหมับเอาคนที่กลายร่างเป็นนางฟ้ามากอดเสียเต็มรัก อยากจะเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเหมือนในหนัง รู้สึกเหมือนตอนนี้น้ำตากำลังจะไหล เกือบเดือนกับยูราไม่ใช่เรื่องสนุกเลย เขาโหยหาอิสรภาพเป็นอย่างมาก และสิ่งแรกที่เขาจะทำคือการออกไปเที่ยวผับให้สุดเหวี่ยง หิ้วสาวกลับห้องซักโหลสองโหลเป็นอย่างน้อย ไม่งั้นก็...
“คุยแล้วก็ไม่มีอะไร ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ยังโอเค”
“เฮ้ย! ได้ไงอ่ะ”
โลกในฝันสีชมพูแหววแตกสลาย สาวๆเปลือยกายใต้ร่างเหลือแต่หมอนข้างเน่าๆ อารามความตกใจจนมือไม้สั่นเลยผลักเสียคนที่ใช้ชีวิตอยู่บนส้นสูงเจ็ดนิ้วเกือบหงายหลังลงไปนอนกับพื้น ติดว่าใช้ชีวิตบนส้นสูงมานาน การทรงตัวเลยดีเป็นพิเศษ!
“อิบ้า! ผลักมาได้เกือบหงายหลัง”
“ไม่ๆๆๆ! คือทำไมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”
“ทำไมต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลง! เธอ! ผู้จัดการซุปตาร์ระดับจักรวาลอย่างจัสตินบีเบอร์ก็เอาเธอไม่อยู่จ้า! อย่าคิดหวังว่าคุณหนูตัวขาวจั๊วะบั๊วะคนนั้นจะสามารถ”
“อย่าดูถูกกัน! เดี๋ยวฉันโทรไปให้เธอคุย เธอจะได้มั่นใจ”
“ไม่ต้องเลย! สายแล้วเนี่ย! โอ้ยยย!! จะบ้าตาย ไปๆๆๆ”
ว่าแล้วก็ต้องออกแรงฉุดกระชากกันอีกครั้ง นี่อีกนิดเดียวก็จะได้เข้าสตูดิโอแล้วถ้าไม่ติดว่าคนไม่ให้ความร่วมมือแล้วยังโยกโย้จนน่ารำคาญ เท่าไหร่ก็ไม่ยอมแถมยังกดโทรศัพท์โทรออกยิกๆ นี่จะเอาให้ได้เลยใช่มั้ย! ดื้อเป็นเด็กๆเลยนะอู๋อี้ฟาน ฮึ่ย!
“แป๊บนึงนะ เบอร์นี่...ทำไมมันโทรไม่ติดวะ!!”
ปักหลักกดจนโทรศัพท์จะทะลุไม่มีขยับไปไหน แต่โทรเท่าไหร่มันก็ไม่ติด นี่ปิดเครื่องหรือเปลี่ยนเบอร์หนี จะว่าไป...ตั้งแต่วันนั้นที่แยกกันตอนเช้าเขาก็ไม่ได้ติดต่ออะไรไป ส่วนอีกคนก็ไม่ได้ติดต่อกลับมา หรือว่าเขาจะโดนชิ่งเข้าแล้ว! เฮ้ย! จะทำงี้ใช่มั้ยคิมจุนมยอน ไม่ทำตามสัญญาแล้วจะปล่อยให้ฉันหน้าแตกเร๊อะ! รับโทรศัพท์เดี๋ยวนี้นะเฟ้ย!!”
“...”
“เออๆ จะให้ฉันบอกแคนเซิลงานเขามั้ย”
“แป๊บเดียวๆ ทำไมไม่รับสายวะ!!!”
“...”
“เฮ้ย! แม่งเอ้ย!! เดี๋ยวนะขออีก 30 วิ”
“...”
“เดี๋ย...”
โลกหมุนช้าลงหรือว่าไอเย็นที่แผ่ไปทั่วบริเวณนี้จะทำให้เขาหยุดนิ่งลงอย่างช้าๆ แม่แต่เสียงตู๊ดๆจากโทรศัพท์ที่ติดต่อไม่ได้ ก็ดูเหมือนจะดังช้าลงจนค่อยๆดับไป ทำไมมันเย็นหลังวาบๆหรือว่าเราจะคิดไปเองนะ แต่ก็ไม่น่าใช่...
O O;;
“จะ-ให้-บอก-แคน-เซิล-งาน-เขาเลยมั้ยห๊ะ! อู๋อี้ฟาน!ไอ้ดาราเจ้าปัญหา!!!”
“อะ...อ้ากๆ เจ็บๆเจ็บแล่ว ยอมแล่ว โอ๊ยยย!! มันเจ็บบบบบบ”
.
.
.
.
“คราวหน้าแวะมาอีกนะครับคุณลุง กลับดีๆนะครับ ขอบคุณที่มาอุดหนุนครับ”
เด็กเสิร์ฟตัวขาวโค้งเก้าสิบองศาให้คุณลุงขาประจำที่เดินยิ้มแย้มออกนอกร้านไปอย่างมีความสุข ก่อนคนที่ทักทายคนนู้นคนนี้ไปหมดทั้งร้านจะลงมือเช็ดถูพื้นตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างตั้งอกตั้งใจ วันนี้ก็ถือเป็นนิมิตหมายอันดีพอสมควรเพราะลูกค้าที่เข้าร้านกันอย่างเนืองแน่นจนแทบจะไม่มีที่นั่งว่างสำหรับลูกค้าใหม่ ตอนนี้ทุกคนก็เลยต่างคนต่างทำงาน ไม่งั้นคงได้ยินเสียงคิมจงฮยอนว่าแซวอะไรเขามาแล้วแน่ๆเลย
“จุนเดี๋ยวถูพื้นเสร็จแล้วไปช่วยหลังร้านทีนะ”
“ครับผม”
พี่อนยูเต้าหูฟองดูผู้ขาพับขาอ่อนได้ทุกสถานการณ์และสร้างความพินาศระดับสิบได้ไม่ต่างจากคิมจุนมยอนแอบมาซุ่มกระซิบอยู่หลังน้อง ว่าเป็นคำสั่งจากนายใหญ่ประจำร้านนามคิมคีย์
“คีย์บอกว่าเดี๋ยวจุนไปทำเป๋อใส่ลูกค้าหน้าเลือดเหมือนตอนนั้นอีก”
“โธ่! ถ้ามีอะไรแบบนั้นอีกผมลาตายเลยพี่ ไม่เอาแล้ว! ฝันร้ายสุดๆ”
“อือ...งั้นทีหลังก็ระวังด้วยละ..เฮ้ยๆๆๆ!!!”
“พี่อนยู!! ฮืมมมม~ มีหน้ามาบอกคนอื่นให้ระวัง พี่เองนั่นแหล่ะต้องระวังให้ดีเลย”
ช่วยคนแก่แข้งขาอ่อนแรงไม่ให้ล้มจนเทซุปใส่หัวลูกค้าเสร็จแล้ว ก็เดินเลยไปถูพื้นตรงอื่นต่อให้วาววับ ในหัวก็ครุ่นคิดนึกถึงคนที่ไม่ได้ติดต่ออะไรมา แล้วเขาเองก็ไม่รู้จะต้องติดต่ออะไรไป ตั้งแต่วันที่แยกกันตอนเช้าวันนั้น เขารู้สึกว่าดูคุณดาราขาเหวี่ยงจะแปลกๆไปสักหน่อย บางทีวันนั้นเขาอาจจะมีแคสติ้งบทพระเอกก็ได้เลยทำตัวอบอุ่นนุ่มละมุนเกินปกติไปมากโข (แถมยังพูดว่า...ขอบคุณอีกต่างหาก)
แล้วไอ้สัญญาที่ว่าให้เป็นผู้จัดการชดใช้หนี้ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรนอกเหนือเขียนไว้เป็นพิเศษในสัญญา เขาบอกไปแล้วว่าเขาทำไม่เป็นหรอก แล้วอยู่ดีๆคนเราจะไปทำหน้าที่อะไรแบบนั้นได้ง่ายๆเลยเหรอ ไม่เข้าใจอะไรเลย!แต่วันนั้นก็โดนลากไปไม่มีบอกกล่าว แถมยังไม่เห็นวี่แววว่าจะได้เป็นไอ้ผู้จัดการส่วนตัวนี่ซักนิด เขาว่านะ...ถ้าจับเขาเซ็นสัญญาเป็นคนใช้หรือข้อทาสอะไรแบบนี้ยังจะเข้าท่าซะกว่าเลย
บางที...คนคนนั้นอาจจะลืมเรื่องสัญญาพวกนี้ไปแล้วก็ได้มั้ง คนรวยนี่นามีสิทธิ์จะทำเรื่องประหลาดไม่เข้าท่าได้ล้านแปดแบบไม่มีใครว่า หรือบางที...ถ้าเขาจะเรียกใช้เขาอาจจะโทรมาเองก็ได้มั้ง เบอร์โทรเราเขาก็มีนี่นะ แต่ไอ้เบอร์โทรเขาเราก็มี TT โอ้ยยย~ คิดอะไรนักเนี่ยน่าปวดหัวจังเลย!
จะว่าไปวันนี้ถึงแม้จะต้องทำงานมือเป็นระวิงแต่เขายังไม่ได้ทำของข้าวเสียหาย หรือก่อความวุ่นวายเป็นมหันตภัยใดๆทั้งสิ้น ทุกสิ่งภายใต้รัศมีสองเมตรของคิมจุนมยอนยังคงปลอดภัยดี แม้จะไม่น่าเชื่อเท่าไหร่ก็ตาม
แต่เมื่อกี้ต้องลาคุณลุงแล้วก็รู้สึกเหมือนหางตากระตุกแปลก เขาว่าขวาร้ายซ้ายดีแล้วถ้ากระตุกสองข้างพร้อมกันอย่างงี้จะเรียกอะไรดีล่ะเนี่ย
“คุณจุนมยอน!/พี่จุนมยอน!”
อ่อ...เข้าใจแล้วว่าหางตากระตุกสองข้าง หมายถึงโคตรอภิมหาบรรลัยสินะ!!
ประตูร้านที่เปิดออกพร้อมปรากฏร่างของคุณลูกค้า VIP ที่ต่างส่งเสียงเรียกคนน่ารักประจำร้านอย่างพร้อมเพรียง ไม่วายเขม่นมองหน้ากันก่อนจะพยายามพาตัวเองผ่านประตูมาพร้อมกันทั้งคู่ คนนึงก็มหาอาแป๊ะผู้ทรงธรรม อีกคนก็แพนด้าหน้าคล้ำอมพอร์ตจากเมืองจีน
แทบจะทิ้งไม้ถูแล้ววิ่งหนีไปหลบอยู่หลังร้าน แต่อะไรๆมันก็ไม่เอื้ออำนวยเอาเสียเลย!!!
“คุณจุนจะไปไหนครับ/พี่จุนจะไปไหน!”
ข้อมือขาวสองข้างถูกรั้งไว้จากสองทิศทางด้วยความไวแสง เมื่อคนทั้งขู่ที่เขม่นเขี้ยวเคี้ยวฟันสามารถผลักดันตัวเองผ่านประตูเข้ามาได้พร้อมกันทั้งคู่ มองซ้ายก็เห็นคนหน้าตอบๆสวมแว่นหน้าเป็นนิ้ว ยิ้มแฉ่งทีนี่ตีนกาก็ฟาดเต็มหน้า มองขวาก็เห็นแต่ชุดแน่นมองเลยขึ้นไปก็จะเจอคางแหลมๆกับหน้าตาแป้นแล้นแสนโมเอ้ ยิ่งมองมุมเสยยิ่งปวดใจกับรอยคล้ำใต้ตาที่ก็ฟาดมาไม่ยั้งเช่นเดียวกัน!
ชีวิตคิมจุนจะปังก็งานนี้แหล่ะคะคุ๊ณณณ~!!
“ปะ...ปล่อยผมเถอะครับ ผมจะไปทำงาน”
“โธ่! อย่าทำร้ายจิตใจผมอย่างนี้สิครับ ผมพึ่งจะมาพึ่งจะได้เห็นหน้าคุณจุนยังไม่ทันหายคิดถึงเลย”
“พี่จุนคร้าบ! น้องเทาเลิกเรียนแล้วก็รีบมาหาพี่เลยนะครับ น้องเทาไม่เถลไถล น้องเทาไม่นอกใจ น้องเทารักพี่จุนคนเดียวนะครับ”
“ปล่อย...ปล่อยนะทั้งคู่เลย”
มันปังมั้ยล่ะ TT อืมมม...ไม่เจ็บอย่างฉันใครจะเข้าใจ พยายามจะสะบัดสุดแรงเกิด แต่ไม่รู้ว่ามือคนหรือมือกาวมันถึงได้เกาะแน่นเหนียวหนึบขนาดนี้ แล้วคนปฏิเสธใครไม่ได้แบบนี้จะมีที่ยืนในสังคมได้อย่างไร
“คุณจุนมยอนครับ ตกลงกับผมก่อนว่าวันนี้เลิกงงานแล้วจะให้ผมไปส่งคุณ...นะครับ”
อ่ะแฮ่ม! ขอพื้นที่ให้คนหล่อขอทำดีได้ออกมาหาเสียงให้ท่านผู้อ่านได้เห็นหน้าเห็นตากันบ้างนะครับ คือกระผมมายเนมอีสคิมจงแดครับแต่เพื่อนๆนักปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่ก็จะเรียกเฉิน น่ารักหน่อยก็เฉินเฉิน หรือไม่ก็เรียกมหา,ไอ้มหาตามสะดวกครับ แฮะๆ ผมเป็นคนพูดน้อยครับแต่รักใครแล้วรักจริงไม่ติงนัง ไม่มีทิ้งขว้างอย่างแน่นอน โปรดเชียให้คุณคิมจุนมยอนได้ตกเป็นของผมอย่างสมบูรณ์ด้วยนะครับ ถ้าอยากร่วมขบวนทอดผ้าป่าสามัคคีรักเจ็ดปีดีเจ็ดหน ติดต่อได้ที่ทวิตเตอร์หรือเฟสบุ๊คอินสตราแกรม ฯลฯ ด้านล่างนะครับ ขอบคุณครับ ^^
“พี่จุน! อย่าไปสนใจลุงแก่ๆเลยครับ วันนี้ผมขับฮารเล่ย์คันใหญ่มาเลยครับ นั่งสบายลมพัดเย็นๆด้วยฮะ เดี๋ยวผมไปส่งพี่ที่ห้องเลยนะ”
คนแก่หลบไปเด็กรุ่นใหม่เค้าต้องเฟี้ยวใจใหญ่สปอร์ตกรุงโซลครับ ผมคือฮวัง จื่อเทาคนหล่อขอทำเพื่อพี่จุนมยอนครับ ผมเป็นเด็กมัธยมปลายที่พ่วงตำแหน่งลูกเจ้าพ่อมาเฟียด้วยครับ ผมเลวกับทุกคนครับไม่ไว้หน้าใคร แต่คนที่ยอมหมดทั้งใจก็มีแค่พี่จุนคนเดียว ผมไม่เคยรักใครเท่าพี่จุนมาก่อนเลยครับ ถ้าไม่มีตัวมารอย่างคิมจงดักแด้คอยขัดขวาง เราคงได้แต่งงานแล้วใช้ชีวิตอยู่ในปราสาทอย่างมีความสุขแบบฟอร์เอเวอร์ไปแล้ว แต่ผมก็จะไม่ท้อหรอกครับ ผมมีใจรักจริงเจ็บจริงแล้วผมยังถือคติว่ามือเท้าปากชนะทุกอย่าง ต่อให้ผมต้องฟาดฟันคนอีกร้อยล้านที่เข้าคิวจะมาแย่งพี่จุนมยอนของผมไป ผมก็จะใช้วิชาปากว่ามือขยับจับขาพาดบ่าแล้วฟาดหน้าด้วยข้อศอกให้สลบหงายหายไปทุกคนเลย ช่วยเชียร์ให้พี่จุนมยอนเลือกผมทีนะครับ ผมจะมอบหัวใจให้คุณสองดวงเลย จุ๊บๆครับ ^^
“เออๆๆ มากันอีกแล้ว จะเต๊าะเขาไปอีกกี่ปีกี่ชาติวะ เขาไม่เอายังไม่รู้ตัวอีกไง”
ผู้พิทักษ์ชั่วคราวเดินมาคล้องคอลากน้องออกมาให้พ้นจากสองมือมารที่ปากว่าตาขยิบเหลือเกิน ทำเป็นพูดดีแต่ก็เห็นแอบแต๊ะอั๋งทุกที นี่ก็ไม่เคยรู้เรื่องรู้ราวให้เขายืนจับมืออยู่ได้ตั้งนานสองนาน เห็นแล้วก็หงุดหงิดรำคาญลูกตาของคิม จงฮยอนเสียเหลือเกิน
มากี่ครั้งก็มีอันต้องฟาดฟันทุกครั้ง บ้างทีนะถ้าจุนมยอนตัดปัญหาโดยการมีแฟนเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่ไอ้สองคนนี้คงจะดีไม่น้อย เผื่อว่ามันจะท้อจนเลิกเต๊าะไปซักที
“ความรักชนะทุกสิ่งนะครับคุณจงฮยอน”
“พี่เตี้ยหลบไปเถอะ ผมมีความรักของผมก็พอแล้ว”
พอพูดคำว่าเตี้ยแล้วก็ดึงคิ้วกระตุกทั้งพี่ทั้งน้อง คือตอกย้ำทำไมเหรอ? มันผิดมากใช่มั้ยที่คนเราจะเกิดมามีส่วนสูงที่แตกต่างตามความหลากหลายทางชีวภาพที่พึงมี ทำไมต้องตอกย้ำต้องทำให้เจ็บช้ำในหัวใจ เรื่องแบบนี้มันกำหนดกะเกณฑ์กันได้เหรอ คิดเหรอว่าจุนมยอนคนนี้อยากจะเกิดมาสูงแค่หัวไหล่ไอ้เด็กจีนตาแพนด้าที่เกิดมาช้ากว่าตั้งหลายปี
โอ๊ย! ของขึ้น!!
“เฮ้ย! แล้วฉันไปเตี้ยบนหัวนายไงวะ ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นใบไผ่!!”
“พี่จงฮยอนนนน~ ใจเย็นๆครับ”
.
.
.
สงครามสงบลงพร้อมกับคิมจุนมยอนผู้ยัก็ล้างคงมีหัวใจตุ้มๆต่อมๆ มือก็วนๆลูบๆล้างจานทั้งต้องคอยระวังไม่ให้ทำจานแตกแล้วก็ยังต้องคอยออกมาชะเง้อมองดูว่าผู้ชายสองคนจะสร้างปัญหาอะไรให้ร้านต้องวุ่นวายจนเขาจะพลอยโดนดุไปด้วยหรือเปล่า
ก่อนหน้านั้น 10 นาที หลังจากลากคิมจงฮยอนไปเก็บไว้ในตู้เย็นเขาก็ต้องออกมาจัดการตัวก่อความวุ่นวายที่มีแนวโน้มจะสร้างหายนะระดับสิบ วันนี้คงไม่ใช่วันของเขาเท่าไหร่เขาไม่สามารถจับสองคนนั้นแยกกันได้เหมือนที่ไม่สามารถทำให้แยกออกไปจากตัวเขาเสียที จุนมยอนจำใจต้องบังคับให้ทั้งสองคนนั่งอยู่ด้วยกันอย่างสันติ เพื่อเอื้ออำนวยต่อลูกค้าคนอื่นเนื่องจากยังไงสองคนนี้ก็ไม่มีทางจะกลับก่อนเวลาร้านปิดแน่นอน
เผลอๆบางที...ถ้าเกิดว่าเปลี่ยนใจไปได้กันเองนั้นจะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน
“เป็นอะไรน่ะจุนมยอน เห็นชะเง้อๆอะไรอยู่นานแล้วนะ เมื่อไหร่จะล้างจานเสร็จ”
“อ่า...ขอโทษทีครับ ผม...กลัวร้านจะวุ่นวายเพราะผมน่ะ”
ตอบคำถามพี่ชายตัวสูงคอตก มือก็ถูๆลูบๆให้จานใบน้อยนั้นสะอาดขึ้นมาแต่ก็ยังคงความระมัดระวังอย่างดีเพื่อไม่ให้หลุดร่วงจนสร้างความเสียหาย ทำปากยื่นเป็นน้องเป็ดจนพี่นึกเอ็นดูอดจะเอื้อมมือมาตบบนกลุ่มผมนุ่นนิ่มเบาๆ เป็นกำลังใจให้ได้อย่างเดียวเท่านั้นเอง ถ้าถามเขาสองคนนั้นไม่มีสิทธิ์ผ่านซักคนถึงจะแวะเวียนมาตั้งเป็นนานเกือบปี แต่ก็ไม่มีแววเลยซักนิดเดียว
“แล้วนี่จะกลับบ้านกับใคร ต้องเลือกมั้ยหรือยังไง”
“ฮื่อ ผมไม่อยากกลับกับทั้งสองคนนั่นแหล่ะ! ต้องเลือกด้วยเหรอ”
“ฮ่าๆๆๆ เอ้า! ปกติก็เห็นเราสองสามคนทุกที ถ้าจงฮยอนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวน่ะ”
“เราสองสามคนแบบนี้ ผมอยู่คนเดียวดีกว่า”
โคลงศรีษะคนตัวขาวที่ทำปากยื่นปากยาวอย่างน่ารัก ก็น่ารักแบบนี้ไงเขาถึงได้ตามขายขนมจีบกันอยู่แบบนี้
“ก็หลบออกหลังร้านแล้วกัน ถ้ามีอะไรก็โทรมา กลับก่อนร้านปิดก็ได้”
“หลบออกหลังร้านอาจจะได้ แต่ถ้ามีอะไรให้โทรไปจริงๆนี่คงไม่ได้อ่ะครับ”
“อ้าว! ยังไงล่ะเรา ตังค์โทรศัพท์หมดเหรอ”
“เปล่า ผมทำหายแบบหายไปเลย หายไปไหนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้”
ความซุ่มซ่ามไม่เลือกที่เลือกทางของคนเราสินะ โทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งก็ใช่ว่าจะราคาวอนสองวอน ถึงจะเลือกแบบที่ราคาไม่แพงมากจอขาว-ดำแค่โทรเข้าโทรออก สำหรับคิมจุนมยอนที่รายได้ถูกจำกัดให้พอถูไถใช้อย่างพอดีตลอดเดือนก็จัดว่าการซื้อมือถือใหม่เป็นสิ่งฟุ่มเฟือยอย่างไม่น่าให้อภัย
“เฮ้ย! มันก็ต้องมีโทรศัพท์นะ ปุบปับธุระจำเป็นจะได้มีไว้ติดต่อ”
“เอาไว้ผมหยอดกระปุกเหลือๆพอซื้อแล้วค่อยว่ากัน ตอนนี้เงินจะกินจะใช้ยังแทบไม่พอ”
“ไว้พี่จะหามาให้ยืมใช้...”
“ไม่เอานะ! ผมไม่ใช่หรอก ตอนนี้โอเคไม่มีโทรศัพท์ก็ไม่เห็นเป็นไร ไม่มีใครโทรหาผมหรอก”
“แน่ใจ?”
“อืม...แน่ใจสิครับ ทำงานๆเถอะวันนี้ลูกค้าเยอะจัง เฮ้อๆ”
โทรศัพท์เขาน่ะเหรอ...ไม่มีใครโทรมาหรอก พ่อกับแม่ก็คงโทรมาช่วงสิ้นๆเดือนๆจะว่าไปความจริง...ก็ไม่ได้มีใครติดต่ออะไรเป็นพิเศษซักหน่อย เดี๋ยวยังไงหยอดตู้โทรศัพท์ไปก่อนก็แล้วกัน
.
.
ว่าแต่ว่า...รู้สึกลางไม่ดียังไงไม่รู้แฮะ เหมือนโคตรอภิมหาบรรลัยจะยังไม่จบแค่สองคนนั้น
.
.
.
รู้สึกว่าซุปเปอร์อภิมหาบรรลัยจะคลืบคลานมาใกล้ยังไงไม่รู้สิ
----- 60% -----
*ขอแปะโป้งคำผิดไว้ก่อนนะคะ*
*ขอโทษที่มาต่อช้าคะ TT *
ความคิดเห็น