ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    การไปหลายๆที่มันก็สนุกดีนะ

    ลำดับตอนที่ #7 : การไม่ปรึกษาใครอาจไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ค. 59


           .....สายลมเอื่อยลอย หมุนวน ต้นหลิวเอนอ่อนไปตามไปตามกระแส เทือกเขาตั้งตระง่านค้ำฟ้า คล้อยหมู่  ดาราเปล่งแสงระยิบ

        สถานที่ โอ่โถง แต่เงียบสงบ เป็นที่ตั้งของ สำนัก หง้อหลิว ซึ่ง สำนักแห่งนี้ยุทธที่เรียก ตัวเอง ว่าฝ่ายธรรมะ สำนัก แห่งนี้ ตั้ง อยู่ บนเทือกเขา เทียนซาง อาณาเขต ของ อาณาจักรมังกรทะยาน เหนือสุด ของทวีป ปราณ 

      สำนักหง้อหลิว นั้น มี ศิษย์ใน สำนัก เป็น สตรีเพศทั้งหมด อีก ทั้ง กฏเหล็กของ สำนักคือ การ ถือ ครองพรหมจรรย์  หากฝ่าฝืนมีโทษ ถึงตาย หรือ ทำลาย วรยุทธและขับออกจากสำนัก

      เจ้าสำนัก คนปัจจุบันคือ หง้อหนิงเหม่ย เป็นผู้มี
    ฝีมือ สูงส่ง ฉายา ฝ่ามือสยปบุรุษ ด้วย วิชา อันเป็นของ สตรีเพศโดยเฉพาะ และ ปราณหยิน
    ขั้น ราชา ทำให้ นาง สร้างชื่อเสียง ในยุทธภพ
    จน สำนัก เป็นที่รู้จัก โดยทั่ว


        แต่ วันนี้มีเหตุการณ์  ที่ทำให้ นางนั้น โมโหโกธา เป็นที่สุด เนื่อง ด้วย ศิษย์เอกของนาง
       . หลินอิง. ปิดบัง เรื่องที่ตนนั้น เสีย พรหมจรรย์
     ลอบได้เสียกับ บัณฑิตตกยาก จนท้องแก่

       ". หลินอิง ข้าไม่นึกเลยว่า เจ้าจะฝ่าฝืน กฏเหล็ก ของสำนัก เสียแรงที่ข้ารักเจ้าดั่งลูก
    หวังให้เจ้า สืบทอด ตำแหน่งเจ้าสำนักต่อจาก
    ข้า ". 

       น้ำเสียงของ .หง้อหนิงเหม่ย. ที่แสดงออกมานั้น บ่งบอกความรู้สึกที่ ทั้งผิดหวัง ทั้งโกรธ 

      ". อาจารย์ ที่ ศิษย์ ทำไปนั้น เพราะ ช่วยเหลือคน มิใช่ เพราะความใคร่ เสน่หาใน บุรุษเพศ
    โปรดเมตา ศิษย์ด้วย". หลินอิงพูดพร้อมน้ำตาที่ ไหลริน

     ...ความจริงแล้ว เหตุการณ์นั้น เป็นเรื่องน่าเศร้า .หลินอิง. เป็นหญิงสาว ที่เปรี่ยม ไปด้วยเมตา ขณะ ที่ ลงเขา เพื่อจะไป ทำธุระให้กับสำนัก ก็พบเจอ บัณฑิตหนุ่ม บาดเจ็บ อาการล่อแล่  ใกล้ตาย อีกทั้ง จะโดนงูยักษ์กินจึงเข้าช่วยเหลือชีวิต

      แต่ บัญฑิตหนุ่ม ผู้นั้น โดนโจรทำร้าย ร่างกาย
    สาหัส อีก ทั้งยัง ปล่อยไว้ในดง งูอสูร ซึ่ง เคาะห์กรรมหา ได้มีเพียงนั้นไม่ งูอสูร ราคะ เจ้าถิ่นของแถบ นั้น ที่ นานๆจะปรากฏ ก็ เข้า มาฉก กัด.  หวังจะ กลืนกินเขา อีก  แต่ยังโชคดี ที่ มีจอมยุทธ หญิง เข้าช่วยเหลือ 

    .หลินอิง.  ที่เข้าช่วยเหลือบัญฑิตหนุ่ม ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการ หวังแต่ จะช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ จึงดูด พิษ งู ให้ บัญฑิตหนุ่ม อนิจา พิษที่ตนเอง ดูดออกมานั้น เป็น พิษปราณราคะ ที่ร้อนแรง ซึ่ง นางที่มี ปราณหยินขั้น นักพรต กว่าจะ รู้ตัว ก็โดน พิษเข้าเสียแล้ว นางโดนความกำหนัด
    เล่นงานอย่างรุนแรง ต้องหาทางระบาย ไม่เช่น นั่น
    นาง จะโดน ธาตุไฟเข้า แทรก เมื่อ มี บุรุษ อยู่ ตรงหน้า ความกำหนัด ก็เข้าควบคุมสติทั้งหมด
    และ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ......

       จนเวลาล่วงเลย .หลินอิง.เริ่ม รู้สึกตัว ในใจ ของนาง หวั่นวิตก เป็นที่สุด สายตา มองไปทั่ว และ พบสภาพ ของตัว เองยิ่ง ท้อแท้เข้าไปใหญ่ นางพยามตั้ง สติ และ มองหา บัญฑิตหนุ่ม แต่ก็ พบเพียง ร่างที่ไร้ ลมหายใจ เนื่องด้วยบัญฑิต ผู้นั้นบาดเจ็บ สาหัส อยู่ก่อนแล้ว ยังมาโดน ความกำหนัดเล่นงาน ที่ทำให้สองร่างจัดกัน อย่างหนักหน่วงคลุ้มคลั่ง ทำให้ทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจตาย

       ความรู้สึกของ นางในตอน นี้สบสน ยิ่งนัก ทั้งเสียใจ ว่ากระทำ ของตนเปล่าประโยชน์ไม่สามารถ ช่วนเหลือ ชีวิต อีกฝ่ายไว้ได้ แต่ก็ ดีใจอยู่ ลึกๆ เพราะตนสามารถ. ที่จะปกปิดเรื่องนี้ไว้ได้
    เพราะไม่มีใครรู้เห็น เมื่อคิดได้ดังนั้น นางจึง อาบน้ำ เปลี่ยนผ้า ทำใจไม่ให้คิด ถึงเรื่องดังกล่าว
    แล้วกลับสำนัก 
      
      เมื่อ กลับถึง สำนักแล้ว นางก็ หาข้อ อ้างที่จะปิดด่านฝึกตน จนเวลา ล่วงเลย ถึง 8 เดือน 20. วัน 

    นาง อดทนกับ อาการแพ้ท้องไม่ไหว และไม่สามารถที่ จะรับมือกับ สถานะการณ์ที่เกิดขึ้นได้
    จึง ออกจากที่ฝึกตน เพื่อจะไปพบ ซินแส ในตัวเมือง แต่ก็ โดน ศิษย์น้อง .หนิงฟาง.  พบเข้าซึ่ง
     .หนิงฟาง.  ที่มี ความริษยาที่.หลินอิง.ได้เป็น ศิษย์
    รักของเจ้าสำนัก จึง นำเรื่อง ที่.หลินอิง.  ท้องโต
    ไปฟ้องอาจารย์ จนมาถึง เหตุการณ์ ปัจจุบัน

    " เฮอะ เพราะ ช่วยเหลือ คน งั้น เรอะะ ช่วยจน ท้อง โตขนาดนี้  นี่  นะ ". เจ้าสำนัก ยังคง ถ้อยคำด้วยความโกรธ


    ". อาจารย์ โปรดให้ ศิษย์ได้ อธิบาย....

    " หุบปาก ข้าไม่ ต้องการเหตุผล. ของเจ้า เมื่อเจ้า ฝ่าฝืน กฏต้องได้ รับโทษ. ".  เมื่อได้ยิน ถ้อยคำที่เจ้า สำนัก บอกอย่าง ตัดรอน ในใจ ของ .หลินอิง.
    แหลกสลาย ร้องไห้ น้ำตานองเต็มใบหน้า เจ้าสำนัก ที่เคยใจดีโอบอ้อมอารี กับนางอยู่ เสมอ
    ไม่แม้ จะให้นางได้ อธิบาย เรื่องราวความเป็นจริง

      ดังนั้นจึงได้ แต่เศร้าโศกเสียใจพร้อมกับกล่าว เบา ย่อมรับทุกอย่าง ". เชิญ ท่าน ลงโทษศิษย์เถิด". 

    ด้าน เจ้าสำนัก .หง้อหนิงเหม่ย.  ก็ใช่จะดีไปกว่ากัน แต่ ด้วยเพราะตนเป็นเจ้าสำนักและ กฏเหล็ก
    ที่ ศิษย์รักฝ่าฝืน จึงมิอาจ ผ่อนปรนได้ เพราะ ถ้า
    ตนเอง ผ่อนปรนกฏ ก็ จะไม่ศักดิ์สิทธิ์ อีกต่อไป
    อีก ทั้งอยู่ ต่อหน้า ศิษย์คน รอง อย่าง .หนิงฟาง.
    แล้วด้วย แม้ อยากฟังเรื่องราว ความเป็นจริงแค่ไหนก็ไม่ อาจทำได้ จึงได้แต่คิดในใจ ว่า ทำไม 
    .หลินอิง.จึงไม่มาปรึกษาตน   ยิ่งคิดยิ่งโกรธ 

    ...". ดี !  ข้าจะลงโทษ โดยการ ทำลาย วรยุทธ
    ของเจ้า และ ขับเจ้า ออกจากสำนัก "

    เมื่อ กล่าวเสร็จ หง้อหนิบเหม่ย รวบรวมลมปราณอย่าง รวดเร็ว ลมปราณหยิน เย็นยะเยือก หลอมรวมที่ปลาย นิ้วชี้ แลนิ้วกลาง แพ่พุ่ง เป็นดรรชนี
    มุ่งสู่ ตำแหน่ง ท้องน้อย จุดก่อกำเนิดปราณ อย่างแม่นยำ ปรากฏเลือดที่  มุมปากของ.หลินอิง.

    " ออกไป จาก สำนักของข้า ซะ "

    ". ขอบคุณ อาจารย์ ที่ไว้ชีวิต ". .หลินอิง.กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ ตรอมตรม อย่างที่สุดและ ก้มคำนับ
    อาจารย์ สามครั้ง 

      ......เมื่อเห็นการกระทำของศิษย์รัก .หง้อหนิงเหม่ย. สะกดอารมณ์และน้ำตาของตัว ก่อนที่จะมีคนเห็น พร้อม หันหลัง กลับ เดินไปที่ เจ้าสำนัก และใช้ ลมปราณ เปล่งเสียงกังกว้านไปทั่ว สำนักว่า

    ". ศิษย์ ทุกคนจงฟัง .หลินอิง. ทำผิดกฏ มิใช่ คนของ สำนัก หง้อหลิว อีกต่อไปปปปปป..."

    .....,.............................................................

    ....เหลือเวลาในการ จุติ 9 วัน 10 ชั่วโมง 12. นาที
    87654. วินาที .เสียงอันไพเราะดังขึ้น ในห้วงวิญญาณ ที่กำลัง อยู่ในสภาวะ จำศีลของ
    .คำผาน.

    {°=° }  จะไปรอดไหมฟร้า ไอ้การจุติ ครั้งนี้ 

    เสียง คร่ำครวญ ในหนึ่งที่ดังขึ้น,.........






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×