ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Love it รักร้ายๆของนายน่าเจี๊ยะ!!(?) 1827

    ลำดับตอนที่ #5 : เพื่อนเก่า

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.พ. 56




     


    ผมนั่งกุมขมับอย่างปวดหัว  ให้ตายซิ!  น้องผมนี้มันก่อเรื่องให้ผมปวดหัวเล่นทุกทีสิน่า -__- ครั้งที่แล้วไปมีเรื่องกับลูกรอง ผอ. ก็โดนพักการเรียนไปทีนึ่งแล้ว  แต่คราวนี้หนักสุดถึงขั้นโดนไล่ออก  แต่จากการที่ฟังสึนะเล่า  ไอ้การลงโทษลำเอียงๆแบบนั้นเป็นผมก็คงจะสวนกลับไปแบบนั้นนั้นแหละครับ 

     

     

    เฮ้อ.... ทีงี้เอาไงดีวะ “   ผมขยี้หัวไปมา  นี้สึนะก็เรียนม.3ภาคเรียนที่ 2 อีก 2 เดือนก็ใกล้จะจบแล้ว  อย่างนี้โรงเรียนที่ไหนเขาจะให้เข้าล่ะว่ะเนี๊ย???  ยิ่งโดนถามไซร้ประวัติเหตุที่โดนไล่ออกอีก  ตายแน่ๆ

     

     

    จริงสิ “   ฉับพลันหัวผมก็หวนคิดถึงเพื่อนสนิทสมัย(ก่อน)ที่เคยเรียนที่โรงเรียนไฮสคูลที่อิตาลีด้วยกัน  แต่พอเรียนจบไปก็ไม่ค่อยได้พบเจอกันมีติดต่อกันบ้างนานๆที  ถ้าเป็นมันผมคิดว่าพอจะช่วยอะไรผมได้บ้าง  ไม่รอช้าผมคว้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นรัวกดเบอร์ของเพื่อนเก่าผมทันที 

     

     

    ฮัลโหล ]  ปลายเสียงตอบกลับมา  ผมยิ้มร่าอย่างมีความหวัง

     

     

    ฮัลโหลว่าไง  ฉันจีนะ มีเรื่องให้ช่วยหน่อยนะ “   ปลายเสียงเงียบไปสักพักก่อนจะตอบกลับมา 

     

     

    ว่ามา? ] 





     

     

     

    โคลมมมม!!!!

     

     

    ผมวิ่งชนคนๆหนึ่งเข้าอย่างจัง  จนล้มกลิ้งลงไปทั้งคู่  ผมลุกขึ้นนั่งพรางลูบข้อศอกที่กระแทกเบาๆ 

     

     

    อูย !!!... “      เฮ้ย!  จริงสิ !!!   ผมรีบหันไปมองยังฝูงหมาที่มันกำลังวิ่งตามผมมาอยู่  ตายแน่ๆเลยตรู   แต่จู่ๆเสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นมา

     

     

    หยุด !!!!   กลับบ้านเดี๋ยวนี้ !!!! “  

     

     

    “ ......... “   ผมแหงนมองร่างของชายวัยกลางคนดูท่าจะเป็นเจ้าของหมาพวกนี้   แค่ตาลุงนั้นเอยออกมาไม่กี่ประโยคหมาทั้งฝูงก็หยุดชะงัก  แล้วหันไปร้องเหมือนลูกแมว(?)ผิดกับไอ้หมาที่พร้อมจะฆ่าผมได้ทุกเมื่อเมื่อกี้ลิบ(?) =[  ]=;

     

     

    เอ่อ....ลุงต้องขอโทษด้วยนะ  ที่ปล่อยให้หมาของฉันวิ่งไล่กัดหนูแบบนั้น  เดี๋ยวลุงจะให้ค่าทำขวัญเป็นการขอโทษนะ “  แกพูดด้วยแววตาสำนึกผิดจริงๆ  ไอ้ผมมันก็เป็นคนใจดี  มีเมตตา(?) อ่ะนะครับ -.- จะใจร้ายใจดำเอาผิดแกก็ใช่ที ( ได้ข่าวเอ็งเป็นคนเตะกระป๋องโค้กใส่หัวหมาก่อน = =; /ไรท์)

     

     

    เอ่อ...ไม่เป็นอะไร..คะ..รั.. “  ผมที่กำลังจะบอกปัดปฏิเสธแกไปนั้น  เสียงๆนึ่งก็ดังแทรกขึ้น 

     

     

    จะไม่เป็นอะไรได้ไง ! ก็คนที่มันเจ็บตัวนะคือฉัน !!    ผมหันไปมองคนที่ผมวิ่งชนอย่างรู้สึกผิด  สังเกตว่าคิ้วเขาแตกซะด้วยสิ 

     

     

    คือ....เอ่อ...ผะ.... “  ผมกำลังจะขอโทษ  แต่ถูกเขาชักสีหน้าใส่ก่อนจะตวาดกลับมา

     

     

    ซวยจริงๆ เพราะเธอ !!!  ฉันต้องมาเจ็บตัวฟรี!!  โดนคนเดียวไม่ว่าทำไมต้องลากฉันมาเกี่ยวด้วย  บ้าชิป!

     

     

    ขอโทษครับ !!!  ผมไม่ได้ตั้งใจ!!  ถ้าคุณจะเอาค่าเสียหายก็มาเก็บที่ผม เพราะคุณลุงแกไม่ผิด เพราะความทะเล่อทะล่าของผมที่ไม่ระวังเอง!    ผมขอโทษครับ!!  แล้วอีกอย่าง!....ผมเป็นผู้ชาย  ไม่ใช่ ผู้หญิง!!! “   ทุกคนที่มุงดูดูอึ้งสุดๆ  รวมถึงผู้ชายคนนั้นด้วย  ชิว์!  นี้ก็อีกรายที่คิดว่าผมเป็นผู้หญิง  นี้ถ้าไม่ติดว่าผมเป็นคนผิดหมอนี้ได้รับประทานหมัดผมเป็นค่าทำขวัญแน่ๆ(?)  สิ้นคำผมรีบลุกขึ้นก่อนจะตบกางเกงเบาๆปัดฝุ่น  เตรียมเดินออกจากสถานการณ์ตรงนี้ให้เร็วที่สุด

     

     

    หมับ

     

     

    ผมหันมามองด้วยสายตาไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่   จะใครซะอีกละครับถ้าไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น  เขาคว้าแขนผมแน่น

     

     

    “ ....มีอะไรอีกครับ? “  ผมกรอกสายตามองบนฟ้าก่อนจะมองกลับมาที่หน้าเขาอย่างเซ็งๆ 

     

     

    คิดว่าทำแบบนี้มันจะจบง่ายๆอย่างงันหรอ

     

     

    แล้วจะเอาอะไรอีกมิทราบขอโทษก็ขอโทษไปแล้ว “ 

     

     

    ไม่รู้

     

     

    อ้าว...นี่คุณอย่ามาพูดจากวนโอ๊ยนะ ผมไม่ใช่เพื่อนเล่นคุณ “  ผมชักมีน้ำโหแล้วนะ

     

     

    ฉันก็ไม่ได้บอกว่านายเป็นเพื่อนสักหน่อย “ 

     

     

    คุณ!! “ 

     

     

    อะไร?   ทำไมจะทำอะไรฉัน หึ?? “  หมอนั้นพูดจาน่าตาเฉย พร้อมกับทำหน้าตาระรื่น(วอนเท้า?) 

     

     

    “ .....ผมไม่อยากมีเรื่อง  บอกมาว่าต้องการอะไร? “  ผมรีบตัดบทไม่อยากให้ยืดยาวเกินไป

     

     

    นั้นสิ...ต้องการอะไรดีนะ? “  หมอนั้นทำหน้าตาเหมือนคบคิดอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะหันมาส่งยิ้มทะเล้นมองผม

     

     

    “.........”

     

     

    จริงสิ...ถ้าอย่างงัน... “   หมอนั้นพูด ก่อนจะเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้หูผม  ผมที่เตรียมจะผลักออกแต่หมอนั้นดันรั้งร่างผมไว้แน่น  พร้อมกระซิบเสียงเบา 

     

     

     กราบเท้าฉันสิ....ต่อหน้าทุกคน 





     

     

     

    กริ๊ง

     

     

    ผมผลักประตูบานใส ก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในร้าน ที่ที่ผมนัดเพื่อนเก่าผมมาคือร้านกาแฟร้านนึ่ง  เพื่อนคนนี้ผมสนิทกับมันมากสมัยเรียนด้วยกันแต่เพราะจบออกมาเลยห่างๆกันมั่งแต่ก็ยังติดต่อกันอยู่บ้างตามโอกาส  ผมเลือกนั่งรอโต๊ะที่ติดกับข้างกระจกใสมองเห็นบรรยากาศภายนอกได้อย่างชัดเจน บวกกับมันมองเห็นได้ง่ายอีกด้วย 

     

     

    รับอะไรดีครับ? “  พนักงานเสิร์ฟชายคนนึ่งเดินมาถามผม พรางโค้งเล็กน้อย

     

     

    เอากาแฟสักแก้วนึ่งครับ “  ผมตอบ  ก่อนพนักงานจะโค้งแล้วเดินกลับไปส่งใบออเดอร์ที่โต๊ะ ไม่นานกาแฟร้อนๆก็วางอยู่ตรงหน้าของผม  กลิ่นหองอ่อนๆของมันลอยปะทะกับจมูกของผมจนอดไม่ได้ที่จะยกขึ้นดื่มเบาๆ 

     

     

    กริ๊ง

     

     

    เสียงผลักบานประตูเข้ามา  แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรยังคงกระดกกินต่อไป 

     

     

    ผลั๊ก!!!   เฮ้ย!!!

     

     

    ผ่ามือของใครคนนึ่งปะทะ(?)เข้ากับหัวผม  ยังไม่พอมันยังตบหัวผมจนหน้านี้แทบจูบกับน้ำกาแฟร้อนๆในแก้ว  เนื่องจากผมกำลังยกขึ้นกินอยู่ -*-

     

     

    แฮก!...อะ...ไ...อ้าวไอ้เชี่ยอเลาดิ!!! “  เมื่อผมแหงนหน้ามองเท่านั้นแหละ  ผมก็สงเสียงดังทักทาย(?)มันลั่นร้าน  

     

     

    นี้คือการทักทายเพื่อนหรอวะ? -_- “  มันมองผมเอื่อมๆก่อนจะลากโต๊ะแล้วทรุดนั่งลง  ก่อนจะยกมือเรียกพนักงานเสิร์ฟ

     

     

    รับอะไรดีครับ? “ 

     

     

    กาแฟสักแก้วก็แล้วกัน “   ไม่นานเกินรอกาแฟก็มาวางอยู่ตรงหน้ามัน  ก่อนมันจะกระดกกินพอเป็นพิธี  แล้วก็พูดเข้าเรื่องทันที

     

     

    นัดออกมาแบบนี้  มีเรื่องอะไรให้ช่วยละ? “

     

     

    นิดหน่อย “ 

     

     

    แล้วตกลงเรื่องอะไร? “ 

     

     

    เรื่องน้องชายว่ะ

     

     

    น้องชายแล้วมันทำไมละ? “

     

     

    ก็ไปมีเรื่องชกต่อยนะสิ

     

     

    ธรรมชาติขิงเด็กผู้ชาย  นายจะกังวลไปทำไม เมื่อก่อนนายยังเคยเป็นแบบนี้เลย โดนทำโทษตั้งบ่อยครั้ง

     

     

    เออ !  แต่น้องฉันมันหนักกว่านะสิ -*- 

     

     

    ยังไง  ที่ว่าหนักกว่า? “ 

     

     

    ครั้งนี้มันไปมีเรื่องกับลูก ผอ. นะสิ  จนโดนไล่ออก หนักพอปะ? “

     

     

    อึ้งเลยว่ะ...-O- 

     

     

    เพราะเหตุนี้  น้องฉันมันเรียนมัธยมต้นปี 3 อีก 2 เดือนก็จะจบ  ฉันกะจะส่งมันไปเรียนต่อที่อิตาลีนะ  แต่ถูกไล่ออกการอากาศแบบนี้  แล้วโรงเรียนที่ไหนเขาจะรับวะ “  ผมพูดพรางกุมขมับ 

     

     

    “ ........... “

     

     

    เพราะงัน....มีทางเดียว

     

     

    “ .......... “

     

     

    แกต้องฝากน้องฉันเข้า ร.ร. นาริโมริ ที่ทางบ้านแกมีหุ้นส่วนอยู่!!! พรีสส!! อเลาดิ T^T 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×