คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : คุ ณ ผู้ จั ด ก า ร ll Intro
lIntrol
ร่างสูงโปร่งของปาร์ค ชานยอลเจ้าของบริษัท P.K.เอนเตอร์เทนเม้นท์นั่งกุมขมับถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนหลังจากพึ่งกดปิดทีวีจอยักษ์ที่อีกฝั่งของโต๊ะทำงาน หนีจากข่าวบันเทิงที่ทำให้เขาต้องเซ็นเช็คจ่ายค่าเสียหายให้กับบริษัทออกแกไนซ์ไปสดๆร้อนๆ
“แทมิน โทรหาคยองซูให้ที”
กดโฟนหาเลขาคนสนิทที่หน้าห้องดวงตาคมวาวโรจน์เมื่อคิดถึงหน้าดาราในสังกัดกับพาดหัวข่าวที่หราไปทั่วทุกสื่อบันเทิง ถึงจะเกิดเป็นเรื่องธรรมดาที่ซุปตาร์จะคู่กับข่าว(คาว) แต่ไอ้การมีข่าวฉาวหรือการทำตามใจจนบริษัทต้องจ่ายเงินเป็นล้านๆเพื่อปิดข่าวหรือชดใช้ค่าเสียหายนี่เขาก็คิดว่ามันออกจะมากเกินไปเสียหน่อย จนต้องให้เลขาช่วยโฟนหาผู้จัดการส่วนตัวคุณดาราตัวแสบ
“ผมโอนสายเลยนะครับคุณชานยอล”
“อือ” ตอบรับสั้นๆก่อนจะกดสปีกเกอร์ เวลานี้อารมณ์ไม่คงที่จนต้องลุกเดินไปทั่วห้อง ถ้าขืนยังมีแต่เด็กในสังกัดนิสัยอย่างนี้บริษัทคงต้องปิดตัวลงในรุ่นเขาเป็นแน่
[ อ่า...สวัสดีครับคุณชานยอล ]
“ดีโอ! เด็กนายทำเรื่องอีกแล้วนะ!!”
เสียงทุ้มทรงพลังดังลั่นห้องทำงานจนคุณเลขาหน้าห้องถึงกับสะดุ้งเฮือก แล้วมีหรือคนในสายจะเหลืออะไร ต่อให้ปาโทรศัพท์ทิ้งเสียงของปาร์ค ชานยอลก็คงทำให้เขากลัวจนหัวหดได้อยู่ดีนั่นแหล่ะ!
[ ผม...ผมขอโทษครับ ผะ...ผมจะตักเตือนเขา... ]
“ตักเตือน! ตักเตือนเหรอ”
[ ... ]
“มันจะมีข่าวนี่ให้ได้ทุกวันเลยใช่มั้ย! รอบนี้ก็เบี้ยวงานเขาจนงานเขาเสียหาย แถมเขายังออกไปพูดกับสื่อว่าคนของเราเรื่องมาก เลือกงานไร้ความรับผิดชอบ! ถึงมันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ! แต่แฟนคลับฟังแล้วเขาจะรู้สึกยังไง เขาโทรมถอนสปอนเซอร์ไปเท่าไหร่รู้มั้ย!! บริษัทเสียหายเพราะคนทำอะไรไม่รู้จักคิดคนเดียวเนี่ย!!”
[ เอ่อ...ใจเย็นๆครับคุณชานยอล ผมจะคุยกับเค้า ]
“ถ้านายดูแลเขาไม่ได้นะดีโอ! ฉันจะไล่เขาออกเอง หรือไม่ฉันจะลาออกไปเป็นผู้จัดการให้ซะรู้แล้วรู้รอด! ถ้าพ่อรู้มีหวังกินหัวฉันแน่ๆ เล่นทำตัวเป็นเด็กเส้นใหญ่คับบริษัทขนาดนั้น คอยดูนะฉันจะจัดการเอาให้จ๋อยไปเลย! จะไม่ปล่อยอีกแล้ว! ไม่มีทาง!!”
[ ใจเย็นๆครับคุณชานยอล ใจเย็นๆครับ ]
โกยอากาศเข้าปอดอย่างหนักหน่วงค่อยๆสงบลงช้าๆ คนปล่อยระเบิดตูมลูกใหญ่ทั้งที่ปกติจะเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ได้ดีที่สุดแท้ๆ แต่พอนึกถึงหน้าตาไร้อารมณ์ของคนเป็นพี่ที่พ่วงตำแหน่งศิลปินในสังกัดแล้วมันก็อดจะอารมณ์เสียไม่ได้ ความจริงเขาคิดเรื่องจะจัดการกับคุณดาราตัวแสบคนนี้มาซักพักแล้ว แต่ไม่อยากจะใช้ไม้แข็งเพราะก็ยังถือว่าเป็นพี่เป็นน้องกัน แต่อีหรอบนี้คงต้องเอาจริงซะแล้ว!
“บอกให้ไอ้คุณพี่ชายสุดที่รักของฉันมันเข้าบริษัทมาซะดีโอ ฉันจะให้โอกาสทั้งนายและมันเป็นครั้งสุดท้าย”
สายตัดไปพร้อมกับมือหนาที่ทุบลงบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ สายตาคมที่เคยเปล่งประกายสดใสฉายแววเจ้าเล่ห์ร้ายกาจอย่างปิดไม่มิด มองผ่านไปยังภาพผู้ชายร่างสูงโปร่งผมสีทองในชุดสูทดูดีกับใบหน้าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติที่ติดอยู่บนพนัง ก่อนจะใช้โทรศัพท์เครื่องหรูกดต่อสายหาใครอีกคนที่คงเป็นตัวช่วยเพียงหนึ่งเดียว ได้เจอของจริงแน่...
...อู๋ อี้ฟาน...
......
....
...
.
ห้องชั้นบนสุดของคอนโดหรูที่อาจจะเรียกได้ว่าถูกปิดตาย หน้าต่างกระจกโดยรอบถูกผ้าม่านผืนใหญ่ปิดกั้นแสงสว่างทุกทาง เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดถูกปิดสนิททุกอย่างเงียบงันยกเว้นเพียงแต่เสียงลมหายใจแผ่วของร่างสูงโปร่งที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนโตเท่านั้น
ปึงๆๆๆๆๆๆ!!!
“คุณคริสสสสสส!!! เปิดประตูหน่อยเว้ย!!”
คนตัวเล็กแทบจะสติแตกตายมือบางระดมทุบประตูจนปวดมือ ตะโกนจนเสียงแหบแห้งก็ไร้วี่แววจะมีสิ่งมีชีวิตขยับตัวมาเปิดประตูบานใหญ่นี้ ถึงจะใช้คีย์การ์ดที่บังคับแทบตายกว่าจะได้มาเปิดประตูห้องเข้ามาได้ แต่ห้องส่วนตัวสำหรับกิจกรรมอย่างว่าที่ยังคงปิดตายนี่ก็ไม่ใช้ที่ที่จะสามารถผ่านเข้าไปได้โดยง่าย
โด คยองซูถอนหายใจพรืด หลังวางสายจากคุณผู้บริหารบริษัท เขาก็บึ่งรถมาที่คอนโดนี้ด้วยความไวแสง มาเพื่อพบกับห้องว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยเศษซากเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายของทั้งชายและหญิง อีกอย่างที่เป็นหน้าที่ของคยองซูคือการเดินก้มๆเงยๆไปทั่วห้อง จัดการกับความสกปรกที่คุณดาราของเขาไม่ยอมให้แม่บ้านหน้าไหนเข้ามาวุ่นวาย อู๋ อี้ฟานเกลียดการถูกรุกล้ำความเป็นส่วนตัวพอๆกับเกลียดการถูกบังคับ อย่างไอ้งานเดินแบบเมื่อคืนที่จู่ๆเจ้าตัวก็ขับรถหนีไปเที่ยวหน้าตาเฉย ทิ้งโน้ตภาษาจีนสั้นๆที่เขาแปลไม่เข้าใจไว้ให้แผ่นเดียว
“ไม่อยากจะเชื่อเล้ยยยย!!”
ปากรูปหัวใจบ่นอุบอิบเมื่อนึกเปรียบเทียบสองพี่น้องต่างสายเลือด คริสเป็นลูกติดของพ่อคุณชานยอล แต่ว่านะก็มีพ่อคนเดียวกันนี่ทำไมมันถึงต่างกันอย่างนี้! คุณชานยอลถ้าไม่นับเวลาระเบิดลงก็เป็นคนสุภาพอ่อนโยนที่อยู่ใกล้แล้วก็แทบละลายเลยล่ะ ><! อึ้ยยยย~ คิดไปเขินไประหว่างที่กำลังจัดการเตรียมอาหารเช้าแก้แฮงค์ให้คนที่ยังคงพักผ่อนอยู่ในห้อง
“กรี๊ดดดดดดด! นี่คุณให้ฉันใส่เสื้อผ้าก่อนได้มั้ย!”
อุหว๋า! O_o
คุณผู้จัดการส่วนตัวหันหน้าหนีแทบไม่ทัน เมื่อร่างเกือบเปลือยของคนทั้งคู่โผล่ออกมาจากประตูบานที่เขาระดมทุบไปเมื่อก่อนหน้านี้ หญิงสาวที่มีผ้าห่มผืนใหญ่ปิดบังแค่ส่วนด้านหน้า ส่วนร่างสูงโปร่งเจ้าของใบหน้าไม่สบอารมณ์นั้นน่ะเหรอ ก็อยู่ในผ้าขนหนูผืนเล็กๆผืนเดียวที่จะหลุดแหล่มิหลุดแหล่อยู่น่ะสิ!
“ออกไปได้แล้ว! อย่าลีลาได้มั้ยห๊ะ! ยัยพลาสติกเอ้ย!! เจอไฟหน่อยนี่ก็ละลายจนดูไม่ได้แล้ว!!”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!!”
“กรี๊ดให้พอใจแล้วก็ออกไปได้แล้ว! น่ารำคาญ!!”
“คุณทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้นะ!! จะให้ฉันเดินเปลือยลงไปถึงข้างล่างเลยหรือไง”
“เฮอะ! ไอ้ชุดที่เธอใส่เมื่อคืนมันห่างไกลคำว่าเปลือยมากเลยสินะ!! ยัยพลาสติก! เธอน่ะพลาสติกทั้งตัว ไม่ต้องอายหรอก! เพราะมันไม่มีของจริงซักอย่าง! ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!”
ร่างบอบบางดิ้นเร่าๆพร้อมกับส่งเสียงกรีดร้องจนแสบแก้วหู แต่คนปากร้ายก็แค่ทำเมินไม่ใส่ใจก่อนจะแค่ชี้ที่ไปยังประตูห้องเท่านั้น หน้าที่ผู้จัดการส่วนตัวคือต้องจัดการเรื่องต่างๆให้คุณดาราจอมเอาแต่ใจคนนี้ด้วยใช่มั้ย คยองซูเดินตรงไปคว้าผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่จากในห้องน้ำมาห่อคลุมกายบางจากด้านหลัง แค่เห็นหน้าเขาคุณดาราก็ส่งภาษามาทางสายตาคมเข้มคู่นั้นทันที
‘ยุ่งไม่เข้าเรื่อง!’
แต่มันก็อดจะสงสารไม่ได้นี่ เห็นหน้าแล้วก็พอนึกออกว่าเป็นนางแบบซักคนที่เคยเห็นผ่านๆตามงาน เมื่อคืนคงไปหิ้วมาจากผับที่ไหนซักที่สินะพอสุขสมได้อย่างใจก็ไล่เขาอย่างกับหมูกับหมา แบบนี้ตลอดเลย! ตั้งแต่เขาอยู่กับคุณคริสมาปีกว่าก็ไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้จะดูแลคู่นอนของตัวเองคนไหนซักคน ใจร้ายจริงๆ! มองคนตัวสูงกว่าอย่างเคืองๆก่อนจะค่อยๆประคองหญิงสาวที่สภาพหน้าตาดูแทบไม่ได้ออกห่างมา
“เอ่อ คุณไปจัดการตัวเองในห้องน้ำก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะไปเอาเสื้อผ้าคุณมาให้ พอดีผมกำลังซักให้อยู่น่ะครับ”
“เอ่อ...ค่ะ”
“จุ้นจ้านตลอดเลยนะนายน่ะ!”
....
“คุณคงไม่พูดเรื่องนี้กับใครหรอกนะครับ เพราะผมไม่อยากให้คนที่เสียหายไปคุณ คนอื่นเขาจะมองคุณไม่ดี หวังว่าจะเข้าใจนะครับ”
นี่เป็นประโยคที่เขาทิ้งไว้ให้กับหญิงสาวที่เขาลงไปส่งเธอขึ้นแท็กซี่ที่ด้านล่าง แน่ล่ะคนอื่นจะมองผู้หญิงที่มานอนกับผู้ชายง่ายๆ แถมเช้าขึ้นมายังถูกไล่ขนาดนั้นว่ายังไง คุณคริสเขาไม่เสียหายอะไรหรอก อย่างมากก็โดนคุณชานยอลฆ่าเท่านั้นเอง (มั้ง TT)
กลับขึ้นมาก็เห็นคุณดาราในสภาพเรียกเลือดกับผ้าขนหนูผืนเดียว ไหนจะนั่งเอาขาพาดกับโต๊ะหน้าโซฟาจนพามันเลิกพาลจะเห็นไปไหนต่อไหน ผมที่เคยเป็นทรงดูดีก็ชี้โด่เด่ไม่เป็นทรง ถ้าไม่ใช่คุณคริสล่ะก็ รับรองใครสภาพนี้ไม่มีทางหล่อลากกระชากตับได้เท่านี้แน่นอน!
“จัดการเรียบร้อยแล้วสินะ ฉันหิวแล้วน่ะ เร็วๆหน่อย”
อ่า...ครับๆๆ คุณคริสไปอาบน้ำเลยสิครับ”
“วันนี้ไม่มีงานไม่ใช่หรือไง”
“คือ...คือ...คุณชานยอลเขาเรียกเข้าบริษัทน่ะครับ เรื่องข่าวกับงานเมื่อวานนี้”
“ก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าฉันไม่ทำ หึ! ยัยป้านั่นเดี๋ยวฉันตามไปดิสเครดิตให้ขายงานไม่ออกเลย”
“แหม~ แต่คุณไม่ควรจะจงใจหนีงานแบบนั้นนี่ครับ เขาเจาะจงเลือกคุณมาแล้วบริษัทก็เห็นว่าคุณเหมาะกับงานนี้ ผมว่า...”
“โด คยองซู”
พับเก็บไอ้ที่ว่า ‘จะตักเตือนเขาครับ’ ลงไปในกระเป๋าได้เลย เห็นคิ้วเรียวที่ถูกทำให้เป็นรอยแหว่งแบบเท่ๆตรงหางคิ้วข้างซ้ายนั้นขมวดเข้าหากันเป็นปมแล้วก็แทบจะเผ่นหนี ก่อนนี้เขาก็เป็นผู้จัดการส่วนตัวที่ดีนะ จัดการอะไรๆได้เรียบร้อยตามแบบเขาเสมอล่ะ แล้วก็เป็นเหมือนเพื่อนกันนะกับดาราในสังกัด แต่พอโดนส่งมาดูแลคนนี้แล้ว
...แทบอยากจะลาออกไปส่งพิซซ่าแทนเลยทีเดียว TT...
“อ่า...คุณคริสไปเตรียมตัวเข้าบริษัทเถอะครับ เดี๋ยวอาหารเช้าก็เสร็จแล้ว”
“น่าเบื่อจริงๆ จะเรียกเข้าไปทำไม ก็เหมือนเดิมๆ”
“แต่วันนี้ดูเขาจะโมโหอยู่หน่อยนะครับ”
“น้องฉันมันโมโหคนเป็นด้วยเหรอ น่าดีใจจัง! เออ! งั้นไม่กินแล้วข้าวเนี่ย ไปกวนโมโหคนนี่น่าสนุกกว่าเยอะ”
ปัง!!
แล้วประตูห้องนอนก็ปิดลงไปพร้อมกับอาหารเช้าที่สุกได้ที่พอดี
“คุณคริสสสสสสสสสสส T^T”
.....
...
.
“มีอะไรก็ว่ามา”
แม้จะใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงกว่าที่คนตัวสูงจะยอมก้าวเท้าออกจากห้องคอนโดหรูของตัวเอง เล่นเอาคนนั่งเฝ้าถึงกับกุมขมับ ลำพังอาบน้ำนี่ก็เกือบชั่วโมงปล่อยให้เขาหลับรอไม่รู้กี่ตื่น ยิ่งตอนแต่งตัวนี่ยิ่งปัญหา 2 ชั่วโมงกว่าที่โดคยองซูกลายร่างเป็นราวแขวนผ้าเคลื่อนที่ของคนที่ขยับไปทางนู้นทีทางนี้ทีในห้องแต่งตัวแสนกว้าง ยังดีที่ช่วงนี้ลุคของคริสเป็นแบบเซอร์ๆผมสั้นๆหน่อย แค่สะบัดๆจัดๆนิดหน่อยก็ก้าวเท้าออกจากคอนโดได้ไม่ต้องวุ่นวายโทรตามช่างทำผมมาเซทให้ยุ่งยาก
นี่พอมาถึงก็ทิ้งตัวนั่งบนโซฟารับแขกทันที น่าแปลกที่คุณชานยอลก็ยังคงจัดการธุระเรื่องงานด้วยใบหน้าแจ่มใส ไม่ได้แผ่ออร่าน่ากลัวเช่นเมื่อเช้าออกมาแต่อย่างใด
แต่เอ...คลื่นนิ่งนี่มันน่ากลัวที่เนอะ เดี๋ยวก็มาเป็นสินามึ! ตู้มมมม!!
“ไหนคยองซูบอกว่าแกโมโห ก็ยังทำหน้าระรื่นเหมือนปกตินี่”
ร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อผ้าแบรนด์ดังราคาเรือนแสนนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาอยู่ในท่าทางแสนเท่ไม่ทิ้งคราบนายแบบสุดฮอตระดับเอเชีย แขนที่ยกขึ้นกอดอกแว่นตาสีดำที่ยังค้างอยู่บนสันจมูกกับใบหน้าที่เงยขึ้น 45 องศา สายตามองเหม่อออกไปยังวิวของตึกระฟ้าภายนอกอาคารผ่านบานหน้าต่างใส คยองซูคิดเล่นๆว่าบางทีคุณคริสอาจจะนึกว่าที่นี่เป็นสตูดิโอที่มีฉากกั้นกับไฟที่ฉายลงมา พร้อมกับตากล้องที่กำลังเตรียมจับภาพ
จะ Keep Look ไปไหนนะพ่อคุณ -.-
“ก็...เมื่อเช้าผมก็หงุดหงิดนิดหน่อย”
“แล้วแกเรียกฉันเข้ามาทำไม วันนี้วันหยุดฉัน”
“เดี๋ยวพี่ก็รู้เองแหล่ะ”
คิ้วเรียวเลิกขึ้นก่อนจะพิงตัวไปกับโซฟารอคอยเวลาให้ผ่านไปอย่างเชื่องช้า ดวงตาคมภายใต้แว่นกันแดดสีชาราคาแพงระยับจ้องมองไปยังน้องชายในชุดสูทภูมิฐานที่กำลังคร่ำเคร่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ไม่รู้มาก่อนว่าชานยอลรับภาระที่เขาโยนทิ้งไปอย่างไม่ใยดีหนักไม่ใช่เล่น พวกเขาสองคนไม่ใช่พี่น้องประเภทไม่ถูกกัน แต่กลับรักกันมาเสียด้วยซ้ำ เพราะก็ดูแลกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร อีกอย่างถ้าไม่ใช่เพราะชานยอล เขาก็คงไม่ได้มาเป็นดาราดังระดับเอเชียอยู่อย่างตอนนี้แน่
บางทีอาจเป็นเขาแทน...ที่กำลังนั่งปวดหัวกับปัญหาที่เขาคงแก้ไม่ตกอยู่หลังโต๊ะนั้น
“เอ้อ! คยองซู...ผมลืมบอกไป ผมจะให้คุณไปดูแลศิลปินคนใหม่ของเรานะ”
“ห๊ะ!!/ห๊ะ!!”
สองเสียงตะโกนออกมาพร้อมกัน แต่เป็นคนตัวสูงที่ลุกพรวดขึ้นหลังจากจบประโยคนั้น ปากอ้าค้างเพราะตกใจจนลืมรักษาภาพพจน์นายแบบสุดเท่ไปเสียสนิท ไม่ต่างจากอีกคนที่ตาโตๆนั้นแทบถลนออกมาจากเบ้า พอประมวลผลได้ก็ดีอกดีใจเงียบๆอยู่คนเดียวแบบไม่ให้ใครรู้
โว้ยยย~ รอดชีวิตแล้ว รอดแล้ว
“ก็เขาชื่ออะไรนะเป็นไฮโซล่ะมั้ง แต่เหมือนจะสนใจงานในวงการ ผู้ใหญ่เขาฝากมา”
“เดี๋ยวๆๆๆไอ้ชาน! แกจะให้คยองซูไปอยู่กับคนอื่นไม่ได้! แกส่งคนอื่นไปสิ!! แต่คยองซูน่ะไม่ได้!!!”
อย่านะคุณคริส!! อย่าพูดแบบน้านนนนนนน~!! TOT
คริสพุ่งตรงไปเท้าแขนบนโต๊ะจ้องหน้าคนที่พิงหลังไปกับเก้าอี้ทำงานตัวหรู ปาร์คชานยอลยกยิ้มราวกับกำลังสบายอกสบายใจหนักหนา ท่าทางแบบนั้นเล่นเอาคริสสติแตก ลองชานยอลยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างนี้ทีไร เขาไม่เคยได้ตายดีซักครั้ง ใครจะรู้หน้าซื่อๆอย่างงี้ร้ายใช่ย่อย!
“ฉันว่านายต้องโอเคมากแน่เลยคยองซู ไปเจอเขาที่ห้องพักสิ ทางนี้ฉันจัดการเอง”
“คุณชานยอล...”
โธ่! ผมน่ะอยู่กับคุณคริสจอมโมโหร้าย เอาแต่ใจ ไร้ความรับผิดชอบมาตั้งปีกว่า จู่ๆจะให้ไปดูแลคนอื่นง่ายๆอย่างนี้น่ะเหรออออออออ...
“ผมไปก่อนนะครับ สวัสดี!”
จะให้อาลัยอาวรณ์เหรอไม่ซะหรอก เผ่นล่ะ! โฮ๊ะๆๆๆ!!
“ไอ้ชาน!!”
RrrrrrrRrrrrrr
“อย่าเสียงดังดิพี่! เดี๋ยวๆนะ ผมรับโทรศัพท์ก่อน”
คริสผ่อนลมหายใจหนัก หมุนตัวกลับไปกระแทกตัวนั่งบนโซฟาด้วยความไม่สบอารมณ์ แต่ก็มีอันให้ต้องกระเด้งตัวขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับการโหวกเหวกโวยวายที่ไร้ภาพลักษณ์ดาราดังโดยสิ้นเชิง หลังจากได้ยินชื่อที่ดังมาจากปากปาร์ค ชานยอล
“โอเค แลนด์ดิ้งแล้วเหรอฮะ โอเครีบๆมานะครับ ‘พี่ยูรา’ ผมรออยู่”
“อะ...ไอ้ชาน! ยัยยูรา...ยัยยูรา ไม่เอาโว้ยยยย!! ไม่เอาๆๆ อย่านะๆๆ แกอย่าทำกับพี่อย่างงี้นะ ไม่เอานะไอ้ชาน! ไม่เอาาาาาาาา!”
ราวกับเมฆหมอกปกคลุมท้องฟ้าของอู๋ อี้ฟานโดยสมบูรณ์ เหมือนโลกจะสลายลงไปตรงหน้าเมื่อได้ยินชื่อของอดีตผู้จัดการจอมเฮี้ยบมือหนึ่งของบริษัทซ้ำยังเป็นพี่สาวแท้ๆของปาร์ค ชานยอล ถึงจะอายุเท่ากันแต่เขาก็ยังจำวันปาร์ค ยูราที่กลายเป็นฝันร้ายของเขาได้เป็นอย่างดี เด็กในความดูแลของปาร์คยูราดังเปรี้ยงป้างและประสบความสำเร็จอย่างมากก็จริง แต่ก็เทียบไม่ได้เลยกับอิสรภาพที่สูญเสียไปอย่างไม่มีทางหวนคืน เขาอยู่ในวงการมานานพอๆที่จะเห็นยูราดันเด็กขึ้นเป็นดาวอยู่หลายคนจนเบื่อหน่ายและขอพักไปทำธุรกิจส่วนตัวที่อเมริกา
ไม่อยากจะเชื่อว่าชานยอจะพายูราที่ลามือจากวงการไปแล้วกลับมาได้ โอยยย!! ถ้าไม่หนีตอนนี้มีหวังไม่รอดแน่เลยยยยยย
หมับ!
“จะไปไหนล่ะครับคุณพี่ชาย”
มือใหญ่ของปาร์คชานยอลคว้าหมับเข้าที่ปกคอเสื้อของคนเป็นพี่ ก่อนจะกลายเป็นแขนยาวๆที่เลื่อนมาล็อกคอเอาไว้เสียแน่นหนา เพราะขนาดตัวที่ไม่ได้แตกต่างกันนักจึงไม่ใช่เรื่องยากที่ชานยอลจะลากคุณดาราใหญ่ให้ออกห่างจากประตูห้องทำงานอย่างง่ายดาย ส่งเสียงหัวเราะหึในลำคออย่างคนมีชัยเหนือกว่าต่างกับอีกคนที่แทบจะร่ำไห้เมื่อนึกถึงตอนเข้าวงการใหม่ๆแล้วเป็นเด็กในความดูแลของปาร์คยูรา
อู๋อี้ฟานที่ทำงานแทบจะ 24 ชั่วโมง เหล้าไม่ได้กินสาวไม่ได้แตะ อย่าว่าแต่เรื่องพรรค์นั้นแค่จะขอเวลาส่วนตัวเข้าห้องน้ำซักหน้าที่สองนาทีก็แทบจะไม่มี เขาเคยพยายามที่จะเมินเฉยและทำตามใจตัวเองตามนิสัย แต่มันกลับจบลงที่เขาถูกลากกลับจากผับโดนประจานขึ้นหน้าหนึ่งโดยมีผู้จัดการตัวเองเป็นคนปล่อยข่าว งานหดหายไปพร้อมๆกับบัตรเครดิตและเงินสดที่ถูกยึด ถ้าไม่ได้พ่อที่กลับมาช่วยเขาอาจจะได้ด้วยน้ำมือแม่มดร้ายอย่างปาร์ค ยูราก็เป็นได้
เพราะฉะนั้นครั้งนี้ก็ไม่มีทางเสียหรอกที่เขาจะยอมกลับไปอยู่ในเงื้อมมือยัยแม่มดน่ะ!!
ปึง !!!
ผ่าง!!!!!!
“Hello my Bro, Do you miss me?? (สวัสดีน้องชายของฉัน คิดถึงฉันมั้ยยย?)”
“Noooooo!!! Noooooooo!!”
ระเบิดเสียงหัวเราะลั่นเมื่อร่างสูงของพี่ชายตะเกียกตะกายถอยกรูดจากหน้าประตูที่ตอนนี้มีอีกร่างหนึ่งยืนอยู่ไปเสียจนชิดผนังห้อง เสื้อผ้าที่เคยเรียบดูดีตอนนี้ยับยู่ไปหมด บอกเลยว่าสภาพของอู่อี้ฟานตอนนี้น่ะดูไม่เหมือนดาราระดับเอเชียซักนิด
เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นก่อนหน้านั้นเรียกความสนอกสนใจจากพนักงานที่พากันมาอออยู่หน้าห้องผู้บริหารได้เป็นอย่างดี ยิ่งได้เห็นร่างเพรียวของหญิงสาวในชุดโอเวอร์โคสท์พร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ย่างกรายเข้ามาในตึก ประเด็นฮอตทั้งข่าว (คาว) เมื่อคืนและการถูกเรียกพบที่ดูจะดุเดือดพอสมควรยิ่งทำให้เรื่องราวเป็นที่สนอกสนใจ และปาร์ค ชานยอลก็ใจกว้างพอจะแบ่งปันเรื่องราวนี้กับทุกคน
โดยการเดินไปเปิดประตูให้กว้างขึ้นอีกหน่อย โอบไหล่พี่สาวคนสวยเดินเบี่ยงเข้ามาในห้องให้ทุกคนได้เห็นสภาพดาราหนุ่มให้ชัดๆเต็มตา รอยยิ้มร้ายกับใบหน้าที่ราวกับโขลกออกมาจากพิมพ์เดียวกันของปาร์คชานยอลและปาร์คยูรากำลังทำให้ทุกคนขวัญผวา
...โดยเฉพาะคนที่กำลังกรีดร้องตัวสั่นอยู่ตรงนั้น...
“พี่หาเรื่องเองนะพี่คริส! เอ้า!! ทักทายคุณผู้จัดการคนใหม่ของพี่หน่อยสิครับ”
“ฮือออออ...ไม่เอาเว้ย! ไม่เอา! ถอยไปนะนางมาร อ้ากกกกกกก!!!”
“จุ๊ๆ ไม่เอาหน่าคนกันเองนะคริส ยินดีที่ได้กลับมาดูแลเธออีกครั้งนะจ้ะ”
.....
.
.
“ไม่นะ! ไม่เอา!!! ม่ายยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!”
อินโทรมาแบบเป็นน้ำจิ้มๆเบาๆเนอะ
ก็นั่นแหล่ะมันคือภาพจริงของพี่อู๋ในหัวเค้า 55555
โอเคฮับ~ ให้กำลังใจเค้าด้วยนะ งิ้งๆ
รักครับคนอ่าน เจอกันค้บ
*ฝากเรื่องคำผิดไว้ด้วยนะฮับ คิดว่าคงมีอยู่บ้างประปราย*
ความคิดเห็น