คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ภารกิจ First Hunting Field
ภารกิจ First Hunting Field
ฟรานส์จัดการเตรียมอาวุธของตัวเองให้อยู่ในสภาพพร้อมทุกเมื่อ ปืนหลากหลายชนิดถูกวางเรียงกันบนโต๊ะไม้อย่างเป็นระเบียบ
แกร๊ก!!
เสียงขึ้นลำปืนดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะจัดการเก็บปืนทั้งหมดเข้าไปในแขนเสื้อทั้งสองข้าง ฟรอเรียสที่มองอยู่ตลอดก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ปืนมากมายขนาดนั้นเข้าไปยัดอยู่ในแขนเสื้อได้อย่างไร
ความจริงแล้ว คลังอาวุธต่างมิตินั้น เป็นเวทมนต์ชนิดเดียวที่ฟรานส์มี เป็นเวทประเภทอัญเชิญอาวุธออกมาจากคลังเก็บของต่างมิติ
*คลังเก็บของต่างมิตินั้นสร้างขึ้นมาจากพลังเวทของคนๆนั้น พลังเวทยิ่งมากยิ่งเก็บของได้เยอะขึ้น ในกรณีของฟรานส์นั้น มีข้อจำกัดว่าใช้เก็บได้แค่อาวุธประเภทปืนเท่านั้น เป็นหารใช้ข้อจำกัดบางอย่างเพื่อเพิ่มพื้นที่ของคลังเก็บของเพื่อชดเชยปริมาณพลังเวทที่น้อย
“งั้นก็ระวังตัวด้วยนะ” ฟรอเรียสเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน
“ขอบคุณครับ คุณฟรอเรียส” ฟรานส์ยิ้มตอบกลับ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในสายหมอก
ฟรานส์เดินไปข้างหน้าอย่างไม่รีบร้อน ทางข้างหน้านั้นเต็มไปด้วยหมอกหนา ต่างจากหมอกที่ทางเข้าป่าโดยสิ้นเชิง แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาเลยสำหรับเอเรย์ฟรานส์
ลมปราณศิลาอมตะ เทพวิชาตรวจจับขั้นนสูง วิหารเทพอัคนี
ลมปราณราชันย์อมตะถูกใช้ออกโดยการหลอมรวมเข้ากับลมปราณธาตุดิน เชื่อมต่อตนเองเข้ากับผืนดินและทุกสิ่งที่สัมผัสกับพื้ดิน เป็นลมปราณสายตรวจจับ 1 ใน 8 ของฟรานส์ วิหารเทพอัคนีจะทำให้ผู้ใช้รับรู้ถึงสิ่งต่างๆรอบๆตัวโดยที่ไม่จำเป็นต้องมองเห็น แค่ใช้ลมปราณสัมผัสเท่านั้น แต่มีข้อจำกัดคือ ต้องมีส่วนไดส่วนหนึ่งของร่างกายเชื่อมต่อกับพื้นอยู่ตลอดเวลา และ สิ่งที่รับรู้ได้ต้องเป็นสิ่งที่สัมผัสกับพื้นดินอยู่เท่านั้น
ฟรานส์เร่งพลังลมปราณขยายขอบเขตรับรู้ให้กว้างขึ้น แต่ก็ไม่อาจสัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตไดๆเลย
“ป่านี้มันกว้างขนาดไหนกันเนี่ย ขนาดขยายขอบเขตการรับรู้ให้กว้างที่สุดแล้วยังสัมผัสอะไรไม่ได้เลย” นภาเร่งฝีเท้าขึ้นเพื่อจะเดินเข้าไปให้ลึกกว่าเดิม
“หรือว่ามันบินอยู่กันนะ...”
ฟรานส์หยุดใช้วิหารเทพอัคนีทันที ก่อนจะรวบรวมลมปราณไปที่เท้าก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนฟ้าทันที
ลมปราณสายลมอมตะ เทพวิชาตรวจจับขั้นสูง วิหารเทพวายุ
ฟรานส์สร้างพื้นที่ยืนออกมากลางอากาศด้วยลมปราณทำให้ยืนอยู่กลางอากาศได้ และใช้ลมปราณตรวจจับทันที ขอบเขตรับรู้แผ่ขยายออกไปรอบๆตัวเป็นทรงกลมทันที
ทุกสิ่งที่อยู่ในอาณาเขตนี้ จะไม่รอดพ้นไปจากการรับรู้ของฟรานส์ได้
“เจอแล้ว!!” นภาหันไปทางทางสัมผัสถึงสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ได้ทันที จากรูปร่างและพลังความร้อนที่สัมผัสได้นี้เป็นกราด้อนไม่ผิดแน่นอน
ชั่วพริบตานั้นฟรานส์สลายพลังทั้งหมดทันทีแล้วถ่วงตัวเองลงกับพื้น ก่อนจะผนึกพลังปราณสายฟ้าไปทั่วร่างทันที
ลมปราณสายฟ้าอมตะ เวทวิชาท่าเท้าขั้นสูง ย่างก้าวเงาอัสนี
ความเร็วของฟรานส์ตอนนี้เร็วพอๆกับสายฟ้าที่ฟาดลงสู่พื้นดิน ทุกการเคลื่อนไหวประกายสายฟ้าจะหลั่งไหลออกมาตลอดเวลา เพียงไม่นานแค่ชั่วพริบตา ฟรานส์ก็พาร่างของตัวเองมาอยู่ใต้ร่างของมังกรขนาดยักษ์อย่างไม่ยากเย็น
‘รีบตัดปีกของมันกลับไปดีกว่า ถึงเวลาใช้ลมปราณอมตะจะทำให้มีพลังชีวิตกับลมปราณไม่จำกัด แต่ผมกระทบเวลาใช้ลมปราณนั้นหนักเกินกว่าที่เราจะรับได้เป็นเวลานานๆ’
“เอาล่ะนะ”
เพียงสะกิดเท้าครั้งเดียวร่างของฟรานส์ก็ลอยอยู่เหนือมังกรยักษ์ทันที
ลมปราณเพลิงอมตะ เทพวิชาสำนึกหมัด หมัดจอมราชันย์สะท้านภพ!! (เวอร์ชั้นอัคคี)
ตูม!!
ท่าไม้ตายของฟรานส์ถูกใช้ออกมาทันที ลมปราณมหาศาลถูกใช้ออกโดยไม่สำรองไว้ หวังเพียงแค่จะจบการต่อสู้ให้ได้ในหมัดนี้
โฮก!!
เสียงคำรามดังลั่นไปทั่วบริเวณ ก่อนที่ร่างติดไฟของมังกรตรงหน้าจะสิ้นใจไป
“แฮ่ก...ๆ...” ฟรานส์สลายลมปราณของตัวเองทันทีก่อนที่ร่างเล็กจะตกลงสู่พื้นอย่างแรง ร่างกายเหมือนถูกเผาผลาญด้วยไฟนรกที่เผาผลาญไปถึงวิญญาณ
“แค่ก ๆ ลมปราณธาตุนี้มันมีผลร้ายมากกว่าผมดีจริงๆแหะ ถ้าใช้ไม่ระวังล่ะก็มีสิทธิ์ตายได้เลยนะเนี่ย...” ฟรานส์นอนแผ่ลงกับพื้น พลางเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อนอ่อน
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีเวลาให้ฟรานส์ได้พักผ่อนเลยแม้แต่น้อย ลูกไฟหลายสิบลูกพุ่งเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็ว
ตูม!! ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เสียงระเบิดดันขึ้นต่อเนื่องต้นไม้รอบๆถูกทำลายหายไปเป็นวงกว้าง
“กรร...” ร่างใหญ่ยักษ์ของมังกรกลาด้อนหลายสิบตัวบินล้อมจุดที่ฟรานส์เคยนอนอยู่ด้วยแววตาเคียดแค้น ตัวที่น่าจะเป็นจ่าฝูงบินลงมามองร่างไหม้ไฟของมังกรเผ่าพันธุ์เดียวกัน มันมองร่างนั้นอยู่ซักพักก่อนจะคำรามออกมาเสียงดันสนั่น เรียกให้ลูกฝูงตัวอื่นคำรามสมทบ
ตูม!!
ระเบิดขนาดย่อมหักเขาของเจ้าตัวจ่าฝูงข้างหนึ่งอย่างรุณแรง ทำให้มันหันไปมองยังกองไฟกองใหญ่ที่เมื่อครู่มันพึ่งระดมยิงไฟใส่เข้าไปทันที
“ฟู่...เกือบไปแล้ว ถ้าไม่ผนึกเพลิงอมตะทั่วร่างป่านนี้ร่างคงแหลกไปแล้ว”
ไฟค่อยๆมอดลงอย่างช้าๆจนดับไปในที่สุด ตรงกลางหลุมที่เกิดจากการระเบิดมีร่างเล็กร่างหนึ่งที่มือขวาถือปืนระเบิดกระบอกใหญ่เอาไว้ แสดงให้รู้ว่า เจ้าของระเบิดลูกเมื่อกี้เป็นฝีมือของเขาแน่ๆ
“แล้วพวกพี่จะยกอะไรกันมาเยอะแยะครับเนี่ย ถึงผมจะใช้พลังได้ไม่จำกัด แต่ถ้าต้องใช้บ่อยๆก็รับภาระไม่ไหวเหมือนกันนะ”
ฟรานส์พูดออกมาติดตลก ที่มือซ้ายก็เพิ่มปืนกลหนักที่ใหญ่เกินกว่าที่เด็กจะถือได้ขึ้นมากระบอกหนึ่ง
‘เยอะเกินไปหน่อยรึเปล่าเนี่ย...ถ้าแค่จำนวนเท่านี้ปืนที่มีก็น่าจะกวาดหมด แต่ถ้ามากกว่านี้ล่ะก็ไม่ไหวแน่ๆ’
“โฮก!!” เสียงของจ่าฝูงกลาด้อนคำรามลั่นอีกครั้ง ก่อนที่ลูกไฟขนาดใหญ่จะถูกปล่อยออกมาอีกระรอก
ตูม!!
เสียงระเบิดของลูกไฟเหมือนเป็นสัญญาณเริ่มการต่อสู้ ลูกฝูงที่เหลือก็กระน่ำยิงลูกไฟใส่เขาทันที
ปัง!! ๆ ๆ ๆ ๆ
ฟรานส์หลบลูกไฟด้วยความเร็วสูงปืนกลในมือก็สาดกระสุนออกมาอย่างบ้าคลั่ง และทุกนัดก็ไม่มีพลาดเป้า ด้วยขนาดตัวของเป้าหมายที่ใหญ่และความชำนาญการยิงปืน ทุกนัดที่เข้าเป้าล้วนเป็ฯจุดสำคัญทั้งนั้น
ปืนหลายสิบกระบอกถูกเรียกออกมาใช้สังหารมังกรเพลิงทีละตัว ๆ จนตอนนี้เหลือแค่ ไม่กี่ตัวเท่านั้น
“ลงมาซะดีๆ”
ปืนไรเฟิลต่อต้านรถฟังส่งกระสุนระเบิดปีกข้างหนึ่งของมังกรผู้โชคร้ายให้ร่วงลงมาสู่พื้นทันที มือข้างที่เหลือล้วงไปที่คอเสื้อก่อนจะล้วงเอาปืนลูกซองออกมายิงซ้ำ ส่งให้ตายไปอีกหนึ่งตัว
“โฮก!!”
“เฮ้ย!!”
เจ้าจ่าฝูงสะบัดปีกอย่างรุณแรงสร้างพายุเพลิงขนาดใหญ่ออกมาหลายสิบลูก ลมปราณอมตะถูกเรียกใช้อีกครั้ง
ลมปราณสายน้ำอมตะ เทพวิชาจำแรงร่าง ร่างเทพวารี
พายุเพลิงพัดไปทั่วบริเวณอย่างบ้าคลั่ง ฟรานส์ที่เปลี่ยนร่างตัวเองให้เป็นธาตุน้ำได้รับผลจากพายุเพลิงแค่ครึ่งเดียว แต่ครึ่งเดียวนั้นแหละที่ทำให้ฟรานส์บาดเจ็บหนักไม่น้อย
“โอ๊ย ร้อน ๆ ๆ ๆ”
นภาวิ่งเหลบพายุเพลิงต้นแล้วต้นเล่าเพื่อที่จะเข้าไกล้ร่างของจ่าฝูงกลาด้อนให้ได้แต่ดูเหมือนจะไม่เป้นผลเพราะมันสร้างพายุเพลิงออกมาเพิ่มอีกไม่หยุด
“บ้าจริง เข้าไกล้ไม่ได้เลย” ในตอนนี้ปืนของฟรานส์ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์ เขาจึงเก็บเข้าคลังไปแล้ว สิ่งที่เขาจะพึ่งได้ตอนนี้เหลือแค่ลมปราณเท่านั้น
“ทำยังไงถึงจะเข้าไปไกล้มันได้เนี่ย...” เขากัดฟันกรอดพลางหลบพายุเพลิงไปด้วย ในหัวก็คิดวิธีการต่างๆนาๆเพื่อที่จะเข้าไปไกล้ให้ได้ เขาเหลือลมปราณอะไรอีกมั่งที่พอจะใช้ได้ในสถานการณ์นี้ได้
“จริงสิ!!” ฟรานส์ถอยออกห่างจากระยะของพายุเพลิงก่อนจะรวบรวมลมปราณที่ไม่ค่อยได้ใช้ไปทั่วร่างทันที
ลมปราณวิญญาณไร้เงา
ร่างของฟรานส์โปร่งใสจนมองทะลุได้ ลมปราณลี้ลับแผ่ออกมารอบๆตัว ฟรานส์สะกิดเท้าเพียงเล็กน้อย ร่างของเขาก็เหมือนแยกเป็ยภาพติดตาเหมือนจะเคลื่อนไหวช้าๆ แต่ในความเป้ฯจริงกลับรวดเร็วจนมองตามไม่ทัน
เพียงชั่วพริบตาร่างเล็กก็มายืนอยู่ตรงหน้าของจ่าฝูงมังกรแล้ว
“เป็นผู้หญิงก็ทำตัวให้มันเรียบร้อยหน่อยสิครับพี่สาว”
ฟรานส์ฉีกยิ้มออกมาจนเห้นฟันขาวๆของเขา มังกรจ่าฝูงผงะไปเล็กน้อย
“จบซักที”
ลมปราณวิญญาณอมตะ คืนวันฝันสลาย
ลมปราณลี้ลับแผ่ออกมาอย่างบ้าคลั่งก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างให้เป็นวิญญาณนับร้อยนับพันพุ่งเข้าใส่มังกรจ่าฝูงทันที
“โฮก!!” มันคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวดทรมาณ วิญญาณนับพันวนเวียนอยู่ในร่าง แม้ร่างกายจะไม่มรีบาดแผล แต่ความเจ็บปวดที่มันได้รับก็คือความจริง...เวลาผ่านไปไม่นานมันก็สิ้นใจในที่สุด
“ที่กราด้อนเพิ่มจำนวนออกมามากขนากนั้นก็เพราะมีจ่าฝูงเป็นตัวเมียรึเปล่านะ...” ที่ฟรานส์รู้ว่าจ่าฝูงตัวนั้นเป็นเพศเมียก็เพราะตอนใช้ลมปราณวิญญาณไร้เงานั้น เขาสามารถมองเห็นร่างวิญญาณของสิ่งมีชีวิตได้ ทำให้เขารู้ว่าวิญญาณของกราด้อนนั้น เป็นวิญญาณของมังกรเพศเมีย
ฟรานส์หันไปมองด้านหลังของตัวเอง ปีกมังกรหลายสิบอันถูกผูกติดกันไว้ด้วยเชือก ทำให้เขาแบกปีกทั้งหมดกลับไปได้
นภาเดินไปตามทางที่เขาเดินเข้ามาเพื่อจะออกจากป่าสายหมอก เพื่อไปส่งภารกิจ
ความคิดเห็น