ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MSBY X YOU | Little House

    ลำดับตอนที่ #4 : EP.4 คิคุฟุคุนำโชค

    • อัปเดตล่าสุด 30 ส.ค. 64




    * ∗ ٭* ∗ ٭* ∗ ٭* ∗ ٭* ∗ ٭* ∗ ٭



    "นี่คืองานของคนที่จบไปแล้วตั้งใจจะเป็นนักวาดใช่มั้ย...."

    "ไฮ…."

    "เนื้อเรื่องดี แต่ลายเส้นไม่คงที่เลยนะ ยิ่งช่วงใกล้จบนี่ยิ่งดูออกว่าเร่ง"

    "..."

    "ถ้าฉันเป็นบก.คงจะไม่พิจารณาให้ลงเว็บอ่านฟรีด้วยซ้ำ ไม่มีเค้าโครงของธีมความรักที่ฉันให้ไปเลย"

    "...ลองกลับไปถามตัวเองนะ เรียนคณะนี้เพื่อจบไปแล้วเป็นนักวาดมังงะหรือเรียนเพื่อให้สิ่งนี้กลายเป็นความสามารถพิเศษ"

    "...ค่ะเซนเซย์"

    ร่างบางหอบเอางานที่ตนเพิ่งปั่นเสร็จเมื่อคืนออกมาจากห้องของอาจารย์ประจำวิชา มินะเดินอย่างเหม่อลอยเหมือนคนที่สติหลุดหาย

    'เจองานยากตั้งแต่ต้นเทอมเลย ถอนวิชานี้ดีมั้ย'

    "ซายุดูสิ...แดงเถือกทุกหน้าเลย"

    "บอกแล้วอย่าลงวิชาของทามาดะเซนเซย์ ตัดเอที่เก้าสิบหมดทุกวิชาที่สอน เคยมีรุ่นหนึ่งที่ไม่มีใครได้เอเลย บางคนเรียนไปวีคเดียวก็ถอน…"

    มินะถึงกับขนคอลุกวาบมาทันที จริงๆ แล้ววิชาในคณะที่เธอเรียนก็มีเกณฑ์เรื่องเกรดตั้งไว้ที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว สำหรับเธอเองก็ไม่คิดว่ามันจะเกินเอื้อมเสียเท่าไหร่ แต่หลังจากการเข้าคลาสเรียนไปได้เพียงสองสัปดาห์ อาจารย์ก็มอบหมายให้นักศึกษาในคลาสที่มีเพียงห้าคนทำงานส่งไปแล้วถึงสองชิ้น แน่นอนว่ามินะโดนแก้งานตั้งแต่ชิ้นแรกและไม่ผ่านอีกด้วย

    "แต่ก็ดีนะ ถ้าผ่านก็ได้ลงในเว็บไซค์ของจัมพ์ด้วย...ถึงจะมีความเป็นไปได้น้อยก็ตาม"

    "ช่วยให้มีกำลังใจมากเลยซายุ...แล้วอาจารย์ก็พูดเหมือนกับให้ฉันไปถอนวิชานี้ ไม่สิ เหมือนให้ฉันย้ายคณะมากกว่า"

    มินะถอมลมหายใจออกมา เธอรู้สึกว่าตอนนี้ในหัวของเธอมันช่างว่างเปล่าไปหมด

    "เอาน่า มันคือการพูดให้เด็กมีไฟในตัวเองไง"

    "ก็ใช้คำพูดที่ให้กำลังใจแทนสิ"

    หญิงสาวได้แต่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ทำเอาเพื่อนสาวตัวเล็กตบบ่าไปมาเพื่อปลอบหัวใจอันหม่นหมองของเธอ

    "งั้นขั้นแรกเราต้องไปของหวานเพื่อเติมน้ำตาลให้ร่างกาย พรุ่งนี้วันหยุดแล้ว ค่อยคิดต่อ โอเค๊? "

    ซายุแอบมากระซิบเบาๆ ซึ่งมินะก็รีบพยักหน้าตอบอย่างไว

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    21.40 น.


    ตึก ตึก ตึก


    "ปวดหัวจัง..."

    มินะหอบเอาร่างของตัวเองเดินเข้ามาภายในบ้านที่มืดสนิท ดวงตาของเธอแทบจะปิดลงตั้งแต่เห็นรั้วบ้านแล้ว เนื่องด้วยคลาสเรียนวันนี้ของเธอเลิกค่อนข้างช้าและเป็นวิชาที่ต้องใช้อุปกรณ์การวาดแบบอิเล็กทรอนิกส์ล้วนๆ ทั้งปวดหัว ปวดตา ปวดหลังผสมกันอย่าลงตัวทีเดียว


    ตุบ

    มินะโยนกระเป๋าและทรุดตัวเองนอนลงบนโซฟาทันที เธอขอแค่พักตรงนี้สักประเดี๋ยว เพราะถ้าให้เดินขึ้นบันไดน่าจะได้นอนตรงนั้นแทนเป็นแน่



    ครืน…


    "หื้ม? "

    ร่างสูงของชายคนหนึ่งเดินเข้ามาภายในตัวบ้านท่ามกลางความมืดสลัว เขากำลังเดินไปยังห้องครัวแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นเงาดำนอนคว่ำอยู่บนโซฟาและพอเดินไปใกล้ๆ


    "ตายแล้วเหรอ"

    ซาคุสะโน้มตัวไปดูให้ชัดๆ เมื่อเห็นว่าเป็นมินะเขาก็ยืดตัวกลับและเข้าไปหยิบน้ำเปล่าในครัวต่อ

    ในช่วงสุดสัปดาห์ เขามักจะอยู่ซ้อมมากกว่าคนอื่นๆ จนกลับบ้านทีก็ดึกแล้ว แต่วันนี้เหมือนจะมีคนที่กลับดึกพอๆ กับเขา ซึ่งกำลังนอนหลับสนิทอยู่บนโซฟานั่นเอง


    "ตายแล้วจริงเหรอ"

    ร่างสูงเดินถือขวดน้ำผ่านโซฟากลางบ้านและยังคงหยุดดูเมื่อเห็นว่ามินะนอนอยู่ท่าเดิม

    จึก จึก

    ซาคุสะใช้ก้นขวดจิ้มลงไปยังแก้มเนียนของมินะที่โผล่ออกมา เขามองใบหน้าด้านข้างของเธอเหมือนพิจารณาบางอย่าง


    'ไม่ตื่น'


    เมื่อคิดเสร็จก็รีบพาตัวเองเดินขึ้นบันไดไปอย่างไว เขาพยายามไม่อยากจะสนใจเธอคนนี้ให้มากเพราะ


    'จัดการชีวิตตัวเองได้แย่มาก'

    นี่คือสิ่งที่เขาคิด แต่ว่า....



    ตึก ตึก ตึก

    หลังจากเดินขึ้นไปเพียงไม่กี่ขั้น ซาคุสะก็หันตัวกลับและก้าวลงมาจากบันได ก่อนจะวางขวดน้ำลงบนบาร์แล้วเดินตัวปลิวไปยังบริเวณด้านหลังของบ้าน ซึ่งเป็นห้องซักผ้าและพื้นที่ไว้ใช้ตาก


    พรึ่บ!

    ซาคุสะโยนผ้าห่มสีฟ้าลายดาวสุดน่ารักของฮินาตะที่ตากไว้มาคลุมแบบรีบๆ ให้มินะ รีบชนิดที่ว่ามันปิดหัวเธอมิดมากกว่าปิดเท้าเสียอีก

    "ชิ"

    เขาคว้าขวดน้ำและเดินขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว ถึงจะรู้สึกไม่พอใจในตัวเองที่ทำเช่นนี้ แต่ก็นะ...กลับทำไปแล้วนี่นา เพราะถ้าปล่อยให้มินะนอนอยู่แบบนั้น….มันก็คาใจเขาเหมือนกัน

    ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เขาเองก็คงต้องปวดหัวอีกเป็นแน่ เพราะหาคำอธิบายเรื่องที่ตนเอาผ้าห่มของฮินาตะไปห่มให้มินะไม่ได้

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ช่วงสายๆ ของวันหยุด


    "มินะจัง เล่นเบสบอลเป็นด้วยเหรอ"

    อัตสึมุเอ่ยถามร่างบางที่ถือไม้เบสบอลออกมาจากห้อง

    "อ๋อ...ซื้อมาจากร้านขายของมือสองน่ะ เอามาตกแต่งห้องเฉยๆ แต่ว่าวันนี้ได้ใช้ประโยชน์แล้ว"

    ชายหนุ่มมองตามร่างบางที่เดินเคาะไม้เบสบอลในมือและลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว


    เพียงไม่นานเขาก็ได้คำตอบว่าเหตุใดมินะถึงถือไม้เบสบอลออกมา


    "เหมือนดูหนังสยองขวัญเลยแฮะ"

    อัตสึมุกำลังนั่งทานมื้อเช้าอยู่บริเวณบาร์ในครัวพูดออกมาในขณะที่มองดูภาพตรงหน้า

    มินะกำลังยืนกอดอกที่มีไม้เบสบอลอยู่ในมือ ตรงหน้าของเธอมีชายหนุ่มสองคนกำลังนั่งคุกเข่าทำหน้าสำนึกผิด


    "ใครเป็นต้นคิดว่าให้กินคิคุฟุคุกล่องนี้"

    มินะเอ่ยถามคนทั้งสองด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ทั้งโบคุโตะและฮินาตะจึงค่อยๆ ยกมือขึ้นมา



    และชี้กันเอง



    เมื่อเห็นดังนั้นมินะก็หลับตาและผ่อนลมหายใจ


    "ทำไมถึงมีเรื่องน่ากลัวเกิดขึ้นล่ะ"

    ซาคุสะผู้มาทีหลังเอ่ยถามอัตสึมุ ชายผมสีสว่างจึงรีบกลืนขนมปังและเริ่มอธิบายสถานการณ์คร่าวๆ ให้ฟัง


    "ได้ยินว่าสองคนนั้นไปกินคิคุฟุคุในตู้เย็น เพราะไม่รู้ว่าเป็นของใครและไม่ใช่ของตัวเอง กินไปเกือบหมดเลย เพิ่งมาเฉลยเมื่อกี้ว่าเป็นของญาติมินะที่ฝากมาให้"

    ซาคุสะยกกาแฟขึ้นดื่มและคนทั้งสองก็มองไปยังภาพตรงหน้าต่อราวกับว่าได้ชมภาพยนตร์จากจอสามมิติ


    "กินรสซุนดะ*ให้หมดฉันอาจจะไม่โกรธเท่ากินรสมัทฉะนามะครีมหรอกนะ…"


    "เห็นมั้ยครับโบคุโตะซัง ผมบอกว่าซุนดะอร่อยกว่า"

    "แต่ฉันชอบมัทฉะนามะนี่นา…"



    ปึง!

    มินะแกล้งทำไม้เบสบอลในมือตก นั่นจึงทำให้ชายทั้งสองสะดุ้งอย่างตกใจ ฮินาตะลอบกลืนน้ำลายลงคอในขณะที่ตอนนี้โบคุโตะหน้าเหวอไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    "รู้มั้ยว่ากว่าฉันจะได้มารอนานขนาดไหน มัทฉะนามะครีมมันหมดตลอดเลย! แล้วนี่อะไร เหลือซุนดะไว้ให้แค่สองชิ้น!"

    มินะพูดพลางชี้ไปยังกล่องขนมที่เปิดอ้าไว้บนโต๊ะรับแขก จากขนมราวๆ สิบกว่าชิ้น ตอนนี้เหลือเพียงสองชิ้นเท่านั้น

    "อย่างว่า อย่าไปพรากของกินจากผู้หญิงที่โมโหหิว เพราะมันน่ากลัว"

    ซาคุสะหันไปมองอัตสึมุที่พูดอธิบายอย่างไม่เข้าใจ


    "ควรจะทำยังไงดี ให้พวกนายนั่งชินคันเซ็นไปซื้อให้ดีมั้ย…"


    "มินะจัง!"

    หญิงสาวที่กำลังก้มหน้าอันแสนเครียดของตนเหมือนคนสติแตกเงยใบหน้าตามเสียงเรียกอันหนักแน่นของฮินาตะ

    "ใจเย็นๆ นะ เรื่องนี้มีทางออก!"

    โบคุโตะเองก็หันใบหน้าอันเศร้าสลดไปมองรุ่นน้องข้างกายทันที

    "ทางออกยังไง ฉันนะ...ฉันนะอยากกินคิคุฟุคุรสมัทฉะนามะครีมมากเลย!"

    มินะหลับตาที่ทำหน้าเหมือนคนจะปล่อยโฮ ฮินาตะจึงลุกขึ้นมาและเริ่มอธิบายในสิ่งที่ตนคิดมาสักพัก

    "ฟังนะมินะจัง…."

    ฮินาตะจับไปที่ไหล่ของหญิงสาวทันที มินะจึงเงยหน้าที่เคร่งเครียดมองชายผมส้มตรงหน้าอีกครั้ง

    "ฉันน่ะ...เป็นคนมิยางิเลยรู้ตำนานนี้ดี"

    "ตำนาน? "

    ไม่เพียงแค่เจ้าของคิคุฟุคุ แต่ทั้งหมดที่รอดูเหตุการณ์อยู่ก็พลอยสงสัยในสิ่งที่ฮินาตะกำลังจะพูดต่อจากนี้เช่นกัน


    "หากมอบคิคุฟุคุให้คนที่อดอยาก....ว่ากันว่าจะทำให้โชคดี บางคนก็ก็ถูกรางวัล บางคนก็สอบเข้ามหาลัยได้หรือบางคนก็เจอเนื้อคู่!"

    ฮินาตะยกกำปั้นขึ้นมาและพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ


    "ดูพูดเข้าใครจะเชื่อเรื่องพรรค์นี้กัน…"

    "จริงเหรอ!"


    "หา…"

    อัตสึมุถึงกับอ้าปากเหวอทันที เพราะเหมือนหญิงสาวคนนี้จะปักใจเชื่อตำนานที่ฮินาตะเล่าให้ฟังเสียเต็มประดา


    "ถ้าฉันเป็นคนอดอยาก ฉันคงเอากล่องขนมปาใส่มากกว่านะ เพราะให้แต่ขนมไม่ให้น้ำ ติดคอแน่ๆ "

    อัตสึมุพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับซาคุสะ ซึ่งเขาก็ส่ายหน้าและพาตัวออกไปจากเหตุการณ์นี้โดยเร็ว

    "งั้น...ฉันไม่เอาเรื่องนายก็ได้"

    มินะพยักหน้าขึ้นลงช้าๆ นั่นจึงทำให้ฮินาตะถึงกับชูมืออย่างดีใจ เหลือก็เพียงแต่ชายที่มีอายุมากสุดในบ้านที่ยังนั่งทำหน้าเศร้าสลดอยู่



    "โบคคุง นายก็ลองหาตำนานเหมือนฮินาตะมาเล่าบ้างสิ เผื่อมินะจะเชื่อ"

    อัตสึมุเดินมาตบบ่าแกร่งของรูมเมทและกระซิบบอก โบคุโตะจึงมีสีหน้าเหมือนคนตื่นรู้ในบางอย่าง


    แต่เหมือนจะไม่ทันการเสียแล้ว

    "ดูสิ เหมือนจะงอนนายแล้ว"

    โบคุโตะมองตามร่างบางที่เดินขึ้นบันไดไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว

    "ทำไงดีสึมุคุง"




    และทั้งวันมินะก็ไม่เอ่ยปากคุยกับโบคุโตะตอนทานมื้อกลางวันเธอก็ตึงใส่และปลีกตัวเข้าห้องตลอด ซึ่งความจริงแล้วมินะเองก็ไม่ได้โกรธอะไรขนาดนั้นหรอก อารมณ์ขุ่นเคืองหายไปตั้งนานตามประสาคนโกรธง่ายหายไว แต่ก็นะ....ทำฟอร์มคนงอนมาตั้งแต่แรกแล้วนี่นา เลยของอนต่ออีกสักหน่อยละกัน กะว่าช่วงเย็นก็คงไปคุยด้วยปกติ ยิ่งเห็นหน้าที่เศร้าๆ แบบนั้นก็ทำให้เธอรู้สึกผิดไปไม่น้อยเหมือนกัน


    ส่วนทางด้านโบคุโตะที่หน้าจ๋อยทั้งวัน อัตสึมุถึงกับบอกว่าให้รีบหาทางง้อเธอเสีย หรือไม่ก็…


    "นั่งชินคันเซ็นไปซื้อคิคุฟุคุซะ"

    ถ้าฮินาตะไม่ห้ามเอาไว้ โบคุโตะที่เตรียมตัวเก็บกระเป๋าคงได้ไปมิยางิจริงๆ เป็นแน่

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    "เอ๋…."

    หญิงสาวที่กำลังนั่งแก้งานอยู่เงยหน้ามองไฟในห้องที่กระพริบติดๆ ดับๆ


    พรึ่บ

    และมันก็ดับลง


    ร่างบางถอนลมหายใจออกมาทันที ก่อนจะวางงานทั้งหมดและเดินไปเปิดประตูห้องเพื่อให้แสงจากด้านนอกส่องมา

    ประสบการณ์การอยู่หอพักตั้งแต่ช่วงปีหนึ่ง ทำให้มินะพอจะมีสกิลการเปลี่ยนหลอดไฟอยู่บ้าง โชคดีที่ตอนย้ายเข้ามาเธอซื้อหลอดไฟมาสำรองไว้แล้ว เหลือแต่เพียงขึ้นไปเปลี่ยนเท่านั้นเอง

    มินะลงไปค้นดูที่ห้องเก็บของก็พบว่ามีบันไดขนาดกลางความสูงประมาณอกของเธอ หญิงสาวจึงยกมันขึ้นมาได้สบายๆ และครั้นจะขอให้หนุ่มๆ มาช่วยดูเหมือนจะไม่ได้ เพราะก่อนหน้านี้เธอได้ยินเสียงเอะอะเหมือนกับว่าคนทั้งหมดจะออกไปด้านนอก อีกทั้งบ้านยังเงียบผิดปกติ


    เธอก็เลยทำมันด้วยตัวเอง ของแบบนี้สำหรับมินะ...มันง่ายมาก


    "แค่หมุนออกมา....แล้วใส่กลับไป"

    เป็นเรื่องปกติที่เธอมักจะคุยกับตัวเองเช่นนี้ เพราะสำหรับเธอมันจะทำให้อะไรดูง่ายเสมือนมีเพื่อนมาคอยฟัง

    "เรียบร้อย"

    เมื่อเห็นว่าไฟติด มินะก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ ก่อนจะค่อยๆ ก้าวลงจากบันได


    "อ๊ะ!"

    แต่ดูเหมือนว่าเธอจะก้าวลงผิดขั้น ขาข้างหนึ่งของมินะรูดลงไปอย่างรวดเร็วและด้วยสัญชาตญาณ ร่างที่กำลังจะหงายหลังจึงพยายามคว้าเอาสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุดไว้ก่อน


    โครม!!


    "โอ๊ย….จะ เจ็บ"

    ร่างบางหล่นลงพื้นจนก้นจ้ำเบ้าอย่างจัง ศีรษะของมินะไม่ได้กระแทกพื้น แต่สิ่งที่ทำให้เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดคือบันไดเหล็กที่ตนคว้าเอาไว้หล่นลงมาทับ มินะไม่รู้ว่าส่วนไหนที่กระแทกเข้ากลางหน้าผาก แต่มันทำให้เธอเจ็บจี๊ดขึ้นมาจนน้ำตาแทบไหล





    "โชโยคุงกับโอมิคุงบอกว่าเนื้อที่กินประจำหมด เปลี่ยนเป็นอาหารทะเลแทนได้มั้ย? "

    อัตสึมุชูรูปเซลฟี่ของซาคุสะและฮินาตะที่อยู่ซุปเปอร์มาร์เก็ตให้กับชายร่างสูงดู

    "เอางั้นก็ได้"

    โบคุโตะที่เพิ่งพับผ้าเสร็จหันมาพยักหน้าตอบรูมเมทของตัวเอง




    โครม!!

    "แผ่นดินไหว!!"

    โบคุโตะตะโกนออกมาทันทีหลังได้ยินเสียงตึงตัง เขาและอัตสึมุมองหน้ากันเหมือนตกใจ

    "มาจากห้องมินะ"

    สิ้นเสียงของอัตสึมุ โบคุโตะที่อยู่ใกล้ประตูที่สุดจึงรีบออกไปทันที




    "มินจัง! เสียงอะ…"

    ไม่ทันที่จะเอ่ยถาม เมื่อเห็นร่างบางทรุดอยู่บนพื้นโดยที่มีบันไดทับอยู่อีกที เขาจึงรีบเข้าไปคว้าเอาบันไดเหล็กออกมาจากร่างของหญิงสาว

    "เจ็บตรงไหนมั้ย?!"

    โบคุโตะฉุดแขนของมินะขึ้นมา

    "เป็นอะไรรึเปล่า"

    อัตสึมุที่ตามมาก็ถามซ้ำอีกที

    มินะส่ายหน้าไปมา แต่มือของเธอยังกุมหน้าผากแน่น ริมฝีปากเม้มลงเหมือนเก็บอาการบางอย่าง

    "เจ็บ…."

    นี่คือคำแรกที่เธอพูดออกมา น้ำเสียงที่เคล้าความเจ็บปวดนั้นทำให้ชายทั้งสองรีบตั้งสติและพาเธอลงด้านล่างโดยเร็ว




    "สึมุสึมุมีน้ำแข็งมั้ย"

    "แป๊บนะ"

    อัตสึมุรีบไปหาน้ำแข็งในตู้เย็นทันที ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่มี เขาเลยคว้ากระป๋องเบียร์ที่แช่ไว้ออกมาแทน

    "มีแต่ไอ้นี่ เอาไปแก้ขัดก่อน เดี๋ยวฉันโทร.ให้พวกนั้นซื้อมาให้"

    พูดจบอัตสึมุก็วิ่งไปเอาโทรศัพท์มือถือที่ด้านบนอย่างรวดเร็ว

    โบคุโตะจึงคว้าเอากระป๋องเบียร์เย็นๆ ขึ้นมา

    "มินจังเอามือออกก่อน"

    ชายร่างสูงพยายามหยิบยกมือเล็กที่กุมหน้าผากของตัวเองไว้ออก ตอนนี้ใบหน้าของมินะบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ขอบตาของเธอเริ่มแดงขึ้นเพราะน้ำตาที่เอ่อล้นขึ้นมา

    "ไม่เอา...เลือดออกแน่ๆ หัวแตกแน่ๆ ฮึก"

    มินะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงปนความสะอื้น โบคุโตะเองก็รู้สึกสงสารเธอขึ้นมาจับใจ ทั้งน้ำเสียงและสีหน้า มันกำลังแสดงว่า เธอเจ็บปวดจริงๆ

    "ไม่มีเลือดเลยสักนิด ขอฉันประคบนี่ให้ก่อนนะ พอประคบแล้วมันจะดีขึ้น"

    หญิงสาวพยายามเก็บความสะอื้นและมองกระป๋องเบียร์ในมือของชายหนุ่มสลับกับใบหน้าที่อมยิ้มของโบคุโตะ ซึ่งเขายิ้มเพื่อปลอบใจเธอนั่นเอง


    "ฮึก…"

    ดวงตาของมินะหลับลงเมื่อความเย็นมาสัมผัสโดนบริเวณที่เจ็บที่สุด โบคุโตะใช้มือของตัวเองจับไปที่แก้มทั้งสองของมินะเพื่อยึดใบหน้าไม่ให้หันนี้จากกระป๋องเบียร์ที่เขานำมาประคบ



    "หัวโนแล้ว"

    อัตสึมุก้มมองใบหน้าของมินะอย่างพิจารณา เขาไล่มองตั้งแต่หน้าผากที่ปูดนูนจนมาหยุดลงที่แก้มใส

    "ร้องไห้ทำไม"

    อัตสึมุพูดออกมาเป็นเชิงหยอกล้อ มินะจึงลืมตาขึ้นอย่างไวและสะบัดหน้าไปหาคนข้างกาย

    "ก็มัน เจ็บนี่นา อึก!"

    พูดจบก็สะอื้นออกมาเสียงดังและยิ่งเห็นท่าทีของเธอเช่นนั้นมันก็อดไม่ได้ที่เขาจะแกล้ง

    "เห็นตอนเช้ายังขู่ฟ่อๆ ไม่คิดว่าจะร้องไห้กับเรื่องแค่นี้…."

    คนตัวสูงกล่าวออกมาเหมือนหยอกล้อ สิ่งที่เขาต้องการคือการทำให้เธอหยุดร้องไห้นั้นแต่เหมือนจะไม่เป็นผล เพราะยิ่งเขาพูดเช่นนั้น มันก็ยิ่งทำให้น้ำตาของหญิงสาวไหลมากกว่าเดิม

    "ฮือออออ ก็มันเจ็บนี่นา ถ้าเจ็บแล้วร้องไห้มันผิดหรือไง!"

    มินะปล่อยโฮออกมาจนใบหน้าของเธอก้มลงกับฝ่ามือ ความเจ็บที่หน้าผากกำลังทำให้จิตใจของเธออ่อนไหวง่ายกว่าเดิม

    "สึมุคุง! มินะร้องไห้ใหญ่เลย เงียบก่อนได้มั้ย?!"

    ไม่เพียงแต่อัตสึมุที่ตกใจ โบคุโตะเองก็ตกใจไม่แพ้กัน จนเขาเผลอหันไปดุอัตสึมุ


    "มินจัง มินจัง…."

    โบคุโตะพยายามเรียกร่างบาง หากว่าเธอไม่ประคบ มันจะยิ่งทำให้เจ็บและอาจจะไม่หายบวมได้

    "โกเมน...ฉันแค่อยากให้เธอมาเถียงกับฉันแทนการร้องไห้"

    อัตสึมุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วลงอย่างรู้สึกผิด ยิ่งเห็นน้ำตาที่ไหลอาบแก้มมากขึ้นมันยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองพูดเกินไปจริงๆ


    "มินจัง…"

    โบคุโตะวางกระป๋องเครื่องดื่มลงและยกมือทั้งสองประคองใบหน้าของมินะขึ้นมาช้าๆ


    'นะ น่ารักจัง'

    ชายหนุ่มผู้ที่กระทำเช่นนั้นตาโตขึ้นมาเล็กน้อย ดวงตาที่เคล้าไปด้วยน้ำใสๆ จมูกและปากที่ขึ้นสีแดงเพราะร้องไห้ ทั้งน่าสงสารและเอ็นดูในเวลาเดียวกัน


    "ฮึก...ฮือ"

    "ชู่ว~"

    โบคุโตะมองตาของมินะพลางทำเสียงปลอบขวัญคนตรงหน้า

    "ไม่เป็นไร ฉันอยู่ตรงนี้ไง เดี๋ยวก็หาย เธอเก่งอยู่แล้ว"

    พูดจบก็ใช้นิ้งโป้งปาดน้ำตาช้าๆ มินะจึงสูดน้ำมูกขึ้นและพยายามหยุดร้อง โบคุโตะจึงประคบให้เธอต่อเพราะตอนนี้หน้าผากของเธอมันแดงมากกว่าเดิมแล้ว



    เพียงครู่เดียวฮินาตะและซาคุสะก็กลับมา


    "นี่ครับโบคุโตะซัง"

    ฮินาตะรุดเอาน้ำแข็งมาให้รุ่นพี่ทันที ก่อนจะก้มลงมองมินะที่หยุดร้องโฮมาเป็นร้องไห้เงียบๆ แทน


    "หัวโนเลย"

    ชายร่างเล็กที่สุดโน้มตัวลงมองอย่างนึกสงสารหญิงสาวตรงหน้า

    "แล้วไปทำท่าไหนถึงเป็นแบบนั้นได้"

    ซาคุสะถามขึ้นมาพลางเหลือบมองร่างบางที่นั่งตัวแข็งทื่อ

    "ขึ้นไปเปลี่ยนหลอดไฟและพลัดตกลงมา บันไดเลยฟาดเข้ากลางหน้าผาก"

    ซาคุสะทำหน้าเหยเกและลอบกลืนน้ำลงคอ เขานึกในใจว่าถ้าตัวเองโดนเช่นนั้นก็คงจะแอบมีน้ำตาซึมแน่ๆ คิดแบบนั้นก็มองไปที่มินะด้วยความสงสารทันที


    โบคุโตะประคบเย็นให้มินะอยู่พักใหญ่ จนหน้าผากหายแดง เหลือไว้แต่อาการปวดหนึบบนความนูนปูดและรอยช้ำ


    และเธอก็โดนเอาใจอย่างผิดปกติ จากเดิมที่เธอคิดว่าเย็นนี้ต้องกินอาหารเวฟจึงเปลี่ยนมาเป็นนั่งทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาสี่หนุ่ม

    "กินผักเยอะๆ นะ จะได้หายเร็วๆ!"

    ฮินาตะคีบผักเกือบทุกชนิดมาให้มินะ หญิงสาวเงยหน้ามองและคีบมันเข้าปากช้าๆ



    "ดูสิ เหมือนคิคุฟุคุเลย"

    อัตสึมุชี้ขึ้นมายังหน้าผากและเอ่ยแซวเธอ เพราะเขาดูท่าทางของมินะแล้ว อาการของเธอน่าจะดีขึ้น

    และเธอก็ดีขึ้นจริงๆ เพราะเธอยิ้มออกมา นั่นจึงทำให้เขาอมยิ้มตาม


    'ต้องแบบนี้สิ...คนเก่ง'



    "โบคุโตะ…"

    "หื้ม? "

    มินะหันไปหาชายเรือนผมสีขาวข้างกายช้าๆ

    "เมื่อตอนเช้าน่ะ...หายโกรธตั้งนานแล้ว"

    "..."

    "แต่ที่แกล้งไม่คุยด้วยน่ะ ขอโทษนะ"

    ใบหน้าของมินะก้มลงด้วยความรู้สึกผิดที่เกาะกุมในใจมาสักพัก ยิ่งเห็นว่าเขาช่วยเหลือเธอดีขนาดไหน มันก็ยิ่งทำให้เธออยากจะขอโทษที่ตนทำนิสัยไม่ดีใส่ให้เร็วที่สุด

    "ไม่เป็นไรสักหน่อย ฉันเองก็ผิดที่ไปกินของฝากโดยไม่ได้ขอ"

    "ฉันด้วย"

    คราวนี้มีตัวละครที่รู้สึกผิดงอกมาเพิ่มอีกคน นั่นคือฮินาตะนั่นเอง

    "งั้นคราวหน้า...เรามาแชร์ของอร่อยๆ กันดีกว่า ว่ามั้ย? "

    มินะฉีกยิ้มกว้างอย่างเคยมาให้คนทั้งสอง โบคุโตะและฮินาตะก็ตอบกลับอย่างไวเชียว

    "ได้เลย!!"


    "อะไรกัน ฉันขอแชร์ของอร่อยด้วยสิ โอมิคุงด้วย"

    "เห….ไม่เอาล่ะ"

    "งั้นอัตสึมุซังต้องไปซื้อคิคุฟุคุมาด้วยล่ะ"

    "หา โชโยคุง นายเป็นคนกินมันนะ แล้วไอ้ตำนานอะไรนั่นมันมีจริงที่ไหนกัน"

    "มีจริงนะครับ มีที่นี่ไง!"

    ฮินาตะชี้มาที่หญิงสาวที่นั่งก้มหน้ากินข้าวอยู่

    "โชคดีที่ว่า คือหน้าผากของมินะจังโนขึ้นมาเนี่ยนะ ฮ่าๆ!"



    เป็นอีกหนึ่งวันที่มินะทั้งโมโหหิว เจ็บปวด ร้องไห้สุดท้ายก็จบลงตรงที่การได้นั่งหัวเราะพร้อมๆ กับมื้ออาหารที่แสนอร่อย


    'คิคุฟุคุนำโชคหรือเปล่านะ'



    * ∗ ٭* ∗ ٭* ∗ ٭* ∗ ٭* ∗ ٭* ∗ ٭





    TALK ⁄(⁄ ⁄•⁄ω⁄•⁄ ⁄)⁄



    หน้าตาของคิคุฟุคุค่ะ

    (ภาพนี้มาจากเรื่องJJKคือขนมที่โกะโจเซนเซย์ซื้อตอนไปเซ็นได)


    คิคุฟุคุคือไดฟุกุที่ถูกคิดค้นโดยร้านโนอิฉะ โนะ อิเกตะ เลยถือว่าเป็นต้นตำรับ ของขึ้นชื่อที่เซ็นไดค่ะ ซุนดะที่น้องฮิบอกว่าอร่อยคือไส้ถั่วแระญี่ปุ่นบด

    คิคุฟุคุจะมีหลายรสชาติตามฤดูกาลค่ะ (น้ำลายไหลเลย5555555)

    ตอนนี้ไรต์แอบฉีกคาร์พี่โบตอนดุสึมุไปนิดนุงด้วย><

    ไรต์อัพถึงตอนปัจจุบันทันในรี้ดแล้วงับ!^^

    ชอบหรือถูกใจตอนนี้ ฝากกดใจคอมเม้นท์ได้นะคะ รักนักอ่านที่น่ารักทุกคนเลย!❤❤


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×