ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Sweet Trap 2l
Sweet Trap 2
“แบคฮยอน ทำไมแกรีบกลับบ้านอ่ะ วันนี้ไม่ไปร้องคาราโอเกะกันหรอ” เซฮุนถามพร้อมกับมองหน้าเพื่อนด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นว่าเพื่อนกำลังรีบเก็บของกลับบ้านเมื่อเลิกเรียนแล้ว
“นั่นสิ แกไม่ไปด้วยกันหรอ” แทมินืถามขึ้นมาอีกคนพร้อมกับมองแบคฮยอนด้วยความแปลกใจ
“ไม่ล่ะวันนี้ขอตัวจริงๆนะ พอดีมีธุระจริงๆ” แบคฮยอนพูดแล้วเดินออกจากห้องเรียนไปด้วยความเร่งรีบ
ที่เขาต้องรีบกลับบ้านเร็วกว่าปกติเพราะเมื่อเช้าคยองซูบอกกับเขาวันนี้ไอ้บ้าหูกางนั่นจะมาทานอาหารเย็นที่บ้านด้วย บอกตามตรงเลยว่าเขาไม่ไว้ใจให้ผู้ชายคนนี้อยู่กับพี่เขาสองต่อสอง ขนาดเขายังพลาดท่าเสียทีโดนขโมยจูบแรกฟรีๆ แล้วพี่เขาล่ะจะขนาดไหน เขาไม่ยอมหรอกยังไงเขาก็ไม่มีวันให้พี่ของตัวเองแต่งงานกับไอ้หูกางนี่เด็ดขาด
“อ้าวแบคฮยอนกลับมาแล้วหรอลูก วันนี้กลับเร็วจัง” แบยอนถามเมื่อเห็นลูกชายคนเล็กเดินเข้ามาในบ้าน
“ครับ วันนี้ขี้เกียจไปไหน แล้วนี่พี่คยองซูอยู่ไหนครับพ่อ” แบคฮยอนถามพร้อมกับมองไปรอบๆบ้าน
“อยู่กับชานยอลที่ริมสระว่ายน้ำน่ะลูกเห็นคุยกันตั้งนานแล้ว คงจะคุยกันถูกคอ เห็นแบบนี้แล้วพ่อก็สบายใจ อ้าวจะไปไหนลูก” คนเป็นพ่อบอกแล้วถามขึ้นมาในตอนท้ายเมื่อเห็นลูกชายคนเล็กของบ้านเดินตรงไปทางสระว่ายน้ำ
“พี่คยองซู” แบคฮยอนเรียกแล้วเดินเข้าไปนั่งกั้นกลางระหว่างพี่ของตัวเองกับชานยอลทันทีพร้อมกับส่งสายตาอาฆาตไปให้ชานยอล
“อ้าว ทำไมวันนี้กลับเร็วจังพี่คิดว่าเราจะกลับมืดๆซะอีก” คยองซูถามน้องชายด้วยความแปลกใจ
“พอดีวันนี้มีพวกเห็บพวกหมัดมาป้วนเปี้ยนแถวบ้านน่ะพี่คยองซู ผมก็เลยกะว่าจะกลับมาจัดการมัน” แบคฮยอนพูดแล้วปรายตาไปมองชานยอล
“เห็บหรอ บ้านเราไม่ได้เลี้ยงหมานี่นา จะมีได้ยังไง เรานี่พูดอะไรแปลกนะ ตั้งแต่บอกพี่ว่ากัดกับหมาตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว” คยองซูพูดขึ้นมาแล้วมองหน้าน้องของตัวเองด้วยความสงสัย
“เออ ช่างมันเหอะน่าเรื่องไอ้หมาโรคจิตนั่นน่ะ ถือว่าทำทาน” แบคฮยอนพูดแล้วหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นสายตาของอีกคนที่กำลังมองเขาไม่ละสายตา ไอ้พี่บ้านี่ก็จะพูดอะไรไม่ปรึกษากันเลย
“หมาตัวนั้นนี้ต้องหล่อมากแน่ๆเลยใช่มั้ย เราถึงยอมให้มันกัด" ชานยอลถามพร้อมกับมองคนตัวเล็กด้วยแววตาหยอกล้อ
“หมาตัวนั้นน่ะ ทั้งอัปลักษณ์ ทั้งบ้ากาม ทั้งหื่น โรคจิตด้วย เลวมากอีกต่างหาก” แบคฮยอนพูดด้วยความไม่พอใจพร้อมกับหันหน้าไปมองชานยอล
“แน่ใจหรอว่าคิดอย่างนั้น แต่พี่ว่าเราอาจจะสนใจหมาตัวนั้นเข้าแล้วก็ได้” ชานยอลพูดพร้อมกับมองหน้าคนตัวเล็ก
“ไอ้บ้า บอกว่าไม่ชอบไง ไอ้หมาเลว” แบคฮยอนแหวขึ้นมาด้วยความโมโห
คยองซูมองน้องชายของตัวเองกับชานยอลด้วยความงุนงง แน่ใจหรอที่สองคนนี้พูดหมายถึงหมา ทำไมเขารู้สึกว่ามันไปไม่ใช่ หมาอะไรมีทั้งหล่อ หื่น บ้ากาม โรคจิต ที่พูดกันอยู่นี่หมายถึงหมาจริงๆหรอ
“ถ้าไม่ชอบคงไม่ยืนนิ่งให้หมามันกัดจนจมเขี้ยวแบบนั้นหรอกมั้ง" ชานยอลพูดพร้อมกับมองคนตัวเล็กด้วยแววตากวนประสาท
“นี่นายอย่ามาเข้าข้างตัวเองไปหน่อยเลย ฉันขยับตัวไม่ได้ต่างหาก” แบคฮยอนพูดขึ้นมาด้วยความโมโห เขาไม่ได้ยืนเฉยๆให้ไอ้บ้านี่จูบซะหน่อย แต่เขาถูกกอดจนขยับตัวไม่ได้ต่างหาก ยิ่งพูดถึงแล้วยิ่งแค้น
‘นั่นไง ตกลงไม่ได้พูดถึงหมาใช่มั้ย แล้วมันเรื่องอะไรกัน แต่ดูท่าแล้วแบคฮยอนกำลังจะโมโหมาก งั้นไปก่อนก็แล้วกัน’ คยองซูคิดกับตัวเองก่อนจะพูดขึ้นมาว่า
“พี่ชานยอลผมขอเข้าครัวก่อนนะครับ” คยองซูบอกแล้วเดินเข้าไปในบ้านทันทีโดยไม่ต้องรอให้ใครอนุญาต
“มาทำไม” แบคฮยอนถามทันทีเมื่อคยองซูเดินเข้าบ้านไปแล้ว
“มากินข้าว” ชานยอลตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“ที่บ้านไม่มีข้าวกินรึไง ถึงได้มารบกวนคนอื่นเขา ความเกรงใจน่ะเคยมีมั้ย” แบคฮยอนพูดด้วยความไม่พอใจ
“ไม่มี” ชานยอลตอบสั้นๆง่าย แล้วมองหน้าคนตัวเล็กที่กำลังมองมาที่เขาด้วยความโมโห ดูเถอะเด็กบ้าอะไรวะเนี่ยขนาดโมโหยังน่ารักขนาดนี้ แล้วอย่างนี้จะกลัวดีมั้ยเนี่ย
“ไอ้บ้า นายนี่มันหน้าด้านจริงเลยนะ ฉันไม่อยากคุยกับนายให้เปลืองน้ำลายแล้ว” แบคฮยอนพูดเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อจะเดินออกไปจากตรงนี้
“จะไปไหน” ชานยอลพูดพร้อมกับดึงคนตัวเล็กมานั่งตักตัวเองและล็อกตัวเอาไว้แน่น
“ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ” แบคฮยอนพูดเสียงดังด้วยความโมโห พร้อมกับพยายามดิ้น
“ร้องดังๆเลยแบคฮยอน คนในบ้านจะได้แห่กันมาดูฉันกับนาย แล้วทีนี้ฉันจะได้ให้พ่อฉันมาขอนายไปเป็นเมียน้อยฉันจริงๆ” ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเมื่อเห็นคนตัวเล็กนิ่งไป เขายิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อคำขู่ของเขาใช้ได้ผล
“ปล่อยนะ” แบคฮยอนพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าชานยอลตาขวางด้วยความไม่พอใจ
“แล้วฉันต้องทำตามที่นายบอกมั้ย” ชานยอลพูดด้วยเสียงกวนประสาทมากกว่าเดิม
“แน่ใจนะว่าจะไม่ปล่อย” แบคฮยอนถามขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“แน่ใจมากที่สุด โอ๊ย” ชานยอลตอบแล้วร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อคนตัวเล็กใช้หัวโขกเข้ามาที่หน้าของเขาอย่างแรงจนเขาต้องรีบปล่อยทันที
“เป็นไงล่ะ ไอ้บ้ากามสมน้ำหน้า” แบคฮยอนพูดก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที
“เจ็บเป็นบ้าเลย อะไรมันจะสารพัดพิษขนาดนั้นวะ เบ้าตาเขียวมั้ยเนี่ยเจ็บชะมัด” ชานยอลพูดพร้อมกับมองคนตัวเล็กที่วิ่งเข้าไปในบ้าน แล้วยกมือขึ้นมาแตะที่เบ้าตาของตัวเองเบาๆ เขาว่ามันคงต้องเป็นรอยเขียวช้ำแน่ๆเลย ใครเห็นเข้าเขาคงต้องอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไอ้แสบเอ๊ย อย่าให้มีโอกาสอีกนะจะจับปล้ำเลยคอยดู
“อ้าวชานยอล ไปโดนอะไรมาทำไมเบ้าตาเรามันเขียวแบบนั้นล่ะ” แบยอนถามชานยอลด้วยความสงสัยเมื่อเห็นบริเวณเบ้าตาของชานยอลมีรอยเขียวช้ำจนน่ากลัว
“เดินชนประตูครับ” ชานยอลตอบพร้อมกับมองคนตัวเล็กที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“เดินยังไงล่ะลูก ทำไมถึงไปชนมันได้” แบยอนถามอีกครั้งด้วยความสงสัย
“ผมไม่ระวังเองแหละครับคุณอา คราวหลังผมจะระวังตัวเป็นอย่างดี” ชานยอลพูดพร้อมกับมองหน้าคนตัวเล็กที่กำลังมองมาที่เขาพอดี
“ช่างมันเถอะงั้นกินข้าวก่อนแล้วลุงจะให้คยองซูเอายามาทาให้” แบยอนบอกแล้วหันสนใจอาหารบนโต๊ะ
ชานยอลมองอาหารตรงหน้าด้วยความระแวง เพราะกลัวจะโดนไอ้ตัวแสบนี่แกล้งเหมือนเมื่อวาน เขาค่อยๆตักอาหารมาชิมทีละอย่างแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ เพราะไม่มีอะไรผิดปกติ คงกลัวจะถูกเขาเอาคืนล่ะสิ เลยไม่กล้า เด็กน้อยเอ๊ย
แบคฮยอนลอบมองชานยอลที่กำลังทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เขายิ้มที่มุมปากเล็กน้อยเมื่อเห็นชานยอลทำท่าระแวงอาหารทุกอย่าง แต่ขอโทษนะคนอย่างบยอนแบคฮยอนไม่เคยใช้มุกเดิม เตรียมตัวรับได้เลยไอ้หูกาง
“กลับแล้วนะครับคุณอา” ชานยอลกล่าวลาผู้อาวุโสกว่าก่อนจะเดินไปขึ้นรถของตัวเอง แต่เขาก็อดเสียดายไม่ได้ที่ไม่ได้เห็นคนน่ารักของเขาก่อนกลับบ้าน เพราะหลังจากทานอาหารเสร็จคนตัวเล็กก็ขึ้นไปข้างบนทันที
แบคฮยอนยืนมองชานยอลที่ระเบียงแล้วยิ้มออกมาด้วยความดีใจเมื่อเห็นชานยอลเดินขึ้นรถไปแล้ว
“คอยดูฉันบ้างก็แล้วกันปาร์คชานยอล” แบคฮยอนพูดพร้อมกับยืนมองรถของชานยอลที่แล่นออกจากบ้านไปแล้ว
ชานยอลขับรถออกจากบ้านของคนตัวเล็กด้วยความเร็วที่ไม่มากนัก เมื่อขับออกมาได้ประมาณสิบนาทีเขาก็ได้ยินเสียงนี้ดังขึ้นมา
“อี๊ด... อี๊ด...” เสียงนี้ดังขึ้นมา ทำให้ชานยอลขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย เพราะไม่รู้ว่ามันคือเสียงอะไร
เขาชะลอรถเล็กน้อยแล้วมองไปทางเบาะหลัง ก็ไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ในรถแล้วเสียงอะไรมันดังกันแน่นะ เขามองไปรอบๆรถอีกครั้งด้วยความสงสัยเมื่อเสียงนั้นยังคงดังไม่ยอมหยุด
“เฮ้ย!!!!!” ชานยอลร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเขามองเห็นเจ้าของเสียงที่เขาตามหา เขาเหยียบเบรกแทบทันทีก่อนจะรีบลงจากรถไปด้วยความกลัว
สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้เป็นสิ่งที่เขากลัวมากที่สุด มันคือหนูสีดำตัวใหญ่ประมาณห้าหกตัวที่กำลังวิ่งไปมาอยู่ภายใจรถของเขา แล้วยังมีลูกหนูตัวแดงๆอีกเป็นสิบตัวที่อยู่ทางด้านหลัง ที่สำคัญมีแมลงสาบด้วย เขามองเจ้าพวกนี้ด้วยความขยะแขยง แล้วปิดประตูรถเอาไว้แน่นเพราะกลัวพวกมันจะหลุดออกมาหาเขา
“มาได้ยังไงวะ” ชานยอลพูดกับตัวเองพร้อมกับมองเข้าไปข้างในรถด้วยสีหน้าที่ขาวซีดราวกับกระดาษตอนนี้เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นมาเต็มหน้าผากและแผ่นหลัง เขากลัวเจ้าตัวเล็กพวกนี้มากจริงๆ
“อ้าวชานยอล แกมายืนเป็นพระเอกเอ็มวีอะไรตรงนี้วะ” จงอินถามพร้อมกับเดินลงจากรถมาหาเพื่อน เขาขับรถผ่านมาทางนี้พอดีเห็นเพื่อนกำลังทำหน้าเจื่อนๆเหมือนกำลังมีปัญหาอะไรบางอย่าง เขาจึงจอดรถแล้วเข้ามาหาเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
“แกลองดูในรถฉันดิ” ชานยอลพูดพร้อมกับมองหน้าเพื่อน
“อะไรของแกวะ” จงอินถามด้วยความงุนงงก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถของเพื่อนออกและมองเข้าในรถคันหรูของเพื่อน
“เฮ้ย มันมาได้ไงวะ” จงอินพูดด้วยความตกใจและรีบปิดประตูทันทีเพราะกลัวเจ้าพวกนี่จะวิ่งออกมา เพราะเขาเองก็กลัวเจ้าพวกนี้เหมือนกัน
“ฉันว่าต้องมีคนจับมันมาใส่รถฉันแน่ๆ” ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ใครจะบ้าเล่นพิเรนทร์แบบนี้วะ แล้วหน้าแกไปโดนใครต่อยมาวะทำไมมันเขียวขนาดนั้น” จงอินถามพร้อมกับมองหน้าเพื่อนด้วยความสงสัย
“ไอ้ตัวแสบของฉันไง บยอน แบคฮยอนนี่แหละ” ชานยอลพูดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด ไม่ต้องบอกเขาก็รู้ว่าใครเป็นคนทำ ไม่น่าล่ะพอทานอาหารเสร็จก็ขอตัวขึ้นข้างบน คงกลัวเขาจะจับพิรุธได้ แสบเป็นบ้าเลย
“โดนเข้าแล้วไงชานยอลเอ๊ย ถ้ามันยากขนาดนั้นแกก็เลิกยุ่งดีกว่า ฉันกลัวแกจะตายก่อนจะได้กินเด็กว่ะ” จงอินพูดพร้อมกับมองเพื่อนด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ เพราะเขารู้ว่าเพื่อนของเขาเป็นคนชอบเอาชนะยังไงก็ไม่มีวันยอมแน่นอน
“ไม่ ถ้าฉันปราบไอ้ตัวแสบนี่ไม่ได้ แกไม่ต้องมาเรียกฉันว่าปาร์คชานยอล” ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาจริงจัง คอยดูเถอะจะทำให้กลายเป็นหมาน้อยเชื่องๆเลย แสบดีนัก
แบคฮยอนหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าสีดำใบใหญ่ของตัวเองไปไว้ในรถมินิคูเปอร์สีขาวคันหรูของตัวเอง เพราะเขาต้องไปนอนค้างที่มหาลัยหลายวัน แต่ก็ขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความไม่ชอบใจเมื่อเห็นรถคันหนึ่งขับมาจอดข้างๆรถของเขา
“มาทำไมทุกวี่ทุกวัน เช้าขนาดนี้ไม่ไปทำงานทำการรึไง” แบคฮยอนพูดเมื่อเห็นว่าคนที่ลงมาจากรถเป็นชานยอล
“มาจัดการคนที่มันเอาหนูไปปล่อยในรถฉันเมื่อคืนนี้” ชานยอลพูดพร้อมกับมองหน้าคนตัวเล็กตรงหน้าด้วยความหงุดหงิด
“อ้าวหรอ ไม่น่าวันนี้ถึงได้เปลี่ยนรถ แล้วใครล่ะที่เป็นคนทำ” แบคฮยอนถามพร้อมกับทำหน้าซื่อสุดๆ
“ไม่ต้องมาทำเป็นไก๋เลย ถ้าไม่ใช่นายแล้วจะเป็นใครอย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ” ชานยอลพูดพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้คนตัวเล็ก
“อ้าว อย่ามาปรักปรำกันแบบนี้สิ ไหนล่ะหลักฐาน” แบคฮยอนพูดพร้อมกับถอยหลังหนีชานยอล ทำไมเขารู้สึกกลัวไอ้บ้านี่ขึ้นมานะ
“ไม่ต้องมีหลักฐานฉันก็รู้ เพราะนอกจากนายก็ไม่มีใครเล่นพิเรนทร์แบบนี้อีกแล้ว” ชานยอลพูดพร้อมกับเดินเข้าหาคนตัวเล็ก
“นี่ ถอยออกไปห่างๆเลยนะ ถ้านายทำอะไรฉัน ฉันจะร้องให้พ่อกับพี่คยองซูออกมาจริงๆด้วย” แบคฮยอนพูดเมื่อตัวเองถอยหลังจนไปชนกับประตูรถและหมดทางหนีแล้ว
“ก็เอาสิฉันไม่กลัว แล้วนี่จะหอบเสื้อผ้าไปไหน” ชานยอลถามเมื่อเห็นกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่อยู่ในรถของคนตัวเล็ก
“เป็นพ่อฉันรึไงถามโน่นถามนี่อยู่ได้ถอยไป” แบคฮยอนพูดแล้วผลักชานยอลออก
“มานี่ก่อน ถามว่าจะไปไหน นี่มันวันหยุดนี่ จะไปค้างคืนด้วยหรอ” ชานยองถามพร้อมกับมองคนตัวเล็กด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“อย่ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉัน มารยาทน่ะรู้จักมั้ย” แบคฮยอนตอบก่อนจะเดินอ้อมไปทางฝั่งคนขับ
“แบคฮยอน โอ๊ย!” ชานยอลเรียกอีกฝ่ายด้วยความความหงุดหงิดพร้อมกับเข้าไปจับแขนของคนตัวเล็กเอาไว้ แต่ก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อถูกคนตัวเล็กจับทุ่มลงไปกับพื้น
“วันหลังอย่ามาแตะต้องตัวฉันอีก ไม่งั้นฉันกระทืบนายเละแน่” แบคฮยอนพูดก่อนจะเดินไปขึ้นรถของตัวเองและขับออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไอ้ตัวแสบเอ๊ย เจ็บเป็นบ้าเลยตัวนิดเดียวเอาแรงมาจากไหนวะ” ชานยอลพูดแล้วนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ได้ขยับตัวไปไหนเพราะตอนนี้เขากำลังจุก และปวดหลังมาก
“อ้าวพี่ชานยอน มาตอนไหนครับแล้วไปนั่งทำไมตรงนั้นล่ะครับ” คยองซูถามเมื่อเห็นชานยอลนั่งอยู่บนพื้น
“อ๋อ พอดีพี่ทำโทรศัพท์หล่นน่ะ ก็เลยมานั่งเก็บ" ชานยอลตอบแล้วพยายามลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้เด็กแสบ
“แล้วนี่มาแต่เช้ามีอะไรรึเปล่าครับ” คยองซูถามพร้อมกับมองหน้าชานยอลด้วยความสงสัย
“พี่มาหาแบคฮยอนน่ะ แต่ออกไปไหนแล้วก็ไม่รู้” ชานยอลตอบออกไปตรงๆโดยไม่คิดจะปิดบังอะไร
“แบคฮยอนไปมหาลัยครับ น่าจะนอนค้างที่มหาลัยเป็นอาทิตย์แหละครับ” คยองซูตอบ
“อ้อ งั้นพี่ไปทำงานเลยก็แล้วกัน" ชานยอลบอกแล้วยิ้มให้คยองซูก่อนจะเดินไปขึ้นรถของตัวเองและขับออกไป
คยองซูมองตามชานยอลด้วยความแปลกใจ มาหาน้องชายเขางั้นหรอ ถ้าเขาเดาไม่ผิดชานยอลคงจะชอบเจ้าตัวแสบนั่นเข้าให้แล้วล่ะสิ เฮ้อ น่าสงสารคงจะน่วมอีกคนแน่เลย
“เฮ้ย! ทำไมวันนี้สภาพแกเป็นแบบนี้วะ” จงอินมองชานยอลที่เดินเข้ามาในห้องทำงานของตัวเองด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นเสื้อและกางเกงของเพื่อนเปื้อนฝุ่นเป็นแถบๆ ที่สำคัญเพื่อนของเขายังใช้มือค้ำหลังของตัวเองเอาไว้อย่างกับผู้หญิงท้องแก่ใกล้คลอด
“โดนไอ้เด็กแสบจับทุ่มมาอะดิ” ชานยอลตอบด้วยความหงุดหงิดแล้วเดินไปนั่งตรงโซฟาในห้องเพื่อน
“อะไรนะ เอาอีกแล้วหรอวะ เด็กตัวเล็กนิดเดียวนี่จับคนอย่างแกทุ่มได้ด้วยหรอวะ” จงอินถามด้วยความแปลกใจพร้อมกับลุกออกจากเก้าอี้ทำงานเดินมานั่งกับเพื่อนที่โซฟา
“เออดิ ฉันประมาทเกินไป” ชานยอลพูดแล้วใช้กำปั้นของตัวเองทุบหลังตัวเองเบาๆ
“ฉันว่านะกว่าแกจะรวบหัวรวบหางเขาได้อย่างที่แกบอก แกคงพิการแน่ๆเลยว่ะชานยอล” จงอินพูดและมองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
“ไม่หรอก คราวหน้าฉันเอาจริง” ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฉันไม่อยากเชื่อแกเลยว่ะ” จงอินมองหน้าเพื่อนอย่างไม่ค่อยอยากเชื่อนัก เพราะเขาเห็นเพื่อนบอกว่าจะเอาจริงตลอด แต่ก็มีสภาพอย่างที่เห็นแทบทุกวัน วันก่อนโดนทุ่ม เมื่อวานเบ้าตาเขียว วันนี้ก็โดนทุ่มอีก แล้ว อย่างนี้เขาจะเชื่อมันดีมั้ยเนี่ย
ชานยอลนั่งที่สวนหย่อมเล็กๆด้วยความกระวนกระวายใจ เขาไม่ได้เห็นหน้าไอ้เด็กแสบนั่นมาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ บอกตรงๆว่าคิดถึงจนแทบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ แล้วคยองซูก็บอกเขาว่าคนตัวเล็กของเขาจะกลับบ้านวันนี้ เขาจึงออกมาดักรอ
แต่เขานั่งตรงนี้มาตั้งแต่ห้าโมงเย็นจนถึงตอนนี้ก็สองทุ่มแล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าคนตัวเล็กจะกลับมา เขาทั้งกังวลและทั้งเป็นห่วง กลัวจะเป็นอะไรไปยิ่งน่ารักๆแบบนั้นด้วย อันตรายรอบด้านจริงๆขนาดเขายังทนอยู่เฉยๆโดยไม่แตะเนื้อต้องตัวไม่ได้เลย แล้วคนอื่นล่ะมันจะขนาดไหนกัน
“คุณชานยอลคะ เข้าไปทานอาหารค่ำได้แล้วค่ะ” เด็กรับใช้พูดขึ้นเมื่อเดินออกมาหาชานยอลที่สวนหย่อม
“แบคฮยอนยังไม่กลับเลยนี่ แล้วโทรมาบ้างมั้ย” ชานยอลถามพร้อมกับมองหน้าเด็กรับใช้
“คุณหนูกลับมาตั้งแต่ห้าโมงครึ่งแล้วนะคะ” เด็กรับใช้พูดขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าชานยอลด้วยความงุนงง
“อะไรนะกลับมาแล้วหรอ ทำไมฉันไม่เห็นล่ะ” ชานยอลถามด้วยความแปลกใจ
“ก็คุณหนูจอดรถเอาไว้ข้างๆกำแพงแล้วก็ปีนกำแพงเข้ามาค่ะ ไม่ได้เข้าทางหน้าบ้าน” เด็กรับใช้บอกขึ้นมาแล้วมองหน้าชานยอลด้วยความสงสัย
“งั้นหรอ” ชานยอลพูดแล้วขบกรามเข้าหากันจนเป็นสันนูนขึ้นมาด้วยความโมโหที่ถูกปล่อยให้นั่งรออยู่แบบนี้ตั้งสี่ชั่วโมงเต็ม
“อ้าวแล้วแบคฮยอนล่ะครับคุณอา ไม่มากินข้าวหรอครับ” ชานยอลถามเมื่อเห็นพ่อของคนตัวเล็กนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารคนเดียว เพราะไม่เห็นคนที่เขาอยากเห็นนั่งอยู่ด้วย
“เจ้าตัวแสบนั่นบอกอาว่าไม่หิวก็เลยไม่ลงมากิน ส่วนคยองซูก็ไปงานวันเกิดเพื่อน โชคดีที่อายังมีเรากินเป็นเพื่อน ไม่งั้นอาคงได้กินคนเดียวแน่ๆเลย” แบยอนตอบแล้วตักอาหารมาใส่จานของตัวเอง
ชานยอลนิ่งไปทันทีเมื่อได้ยินคำตอบจากคนอายุมากกว่า ไม่หิวหรือตั้งใจจะหลบหน้าเขากันแน่ คิดว่าแค่นี้เขาจะยอมแพ้งั้นหรอรู้จักคนอย่างเขาน้อยเกินไปแล้ว
“คุณอาครับพรุ่งนี้วันหยุดเราไปเที่ยวกันมั้ยครับ เห็นคุณพ่อก็บ่นๆอยู่เหมือนกันว่าอยากไปเที่ยว” ชานยอลถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
“เอาสิ อาก็อยากไปเที่ยวเหมือนกัน” แบยอนตอบกลับมาทันที
“งั้นชวนคยองซูกับแบคฮยอนไปด้วยนะครับ ไปกันหลายๆคนจะได้สนุก” ชานยอลบอก
“ได้สิๆ เห็นเจ้าตัวแสบบ่นๆอยู่เหมือนกันว่าช่วงนี้เครียดเรื่องเรียน พาไปเที่ยวก็คงจะผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง” แบยอนตอบแล้วยิ้มให้คนอายุน้อยกว่า
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องดังขึ้นทำให้แบคฮยอนต้องละสายตาจากหนังสือที่อ่านแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตูเพราะคิดว่าเด็กรับใช้คงยกนมมาให้เหมือนทุกๆวัน แต่ก็แทบจะปิดประตูลงทันทีเมื่อเห็นหน้าคนที่มาเคาะประตู
“นี่นายมาได้ยังไง ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ” แบคฮยอนพูดด้วยความไม่พอใจเมื่อชานยอลเข้ามาในห้องของตัวเองแล้วยังปิดประตูล็อกกลอนให้อีกด้วย
“ก็ฉันอยากมาทำไมจะมาไม่ได้ ตอบมาว่าหลบหน้าฉันทำไม” ชานยอลถามพร้อมกับมองคนตัวเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้า
‘เด็กอะไรใส่ชุดนอนแล้วน่ารักเป็นบ้าเลยย’ ชานยอลคิดพร้อมกับมองคนตัวเล็กตรงหน้าโดยไม่ละสายตา
“ใครหลบหน้านาย อย่ามามั่ว ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ” แบคฮยอนพูดขึ้นมาและมองหน้าชานยอลด้วยความระแวง
“ที่ทำอยู่นี่ไม่ได้หลบเลยมั้งไอ้ตัวแสบ” ชานยอลพูดแล้วเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กอย่างรวดเร็วแล้วดึงเข้ามากอดไว้แน่น
“ปล่อยนะไอ้โรคจิต ไม่งั้นฉันจะร้องให้พ่อเข้ามายิงนายไส้ทะลักแน่” แบคฮยอนพูดด้วยความไม่พอใจและพยายามดิ้นให้หลุดจากวงแขนของชานยอล
“นายใช้สบู่อะไรทำไมหอมจัง” ชานยอลถามและหอมแก้มคนตัวเล็กเบาๆอย่างอดใจไม่ไหว
“นี่ นายปล่อยเลยนะ!” แบคฮยอนพูดด้วยความไม่พอใจที่ถูกกอดยังไม่พอ ยังถูกหอมแก้มอีก
“ไม่ปล่อย” ชานยอลตอบด้วยน้ำเสียงกวนประสาทแล้วคลายวงแขนเล็กน้อยก่อนจะโน้มหน้าลงไปแล้วประกบปากลงไปบนปากบางอย่างรวดเร็ว
“โอ๊ย!!!” ชานยอลร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแล้วดันคนตัวเล็กออกห่างทันที และยกมือข้างหนึ่งมาเช็ดเลือดออกจากปากของตัวเองเพราะเขาถูกกัดจนเลือดกบปาก
“สมน้ำหน้าคราวหลังอย่ามาทำแบบนี้กับฉันอีก ออกไปเลยนะถ้าไม่อยากถูกไฟช๊อตตายตรงนี้” แบคฮยอนบอกพร้อมกับหยิบเครื่องช๊อตไฟฟ้าขึ้นมาแล้วเดินเข้าหาชานยอล
“เฮ้ย อย่าเล่นแบบนี้ดิ มันอันตรายนะ” ชานยอลพูดพร้อมกับพยายามถอยหลังหนี
“ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้” แบคฮยอนพูดพร้อมกับมองชานยอลด้วยความไม่พอใจแล้วเดินเข้าไปใกล้ชานยอล
“เออๆ ไปแล้ว” ชานยอลพูดแล้วเปิดประตูออกจากห้องทันที เพราะไม่กล้าเสี่ยงกับไอ้เครื่องช๊อตไฟฟ้าอันนั้น
“ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้ตัวแสบ” ชานยอลพูดพร้อมกับเดินลงบันไดไป
เมื่อชานยอลออกไปแล้วแบคฮยอนก็รีบล็อกประตูห้องทันทีแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทำการบ้าน เขาถอนหายใจออกมาเบาๆด้วยความหงุดหงิด เขาไม่เข้าใจจริงๆเลยว่าผู้ชายคนนี้ต้องการอะไรจากเขากันแน่ ทั้งๆที่กำลังจะหมั้นกับพี่ของเขาแต่กลับมาทำตัวลุ่มล่ามกับเขา เขาอยากจะรู้จริงๆเลยว่าผู้ชายคนนี้กำลังคิดจะทำอะไร แต่ที่แน่เขาจะไม่มีวันยอมมีแฟนคนเดียวกันกับพี่เด็ดขาด
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น