ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {ChanBaek} Sweet Trap {Exo}

    ลำดับตอนที่ #1 : Sweet Trap ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ค. 60


    Sweet Trap
    1

    แบคฮยอนกำลังง่วนอยู่กับการแจกใบปลิวเพื่อให้ผู้คนไปร่วมงานประจำปีของมหาวิทยาลัย ซึ่งเขาก็ไม่ได้อยากออกมาทำแบบนี้สักเท่าไหร่หรอก หน้ามหาวิทยาลัยน่ะร้อนก็ร้อน แต่ถ้าไม่ติดว่าพี่ชายที่แสนจะน่ารักเรียบร้อยของเขาขอร้องให้เขามาทำหน้าที่แทน ให้ตายยังไงเขาก็ไม่มีวันมาทำแบบนี้เด็ดขาด
    ถ้าเป็นการแจกใบปลิวธรรมดาเขาจะไม่หงุดหงิดขนาดนี้เลย แต่นี่เขาต้องใส่ชุดฮันบกของผู้หญิงนี่สิที่ทำให้เขาหงุดหงิด ร้อนจะตายให้ใส่อะไรก็ไม่รู้ อย่าให้เขารู้นะว่าใครมันเป็นคนคิดคอนเซป ถ้าเขารู้เขาไม่ปล่อยให้ลอยหน้าลอยตาอยู่ได้แน่

    “เชิญร่วมงานประจำปีของมหาวิทยาลัย ของเรานะครับ” แบคฮยอนพูดแล้วยิ้มให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาและแจกใบปลิวให้ ถึงเขาจะหงุดหงิดและไม่พอใจยังไง แต่เขาก็ต้องยิ้ม




    “โหน้องสาว สวยน่ารักมากเลย เย็นนี้ไปดื่มกับพี่มั้ย พี่จ่ายไม่อั้น” ผู้ชายหุ่นอาเสี่ยคนหนึ่งเดินเข้ามาหาแบคฮยอนและมองแบคฮยอนตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาหื่นอย่างเปิดเผย




    “น้องสาวบ้านป้าคุณรึไง แหกตาดูซินี่ผู้หญิงหรือผู้ชาย” แบคฮยอนพูดพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาเท้าเอว




    “แหม น่าตาก็น่ารัก ตัวเล็กนิดเดียวแบบนี้ จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายพี่ก็ไม่เกี่ยงหรอก อยากได้เท่าไหร่บอกมาเลย พี่จ่ายไม่อั้น แค่คืนเดียวพอ ถ้าถูกใจเดี๋ยวให้พิเศษ” ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นมาอีก




    “นี้มันจะมากไปแล้วนะ ฉันไม่ได้ขายตัวแหกตาดูบ้างนี่มันหน้ามหาลัย ถ้ามันหื่นแล้วไม่มีที่ลงก็จัดการกับตัวเองไปสิ แล้วอีกอย่างก่อนจะพูดอะไรออกมาหัดดูสาระรูปตัวเองบ้างมั้ย อ้วนเป็นปลาพะยูน เตี้ยอย่างกับต้นมะเขือ หัวก็ล้านเป็นอีแร้ง ใครมันจะหลับหูหลับตานอนกับแกได้ห๊า ไอ้แก่ตัณหากลับ อายุขนาดนี้แล้วทำไมความคิดถึงได้เลวขนาดนี้ ต่อให้ยกเงินทั้งธนาคารมาให้ แล้วขายรถขายบ้านมา ฉันก็ไม่สนใจหรอก ไปไหนก็ไปเลย ก่อนที่เจ็บตัว”  แบคฮยอนพูดขึ้นมาด้วยความโมโหและมองผู้ชายตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ และไม่สนใจคนที่กำลังมองเขาด้วยความสนใจ




    “ไม่ขายก็ไม่ขายสิวะ” ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยความไม่พอใจที่ถูกแบคฮยอนด่าต่อหน้าคนนับร้อย




    “เออ จะไปไหนก็ไป ถ้าฉันเห็นแกที่อื่นแกโดนกระทืบจมเท้าแล้ว” แบคฮยอนพูดขึ้นมาอีก
    “มีอะไรแบคฮยอน” คยองซูถามด้วยความแปลกใจพร้อมกับเดินเข้าไปหาน้องที่กำลังมีเรื่องอยู่ในตอนนี้




    “ก็ไอ้แก่นี่ มันพูดจาไม่เข้าหู อยากจะต่อยปากแตกซะตรงนี้เลยดีมั้ย” แบคฮยอนพูดแล้วจะเข้าไปต่อยผู้ชายคนนั้นแต่คยองซูก็จับตัวเขาเอาไว้ก่อน




    “โห คนนี้ก็สวยหวาน” ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นมาอีกพร้อมกับมองคยองซูด้วยแววตาลวนลาม




    “ไอ้แก่ ถ้าไม่อยากถูกควักลูกตาหยุดมองพี่ฉันเดี๋ยวนี้เลยะ” แบคฮยอนแหวขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นสายตาของผู้ชายคนนั้นที่กำลังมองพี่ของตัวเอง




    “เออ ไม่ยุ่งก็ได้ ไปหาที่อื่นก็ได้ ถ้าเดือดร้อนก็โทรหาพี่นะน้อง” ผู้ชายคนนั้นพูดแล้วเอานามบัตรของตัวเองยัดใส่กระเป๋าเสื้อของคยองซู ก่อนจะเดินออกไป




    “ไอ้โรคจิต” แบคฮยอนด่าตามหลังแล้วเอานามบัตรออกมาจากกระเป๋าเสื้อของคยองซูแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาก่อนจะกดโทรออก




    “จะทำอะไรแบคฮยอน” คยองซูถามด้วยความแปลกใจ




    “คุณตำรวจหรอครับ ผมกับพี่ถูกผู้ชายคนหนึ่งลวนลามที่หน้ามหาลัยครับ มีพยานเป็นร้อยคนเลยครับคุณตำรวจ ชื่ออีฮันแจครับ เพิ่งเดินออกไป ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ ขอบคุณครับ” แบคฮยอนพูดจบแล้วกดวางสายก่อนจะหันไปยิ้มให้คยองซู




    “เรียบร้อย ไอ้แก่นั่นคงได้เข้าไปนอนเล่นในคุกแน่ๆ” แบคฮยอนพูดออกมาอย่างอารมณ์ดีผิดกลับเมื่อกี้ราวกับคนละคน




    “มันจะไม่แรงเกินไปหรอแบคฮยอน” คยองซูถามน้องด้วยความไม่สบายใจ




    “ไม่หรอกน่าพี่คยองซู มันไม่โดนอัดตรงนี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ไหนๆก็มาแล้วยืนแจกต่อไปก็แล้วกัน ไม่มีอารมณ์แล้ว” แบคฮยอนพูดแล้วเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัยโดยไม่สนใจพี่ของตัวเองอีกเลย





    “สุดยอดว่ะชานยอล แสบสุดๆ เกิดมาจากท้องแม่เพิ่งจะเคยเห็นนี่แหละ” จงอินพูดขึ้นมาหลังจากที่ยืนดูเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ




    “นี่แหละน่ารักที่สุด” ชานยอลพูดแล้วยิ้มออกมาอย่างมีแผนการ




    “น่ารักแต่ โหดมาก คนเป็นพี่ยังน่ารักกว่าอีก” จงอินพูดพร้อมกับมองคยองซูด้วยแววตาชื่นชม




    “งั้นแกก็จีบคนพี่ ส่วนคนน้องฉันจอง”  ชานยอลพูดแล้วยิ้มออกมาจนแก้มแทบปริ















    “ว่าไงชานยอลพักนี้พ่อไม่ค่อยเจอแกเลยงานที่บริษัทยุ่งหรอ” ชานดึลถามลูกชายของตัวเองในตอนเย็นเมื่อลูกชายกลับมาทานอาหารเย็นที่บ้าน




    “ครับพ่อ ก็ยุ่งๆนิดหน่อย” ชานยอลตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ




    “แล้วอย่างนี้แกจะมีเวลาหาแฟนมั้ย เห็นมีข่าวว่าควงคนโน้นคนนี้ไปเรื่อย แล้วไหนล่ะตัวจริง” ชานดึลถามลูกชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง




    “ผมยังไม่ได้จริงจังกับเรื่องพวกนี้เลยครับพ่อ” ชานยอลตอบพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ




    “แล้วแกมีใครที่ดูๆไว้รึเปล่า” ชานดึลถามพร้อมกับมองหน้าลูกชายด้วยแววตาครุ่นคิด




    “ถามทำไมครับ” ชานยอลมองหน้าพ่อด้วยความสงสัย เขาคิดว่าพ่อของเขาต้องมีอะไรแน่ๆ




    “คืองี้นะ พรุ่งนี้พ่อจะไปเยี่ยมเพื่อนเก่า พ่ออยากให้แกไปด้วย แล้วเพื่อนพ่อก็มีลูกชายสองคนน่ารักทั้งสองคนเลย พ่อไปเจอมาแล้ว คนพี่ก็อ่อนโยนน่ารัก ส่วนคนน้องก็แสบน่ารัก” ชานดึลพูดพร้อมกับมองหน้าลูกชาย



    “ผมยังไม่สนใจใครทั้งนั้นแหละครับพ่อ” ชานยอลพูดแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ 
    ไม่ใช่ว่าเขาไม่สนใจหรอกนะ แต่เขากำลังมีคนที่สนใจมากอยู่แล้ว ก็ไอ้เด็กตัวแสบนั่นแหละที่คอยกวนใจเขาทั้งวันจนไม่เป็นอันทำงาน บอกตรงเลยว่าเขาคิดถึงมาก นี่ขนาดไม่เคยรู้จักกันยังอาการหนักขนาดนี้ เห็นทีเขาจะต้องรีบรวบหัวรวบหางซะแล้วล่ะมั้ง




    “แต่พ่ออยากให้แกไปกับพ่อ” ชานดึลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง




    “ก็ได้ครับ” ชานยอลตอบรับอย่างจำยอม เพราะไม่อยากขัดใจพ่อ แต่เขาไม่มีวันสนใจลูกเพื่อนของพ่อเด็ดขาดเพราะเขามีเป้าหมายของเขาแล้ว












    “อ้าวไอ้เพื่อนยาก นึกยังไงถึงมาหาฉันได้ จะมาทำไมไม่บอกฉันก่อนจะได้เตรียมอาหารไว้รอ” แบยอนพูดขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปหาเพื่อนด้วยความดีใจ




    “พอดีวันนี้วันหยุดลูกชายฉัน ก็เลยอยากพาลูกชายมาแนะนำให้รู้จัก นี่ปาร์คชานยอลลูกชายคนเดียวของฉัน” ชานดึลพูดกับเพื่อนและแนะนำลูกชายของตัวเองให้เพื่อนรู้จัก




    “สวัสดีครับคุณอา” ชานยอลกล่าวทักทายแล้วโค้งให้ผู้อาวุโสด้วยความนอบน้อม




    “ลูกชายแกนี่หล่อดีเหมือนกันนี่หว่า เหมือนแกตอนเป็นหนุ่มเลย แต่ตานี่สงสัยจะเหมือนแม่นะ” แบยอนพูดพร้อมกับมองชานยอลด้วยความเอ็นดู




    “แต่ฉันชอบน่ารักๆแบบลูกชายแกมากกว่า” ชานดึลพูดขึ้นมา




    “ป่ะๆเราไปนั่งคุยกันดีกว่า” แบยอนพูดแล้วพาเพื่อนกับลูกไปนั่งที่ห้องนั่งเล่น
    ทันทีที่เข้ามาในห้องนั่งเล่นชานยอลต้องตาค้างทันทีเมื่อมองเห็นรูปที่แขวนอยู่ที่ผนัง นั่นมันไอ้เด็กตัวแสบที่เขาชอบนี่ อย่าบอกนะว่าเป็นลูกชายของเพื่อนพ่อ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เข้าทางเขาเลยล่ะสิ




    “แล้วลูกแกหายไปไหนหมด” ชานดึลถามเพื่อน




    "คยองซูทำอาหารอยู่ในครัว ส่วนเจ้าตัวแสบออกไปเรียนเทควันโด้ตั้งแต่เช้าแล้ว เดี๋ยวบ่ายๆก็คงกลับ
    ชานยอลฟังการสนทนาของพ่อตัวเองกับแบยอนด้วยความสนใจ เรียนเทควันโด้ด้วยหรอ นี่แสบครบชุดเลยใช่มั้ย ทั้งแสบทั้งโหด อยากเจอจริงๆเลย บยอนแบคฮยอน




    “พ่อครับ อ้าวคุณลุงสวัสดีครับ” คยองซูกล่าวทักทายชานดึลด้วยความนอบน้อมเมื่อเห็นชานดึลนั่งอยู่กับพ่อของตัวเอง




    “คยองซู นี่ชานยอลลูกชายของปาร์คชานดึล” แบยอนบอกลูกชายและกวักมือให้ลูกชายเดินไปนั่งข้างๆตัวเอง




    “สวัสดีครับ” คยองซูพูดแล้วยิ้มให้ชานยอลอย่างเป็นมิตร ซึ่งชานยอลก็ยิ้มตอบอย่างเป็นมิตรเช่นกัน




    “แล้วเมื่อไหร่น้องเราจะกลับ” แบยอนถามลูกชายคนโตด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน 




    “เดี๋ยวก็คงจะกลับแล้วมั้งครับพ่อ เมื่อกี้ก็โทรมาบอกว่าได้สายดำแล้วด้วย” คยองซูตอบ




    “โห สายดำเลยหรอ” แบยอนพูดขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าลูกชาย




    “ครับพ่อ เห็นบ่นๆว่าอยากจะเรียนคาราเต้กับยูโดเพิ่มด้วย” คยองซูบอกแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆด้วยความกลุ้มใจ เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าแบคฮยอนจะเรียนการต่อสู้พวกนี้ไปทำไมกัน




    “นี่พ่อว่าน้องเรามันจะห้าวเกินไปรึเปล่าลูก อีกหน่อยจะไม่มีใครเอาอยู่นะ ทุกวันนี้ยังไม่มีใครกล้าเถียงเลย” แบยอนพูดขึ้นมาด้วยความอ่อนใจ 
    เขายอมรับว่าเขาเกรงใจลูกชายคนเล็กมาก คงเพราะเป็นลูกคนเล็กแบคฮยอนถึงถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก จนถึงทุกวันนี้ก็ไม่มีใครกล้าขัดใจเลยแม้แต่คนเดียว แบคฮยอนพูดคำไหนทุกคนต้องทำตาม และนี่เป็นสาเหตุที่เขาพยายามให้ลูกชายคนเล็กไปดูตัว
    และผลตอบรับที่ได้กลับมาก็ทำให้เขาเป็นลมทุกครั้งเมื่อรู้ว่าเจ้าตัวแสบไล่ตะเพิดคู่ดูตัวไปหมด และไม่ได้สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคุณชาย ดารา นักร้อง ตำรวจ นักการเมือง หรือแม้แต่หมอ ทุกคนล้วนแต่โดนเจ้าตัวแสบไล่ตะเพิดไปแล้วทั้งนั้น
    จนทุกวันนี้เขาถึงกับอ่อนอกอ่อนใจ และหมดปัญญาที่จะหาคนมากำหลาบลูกชายคนเล็กแล้ว คงต้องปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปตลอด แต่เขาก็ยังหวัง หวังว่าจะมีใครสักคนมาทำให้เจ้าตัวแสบของบ้านกลายเป็นเด็กดีเหมือนคนอื่นเขาบ้าง


    แบคฮยอนเปิดประตูรัวเดินเข้ามาในบ้านตามความเคยชิน แต่ก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นผู้ชายที่เขาไม่รู้จักคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ในสวนหย่อม เขามองผู้ชายคนนี้ด้วยความแปลกใจเพราะเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน




    “อ้าวกลับมาแล้วหรอ” ชานยอลพูดขึ้นมาเมื่อเห็นคนตัวเล็กที่เขานั่งรออยู่นานแล้วเดินเข้ามา




    “รู้จักกันด้วยหรอ แล้วนายเป็นใคร เข้ามาในบ้านฉันทำไม” แบคฮยอนถามพร้อมกับมองอีกฝ่ายอย่างไม่ไว้ใจ
    ชานยอลมองคนตัวเล็กแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย นึกแล้วไม่ผิดว่าต้องเจอคำถามแบบนี้




    “ฉันเป็นว่าที่คู่หมั้นพี่ชายนาย” ชานยอลตอบแล้วยิ้มให้คนตัวเล็ก




    “คู่หมั้นหรอ โกหก พี่คยองซูไม่มีทางหมั้นกับนายหรอก” แบคฮยอนพูดพร้อมกับมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า




    “ไม่เชื่อก็ไปถามคุณอาดูสิ ผู้ใหญ่กำลังคุยกันอยู่ข้างใน” ชานยอลพูดแล้วยิ้มให้คนตัวเล็กอีกครั้งซึ่งเขาก็จำไม่ได้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว แต่เขาอารมณ์ดีมากจริงๆ




    “นายให้พ่อนายบังคับให้พี่คยองซูหมั้นด้วยใช่มั้ย” แบคฮยอนถามขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ




    “ไม่รู้สิ” ชานยอลตอบไปด้วยน้ำเสียงกวนประสาท




    “นี่" แบคฮยอนพูดด้วยความไม่พอใจและพยายามหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับอารมณ์โกรธของตัวเอง




    “ความจริงแล้วนายก็น่ารักดีนะ ฉันว่าฉันไปบอกให้พ่อขอทั้งสองคนเลยดีกว่า มีเมียทีเดียวพร้อมกันสองคนเลยเป็นไง” ชานยอลพูดพร้อมกับส่งยิ้มกวนประสาทไปให้คนตัวเล็ก




    “ไอ้โรคจิต ความคิดนายมันเลวที่สุด” แบคฮยอนพูดพร้อมกับมองหน้าชานยอลด้วยความโมโห




    “ทำไม ฉันรับรองเลยนะว่าจะแบ่งเวลาให้เท่าๆกัน แต่ก็ไม่ได้สินะต้องให้พี่นายมากกว่า เพราะพี่นายเป็นเมียหลวง” ชานยอลพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาท




    “แก ไอ้บ้าเอ๊ย” แบคฮยอนพูดพร้อมกับเดินเข้าหาชานยอลเพื่อที่จะต่อยให้สาแก่ใจ แต่กลับถูกชานยอลรวบตัวเข้าไปกอดและหมุนตัวให้หลังเขาเข้าไปชิดกับอกแกร่งจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน




    “ปล่อยนะ ไอ้โรคจิต” แบคฮยอนพูดพร้อมกับกระทืบลงไปที่เท้าของชานยอลอย่างแรงเพราะไม่สามารถขยับตัวได้ หมดกันแบคฮยอน อุตส่าห์สอบได้เทควันโด้สายดำมาหยกๆแต่กลับถูกรวบตัวได้ง่ายๆ รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น




    “โอ๊ย นี่เล่นแรงขนาดนี้เลยหรอ เด็กบ้า” ชานยอลร้องออกมาด้วยความเจ็บและกอดคนตัวเล็กแน่นกว่าเดิม




    “ปล่อยฉันสิ อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” แบคฮยอนพูดพร้อมกับพยายามดิ้นอย่างสุดกำลัง




    “ขอกอดหน่อยก็แล้วกันไหนๆนายก็จะเป็นเมียน้อยฉันแล้ว” ชานยอลพูดขึ้นมา




    “ไอ้เลว ใครจะเป็นเมียน้อยแก ห๊า โรคจิตอย่างแกฉันไม่เอาไปทำพันธุ์หรอก” แบคฮยอนพูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจเมื่ออีกฝ่ายกอดเขาแน่นจนเขาขยับตัวไม่ได้




    “แหม เด็กน้อยปากดีจริงๆไหนมาลองชิมหน่อยซิ” ชานยอลพูดแล้วหมุนตัวคนตัวเล็กให้หันหน้ามาหาตัวเอง ก่อนจะประกบปากลงไปบนปากบางของคนตัวเล็กอย่างรวดเร็ว ในขณะที่แขนข้างหนึ่งกอดรัดรอบเอวบางเอาไว้แน่นเพราะกลัวคนตัวเล็กจะดิ้น ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็บีบแก้มของคนตัวเล็กเพื่อบังคับให้คนตัวเล็กรับจูบจากเขา
    แบคฮยอนพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนของผู้ชายตรงหน้าแต่ก็ทำไม่ได้ และพอจะหันหน้าหนีก็ทำไม่ได้ เขาจึงอยู่นิ่งๆให้ผู้ชายคนนี้จูบอยู่อย่างนั้น ทำไมเขาถึงทำอะไรผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลยนะ แล้วนี่จูบแรกของเขากับไอ้หูกางที่ไหนก็ไม่รู้ เขาอยากจะกรี๊ดให้โลกแตกซะจริงๆไม่ใช่กรี๊ดเพราะดีใจนะ แต่เขากำลังโมโห




    “หวานอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ” ชานยอลพูดเมื่อถอนปากออกมาแล้วมองคนตัวเล็กด้วยแววตาหยอกล้อ 




    “แก! ไอ้หูกาง! ไอ้บ้ากาม! ไอ้บ้า! ไอ้โรคจิต!!” แบคฮยอนพูดทันทีเมื่อสติกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว




    “ทีเมื่อกี้ ไม่เห็นว่าอะไรเลย” ชานยอลพูดแล้วยิ้มให้คนตัวเล็ก




    “พูดบ้าอะไร ปากฉันมันพูดได้มั้ย ใครใช้ให้นายมาจูบฉัน นายอย่าอยู่เลย” แบคฮยอนพูดด้วยความโมโหแล้วจับชานยอลทุ่มลงไปกับพื้นหญ้าทันที




    “โอ๊ย นี่เล่นทีเผลอหรอ” ชานยอลร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและมองหน้าคนตัวเล็ก




    “ถ้าฉันมีมีดฉันเอามาปาดคอนายแล้ว ไอ้หูกาง” แบคฮยอนพูดแล้วยกมือขึ้นมาเช็ดปากของตัวเองแรงๆก่อนจะเดินกระทืบเท้าเข้าไปในบ้านด้วยความโมโห




    “หนีฉันไม่พ้นหรอกแบคฮยอน อีกไม่นานนายโดนฉันรวบหัวรวบหางแน่เด็กน้อย” ชานยอลพูดแล้วพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง




    “เจ็บเป็นบ้าเลยตัวแค่นี้ไปเอาแรงมาจากไหน แต่ก็ได้จูบล่ะนะ ถือว่าหายกัน” ชานยอลพูดแล้วยิ้มออกมา ถึงตอนนี้เขาจะจุกแต่เขาก็มีความสุข คราวหน้าเขาจะไม่เผลออีกแล้วคอยดู




    “อ้าวแบคฮยอนกลับมาแล้วหรอ แล้วทำไมหน้าบึ้งแบบนั้นล่ะ” คยองซูถามพร้อมกับมองหน้าน้องด้วยความแปลกใจ




    “ทะเลาะกับหมามา” แบคฮยอนตอบแล้วหายใจฟึดฟัดด้วยความหงุดหงิดแล้วเดินตรงไปที่อ่างล้างจานในครัวแล้วเปิดน้ำล้างปากตัวเอง




    “หมาหรอ บ้านเรามีหมาด้วยหรอ” คยองซูถามขึ้นมาด้วยความงุนงง




    “โอ๊ย ไม่ต้องพูดถึงมันแล้ว นี่พี่ทำอะไรอยู่” แบคฮยอนถามพร้อมกับมองหน้าพี่ของตัวเอง




    “ทำอาหารอยู่ วันนี้คุณลุงชานดึลกับพี่ชานยอลจะทานอาหารเย็นที่บ้านเราด้วย” คยองซูบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน




    “ชื่อชานยอลหรอ” แบคฮยอนพูดกับตัวเองด้วยความคับแค้นใจ ยังไงแค้นนี้ก็ต้องชำระกล้าดียังไงมาขโมยจูบเขา คิดแล้วก็โมโห




    “แล้วพี่ทำอะไรกินหรอ” แบคฮยอนถามพร้อมกับเดินไปชะโงกหน้าดูอาหารที่คยองซูกำลังทำ




    “ก็หลายอย่างนะ แต่ซุปอันนั้นของพี่ชานยอล พ่อบอกให้ทำให้พี่ชานยอลเป็นพิเศษ” คยองซูบอก




    “ทำให้เป็นพิเศษหรอ” แบคฮยอนถามขึ้นมาพร้อมกับมองซุปในหม้อด้วยแววตาครุ่นคิด




    “อืม” คยองซูตอบแล้วยิ้มให้น้องอย่างอ่อนโยน




    “เออ พี่คยองซู ขึ้นไปเอาแฮนด์ครีมให้ผมหน่อยสิ ตอนนี้ปวดขามากเลยไม่อยากเดินขึ้นไป” แบคฮยอนบอกด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ




    “อืม เดี๋ยวพี่ไปเอาให้” คยองซูพูดแล้วลูบหัวน้องเบาๆก่อนจะเดินออกจากห้องครัวไป




    “เออนี่พวกเรา ฉันทำสร้อยหายที่สนามหญ้า ไปหาให้หน่อยสิ” แบคฮยอนบอกเด็กรับใช้สามคนที่อยู่ในครัว




    “ค่ะ” เด็กรับใช้สามคนพูดขึ้นมาพร้อมๆกันก่อนจะเดินออกจากห้องครัวไป




    “ชอบหวานๆนักใช่มั้ยไอ้หูกาง” แบคฮยอนพูดขึ้นมาพร้อมกับหยิบน้ำตาลทรายถุงละหนึ่งกิโลออกมาจากตู้ทั้งหมด แล้วเทน้ำตาลทรายทั้งสิบห้าถุงลงไปในหม้อซุปจนหมด แล้วเก็บถุงน้ำตาลทรายทั้งหมดทิ้งลงถังขยะ




    “เบาหวานขึ้นแน่นาย” แบคฮยอนพูดพร้อมกับมองซุปในหม้อที่กำลังข้นได้ที่ แล้วยิ้มออกมาด้วยความสะใจ




    “อ้าว มาทานอาหารเย็นกัน คยองซูทำอาหารอร่อยนะ นี่ซุปของชานยอล” แบยอนพูดเมื่อทุกคนนั่งพร้อมหน้าพร้อมตากันที่โต๊ะอาหาร และบอกให้เด็กยกถ้วยซุปไปให้ชานยอล




    “แบคฮยอนได้ข่าวว่าเรียนเทควันโด้ได้สายดำแล้วหรอลูก” ชานดึลถามพร้อมกับมองแบคฮยอนด้วยความเอ็นดู เด็กอะไรน่ารักจังอยากได้มาเป็นลูกเป็นหลานจริงๆ




    “ครับ แต่ตอนนี้คิดว่าแค่เทควันโด้คงไม่พอ ผมว่าจะเรียนทั้งคาราเต้ ยูโดและอาจจะเรียนมวยไทยด้วย” แบคฮยอนตอบแล้วปรายตาไปมองชานยอลที่มองเขาไม่ละสายตา





    “พ่อว่าพอแล้วมั้งลูก แค่นี้ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรเราแล้ว” แบยอนบอกลูกชายคนเล็ก




    “นั่นสิครับ ตัวก็เล็กนิดเดียวเรียนไปก็เท่านั้นจะไปทำอะไรใครได้” ชานยอลพูดแล้วตักน้ำซุปเข้าปาก แต่แล้วก็แทบจะคายออกมาทันที ถ้าไมคิดว่าเป็นการเสียมารยาท ซุปบ้าอะไรหวานอย่างกับเอาอ้อยทั้งไร่มาทำ
    แบคฮยอนมองชานยอลแล้วแอบยิ้มกับตัวเองด้วยความสะใจ เป็นไงล่ะคงอร่อยน่าดูเลย ขอให้เป็นเบาหวานตายๆไปซะได้ก็ดี




    “เป็นไง อร่อยมั้ย” แบยอนถามชานยอลแล้วมองหน้าชานยอลเพื่อรอฟังคำตอบ




    “อร่อยมากครับ” ชานยอลตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแล้วยิ้มเจื่อนๆให้คนอายุมากกว่า




    “อร่อยก็กินเยอะนะครับพี่ชานยอล เหลืออีกตั้งเป็นหม้อ พี่คยองซูอุตส่าห์ทำให้ ถ้าพี่กินไม่หมดพี่คยองซูคงจะเสียใจ ใช่มั้ยครับพ่อ” แบคฮยอนพูดกับชานยอลแล้วหันไปพูดกับพ่อของตัวเองในตอนท้าย
    ชานยอลมองคนตัวเล็กด้วยความไม่พอใจ เพราะเขาพอจะรู้แล้วว่าทำไมซุปถ้วยนี้ถึงได้หวานจนแสบคอแบบนี้ ที่แท้ก็เป็นฝีมือไอ้เด็กตัวแสบนี่เอง คงจะเอาคืนเขาใช่มั้ย รู้จัก ปาร์คชานยอล น้อยไปซะแล้วเด็กน้อย




    “อร่อยมากจริงๆ แต่พี่กินคนเดียวคงไม่หมด งั้นแบคฮยอนกินเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ ของมีประโยชน์แบบนี้เหมาะกับเรามากเลยนะ เห็นว่าเพิ่งไปสอบเทควันโด้มาคงจะเหนื่อยน่าดู กินน้ำซุปนี่หน่อยนะ ดีต่อสุขภาพ” ชานยอลพูดขึ้นมาพร้อมกับบอกให้เด็กรับใช้ตักซุปให้คนตัวเล็ก




    “ไม่ดีกว่า พอดีว่าวันนี้ไม่อยากกินซุป” แบคฮยอนพูดพร้อมกับดันถ้วยซุปออกห่างตัวเอง




    “กินหน่อยสิแบคฮยอน พี่ชานยอลพูดถูกนะมันมีประโยชน์นะ” คยองซูพูดพร้อมกับมองหน้าน้องชาย และทุกคนก็ต่างพากันมองแบคฮยอนเป็นตาเดียวกัน




    “ทำไมหรอ หรือว่าเรากลัวว่าในน้ำซุปนี่มันจะมีอะไร” ชานยอลถามลอยหน้าลอยตาและมองคนตัวเล็กด้วยแววตากวนประสาท




    “ก็ ไม่ได้กลัว” แบคฮยอนพูดพร้อมกับมองหน้าชานยอลด้วยความไม่พอใจ
    ตอนนี้ทุกคนต่างพากันมองชานยอลกับแบคฮยอนด้วยความสนใจ เพราะทุกคนในบ้านไม่มีใครกล้าต่อปากต่อคำกับแบคฮยอนแต่ชานยอลเป็นคนแรกและเป็นคนเดียวที่กล้า




    “งั้นก็กินด้วยกันสิ” ชานยอลพูดพร้อมกับมองคนตัวเล็ก




    “กินก็ได้ไม่เห็นจะมีอะไรเลย” แบคฮยอนพูดแล้วยกถ้วยซุปเข้ามาหาตัวเองอีกครั้ง และมองด้วยความลังเลก่อนจะตักเข้าปาก




    “แค้กๆ” แบคฮยอนไอออกมาทันทีเมื่อตักน้ำซุปเข้าปาก อะไรมันจะหวานจนแสบลิ้นแสบคอขนาดนี้




    “อร่อยมั้ย” ชานยอลถามพร้อมกับพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้อย่างสุดความสามารถเป็นไงล่ะไอ้ตัวแสบอยากเล่นพิเรนทร์ก่อนเองนะ




    “อร่อย” แบคฮยอนตอบห้วนๆพร้อมกับมองหน้าชานยอลตาขวาง ถ้าไม่ติดว่ามีผู้ใหญ่อยู่ในนี้ ป่านนี้ไอ้หูกางนี่ได้ลงไปนอนเดี้ยงบนพื้นแล้ว



    “อร่อยก็กินเยอะนะพี่รู้ว่าเราชอบ” ชานยอลพูดแล้วยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะหันไปสนใจอาหารอย่างอื่นบนโต๊ะ ส่วนไอ้ซุปบ้านี่ก็ช่างมันใครจะไปกินลง
    ‘ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้บ้า ฉันไม่ยอมง่ายๆหรอก’

    ASHLEY         
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×