ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC]Marriage I LOVE U - YOOSU

    ลำดับตอนที่ #7 : Part 7 หมั่นไส้

    • อัปเดตล่าสุด 27 มี.ค. 53


    Part 7
     
    “คุณแม่ครับ จุนซูเองก็ยังป่วยอยู่ เดี๋ยวคืนนี้ผมขอนอนเป็นเพื่อนนะครับ” 
    “ไม่ได้หรอกจ้ะ เตียงเล็กนิดเดียว นอนสองคนไม่พอหรอก”
    “ไม่เป็นไรครับ นอนเบียดกันก็อุ่นดี” ปากอิ่มเผยยิ้ม จุนซูเบนสายตาไปมองร่างสูงอย่างหมั่นไส้...โลมาเกลียดม๊านน...อย่ามานอนห้องเดียวกันนะ!!...ร่างเล็กเด้งตัวขึ้นแล้วรีบเดินไปหามารดา
    “ม๊าฮะ จุนซูหายป่วยแล้ว ไม่เชื่อลองมาจับหน้าผากจุนซูได้นะฮะ เห็นมั้ยฮะ ไม่ร้อนแล้ว” คนตัวเล็กจับมือมารดามาทาบกับหน้าผากตัวเองเพื่อพิสูจน์ความจริง
    “เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องให้ใครมาเฝ้าหรอกฮะ” ...ฮิยะฮ่าฮ่าฮ่า..เห็นความฉลาดของผมรึยังล่ะ..
    ยูชอนยิ้มแก้มปริกว่าเดิม...เหมือนกวางน้อยไร้เดียงสาวิ่งมาติดกับดักที่นายพรานวางไว้พอดิบพอดี...
    “งั้นผมขอเอาตัวจุนซูกลับบ้านตอนนี้เลยแล้วกันนะครับ” ไม่พูดเปล่าอุ้มคนตัวเล็กพาดบ่าทันที จุนซูไม่ทันตั้งตัวลอยไปตามแรงที่เยอะกว่า 
    ขายาวจ้ำอ้าวออกจากบ้านด้วยความเร็ว...เพราะคนที่เห็นว่าตัวเล็กๆนี่หนักใช่ย่อยเลยล่ะครับ...
    “ไอ้ห้อยปล่อยนะ!!   คุณไม่มีสิทธิทำแบบนี้ ปล่อยผมเดี๋ยวนี้ ผมก็มีขาน๊ะ!!” มืออวบทุบหลังคนอุ้มไม่ยั้งมือ
    “ชั้นเจ็บนะจุนซู ถ้านายไม่หยุดชั้นจะตีก้นนายคืน”   มืออวบหยุดเคลื่อนไหวทันที คิดยังไงก็เสียเปรียบเต็มๆ
    ร่างสูงจับจุนซูยัดเข้าไปในที่นั่งข้างหลังของรถสปอร์ตก่อนที่ตัวเองจะเข้าไปนั่งเบียดอีก  
    “โอ๊ยยย คุณยูชอน ไปนั่งที่อื่นก็ได้นี่ฮะ”
    “ก็ชั้นอยากนั่งตรงนี้ นายจะทำไม”   เถียงกันได้ไม่นาน ร่างหนาหน้าหมีอีกคนก็วิ่งมาแล้วเข้าไปนั่งในที่คนขับ
    “มึงนี่ ทิ้งกุเลยนะ แถมยังลืมของไว้อีก” ยุนโฮยื่นเอกสารไปด้านหลัง มือหนารับมาด้วยความเร็วเพราะกลัวคนข้างๆจับไปฉีกเป็นเศษกระดาษ
    “ขอบใจ แต่ที่มึงมาช้าผิดปกติคงไม่ใช่เพราะไปหยิบทะเบียนมาหรอกนะ” 
    ยุนโฮสตาร์ทรถ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มเจ้าเล่ห์ “ก็แค่คุยกับคนสวยแป๊ปเดียวเอง”
    “คุยอย่างเดียว?” ....ไม่เชื่อหรอก...คนอย่างไอ้ยุนจะคุยอย่างเดียว...
    “ก็ใช่น่ะสิ เดี๋ยวกูสาธิตให้ดู” ยุนโฮเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพูดต่อ
    “จุนซูนี่ น่ารักเนอะ” ร่างเล็กที่เหม่อมองกระจกรถเป็นเวลานานหันควับตามสัญชาตญาณ
    “อะ..ฮะ” จุนซูรู้สึกร้อนๆที่หน้า มีคนที่ไม่ใช่ครอบครัวชมว่าน่ารักเป็นครั้งแรก
    “อยู่ที่บ้านไอ้คนบ้างาน เหงาบ้างมั้ยครับ” ยูชอนเริ่มมีปฎิกิริยาไก่จะจิกหมีตายบนเบาะรถ
    “เอ๋” ...เหงาสิ..เหงามาก..ทำไมคนคนนี้ถึงรู้..ผิดกับอีกคนที่นั่งข้างๆ...ไม่รู้อะไรเลย...ไม่รู้อะไรสักอย่าง...
    “ถ้าเหงาก็โทรมาคุยกับผมได้นะครับ” ยุนโฮหยิบนามบัตรในกระเป้าเสื้อส่งมาให้ร่างเล็ก มืออวบเอื้อมไปหยิบแต่แพ้ความเร็วไก่ฉวยไปซะก่อน
    “พอแล้วไอ้ยุน มึงไม่ต้องทำให้เหมือนจริงขนาดนั้นก็ได้” ยูชอนรู้สึกจี๊ดแปลกๆยังไงชอบกล
    “คุณยูชอน เค้าให้ผมนะฮะ”
    “อยากได้ก็จูบชั้นสิ” พอพูดถึงเรื่องจูบใบหน้าหวานก็แดงขึ้นมาทันที
    “อะไรก็จูบๆๆ   ผมเป็นผู้ชายนะ อย่างเมื่อกี๊..”
    “เมื่อกี๊นายก็ชอบไม่ใช่รึไง”
    “คะ..ใครบอกว่าชอบ คุณอย่ามาพูดเองเออเอง คุณจะมารู้ใจเท่าตัวผมเองได้ยังไง”
    “ก็เห็นนายไม่ขัดขืน ชั้นก็คิดว่านายชอบให้ชั้นจูบซะอีก”ยูชอนเน้นคำว่าจูบหนักๆ
    “หยุดพูดเถอะ” จุนซูหลบสายตาของคนข้างๆ..บอกว่าไม่ก็ไม่สิ..ห้อยพูดมากจริง..
    “มึงจะไม่บอกเรื่องนี้กับโบอาหน่อยหรอ” ยุนโฮที่เงียบฟังสามีภรรยา(?)เถียงกันอยู่นานเอ่ยขึ้น
    “ไม่จำเป็น ยัยนั่นไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับชั้นแล้ว”
    ..โบอาหรอ..ชื่อคุ้นๆแฮะ..เอ..ใครนะ..ช่างมันเถอะ..เรื่องของคนปากห้อย..ไม่เห็นจะอยากรู้เลย..ชิ..
    ความเงียบเริ่มครอบงำจนรถสปอร์ตสีแดงวิ่งเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์ ร่างเล็กเดินลงจากรถพร้อมกับที่สาวใช้วิ่งมาด้วยความคิดถึง
    “น้องจุนซูเป็นยังไงบ้างคะ”
    “ไม่เป็นไรฮะ” ยูชอนที่ลงจากรถมองไปที่ร่างเล็กและสาวใช้...เหอะๆ...รวมหัวกันทั้งคู่...
    ร่างสูงกล่าวลาเพื่อนรักก่อนจะแกล้งเดินชนไหล่คนตัวเล็กจนแทบล้ม
    “ทางก็มีตั้งเยอะแยะ ยังเซมาชนผมอีก ขาเบี้ยวรึไง”
    ยูชอนไม่พูดอะไรแถมยังเดินเข้าบ้านหน้าตาเฉย
     
     
     
    22.05 น.
    ณ ห้องรับแขก มีโต๊ะกลมทำด้วยแก้วตั้งอยู่ตรงกลางห้องซึ่งมีโซฟาสามตัวล้อมรอบไว้โดยที่ร่างสูงนั่งตรงข้ามกับจุนซูและชายแก่นั่งตรงกลางระหว่างลูกชายและลูกสะใภ้(?)
    “หนูจุนซูหายดีแล้วหรอลูก”
    “หายแล้วฮะ ผมน่ะแข็งแรงจะตายไป เป็นไข้แค่นี้ชิลๆ” ยูชอนเหล่มองอย่างหมั่นไส้.....โกหกเก่งนี่..คงคิดว่าคนอื่นโง่มากสินะ..
    “แล้วนี่ จดทะเบียนกันมาหรือยัง”
    “เรียบร้อยแล้วครับ”
    “อื้ม....ดี....นอนกันได้แล้วล่ะ ดึกมากแล้ว”
    “ราตรีสวัสดิ์ครับ/ฝันดีนะฮะ” ทั้งสองมองหน้ากันก่อนที่ร่างสูงจะยืนขึ้นเดินมุ่งไปห้องนอนของตนเอง จุนซูเองก็แวะไปดื่มน้ำก่อนนอน   คราวนี้ยูชอนไม่ได้ล็อคประตูเอาไว้เพราะกลัวคนตัวเล็กจะนอนหน้าห้องแบบคราวที่แล้ว...กลัวว่าร่างเล็กจะไม่สบายขึ้นมาจริงๆ แล้วทำไมต้องกลัวด้วย เขาเองก็ยังหาคำตอบไม่เจอเหมือนกัน
    ทันทีที่จุนซูเปิดประตูเข้ามา ยูชอนเอาหมอนกอดกั้นแบ่งครึ่งเตียงพอดี ร่างเล็กเห็นดังนั้นแล้วอยากจะเอาหมอนกอดฟาดหัวเถิกๆซักที...ยังกับว่าโลมาอยากจะนอนติดกับคนหัวเถิกนักล่ะ..
    “ครึ่งนั้นของนาย แล้วห้ามเลยเขตนะ ห้ามกรน แล้วก็ห้ามละเมอด้วย เข้าใจใช่มั้ย” ...ไอ้สองอันหลังใครจะไปบังคับได้..โลมาล่ะหมั่นไส้มันจริงๆเลย.. ร่างเล็กทิ้งน้ำหนักให้หลังบางแนบกับเตียงบนฝั่งของตัวเอง
    “ครึ่งนี้ของผม คุณเองก็ห้ามเกินเขต ห้ามพูดมาก แล้วก็ห้ามปากห้อยด้วย เข้าใจมั้ยฮะ” 
    “จุนซู   อย่ามากวน”
    “ก็คุณทำตัวน่าหมั่นไส้นี่ฮะ กั้นเขตยังกับว่าผมอยากเข้าไกล้คุณนักล่ะ   มีแต่เด็กปัญญาอ่อนเท่านั้นแหละที่ทำแบบนี้น่ะ”
    “นี่นายว่าชั้นหรอ” ไก่เริ่มส่งสายตาอาฆาต
    “แล้วได้ยินว่าอะไรล่ะ”โลมาไม่ยอมแพ้
    “แล้วที่นายโกหกทุกคนแบบนั้น นายคิดว่าคนอื่นโง่ใช่มั้ยจุนซู”
    “เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวเลยฮะ คุณยูชอนอย่ามานอกเรื่อง”
    “เรื่องเดียวกันนี่แหละ เพราะนายโกหกคนอื่นแบบนั้น แล้วชั้นก็เกลียดคนโกหกมากๆด้วย”
    “คุณก็เลยหาเรื่องผมงั้นสิ”
    “ใช่” 
    “รู้มั้ยคุณยูชอน คุณน่ะเหมือนเด็กปัญญาอ่อนเลย” พูดเสร็จก็หันหน้าหนีแล้วเอาผ้าห่มมาคลุมโปง...ไม่อยากเถียงแล้ว...เบื่อคนหัวเถิกจมูกบานปากห้อย...
    มือหนาเอื้อมไปดึงผ้าห่มแต่เจ้าตัวดึงขืน “นี่จุนซู นายว่าชั้นแล้วคิดจะหนีรึไง”
    “คุณยูชอนฮะ ห้ามเกินเขต” เสียงใสๆตะโกนออกมาจากผ้าห่มทำเอายูชอนรีบชักมือกลับแทบไม่ทัน...นึกหงุดหงิดไม่น้อยที่ตั้งกฎเองแต่ต้องถูกกฎบังคับเองแบบนี้ ตาคมจ้องผ้าห่มอยู่นานสองนานอย่างกับว่าจะส่งกระแสจิตให้ทะลุไปถึงคนใต้ผ้าห่มได้
    “ก็ได้ จุนซู ถ้านายแหกกฎก่อน ชั้นจะแหกกฎให้ดูเหมือนกัน” มือหนาเอื้อมไปปิดไฟหัวเตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนอน
    “กฎปัญญาอ่อน” ไม่วายส่งเสียงใสให้รำคาญใจอีกครั้ง
    “หุบปากซะจุนซู ชั้นจะนอน”
    ความเงียบครอบคลุมบรรยากาศในห้องนอนหรู จนได้ยินแต่เสียงหายใจของคนในห้องเท่านั้น
     
     
     
     
     
     
    แสงแดดส่องลอดเข้าผ่านหน้าต่างในห้องนอนจนกระทบเปลือกตาบางกระนั้นก็ไม่ทำให้คนขี้เซาตื่นขึ้นได้
    ร่างสูงที่ตื่นตั้งนานแล้วอยู่ในท่าเอามือเท้าแก้ม ได้แต่จ้องคนตัวเล็กที่นอนน้ำลายไหลแขนเรียวข้างนึงแนบอยู่ข้างเตียงอีกข้างก่ายหมายกอดที่กั้นแบ่งเขต ขาก็เช่นกัน...นายนี่ทำตัวน่าเกลียดน่าตลกได้ตลอดเลยจุนซู...
    ใบหน้าคมโน้มเข้าไปไกล้ใบหูบางก่อนจะเอ่ยถ้อยคำด้วยน้ำเสียงแฝงความขี้เล่นไว้เล็กๆ
    “จุนซู...จมน้ำ...จมมน้ามม...จมมมมน้ามมม” ยูชอนผละออกมาดูผลงานแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น   ร่างสูงตัดสินใจโน้มหน้าเข้าไปอีกครั้ง
    “จมน้ำ....จมน้ามม....จมมมน้ามมม”   ยูชอนผละออกมาอีกครั้งดูผลงาน แล้วผลก็ปรากฏขึ้น
    จุนซูยกมือขึ้นมาตะกายอย่างกับว่ายท่าลูกหมาตกน้ำอยู่ “อื้อ...ช่วย...ด้วย อื้อ..” เท่านั้นแหละยูชอนระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
    คนตัวเล็กเริ่มรู้สึกตัวเพราะได้ยินเสียงหัวเราะดังมาก...ไก่ที่ไหนมาขันแถวนี้ฟร่ะ...
    จุนซูยันตัวลุกขึ้นนั่งขยี้ตาสองสามทีก่อนจะเช็ดน้ำลายที่มุมปาก 
    “หัวเราะไรห้อย”
    “เปล่า” ยูชอนนั่งอมยิ้ม
    “อืม อย่าหัวเราะอีกนะฮะ ผมจะนอน” จุนซูทำท่าจะหลับอีกทีแต่โดนมือหนายันที่แผ่นหลังบางไว้ก่อน
    “นอนไม่ได้ วันนี้ไปฮันนีมูน”     
     
     
     



    รีบลงแล้วรีบนอน  ฝันดีเน้ออ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×