ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Sweet Trap 3
Sweet Trap 3
คยองซูเดินเข้ามาในห้องของน้องชายตัวเองแล้วต้องถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อเห็นว่าน้องชายของตัวเองยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง ทั้งๆที่ตอนนี้ทุกคนกำลังรออยู่ข้างล่าง เพราะวันนี้ครอบครัวของเขากับครอบครัวของคุณอาชานดึลมีนัดไปเที่ยวด้วยกัน
ในขณะที่ตอนนี้ทุกคนเตรียมพร้อมกันหมดแล้ว แต่น้องชายของเขากลับยังไม่ยอมลุกจากที่นอนทั้งๆที่เขาก็มาปลุกตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าไอ้ตัวแสบนี่จะไม่ยอมลุกและนอนต่ออีกต่างหาก แล้วเขาจะทำยังไงดีล่ะ ในเมื่อทุกคนบอกกับเขาว่าทำยังไงก็ได้ให้พาแบคฮยอนไปด้วยให้ได้
“แบคฮยอน” คยองซูเรียกพร้อมกับเดินเข้าไปเขย่าตัวน้องเบาๆ
“แบคฮยอน ตื่นได้แล้วทุกคนเขารอกันอยู่นะ” คยองซูพูดและเขย่าตัวน้องแรงกว่าเดิม
“ก็ไปกันสิไม่ต้องรอ ผมไม่ไป” แบคฮยอนตอบด้วยน้ำเสียงงัวเงียและพลิกตัวหนีคยองซูด้วยความรำคาญ
“แบคฮยอน แต่ทุกคนอยากให้เราไปนะ พ่อบอกว่าเห็นเราดูเครียดๆก็เลยอยากให้เราไปพักผ่อนบ้าง” คยองซูพูดขึ้นมา
“ไม่เอา ไม่ไป ถ้าอยากพักผ่อนเดี๋ยวผมจะไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อนเอง ไม่เอาอ่ะ ไปกันเถอะ” แบคฮยอนตอบแล้วเงียบลงไปเพราะตอนนี้เขากำลังหลับอีกครั้ง
“เฮ้อ” คยองซูถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจก่อนจะเดินออกไปจากห้อง จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อแบคฮยอนทั้งดื้อทั้งหัวแข็ง ยอมทำตามใครง่ายๆซะที่ไหนล่ะ
เมื่อได้ยินเสียงคยองซูเดินออกจากห้องไปแล้ว แบคฮยอนก็ลุกขึ้นมานั่งทันที ความจริงเขาตื่นตั้งแต่ตอนที่คยองซูมาปลุกตั้งแต่รอบแรกแล้ว แต่เขาแค่ไม่อยากไปเที่ยวกับไอ้บ้าหูกางนั่น เพราะเขาไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากคุย ไม่อยากไปไหนกับไอ้บ้านั่นจริงๆ แล้วอีกอย่างเขาก็ไม่ต้องห่วงพี่ของตัวเองมากนักเพราะมีผู้ใหญ่ไปด้วย ไอ้หูกางนั่นคงไม่กล้าทำอะไรพี่เขาแน่นอน
แบคฮยอนเดินลงมาข้างล่างเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว ความจริงวันนี้เขาไม่ได้ว่างมากพอที่จะไปเที่ยวกับใครหรอกเพราะเขามีนัดกับเพื่อน
“อ้าวลงมาแล้วหรอนึกว่านายจะลงมาตอนเย็นทีเดียวเลยซะอีก” ชานยอลพูดพร้อมกับกอดอกมองคนตัวเล็กที่เดินลงมาข้างล่าง
แบคฮยอนมองหน้าชานยอลด้วยความไม่พอใจ เขาไม่เข้าใจจริงเลยว่าทำไมไอ้หูกางนี่ยังอยู่ที่นี่ทั้งๆที่เขาเห็นทุกคนออกไปจากบ้านตั้งนานแล้ว
“อย่าทำหน้างงแบบนั้นสิที่รัก ฉันก็รอนายนั่นแหละ ถ้าเมียไม่ไปด้วยแล้วฉันจะสนุกหรอ” ชานยอลพูดเสียงอ่อนเสียงหวานและมองหน้าคนตัวเล็กตาหวานเยิ้ม
“ใครเมียนาย พูดให้มันดีๆหน่อย อยากปากแตกรึไง” แบคฮยอนพูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจพร้อมกับมองชานยอลตาขวาง
“ก็อยากนะ แต่กว่าปากฉันจะแตกเราต้องจูบกันอีกกี่ครั้งนะ ฉันกลัวปากนายจะแตกก่อนน่ะสิ” ชานยอลพูดพร้อมกับมองคนตัวเล็กด้วยแววตาพราวระยับ เด็กอะไรโกรธได้น่ารักเป็นบ้าเลย
“นายไอ้ลามก ไอ้หื่น ไอ้บ้ากาม ไอ้โรคจิต สมองนายมันคิดเป็นแต่เรื่องแบบนี้รึไง” แบคฮยอนด่าอีกฝ่ายด้วยความโมโห ไม่ใช่แค่โมโหอย่างเดียวหรอกแต่ตอนนี้เขากำลังอายและอายจนไม่รู้จะทำตัวยังไง ก็ดูคำพูดของไอ้หูกางนี่แต่ละคำสิ
“อืม” ชานยอลตอบหน้าตายแล้วยิ้มให้คนตัวเล็กจนตาหยี ยังไงซะวันนี้เขาก็ไม่มีวันเจ็บตัวเพราะไอ้ตัวแสบนี้เด็ดขาด บอกเลยว่าวันนี้เขาเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี
“ไอ้บ้า จะไปไหนก็ไปฉันไม่อยากเห็นหน้านาย” แบคฮยอนพูดแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทางเพื่อจะเดินออกจากบ้าน
“จะไปไหน ให้ฉันไปส่งมั้ย” ชานยอลถามพร้อมกับเดินตามหลังคนตัวเล็กไป
“ไม่ต้องมายุ่ง อยากเจ็บตัวอีกรึไง” แบคฮยอนพูดโดยไม่หันไปมองชานยอล เขาเดินตรงไปที่รถของตัวเอง แล้วต้องหงุดหงิดขึ้นมามากกว่าเดิมเมื่อยางรถเขาแบนและไม่ใช่แค่ล้อเดียวแต่มันแบนทั้งสี่ล้อดัน อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น
“ว้า ดูสิรถมินิของนายสิ ยางแบนทั้งสี่ล้อเลย” ชานยอลพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเศร้า
“ฝีมือนายใช่มั้ย” แบคฮยอนถามพร้อมกับมองชานยอลตาขวาง
“ฉันจะทำแบบนั้นทำไม” ชานยอลถามพร้อมกับทำหน้าซื่อ เรื่องอะไรเขาจะยอมรับ เขาไม่ได้โง่ซะหน่อย
“อย่าให้ฉันรู้นะว่านายเป็นคนมาเจาะยางรถฉัน” แบคฮยอนพูดด้วยความโมโห
‘ฉันไม่ได้เจาะนะ แค่ปล่อยลมออก เจาะทำไมเสียดายยาง’
“ว่าไง” แบคฮยอนรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“พวกแกก็มารับฉันดิ รถฉันยางรั่วกว่าจะไปถึง” แบคฮยอนพูดพร้อมกับเตะเข้าที่ล้อรถของตัวเองด้วยความโมโห
“โอ๊ย อะไรกันนักหนา ถ้าไม่มารับก็รอไปก่อนก็แล้วกัน ฉันนั่งแท็กซี่ไปเองก็ได้” แบคฮยอนพูดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด
“รู้แล้วก็จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ” แบคฮยอนพูดแล้วกดวางสายด้วยความหงุดหงิดแล้วเดินตรงไปทางหน้าบ้าน แต่ก็ถูกชานยอลเดินเข้ามาคว้าตัวเอาไว้
“อะไรอีก ปล่อยนะ ฉันไม่มีเวลามาไร้สาระกับนายหรอกนะคนยิ่งรีบๆอยู่” แบคฮยอนพูดพร้อมกับมองชานยอลตาขวาง
“เดี๋ยวฉันไปส่ง” ชานยอลบอก
“ไม่ต้อง” แบคฮยอนพูดพร้อมกับแกะมือชานยอลออกจากแขนของตัวเอง
“ไปเถอะน่า อย่าเล่นตัวนักเลย รีบไม่ใช่หรอ เพื่อนนายรออยู่นี่” ชานยอลพูดพร้อมกับลากคนตัวเล็กมาที่รถของตัวเองแล้วเปิดประตูจับคนตัวเล็กเข้าไปนั่งในรถ ก่อนที่จะอ้อมไปนั่งประจำที่ของตัวเองและขับออกไปจากบ้าน
“แล้วนายจะไปไหน” ชานยอลถามพร้อมกับหันไปมองคนตัวเล็กที่กำลังทำหน้างอ
“เวทีมวย...” แบคฮยอนตอบพร้อมกับบอกสถานที่ที่ตัวเองจะไป
ชานยอลชำเลืองมองคนตัวเล็กด้วยความสงสัย เขาไม่เข้าใจเลยว่าคนตัวเล็กจะไปทำไมที่เวทีมวย อย่าบอกนะว่าจะไปต่อยมวย เขาไม่ยอมแน่นอน เรื่องอะไรเขาจะปล่อยให้คนน่ารักๆแบบนี้ไปเจ็บตัว
“ขอบใจนะ แต่คราวหลังไม่ต้อง” แบคฮยอนพูดขึ้นมาพร้อมกับเปิดประตูลงจากรถแล้ววิ่งเข้าไปด้านในทันที
“โห เป็นคำขอบใจที่ซาบซึ้งที่สุดในชิวิตเลยครับที่รัก” ชานยอลพูดพร้อมกับมองคนที่เล็กที่วิ่งเข้าไปด้านในสถานที่ที่จัดเป็นเวทีมวยชั่วคราว
เขาลงจากรถแล้วเดินตามคนตัวเล็กเข้าไปด้านในทันที เรื่องอะไรเขาจะยอมกลับ ไหนๆวันนี้เขาก็คิดเอาไว้แล้วว่าเขาจะอยู่กับคนตัวเล็กทั้งวัน โอกาสแบบนี้มีกันบ่อยๆซะที่ไหน เมื่อเดินเข้าไปด้านในแล้วเขาก็มองหาคนตัวเล็กทันที แต่ก็ใช่ว่าจะเห็นง่ายๆเพราะข้างในคนเยอะมาก ที่สำคัญแบคฮยอนตัวสูงกว่าต้นมาเขือแค่หน่อยเดียวเอง แล้ววันนี้เขาจะเจอมั้ย
“อยู่ไหนนะ ไอ้ตัวแสบ” ชานยอลพูดกับตัวเองเบาๆพร้อมกับมองหาคนตัวเล็กจนทั่ว แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความไม่ชอบใจเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กกำลังยิ้มหวานให้กับนักมวยคนหนึ่งอยู่ เขารีบเดินตรงเข้าไปหาคนตัวเล็กทันที
“ที่รัก” ชานยอลเรียกเสียงหวานพร้อมกับยกแขนขึ้นไปโอบไหล่ของคนตัวเล็กเอาไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ถึงจะยังไม่ใช่ก็เหอะ แต่อีกไม่นานหรอกเขามั่นใจ
“ที่รักหรอ” คนที่นั่งอยู่บริเวณนั้นพูดขึ้นมาพร้อมกันและมองหน้าชานยอลด้วยความตกใจ
“เฮ้ย นี่นายใครเป็นที่รักนาย พูดแบบนี้ฉันเสียหายนะ” แบคฮยอนพูดพร้อมกับเอาแขนชานยอลออกจากไหล่ของตัวเองทันที
“แบคฮยอนนี่แฟนแกหรอ” แทมินถามพร้อมกับมองชานยอลด้วยความสงสัย
“นั่นดิ แกไปแอบมีแฟนตอนไหนวะ ทำไมพวกฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย” ลู่หานถามขึ้นมาอีกคน
“ไม่ใช่ นี่ไม่ใช่แฟนฉันนะ ฉันไม่เอาคนบ้าแบบนี้ไปทำพันธุ์หรอก” แบคฮยอนรีบพูดขึ้นมาทันที
“แหมที่รัก อยู่ต่อหน้าเพื่อนไม่ต้องอายก็ได้ ที่เมื่อคืนนี้นะ...”
‘กัดฉันซะเลือดกบปากเลย’
“ไอ้บ้า หุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ” แบคฮยอนพูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับมองชานยอลด้วยความไม่พอใจ
“โอ๋ๆๆ ไม่งอนนะเด็กดีอย่าโมโหสิ เดี๋ยวเซ็กเสื่อมนะ” ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงกวนประสาท
“นี่นายอยากตายใช่มั้ย” แบคฮยอนพูดขึ้นมาพร้อมกับง้างหมัดจะต่อยชานยอล แต่มินโฮรีบคว้าเอาไว้ก่อนเพราะไม่อยากให้มีเรื่องกันตรงนี้
“อย่ามีเรื่องเลยดีกว่านะ ไปเชียร์พี่ดีกว่าพี่จะขึ้นชกแล้วนะ” มินโฮบอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“ก็ได้ครับ วันนี้ฉันจะปล่อยนายไปเพราะเห็นแก่พี่มินโฮหรอกนะ” แบคฮยอนพูดกับมินโฮด้วยน้ำเสียงอ่อนๆแล้วหันไปพูดกับชานยอลเสียงแข็งในตอนท้าย
“นี่นายจะเบียดฉันทำไมนักหนาถ้าจะเข้าใกล้ขนาดนี้นายไม่สิงฉันเลยล่ะ” แบคฮยอนพูดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดเมื่อเห็นว่าชานยอลขยับเข้ามาใกล้เขาจนแทบจะขยับตัวไม่ได้
“ก็นายไม่เห็นหรอว่าคนมันเยอะ แล้วคนเบียดกันแน่นขนาดนี้ฉันไม่อยากให้ใครมาโดนตัวนาย” ชานยอลพูดออกไปตามที่ตัวเองคิด เขาไม่ชอบเลยจริงๆ ทำไมคนมันถึงได้เยอะขนาดนี้ แล้วส่วนใหญ่มีแต่พวกผู้ชายหุ่นล่ำๆทั้งนั้น ไอ้ตัวแสบนี่ก็เอาแต่เชียร์มวยไม่ได้สนใจคนที่อยู่รอบๆตัวเลย ให้ตายสิเขาอยากจะกระชากออกไปจากตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด
แทมินกับลู่หานมองเพื่อนสนิทของตัวเองกับชานยอลด้วยความแปลกใจสุดขีด เมื่อเห็นว่าเพื่อนของตัวเองยอมให้ชานยอลเข้าใกล้จนแทบจะสิงกันได้อยู่แล้ว ทั้งๆที่ปกติแค่มีคนมองนิดหน่อยแบคฮยอนก็วีนใส่แล้ว แต่นี่กลับยอมยืนนิ่งๆให้ชานยอลกอดซะงั้น จะให้คิดยังไงเนี่ย
“ไหนมันบอกว่าไม่ใช่แฟนไง” ลู่หานพูดขึ้นมาพร้อมกับมองเพื่อนด้วยความแปลกใจ
“ฉันว่าอาจจะไม่ใช่ก็ได้ แกดูหน้าแบคฮยอนดิ หงุดหงิดอยู่เหมือนกันนะ” แทมินพูด
“หน้ามันหงุดหงิด แต่มันยอมให้เขากอดเนี่ยนะ แกไม่สงสัยอะไรบ้างเลยหรอ” ลู่หานถาม
“ก็ไม่นี่ แกคิดมากไปรึเปล่า แบคฮยอนมันบอกว่าไม่ก็คือไม่นั่นแหละ” แทมินบอกแล้วหันกลับไปมองนักมวยที่กำลังชกอยู่บนเวทีตามเดิม เพราะอีกไม่นานมินโฮแฟนของตัวเองกำลังจะขึ้นชกแล้ว
“นี่ปล่อยได้แล้วจะกอดอะไรนักหนามันร้อน” แบคฮยอนพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าชานยอล
ชานยอลไม่ได้ปล่อยตามที่คนตัวเล็กบอกแต่ตรงกันข้ามเขากลับแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
แบคฮยอนถอนหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิด ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเจอใครมึนแบบนี้มาก่อนเลย อยากจะบ้าตาย เขาเข้าใจนะว่าไอ้หูกางนี่หวังดีไม่อยากให้คนอื่นมาโดนตัวเขา แต่คิดจะถามเขาสักคำมั้ยว่าเขาอยากให้กอดแบบนี้มั้ย บอกให้ปล่อยก็ทำเป็นไม่ได้ยิน
“พี่มินโฮสู้ๆนะ” แบคฮยอนตะโกนขึ้นมาเมื่อมินโฮขึ้นไปบนเวทีมวยแล้ว
“ฉันว่าคงน็อคตั้งแต่ยกแรกแน่ๆเลย” ชานยอลพูดขึ้นมาด้วยความหมั่นไส้เมื่อเห็นคนตัวเล็กเชียร์มินโฮจนออกนอกหน้า แค่เชียร์ก็ไม่ได้บอกเลยว่าเขาหวง
“ปากดีนักนะ นายไม่เก่งแบบเขาก็ไม่ต้องไปว่าเขา นายน่ะมันอ่อน” แบคฮยอนพูดแล้วยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย จะได้ดูอะไรสนุกๆแล้วสิ
“ใครบอกว่าฉันเก่งสู้ไอ้หมอนั่นไม่ได้ ฉันเก่งกว่าไอ้หมอนั่นอีก” ชานยอลพูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ
“อย่ามาขี้โม้ อย่างนายเนี่ยแค่ขึ้นไปยืนบนเวทีก็เป็นลมแล้วมั้งปาร์คชานยอล” แบคฮยอนพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“อย่ามาดูถูกฉันนะแบคฮยอน ฉันจะทำให้นายเห็นว่าฉันเก่งกว่าไอ้หมอนั่น” ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“จริงหรอ เชื่อได้มั้ยเนี่ย” แบคฮยอนพูดพร้อมกับมองชานยอลอย่างไม่ค่อยเชื่อ
“ฉันจะขึ้นไปชกบนเวทีนี้ด้วยก็ได้ แต่ถ้าฉันชนะนายต้องทำตามที่ฉันขอ” ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เอาสิ ถ้านายชนะ นายอยากได้อะไรบอกมาได้เลย” แบคฮยอนพูดแล้วยิ้มให้ชานยอล
“ได้ อย่าลืมคำพูดตัวเองก็แล้วกัน” ชานยอลพูดแล้วเดินไปที่จุดรับสมัครนักมวยสมัครเล่นเพื่อลงชื่อเข้าชกมวยด้วย งานนี้เขาจะต้องชนะไม่เชื่อก็คอยดู
“อย่าขึ้นไปนั่งร้องไห้บนเวทีนะ” แบคฮยอนบอกเมื่อชานยอลเปลี่ยนชุดและกำลังจะขึ้นชกเป็นคู่ต่อไป
“ไม่มีทาง” ชานยอลพูดด้วยความมั่นใจ แค่ชกมวยใครๆก็ทำได้ไม่เห็นยาก
“นั่นไงถึงตานายแล้วขึ้นไปเลย” แบคฮยอนบอกพร้อมกับดันชานยอลขึ้นไปบนเวทีมวย แล้วยิ้มออกมาเมื่อเห็นคู่ชกของชานยอล
“จะดีหรอแบคฮยอน คู่ชกแฟนแกนี่หมัดหนักมากเลยนะ ต่อยทีเดียวนี่สลบไปสามวันเลยนะ” แทมินพูดขึ้นมาพร้อมกับมองชานยอลด้วยความเห็นใจ
“ดี ฉันจ่ายให้ผู้ชายคนนั้นไปแล้วด้วย บอกว่าให้จัดการให้หนักไปเลย” แบคฮยอนพูดแล้วยิ้มออกมาด้วยความสะใจ โดนซะบ้างเหอะคนเจ้าชู้แบบนั้น โทษฐานที่กอดเขาอยู่ได้ตั้งนาน
ชานยอลมองคู่ชกของตัวเองแล้วต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความลำบาก เพราะคนที่เป็นคู่ชกของเขาไม่ใช่คนที่เขาจ้างให้ล้มมวย แล้วคนที่เขาจ้างหายไปไหน แล้วไอ้หมอนี่มันเป็นใครกัน เอายังไงดีล่ะคราวนี้ เขาเคยต่อยมวยซะที่ไหนกัน
‘หมัดหนักเป็นบ้าเลย ฟันจะหักมั้ยวะเนี่ย’ ชานยอลคิดกับตัวเองด้วยความรันทดเมื่อถูกอีกฝ่ายต่อยเข้าที่หน้าอย่างแรง พอเขาพยายามจะต่อยสวนกลับไปแต่อีกฝ่ายก็หลบได้
“ระวังฟันหักนะ” แบคฮยอนพูดขึ้นมาแล้วยิ้มหวานให้ชานยอล
ชานยอลหันไปมองคนตัวเล็กที่มายืนอยู่ข้างๆเวทีด้วยความเจ็บใจ เขารู้แล้วว่าไอ้คนที่เขาจ้างมันหายไปไหน ที่แท้ก็ไอ้ตัวแสบนี่อีกแล้ว รู้แผนของเขาได้ยังไงเนี่ย
“ต่อยไปสิ จะยืนมองหน้าฉันทำไม” แบคฮยอนพูดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดเมื่อเห็นชานยอลโดนต่อยจนร่วงลงไป ถึงเขาอยากจะแกล้งชานยอลแต่พอเอาเข้าจริงๆเขากับทนเห็นชานยอลเจ็บตัวไม่ได้
‘จำไว้เลยนะไอ้ตัวแสบ ฉันจะเอาคืนให้ร้องไม่ออกเลย’ ชานยอลคิดพร้อมกับมองคนตัวเล็กด้วยความไม่พอใจ แล้วลุกขึ้นยืนอีกครั้ง แล้วอยู่ดีๆโลกของเขาก็ดับวูบลงไป
“น็อคไปแล้วนะครับ สีแดงเป็นฝ่ายชนะครับ” เสียงกรรมการประกาศเมื่อเห็นว่าชานยอลถูกต่อยจนน็อคไปแล้ว
“ปาร์คชานยอล” แบคฮยอนขึ้นไปบนเวทีทันทีพร้อมกับมินโฮ แทมินและลู่หานที่ตามขึ้นไปช่วยกันแบกชานยอลลงมาจากเวที
“จะตายมั้ยเนี่ย” แบคฮยอนพูดพร้อมกับมองหน้าชานยอลด้วยความรู้สึกผิด หรือว่าเขาจะเล่นแรงเกินไป แต่ไอ้บ้านี้อยากขี้โกงก่อนทำไมล่ะ โชคดีนะที่เขาเห็นตอนที่ชานยอลจ่ายเงินให้ผู้ชายคนนั้น ไม่งั้นถ้าแผนของชานยอลสำเร็จ เขาเองนี่แหละที่จะซวย
“ชานยอล หน้าแกไปโดนอะไรมาวะ แล้วทำไมสภาพแกมันเยินขนาดนี้วะ” จงอินถามทันทีเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามาในบริษัทด้วยสภาพที่ทุเรศลูกตา เพราะตามใบหน้ามีแต่รอยเขียวช้ำ แถมปากยังแตกบวมเจ่อเหมือนโดนต่อยมาอีก แล้วไอ้ท่าเดินค้ำหลังตัวเองที่แสนจะทุเรศนั่นอีก
“ไปชกมวยมา” ชานยอลตอบขณะที่เดินเข้าไปในลิฟต์พร้อมเพื่อน
“ไปชกมวย แกเนี่ยนะ ฉันฟังอะไรผิดรึเปล่าวะ สำอางอย่างแกเนี่ยนะไปชกมวย อย่าว่าแต่ชกมวยเลย ตั้งแต่คบกันมาฉันยังไม่เคยเห็นแกเล่นกีฬาอะไรเลย แล้วทำไมแกถึงไปชกมวยได้วะ” จงอินถามพร้อมกับเดินตามชานยอลออกจากลิฟต์แล้วเดินตามเพื่อนเข้าไปในห้องทำงาน
“ก็ไอ้ตัวแสบอีกนั่นแหละ” ชานยอลเล่าเรื่องทั้งหมดเมื่อวานให้เพื่อนฟัง หลังจากที่เขาสลบไปแล้วเขามารู้สึกตัวอีกทีเกือบเช้าแล้วเห็นว่าตัวเองอยู่ในรถ โดยที่ยังคงจอดอยู่ที่เดิม ไม่มีแม้แต่เงาของไอ้ตัวแสบ ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งเจ็บใจ เสียรู้เข้าอีกจนได้
“แกนี่มันโง่กว่าเด็กจริงๆว่ะ” จงอินพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่งให้กับความโง่ของเพื่อน นี่หรอที่บอกเขาว่าจะเอาจริง ครั้งที่เท่าไหรแล้วที่กลับมาในสภาพเยินๆแบบนี้ แล้วครั้งนี้ก็หนักว่าทุกครั้งด้วย ถ้ามีครั้งต่อไปไม่ถึงตายเลยหรอ
“หยุดหัวเราะได้แล้ว คราวหน้าฉันจะเอาจริงๆแล้ว” ชานยอลพูดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด
“เออ ให้มันได้จริงๆก่อนแล้วค่อยมาบอก ฉันล่ะกลัวแกจะช้ำในตายก่อน เด็กอะไรวะน่ากลัวเป็นบ้าเลย” จงอินพูดพร้อมกับมองเพื่อนด้วยความเหนื่อยใจ
ความจริงคนอย่างชานยอลมีคนวิ่งเข้าหาตั้งมากมาย แต่ชานยอลกับไม่เคยสนใจ แต่พอจะสนใจเข้าจริงๆก็มีสภาพอย่างที่เห็นนี่แหละ เขายอมกับความอดทนของเพื่อนจริงๆเลย กว่าจะได้แบคฮยอนมาเป็นแฟนเพื่อนของเขาคงต้องนอนซดน้ำข้าวต้มไปอีกนานแน่นอน
“พี่ชานยอล หน้าไปโดนอะไรมาครับ” คยองซูถามด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นชานยอลเดินเข้ามาในบ้าน
“พอดีพี่เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ” ชานยอลตอบพร้อมกับมองไปรอบๆบ้านเพื่อมองหาคนที่เขาอยากเห็นหน้ามากที่สุด
“แบคฮยอนยังไม่กลับหรอกครับ วันนี้มีเรียนคาราเต้ กว่าจะกลับก็มืดๆ” คยองซูบอกแล้วหันไปบอกเด็กรับใช้ที่อยู่แถวๆนั้นให้ไปเอาน้ำมาให้ชานยอง
“งั้นก็ดี พี่มีเรื่องจะคุยกับเราแล้วก็คุณอาแบยอน” ซองกยูพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
แบคฮยอนขับรถมาถึงบ้านในตอนหัวค่ำ วันนี้เขารู้สึกเมื่อยไปทั้งตัว เพราะคู่ซ้อมของเขาแต่ละคนมีแต่คนตัวโตๆ กว่าเขาจะเรียนเสร็จเขาก็น่วมไปทั้งตัว
“อ้าวแบคฮยอนมาแล้วหรอลูก” แบยอนพูดขึ้นมาเมื่อเห็นลูกชายเดินมาที่โต๊ะอาหาร
“ครับพ่อ มาอีกแล้วหรอที่บ้านนายไม่มีข้าวกินรึไง” แบคฮยอนตอบพ่อแล้วหันไปพูดกับชานยอล
“แบคฮยอนอย่าเสียมารยาทสิลูก ชานยอลเขาไม่ใช่คนอื่นคนไกลนะ อีกไม่นานเขาก็จะเป็นคนในครอบครัวเราแล้ว” แบยอนดุลูกชายคนเล็กเบาๆ
“หมายความว่าไงครับ” แบคฮยอนหันไปถามคนเป็นพ่อทันที
“ก็ชานยอลกับพี่ของเรากำลังจะหมั้นกันน่ะสิ” แบยอนตอบลูกชายคนเล็กด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“อะไรนะ นี่มันเรื่องจริงหรอ พ่อบังคับพี่คยองซูใช่มั้ย” แบคฮยอนหันไปถามพี่ของตัวเองพร้อมกับมองหน้าชานยอลด้วยความไม่พอใจ
“พ่อไม่ได้บังคับพี่หรอกแบคฮยอนพี่เต็มใจหมั้นกับพี่ชานยอลเองแหละ พี่ชานยอลเขาก็น่ารักดีนะ” คยองซูพูดแล้วหันไปยิ้มหวานให้ชานยอล
แบคฮยอนมองพี่ของตัวเองด้วยความรู้สึกแปลกๆ แล้วทำไมเขาต้องรู้สึกเจ็บจี๊ดๆขึ้นมาด้วยนะ ทำไมเขาจะต้องโมโห ทำไมๆๆๆ ทำไม เพราะไอ้หูกางนี่มันไม่เหมาะกับพี่ชายของเขาไง นี่แหละคำตอบ
“คุณหนูแบคฮยอนคะมีคนโทรมาหาค่ะ” เด็กรับใช้พูดพร้อมกับส่งโทรศัพท์บ้านแบบไร้สายให้แบคฮยอน
“ใคร” แบคฮยอนถามด้วยน้ำเสียงเครียดๆ
“เขาบอกว่าคุณหนูแบคฮยอนรู้จักเขาดีค่ะ” เด็กรับใช้บอกแล้วถอยออกไป
“ครับ” แบคฮยอนกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์
“พี่ซิ่วหมิน” แบคฮยอนพูดแล้วยิ้มออกมาทันทีก่อนจะเดินออกจะคุยข้างนอกโดยไม่ทันได้เห็นสายตาของชานยอลที่มองตามไปด้วยความไม่พอใจ
‘ซิ่วหมินไหนกัน นี่มันชื่อผู้ชายชัดๆ’
“ใจเย็นๆนะชานยอล จะปราบไอ้ตัวแสบนี่มีทางเดียวคือต้องใจเย็น” แบยอนพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าชานยอลกำลังทำหน้าเครียด
“อย่าเพิ่งคิดมากเลยนะครับ ถ้าผมจำไม่ผิดซิ่วหมินนี่น่าจะเป็นแฟนเก่าของแบคฮยอน” คยองซูพูดขึ้นมา
‘อะไรนะ แฟนเก่าหรอ อยากจะบ้าตายจริงๆ นี่มีแฟนเก่าโผล่มาจากไหนอีกวะเนี่ย แล้วมันโทรมาทำไม จะมาขอคืนดีรึไง ไม่ได้ๆๆ เรื่องอะไรจะยอม แต่ไอ้ซิ่วหมินอะไรนีมันเคยเป็นแฟนแบคฮยอนมาก่อน แล้วมันทำยังไงถึงเอาชนะใจแบคฮยอนได้วะ เครียดจริงๆแล้วนะ ฉุดเลยดีมั้ยเนี่ยไอ้ตัวแสบเป็นเมียพี่แล้วค่อยกลับมาแต่งงานกันทีหลัง’
“เป็นแฟนคนแรกแล้วก็คนเดียวของแบคฮยอนเท่านั้นเองครับ ไม่มีอะไรหรอก” คยองซูพูดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นชานยอลทำหน้าเครียด
‘นั่นไงรักครั้งแรกด้วย คนแรกแล้วก็คนเดียวนี่มันหมายความว่าไงวะ โอ๊ย อยากจะร้องไห้ นี่ยังไม่ทันได้กิน ก็จะมีคนมาแย่งไปอีกแล้วหรอวะ จับทำเมียเลยดีมั้ยไม่ต้องวางแผนอะไรให้เสียเวลาแล้ว เดี๋ยวโดนคาบไปกินพอดี ฉันจริงจังกับนายมากจริงๆนะไอ้ตัวแสบ บอกไว้ก่อนเลยถ้าฉันไม่ได้นายเป็นเมียฉันจะตามรังควานนายไปตลอดชีวิต ไม่เชื่อก็คอยดู’
*****ขอโทษที่อัพช้านะคะ*****
#คอมเมนต์และให้กำลังใจไรท์ด้วยนะคะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น