คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : - [ 3 ]
[ 3 ] - WHO YOU -
#FICWHOYOU
นัมแทนั่งมองตุ๊กตาหมีที่เพิ่งได้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงรู้สึกถูกใจตุ๊กตาตัวนี้ ปกติใครเอาของหรืออะไรมาให้ก็แค่เก็บเพื่อรักษาน้ำใจไว้เฉยๆแต่เจ้าหมีตัวนี้มันกลับไม่ได้ถูกถอดทิ้งเหมือนตัวอื่นๆ
.
“ติ้ด”
เสียงข้อความจากมือถือดังขึ้นมา แต่แทบไม่ต้องดูชื่อก็พอจะรู้ว่าใครเป็นคนส่งมาในเวลาแบบนี้
‘วันนี้ไม่ได้เจอกันเลย ขอโทษนะที่ไม่ได้โทรหา TT ’ - จินวู
นัมแทถอนหายใจเบาๆ ถ้าเขาลื้อข้อความทั้งหมดที่ได้จากจินวูตอนนี้แทบจะไม่มีคำอื่นเลยนอกจากคำว่า ‘ไม่มีเวลา’
จินวุไม่ค่อยมีเวลาให้เขามันเป็นแบบนี้ทุกครั้งจนไม่รู้ว่าต้องทำตัวให้ชินไปอีกนานเท่าไหร่
นั่งมองข้อความสลับกับตุ๊กตาที่วางอยู่ ไม่รู้ว่าเขากับเจ้าหมีใครจะเหงามากกว่ากัน
‘ไม่เป็นไรหรอก เอาไว้พรุ่งนี้เจอกันก็ได้ ฝันดีนะ : ) ’ - แทฮยอน
สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจส่งข้อความกลับไป เหมือนทุกครั้งที่ไม่ได้แสดงทีท่าว่าน้อยใจอะไรให้อีกคนรู้เลย
“เห้อ ขอบคุณแกมากนะที่มาอยู่เป็นเพื่อนฉัน”คงเป็นเพราะความเหงาทำให้ยิ่งรู้สึกผูกพันกับหมีตัวนี้
ตอนนี้มีแฟนแต่ก็ไม่ต่างอะไรจากตอนที่ยังโสด นัมแทเหลือบสายตาไปมองรูปคู่ของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะคอม
ภาพที่มองแล้วต้องยิ้มทุกครั้งแต่ตอนนี้มองแล้วแทบอยากจะร้องไห้
เคยหักอกมาก็หลายคนแต่จินวูเป็นคนเดียวที่เขาอยากจะยื้อเอาไว้ให้นานที่สุด
นัมแทตัดสินใจหาทางกำจัดความเหงาคว้ากุญแจรถออกจากห้อง
อารมณ์นี้คงไม่ต้องการอะไรนอกจากได้เที่ยวมึนเมากับแสงราตรี
ในอีกด้านหนึ่ง
ภายในห้องมืดที่มีแต่แสงจ้าของโทรศัพท์ บรรยากาศยิ่งหนาวก็ยิ่งทำในห้องยิ่งทำให้คนข้างในกดดันมากเท่านั้น
ศัตรูที่ปักคาอกอย่างจินวูก็ยังไม่ทันได้คิดจะถอนออก กลับมีตัวปัญหาตัวใหม่งอกมาขึ้นอีก
ปัญหาใหญ่อีกอย่างคือต้องบอกเรื่องนี้ให้ซึงฮุนรู้
แล้วถ้าซึงฮุนรู้แผนที่ได้วางไว้มันต้องเริ่มต้นขึ้นแน่
“ฮัลโหล ซึงฮุนเหรอ มึงอยู่ไหน? “
‘กำลังกลับบ้านทำไมวะ?’
“อืม...เอาไว้เดี๋ยวกูบอก มึงมาหากูร้านเดิมนะ”
‘เออๆละเจอกัน’
มิโนตัดสินใจจะบอกซึงฮุนด้วยตัวเอง
หรือว่าจริงๆแล้วจิตใต้สำนึกลึกๆของมิโนเองก็เห็นด้วยกับแผนนั้นเหมือนกัน
พอมาถึงร้านทุกอย่างเริ่มกลับมาตีกันในหัวอีกครั้ง
มิโนปฏิเสธที่จะดื่ม มันก็อยากจะเมาให้รู้แล้วรู้รอดแต่กลัวว่าจะคุยกับซึงฮุนไม่รู้เรื่อง
“มานานยังวะ? อ่าวแล้วไม่สั่งอะไรเลยเหรอ?” ปกติแล้วพอมาถึงบนโต๊ะต้องมีแก้วเหล้าเตรียมพร้อมแต่ซึงฮุนกลับเจอแต่อีกคนที่นั่งเหงาหงอยอยู่
“ซึงฮุน เรื่องที่มึงบอกให้กูไปสืบอ่ะ...”
มิโนไม่ได้เงยหน้าขึ้นทักทายแต่พูดกับแขนเสื้อตัวเอง เฝ้าฟังว่าอีกคนจะตอบอะไรกลับมาอยู่สักพัก
“พอมึงพูดถึงเรื่องนั้น กูอยากร้องไห้ทุกทีเลยหวะ” ซึงฮุนกลืนน้ำลายก้อนใหญ่ ก่อนจะสั่งเหล้ามาซดไปหนึ่งแก้วเหมือนเป็นการเตรียมใจ น้ำเมาไหลลงคอจนหน้าเริ่มร้อน ไม่รู้เพราะเมาหรือเพราะอยากร้องไห้กันแน่
มิโนปล่อยให้ซึงฮุนอยู่กับตัวเองสักพัก ถึงดูเหมือนภายนอกจะเข้มแข็งแค่ไหนก็เถอะแต่ก็พอจะรู้นิสัยแท้ๆของเพื่อนคนนี้ดี
“ตกลงมึงยังอยากรู้อยู่ไหม?”
“อันที่จริง...กูก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน กูชักไม่อยากได้ยินชื่อคนที่ซึงยุนชอบแล้วหวะ”ซึงฮุนเอาหน้าฟุบกับแขน
เหมือนจะได้ยินเสียงที่สั่นคลอนในลำคอ ทั้งๆมิโนยังไม่ได้แตะแอลกอฮอล์เลยแต่ทำไมรู้สึกเริ่มร้อนไปทั้งตัว
“ก็แค่แอบชอบหน่า มึงดูของกูดิมีแฟนแล้วด้วยซ้ำ จะจีบยังลำบาก”
“แล้วมึงตัดใจได้ไหม?”
ถูกยิงด้วยคำถามแบบนั้นมิโนถึงกับพูดไม่ออก ขนาดปัญหาของตัวเองยังแก้ไม่ได้ จะเอาแรงที่ไหนมาช่วยปลอบใจ
รู้สึกเหมือนบรรยากาศในร้านหม่นหมองลงเรื่อยๆแล้ว
“ถ้ามึงรู้แล้วมึงจะทำยังไงต่อ?”
“กูก็....จะทำทุกอย่างให้ซึงยุนตัดใจจากมัน”
“ตัดใจจากคนที่ชอบมันไม่ง่ายขนาดนั้นนะ”
“เหมือนกูกับมึงตอนนี้ใช่ไหม?”ซึงฮุนยังคงฝุบหน้า ปล่อยให้มิโนนั่งมองอย่างโดดเดี่ยว
เพลงในร้านก็เปิดเสียงดังนะแต่ไม่ช่วยลดความกดดันของเขาได้เลย
“ซึงฮุนมึงฟังกูนะ ถึงมึงจะไม่อยากรู้แต่กูก็ไม่อยากเก็บเอาไว้แล้ว คนที่ซึงยุนชอบหนะก็คือ”
“อ่าวคุณมิโน?”มิโนชะงักทันทีเมื่อเสียงใสของใครคนนึงดังขึ้น
“นะนัมแทฮยอน?”
“มึงว่าไงนะ?”ซึงฮุนสะดุ้งตัวขึ้นมองหน้ามิโนที่เบิกตากว้างมองไปทางด้านหลังของเขา
จังหวะที่นัมแทโผล่มานั้นมันช่างพอดีกับสิ่งที่เขาจะบอกเหลือเกิน
“บังเอิญจังเลย นี่เพื่อนคุณมิโนเหรอครับ?”
“อะเอ่อครับๆ นัมแทมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย บังเอิญจังเลยเนอะฮ่าๆๆ”มิโนหัวเราะกลบเกลื่อนความแตกตื่นในใจ
นัมแทส่งยิ้มมาให้เขาเหมือนกับที่เคยเจอกันในทุกๆครั้ง แต่พอลากสายตาหนีก็พบกับสีหน้างุนงงของซึงฮุนแทน
“ผมขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ?”
“ดะได้สิครับ”
ไม่ ไม่เลย นัมแทไม่น่าโผล่มาตอนนี้เลย
“มิโน มึงอย่าบอกนะว่า?”ซึงฮุนพอจะจับอาการออก เขามองหน้านัมแทอย่างไม่วางสายตา
“หะ? อะฮึ่ม ดะได้ๆเดี๋ยวฉันสั่งให้ อะเอาเหมือนเดิมใช่ไหม?”
เส้นเลือดในตัวของมิโนตอนนี้วิ่งวุ่นวายเหมือนกำลังจะระเบิด
ถ้าเกิดซึงฮุนเมาขึ้นมาตอนนี้คงต้องต่อยหน้านัมแทแน่
“เออ ขอเหล้าให้กูเอาแบบแรงๆเลย”
มิโนกลืนน้ำลายก่อนกันไปยิ้มแห้งๆ นัมแทสั่งแค่เครื่องดื่มแบบเบาๆแต่ซึงฮุนกลับจะสวนกระแสหาของแรงมาดื่ม
คงปล่อยให้ซึงฮุนเมาโวยวายที่นี่ไม่ได้หรอก มีหวังต้องเผลอพูดทุกอย่างที่คุยกันออกมาหมด
“น้องๆพี่ขอแบบแรงๆแต่ไม่เมานะ มีไหม?”
“ไม่มีหรอกครับพี่”เด็กเสิร์ฟทำหน้างงไม่เข้าใจที่มิโนจะสื่อ
“งั้นเอาแบบเบาๆละกัน”
รอไม่นานมากแก้มที่สั่งก็มาถึง ซึงฮุนได้ปั๊บก็รีบกระดกใหญ่ พอดื่มไปไม่ถึงครึ่งแทบจะพ่นออกมาใส่หน้ามิโนได้
“แอ่กๆ กูบอกว่าเอาแรงๆไงวะ! น้องขอแบบแรงๆ แรงที่สุดในร้านอ่ะมีไหม?”
“ใจเย็นๆดิวะ มึงกินเยอะได้ที่ไหนมึงก็รู้ เอ่อ....ขอโทษนะครับคือวันนี้เพื่อนผมเครียดเรื่องเรียนนิดหน่อย”
มิโนหันมาโค้งให้นัมแท คิดผิดจริงๆที่นัดกันมาคุยที่นี่ จะเรียกว่าบังเอิญหรือเป็นเวรกรรมดี
“ไม่เป็นไรหรอกครับ อันที่จริงผมก็อยากจะดื่มแบบแรงๆเหมือนกัน”
“อะเอ่อ”
”เห็นมะ! ขอสองแก้วเลยน้อง!”ซึงฮุนที่เป็นคนเมาง่ายอยู่แล้วเริ่มสงบสติตัวเองไม่อยู่ชูแก้วสั่งเด็กเสิร์ฟเสียงร่า
จากสองแก้วต่อเป็นสี่แก้วของอีกสองคนไม่มีท่าจะหยุด
ในเวลานี้จะมีใครลำบากใจเท่ามิโนอีก ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเขาเมาไปอีกคนใครจะมาดูแลสองคนนี้ให้
“ผมยังไม่ได้ถามชื่อคุณเลย คุณชื่ออะไรเหรอครับ?”นัมแทถามซึงฮุนที่กระดกน้ำเข้าปากไปรอบที่สิบ
“ลีซึงฮุน”ซึงฮุนตอบแต่ไม่มองหน้าเชิงเป็นการจบบทสนทนาไปในตัว เพราะหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก
มิโนได้นั่งเครียดรอจังหวะชวนซึงฮุนกลับ ก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือเวลามันก็ปาไปจะเที่ยงคืนแล้ว
เขามองดูรอบๆผู้คนดูสนุกสนานดีก็ แต่เขาสามคนกลับดูสวนทางกัน
“คุณนี่ดีเนอะ มีแต่คนมาแอบชอบ”จากที่เงียบมานานจู่ๆซึงฮุนก็พูดเรื่องที่ไม่ควรพูดออกมาแบบงงๆ
“หะ? หมายถึงผมเหรอ?”
“ก็ผมพูดกับคุณอยู่ไง”
“ซะซึงฮุนฉันว่าแกเริ่มพูดไม่รู้เรื่องแล้วนะ พรุ่งนี้แกมีเรียนแต่เช้าไม่ใช่เหรอ? ไปเถอะๆ”มิโนรีบดึงแขนซึงฮุน
อาการแตกตื่นของเขาตอนนี้ทำให้นัมแทสงสัยเข้าไปใหญ่
“พวกคุณมีอะไรปิดบังผมอยู่รึเปล่า?”
“เอ่อ วันนี้พวกผมต้องรีบกลับจริงๆ คงต้องขอตัวกลับก่อน น้องเก็บตังค์หน่อยครับ”
ไม่รู้ว่าตอนนี้ตกอยู่ในภาวะงุนงงหรือกำลังเมากันแน่ นัมแทมองดูมิโนลากคอซึงฮุนออกจากร้านโดยไม่ได้ห้ามอะไร
ยังดีที่ไม่ได้เมาหนักมากเลยพอจะบังคับรถกับคนเมาอีกหนึ่งมาถึงหอพักตัวเองไหว
มิโนแบกซึงฮุนมาจนถึงห้อง แบกหินขึ้นภูเขามันคงได้อารมณ์แบบนี้แหละ
“อย่าเพิ่งเปิดไฟนะ”
ในขนาดที่กำลังจะกดสวิตช์ไฟก็ต้องชะงักมือก่อนเพราะถูกอีกคนห้าม
ห้องแคบนี่ดูจะแคบลงไปอีกมิโนมองไปที่เตียงพอเห็นเป็นลางๆว่าตอนนี้ซึงฮุนคงกำลังร้องไห้อยู่แน่
ไม่มีคำพูดอะไรออกมามีแต่เงาที่สั่นไหวบนเตียงและเสียงสะอื้นจากลำคอ
มองไปแล้วก็นึกถึงตัวเองในวันนั้นวันที่รู้ว่านัมแทคบกับจินวู
ทั้งๆที่ไม่มีบาดแผล ไม่มีแม้แต่เลือดสักหยด แต่ทำไมมันถึงได้ทำให้เราเจ็บปวดขนาดนี้ได้ก็ไม่รู้
มิโนลุกขึ้นมาเปิดไฟหันไปมองอีกคนที่ร้องไห้จนนอนหลับไป
เด็กปีสองตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับเด็กอนุบาลสองเลยสักนิด มิโนดึงผ้าห่มหนาห่มตัวเขาก่อนจะเดินไปปิดไฟอีกครั้ง
ไม่มีเสียงร้องไห้แล้ว มีแต่เสียงความคิดในหัวของเขาเท่านั้น
ตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอนัมแท ตั้งแต่ได้พบกับความรู้สึกใหม่ๆที่ไม่เคยได้เจอ
ความสุขที่ได้เห็นคนที่ตัวเองรักนี่มันดีมากมายแค่ไหน จนรู้สึกว่ามันเร็วไปรึเปล่าที่จะต้องรู้ว่าเขามีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว
มิโนหลับตาลงได้แต่ขอพรุ่งนี้ตื่นมาแล้วเรื่องวุ่นวายพวกนี้จะบรรเทาลงไป
อย่างน้อยให้นัมแทมาอยู่ในฝันเหมือนครั้งนั้นก็ยังดี
ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆเห็นมาเชียร์นัมซงกันเยอะ >**<
ตอนนี้นัมกะจินวูเริ่มเขวๆแล้วนะเออ มันจะเป็นยังไงต่อก็ฝากติดตามกันด้วยน้าา
"กำลังใจที่ดีที่สุดของไรเตอร์คือคอมเมนต์จากรีดเดอร์"
มาลุ้นกันเถอะว่าใครจะได้เป็นนายเอก
ความคิดเห็น