ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {ChanBaek} Sweet Trap {Exo}

    ลำดับตอนที่ #3 : Sweet Trap 3

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 60


    Sweet Trap 3



    คยองซูเดินเข้ามาในห้องของน้องชายตัวเองแล้วต้องถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อเห็นว่าน้องชายของตัวเองยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง ทั้งๆที่ตอนนี้ทุกคนกำลังรออยู่ข้างล่าง เพราะวันนี้ครอบครัวของเขากับครอบครัวของคุณอาชานดึลมีนัดไปเที่ยวด้วยกัน 
    ในขณะที่ตอนนี้ทุกคนเตรียมพร้อมกันหมดแล้ว แต่น้องชายของเขากลับยังไม่ยอมลุกจากที่นอนทั้งๆที่เขาก็มาปลุกตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าไอ้ตัวแสบนี่จะไม่ยอมลุกและนอนต่ออีกต่างหาก แล้วเขาจะทำยังไงดีล่ะ ในเมื่อทุกคนบอกกับเขาว่าทำยังไงก็ได้ให้พาแบคฮยอนไปด้วยให้ได้




    “แบคฮยอน” คยองซูเรียกพร้อมกับเดินเข้าไปเขย่าตัวน้องเบาๆ




    “แบคฮยอน ตื่นได้แล้วทุกคนเขารอกันอยู่นะ” คยองซูพูดและเขย่าตัวน้องแรงกว่าเดิม




    “ก็ไปกันสิไม่ต้องรอ ผมไม่ไป” แบคฮยอนตอบด้วยน้ำเสียงงัวเงียและพลิกตัวหนีคยองซูด้วยความรำคาญ




    “แบคฮยอน แต่ทุกคนอยากให้เราไปนะ พ่อบอกว่าเห็นเราดูเครียดๆก็เลยอยากให้เราไปพักผ่อนบ้าง” คยองซูพูดขึ้นมา




    “ไม่เอา ไม่ไป ถ้าอยากพักผ่อนเดี๋ยวผมจะไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อนเอง ไม่เอาอ่ะ ไปกันเถอะ” แบคฮยอนตอบแล้วเงียบลงไปเพราะตอนนี้เขากำลังหลับอีกครั้ง




    “เฮ้อ” คยองซูถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจก่อนจะเดินออกไปจากห้อง จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อแบคฮยอนทั้งดื้อทั้งหัวแข็ง ยอมทำตามใครง่ายๆซะที่ไหนล่ะ
    เมื่อได้ยินเสียงคยองซูเดินออกจากห้องไปแล้ว แบคฮยอนก็ลุกขึ้นมานั่งทันที ความจริงเขาตื่นตั้งแต่ตอนที่คยองซูมาปลุกตั้งแต่รอบแรกแล้ว แต่เขาแค่ไม่อยากไปเที่ยวกับไอ้บ้าหูกางนั่น เพราะเขาไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากคุย ไม่อยากไปไหนกับไอ้บ้านั่นจริงๆ แล้วอีกอย่างเขาก็ไม่ต้องห่วงพี่ของตัวเองมากนักเพราะมีผู้ใหญ่ไปด้วย ไอ้หูกางนั่นคงไม่กล้าทำอะไรพี่เขาแน่นอน








    แบคฮยอนเดินลงมาข้างล่างเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว ความจริงวันนี้เขาไม่ได้ว่างมากพอที่จะไปเที่ยวกับใครหรอกเพราะเขามีนัดกับเพื่อน 




    “อ้าวลงมาแล้วหรอนึกว่านายจะลงมาตอนเย็นทีเดียวเลยซะอีก” ชานยอลพูดพร้อมกับกอดอกมองคนตัวเล็กที่เดินลงมาข้างล่าง
    แบคฮยอนมองหน้าชานยอลด้วยความไม่พอใจ เขาไม่เข้าใจจริงเลยว่าทำไมไอ้หูกางนี่ยังอยู่ที่นี่ทั้งๆที่เขาเห็นทุกคนออกไปจากบ้านตั้งนานแล้ว




    “อย่าทำหน้างงแบบนั้นสิที่รัก ฉันก็รอนายนั่นแหละ ถ้าเมียไม่ไปด้วยแล้วฉันจะสนุกหรอ” ชานยอลพูดเสียงอ่อนเสียงหวานและมองหน้าคนตัวเล็กตาหวานเยิ้ม




    “ใครเมียนาย พูดให้มันดีๆหน่อย อยากปากแตกรึไง” แบคฮยอนพูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจพร้อมกับมองชานยอลตาขวาง




    “ก็อยากนะ แต่กว่าปากฉันจะแตกเราต้องจูบกันอีกกี่ครั้งนะ ฉันกลัวปากนายจะแตกก่อนน่ะสิ” ชานยอลพูดพร้อมกับมองคนตัวเล็กด้วยแววตาพราวระยับ เด็กอะไรโกรธได้น่ารักเป็นบ้าเลย




    “นายไอ้ลามก ไอ้หื่น ไอ้บ้ากาม ไอ้โรคจิต สมองนายมันคิดเป็นแต่เรื่องแบบนี้รึไง” แบคฮยอนด่าอีกฝ่ายด้วยความโมโห ไม่ใช่แค่โมโหอย่างเดียวหรอกแต่ตอนนี้เขากำลังอายและอายจนไม่รู้จะทำตัวยังไง ก็ดูคำพูดของไอ้หูกางนี่แต่ละคำสิ




    “อืม” ชานยอลตอบหน้าตายแล้วยิ้มให้คนตัวเล็กจนตาหยี ยังไงซะวันนี้เขาก็ไม่มีวันเจ็บตัวเพราะไอ้ตัวแสบนี้เด็ดขาด บอกเลยว่าวันนี้เขาเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี




    “ไอ้บ้า จะไปไหนก็ไปฉันไม่อยากเห็นหน้านาย” แบคฮยอนพูดแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทางเพื่อจะเดินออกจากบ้าน




    “จะไปไหน ให้ฉันไปส่งมั้ย” ชานยอลถามพร้อมกับเดินตามหลังคนตัวเล็กไป




    “ไม่ต้องมายุ่ง อยากเจ็บตัวอีกรึไง” แบคฮยอนพูดโดยไม่หันไปมองชานยอล เขาเดินตรงไปที่รถของตัวเอง แล้วต้องหงุดหงิดขึ้นมามากกว่าเดิมเมื่อยางรถเขาแบนและไม่ใช่แค่ล้อเดียวแต่มันแบนทั้งสี่ล้อดัน อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น




    “ว้า ดูสิรถมินิของนายสิ ยางแบนทั้งสี่ล้อเลย” ชานยอลพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเศร้า




    “ฝีมือนายใช่มั้ย” แบคฮยอนถามพร้อมกับมองชานยอลตาขวาง




    “ฉันจะทำแบบนั้นทำไม” ชานยอลถามพร้อมกับทำหน้าซื่อ เรื่องอะไรเขาจะยอมรับ เขาไม่ได้โง่ซะหน่อย




    “อย่าให้ฉันรู้นะว่านายเป็นคนมาเจาะยางรถฉัน” แบคฮยอนพูดด้วยความโมโห


    ‘ฉันไม่ได้เจาะนะ แค่ปล่อยลมออก เจาะทำไมเสียดายยาง’




    “ว่าไง” แบคฮยอนรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงเรียบๆ




    “พวกแกก็มารับฉันดิ รถฉันยางรั่วกว่าจะไปถึง” แบคฮยอนพูดพร้อมกับเตะเข้าที่ล้อรถของตัวเองด้วยความโมโห




    “โอ๊ย อะไรกันนักหนา ถ้าไม่มารับก็รอไปก่อนก็แล้วกัน ฉันนั่งแท็กซี่ไปเองก็ได้” แบคฮยอนพูดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด




    “รู้แล้วก็จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ” แบคฮยอนพูดแล้วกดวางสายด้วยความหงุดหงิดแล้วเดินตรงไปทางหน้าบ้าน แต่ก็ถูกชานยอลเดินเข้ามาคว้าตัวเอาไว้




    “อะไรอีก ปล่อยนะ ฉันไม่มีเวลามาไร้สาระกับนายหรอกนะคนยิ่งรีบๆอยู่” แบคฮยอนพูดพร้อมกับมองชานยอลตาขวาง




    “เดี๋ยวฉันไปส่ง” ชานยอลบอก




    “ไม่ต้อง” แบคฮยอนพูดพร้อมกับแกะมือชานยอลออกจากแขนของตัวเอง




    “ไปเถอะน่า อย่าเล่นตัวนักเลย รีบไม่ใช่หรอ เพื่อนนายรออยู่นี่” ชานยอลพูดพร้อมกับลากคนตัวเล็กมาที่รถของตัวเองแล้วเปิดประตูจับคนตัวเล็กเข้าไปนั่งในรถ ก่อนที่จะอ้อมไปนั่งประจำที่ของตัวเองและขับออกไปจากบ้าน




    “แล้วนายจะไปไหน” ชานยอลถามพร้อมกับหันไปมองคนตัวเล็กที่กำลังทำหน้างอ




    “เวทีมวย...” แบคฮยอนตอบพร้อมกับบอกสถานที่ที่ตัวเองจะไป
    ชานยอลชำเลืองมองคนตัวเล็กด้วยความสงสัย เขาไม่เข้าใจเลยว่าคนตัวเล็กจะไปทำไมที่เวทีมวย อย่าบอกนะว่าจะไปต่อยมวย เขาไม่ยอมแน่นอน เรื่องอะไรเขาจะปล่อยให้คนน่ารักๆแบบนี้ไปเจ็บตัว








    “ขอบใจนะ แต่คราวหลังไม่ต้อง” แบคฮยอนพูดขึ้นมาพร้อมกับเปิดประตูลงจากรถแล้ววิ่งเข้าไปด้านในทันที




    “โห เป็นคำขอบใจที่ซาบซึ้งที่สุดในชิวิตเลยครับที่รัก” ชานยอลพูดพร้อมกับมองคนที่เล็กที่วิ่งเข้าไปด้านในสถานที่ที่จัดเป็นเวทีมวยชั่วคราว 
    เขาลงจากรถแล้วเดินตามคนตัวเล็กเข้าไปด้านในทันที เรื่องอะไรเขาจะยอมกลับ ไหนๆวันนี้เขาก็คิดเอาไว้แล้วว่าเขาจะอยู่กับคนตัวเล็กทั้งวัน  โอกาสแบบนี้มีกันบ่อยๆซะที่ไหน เมื่อเดินเข้าไปด้านในแล้วเขาก็มองหาคนตัวเล็กทันที แต่ก็ใช่ว่าจะเห็นง่ายๆเพราะข้างในคนเยอะมาก ที่สำคัญแบคฮยอนตัวสูงกว่าต้นมาเขือแค่หน่อยเดียวเอง แล้ววันนี้เขาจะเจอมั้ย




    “อยู่ไหนนะ ไอ้ตัวแสบ” ชานยอลพูดกับตัวเองเบาๆพร้อมกับมองหาคนตัวเล็กจนทั่ว แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความไม่ชอบใจเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กกำลังยิ้มหวานให้กับนักมวยคนหนึ่งอยู่ เขารีบเดินตรงเข้าไปหาคนตัวเล็กทันที




    “ที่รัก” ชานยอลเรียกเสียงหวานพร้อมกับยกแขนขึ้นไปโอบไหล่ของคนตัวเล็กเอาไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ถึงจะยังไม่ใช่ก็เหอะ แต่อีกไม่นานหรอกเขามั่นใจ




    “ที่รักหรอ” คนที่นั่งอยู่บริเวณนั้นพูดขึ้นมาพร้อมกันและมองหน้าชานยอลด้วยความตกใจ




    “เฮ้ย นี่นายใครเป็นที่รักนาย พูดแบบนี้ฉันเสียหายนะ” แบคฮยอนพูดพร้อมกับเอาแขนชานยอลออกจากไหล่ของตัวเองทันที




    “แบคฮยอนนี่แฟนแกหรอ” แทมินถามพร้อมกับมองชานยอลด้วยความสงสัย




    “นั่นดิ แกไปแอบมีแฟนตอนไหนวะ ทำไมพวกฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย” ลู่หานถามขึ้นมาอีกคน




    “ไม่ใช่ นี่ไม่ใช่แฟนฉันนะ ฉันไม่เอาคนบ้าแบบนี้ไปทำพันธุ์หรอก” แบคฮยอนรีบพูดขึ้นมาทันที




    “แหมที่รัก อยู่ต่อหน้าเพื่อนไม่ต้องอายก็ได้ ที่เมื่อคืนนี้นะ...”


    ‘กัดฉันซะเลือดกบปากเลย’




    “ไอ้บ้า หุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ” แบคฮยอนพูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับมองชานยอลด้วยความไม่พอใจ




    “โอ๋ๆๆ ไม่งอนนะเด็กดีอย่าโมโหสิ เดี๋ยวเซ็กเสื่อมนะ” ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงกวนประสาท




    “นี่นายอยากตายใช่มั้ย” แบคฮยอนพูดขึ้นมาพร้อมกับง้างหมัดจะต่อยชานยอล แต่มินโฮรีบคว้าเอาไว้ก่อนเพราะไม่อยากให้มีเรื่องกันตรงนี้




    “อย่ามีเรื่องเลยดีกว่านะ ไปเชียร์พี่ดีกว่าพี่จะขึ้นชกแล้วนะ” มินโฮบอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ




    “ก็ได้ครับ วันนี้ฉันจะปล่อยนายไปเพราะเห็นแก่พี่มินโฮหรอกนะ” แบคฮยอนพูดกับมินโฮด้วยน้ำเสียงอ่อนๆแล้วหันไปพูดกับชานยอลเสียงแข็งในตอนท้าย




    “นี่นายจะเบียดฉันทำไมนักหนาถ้าจะเข้าใกล้ขนาดนี้นายไม่สิงฉันเลยล่ะ” แบคฮยอนพูดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดเมื่อเห็นว่าชานยอลขยับเข้ามาใกล้เขาจนแทบจะขยับตัวไม่ได้




    “ก็นายไม่เห็นหรอว่าคนมันเยอะ แล้วคนเบียดกันแน่นขนาดนี้ฉันไม่อยากให้ใครมาโดนตัวนาย” ชานยอลพูดออกไปตามที่ตัวเองคิด เขาไม่ชอบเลยจริงๆ ทำไมคนมันถึงได้เยอะขนาดนี้ แล้วส่วนใหญ่มีแต่พวกผู้ชายหุ่นล่ำๆทั้งนั้น ไอ้ตัวแสบนี่ก็เอาแต่เชียร์มวยไม่ได้สนใจคนที่อยู่รอบๆตัวเลย ให้ตายสิเขาอยากจะกระชากออกไปจากตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด
    แทมินกับลู่หานมองเพื่อนสนิทของตัวเองกับชานยอลด้วยความแปลกใจสุดขีด เมื่อเห็นว่าเพื่อนของตัวเองยอมให้ชานยอลเข้าใกล้จนแทบจะสิงกันได้อยู่แล้ว ทั้งๆที่ปกติแค่มีคนมองนิดหน่อยแบคฮยอนก็วีนใส่แล้ว แต่นี่กลับยอมยืนนิ่งๆให้ชานยอลกอดซะงั้น จะให้คิดยังไงเนี่ย




    “ไหนมันบอกว่าไม่ใช่แฟนไง” ลู่หานพูดขึ้นมาพร้อมกับมองเพื่อนด้วยความแปลกใจ




    “ฉันว่าอาจจะไม่ใช่ก็ได้ แกดูหน้าแบคฮยอนดิ หงุดหงิดอยู่เหมือนกันนะ” แทมินพูด




    “หน้ามันหงุดหงิด แต่มันยอมให้เขากอดเนี่ยนะ แกไม่สงสัยอะไรบ้างเลยหรอ” ลู่หานถาม




    “ก็ไม่นี่ แกคิดมากไปรึเปล่า แบคฮยอนมันบอกว่าไม่ก็คือไม่นั่นแหละ” แทมินบอกแล้วหันกลับไปมองนักมวยที่กำลังชกอยู่บนเวทีตามเดิม เพราะอีกไม่นานมินโฮแฟนของตัวเองกำลังจะขึ้นชกแล้ว




    “นี่ปล่อยได้แล้วจะกอดอะไรนักหนามันร้อน” แบคฮยอนพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าชานยอล
    ชานยอลไม่ได้ปล่อยตามที่คนตัวเล็กบอกแต่ตรงกันข้ามเขากลับแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
    แบคฮยอนถอนหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิด ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเจอใครมึนแบบนี้มาก่อนเลย อยากจะบ้าตาย เขาเข้าใจนะว่าไอ้หูกางนี่หวังดีไม่อยากให้คนอื่นมาโดนตัวเขา แต่คิดจะถามเขาสักคำมั้ยว่าเขาอยากให้กอดแบบนี้มั้ย บอกให้ปล่อยก็ทำเป็นไม่ได้ยิน




    “พี่มินโฮสู้ๆนะ” แบคฮยอนตะโกนขึ้นมาเมื่อมินโฮขึ้นไปบนเวทีมวยแล้ว




    “ฉันว่าคงน็อคตั้งแต่ยกแรกแน่ๆเลย” ชานยอลพูดขึ้นมาด้วยความหมั่นไส้เมื่อเห็นคนตัวเล็กเชียร์มินโฮจนออกนอกหน้า แค่เชียร์ก็ไม่ได้บอกเลยว่าเขาหวง




    “ปากดีนักนะ นายไม่เก่งแบบเขาก็ไม่ต้องไปว่าเขา นายน่ะมันอ่อน” แบคฮยอนพูดแล้วยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย จะได้ดูอะไรสนุกๆแล้วสิ




    “ใครบอกว่าฉันเก่งสู้ไอ้หมอนั่นไม่ได้ ฉันเก่งกว่าไอ้หมอนั่นอีก” ชานยอลพูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ




    “อย่ามาขี้โม้ อย่างนายเนี่ยแค่ขึ้นไปยืนบนเวทีก็เป็นลมแล้วมั้งปาร์คชานยอล” แบคฮยอนพูดขึ้นมาอีกครั้ง




    “อย่ามาดูถูกฉันนะแบคฮยอน ฉันจะทำให้นายเห็นว่าฉันเก่งกว่าไอ้หมอนั่น” ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง




    “จริงหรอ เชื่อได้มั้ยเนี่ย” แบคฮยอนพูดพร้อมกับมองชานยอลอย่างไม่ค่อยเชื่อ




    “ฉันจะขึ้นไปชกบนเวทีนี้ด้วยก็ได้ แต่ถ้าฉันชนะนายต้องทำตามที่ฉันขอ” ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง




    “เอาสิ ถ้านายชนะ นายอยากได้อะไรบอกมาได้เลย” แบคฮยอนพูดแล้วยิ้มให้ชานยอล




    “ได้ อย่าลืมคำพูดตัวเองก็แล้วกัน” ชานยอลพูดแล้วเดินไปที่จุดรับสมัครนักมวยสมัครเล่นเพื่อลงชื่อเข้าชกมวยด้วย งานนี้เขาจะต้องชนะไม่เชื่อก็คอยดู




    “อย่าขึ้นไปนั่งร้องไห้บนเวทีนะ” แบคฮยอนบอกเมื่อชานยอลเปลี่ยนชุดและกำลังจะขึ้นชกเป็นคู่ต่อไป




    “ไม่มีทาง” ชานยอลพูดด้วยความมั่นใจ แค่ชกมวยใครๆก็ทำได้ไม่เห็นยาก




    “นั่นไงถึงตานายแล้วขึ้นไปเลย” แบคฮยอนบอกพร้อมกับดันชานยอลขึ้นไปบนเวทีมวย แล้วยิ้มออกมาเมื่อเห็นคู่ชกของชานยอล




    “จะดีหรอแบคฮยอน คู่ชกแฟนแกนี่หมัดหนักมากเลยนะ ต่อยทีเดียวนี่สลบไปสามวันเลยนะ” แทมินพูดขึ้นมาพร้อมกับมองชานยอลด้วยความเห็นใจ




    “ดี ฉันจ่ายให้ผู้ชายคนนั้นไปแล้วด้วย บอกว่าให้จัดการให้หนักไปเลย” แบคฮยอนพูดแล้วยิ้มออกมาด้วยความสะใจ โดนซะบ้างเหอะคนเจ้าชู้แบบนั้น โทษฐานที่กอดเขาอยู่ได้ตั้งนาน

    ชานยอลมองคู่ชกของตัวเองแล้วต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความลำบาก เพราะคนที่เป็นคู่ชกของเขาไม่ใช่คนที่เขาจ้างให้ล้มมวย แล้วคนที่เขาจ้างหายไปไหน แล้วไอ้หมอนี่มันเป็นใครกัน เอายังไงดีล่ะคราวนี้ เขาเคยต่อยมวยซะที่ไหนกัน


    ‘หมัดหนักเป็นบ้าเลย ฟันจะหักมั้ยวะเนี่ย’ ชานยอลคิดกับตัวเองด้วยความรันทดเมื่อถูกอีกฝ่ายต่อยเข้าที่หน้าอย่างแรง พอเขาพยายามจะต่อยสวนกลับไปแต่อีกฝ่ายก็หลบได้




    “ระวังฟันหักนะ” แบคฮยอนพูดขึ้นมาแล้วยิ้มหวานให้ชานยอล
    ชานยอลหันไปมองคนตัวเล็กที่มายืนอยู่ข้างๆเวทีด้วยความเจ็บใจ เขารู้แล้วว่าไอ้คนที่เขาจ้างมันหายไปไหน ที่แท้ก็ไอ้ตัวแสบนี่อีกแล้ว รู้แผนของเขาได้ยังไงเนี่ย




    “ต่อยไปสิ จะยืนมองหน้าฉันทำไม” แบคฮยอนพูดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดเมื่อเห็นชานยอลโดนต่อยจนร่วงลงไป ถึงเขาอยากจะแกล้งชานยอลแต่พอเอาเข้าจริงๆเขากับทนเห็นชานยอลเจ็บตัวไม่ได้


    ‘จำไว้เลยนะไอ้ตัวแสบ ฉันจะเอาคืนให้ร้องไม่ออกเลย’ ชานยอลคิดพร้อมกับมองคนตัวเล็กด้วยความไม่พอใจ แล้วลุกขึ้นยืนอีกครั้ง แล้วอยู่ดีๆโลกของเขาก็ดับวูบลงไป




    “น็อคไปแล้วนะครับ สีแดงเป็นฝ่ายชนะครับ” เสียงกรรมการประกาศเมื่อเห็นว่าชานยอลถูกต่อยจนน็อคไปแล้ว




    “ปาร์คชานยอล” แบคฮยอนขึ้นไปบนเวทีทันทีพร้อมกับมินโฮ แทมินและลู่หานที่ตามขึ้นไปช่วยกันแบกชานยอลลงมาจากเวที




    “จะตายมั้ยเนี่ย” แบคฮยอนพูดพร้อมกับมองหน้าชานยอลด้วยความรู้สึกผิด หรือว่าเขาจะเล่นแรงเกินไป แต่ไอ้บ้านี้อยากขี้โกงก่อนทำไมล่ะ โชคดีนะที่เขาเห็นตอนที่ชานยอลจ่ายเงินให้ผู้ชายคนนั้น ไม่งั้นถ้าแผนของชานยอลสำเร็จ เขาเองนี่แหละที่จะซวย








    “ชานยอล หน้าแกไปโดนอะไรมาวะ แล้วทำไมสภาพแกมันเยินขนาดนี้วะ” จงอินถามทันทีเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามาในบริษัทด้วยสภาพที่ทุเรศลูกตา เพราะตามใบหน้ามีแต่รอยเขียวช้ำ แถมปากยังแตกบวมเจ่อเหมือนโดนต่อยมาอีก แล้วไอ้ท่าเดินค้ำหลังตัวเองที่แสนจะทุเรศนั่นอีก




    “ไปชกมวยมา” ชานยอลตอบขณะที่เดินเข้าไปในลิฟต์พร้อมเพื่อน




    “ไปชกมวย แกเนี่ยนะ ฉันฟังอะไรผิดรึเปล่าวะ สำอางอย่างแกเนี่ยนะไปชกมวย อย่าว่าแต่ชกมวยเลย ตั้งแต่คบกันมาฉันยังไม่เคยเห็นแกเล่นกีฬาอะไรเลย แล้วทำไมแกถึงไปชกมวยได้วะ” จงอินถามพร้อมกับเดินตามชานยอลออกจากลิฟต์แล้วเดินตามเพื่อนเข้าไปในห้องทำงาน




    “ก็ไอ้ตัวแสบอีกนั่นแหละ” ชานยอลเล่าเรื่องทั้งหมดเมื่อวานให้เพื่อนฟัง หลังจากที่เขาสลบไปแล้วเขามารู้สึกตัวอีกทีเกือบเช้าแล้วเห็นว่าตัวเองอยู่ในรถ โดยที่ยังคงจอดอยู่ที่เดิม ไม่มีแม้แต่เงาของไอ้ตัวแสบ ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งเจ็บใจ เสียรู้เข้าอีกจนได้




    “แกนี่มันโง่กว่าเด็กจริงๆว่ะ” จงอินพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่งให้กับความโง่ของเพื่อน นี่หรอที่บอกเขาว่าจะเอาจริง ครั้งที่เท่าไหรแล้วที่กลับมาในสภาพเยินๆแบบนี้ แล้วครั้งนี้ก็หนักว่าทุกครั้งด้วย ถ้ามีครั้งต่อไปไม่ถึงตายเลยหรอ




    “หยุดหัวเราะได้แล้ว คราวหน้าฉันจะเอาจริงๆแล้ว” ชานยอลพูดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด




    “เออ ให้มันได้จริงๆก่อนแล้วค่อยมาบอก ฉันล่ะกลัวแกจะช้ำในตายก่อน เด็กอะไรวะน่ากลัวเป็นบ้าเลย” จงอินพูดพร้อมกับมองเพื่อนด้วยความเหนื่อยใจ
    ความจริงคนอย่างชานยอลมีคนวิ่งเข้าหาตั้งมากมาย แต่ชานยอลกับไม่เคยสนใจ แต่พอจะสนใจเข้าจริงๆก็มีสภาพอย่างที่เห็นนี่แหละ เขายอมกับความอดทนของเพื่อนจริงๆเลย กว่าจะได้แบคฮยอนมาเป็นแฟนเพื่อนของเขาคงต้องนอนซดน้ำข้าวต้มไปอีกนานแน่นอน








    “พี่ชานยอล หน้าไปโดนอะไรมาครับ” คยองซูถามด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นชานยอลเดินเข้ามาในบ้าน




    “พอดีพี่เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ” ชานยอลตอบพร้อมกับมองไปรอบๆบ้านเพื่อมองหาคนที่เขาอยากเห็นหน้ามากที่สุด




    “แบคฮยอนยังไม่กลับหรอกครับ วันนี้มีเรียนคาราเต้ กว่าจะกลับก็มืดๆ” คยองซูบอกแล้วหันไปบอกเด็กรับใช้ที่อยู่แถวๆนั้นให้ไปเอาน้ำมาให้ชานยอง




    “งั้นก็ดี พี่มีเรื่องจะคุยกับเราแล้วก็คุณอาแบยอน” ซองกยูพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง








    แบคฮยอนขับรถมาถึงบ้านในตอนหัวค่ำ วันนี้เขารู้สึกเมื่อยไปทั้งตัว เพราะคู่ซ้อมของเขาแต่ละคนมีแต่คนตัวโตๆ กว่าเขาจะเรียนเสร็จเขาก็น่วมไปทั้งตัว




    “อ้าวแบคฮยอนมาแล้วหรอลูก” แบยอนพูดขึ้นมาเมื่อเห็นลูกชายเดินมาที่โต๊ะอาหาร




    “ครับพ่อ มาอีกแล้วหรอที่บ้านนายไม่มีข้าวกินรึไง” แบคฮยอนตอบพ่อแล้วหันไปพูดกับชานยอล




    “แบคฮยอนอย่าเสียมารยาทสิลูก ชานยอลเขาไม่ใช่คนอื่นคนไกลนะ อีกไม่นานเขาก็จะเป็นคนในครอบครัวเราแล้ว” แบยอนดุลูกชายคนเล็กเบาๆ




    “หมายความว่าไงครับ” แบคฮยอนหันไปถามคนเป็นพ่อทันที




    “ก็ชานยอลกับพี่ของเรากำลังจะหมั้นกันน่ะสิ” แบยอนตอบลูกชายคนเล็กด้วยน้ำเสียงเรียบๆ




    “อะไรนะ นี่มันเรื่องจริงหรอ พ่อบังคับพี่คยองซูใช่มั้ย” แบคฮยอนหันไปถามพี่ของตัวเองพร้อมกับมองหน้าชานยอลด้วยความไม่พอใจ




    “พ่อไม่ได้บังคับพี่หรอกแบคฮยอนพี่เต็มใจหมั้นกับพี่ชานยอลเองแหละ พี่ชานยอลเขาก็น่ารักดีนะ” คยองซูพูดแล้วหันไปยิ้มหวานให้ชานยอล
    แบคฮยอนมองพี่ของตัวเองด้วยความรู้สึกแปลกๆ แล้วทำไมเขาต้องรู้สึกเจ็บจี๊ดๆขึ้นมาด้วยนะ ทำไมเขาจะต้องโมโห ทำไมๆๆๆ ทำไม เพราะไอ้หูกางนี่มันไม่เหมาะกับพี่ชายของเขาไง นี่แหละคำตอบ




    “คุณหนูแบคฮยอนคะมีคนโทรมาหาค่ะ” เด็กรับใช้พูดพร้อมกับส่งโทรศัพท์บ้านแบบไร้สายให้แบคฮยอน




    “ใคร” แบคฮยอนถามด้วยน้ำเสียงเครียดๆ




    “เขาบอกว่าคุณหนูแบคฮยอนรู้จักเขาดีค่ะ” เด็กรับใช้บอกแล้วถอยออกไป




    “ครับ” แบคฮยอนกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์




    “พี่ซิ่วหมิน” แบคฮยอนพูดแล้วยิ้มออกมาทันทีก่อนจะเดินออกจะคุยข้างนอกโดยไม่ทันได้เห็นสายตาของชานยอลที่มองตามไปด้วยความไม่พอใจ


    ‘ซิ่วหมินไหนกัน นี่มันชื่อผู้ชายชัดๆ’ 




    “ใจเย็นๆนะชานยอล จะปราบไอ้ตัวแสบนี่มีทางเดียวคือต้องใจเย็น” แบยอนพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าชานยอลกำลังทำหน้าเครียด




    “อย่าเพิ่งคิดมากเลยนะครับ ถ้าผมจำไม่ผิดซิ่วหมินนี่น่าจะเป็นแฟนเก่าของแบคฮยอน” คยองซูพูดขึ้นมา


    ‘อะไรนะ แฟนเก่าหรอ อยากจะบ้าตายจริงๆ นี่มีแฟนเก่าโผล่มาจากไหนอีกวะเนี่ย แล้วมันโทรมาทำไม จะมาขอคืนดีรึไง ไม่ได้ๆๆ เรื่องอะไรจะยอม แต่ไอ้ซิ่วหมินอะไรนีมันเคยเป็นแฟนแบคฮยอนมาก่อน แล้วมันทำยังไงถึงเอาชนะใจแบคฮยอนได้วะ เครียดจริงๆแล้วนะ ฉุดเลยดีมั้ยเนี่ยไอ้ตัวแสบเป็นเมียพี่แล้วค่อยกลับมาแต่งงานกันทีหลัง’




    “เป็นแฟนคนแรกแล้วก็คนเดียวของแบคฮยอนเท่านั้นเองครับ ไม่มีอะไรหรอก” คยองซูพูดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นชานยอลทำหน้าเครียด


    ‘นั่นไงรักครั้งแรกด้วย คนแรกแล้วก็คนเดียวนี่มันหมายความว่าไงวะ โอ๊ย อยากจะร้องไห้ นี่ยังไม่ทันได้กิน ก็จะมีคนมาแย่งไปอีกแล้วหรอวะ จับทำเมียเลยดีมั้ยไม่ต้องวางแผนอะไรให้เสียเวลาแล้ว เดี๋ยวโดนคาบไปกินพอดี ฉันจริงจังกับนายมากจริงๆนะไอ้ตัวแสบ บอกไว้ก่อนเลยถ้าฉันไม่ได้นายเป็นเมียฉันจะตามรังควานนายไปตลอดชีวิต ไม่เชื่อก็คอยดู’
            *****ขอโทษที่อัพช้านะคะ*****
    #คอมเมนต์และให้กำลังใจไรท์ด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×