ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Part 6 บทเรียน
Part 6
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารของวันนี้ต่างจากเมื่อวานโดยสิ้นเชิงทั้งที่ก็มีสมาชิกแบบเมื่อวาน ดูเหมือนสมาชิกใหม่จะเปลี่ยนไป วันนี้จุนซูกินข้าวแทบไม่พร่องลงไปเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากทั้งที่ทุกๆวันและทุกๆมื้อจะกินจนอาหารบนโต๊ะไม่เหลือแม้แต่เศษ
“หนูจุนซู วันนี้อาหารไม่อร่อยหรอ” ชายแก่สังเกตเห็นความผิดปกติของร่างเล็กจึงถามด้วยความเป็นห่วง
“อร่อยฮะ อร่อยเหมือนเดิม” มืออวบเขี่ยข้าวไปมาแถมทำหน้าเบื่อโลก ทำเอาคนที่นั่งข้างๆอดถามไม่ได้
“เมนส์มารึไง” ยูชอนพูดจายียวนกวนประสาททำให้ร่างเล็กที่เครียดอยู่แล้วทวีความเครียดไปอีก
“ยูชอน พูดแบบนี้ตอนทานอาหารได้ไง”
“ขอโทษครับ”
“ผมอิ่มแล้ว ขออนุญาติไปเตรียมตัวก่อนนะฮะ” ชายแก่พยักหน้าก่อนที่จุนซูจะพาตัวเองเดินไปยังห้องครัว
“พี่ฮยอนอา อรุณสวัสดิ์ฮะ”...ว่าแล้ว ว่าต้องอยู่ในนี้..
“อรุณสวัสดิ์จ้ะ”
“คือผมมีเรื่องให้พี่ช่วยหน่อย ได้มั้ยฮะ”
“ได้สิ เรื่องอะไรหรอ”
“คือว่า พี่ช่วยเตรียมผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นให้ผมหน่อยสิฮะ”
“จะเอาไปทำอะไรน่ะหือ”
“คืองี้” ร่างเล็กโน้มตัวกระซิบแผนการบางอย่างให้สาวใช้ฟัง
ไม่นานนักทั้งสองก็ผละออกมาและพยักหน้าอย่างรู้กันก่อนที่สาวใช้จะไปเตรียมของตามร่างเล็กบอก
สักพักใหญ่ๆฮยอนอาก็เอาแขนคนตัวเล็กพาดบ่าตัวเองแล้วเดินโซซัดโซเซออกจากห้องครัว
“คุณท่านคะ น้องจุนซูเป็นอะไรไม่รู้ค่ะ อยู่ๆก็เป็นลมล้มลงไป”
ชายแก่หันไปตามเสียงผิดกับอีกคนที่เดินนำไปแล้ว
“จุนซูเป็นอะไร”
“ไม่ทราบค่ะ” หลังมือหนาทาบลงกับหน้าผากคนตัวเล็กเบาๆ
“ตัวร้อนนี่ สงสัยจะเป็นไข้” จุนซูปรือตามองร่างสูง
“ปวดหัวจัง ผมอยากกลับบ้าน”
“สวัสดีค่า”
“สวัสดีครับคุณปาร์ค”
“สวัสดีครับ”
ร่างเล็กเบิกตาโต แทบจะกระโจนไปหาผู้มาเยือนใหม่ทั้งสาม
“ม๊า ป๊า พี่แจ!!!” ยูชอนหันไปมองจับผิดคน(แกล้ง)ป่วย
“โอ๊ยโอยย ปวดหัวม๊ากมากฮะ” ทั้งสามกรูกันเข้ามากอดร่างเล็กให้หายคิดถึง ยูชอนและฮยอนอาโดนรัศมีอันแข็งแกร่งของครอบครัวนี้เบียดจนกระเด็นออกมา
“จุนซูเป็นยังไงบ้างลูก”
“อยู่ที่นี่สบายมั้ยลูก”
“ผมปวดหัวจังเลยฮะ ผมอยากกลับบ้าน”
“กลับไม่ได้หรอกจ้ะ วันนี้มีงานแต่งนะ”
“ผมขอโทษ แต่วันนี้ผมคงเข้าพิธีไม่ไหวแล้วล่ะฮะ” ร่างเล็กพูดก่อนจะสลบไป
“จุนซู!!” ทั้งสามตกใจอุทานเป็นคำเดียวกัน
“ผม..อยาก..กลับบ้าน”
“จ้ะๆ กลับบ้านกัน”ผู้เป็นพ่อพยุงลูกคนเล็กเดินไปหน้าบ้าน
“ต้องขอโทษด้วยนะครับคุณปาร์ค ที่วันนี้ต้องล้มเลิกงานแต่ง”...ยะฮู้...สำเร็จ!!..
“มาครับ ผมช่วยเอง” ..เฮ่ยย...พ่อชั้นพาไปเองได้เฟ่ยยย....ยูชอนอุ้มร่างเล็กพาดบ่า จ้ำอ้าวไปยังลีมูซีนแล้วยัดคนแกล้งป่วยเข้าไป
“เดี๋ยวทางเราจะให้คนขับรถไปส่งพวกคุณเอง” คุณปาร์คพูดขึ้น
“ขอบคุณมากครับ ทั้งไปรับทั้งไปส่งแบบนี้ เกรงใจจริงๆทั้งที่วันนี้ต้องยกเลิกงานแต่ง”
“เพราะว่าผมดูแลลูกชายของคุณไม่ดีเองแหละครับ”
คุณปาร์คพาครอบครัวคิมเดินไปส่งที่รถก่อนจะล่ำลาแล้วปล่อยให้รถวิ่งออกไปจนเลยออกนอกรั้วบ้าน
“พ่อเสียดายจริงๆ วันนี้ฤกษ์ดีที่สุดของปีแท้ๆ” ชายแก่ถอนหายใจ
“ถ้าเสียดายก็จดทะเบียนวันนี้ไปเลยสิครับ” เสียงทุ้มซ่อนความทะเล้นดังขึ้น
“อ้าว ไอ้ยุน ไม่คิดว่ามึงจะมา”
“สวัสดีครับคุณพ่อ ไงไอ้ยูชอน กูจะไม่มาแสดงความเสียใจกับเพื่อนได้ยังไง”
“เรียกซะคุณพ่อ แฟนกุยังเรียกคุณลุงอยู่เลย”
“กุก็นึกว่ามึงจะเกลียดเค้า” ยุนโฮจับผิด
“กุก็ไม่ได้ชอบหรอกนะ”ยูชอนสวนทันควัน
“อ่าหรอ ดูท่าแล้วเค้าจะเกลียดมึงมากกว่านะ เบี้ยวงานแต่งแบบนี้”
“ไอ้ยุน” ยูชอนเอ็ด
“ก็อย่างที่กุบอก ถึงวันนี้จะไม่ได้จัดงานแต่ง แต่ก็จดทะเบียนได้อยู่ดี จริงมั้ยครับคุณพ่อ” ชายแก่พยักหน้าเห็นด้วย
“ยูชอน ไปจดทะเบียน”
“ไอ้ยุน มึงแนะทำไมเนี่ย”
“กุก็นึกว่ามึงอยากแต่ง” ยุนโฮยักไหล่ไม่รู้ไม่ชี้
“มึงนึกทุกทีแหละ!”
“อืมม” จุนซูเปิดเปลือกตาขึ้น..เพดานแบบนี้...กลิ่นแบบนี้..นี่เรากลับบ้านแล้วใช่มั้ย...ดีจัง..
“ถ้าตื่นแล้วก็กินข้าวด้วย” เสียงทุ้มแสนคุ้นหูดังขึ้นทำเอาโลมาน้อยหันควับไปข้างเตียงก็พบสิ่งมีชีวิตที่เกลียดที่สุดนั่งอยู่
“ไอ้ห้อย มาที่นี่ได้ยังไง”
“เหาะมามั้ง”
“ใครให้คุณเข้ามาในห้องผม”
“นายไม่ต้องพูดมาก กินข้าวซะ” มือหนาตักข้าวต้มจ่อปากคนแกล้งป่วย
จุนซูอ้าปากรับอย่างงงๆ...ทำดีกับเค้าก็เป็นแฮะ..
“ฮยอนอาบอกชั้นหมดแล้ว”
พรวดดด ข้าวต้มที่พึ่งเข้าปากได้ไม่ถึงวิพุ่งออกทันที
“วะ..ว่าไงนะ...ไม่จริงอะ”..โอยย...แย่แน่..ชีวิตคิมจุนซูไม่เหลือแล้วว..โฮๆ..
“ไม่เห็นจะต้องตกใจขนาดนั้น แต่ก็..ขอโทษ...”
“เอ๋” จุนซูแทบไม่เชื่อหูว่าคำๆนั้นจะหลุดมาจากปากห้อยๆนี้
“ที่นายไม่สบายแบบนี้ ก็เพราะเมื่อคืนชั้นปล่อยให้นายนอนหน้าห้องตั้งสองชั่วโมง”
“สองชั่วโมง?” ....นอนข้างนอกแค่สองชั่วโมงเองหรอฟร่ะ...แต่ว่าพี่ฮยอนอารู้ได้ยังไงว่าเรานอนหน้าห้อง..เหอๆ..
“แล้วที่ชั้นทำดีกับนายแบบนี้เพราะว่าชั้นรู้สึกผิดหรอกนะ อย่าได้ใจไป”
“ผมก็ไม่เคยหวังความดีอะไรจากคุณสักหน่อย”...ไอ้คนหลงตัวเอง..โลมาล่ะหมั่นไส้..
“ปากดีแบบนี้แสดงว่าหายดีแล้วใช่มั้ย งั้นเซ็นซะ” ยูชอนยื่นเอกสารให้พร้อมปากกา
“เซ็นอะไร..ไม่เซ็นหรอก”
“ทะเบียนสมรส...เซ็นซะ”
“ยิ่งไม่อยากเซ็นใหญ่เลย คุณออกไปจากห้องผมเถอะฮะ”
“เซ็นเดี๋ยวนี้”
“ไม่เซ็น”
“เซ็น”
“ไม่”
“ไม่เซ็น งั้นจูบ”
“เซ็นก็ได้” จุนซูรับเอกสารกับปากกามาจ่อตรงที่เซ็น
“เซ็นซักทีสิ อย่าลีลาได้มั้ย”
“ก็ผมไม่อยากเซ็นนี่ฮะ แล้วคุณอยากแต่งกับผมมากรึไง ถึงได้มาบังคับกันแบบนี้”
“พ่อชั้นสั่งมา ไม่งั้นชั้นคงไม่ถ่อมาถึงที่นี่หรอกนะ”
“คุณก็บอกพ่อคุณสิว่า จุนซูไม่มีแรงเซ็นเลยครับ” ร่างเล็กพยายามเลียนเสียงให้เหมือนยูชอน
“ไม่เซ็นวันนี้ วันอื่นก็ต้องเซ็นอยู่ดี”
“ไม่มีทางอะ งั้นแผนการแกล้งป่วยวันนี้ก็ไม่มีความหมายน่ะสิ อ๊ะ!!” จุนซูรีบเอามือปิดปาก กว่าจะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปก็สายเสียแล้ว
“นี่นายแกล้งป่วยหรอ” ..คิดว่าชั้นโง่มากนักใช่มั้ย..
“เปล่านะ!”
“นายกล้าหลอกทุกคนงั้นหรอจุนซู!” ด้วยความเร็วไก่ขึ้นไปคร่อมคนบนเตียงเอาไว้
“คะ..คุณจะทำอะไรน่ะ”
“ก็ลงโทษภรรยาในอนาคตไง”
“ม๊า!!! ช่วยยยยยยด้..อุ๊บ!” ยูชอนใช้จังหวะที่คนตัวเล็กแหกปากประกบปากห้อยๆเข้าไป จุนซูหลับตาแน่น มืออวบทุบอกคนด้านบนแรงๆแต่ดูเหมือนว่ายูชอนจะไม่สะทกสะท้านสักนิด
“อื้ม..อื้อ..อื้อ” เรียวลิ้นอุ่นไล้เลียไล่ต้อนลิ้นเล็กภายในโพรงปากอย่างร้อนแรงทำเอาคนด้านใต้เคลิบเคลิ้ม มืออวบเปลี่ยนจากการทุบตีมาขยำเสื้อเชิ้ตของคนด้านบนแน่น
แกร๊กก! เสียงประตูห้องนอนเปิดขึ้น กระนั้นก็ไม่ทำให้ร่างสูงหยุดการกระทำง่ายๆ ยังคงไล่จนลิ้นเล็กเผลอไผลเกี่ยวกระหวัดตอบสนองซะเอง
ยูชอนดูดปากล่างของคนตัวเล็กแรงๆปิดท้ายก่อนจะถอนออกมา...หวานกว่าที่คิดไว้แฮะ..
คนด้านใต้หอบหนัก ริมฝีปากแดงบวม อีกทั้งตามลำคอ ใบหน้าหวานและใบหูมีเลือดสูบฉีดจนเป็นสีแดงจัด จุนซูรู้สึกขัดข้องกับใจตัวเองเล็กน้อยที่เผลอเคลิ้มรสจูบนั่น
“นึกถึงสมัยเราเด็กๆเนอะแม่เนอะ” บิดาพูดลำลึกความหลัง คนเป็นแม่เอาศอกอัดกระแทกสามีอย่างเขินอาย
“แหม คุณนี่ก็”
จุนซูเห็นผู้มาเยือนถึงกับตกใจ...ม๊า...ป๊า...พี่แจ...คนหน้าหมี..อ๊ากกกก..โลมาอยากแทรกปะการังหนีจังเลยฮะ...
“ขอบคุณครับที่มาเป็นสักขีพยาน” ยูชอนยืนขึ้นพูดแถมยิ้มเหมือนกับยินดีปรีดานักหนา
“ที่รัก เซ็นทะเบียนสมรสได้รึยัง” คำแทนชื่อแปลกใหม่ออกมาจากปากของยูชอนทำเอาจุนซูอ้าปากค้าง...ไอ้ห้อยนี่มันด้านจริงๆเลยฮะ..
“เซ็นเลย..เซ็นเลย..เซ็นเลย” เสียงเชียร์จากมนุษย์สี่คนดังลั่น
มืออวบหยิบเอกสารมาเซ็นตามแรงกดดัน...T T ผมอยากร้องไห้จังเลย...
วันนี้ทำให้ผมได้รู้ว่า การแหกปากดังๆนั้น เป็นการขุดหลุมฝังตัวเองจนมิดเลยล่ะฮะ...
ขออภัยในความล่าช้าเพราะไรเตอร์ขี้เกียจมากขึ้นนั่นเอง มีคนเรียกไรเตอร์ๆ นึกถึงไฮเตอร์แฮะ555+
พูดเล่นเอาฮาเน้อ (ใครเค้าฮากะแก==")
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น