ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic:Bigbang Beari] I got Baby ช่วยด้วยผมอยากมีลูก

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 เข้าใจผิด

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 57


    Chapter :  2

    เข้าใจผิด

    วันรุ่งขึ้นจากวันวานอันแสนเลวร้ายที่ทำให้ซึงรีรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เขาจำใจออกไปทำงานตั้งแต่เช้าและต้องปั้นหน้ายิ้มแย้มให้ผู้คนรอบข้างเพื่อกรบเกลื่อนความเศร้าของเขาเอาไว้ แถมยังต้องออกมาพบลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทแทนเจ้านาย( ผู้ที่ไม่เคยว่าง ) เมื่อถึงที่นัดหมายซึ้งเป็นร้านเบเกอรี่ชื่อดังแห่งหนึ่ง เขานั่งลงบนเก้าที่ที่ถูกดีไซต์ให้เข้ากับตัวร้านเป็นอย่างดีเพื่อรอลูกค้า ไม่นานนักก็มีชายหนุ่มเดินเข้ามาทางเขาพร้อมรายการเมนูอาหาร

    “ รายการอาหารครับ ”

    “ ขอบคุณครับ ”

    ซึงรีเงยหน้าขึ้นจากการนั่งเขี่ยมือถือมารับรายการอาหาร เอ๋!ทำไมพนักงานคนนี้หน้าตาคุ้นๆความคุ้นแสนคุ้นเคยทำให้ซึงรีฉุกคิดอยู่ครู่ใหญ่....หน้าตาแบบนี้...น้ำเสียงเมื่อกี้...ใช่ซิ! ต้องเป็นเขา.......เขาแน่ๆเลย

    “ พี่ท็อป!  ”

     ซึงรีเบิกตากว้างเมื่อคิดได้ว่าคนตรงหน้านั้นเป็นใครและเช่นเดียวกับร่างสูงที่จ้องมมองเขาอยู่ชายหนุ่มผู้มาเยือนฉีกยิ้มกว้างเป็นคำตอบให้กับรุ่นน้องคนสนิทตอนสมัยมัธยม

    “ 55555+นึกว่าจะจำกันไม่ได้ซะแล้ว มาได้ไงเนี้ย ”

    “ ผมมารอลูกค้าครับ แล้วพี่ล่ะพี่มาทำอะไรที่นี้หรอครับ ”

    “ พี่หรอก็มาทำงานไง นี่ร้านพี่เอง ”

    “ โหไม่ยักจะรู้มาก่อนเลยนะครับว่าพี่จะเป็นเจ้าของร้านเบเกอรี่ ”

    “ นายจะรู้อะไรล่ะตั้งแต่พี่เรียนจบไปไม่เจอนายเลย แถมพี่ยังติดต่อนายไม่ได้อีก รู้ป่าวว่าพี่คิดถึงนายมากเลยนะ แล้วนี้นายจะทำงานเสร็จเมื่อไรเนี้ยถ้าทำงานเสร็จแล้วไปหาพี่ที่หลังร้านหน่อยได้ป่าว ”

    “ ได้เลยครับเดี๋ยวผมคุยกับลูกค้าเสร็จผมจะไปหาพี่ทันทีเลย”

    .....................................................................................................................................เมื่อคุยกับลูกค้าเสร็จซึงรีก็ไม่มีงานที่ไหนต่อแล้วและเขาคงไม่กลับเข้าบริษัทอีกแล้วเขาลุกจากโต๊ะแล้วเดินไปทางหลังร้านเพื่อไปพบกับรุ่นพี่ตามที่เจ้าตัวเชิญชวนเมื่อก่อนหน้านี้

     

    ซึงรีเดินตรงไปที่ประตูหลังร้านเขาผลักประตูแล้วก้าวเท้าเข้าไปทันทีโดยไม่ลังเล แต่เอ๋!...ไม่เห็นมีคนที่เขามาหาเลย เห็นแต่เด็กชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเล่นตุ๊กตาอยู่อย่าบอกนะว่าพี่ท็อปโดนแม่มดใจร้ายเสกให้กลายเป็นเด็กน้อยไปแล้ว

    “ ลุงมาหาใครครับ ”

     เด็กน้อยเอ่ยถามด้วยแววตาบ้องแบ๊ว ทำให้ซึงรีใจอ่อนให้กับความน่ารักของเด็กน้อยทั้งๆที่เมื่อกี้อยากจะโดดตบซักสองสามทีโทษฐานที่เรียกเขาว่าลุง

    “ พี่มาหาเจ้าของร้านน่ะครับหนูพอจะเห็นเขาไหม ”

    “ อ๋อ..พ่อเข้าห้องน้ำเดี๋ยวก็ออกมาครับ ”

     “ อ่าวนี้หนูเป็นลูกของพ่อท็อปหรอ ชื่อรัยเนี้ย ”

    “ ผมชื่ออึนซ็อกคร้าบ ”

    ซึงรีรู้สึกตกหลุมรักให้เด็กคนนี้เข้าเต็มเปาด้วยหน้าตาที่น่ารักและความเฉลียวฉลาดของเด็กน้อยที่ดูยังไงก็น่ารัก...น่ารักมากจริงๆ เขาคุยกับเด็กน้อยสักครู่เสียงเปิดประตูห้องน้ำก็ดังขึ้น(สนิมอ่ะนะบานประตูเค้า)

    “ อ้าวซึงรีมาแล้วหรอ ”

    “ ครับพี่ ”

    “ แหมคุยกะอึนซอกอยู่หรอสนิทสนมเร็วเหลือเกินนะสองหนุ่ม ”

    “ พี่ครับแล้วศรีภรรยาของพี่ไปไหนอ่ะไม่มาอยู่ที่ร้านด้วยกันหรอ ”

    “ เอ่อ...เค้าทิ้งพี่ไปแล้ว “

     ท็อปพูดพลางทำหน้าเศร้า (แหงซิเมียหอบผ้าหนีใครเขาดีใจกันล่ะ)

    “ เอ่อ โทษฮะ ผมไม่น่า..”

     “ ช่างเถอะ อย่างน้อยเค้าก็ทิ้งของขวัญอันมีค่าไว้ให้พี่ ”

    “ อะไรครับ ”

    “ ก็คือเด็กน้อยคนนี้ไง ”

     ท็อปว่าพลันอุ้มอึนซอกขึ้นมาหอมแก้มฟอดใหญ่ก่อนปล่อยให้ลูกรักของเขากลับไปไปเล่นในมุมประจำของตน

    “ ว่าแต่นายเหอะ แต่งงานมีลูกมีเต้ายัง ”(โคตรแทงใจดำเลยยยย)

    “ เอ่อ..คือ ไอ้อยากมีมันก็อยากมีอ่ะนะครับ แต่.. ”

    “ แต่อะไร ”

    คิ้วหน้าของร่างสูงขมวดเข้าหากันเพราะความตื่นเต้นจากการรอฟังคำตอบของคู่สนทนา

    “ แต่แฟนผมเป็น ผู้ชายอ่ะคร๊าบ ”

    “ หา!นี้นายเป็นหรอเนี้ย ”

    “ ครับผมเป็นเกย์ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะเป็นหรอกแต่อยู่ดีๆมันก็เป็นเองผมเองยังไม่รู้เลยว่าเป็นตอนไหน ”

    ซึงรีทำหน้าหงอยๆพร้อมสรภาพความจริงเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศของเขาให้ผู้เป็นพี่ฟังโดยหวังว่าคนฟังจะไม่รังเกียจในตัวเขา

    “ 5555+ ไม่เอาน่าอย่ากังวลเลย เมียพี่ก็ผู้ชาย ”

    “ หา!ผู้ชายเป็นผู้ชายจริงหรอครับ ”

    “ อือ... ก็ไอ้แทมินไง ”

    ท็อปโกหกคำโตกับซึงรีใครๆเขาก็รู้ทั้งนั้นแหละน่าว่าผู้ชายท้องไม่ได้เขาแค่อยากแกล้งรุ่นน้องคนสนิทให้ตกใจเล่นแค่นั้นเองและมันอาจทำให้ซึงรีหายจากอาการนอยๆที่เป็นอยู่ในตอนนี้

    “ แล้วนี้พี่ทำอีท่าไหนอ่ะ ”

    “ ท่ามาตรฐานทั่วไปนะไม่ได้โลดโผนอะไร ทำไมหรอ ”

    “ ผมทำทั้งท่ายากท่าง่าย บางทีก้อเกือบฉีกไม่เห็นมีเลย ”

    “ พี่มีเคล็ด ”

    “ เคล็ดขัดยอกหรอพี่ ”(กวนตีนละ)

     “ เคล็ดลับเฟ้ย เคล็ดลับ”

    “ ยังไงอ่ะครับ บอกได้ป่าว ”

    “ ได้สิแต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน อะไรอ่ะ ”

     “ นายต้องพาลูกพี่ไปเที่ยวทำได้มั้ยล่ะ ”

    “ ได้ซิครับแค่ไปเที่ยวเองอีกอย่างอีกอย่างผมก็รู้สึกเอ็นดู อึนซ็อกอยู่เหมือนกัน ผมรับปากครับ ”

    “ ได้ยินใช่มั้ยลูก ว่าน้าเค้าจะพาไปเที่ยว ”

     ท็อปลูบหัวลูกชายเบาๆ

    “ ครับพ่อ ขอบคุณคุณลุงล่วงหน้านะครับคุณลุงใจดีที่สู้ดดเลยครับ ”

    “ นี่อึนซ็อก ถ้ายังขืนน้าเขาว่าเรียกลุงอีก ระวังน้าเขาจะไม่พาไปเที่ยวนะ ”

    ท็อปก้มตัวลงจนระดับความสูงเท่าลูกชายแล้วกระซิบบอกเจ้าตัวเล็กให้หยุดเรียกซึงรีว่าลุง

    “ไม่ให้เรียกลุงแล้วจะให้ผมเรียกว่าอะไรล่ะ เอ่อ... งั้นผมเรียกแม่นะ ผมอยากมีแม่ ได้ไหมครับ ”

    “ ได้เลยครับ...หนุ่มน้อย”

     ซึงรียิ้มกว้าง กับคำถามของเด็กน้อยและไม่ลังเลที่จะตอบตกลง คุณแม่หรอมีเด็กหน้ารักแบบนี้มาเรียกเขาว่าคุณแม่ วิเศษเหมือนฝันเลย ผิดกับรุ่นพี่ตัวสูงของเขาที่ออกอาการเขินอายจนหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่คิดว่าเจ้าตัวเล็กจะพูดประโยคนี้ออกมาเลย อยากจับตีก้นจริงๆลูกคนนี้

    OK ผมจะไปเที่ยวกับอึนซอกแล้ว พี่รีบบอกเคล็ดลับการทำลูกมาเลย ”

    “ เคล็ดลับมันก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกนะก็แค่ไปขอพร... ”

    “ ขอพร...ขอพรที่ไหนอะครับ...ขอพรกับใครแล้ว...แล้ววิธีการขอพรต้องทำไงบ้างครับช่วยบอกผมหน่อยนะ ”

    ซึงรีปล่อยคำถามรัวเป็นชุดด้วยความตื่นเต้นจนอีกคนอดขำไม่ได้จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไงล่ะมันเป็นสิ่งที่เขาต้องการที่สุดในชีวิตของเขาเชียวนะ

    “ 5555นายจะโอเวอร์ไปไหนเนี้ย คือไปขอพรเจ้าแม่ ใต้ต้นมะเขือมา ”

    “ จริงหรอครับแล้วศาลนั้นมันอยู่ที่ไหนครับ ”

    “ ไม่ไกลจากที่นี้หรอกเดินไปอีก2-3กิโลก็ถึงแล้ว นายจะสังเกตเห็นศาลได้ชัดเจนมากเพราะตรงนั้นมันมีต้นมะเขืออยู่แค่ต้นเดียวเท่านั้นแหละ”

    “ อืม ขอบคุณมากนะครับไว้ผมจะชวนยองเบไป แต่ตอนนี้ไปเที่ยวกันดีกว่านะ ”

    “ เย้! เย้! เย้! เย้! ไปเที่ยวกันไปเที่ยวกัน”

    อึนซอกตะโกนด้วยความดีใจพร้อมกระโดดด้วยความตื้นเต้นจนผู้ใหญ่สองคนที่มองดูกริยาของเขาอดขำให้กับความน่ารักของเด็กน้อยไม่ได้ พวกเขารอให้ลูกค้ากลุ่มสุดท้ายออกจากร้านไปแล้วจึงทำการปิดร้านก่อนออกไปเที่ยวกันโดยพวกเขาตกลงกันมาเที่ยวที่ห้างหรูแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมือง ซึ่งใกล้กับที่ทำงานของยองเบเพราะตอนแรกซึงรีอยากจะถือโอกาสแนะนำคนรักให้ท็อปรู้จักแต่ด้วยความเพลินกับความสนุกสนานระหว่างเดินเที่ยวทำให้เขาลืมเรื่องนั้นซะสนิท

    พวกเขามานั่งที่ร้านไอศกรีม พูดคุยสนุกสนานเฮฮา เหมือนครอบครัวแสนอบอุ่น จนน่าอิจฉา โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมาที่พวกเขาอยู่

    เจ้าของสายตาอาฆาตใช้ช่วงจังหวะที่ซึงรีเผลอแอบมานั่งโต๊ะด้านหลังเพื่อแอบฟังบทสนทนาของทั้งสาม

    “ แม่ครับ ผมอยากให้แม่มาเป็นแม่จริงๆของผมจังเลยครับ ”

    อึนซ็อกใช้แววตาอ้อนวอนจนคนฟังน้ำตาคลอเบ้า

    “ ไม่ได้หรอกลูกน้าเค้ามีคนรักแล้ว ”

    ท็อปพยายามอธิบายความจริงให้เจ้าตัวเล็กฟังแต่ดูเหมือนเจ้าตัวเล็กจะไม่เข้าใจแถมยังพูดประโยคที่ไม่คิดว่าเด็กวัยนี้จะคิดได้ออกมาอีกด้วย

    “ ไม่เห็นยากนิครับแม่ก็แค่เลิกกับเค้าสิแล้วมาแต่งงานกับปะป๋าท็อปของผม แค่นั้นเองไม่เห็นยากเลยนิครับ ”

    พูดจบเด็กน้อยก็ตักไอครีมคำโตเข้าปากอย่างสบายอารมณ์ตามประสาเด็กๆแต่กลับผู้ใหญ่แล้วมันคนละเรื่องเลย ซึงรีตกใจนิดๆกับคำพูดของเด็กน้อยเขาตัดสินใจไม่โต้แย้งอะไรเปลี่ยนเป็นส่งยิ้มแห้งๆให้เป็นคำตอบแทนแล้วเปลี่ยนบทสนทาทันทีเพราะเขาคิดว่ามันจะทำให้รุ่นพี่ของเขารู้สึกอึดอัดเสียเปล่าๆแต่เขาหารู้ไม่ว่าการกระทำของเขามันทำให้อีกคนที่แอบฟังโมโหโดยการเข้าใจผิดว่าซึงรีเห็นด้วยกับคำพูดของเด็กน้อย จึงส่งยิ้มให้เป็นคำตอบโดยในว่า ได้ซิครับ ซะอย่างนั้น

    (ทำไมกัน ซึงรีทำไมทำกับพี่แบบนี้ ทำไม...)

    เขาทั้งโกรธทังเจ็บใจมากมือทั้งสองข้างกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดตรงแขนปูดโปนขึ้นมาอย่างหน้ากลัว เขาไม่อยากไปโวยวายตอนนี้รอให้ซึงรีกลับบ้านก่อนดีกว่า จะได้จัดชุดใหญ่ไปเลย มันคงจะดีมากกว่ามาโวยวายในที่สาธารณะแบบนี้

    “ ฮึ...อี ซึงฮยอน นายจะมาทำกับพี่แบบนี้ไม่ได้นะนายเคยสัญญาอะไรไว้กับพี่จำไม่ได้หรือไง ”

    เขาพูดกับตัวเองด้วยเสียงอันแผ่วเบาก่อนร่างสันทัดของเขาจะก้าวเดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว เร็วจนซึงรีไม่ทันสังเกตเห็นด้วยซ้ำไปว่าบุคคลที่เพิ่งเดินออกจากร้านไปเป็นใคร .................................................................................................................................................................................................................................................................................

    ....................................................................................................................................ด้วยการเที่ยวอย่างสนุกสนานซึงรียิ้มด้วยความสุขตลอดทางจนมาถึงที่บ้าน เพียงเปิดประตูเข้าไปในบ้านก็ต้องแปลกใจ ทำไมบ้านมืดแบบนี้เนี้ยยองเบไม่เปิดไฟหรือไงกัน หรือหลับไปแล้วปรกติต้องรอเรากลับบ้านก่อนตลอดนิแปลกจังไม่สบายหรือเปล่านะ คนหน้ารักคิดในใจก่อนเดินไปกด

    สวิตซ์ไฟท้ามกลางความมืดถึงแม้จะมองไม่ค่อยเห็นแต่ด้วยความคุ้นเคย ไม่กี่อึดใจห้องที่มืดสนิทก็สว่างจ้าขึ้นทันทีและซึงรีก็ต้องตกใจจนหัวใจเกือบวายเพราะร่างหนาของผู้เป็นสามียืนกอดอกอยู่กลางห้องในสภาพบอกเซอร์ตัวเดียวด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม ซึงรีรู้ดีว่าอาการของยองเบแบบนี้บ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังไม่พอใจอะไรซักอย่าง

    “ ไงทีรักไปทำอะไรมาเนี้ยหน้าบูดเชียว ”

     ซึงรีพูดยิ้มๆเดินไปหยุดตรงหน้าสามี ใช้สองมือคลายปมระหว่างคิ้วของอีกคนที่ตอนนี้กำลังผูกกันเป็นโบออก

    “ ไปไหนมา ”

     ยองเบถามเสียงแข็ง จนคนฟังรู้สึกหวั่นๆอยู่ในใจ

    “ ก็ไปทำงานมาไง ”

    “ งั้นหรอ นายคิดว่าพี่โง่มากหรือไงซึงรี ”

    “ นี้นาย ทงยองเบอย่ามาทำเสียงแบบนี้ใส่ฉันนะ ”

    “ ก็เมียมีชู้อ่ะนายจะให้พี่หัวเราะหรือไง ”

    “ หมายความว่าไง “

    ซึงรีเริ่มไม่พอใจเขาไม่เข้าใจกับสิ่งที่ยองเบพูด ก็ในเมื่อเขาไม่ได้มีชู้ซะหน่อย

    “ เมื่อตอนบ่ายฉันเห็นนายไปสวีทไอ้หน้าลิงไอ้พ่อม่ายลูกติดนั่น อยากเป็นเมียมันล่ะสิ ”

     “ นายเข้าใจผิดแล้วนะ ”

    เมื่อรู้ว่าสิ่งที่ยองเบกำลังพูดถึงคืออะไรซึงรีก็รีบปฏิเสธทันที

     “ เข้าใจผิดหรอเข้าใจผิดอะไร สิ่งที่นายต้องการไม่ใช่หรอครอบครัวที่สมสมบรูณ์แบบอ่ะพ่อแม่ลูกแหม หมั่นไส้ ไปเลยซิในเมื่อพี่ทำในสิ่งที่นายต้องการไม่ได้ ถ้านายคิดว่ามันดีกับตัวนายก็ไปเลย ทิ้งพี่ไปหาไอ้งั่งนั่นเลย ”

    คำพูดที่ดูยังไงก็รู้ว่าไม่ใช่ยองเบในหมวดปรกติและกลิ่นแอลกอฮอล์แรงๆจนฉุนเตะจมูกทำให้ซึงรีรู้ว่าตอนนี้ ยองเบกำลังเมา เมามากด้วย

     “ เปล่านะ ยองเบนายเข้าใจผิดแล้ว ฉันรักนายฉันอยากมีลูกกับนาย ฉันไม่เคยคิดจะไปจากนายเลยนะ สาบาลได้ถึงนายจะไล่ฉันหรือฆ่าฉันให้ตายฉันก็ไม่ไป ”

    “ พี่ไม่เชื่อ นายต้องให้ฉันพิสูจน์ว่านายจะเป็นของพี่...คนเดียว ”

    “  พิสูจน์ยังไง...นายเมามากแล้วนะยองเบอาบน้ำแล้วไปนอนอย่ามาเพ้อเจ้อ ”

     ซึงรีเอ็ดใส่ยองเบอย่างเหลืออด เขาคิดว่า พูดกับคนเมายังไงก็ไม่รู้เรื่องสู้หนีไปที่อื่นก่อนดีกว่าพอคิดได้เช่นนั้นสองเท้าของซึงรีก็ทำท่าจะเดินออกไปแต่มือหนาของยองเบกลับจับที่แขนเขาแน่น ซึงรีหันกลับมาสบตากับร่างหนาด้วยสายตาเอาเรื่อง

    “ ปล่อย ”

    ซึงรีพูดเสียงแข็ง

    “ จะไปไหน ”

    “ ก็ในเมื่อนายเมาขนาดนี้ให้ฉันอธิบายให้นายฟังจนปากฉีกถึงหูก็ไม่รู้เรื่องหรอก ”

    ดูเหมือนร่างหนาจะไม่สนใจฟังในสิ่งที่เขาพูดเลยยองเบโถมตัวเข้ามาใกล้ซึงรีมาก พร้อมกระซิบข้างหู

    “ อย่าให้ต้องย้ำบ่อยได้ไหมว่านายเป็นของใครซึงรี  ”

    ยองเบประกบจุมพิตอันหนักหน่วงและลึกซึ้งบนริมฝีปากของผู้เป็นภรรยา ซึงรีก็สานต่อด้วยการบดริมฝีปากให้หนักขึ้น ถึงตอนนี้เขารู้แล้วว่าสิ่งที่ยองเบต้องการให้พิสูจน์คืออะไร ตอนแรกซึงรีก็กะจะขัดขืนแต่ด้วยความแนบชิดพันพัวและความเร้าร้อนปนหวานจากรสจูบทำให้ซึงรีตกอยู่ใน ภวังค์จูบนี้ต้องมีการสานต่อ...........................(((*รีดเดอร์จร้าเรื่องส่วนตัวของคู่รักเราอย่ายุ่งดีกว่าไรต์เตอร์กลัวว่าตาของรีดเดอร์เป็นกุ้งยิงเอาน่ะ*)))..............................

    …To be Continue

    ช่วงคุยกันหลังอ่าน

    มาแล้วจร้าตอนสอง เอ๋ตอนหนึ่งก็ยังไม่มีใครอ่านเลยนิ ช่างเหอะไรต์เตอร์หาแคร์ไม่ พูดคนเดียวกะได้ ตอนนี้ไรต์เตอร์ยอมรับว่ายากนิดหน่อยกับบทอารมณ์เพราะแต่งไม่ค่อยเป็นแต่ยังไงก็อยากแต่งให้รีดเดอร์ผู้หน้ารักที่อ่านหลงเข้ามาอ่านนะรักเสมอ อิอิอิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×