คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
กลางปี 2560 ...เป็นการเริ่มต้นฤดูร้อนที่หนาวจับใจ
ในปีที่แสนโหดร้ายนั้นเอง ประตูนรกบานนั้นก็เปิดต้อนรับผมจนได้ เสียงหัวเราะของปีศาจดังระงมเต็มกะโหลกผมไปหมด พวกมันเฮฮาและครื้นเครงอย่างกับว่า ‘กำลังเฉลิมฉลองความพินาศให้กับผมอย่างงั้นแหละ’ ทั้งๆที่ผมเพิ่งผ่านการประสานเสียงด้วยบทเพลงพิฆาตจากญาติๆที่รุมกันสาบส่งและก่นแช่ง ‘การกระทำของผม’ สุดๆมาแล้วเกิน 24 ชั่วโมง
ทำอย่างกับว่า ผมจะสำนึกผิด.. เฮ่อ!
ดวงตาสีเขียวปี๋และใบหน้าชวนสยดสยองนั่นมองมาทางผมแน่ๆ มันยิ้มเยาะ เหยียดริมฝีปาก และเผยให้เห็นสภาพฟันที่ไม่ต่างอะไรกับตอตะโกที่โดนเผาไหม้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความเปรอะเปื้อนจากซากศพของหนอนตัวป้อมๆ และบางตัวที่ยังเล่นซ่อนแอบผุดขึ้น หลุบหายตามร่องรอยแผลเหวอะหวะตามรูใบหน้านั่นอีกล่ะ คิดเหรอว่าผมจะไม่จำภาพชวนช็อกนี้ไปจนตาย... และที่สำคัญมื้อเที่ยงวันนี้ของผม ต้องกินไม่ลงแน่ๆ
แล้วเขาก็พ่นลมหายใจชนิดรุนแรงจนทำให้กระดาษบนโต๊ะแผ่นหนึ่ง ปลิวไปเล็กน้อย ต่อจากนั้นก็สาดส่องแววตามหาโหดคู่นั้น มายังผม--อีกครั้ง ชายแก่ๆที่ดูเหมือนมีพิษสงรอบตัว
ปัง! ......ผู้อำนายการโรงเรียนหน้าอำมหิตใช้เรี่ยวแรงมหาศาล กระแทกแฟ้มประวัติของผมลงบนโต๊ะไม้มันวาว เหมือนมันมีความผิดมหันต์
“เหลืออดจริงๆ” เขาแค่นเสียงออกมาจากริมฝีปากเชิดๆที่ขมุบขมิบเหมือนสาปแช่งใครอยู่ตลอดเวลา
“พระเจ้า!” แล้วเขาก็อุทานซ้ำๆ เหมือนพูดคำอื่นไม่เป็น
เหอะนะ! ประวัติของผมมันทำให้คุณแก่เพิ่มขึ้นอีกตั้ง 10 ปีเชียวเหรอ ขอโทษเถอะ อย่าทำหน้าเหมือนกับคนจะผูกคอตายแบบนั้น..เลยน่า
“รับรองเลย ว่าฉันจะล้างนายให้สะอาดหมดจด จะทำให้นายซึ้งว่า เด็กดีน่ะ เขาเป็นกันยังไง” น้ำเสียงชิงชังที่ผมเคยชินฟังแล้วขนหัวลุกจัง --แต่พอจะรับรู้ได้กรายๆว่า ‘เขาเอาจริงแน่ๆ’
แต่เชื่อเถอะ ไม่มีใครกลัวสักนิด ท่าทางแบบนั้นเอาไว้หลอกเด็กปัญญาอ่อนเหอะ!
“มีกฎของที่นี่ข้อหนึ่งที่นายต้องจำให้ขึ้นใจ “
ในขณะที่ผมกำลังแอบยิ้มเยาะเบาๆอย่างเพลิดเพลิน น้ำเสียงที่ทรงพลังของเขาก็ปลุกความหวาดหวั่นที่มีอยู่น้อยนิดของผมให้ตื่นขึ้นอีกจนได้
‘ทำไมต้องตะคอกด้วยเล่า????’
ดวงตาแข็งกร้าวคู่นั้น ผึ่งออกกว้างขวาง จับจ้องมองมนุษย์ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า เหมือนเป็นนักโทษประหาร
“ฉันคือคนที่... น่ากลัวที่สุดในชีวิตของนาย.. และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใดก็ตาม นายจะไม่มีสิทธิ์พูดอีกเลย ถ้าฉันสั่งให้หยุด” หางเสียงของเขาส่งผลให้เส้นเอ็นบนหน้าเหี่ยวๆกระตุก..พร้อมกับขึงตาให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้
เชื่อเขาเลย!
ฝนหลงฤดูร่วงพลูลงมาให้ชื่นใจเล็กน้อย ละอองเย็นๆลอยปลิวผ่านหน้าต่างบานที่เปิดอ้าอยู่เข้ามาโลมเลียใบหน้าที่ซีดเผือดของผม กระทบริมฝีปากเหยียดยิ้มแบบผู้ร้ายของเขาเล็กน้อย มันทำให้คนบ้าอำนาจที่ยืนตะแคงคออยู่ตรงหน้าผมอารมณ์เสียเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อยด้วย
“ครับ!” เป็นคำเดียวจริงๆที่เล็ดลอดผ่านริมฝีปากของผมไป ตลอดเวลาที่ยืนหายใจอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยมลพิษห้องนี้
เฮ่อ!...เป็นชะตากรรมที่ผมต้องก้มหน้าก้มตายอมรับโดยดุษฎีสินะ ‘การก้าวเท้าเข้าสู่ ‘โรงเรียนบ้านพระอาทิตย์’ หรือที่ชาวบ้านชาวช่องเขาพูดกันในใจและกระซิบกระซาบกันเบาๆว่า สถานดัดสันดารเด็กเหลือขอดีๆนั่นเอง--ซึ่งรัฐบาลเต็มใจเสนอเพื่อเป็นของขวัญแก่เด็กบางคนที่ไม่อาจทนอยู่ในสังคมโรงเรียนดีๆกับเขาได้
และมันก็คือความอับอายและโทษฐานที่ร้ายแรงสุดๆของพ่อแม่ที่ลูกหลานดันได้รับเกียรติให้ไปฝากอนาคตไว้ที่นั่น หรือจะพูดให้ง่ายขึ้นหน่อย ก็ที่นี่น่ะแหละ!
‘เด็กที่ผ่านการคัดสรรโดยรัฐบาล’
ป้าของผมด่าด้วยภาษาหยาบคายเป็นการส่งท้ายก่อนจะถีบผมส่งขึ้นรถมาในวันนี้
‘ผมคิดว่า มันเป็นความโชคร้ายที่ถูกหยิบยื่นให้แบบไม่ทันตั้งตัวเชียวล่ะ โดยเฉพาะการถูกตัดเงินรายสัปดาห์ที่ผมควรจะได้เหลือเพียงครึ่งเดียว’
‘ขนาดเต็มๆก็แทบจะไม่พออยู่แล้ว’
แต่ใครจะรู้ล่ะครับว่า การเริ่มต้นชีวิตตอนปลายเดือนเมษายนในปีนี้ของผม ‘มันกลับทำให้ผมรู้สึกลังเลว่า คือสิ่งที่ไม่อาจหาได้จากที่ไหนในโลกต่างหาก มันคืออะไรบางอย่างที่คนโง่อย่างผมอธิบายไม่ได้ และมันก็คือช่วงเวลาที่ทำให้ผมจับมือกับคำว่า มิตรภาพ ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดในชีวิตที่มี และสาบานในวันที่เลือดไหลอาบหน้าว่าจะไม่ยอมปล่อยมันไปอีกเลยตลอดกาล’
แต่นั่นน่ะ มันหลังจากที่ผมได้รู้จักกับ ‘เขา’ ...ดีพอแล้ว
ความคิดเห็น