คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Round 4 (อัพ 100%)
ในห้องนั่งเล่นบ้านปาร์ค
เด็กหนุ่มห้าคนได้มารวมตัวกันเพราะได้รับโทรศัพท์จากหนุ่มเจ้าของบ้านว่าต้องการเพื่อนรอรับลูกพี่ลูกน้องที่เดินทางมาจากประเทศจีน และเนื่องด้วยรู้ว่าญาติของตนนั้นสามารถพูดเกาหลีได้มั้ย ตนจึงได้บังคับปนขู่ให้ซูโฮลากลู่หานหรือเสี่ยวลู่ผู้ซึ้งเกิดและเติบโตที่จีนมาด้วยเพื่อเป็นล่ามกิติมาศักดิ์นั่นเอง
จริงๆแล้วในห้องนี้มีทั้งหมดเจ็ดคน แต่เพื่ออีกสองคนคือดีโอและซูโฮ ได้ถูกรับเลือกให้ไปทำภารกิจอันยิ่งใหญ่คือ...... ออกไปซื้อขนมหน้าปากซอย
ดังนั้งในห้องตอนนี้จึงเหลือแค่ จงอินที่นั่งตาปรือเหมือนจะหลับ ชานยอลและแบคฮยอนที่นั่งจิ้มเกมส์ในไอแพดอย่างเมามัน ลู่หานที่นั่งอ่านหนังสืออย่างเงียบๆ
และ.......
“กู เกลียด ผู้ หญิงงงงงงง!! แง๊”
หนุ่มน้อยร่างสูงหน้าตาดีกำลังนอนชักดิ้นชักงอ พร้อมกับร้องห่มร้องไห้กลางห้องนั่งเล่นของเพื่อนตัวเล็ก
โดยมีเพื่อนๆอีกสามคนและหนึ่งหนุ่มน่ารักจากแดนปักกิ่งนั่งมองอย่างเวทนา
และสาเหตุจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก โดนชะนีทิ้งขว้างเหมือนผักปลา ฮ่าๆๆ (ไรท์สะใจ)
“กะอีแค่ผู้หญิงคนเดียว มึงจะอะไรนักหนาว่ะ เชี่ย เลิกดิ้นเป็นผีตุ๊ดเข้าสิงได้ล่ะ กูอุบาทลูกตา”
ชานยอลก่นด่าเพื่อนที่ร้องห่มร้องไห้ตรงหน้า แล้วก็หันกลับมาสนใจไอแพดในมือเพื่อนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆตามเดิม
“คนเดียวที่ไหนมึง มันทิ้งกูทีเดียวเจ็ดคนเลยนะเว้ย เจ็ดคนนนน ฮืออออ”
“แล้วมึงไปทำเหี้_ยอะไรอีกล่ะ ชะนีถึงได้เขี่ยมึงทีเดียวพร้อมกันเจ็ดคน”
เพื่อนผิวเข้มได้ทีเปิดปากถาม หลังจากที่นั่งมองเพื่อนรักคลุ้มคลั่งมานานเกือบชั่วโมง
แม่ ง นิสัยเด็กไม่เปลี่ยน นี่ถ้าใครมาเห็นคงคิดว่ามึงปัญญาอ่อน ไอ้ฮุนเอ่ย
“กูไม่รู้ กูนั่งดริ้งกับน้องพอลล่าอยู่ดีๆ ชะนีน้อยของกูทั้งหกก็โผล่มา แล้วแม่ งก็ตบหน้ากูเรียงคน มึงดูๆ หน้ากูทั้งบวมทั้งแดง หมดหล่อเลยอ่ะ มึงดู๊!!”
เซฮุนยังคงดิ้นพร่านกลางกับพื้นห้องนั่งเล่นและส่งเสียงโวยวายไม่พอใจอยู่อย่างนั้นจนเพื่อนๆและหนึ่งรุ่นพี่ออกจะเอือมและทำเป็นไม่สนใจเจ้าตัวแทน
“เห้ยยย สนใจกูหน่อย กูโดนทิ้งนะเว้ย”
เมื่อรู้สึกว่าเพื่อนทั้งสามของตนไม่สนใจ เซฮุนจึงหยุดร้อง หยุดโวยวาย ไปโดยอัตโนมัติ แล้วลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาข้างๆเพื่อนผิวเข้มที่นั่งปรือเหมือนจะหลับในไม่ช้า
“จะโวยวายไปทำไม ก็ทิ้งคนอื่นมาเยอะแล้ว โดนทิ้งเองบ้างนี่โววายใหญ่เลยนะ”
ลู่หาน หนุ่มหน้าหวานที่นั่งอยู่บนโซฟาอีกฝั่งพูดขึ้นแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือในมือตามเดิม
“นี่คุณพี่ครับ ถ้าจะไม่ปลอบกันก็ช่วยเงียบเลยครับ”
"ชิ ตุ๊ดเด็ก"
“แล้วมันจริงป่ะล่ะอิตุ๊ด กูว่านะ ที่พวกนั้นทิ้งมึง เพราะจู๋มึงเล็กแน่ๆเลย ฮ่า ๆ ๆ”
แบคฮยอนเงยหน้าจากไอแพด เอ่ยให้ปลอบ(?) เพื่อน พอจบประโยคเท่านั้นแหละ เสียงหัวเราะจากทุกคนยกเว้นคนถูกล้อก็ดังขึ้นอย่างไม่ได้นัดหมาย
“อิหมาเตี้ย นั่นปากเหรอนั่น ของกูใหญ่กว่าอิหยอยอีก ไม่เชื่อจะลองมั้ย ป่ะ ขึ้นห้องไปกับกูตอนนี้เลยมั้ยสัส”
“ไปดิ๊ กูก็อยากลองกับมึงมานานล่ะ คิคิ”
สิ้นประโยคเพื่อนตัวเล็ก ก็ทำเอาคนเอ่ยชวน(เล่นๆ) ถึงกับหน้าแดงแปร๊ดถึงใบหู
“ไปดิ๊ เขินเหี้ ย ไรของมึง อยากโชว์ไม่ใช่เหรอ”
ยังไม่ยอมจบ คนตัวเล้กลุกขึ้นมาทำท่าจะจูงเซฮุนขึ้นไปบนห้อง แต่คนตัวสูงไม่ยอมขยับ
นี่มันเอาจริงเหรอว่ะเนี่ย
“เห้ย หมาเตี้ย มึงเอาจริงเหรอว่ะ ดูหน้าผัวมึงซะก่อน อย่าทำเป็นเล่นไป”
ไคที่นั่งขำกับสถานการณ์ตรงหน้าก็เอ่ยขึ้นแล้วชี้ไปที่ชานยอลที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่บนโซฟา
“หยอยยย หึงกูเหรอ อิอิ ชอบกูเหรอตัวเอง”
คนตัวเล็กหันไปพูดล้อเพื่อนหัวหยอยไม่พอ ยังทำท่าจะเกาะแขนเลียขา(?) เพื่อนที่ยืนเป็นหินข้างๆ อย่างสนุกสนาน
“แล้วถ้ากูบอกว่ากูหึงล่ะ?”
“.....”
ชานยอลตอบไปด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจัง จนทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ แบคฮยอนนิ่งเงียบและมองไปยังเจ้าของประโยคอย่างเขินๆ ลู่หานเงยหน้าจากหนังสือแล้วจ้องไปที่ชานยอล มีเพียงคนเดียงเท่านั้นคือไค ที่ยังคงหลับตานิ่งแต่ริมฝีปากหนากลับกระตุกยิ้มอย่างพอใจ
ดูสิ พวกมึงจะปากแข็งได้นานขนาดไหน
“เห้ยย ขนมมาแล้ว อ้าว พวกมึงเป็นอะไรกัน เล่นจ้องตากันอยู่เหรอ?”
ชูโฮที่ไปซื้อขนมกลับมาเอ่ยทักขึ้นเมื่อรู้สึกว่าเพื่อนๆของตนเงียบผิดปกติ แถมยังจ้องหน้ากันไม่มีท่าทีจะขยับเลย
“เออ พวกมึงอยากลองทฤษฎีจ้องตาแล้วท้องเหมือนปลาฉลามเหรอ?”
“ปลาฉลามบ้างมึงสิอิศรี สมองมึงนี่เลเวลเดียวกับเชี่ยฮุนเลย มานี่ๆ มานั่งข้างๆผัวนี่ เดี๋ยวจะเล่าอะไรให้ฟัง”
คนตัวเล็กหน้ายู่หน่อยๆเพราะคำด่า แต่ก็ยอมเดินไปนั่งข้างๆเพื่อนผิวเข้มอย่างว่าง่าย
ส่วนอีกสามชีวิตที่เล่นจ้องตากันอยู่ก็เป็นอันจบเพราะมุก(เหรอ) ปลาฉลามของเพื่อนตัวเล็กที่เพิ่งมาถึง
เซฮุนเดินเอ๋อๆ ไปนั่งข้างๆลู่หานและซูโฮ ส่วนแบคฮยอนก็เดินตาเซฮุนไปติดๆ ทุกการกระทำของตนนั้น ก็ยังคงอยู่ในสายตาของคนหัวหยอยเช่นเดิม
ทีงี้ทำเป็นเงียบนะหมาเตี้ย ฮึๆ
“เออ ไอ้หยอย ไหนมึงบอกญาติมึงจะมาถึงตอนบ่ายๆไง นี่มันจะเย็นแล้วนะมึงยังไม่ถึงอีก หรือว่าหลงไปถึงปูซานแล้วว่ะเนี่ย”
ลู่หานถามขึ้นเมื่อตนนึกได้ว่าตอนนี้มันก็จะห้าโมงเย็นแล้ว แต่ลูกพี่ลูกน้องของเจ้าของบ้านยังมาไม่ถึงอีก
กูมารอตั้งแต่เที่ยงแล้วนะ
ด้วยสาเหตุที่ญาติของชานยอลมาจากจีน และในกลุ่มเพื่อนไม่มีใครสามารถสปีคจีนได้เลยซักนาย จึงจำเป็นที่จะต้องลากตัวรุ่นพี่ลู่หานมานั่งเป็นล่ามแปลให้ แต่ป่านนี้ญาติตัวดีของตนยังมาไม่ถึงอีก
“เดี๋ยวคงถึงแหละพี่ เห้ย ไปนน้ำส้มกูอ่ะ”
ชานยอลตอบแล้วเดินไปค้นหาสเบียงของตนที่ได้ฝากเพื่อนตัวเตี้ยทั้งสองซื้อมา แต่ก็ต้องโวยวายเมื่อมันไม่มีในถุง
“อ่อ คือเมื่อกี้ตอนเดินมา เด็กเหี้ ย ที่ไหนไม่รู้วิ่งมาชนพวกกู ถุงมันเลยตก น้ำมึงก็เลยแตก อย่าถามมากเลย กูหงุดหงิด”
ซูโฮอธิบายถึงสาเหตุการหายไปของน้ำส้มสุดเลิฟของเพื่อนรัก แล้วทำท่าทางฟึดฟัด อย่างไม่พอใจออกมา
“อ่อ น้ำเชี่ยหยอยแต่เพราะอย่างนี้นี่เอง คิคิ”
หลังจากที่ฟังเพื่อนตัวขาวอธิบายซึ่งประโยคออกจะเป็นสองแง่ คนตัวเล็กจึงตีความไปอีกทางอย่างที่ตนถนัด
ป๊าปปป
เสียงมือกระทบกะบาลดังลั่นห้องนั่งเล่น เมื่อชานยอลอดไม่ได้ที่จะตบหัวเพื่อเรียกสติที่หลุดโลกของเพื่อนรักตัวเล็กให้กลับมา
ชอบจริงๆนะ ไอ้เรื่องลามกๆ เดี๋ยวกูก็จัดซะหรอก
“มึงตีกูทำไม ไอ้หยอย ไอ้เอ๋อ ไอ้ขี้เหล่ ไอ้จู๋เล็ก ฮือออ เชี่ยฮุน ช่วยเมียด้วย”
คนตัวเล็ก ทำท่าร้องไห้โวยวายลั่น แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปล้อเล่นกับเพื่อนอีกคนด้วยการซบเข้าไปที่ไหล เพราะยังคงสนุกกับเรื่องที่ทำให้อีกคนเขินก่อนหน้านี้
“พอเลยหมาเตี้ย ผัวมึงอยู่นู่น อย่ามายุ่งกับกู กุไม่อยากผิดเมียคัย ฮ่า ๆ “
อีกคนก็นึกสนุกอยากล้อบ้าง จึงผลักหัวเพื่อนที่ซบไหลแรงๆ เพื่อให้ออกไปให้พ้น
“นับวันมึงยิ่งแรดนะอิหมาเตี้ย เดี๋ยวซักวันนึงนะ มึงจะแรดไม่ออก เฮ้ยสองผัวเมียอ่ะ จะกินมั้ยขนม หรือจะยืมห้องกูขึ้นไปกินอย่างอื่นกันสองคน”
ชานยอลพูดคาดโทษเพื่อนตัวเล็กแล้วก็หันไปเรียกคู่เพื่อนรักที่นั่งกระซิบกระซาบหัวเราะคิกคักกันอยู่บนโซฟาอีกฝั่งของห้อง
“มึงนี่ปากหมา เหมือนหน้าเลยนะไอ้หยอย”
ไคชี้หน้าคาดโทษเพื่อนที่แซวแต่ก็หันกลับไปกระซิบกระซาบกับดีโออีกครั้งโดยไม่สนใจของกินเลย
สวีทกันเข้าไป เดี๋ยวพ่ออดไม่ได้ประกาศมันให้รู้ทั้งโรงเรียนเลยว่ามึงสองคนแด ก กันเอง เชอะ
17.20 น
“หยอย กูว่ามึงออกไปตาหา หรือไม่ก็แจ้งความเหอะ นี่รอมาจนฟ้าจะมืดอยู่ล่ะ ยังไม่เห็นมีเงาเหี้ ยอะไรโผล่มาเลย”
แบคฮยอนที่นอนหนุนตักของเพื่อนตัวสูงอยู่พูดขึ้นเบาๆ ตาก็จะหลับอยู่แล้ว
“อืม เดี๋ยวก็มา มึงหลับเหอะ เดี๋ยวมันมาถึงแล้วก็จะปลุก”
คนตัวสูงว่าแล้วก็ลูบหัวคนตัวเล็กที่หนุนตักของตนเบาๆ สายตามองคนที่กึ่งๆจะหลับอย่างอบอุ่น
“กูก็จะหลับว่ะ =_=”
ลู่หานพูดขึ้นพร้อมทั้งพยายามถ่างตาของตนให้กว้างขึ้น
“กูกลับก่อนได้ป่ะ เชี่ยไคกับอิศรีก็กลับล่ะ ขอกูกลับมั้งนะ”
เซฮุนพูดขึ้นเพราะตอนนี้ตนไม่ไหวจริงๆ อยากนอนพักผ่อนที่บ้านของตนเองมากกว่ามานั่งรอคัยก็ไม่รู้ แถมยังอิจฉาเพื่อนสองคนที่กลับก่อนอีก
“ก็สองคนนั้นมันไปเปิดร้านช่วยแม่อิศรี มึงมันไม่มีธุระ เงียบๆไปอย่าบ่นได้ป่ะ”
ซูโฮที่นั่งเล่นเกมส์เพลย์อยู่พูดขึ้น ไม่วายผลักหัวเพื่อนรักแล้วหันไปสนใจเกมส์ต่อ
“ก็กูง่วง เสี่ยวลู่ ยืมตักหน่อยดิ ง่วงอ่ะ”
“เฮ้ย กูยังไม่ได้บอกว่าให้เลย”
ยังทันที่คนหน้าหวานจะอนุญาต เซฮุนก็ล้มตัวลงนอนหนุนตักด้วยความเร็วแสง ลู่หานได้แต่อึ้งๆ แต่ก็ต้องหน้าแดงแบบเก็บอาการไว้ไม่อยู่
“เกาคางให้ด้วย เร็วๆ”
คนที่นอนหนุนตักออกคำสั่งอีกครั้ง แต่ลู่หานก็ไม่อยากปฏิเสธอะไรให้มากความยอมทำตามอย่างว่าง่าย
เป็นแมวรึไงชอบให้เกาคาง คิคิ
เวลาเนิ่นนาน ล่วงมาถึงสองทุ่ม แบคฮยอนยังคงนอนหลับอยู่บนตักของชานยอลโดยที่ชายยอลเองก็หลับโดยเอสหลังพิงโซฟาไว้ เซฮุนก็กลับไปบนตักของลู่หาน โดยที่เจ้าของตักนั้นก็เอาหัวพิงที่ไหลของซูโฮลูกพี่ลูกน้อง ส่วนซูโฮนั้น.....ยังคงอยู่ในโลกของเกมส์เพลย์(อึดนะพ่อคุณ)
“เอ่อออ หนี่ห่าวววว”
อยู่ๆเสียงของแขกผู้มาเยือนก็ดังขึ้น เรียกความสนใจจากคนตัวเล็กผิวขาวที่นั่งเล่นเกมส์อยู่
แต่เมื่อหันไปดู ก็ต้องอารมณ์เสียเป็นรอบที่สองของวันเมื่อแขกที่มาเยือนนั้น เป็นคนๆเดียวกับที่เดินชนตนเมื่อตอนบ่าย
“ไอ้เด็กเชี่ยยยยยย!!”
ย้อนกลับไปเมื่อเวลา 15.30 น.
“เหี้ยอิศรี มึงเลย เป่ายิ่งฉุบได้เชี่ยมากกกกก กูบอกแล้วว่ากระดาษๆ มึงยังจะเสือกออกกรรไกร”
หนุ่มร่างเล็กผิวขาวได้แต่เดินไปบ่นเพื่อนตัวเล็กไป เมื่อทั้งสองเล่นเกมส์แพ้แล้วต้องออกมาซื้อเสบียงให้เพื่อนทุกคนในกลุ่ม
“อิกลูต้า เก่งนักทำไมมึงแพ้อิหมาเตี้ยล่ะ ห๊ะ”
คนตัวเตี้ยเถียงบ้าง แต่ก็ไม่ได้จริงๆอะไร
“เฮ้ออ แล้วดูพวกมันสั่ง แด ก อย่างจะพรุ่งนี้โลกจะแดก เอาห่าอะไรทำกระเพาะว่ะ หนักนะโว๊ยยยยยยยยย”
พลั๊ก...
“เห้ยยยย”
ดังนรกชังหรือสวรรค์ถีบ ระหว่างที่เพื่อนตัวเล้กทั้งสองกำลังเดินบ่นๆ พร้อมหิ้วของพรุงพรังอยู่นั้น ก็มีผู้ชายคนหนึ่งที่เดินสวนมาชนกับซูโฮอย่างแรงจนถุงของร่วงลงกับพื้น และน้ำส้มที่เพื่อหัวหยอยสั่งก็แตกไหลนองกับพื้นถนน
“ขอโทษครับ” เด็กหนุ่มตอบกลับด้วยภาษาเกาหลีแต่สำเนียงแปลกๆ
“นี่มึงเอาตาฝากไว้กับยายที่บ้านรึไงฮ่ะ เดินชนมาได้ เชี่ยเอ๊ยยย”
คนโดนชนก่นด่าด้วยความโมโห แล้วก็รีบก้มเก็บของอย่างหงุดหงิด โดยที่เงยหน้ามองเจ้าตัวปัญหาเลย
“ใจเย็นมึง ขอโทษทีนะน้อง เพื่อนพี่เป็นอย่างนี้ทุกที อากาศร้อนแล้วจิตหลุด แฮะๆ”
“ไม่เป็นไรครับ แต่ว่าเพื่อนพี่นี่ หน้าตาก็ดี ไม่น่าปาก หมา เลยนะครับ^^”
“อะ เอ่ออ...”
แต่พอได้ยินสิ่งที่ตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มนั้น ทำไมดีโอถึงรู้สึกอยากกระโดดเตะก้านคอให้ตายไปซะ
ถ้าไม่ติดที่ว่ากูเตี้ยนะมึง ไอ้แพนด้าอัปลักษณ์
“เชี่ย มึงกล้าดียังไงมาว่ากูปาก หมา ไอ้หมีแพนด้านิสัยเสีย ไอ้เด็กเชี่ย ไอ้..ไอ้”
“แหมพี่ก็ ช่วยสุภาพกับผมหน่อยสิครับ ผมเป็นชาวต่างชาตินะ”
“อย่างกะมึงสุภาพกับกูตายล่ะ อิศรี ถือดิ ถ้าวันนี้กูไม่ได้เตะก้านคอไอ้เด็กเวรนี่ กูคงตายตาไม่หลับ”
ว่าแล้วคนตัวขาวก็ยื่นถุงขนมที่เก็บเสร็จหมาดๆให้เพื่อนที่ตัวเล็กกว่า แล้วทำท่าจะกระโจนเข้าใส่เด็กหนุ่มเจ้าปัญหาอย่าโมโห
เพื่อนเอ๊ย มึงยังสูงไม่เท่าหูมันเลย = =
ดีโอได้แต่บ่นในใจเพราะรู้ว่าห้ามไปคงจะเปล่าประโยชน์
“ก็พี่ด่าผมก่อนนี่นา เอาล่ะถือว่าผมขอโทษล่ะกัน วันนี้ผมไม่ว่างกำลังรีบ แต่ถ้าเจอกันวันหลังก็เรียกผมว่าจือเทา นะ พี่คนสวย^^ จุ๊ฟ”
ไม่ว่าเปล่า เด็กที่ชื่อจือเทาก็ชิงขโมยหอมแก้มคนตัวขาวแล้วรีบวิ่งหนีด้วยความเร็วแสง ปล่อยให้คนโดนหอมยืนอึ้งอยู่อย่างนั้นเหมือนโลกนี้หยุดหมุนไปชั่วขณะ
มัน หอม แก้ม กู ไอ้ เด็ก เชี่ยยยยยย
“เอ่อ มึง ช็อคเสร็จยัง กลับกันเหอะ กูร้อนอ่ะ T^T”
“”””””””””””””””””””””””””””””””””””
Talk: ฮิๆ ว่าจะปล่อยเรื่องนี้ทิ้งแล้ว แต่มันทำใจได้จริงๆ
ปลงๆ ถึงไม่มีคนเม้นก็ขอแต่งให้จบล่ะกันเนอะ ตอนนี้อาจขัดๆ เพราะเหมือนจิตนาการไม่ค่อยแล่น
แต่ถ้าคัยอ่านแล้วฟิน ไม่ฟิน ยังไง ก็ฝากคอมเม้นไว้ได้เลยนะจ๊ะ
ความคิดเห็น