ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [(OS) Fic:Bigbang TemRi] BLOOD ราตรีสีเลือด

    ลำดับตอนที่ #1 : BLOOD 1 AND END 5555+ ตอนเดียวจบจร้า

    • อัปเดตล่าสุด 7 ส.ค. 57


    BLOOD

     

     

    ในค่ำคืนที่พระจันทร์เต็มดวงส่องแสงสีนวลมายังพื้นโลกชโลมค่ำคืนอันแสนมืดมิดให้พอสว่างขึ้นมาได้เล็กน้อย แสงจันทร์สาดส่องผ่านช่องแคบๆที่เกิดจากการผุพังของไม้มากระทบกับร่างสูงที่นอนซมอยู่บนเตียง แสงเทียนที่จุดอยู่ภายในห้องช่างสว่างไสว ต่างกับแสงแห่งชีวิตของร่างสูงที่กำลังค่อยๆดับวูบลงที่ละน้อย  ชเว ซึงฮยอน ชายหนุ่มร่างสูงที่ภายนอกดูเป็นคนแข็งแรงร่าเริงแต่ใครจะรู้บ้างไหมว่าภายในร่างกายที่แสนกำยำสูงโปร่งนั้นกลับซ้อนโรคร้ายที่ติดตัวเขามาตั่งแต่เกิด โรคที่ไม่มีทางรักษา เขาต่อสู้กับมันมาเป็นเวลานาน แต่ทุกอย่างคงใกล้จะจบลงแล้ว และดูเหมือนเทพธิดาแห่งโชคชะตาจะไม่ได้อยู่ข้างเขา

    “ ฮืก.....อือ........ ”

    เสียงหอบหายใจอย่างยากลำบากของร่างสูง ที่ตอนนี้ไม่มีแม้กระทั่งแรงจะลืมตา

    เวลาของเขาเหลือน้อยลงทุกที

    ....ทุกที

     TOP TALK

    “ เขาว่ากันว่าคนที่กำลังจะตายจะนึกเหตุการณ์ในอดีตตั่งแต่เด็กจนโตได้  คงไม่ต่างอะไรกับผมหรอกที่จู่ๆภาพในหัวก็ปรากฏขึ้นเป็นเหมือนได้ดูหนังชีวิตของตัวเอง ภาพของเด็กน้อยน่ารักที่อยู่ในอ้อมกอดของหญิงที่ผมรักที่สุดพร้อมด้วยคุณพ่อของผมดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นดีจัง... และภาพต่อมาที่ปรากฎในโสนประสาทของผมคือภาพการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของคุณแม่ ต่อมาไม่นานพ่อของผมก็ได้แต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่หน้าตาสะสวยดูใจดีซึ่งตัวผมเองก็คิดว่าจะผูกมิตรกับคุณแม่คนใหม่ได้ไม่ยาก แต่กลับตรงกันข้ามกับที่ผมคิดไว้ทั้งหมด หญิงคนนั้นไม่ใช่คนดีอย่างที่ผมคิดไว้เลย หล่อนเป็นนางมารร้ายดีดีนี้เอง เธอจะดีกับผมก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อของผมเท่านั้นแหละแต่ลับหลังมันคนล่ะเรื่องเลยเธอทั้งใช้งาน ดุด่า ต่างๆนานาจนบางทีก็ถึงกับลงไม้ลงมือกับผมผิดกับน้องๆต่างแม่ของผม ที่ได้รับความรักและอยู่อย่างสุขสบายผมทนใช้ชีวิตด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจอย่างมีความหวังว่าซักวันคุณพ่อจะรู้ความจริงที่ผมได้รับแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นแต่ความหวังของผมก็ต้องพังทลายไม่เป็นชิ้นดีเมื่อพ่อของผมที่ดูแข็งแรงดีอยู่ๆก็มีอาการป่วยหนักแล้วจากผมไปในที่สุดเมื่อพ่อจากไปผมก็ต้องมาพบกับนรกของจริงแม่เลี้ยงของผมสร้างให้ หล่อนขึ้นมาเป็นนายใหญ่ของบ้านเธอย้ายให้ผมไปอยู่ห้องใต้หลังคาซอมซ่อ ห้ามไม่ให้ไปโรงเรียนและปรนนิบัติกับผมต่างจากเด็กรับใช้คนหนึ่งโชคยังดีที่น้องชายต่างแม่อย่างจียงไม่ได้เป็นเหมือนมารดาแม้แต่น้อยเขาทั้งรักและเป็นห่วงผมตามประสาน้องชายที่จะมีให้พี่ชาย แต่จียงก็ไม่สามารถช่วยอะไรผมได้มากด้วยความที่มีสายตาของผู้เป็นแม่จับจ่องเขาตลอดเวลา ตัวผมเองหน่ะมีโรคประจำตัวตั่งแต่เกิดผมต้องกินยาที่ถูกทำขึ้นเป็นพิเศษทุกวันๆไม่เช่นนั้นอาการของผมจะทรุดลงอย่างรวดเร็ว ฟังดูน่าสมเพสใช่ไหมล่ะครับ เกิดมาทั้งทีตัวก็ออกจะสูงใหญ่ แต่ทำไมอ่อนแอขนาดนี้ แต่ก็ต้องขอบคุณยัยแม่มดนั้นด้วยล่ะที่ยึดกระปุกยาของผมไปเมื่อ3วันก่อน โทษฐานที่ผมทำแจกันใบโปรดของหล่อนแตกทั้งๆที่ผมก็ไม่ใช่คนทำซักหน่อย ผมถึงต้องมานอนซมอยู่บนเตียงแบบนี้ ดีจริงๆเลยที่ผมจะได้ไปอยู่กับคุณแม่ซะที เหนื่อยจริงๆกับโลกอันแสนโหดร้ายใบนี้ ”

    ร่างสูงนอนหลับตาพริ้มใบหน้าคมฝืนยิ้มสมเพสกับชีวิตของตน คิดทบทวนชีวิตของตนตั่งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน คนไร้ค่าอย่างเขาอยู่บนโลกใบนี้ไปก็คงไม่มีความสุข อีกอย่างถ้าเขาตายๆไปซะก็จะไม่มีอะไรมาขวางทางของยัยแม่มดที่มีฐานะเป็นแม่เลี้ยงเขาอีกต่อไป พอคิดได้แบบนั้นจึงไม่ทักท้วงกับใครเรื่องอาการป่วยที่เริ่มกำเริบของตนกับทุกคนในบ้าน ตั่งใจจะให้ตัวเองจากไปอย่างสงบๆดีกว่า

    “ อะฮืกๆๆ อะเหะ”

    ร่างกายของ ซึงฮยอน กระตุกอย่างแรงพร้อมของเหลวข้นสีแดงไหลออกมาจากปากและจมูกส่อสัญญาณว่าเวลาของเขาใกล้เข้ามาจริงๆแล้ว

    “””  ปรั๊ววววววววว!!! ”””

    หน้าต่างตรงผนังอีกฟากของเตียงนอนเปิดออกทำให้ลมเย็นๆจากด้านนอกพัดพาหิมะที่แสนหนาวเหน็บเข้ามาภายในตัวห้อง กระทบกับผิวกายของร่างสูงแสนอ่อนแอ จนต้องรวบรวมกำลังที่แสนน้อยนิดของตนลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แปลกใจว่าหน้าต่างเปิดออกมาได้เช่นไรทั้งๆที่เขาก็ลงกลอนมันอย่างแน่นหนา สองตาปิดลงอีกครั้งจากอาการเหน็ดเหนื่อยแล้วร่วบรวมกำลังลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าห้องนอนมีแขกมาเยือน ร่างกายที่ไม่ได้สูงมากแต่ก็สมส่วนของใครซักคน แต่งกายด้วยชุดสีดำทั้งตัว ใบหน้าที่ซึงฮยอนมองเห็นรางๆ กำลังจ้องมองดูเขาจากทางหน้าต่าง

    “ ยมทูต....มารับตัวผมแล้วหรอครับ...อีกแป็ปนะ...อีกแป็ปเดี๋ยวผมก็....จ..จะ.....จะตายแล้ว ”

    เสียงแหบพร่าเปล่งออกมาอย่างยากลำบากคิดว่าคงเป็นยมทูตที่มารอรับวิญญาณของเขาไปยังโลกหลังความตาย เปลือกตาทั้งสองข้างปิดลงอีกครั้ง พยายามทำใจให้สบายปรงและปล่อยวางทุกสิ่ง

    “ จะรีบตายไปไหนล่ะพี่ชาย ”

    เสียงใสปริศนากะซิบข้างหูของซึงฮยอนทำเอาเจ้าตัวตกใจแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากเพราะแขนขาไม่ยอมตอบสนองได้เพียงลืมตาขึ้นมามองตนเสียงอย่างอิดโรย

    “ คุ......คุณ....คือ.....คือใคร ”

    ซึงฮยอนเอ่ยถามทันทีเมื่อเห็นหน้าตาของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ผิวกายที่ขาวเนียน คิ้วที่ดกดำและจมูกโด่งได้รูป จัดได้ว่าอยู่ในหมู่หน้าตาดีทีเดียว

    “ ฝันร้ายของนายไง ”

    ซึงฮยอนถึงกับเหงื่อตกเมื่อได้ยินคำพูดของอีกคน มือเรียวแตะลงบนอกของร่างสูงทันทีหลังพูดจบดั่งจะฟังเสียงหัวใจของอีกฝ่ายก่อนจะเปลี่ยนเป็นลูบไล้ไปทั่วแผงอกกว้างแทน

    “ คุ...คุณ...จะทำ...อะไรผม ”

    ไม่มีเสียงตอบจากอีกฝ่าย มีเพียงรอยยิ้มที่ไม่น่าไว้ใจส่งกลับมาให้แทน ชายแปลกหน้าฉีกเสื้อของซึงฮยอนออกหมดสิ้นเผยให้เห็นรูปทรงเปลือยเปล่าท่อนบน ตอนนี้ร่างสูงสวมใส่เพียงกางเกงขายาวเก่าๆตัวหนึ่งเท่านั้น

    “ หนา.......หนาว ”

    ด้วยอากาศที่หนาวและร่างกายที่แสนอ่อนแอจนไม่สามารถต้านทานอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วได้ซึงอยอนเผลออุทานออกมาอย่างลืมตัวชายหนุ่มอีกคนยิ้มมุมปากอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำร้องหาความอบอุ่นให้กับร่างกาย ชายแปลกหน้านอนทับบนลำตัวเขาทันทีแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ร่างสูงรู้สึกดีขึ้นเลยในเมื่อซึงฮยอนไม่ได้รู้สึกถึงความอบอุ่นแต่อย่างใดแต่กลับกันร่างกายของอีกคนนั้นเย็นเฉียบยิ่งกว่าหิมะที่กำลังโปรยปรายลงมาซะอีก ลิ้นสากโลมเลียคราบเลือดที่ติดอยู่บนใบหน้าคมอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนกับว่าไม่รู้สึกถึงความคาวของมันเลย

    “ ย่ะ.......อย่า...มันสกปรก ”

    ซึงฮยอนเอ่ยห้ามอีกฝ่าย

    “ ฮืมสกปรกหรอ ผมว่าอร่อยออกนะ ”

    ชายแปลกหน้าหยุดการกระทำมือเรียวช้อนใบหน้าของอีกคนขึ้นมาสบตา ซึ่งตอนนี้ซึงฮยอนก็ต้องสงสัยอีกครั้งเมื่อเห็นนัยตาสีนิลของอีกฝ่ายหาใช่เหมือนมนุษย์ทั่วไปไม่

    “ นาย...เป็นใครกัน...แน่ ”

    ไม่ทันได้รับคำตอบริมฝีปากสวยของอีกคนก็ทับปิดปากซึงฮยอนทันทีพร้อมส่งลิ้นเล็กๆเข้าไปทักทายลิ้นหนาของอีกฝ่ายซึ่งตอนแรกซึงฮยอนก็บ่ายเบี่ยงแต่เมื่อรับรู้ถึงรถชาติของมันมากขึ้นเรี่ยวแรงที่แทบจะไม่เหลือแล้วในตอนนี้ก็ต้องหายไปอีกจนแทบไมมีแรงจะหายใจ

    “ อือ...ปล่อย .ห....หา....หายใจไม่ออก.....ฮึก!!

    ร่างสูงโปร่งด้านล่างแน่นิ่งไปทันทีหลังจากทีพูดจบ ทำให้อีกคนที่นอนทาบทับเขาอยู่ด้านบนรีบผละออกทันทีก่อนจะแนบหน้าลงกับอกกว้างเพื่อฟังเสียงหัวใจอีกครั้ง

    “ ยังไม่ตายนิ ความอดทนสูงจริงนะ ก่ะว่าจะเล่นให้หน่ำใจก่อนแท้ๆ”

    มือเย็นเฉียบจับใบหน้า หล่อคมของซึงฮยอนให้ยกขึ้นลูบไล้ด้วยเสน่ห์หาก่อนเบี่ยงไปด้านข้างเผยให้เห็นลำคอระหงจับบีบนวดเบาๆเพื่อจับจุดของเส้นเลือด

    “ หมดเวลาเล่นแล้วซิ ผมไม่อยากให้คุณตายตอนนี้หรอกนะครับสุดหล่อ เพราะฉะนั้นมาอยู่กับผมนะ ”

    ว่าจบร่างโปร่งก็แยกเขี้ยวที่ไม่รู้ว่ามันแหลมคมขึ้นตั่งแต่ตอนไหนกัดลงบนลำคอสวยของซึงฮยอนทันที ดวยตาเรียวคมที่ปิดสนิทของซึงฮยอนเบิกกว้างขึ้นอีกครั้งเมื่อถูกอีกฝ่ายดื่มด่ำรสชาติน้ำเลือดของเขาอย่างสะใจ ราวกับได้กินอาหารที่ตนโปรดปรานโดยไม่สนว่าเขาจะเป็นเช่นไร ซึงฮยอนพยายามใช้มือของตนพลักอกของผีร้ายออกจากตัวเองแต่ก็ไม่ได้ผล

    “ อ้าาาาาา!!! ไม่......อย่าาาาขอร้อง ยังไงซะ ฉัน ก็....ตาย....อยู่ดี ”

    พูดได้เพียงเท่านั้นความว่างเปล่าก็เข้ามาแทรกในสมองของร่างสูงใหญ่ทันทีเหมือนกับวิญญาณได้ลุดลอยออกจากร่างไปแล้ว สติของซึงฮยอนหมดสิ้นด้วยอาการขาดเลือดมือหนาที่พยายามผลักอกของอีกคนเมื่อครู่แน่นิ่งลงไปทันที

    “ อร่อยจังเกือบเผลอกินซะหมดตัวแล้วซิเรา ”

    ใบหน้าหล่อของอีกคนที่ตอนนี้ ซึงฮยอนรู้แล้วว่าเขาไม่เหมือนคนปรกติตรงไหนเอ่ยขึ้นหลังจากดื่มด่ำกับรสชาติแสนโปรดปรานของตนจนเกือบทำให้อีกฝ่ายต้องตาย มือเรียวลูบไล้เช็ดเม็ดเหงื่อที่เริ่มผุดขึ้นตรงใบหน้าของอีกคน ปากบางยิ้มร่าเมื่อเห็นว่าร่างกายของร่างสูงเริ่มชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อเพราะการตอบสนองกับพิษแวมไพร์ที่เขาส่งเข้าไปพร้อมกับการดื่มกินเลือดเมื่อครู่

    “ ฮึๆๆ....อีกไม่นานอีกไม่นานนายก็จะมีชีวิตใหม่แล้ว ชีวิตที่ดีกว่านี้ชีวิตนิรันดรเหมือนกับฉัน ซึงรีคนนี้ไง ”

    ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ 

    “ อือ........เนี้ยหรอโลกหลังความตาย......เนี้ยหรอสวรรค์

    เปลือกตาเรียวเปิดขึ้นหลังจากหมดสติไปนานเรติน่าในตาทำการปรับโฟกัสในตาให้ชัดเจน พอเริ่มชิกกับสภาพแวดล้อมก็กวาดสายตามองไปทั่วห้อง จนสะดุดกับร่างโปร่งที่เขาจดจำได้ดี คนหน้ากลัวที่ทำกับเขาก่อนหน้านี้ ที่นั่งบนหน้าแต่งมองมาทางเขาที่อยู่บนเตียง ตาเรียวเบิกกว้าง อย่างตื่นกลัว พร้อมใช้สองแขนพยุงตัวเองไปชิดหัวเตียง

    “ ฮึๆๆๆจะถามหาสวรรค์ทำไมในเมื่อนายก็ยังไม่ได้ตาย ”

    “ นะ...นายรู้ ”

    “ ฉันรู้ทุกอย่างที่นายคิด....นายก็รู้ได้ถ้านายฝึก ”

    ซึงฮยอนยิ่งตกใจเมื่อจู่ๆร่างของคู่สนทนาก็หายจากจุดที่นั่งแล้วโพล่มานอนข้างๆเขาบนเตียงร่างสูงขยับหนีแทบไม่ทัน

    “ ตกใจทำไม แบบนี้นายก็ทำได้ จะให้ฉันช่วยสอนมั้ยล่ะ ”

    ซึงรีขึ้นมานั่งคร่อมบนตัวของของซึงฮยอนอีกครั้ง มือเรียวเสยคางเรียวของซึงฮยอนขึ้นมาสบตาพร้อมส่งสายตาทะเล้น

    “ พุ...พูดอะไรของนาย ออกไปไกลๆเลยไอ้ปีศาส ”

    ซึงฮยอนที่ตื่นตระหนกอยู่รีบปัดมือของอีกคนออก

    “ ปีศาสหรอ สภาพนายตอนนี้ก็ไม่ต่างจากฉันเท่าไหร่หรอกนะซึงฮยอน ”

    “ หมายความว่าอะไร นายรู้จักชื่อฉันได้ยังไง ”

    “ ฉันรู้จักนายดีกว่าตัวนายเองอีก ”

    “ นายเป็นใคร ”

    ซึงฮยอนถามเสียงเข้ม

    “ อ๋อ ลืมสนิทเลย ฉัน อี ซึงฮยอน เรียกสั้นๆว่าซึงรีก็ได้ ”

    “ แล้วนายทำอะไรฉัน ”

     “ ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรมากหรอก ก็แค่... ”

    “ ก็แค่อะไร ”

    “ ก็แค่เปลี่ยนนายให้เหมือนกับฉัน ”

    ในตาของซึงฮยอนลุกวาวเมื่อได้คำตอบร่างสูงรีบลุกจากเตียงมุ่งตรงไปที่กระจกทันที แล้วก็ต้องตกใจ ถึงหน้าตาเขาจะยังเหมือนเดิมไม่มีเขางอกออกมากลางหัวแต่สิ่งที่ทำให้ซึงฮยอนสังเกตว่าเขาได้กลายไปเป็นแบบเดียวกับซึงรีแล้วก็คือ สีตาที่ไม่ใช่สีน้ำตาลเฉกเช่นเคยแต่กลับถูกแต้มด้วยสีแดงแทน

    “ ทำไมนายต้องทำแบบนี้ ”

    “ ก็นายกำลังจะตายนิ ฉันก็เลยช่วย ”

    “ แล้วใครขอให้ช่วยฉันอยากตายได้ยินมะฉันอยากตาย ”

    “ จะรีบตายไปไหนล่ะ ”

    “ จะไปหาคุณแม่คุณแม่ฉันรออยู่บนสวรรค์

    ร่างสูงเอ่ยเสียงสั่นเมื่อคิดถึงผู้เป็นแม่แต่ผิดกับซึงรีที่ระเบิดหัวเราะออกมาเหมือนกับว่าคำพูดของซึงฮยอนมันเป็นเรื่องตลก

    “ 55555555555555+ สวรรค์งั้นหรอ เสียใจด้วยนะที่นายจะไม่มีวันได้ไปที่นั่นแน่นอน ”

    “ หมายความว่าไง ”

    “ ตอนนี้นายมีชีวิตเป็นอมตะยังไงล่ะ นายจะไม่มีวันตาย นายจะไม่เจ็บ ไม่สังเกตตัวเองเลยหรือไงว่าอาการป่วยที่กำเริบของนายมันหายไปไหนหมด ฉันอุส่าหยิบยื่นสิ่งนี้ให้นายแล้วนะนายควรจะดีใจซิ  ”

    “ ดีใจเรื่องอะไร ”

    “ มันได้โอกาศที่นายจะแก้แค้นแล้วไงล่ะ ”

    “ ยังไง ”

    คนเพิ่งรู้จักยื่นแก้วที่บรรจุของเหลวบางอย่างให้กับซึงฮยอน ถึงจะไม่ไว้จะแต่ก็รับไว้

    เพียงสายตาเรียวมองเห็นเท่านั้นแหละว่าของเหลวที่อยู่ในแก้วนั้นมีสีแดงไม่ต่างกับสีตาของเขาในตอนนี้ มือหนาสั่นเทาจนแก้วน้ำที่ถืออยู่แทบหล่นจากมือ

    “ กินซิ ”

    ซึงรีส่งสายตาเชิญชวน

    “ ไม่มันสกปรก ”

    “ แต่มันจำเป็นสำหรับนายนะซึงฮยอน ”

    “ ยังไงฉันไม่เข้าใจ ”

    “ ก็สิ่งนี้จะทำให้พวกเราอยู่รอดบนโลกนี้ไงล่ะ ยิ่งสำหรับพวกเกิดใหม่อย่างนายยิ่งต้องกิน ”

    “ ฉัน....ไม่คิดว่ามันจะจำเป็น ”

    “ ลองชิมดูซิมันช่วยได้มากจริงๆนะ ”

    เสียงใสเชื้อเชิญอีกรอบ

    ถึงจะยังไม่เชื่อในสิ่งที่อีกคนพูดแต่มาถึงขั้นนี้ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วล่ะ มือหนายกแก้วใบสวยบรรจุเลือดสดๆขึ้นมาอยู่ในระดับปาก ปากสวยค่อยๆจิบของเหลวสีแดงสดเข้าปาก เพียงปลายลิ้นได้ลิ้มลอรสชาติตาเรียวถึงกับเบิกกว้าง

    ((รสชาติ อะไรถึงได้เอร็ดอร่อยเช่นนี้))

    เพียงเวลาไม่ถึงนาทีแก้วใบใหญ่ที่มีเลือดสดๆอยู่เต็มก็ถูกร่างสูงดื่มกินจนไม่เหลือเลยซักหยดเดียว ซึงรีมองการกระทำของอีกคนอย่างพึงพอใจ

    “ เป็นไงล่ะเชื่อฉันหรือยังล่ะ ”

    “ อืม ”

    ซึงฮยอนตอบสั้นๆ

    “ ต้องการมากกว่านี้อีกมั้ยล่ะ ”

    “ นายมีอีกหรอเอามาเอามาให้ฉันเดี๋ยวนี้!

    ซึงฮยอนพุ่งตรงเข้าไปหาอีกคนพร้อมบีบแขนของซึงรีแน่นเหมือนขี้ยาลมแดง

    “ 55555555555555555555555+ ใจเย็นซิพี่ชายถ้าอยากกินอีกฉันไม่มีแล้วล่ะ ”

    “ แต่ฉันจะกินฉันต้องการอีก ”

    ร่างสูงคำรามแยกเขี้ยวน่ากลัว

    “ นี้ฉันไม่อยากฆ่าคนมากกว่านี้นะ อยากกินนายก็ไปหาเองซิ ”

    “ นายเอามันมาจากไหน ”

    ซึงฮยอนถามอย่างสงสัยด้วยฉุกคิดขึ้นได้ว่าการจะได้เลือกสดๆของใครซักคนนั้นเขาต้องทำเช่นไร

    “ ก็จากคนที่ทำร้ายนาย จากคนที่ทำลายชีวิตนาย คนที่เกลียดนาย คนที่ทำให้ชีวิตนายตกต่ำแบบนี้ไงล่ะ ”

    “ นายหมายถึงยัยนั้น ”

    ซึงฮยอนรู้ทันทีว่าเลือดที่เขาดื่มไปเมื่อครู่มันเป็นของใคร ร่างสูงหยุดนิ่งไปซักครู่ความรู้สึกบ้าครั้งกระหายเลือดเมื่อครู่หายไปหมดสิ้น ก่อนมุมปากสวยจะยกยิ้ม

    “งั้นก็ดีอะซิ”

    ซึงฮยอนไม่ได้เสียใจหรือรู้สึกผิดเลยแม้แต่อย่างใดในทางกลับกันเขาอยากจะขอบคุณซึงรีซัก1000ครั้ง ในที่สุดเขาก็ได้กำจัด คนชั่วๆให้ตายไปจากโลกใบนี้ได้ซักที

    “ ในเมื่อฉันก็เก็บคนที่นายเกลียดไปแล้วนายก็ไม่มีอะไรคั่งค้างอีกแล้วนิ ไปกับฉันนะ ”

    “ ไปไหน ”

    ซึงฮยอนถามอย่างสงสัย

    “ ไปในที่ของพวกเราพวกเราไม่สามรถอยู่ร่วมกับพวกปรกติได้ ”

    “ ฉันไม่ไป ”

    “ ทำไมล่ะบอกฉันซักคำซิ ”

    “ ฉันมีจียงให้ดูแล ”

    ซึงฮยอนพูดถึงน้องชายทันทีเพราะตอนนี้แม่เลี้ยงของเขาก็ตายไปแล้วถ้าเขาเองจากไปอีกคนคงไม่มีใครดูแลน้องเป็นแน่

    “ ก็บอกแล้วไงว่านายอยู่กับพวกปรกติไม่ได้ถ้าหากวันหนึ่งนายเกิดบ้าครั้งกระหายเลือดขึ้นมาน้องชายนายก็อาจตกอยู่ในอันตรายได้นะ ”

    คิ้วหน้าขมวดเข้าหากันอย่างสับสนเพราะเหตุผลของอีกคนมันช่างตรงเสียเหลือเกิน

    “ ก็ได้ฉันจะไปกับนาย ”

    ซึงฮยอนตัดสินใจไปกับซึงรีในที่สุดเพราะเมื่อนึกไปนึกมาแล้วขนาดเมื่อครู่เขาเห็นเลือดเขาก็สติแตกขนาดนั้นคงควบคุมตัวเองไม่ได้ จนเกิดเรื่องร้ายกับน้องชายของตัวเองเป็นแน่

    “ มาซิ ”

    ซึงรียื่นมือมาชวนอีกคนให้ออกไปจากที่นี้กับตน ซึงซึงฮยอนเองก็ยื่นมือตอบแต่โดยดี เพียงสองมือสำผัสกันเท่านั้นร่างทั้งสองก็หายไปจากห้องแคบๆนั้นทันทีเหลือไว้เพียงความว่างเปล่า ทุกอย่างคงเงียบสงบไปจนกว่าแสงตะวันของวันใหม่จะสาดส่องขึ้นเพราะทุกคนในบ้านต้องตกใจแน่นอนกับศพคุณผู้หญิงที่สภาพศพนอนซีดอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกโดยมีรอยกรีดตามร่างกายอย่างน่าสยดสยอง การหายตัวไปอย่างปริศนาของลูกชายคนโตของบ้าน ไม่มีสิ่งใดเป็นหลักฐานในที่เกิดเหตุเลย มีเพียงจดหมายฉบับหนึ่งที่วางอยู่บนเตียงของร่างสูงที่เขียนอำลาผู้เป็นน้องชายเท่านั้น นั้บตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครได้พบคุณชายคนโตของบ้านอีกเลย

    ............................................................

    END

    ช่วงเนี้ยคือช่วงคุยกันหลังอ่าน

    เป็นไงบ้างล่ะจ๊ะสาวกBIGBANG ทั้งหลาย5555+ โดนส่วนตัวไรต์อยากเขียนแนวนี้มานานแล้วแหละอยากให้พวกรุกกลายเป็นรับแล้วรับกลายเป็นรุกมั้ง5555+ จะได้ยุดติธรรมไงเนาะ อีกอย่างนะฟิคTAM RI หาอ่านยาก มัก มัก มัก มัก เลยนะไรต์คิดว่าบนโลกนี้มีคนจิ้นคู่นี้อยู่ไงเลยแต่งให้(คนหัวอกเดียวกันพอๆกะBAE RI อะนะ) ถ้าชอบไม่ชอบยังไงก็เม้นกันนะจ๊ะไม่ฝากติดตามเรื่องนี้หรอกเพราะมันมีแค่นี้นี้แหละมีตอนเดียว55+


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×