โทษที! ฉันยังไม่ได้คิดชื่อเรื่อง 555 - นิยาย โทษที! ฉันยังไม่ได้คิดชื่อเรื่อง 555 : Dek-D.com - Writer
×

    โทษที! ฉันยังไม่ได้คิดชื่อเรื่อง 555

    สวัสดี ฉันAlzheiiนะ นิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายเรื่องแรกที่ Alzheii ได้เขียนขึ้น ยังไงก็ฝากติชมกันได้นะคะ ขอบคุณค่ะ

    ผู้เข้าชมรวม

    72

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    72

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  19 มิ.ย. 56 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    และแล้วก็มาถึงวันแรกของการเปิดเทอม วันที่ใครหลายๆคนที่กำลังจะเป็นนักศึกษาเฟรชชี่ปี1รอคอย แต่คงจะยกเว้นฉัน ซึ่งคิดว่ามันเป็นวันที่หน้าเบื่อหน่าย และไม่อยากให้มาถึงเท่าไหร่  ก็นะ! คือฉันก็ไม่ใช่เด็กใฝ่เรียนอะไรมากมาย แค่ที่ผ่านมาเรียนจบมาได้ก็ถือว่าดีแล้ว'  ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากจะเรียนหรอก แต่ฉันไม่ค่อยชอบอะไรที่ต้องเริ่มต้นใหม่น่ะ ไม่ชอบที่จะต้องทำความรู้จักคนใหม่ๆ หรือว่าเปลี่ยนการใช้ชีวิตใหม่ๆอะไรประมาณนี้  อ้อ! ฉันชื่อ "เรย์" กำลังเป็นนักศึกษาปี1ที่มหาวิทยาลัยA มหาลัยฯเอกชนแห่งนี้ ที่มีนักเรียนมัธยมปลายหลายต่อหลายคน ใฝ่ฝันอยากจะเข้าที่นี่ แน่นอน คงต้องใช้สมองในการสอบเข้า แต่สำหรับฉัน ก็ยังงงๆอยู่นะ ว่าเอ็นเข้าได้ยังงัย อาจจะเป็นเพราะ พ่อฉันเป็นเพื่อนกับเจ้าของวิทยาลัย รวมกับ เกรดเฉลี่ยของฉันที่ก็ไม่ได้ตกต่ำกว่าเกณสักเท่าไหร่ เรยทำให้ฉันได้มาเป็นเฟรชชี่ที่นี่แหร่ะ มั้ง 

     "เรย์! มาเร็วๆ ขึ้นรถๆ ฉันจะได้พาเข้าไปในวิทลัย อ่ะนี่หมวกกันน๊อค" แระนี่คือไอ้เวย์ หรือ วันเวย์  ผู้ชายที่ใครๆก็คิดว่ามันหล่อ’  หึ เห็นกรี๊ดกร๊าดกันจัง เป็นเพื่อนสนิทของฉันเอง มันเป็นลูกเจ้าของวิทลัยซังกะบ๊วยนี้นั่นแร่ะ ประมาณว่าพ่อฉันกับพ่อมันก็เป็นเพื่อนกันน่ะ  แต่ว่ามันก็ไม่ได้ต่อมหาลัยเดียวกันกับฉันหรอกน่ะ เนื่องจากว่าพ่อมัน กลัวว่าลูกชายตัวเอง จะคิดว่าที่นี้เป็นวิทลัยของพ่อตัวเองแล้วจะทำอะไรนอกกอบก็ได้ เลยจะส่งให้มันไปเรียนต่อที่ อเมริกา แต่เพราะมันเป็นคนที่รู้ที่ทางในวิทลัยดีที่สุด เลยอาสาจะพาฉันเข้ามาในวันแรก เพราะว่าวิทลัยของมันก็เปิดช้ากว่าของฉัน  แต่ก็นะ 

    "หืม! ยังจะมีมาเร่งอีก ฉันสิ ต้องโวยแก แกนัดฉันกี่โมงห๊ะ ฉันรออยู่หน้าวิทลัยซังกะบ๊วย ของแกตั้งนาน ร้อนก็ร้อน บ้าจริง! แค่ขับเข้าไปใกล้ๆนี่เองไม่ใส่หรอก ย่ะ" 

    "ตามใจแล้วกัน  โด่ว รอแค่นี้ไม่ตายหรอกน่า แกอย่าลืมสิ ว่าวันนี้มะนาวของฉันก็เปิดเรียนนะเว้ย ฉันก็ต้องไปเทคแคร์เค้าบ้างสิ เดี๋ยวฉันก็ต้องไปอเมริกาแล้ว"

    "นี่ถ้าแกจะเห็นเด็กในสต๊อกของแกสำคัญถึงขนาดที่ต้องให้คนสวยๆอย่างฉันต้องมายืนตากแดดร้อนๆรอล่ะก็ แกก็ไม่ต้องมาก็ได้นะ" อยากจะบอกว่าคนอยากไอ้เวย์น่ะ เจ้าชู้เป็นที่หนึ่ง ไม่รู้พวกผู้หญิงนี่ตาบอด หรือตั้งใจทำเป็นมองไม่เห็นข้อเสียของมันนะ ถึงยังกรี๊ดกร๊าดกันอยู่นั่น  เมื่อตอนสมัยที่เรียนมัธยมด้วยกันนะ ฉันน่ะ โดนบรรดาสาวกของมัน แวะมาขู่ไม่เว้นแต่ละวัน จนฉันชินแล้ว เหมือนกับว่า มันเป็นแค่การกล่าวทักทายของเพื่อนสาวร่วมโรงเรียน เท่านั้น’

    "เฮ้อ เบื่อผู้หญิงตรงนี้แร่ะ รีบๆขึ้นมาสิ แกจะร้อนตายเพราะมัวแต่มายืนบ่นฉันนี่แร่ะ ฉันร้อนโว้ยย!  อ้อ!แล้วฉันไม่ขอโทดนะที่มาช้าน่ะ ถือว่าหายกันกับที่แกมาหาว่าวิทลัยของฉันซังกะบ๊วยรู้ไว้ซะว่าใครๆก็อยากเข้ากันทั้งนั้น!"   "ย่ะ"   ยังไม่ทันที่ฉันจะอ้าปากต่อว่า มันก็พูดดักคอซะก่อน จริงๆเรยไอ้เพื่อนคนนี้ ไถไปได้ตลอด ตอนนี้เราก็ขับรถเข้ามาในเขตมหาลัยแล้วแร่ะ ก็สวยหรูดูดี สมราคาคุยอยู่หรอกนะ จิงๆแล้ววันนี้ฉันมีเรียนคาบเช้า แต่คงคิดว่า หน้าจะเป็นคาบโฮมรูมทั่วไปไม่มีอะไรมาก ฉันเรยไม่เข้า ขอมาสำรวจก่อนแล้วกัน ฮ่าๆ

    "ปี๊ด!!" "เฮ้ยย !"  "อ๊ายย ย!" "เพลิ่ง!!" เสียงโลหะปะทะกันอย่างแรงนั้น คือเสียงสุดท้ายก่อนที่ฉันจะวูบไป (แปปเดียว) เมื่อฉันลืมขึ้นมา

     "โอ้ย! " ฉันยังนอนกองกับพื้นอยู่ คนมุงเต็มเรย โอ้ย!  จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเนี่ย อืม' ยังไม่ตาย แล้วเวย์ล่ะ' ฟึ่บ! ฉันกวาดสายตามองหาเพื่อน แล้วก็ต้องไปเจอเวย์กำลังนั่งอยู่ที่พื้น โดยมี คู่กรณี ใช่!  เค้าคือคู่กรณีที่ขับมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบร์สีส้มตัดดำคันนั้นมาชนกับมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบร์รุ่นเดียวกันสีเหลืองตัดดำของเวย์ เอ้ะนั่นเค้า กำลังถือปืน เรงไปที่ขาของของเวย์ ปั้ง!...  เฮือก! ฉันยังคิดไม่ได้ถึงไหนไอ้บ้านั่นมันก็ลั่นไกยิงเพื่อนฉัน ห๊ะ! ยิงเพื่อนช้านน !! ไม่นะ ฉันรีบลุกวิ่งไปที่ผู้ชายใจร้ายคนนั้น เค้ายังใส่หมวกกันน๊อคอยู่เลยทำให้เห็นหน้าไม่ชัด ตุ้บ! 

    "ไอ้บ้า " 

    "เฮ้ย! นี่เธอกล้าดียังไงมาตบหัวฉันน่ะ"
    "นี่นายบ้าไปแล้วหรอ ฮึก แค่ขับรถชนกันแค่นี้ มันคืออุบัติเหตุนะ ทำไมต้องถึงขั้นยิงกันด้วย ใจร้าย ใจดำที่สุดเลย ฮึก จิตใจทำด้วยอะไรห๊ะ!  ไอ้ชั่ว!" 

    ฉันปรี๊ดแตกสุดๆ น้ำตาเริ่มไหลคำพูดก็ติดขัดเพราะเสียงสะอื้น ฉันไม่คิดเลยว่าฉันจะต้องมาเจอคนประเภทที่ไม่คิดว่าจะมีอยู่บนโลกนี้ด้วยซ้ำ มาทำนิสัยป่าเถื่อนแบบนี้
    "นี่เธอ มันจะมากเกินไปแล้วนะ!"

    "เฮ้ย!เทย์ รีบไปกันก่อนเถอะ เดี๋ยวตามไอ้พวกเวรนั่นไม่ทัน" ก่อนที่ผู้ชายใจชั่วคนนั้นจะพูดจบเพื่อนของเขาก็พูดขึ้นมาเหมือนเร่งให้เขารีบขึ้นรถ 

    "เออๆ ฮึ่ย !นิเทศศาสตร์งั้นหรอ ? คงจะเพิ่งเข้ามาใหม่สินะ ถึงได้ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ฝากไว้ก่อนเถอะ"    เขามองมาที่ เข็มกลัดคณะของฉัน ก่อนจะสบดแค่นั้น ผู้ชายที่น่าจะชื่อเทย์ก็รีบขึ้นรถแล้วขับมอไซต์บิ๊กไบร์คันนั้นไป

     "ไอ้บ้า มาฝากอะไรกันห๊ะ ฉันไม่ต่อยหน้าแกก็บุญแล้วนะฮึก แน่จริงอย่าหนีสิ กลับมา!! .ไอ้ชั่ว!! ฮึก เวย์ แกเป็นไงมั่ง"ฉันไม่ลืมรีบวิ่งไปดูเพื่อนตัวเองที่กำลังจะลุก แต่ก็ลุกไม่ได้ ขาเวย์เลือดไหลเย๊อะมาก ต้องเป็นเพราะถูกยิงแน่ๆเลย TT  "เรย์ แกร้องไห้ทำไม ฉันไม่ได้เป็นอะไรเว้ย! คือเมื่อกี้อ่ะ " "แกไม่ต้องต้องพูดอะไรแล้วฮึก ทำใจดีดีไว้นะ เดี๋ยวรถพยาบาลก็คงมา ฉันเห็นม่ีคนโทรตามรถพยาบาลแล้ว"ฉันรีบพูดตัดบท ฉันรู้ว่าเวย์เจ็บ แล้วก็ต้องเจ็บใจมากแน่ๆกับไอ้บ้านั่น แต่ช่างเถอะ ตอนนี้ฉันต้องรีบพาเวย์ไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด "เฮ้อ! แกนี่นะ ฉันล่ะเพลียจิตกับแกจริงๆ เมื่อกี้มันไม่ใช่"

     "นั่นไง รถพยาบาลมาแล้ว แกไหวนะ" 

    "อืมๆ แกดูตัวเองก่อนเถอะ ถลอกทั้งตัวขนาดนั้น หัวก็แตกเจ็บมากมั้ย เป็นหนักกว่าฉันอีก ฉันขอโทษนะที่ไม่ระวังทำให้แกต้องเจ็บตัว."  

    เวย์พูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล "จะบ้าหรอ แกนั่นแร่ะ ที่หนักกว่าฉัน แล้วแกก็ไม่ต้องขอโทษฉันด้วย คนที่ผิดน่ะ มันคือไอ้ชั่วนั่น ไม่ใช่แก ฉันก็แค่หัวแตก โอ๊ะ! ฉันหัวแตกจริงๆด้วยT  T”  เมื่อฉันเอามือจับไปที่หัวตัวเอง ถึงรู้สึกว่ามันเจ็บน่ะ " เฮ้อ ! เรย์เอ๊ย ฉันละเพลียกับแกจริงๆ แกไปให้พยาบาลดูเหอะไป"

     "เออ เจ็บว่ะ ฮึ่ย! เจ็บทั้งกาย เจ็บทั้งใจ!! ไปทำแผลก่อนนะ"  เวย์ได้แต่มองตามเพื่อนสนิทของตนด้วยสีหน้าเอือมๆปนรอยยิ้มเล็กน้อย ในความเปิ่นของเรย์ ที่ไม่ยอมฟังคำอธิบายอะไรเลยถ้าเป็นในสถานการณ์อื่น เข้าคงเขกกบาลยัยเพื่อนจอมเซ่อคนนี้ไปแล้ว   แต่ในสถานการณ์แบบนี้ เขาก็อดที่จะรู้สึกดีไม่ได้ ในเมื่อสิ่งที่เรย์ทำก็เพราะเป็นห่วงเขา  ยัยเซ่อเอ๊ย ^^ ”   

    ตอนนี้ฉันทำแผลเสร็จแล้ว กำลังจะไปรับยา แล้วกะว่าจะไปดูอาการเวย์สักหน่อย ค่อยกลับคอนโด ฉันอยู่ที่คอนโดน่ะ เพราะคุณพ่อกับคุณแม่ของฉันไปทำกิจการไร่ชาอยู่ ที่เมืองจีน จริงๆแล้วฉันก็มีบ้านที่นี่นะ แต่ฉันรู้สึกว่า การที่มีบ้านหลังใหญ่โต แต่ต้องอยู่คนเดียว มันคงหว้าเหว่ ชอบกล เลยขอมาอยู่คอนโดคนเดียวดีกว่า แต่ที่พ่อกับแม่ฉันอนุญาติน่ะ ก็เป็นเพราะคอนโดอยู่ใกล้กลับวิทยาลัยด้วย  ฉันจะได้สะดวกในการเดินทาง  เพราะท่านคงรู้มั้งว่า ฉันเป็นคนขี้ลืม สงสัยคงต้องได้ไปๆกลับๆบ่อย เลยอนุญาติ ถ้าเป็นตอนมัธยมนะ ฉันโดนไอ้เวย์บ่นทุกวันอ่ะ ที่ให้มันต้องเป้นคนพาฉันกลับบ้านไปเอารายงานบ้าง นู่นนี่นั่นบ้าง เพราะฉันลืม ฮ่าๆ  แต่พูดแล้วก็ใจหายเหมือนกันนะ อีกไม่กี่วันเวย์ก็จะต้องไปเรียนต่อแล้ว ทีแรกฉันก็ไม่ค่อยได้รู้สึกอะไร แต่พอมาเจอเหตุการณ์ เมื่อเช้านี้ ฉันคิดเลยว่าถ้าเวย์เป็นอะไรไป ฉันจะทำยังไง ไม่อยากจะพูดพล่อยๆนะ ถ้าไม่มีเวย์ฉันคงแย่ ก็คงจะเหงาน่าดูเหมือนกันแร่ะ เพราะตั้งแต่ที่ฉันเรียนมัธยมมาฉันก็ไม่มีเพื่อนที่ไหนเลย นอกจากเวย์ แอ๊ด!! ฉันเปิดประตูเข้าไปในห้องก็เห็นเวย์นอนใส่เฝือกอยู่  เป็นไงบ้างแก ดูสิ๊ใส่เฝือกเรย 

    ฮึ่ย! เพราะไอ้บ้านั่นคนเดียวเลย ทำให้แกต้องเป็นแบบนี้ อย่าให้เจอน่ะ ฉันจะเอาปืนกระบอกนั้นของมันนั่นแร่ะ ยิงมันเลย

    เฮ้อ! ไปกันใหญ่แล้ว ช่างเถอะ ไว้เดี๋ยวค่อยอธิบายให้แกฟัง รอให้ใจเย็นกว่านี้ก่อน ว่าแต่ แกทำไมถึงกล้าไปตบหัวพี่เทย์น่ะห๊ะแกรู้ไม๊ว่าพี่เทย์น่ะเป็นใคร?

     “ไม่รู้เว้ย! แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย นี่พอเลยนะ แค่ตบหัวแค่นี้มันยังน้อยไป แล้วไม่ต้องไปเอาประวัติมันมาอ้างด้วย ฉันไม่สนใจหรอก 

    นี่แกจะบอกว่าแกไม่กลัวเลยเดินไปตบหัวเค้า ทั้งๆที่เค้ามีปืนน่ะนะ ถ้าเค้ายิงแกขึ้นมา จะทำยังไง

    เออ ว่ะ ฉันลืมคิด  ก็ฉันมัวแต่เป็นห่วงแกนี่!”

    เมื่อกี้แกว่าไงนะ

    ก็...ก็เป็นห่วงแบบเพื่อนอะไรแบบนี้ แกคิดอยู่เนี่ยะ แกโดนยิงนะ ไม่ห่วงก็บ้าแล้ว

    อ่อ หรอ ฉันก็แค่ถาม ยังไม่ได้พูดไรเลยนะ ไม่จำเป็นต้องอธิบายขนาดนั้นหรอกน่า 55”

    ฮึ่ย! นี่แกหาว่าฉันร้อนตัวงั้นหรอ ช่างเถอะ! ฉันไม่คุยกับแกแล้ว กลับห้องดีกว่า เหนื่อยมาทั้งวัน ชิส์ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมแล้วกัน แล้วนี่คนทางบ้านแกรู้เรื่องรึยัง  เวย์เคยบอกฉันว่า อยู่กับพี่ชายสองคน พ่อแม่ของเวย์ ไปทำกิจการขายน้ำมันอยู่ที่อเมริกา นี่ก็เป็นเหตุผลที่เวย์ต้องไปเรียนต่อที่นั่น อีกอย่าง

     “รู้แล้ว นี่แหละ อีกสักพักพี่ฉันก็คงมา แกไม่อยู่คุยกับพี่ฉันก่อนหรอ

    Perspective, the idea of .. Way

    แล้วเหตุการณ์เมื่อเช้าคือ ….>>>  "ปี๊ด!!" "เฮ้ยย !"  "อ๊ายย ย!" "เพลิ่ง!!" เสียงโลหะปะทะกันอย่างแรงนั้นคือเสียงรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบร์ ของผมโดนชน ไคว๊ะ!

    ปั้ง! แล้วพี่เทย์ก็ยิงมาที่ซี่ล้อรถของผม เฮ้อ เสียดาย หลายตังนะน่ะ แต่มันก็ทำให้ผมเอาขาออกมาได้ล่ะนะ แต่ว่า ..

    "ไอ้บ้า "  ยัยเพื่อนตัวดีของผมนึกเพี๊ยนอะไรอยู่ดีดีก็ลุกขึ้นมาตบหัวพี่เทย์

    "เฮ้ย! นี่เธอกล้าดียังไงมาตบหัวฉันน่ะ"
    "นี่นายบ้าไปแล้วหรอ ฮึก แค่ขับรถชนกันแค่นี้ มันคืออุบัติเหตุนะ ทำไมต้องถึงขั้นยิงกันด้วย ใจร้าย ใจดำที่สุดเลย ฮึก จิตใจทำด้วยอะไรห๊ะ!  ไอ้ชั่ว!"  เรย์ร้องไห้ด้วย นี่หัวมันฟาดพื้นแรงไป ได้รับความกระทบกระเทือนรึป่าว เมื่อกี้เห็นสลบอยู่เลย เอ๊ะ! อ่อ นี่คงตื่นขึ้นมาเห็นตอนที่พี่เทย์ยิงผมแล้วเข้าใจผิดสินะ

    "นี่เธอ มันจะมากเกินไปแล้วนะ!"

    "เฮ้ย!เทย์ รีบไปกันก่อนเถอะ เดี๋ยวตามไอ้พวกเวรนั่นไม่ทัน" ยังไม่ทันที่พี่เทย์จะได้อธิบาย พี่วินก็เรียกพี่เทย์ซะก่อน ดูพี่เทย์จะหงุดหงิดกว่าเดิมมากนะ เนื่อจากก่อนหน้านี่ก็มีเรื่องให้หน้าหงุดหงิดอยู่แล้ว

    "เออๆ ฮึ่ย !นิเทศศาสตร์งั้นหรอ ? คงจะเพิ่งเข้ามาใหม่สินะ ถึงได้ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ฝากไว้ก่อนเถอะ"   นั่นไง เป็นผมก็คงเครืองหน้าดูแหล่ะ นะ

    "ไอ้บ้า มาฝากอะไรกันห๊ะ ฉันไม่ต่อยหน้าแกก็บุญแล้วนะฮึก แน่จริงอย่าหนีสิ กลับมา!! .ไอ้ชั่ว!! ฮึก เวย์ แกเป็นไงมั่ง"

     แล้วเรย์ก็หันมาถามผม สีหน้าดูเป็นห่วงผมมากเลย น่ารักดีแฮ๊ะ  <<<<

    ก็ ยังไม่มีโอกาสอ่ะ

    ดี งั้นแกไม่ต้องบอกหรอก เดี๋ยวฉันจัดการเอง ป่ะกลับบ้านกัน  แล้วผมกลับพี่เทย์ก็มาถึงบ้านกว่าพี่เทย์จะไปรับผมก็เกือบสี่ทุ่มแน่ะ เพราะพี่เทย์เอารถเราสองคนไปซ่อม แล้วก็กว่าจะกลับมาเอารถยนต์อยู่บ้านไปรับ เราเลยได้กินข้าวเย็น(ดึก)ด้วยกัน พูดคุยกันตามประสาพี่น้อง  ก่อนจะต่างคนต่างแยกย้ายไปพักผ่อน...
    <<<<มีต่อ>>>

     


    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น