ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MSBY X YOU | Little House

    ลำดับตอนที่ #3 : EP.3 โพลารอยด์ติดตู้เย็น

    • อัปเดตล่าสุด 30 ส.ค. 64




    * ∗ ٭* ∗ ٭* ∗ ٭* ∗ ٭* ∗ ٭* ∗ ٭





    "น่านะ!"

    "โน"

    "ฮึย! มินะคนใจดำ"

    "โอ๊ย เจ็บจุง"

    มินะฉีกยิ้มให้ซายุไปหนึ่งครั้งก่อนจะรีบเก็บของเข้ากระเป๋าอย่างรวดเร็ว

    สิ่งที่ทำให้ซายุกำลังทำหน้าออดอ้อนเพื่อนคนสนิทก็คืองานคู่งานแรกที่อาจารย์ได้มอบหมายให้ทุกคนไปช่วยกันทำ เกี่ยวกับโปรเจกต์มังงะขนาดสั้นจำนวน3ตอนจบ และสัปดาห์ก็ต้องออกมานำเสนอสตอรี่บอร์ดคร่าวๆในคลาส

    เรื่องคู่ทำงานไม่มีปัญหา เพราะมินะจับคู่กับซายุซึ่งมันแน่นอนอยู่แล้ว




    "ข้าเบื่อขี้หน้าเจ้า"

    "ข้าก็เหมือนกันมินะ"



    แต่สิ่งที่ทำให้ซายุอ้อนขอมินะก็คือ


    เธออยากไปคิดเนื้อเรื่องที่บ้านมินะมากกว่าไปนั่งคิดงานตามคาเฟ่


    "ถ้าไปนั่งคาเฟ่นะ เราจะสั่งโน่นสั่งนี่ พอสั่งเยอะก็ต้องกินเยอะ เปลืองเงินแถมอ้วนอีก"

    ซายุรีบเดินตามร่างบางและพยายามอธิบาย จริงๆ เรียกว่าข้ออ้างน่าจะเหมาะสมกว่า

    "งั้นเธอก็ไม่ต้องสั่งสิ"

    มินะพูดพลางแวะกดเครื่องดื่มที่ตู้ขายน้ำอัตโนมัติ

    "อีกอย่างนะ บ้านของเธอมันสวย แสงก็เยอะ ขึ้นไปบนดาดฟ้าก็เห็นท้องฟ้า ลงมาด้านล่างก็เห็นหญ้าสีเขียว แค่ก้าวเข้าไปหัวก็แล่นแล้ว"

    "บ้านหรืออาหารบำรุงสมองอะ"

    มินะก้มตัวลงหยิบกาแฟกระป๋องขึ้นและเปิดมันดื่มโดยที่ไม่ได้สนใจใบหน้าอันผิดหวังของซายุ

    "จงบอกเหตุผลที่แท้จริงของเจ้ามาซะ!"

    ซายุวิ่งมาดักหน้าเพื่อนสนิทและยกมือขึ้นชี้มายังร่างบางทันที

    "ซายุ หยุดทำให้ฉันดูเหมือนคนไม่มีสติสักทีได้มั้ย"

    มินะได้แต่ถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย เพราะเวลาซายุแกล้งสวมบทบาทที่เลียนแบบมังงะพีเรียดทีไร มันทำให้เธอลำบากใจทุกที


    "จงคลายความลับต่อข้ามาเสีย!!"

    ร่างเล็กกอดอกและเชิดใบหน้าขึ้นราวกับว่าตนเองเป็นขุนนางที่กำลังคาดคั้นความลับจากองครักษ์ที่ทรยศต่อจักรพรรดิ

    "ฮึ! ฟังนะ ซายุสหายรัก เรื่องของข้ามันมีอยู่ว่า…"


    และสิ่งที่ทำให้เธอลำบากใจ คือการที่เธอไม่เคยปฏิเสธที่จะเพื่อนคนนี้ได้เลย แถมยังเล่นตามน้ำอีกต่างหาก



    ส่วนเรื่องที่มินะกำลังจะเล่าให้ซายุฟัง เห็นทีคงต้องย้อนกลับไปราวๆ สามวันก่อน….


    สามวันที่มินะแน่ใจว่าทั้งโบคุโตะและซาคุสะน่าจะลืมเลือนเหตุการณ์ในคืนที่เธอโดนชายชุดสูทเดินตามและต้องแกล้งผีเข้าไปแล้วตามคำขอของตน เพราะพวกเขาไม่ได้เอ่ยแซวและมองเธอแบบคนประหลาด...มั้งนะ


    และมินะก็รู้มาจากโบคุโตะอีกทีว่า ตอนนี้พวกเขาว่างจากการแข่งขันหลักอย่างวีลีกที่เพิ่งจบฤดูกาลไปและกำลังรอเปิดฤดูกาลการแข่งขันคุโรวาชิกิแทน ทำให้ช่วงนี้พวกเขากลับบ้านทุกวัน บางวันก็หยุดพักผ่อนอีกด้วย

    แน่นอนว่ามินะแสร้งยิ้มและตอบกลับไปว่า

    "งั้นเหรอคะ"

    อันที่จริงเธอไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับศัพท์เฉพาะหรือโปรแกรมการแข่งขันของวอลเลย์บอลอาชีพเท่าไหร่ เธอใกล้ชิดมันมากสุดก็เห็นจะเป็นตอนประถมฯ นู่นแน่ะ



    "นี่เธอ...."

    มินะที่เพิ่งกลับมาจากมหาลัยในช่วงเย็นของวันที่อากาศเริ่มร้อน และกำลังจะเข้าไปดื่มน้ำในครัว หยุดชะงักและหันไปตามเสียงเรียก ก็พบว่าเป็นชายร่างสูงอย่างซาคุสะที่ยืนอยู่หน้าบันได


    "มีอะไรรึเปล่า?"

    มินะเลิกคิ้วถามคนตัวสูง ซึ่งเขากำลังเดินเข้ามาหาเธอเรื่อยๆ จนมาหยุดลงตรงหน้าเว้นระยะไว้ราวๆ หนึ่งเมตร

    "ใส่นี่ด้วยเหรอ"

    เขาชี้ขึ้นมายังใบหน้าของหญิงสาว ทำเอาเจ้าตัวเหลือบตามองตามนิ้วของเขา

    "แมสก์น่ะเหรอ"

    ซาคุสะพยักหน้าอย่างจริงจัง มินะรู้สึกว่าสีหน้าของชายคนนี้เหมือนจะดีขึ้นกว่าเดิม

    อย่างน้อยก็ดีกว่าคืนที่เห็นเธอแลบลิ้นปลิ้นตาละนะ


    "เธอสวมมันทั้งวันเลยเหรอ?"

    "ก็ใช่…."

    "แม้กระทั่งในบ้าน?"

    ซาคุสะก้าวเข้ามาหาเธอทีละน้อย จนมินะต้องถอยร่นไปด้านหลังอย่างไม่เข้าใจ

    "ก็เห็นว่าใส่อยู่นี่"

    "ปกติไม่ค่อยเห็นคนอื่นเขาใส่กัน ขนาดฉันให้พวกนั้นใส่ตอนไปข้างนอกก็ไม่มีใครฟัง เตือนแล้วแท้ๆ"

    มินะที่กำลังจะดึงแมสก์ลงเพื่อดื่มน้ำชะงักลงอีกครั้ง


    'นี่เข้าใจเราผิดแหงๆ '


    "จริงๆ ฉันไม่ได้แต่งหน้า"

    "หา?"

    ซาคุสะเลิกคิ้วเข้มขึ้นมา ตัวที่หันกลับและเตรียมขึ้นด้านบนต้องหันมาทางร่างบางอีกครั้งและเขาก็พบว่าตอนนี้มินะกำลังดึงแมสก์ออกจากใบหน้าช้าๆ

    "ก็ไม่ได้แต่งหน้าไง พอไม่แต่ง หน้าก็ซีด ใครเห็นเข้าก็อายแย่ ก็เลยต้องใส่แมสก์ปิด…."

    "...."

    "อะไรกันดูทำหน้าเข้า ฉันเห็นว่าเราอยู่บ้านเดียวกันหรอกนะถึงกล้าให้เห็นหน้าสด อย่างน้อยก็ทำหน้าให้มันดูไม่ต้องตกใจขนาดนั้นก็ได้"

    หญิงสาวจิ๊ปากหนึ่งครั้งก่อนจะสะบัดหน้าและยกน้ำขึ้นดื่ม

    "งั้นหลังจากนี้ถ้าเป็นไปได้ก็ใส่ซะ"

    ซาคุสะยังคงไม่ยอมแพ้ เขาขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

    "ไม่เอาค่ะ"

    "ชิ"


    ดูเหมือนซาคุสะอ่านสีหน้าของหญิงสาวออกเนื่องจากตอนนี้ใบหน้าสวยกำลังแสดงถึงความขุ่นเคือง เขาจึงคิดจะหนีขึ้นด้านบนเพราะไม่อยากปะทะฝีปากกับเธอ


    "มินะ"

    "ว่า?!"

    ร่างบางหันมาหาร่างสูงที่หยุดอยู่ตรงบันไดอีกครั้ง

    "ที่จะมาบอกอีกอย่างคือ หลังจากนี้ถ้ามีเพื่อนๆ มาที่นี่ให้ใส่แมสก์ก่อนเข้า ห้ามเข้าห้องน้ำชั้นบน ใส่สลิปเปอร์ก่อนเข้าบ้านด้วย ดื่มน้ำเสร็จก็ล้างแก้วให้เรียบร้อย…"

    "ไฮฮฮ~"

    มินะขานรับราวกับประชดประชัน

    "แต่ถ้าให้ดีไม่ต้องมาดีที่สุด"

    "เอ๋า"

    ไม่ทันรอฟังคำต่อล้อต่อเถียง ซาคุสะก็ก้าวขายาวๆ ขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็ว

    "สุดยอดคนเลย เฮอะ!"

    มินะเริ่มจะรู้สึกขึ้นมาแล้วว่าตัวเธอกับเขาคนนี้ น่าจะเข้ากันไม่ได้มากที่สุด







    "รบกวนด้วยนะค่า~"

    "รบกวนด้วยครับ~"

    มินะเดินนำหญิงชายเข้ามาในตัวบ้านและรีบหยิบสลิปเปอร์ให้ทั้งคู่ หญิงที่ว่าคือซายุ ส่วนชายที่ว่าคือซาโตชิ แฟนหนุ่มของซายุที่เรีบนอยู่คณะนิเทศฯ สาขาภาพยนตร์และการถ่ายภาพนั่นเอง ซึ่งซายุพาเขามาก็เพราะเหตุผลง่ายๆ คือหลังจากเสร็จก็จะพากันไปเดท

    "นี่ซาโตชิ้ง...นายรู้จักนักกีฬาวอลเลย์นี่นา มินะจังอยู่บ้านเดียวกับพวกเขาล่ะ"

    "อยากเจอจังเลย!"

    ซาโตชิกระโดดขึ้นไปนั่งลงบนโซฟาอย่างร่าเริง ทำเอาเธอนึกถึงชายคนหนึ่งที่มีเอเนอจี้ไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่ ซึ่งเขาคนนั้นก็อยู่ในบ้านหลังนี้นี่แหละ

    "ซายุรีบคิดงานกันและรีบกลับเถอะ"

    "เห....อะไรกัน เพิ่งมาถึงก็ไล่ซะแล้ว"

    ซายุที่กำลังจะเดินเข้าครัวไปหาน้ำดื่มก็หยุดชะงักและหันมาทำหน้าอย่างคนเบื่อหน่าย

    "หยุดเลยๆ ไปนั่ง เดี๋ยวน้ำกับของว่างฉันเอามาให้เอง จำที่ฉันเล่าให้ฟังไม่ได้หรือไง"

    มินะลุกขึ้นและทำท่ากางมืออกมือเหมือนให้เพื่อนทั้งสองอยู่ในความสงบ ซึ่งคนที่คะยั้นคะยอจะมาอย่างซายุก็ได้แต่ยู่ปากและดึงแมสก์ขึ้นมาปิด ก่อนจะลงไปนั่งข้างแฟนหนุ่ม

    มินะก็เลยรีบจัดแจงของว่างและเครื่องดื่มง่ายๆ ให้คนทั้งสอง ก่อนจะลงมานั่งคิดสตอรี่บอร์ดคร่าวๆ ซึ่งเธออยากจะกำหนดธีมเรื่องให้เสร็จก่อนอาทิตย์จะตกดิน


    แชะ...ครืน


    "ซาโตชิ้ง~อะไรอ่ะ?!"

    ซายุหันไปถามแฟนหนุ่มที่จู่ๆ ก็ยกบางอย่างออกมาและกดถ่ายไปยังหญิงสาวทั้งสองที่กำลังนั่งคุยกันอยู่

    "กล้องโพลารอยด์….ดูสิรูปกำลังมาแล้ว!"

    ซาโตชิสะบัดรูปในมือไปมาและยื่นมาให้ทั้งสองคนดู

    "ว้าว...เหมือนถ่ายรูปแนววินเทจเลย"

    มินะพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับซายุ

    "รูปก็ขนาดพอดี ไม่เล็กไปใหญ่ไป ฉันจะเอามาถ่ายซายูยู่เยอะๆเลย!"


    แชะ

    พูดจบก็ยกกล้องขึ้นถ่ายใบหน้าของแฟนสาว ซึ่งซายุก็วางมือจากงานตรงหน้า หันไปทำท่าน่ารักๆ ใส่กล้องแทนและพอรูปออกมาก็ทำให้เธออารมณ์ดีเชียว

    "ซายูยู่จังคะ ถ้าไม่ทำงานต่อก็เชิญไปหวานกันที่อื่นนะคะ"

    มินะกอดอกและพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

    "มีคนอิจฉาแล้ว"

    ซายุตีรัวๆไปที่ต้นแขนของแฟนหนุ่ม ทำเอาซาโตชิพลอยเม้มริมฝีปากเหมือนคนกลั้นขำไปด้วย

    "เรื่องไม่มีแฟนไม่ควรเป็นประเด็นในการขำคนอื่นนะ ซา โต ชิ!"

    "ไฮ"

    ชายหนุ่มถึงกับนั่งทำตัวลีบแบนเมื่อมินะกดน้ำเสียงให้ต่ำราวกับว่าจะขู่ แต่มันก็ยิ่งทำให้เขาและแฟนสาวยังหัวเราะคิกคักในลำคอ


    ครืน…

    สายตาทั้งหกหันไปมองยังประตูที่ถูกเลื่อนเปิดออก ยังไม่ทันที่จะเห็นหน้าค่าตา เสียงที่เจื้อยแจ้วของบุคคลทั้งสองก็ดังมาก่อนเสียอีก

    "โอะโอ...มีแขกมา"

    อัตสึมุที่เดินนำหยุดลงเมื่อเห็นว่ามีสมาชิกใหม่ในบ้านถึงสองคน

    "นี่ไงซาโตชิ้ง...นายรู้จักมั้ย"

    ซายุที่กำลังจะหันไปสะกิดแฟนหนุ่มก็ต้องตกใจ เพราะข้างกายเธอดันว่างเปล่าและพอมองหาอีกที ก็พบว่าตอนนี้ซาโตชิยืนทำท่าเช็คแฮนด์กับอัตสึมุอยู่แล้ว


    "มัตสึโมโตะ ซาโตชิ เดส"

    "มิยะ อัตสึมุ"

    ชายร่างสูงเรือนผมสีทองหม่นยื่นมือจับตอบอย่างงุนงง

    "โบคุโตะ โคทาโร่เดส"

    "ผมรู้จักคุณ! หลานของผมชอบคุณมาก ขอถ่ายรูปได้มั้ย?"

    "โอ้ได้เลย!"

    "ฮินาตะ โชโยเดส!!"

    ชายผมส้มสีสว่างรีบเข้ามาเช็คแฮนด์กับแขกที่มาเยือนอย่างร่าเริง


    "เอ่อ…"

    "...."

    ซาคุสะยกมือขึ้นทักทายพอเป็นพิธีและเดินเลี่ยงขึ้นไปชั้นบน มินะเห็นว่าเสี้ยวหนึ่งเขามองมาที่เธอราวกับมีคำบ่นออกมาจากดวงตาคู่นั้นด้วยล่ะ



    และซาโตชิก็ทำการตีสนิทกับเหล่านักวอลเลย์ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกับโบคุโตะและฮินาตะ

    "ฉันรู้จักฉายาของนายด้วย นินจาโชโย ฟิ้วๆ ฟั่บๆ"

    "โอะ จริงเหรอครับ?!"



    "อะไรกัน นินจงนินจา เป็นวัยรุ่นโคโนฮะกันเหรอ"

    มินะเอ่ยถามพลางเท้าคางมองไปยังบาร์น้ำที่ตอนนี้มีบุคคลสามคนกำลังเม้าท์กันอย่างเมามันส์ ประหนึ่งเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน


    "ฉายาของโชโยตอนอยู่บราซิลล่ะ…"

    ทั้งซายุและมินะหันไปมองอัตสึมุนั่งลงตรงข้ามพวกเธอ

    "บราซิลเหรอคะ?"

    ซายุผู้อยากรู้อยากเห็นเปิดประเด็นถามขึ้นมาทันที

    "ซายุ เธอพร้อมจะเทงานนี่ได้ตลอดสินะ"

    สาวร่างเล็กไม่สนคำที่เพื่อนของตนบ่น เธอรีบหันหน้าไปฟังคำตอบของอัตสึมุต่อ

    "ก็เขาตัวเล็ก กระโดดแล้วก็วิ่งไปมาได้เร็วตลอด เลยเป็นที่มาของฉายาที่คนบราซิลตั้งให้"

    มินะหันไปมองยังชายหนุ่มผู้ที่มีใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา


    'ดูเป็นคนมีอะไรกว่าที่คิดแฮะ'




    และกว่าที่แขกทั้งสองจะกลับ ก็เกือบพลบค่ำพอดี ซึ่งโบคุโตะยังเอ่ยปากชวนคนทั้งสองให้อยู่ทานมื้อเย็นด้วยกัน แต่ทั้งคู่ก็ปฏิเสธและจะไปดินเนอร์กันแถวโดทงโบริแทน


    "นี่มินะ มาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกดีกว่า! เหลือฟิล์มแผ่นสุดท้ายแล้ว!"

    "ค่อยถ่ายที่มหาลัยไม่ได้เหรอ"

    มินะก้มตัวลงเก็บของหันมาบอกซาโตชิที่ยกกล้องโพลารอยด์ขึ้นมาเตรียมพร้อมจะถ่ายรูปอยู่ตลอดเวลา

    "ต้องมีรูปที่ระลึกกับสมาชิกในบ้านบ้างสิ...โบ๊คคุง โช๊คคุง!มาถ่ายรูปกัน!!"

    บุคคลที่ถูกเรียกด้วยเล่นชื่อหันมาหาซาโตชิพร้อมกัน และทั้งสองก็เดินออกมาจากในครัวด้วยท่าทางตื่นเต้น

    "โช๊คคุง อะไรของนาย สนิทกันแล้วเหรอ?"

    ซายุกระซิบถามแฟนหนุ่มทันที ซึ่งเขาก็พยักหน้ารัวๆ

    "งั้นไปตามโอมิซังสักเดี๋ยวนะครับ!"

    นินจาโชโยคงจะเป็นนินจาสมฉายาจริงๆ มินะมองชายหนุ่มที่วิ่งขึ้นบันไดอย่างรวดเร็วและเพียงครู่เดียวเขาก็ลากเอาร่างสูงที่มีสีหน้าอันเบื่อหน่ายลงมาพร้อมกัน


    "ซายุจะไปไหน?"

    "ให้สมาชิกของบ้านถ่ายดีกว่า"

    ซายุก้มตัวลงและก้าวไปยืนข้างแฟนหนุ่มอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้แต่มินะที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ด้วยความงุนงง

    "ขอนั่งข้างมินะซังนะ!"

    ฮินาตะกระโดดเข้ามานั่งด้านซ้ายข้างมินะทันที เขาตั้งท่าชูสองนิ้วราวกับพร้อมเสมอ

    "ขยับไปหน่อยสิมินะจัง"

    อัตสึมุนั่งลงด้านขวาข้างร่างบาง เขาเบียดตัวเองให้แนบชิดตามคำบอกของตากล้องอย่างซาโตชิ ทำเอามินะถึงกับเกร็งฟตัวเองอย่างไว เพราะตอนนี้ซ้ายขวาของเธอถูกขนาบไปด้วยสองหนุ่ม

    "เอ่อ...ถอดแมสก์ได้มั้ยครับ?"

    ซาโตชิเอ่ยถามร่างสูงที่ยืนขมวดคิ้วอย่างเงียบๆ

    "ซาคุสะถอดเร็วจะได้หล่อๆ"

    โบคุโตะหันมาบอกคนข้างกายและนั่นจึงทำให้เขาค่อยๆ ดึงแมสก์ลง


    "เอาล่ะนะ ฟิล์มใบสุดท้ายแล้ว หนึ่ง สอง สาม ยิ่ม~"


    แชะ….

    ครืน…



    "เอาไปใส่กรอบน่าจะสวยนะ"

    มินะรับรูปที่ยังมีสีจางจากซาโตชิ

    "ถ้าไม่ตั้งลืมไว้ที่ไหนก่อนนะ"


    "นี่มินะ…"

    ซายุดึงแขนมินะเข้ามาและกระซิบบางอย่างออกมา บางอย่างที่ทำให้มินะถึงกับตาโต

    "...ฉันว่าหนึ่งในนี้ จะต้องได้เดทกับเธอแหงๆ "

    "ไร้สาระค่ะ บอกแล้วว่าพวกเขาไม่ใช่สเปคสักนิด"

    "แหมๆ ต้องพี่หมอหมาอย่างฮิรุงามิสินะ"

    "ยัยนี่นี่!"

    ไม่ทันจะรับมะเหงกจากเพื่อนสนิท ซายุรีบเดินเร็วๆ ไปเกาะแขนซาโตชิที่ล่วงหน้าไปแล้ว ก่อนจะหันมายกกำปั้นและพูดออกมาโดยไม่มีเสียงว่า

    "พยายามเข้าละ"

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    มื้อเย็นในช่วงเกือบสองทุ่ม มินะกำลังนั่งอย่างงุนงงอยู่ที่หัวโต๊ะและมองอาหารที่ถูกนำมาวางไม่หยุด ส่วนใหญ่ก็เป็นเนื้อย่าง ผักลวก ผัดผัก และเนื้อ สลับกันไปมา

    "มินะจัง เราออกอาหารเธอออกนี่แทนนะ"

    ร่างบางหันไปหาเสียงทุ้มของชายหนุ่ม ก็พบว่าเป็นอัตสึมุที่ยกกระป๋องเบียร์ของเธออกมาจากตู้เย็นทีละกระป๋อง ทีละกระป๋อง


    "ฉันกินแค่บะหมี่ก็ได้นะ"

    มินะทำท่าจะลุกขึ้นแต่ข้อมือของเธอก็ถูกรั้งไว้จากมือใหญ่ๆ ของโบคุโตะ หนำซ้ำเขายังกดไหล่ของเธอให้นั่งลงอย่างเดิม

    "เราต้องมีมื้ออาหารกระชับความสัมพันธ์นะ!"

    ฮินาตะวางตะกร้าผักสดใบเล็กและยกนิ้วมาให้เธอ ทำเอามินะถึงกับยิ้มเจื่อนและจำใจอยู่ร่วมทานมื้อเย็นกับเหล่าเพื่อนร่วมบ้านทั้งสี่







    "งั้นแสดงว่านายพูดภาษาบราซิลได้สิ"

    "เรียกว่าโปรตุเกส"

    "คิคิ"

    อัตสึมุแอบหลุดขำออกมาเมื่อเห็นสีหน้าที่เหมือนเจื่อนลงของหญิงสาว


    'เป็นคนโง่เฉย'


    "เอ๋?! จริงเหรอฮินาตะ ฉันคิดว่าบราซิลพูดบราซิลเหมือนที่มินจังเข้าใจเสียอีก"


    'โอเค สบายใจ ตอนนี้มีคนโง่สองคนแล้ว'


    มื้ออาหารครั้งที่สองของมินะและหนุ่มๆ มูสบี้เหมือนจะราบรื่นกว่าครั้งแรก ไม่ใช่เพราะครั้งแรกเธอเกรงใจหรืออยากจะทำตัวห่างเหินกับพวกเขาหรอกนะ แต่พอคุยไปคุยมา มินะก็รู้สึกว่าไม่ต่างกับการคุยกับเพื่อนๆ เลยสักนิด



    "ตอนแรกฉันไม่คิดว่าจะเข้ากับพวกนายได้เลย"

    "เหมือนกัน!"

    ทั้งสามคนพูดออกมาโดยพร้อมเพรียงกัน

    "โกหกยังจะทำให้รู้สึกดีมากกว่า"

    กล่าวจบก็กระดกเบียร์จนหมดกระป๋อง จนเธอต้องพาร่างตัวเองไปหยิบอีกเพิ่ม



     การกระทำทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของชายหนุ่มทั้งสี่คน ด้วยท่าทางการเดินที่ดูเตาะแตะและกึ่งเหมือนคนเมา ทำให้บางคนยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู โดยเฉพาะโบคุโตะและอัตสึมุ บางคนอย่างฮินาตะก็มองเธอด้วยความตกใจที่เห็นเธอดื่มแอลกอฮอล์เหมือนน้ำเปล่าและคนที่มองเธอด้วยหางตาครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าทานอาหารต่อ ซาคุสะนั่นเอง



    "ว่าแต่มินะจังเป็นคนที่นี่ใช่มั้ย?"

    อัตสึมุเท้าคางและหันมาถามคนข้างกายอีกครั้ง

    "รู้ได้ไงเหรอ?"

    หญิงสาวที่เคี้ยวเนื้อห่อผักแก้มตุ่ยหันมาถามอัตสึมุกลับและเขาก็คลี่รอยยิ้มออกมาเหมือนดีใจ


    "ก็ดูจากสำเนียงและการพูด..."

    "ค่นโตเกี๋ยวต่างห๊าก~"


    พรืด!!

    ฮินาตะถึงกับสำลักเบียร์ออกมาทันทีที่มินะพูดจบ

    "อี๋ ฮินาตะ"

    ซาคุสะรีบคว้าทิชชู่ออกมาให้ชายหนุ่มตรงข้ามตัวเองทันที ในขณะที่ตัวต้นเหตุกำลังนั่งหัวเราะอยู่กับอีกสองคน

    "มินจัง เธอตลกมาก ฮ่าๆๆๆ!"

    โบคุโตะกุมท้องและหัวเราะออกมาเหมือนกลั้นไม่ได้

    "ให๊ต๊ายเถ๊อะ น่าตล๊กขนาดนั้นเชี๋ยว?"

    มินะยังคงพยายามพูดสำเนียงคันโตแบบคงความเป็นคนคันไซเอาไว้ นั่นยิ่งทำให้โบคุโตะผู้ที่กลายเป็นคนเส้นตื้นหัวเราะมากกว่าเดิม ฮินาตะที่มาทีหลังก็พลอยขำขันไปด้วย

    "มินะจัง ฉันว่าเธอพูดคันไซปกติเถอะ"

    อัตสึมุหันมาบอกหญิงสาวด้วยสำเนียงคันไซที่ทั้งชัดถ้อยชัดคำกว่าปกติ เสมือนว่าได้เจอคนบ้านเดียวกัน

    "เห…แต่จริงๆ ตอนประถม.ฉันไปอยู่โตเกี๊ยวจริงๆ นะ"

    "โตเกียว"

    มินะหันขวับไปมองบุคคลที่ไม่หือไม่อือกับคนรอบข้างอย่างซาคุสะทันที เพราะเขาทักมาแต่ละทีเล่นเอาเธอเองแอบกำหมัดใต้โต๊ะอยู่บ้าง

    "แล้วทำไมถึงมาอยู่นี่ละ"

    ฮินาตะเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้

    "พอดีพ่อต้องมารับช่วงต่อธุรกิจของที่บ้าน ก็เลยย้ายมาอยู่ที่นี่ถาวรเลย"


    แล้วมินะก็เริ่มแลกเปลี่ยนเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองสลับกับคนอื่นๆ จนเธอรู้คร่าวๆ ว่า ฮินาตะเป็นคนมิยางิ อัตสึมุที่พูดคันไซเหมือนเธอมาจากเฮียวโงะ ส่วนโบคุโตะและซาคุสะคือพ่อหนุ่มเมืองกรุงจากโตเกียว ทั้งหมดเล่นวอลเลย์บอลกันมาตั้งแต่เด็กๆ และไปแข่งในระดับประเทศกันมาแล้ว ซึ่งการมาเจอกันในลีกอาชีพของฐานะผู้เล่นของสโมสรชื่อดังเช่นนี้ พวกเขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน



    "มินจังยังไม่มีแฟนจริงๆ ใช่มั้ย?"



    จึก....

    มินะแทบจะสำลักเบียร์ทันทีที่โบคุโตะเอ่ยถาม ซึ่งเธอพยักหน้าแทนคำตอบไปให้เขาแทน

    "แหม่โบคคุง ถ้ามินะมีแฟนแล้วจริงๆ คงไม่ปล่อยให้มาอยู่กับพวกผู้ชายอย่างเราๆหรอก"

    อัตสึมุพูดจบก็ยกกระป๋องแอลกอฮอล์ขึ้นดื่ม สายตาประดุจจิ้งจอกของเขายังคงเหลือบมองมายังร่างบางนิ่ง

    "ก็จริง…"

    และแล้วมินะก็ลอบกำหมัดเป็นครั้งที่สองจนได้

    "แล้วมินจังมีชายในสเปคมั้ย?"


    'ยังไม่หยุดกับเรื่องรักๆ สินะ'


    มินะยิ้มกว้างราวกับว่าตัวเองกำลังแฮปปี้ 

    "มีสิคะ"

    "แล้วผู้ชายที่มินจังชอบเป็นแบบไหนเหรอ?"

    หญิงสาวเงยหน้ามองโบคุโตะทันที แต่พอลองมองดูดีๆ ทุกคนก็ต่างมองมาที่เธอกันหมด แม้แต่ซาคุสะเองก็เหลือบสายตามายังเธอแวบหนึ่ง


    "เอ่อ…"

    มินะไม่เคยรู้สึกกดดันขนาดมาก่อน ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องง่ายนิดเดียวที่ตอบมัน


    'ถ้าบอกว่าเป็นผู้ชายเรียนหมอ สูง หน้าหวาน ทรงผมแบบโอป้าและใจดีจะดูเจาะจงไปแน่ๆ ตอบแบบกว้างๆ ละกัน'


    ร่างบางนิ่งไปครู่หนึ่งและเอ่ยคำตอบออกมา

    "ชอบคนที่เป็นผู้ใหญ่....มั้ง"

    พูดจบก็ยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มอีกครั้ง



    "มินะ!! ฉันบอกแล้วใช่มั้ยให้ตื่นเช้า! ตั้งใจเรียนมากๆ! อย่าดื่มเหล้า ให้ดื่มนมเยอะๆไง! ฮึ!"

    "แค่กๆ"

    เบียร์ที่ยังกลืนลงคอไม่หมดมันทำให้มินะแทบจะสำลักออกมาเชียว เพราะอัตสึมุพูดพลางชี้มายังร่างบางรัวๆ ก่อนจะจบประโยคด้วยการแสยะยิ้มให้เธอหนึ่งครั้ง

    "อะไรของนาย ทำยังกับเป็นคุณลุงไปได้"

    มินะยกทิชชู่ขึ้นเช็ดปากไปมา ส่วนเจ้าของประโยคก็ยังคงกอดอกและยิ้มแบบภาคภูมิใจ


    "จริงๆ เปลี่ยนสเปคล่ะ ชอบคนที่ดูใจดีมากกว่า"

    มินะตอบปัดอีกครั้ง แต่เพียงครู่เดียวเดี๋ยวนั้น....

    "ทานเยอะๆนะ! จะได้โตไวๆ!"

    ฮินาตะตระเวนคีบเนื้อมาใส่จานมินะไม่หยุดและแค่นั้นยังไม่พอ

    "ฮินาต่าาา เนื้อของฉันนะ!"

    "โชโยคุง นั่นเนื้อติดมันที่ฉันจองไว้นะ!"

    "ไฮ! ทานให้อร่อยนะ"

    ฮินาตะยิ้มกว้างมาให้มินะ ซึ่งตอนนี้เธอชักจะเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปกติขึ้นมาแล้ว…


    "เอ่อ...จริงๆ แล้วชอบคนที่ทำอะไรแบบพอดีๆ มากกว่าน่ะ"

    คราวนี้เธอแน่ใจว่าประโยคเมื่อครู่ มันจะสามารถดักทางของเหล่าชายหนุ่มได้ แต่ว่านะ…


    "เฮ่ เฮ เฮ้ มินจัง! ดูนี่สิ! เสื้อยืดตัวนี้ฉันซื้อมาจากงานแข่งวีลีกล่ะ ใส่ได้พอดีตัวเองมาก!!"

    โบคุโตะลุกขึ้นหันหลัง พร้อมกับยกนิ้วโป้งชี้มาเสื้อสีดำที่ด้านหลังสกรีนคำว่า V.league ไว้เด่นหรา


    หญิงสาวถึงกับกุมขมับและพยายามเม้มปากเพื่อกลั้นหัวเราะ แต่ดูเหมือนว่าคนที่ขำไปก่อนเธอจะเป็นอัตสึมุและฮินาตะเสียแล้ว


    "ฮ่าๆ ให้ตายสิ นายหมดมุขแล้วเหรอ"

    "โบคุโตะซังครับ นั่งลงเถอะ ฮ่าๆ"

    มินะเองก็พลอยขำไปกับคนทั้งสามด้วย



    แต่แล้วเธอก็ไปสะดุดตากับบุคคลที่นั่งอยู่ข้างอัตสึมุ ในตอนนี้เขาเพียงแค่ดึงแมสก์ลงและดื่มเบียร์อย่างเงียบๆ


    ซาคุสะเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเรื่องราวบนโต๊ะอาหารเท่าไหร่


    'อยู่ที่โต๊ะอาหารยังใส่แมสก์ น่าแกล้งจริงๆ'


    มินะประสานมือของตัวเองทั้งสองข้างไว้ใต้คาง สายตาของเธอจับจ้องไปยังชายหนุ่มผมดำขลับนิ่งก่อนจะค่อยๆ ยิ้มออกมา

    "สเปคที่แท้จริงของฉัน…"


    แล้วทั้งหมดก็หยุดหัวเราะและหันมามองมินะอย่างรวดเร็ว


    "เขาคนนั้นเป็นคนโตเกียว พูดน้อย มาดขรึม รักสะอาด ชอบใส่แมสก์สีดำ…"


    "เอ๋...คุ้นๆ แฮะ"

    "นั่นนะสิครับโบคุโตะซัง"

    ดูเหมือนจะมีเพียงอัตสึมุเท่านั้นที่พอจะรู้ว่าทั้งสายตาและการกระทำเช่นนี้ของมินะมันคือ 'การแกล้ง' เขาเองก็ยกยิ้มมุมปากพร้อมกับรอเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ พลางนึกในใจในขณะที่มองใบหน้าด้านข้างของเธอไปด้วยว่า


    'น่าสนใจจริงๆ'


    "...คนนั้นเล่นกีฬาเก่งค่ะ ได้ข่าวว่าติดทีมชาติ สูงมาก มีผมสีดำ…"



    "ถอดแมสก์ทำไมโอมิคุง?"

    "ร้อน"

    มินะก้มหน้าลงและยิ้มกว้างออกมา อัตสึมุเองก็ตั้งใจทักซาคุสะ เมื่อเห็นว่าเขาถอดแมสก์ที่ตนใส่ไว้ประจำออกมาเสียดื้อๆ


    "โบคุโตะ อย่าดื่มเยอะ พรุ่งนี้นายต้องไปยิมแต่เช้า...ฮินาตะ เวลาตื่นนอนฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้พับผ้าห่ม! แล้วเออนี่...มิยะ นายพอจะย้อมผมเป็นมั้ยฉันอยากเปลี่ยนสีผม…"

    "ฮ่าๆๆ!!!"


    มินะและอัตสึมุหัวเราะออกมาแทบจะพร้อมๆกัน ทำเอาคนที่เหลือถึงกับงุนงง โดยเฉพาะซาคุสะที่ดูลนลานผิดปกติ


    "ทุกคนอย่าซีไปเลยนะ พวกคุณไม่ใช่สเปคของฉันสักนิด ฮ่าๆ"

    หญิงสาวเพียงคนเดียวยังคงหัวเราะออกมาไม่หยุด นี่คือครั้งแรก (ไม่นับซายุ) ที่เธอเข้ากับเพื่อนใหม่ได้เร็วเช่นนี้





    "ดูสิ...ฉันกับโบคุโตะซังยิ้มเห็นฟันแค่สองคนเอง"

    ฮินาตะมองรูปโพลารอยด์ที่มินะเอากรอบอะคลิลิคใสมาใส่ พร้อมแปะมันไว้ด้านหน้าของตู้เย็นที่ถูกยึดด้วยแม่เหล็กอีกที


    "เอ...ทำไมทำหน้าอย่างกับเห็นผี"

    มินะเอ่ยแซวซาคุสะที่ยืนล้างจานอยู่ในครัวเงียบๆ 

    "ดูดีคนเดียวเลยนะ"

    อัตสึมุกอดอกและยิ้มมาให้เธออย่างพึงพอใจกับรูปถ่ายที่ตนมองว่าโคตรจะดูดี


    "แต่มินจังนี่ทั้งตัวจริงและในรูปก็น่ารักเหมือนกันเลยนะ"

    หญิงสาวถึงกับตาโตพร้อมกับรู้สึกว่าใบหน้าของตนร้อนผ่าวขึ้นมา คำชมจากชายหนุ่มที่หาได้ยากเช่นนี้ มินะจังขอเขินเสียหน่อย


    แล้วเธอก็หันใบหน้ากลับไปมองยังรูปถ่ายอีกครั้ง


    มินะที่นั่งชูสองนิ้วและยิ้มกว้างอยู่ตรงกลาง ขนาบข้างด้วยฮินาตะและอัตสึมุ ด้านหลังก็มีโบคุโตะกำลังยืนโอบไหล่ซาคุสะที่ทำหน้านิ่งๆ อยู่



    จากที่คิดว่าคงยากหากจะผูกมิตรกับพวกเขา แต่ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกแล้วว่า


    'บ้านหลังนี้มันก็อบอุ่นดี'



    * ∗ ٭* ∗ ٭* ∗ ٭* ∗ ٭* ∗ ٭* ∗ ٭



    TALK Σ>―(〃°ω°〃)♡→



    สรุปแล้ว ใครคือสเปคที่แท้จริง?!



    ยังไงถ้าชอบหรือถูกใจตอนนี้ คอมเม้นท์กดใจได้นะคะ บอกเลยว่าเรื่องนี้ไรต์แต่งแล้วเพลินมากค่ะ55555555555 รักทุกคนคับ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×