ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] 2 In 1 - YOOSU

    ลำดับตอนที่ #2 : Part 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 192
      0
      11 ต.ค. 53


     2 in 1   





     
    “ของที่สั้งได้แล้วครับ  วันนี้เรามีไวน์.........ไอ้ปาร์ค!!” ร่างเล็กตกใจตาโตได้แต่หยิบถาดแก้วขึ้นมาปิดหน้า....ถึงจะปิดไม่ทันก็เถอะ...  แต่ถึงปิดยังไงก็เห็นอยู่ดี...ก็มันเป็นถาดแก้ว==”


    ดวงตาคู่คมจ้องอย่างมีเลศนัย  ไม่ใช่ยูชอนที่เคยพบเจอ  แต่ดูเหมือนจุนซูจะไม่สนเท่าใดนัก  หัวหน้าแก๊งค์ทำอะไรไม่ถูกก็รีบหุนหันวิ่งหนีออกไป  ในสมองตีรวนไปหมด ...อ๊ากกกกก....มันมาได้ไงวะ!...


    หัวหน้าแก๊งค์เป็นบ๋อย  ลูกน้องเป็นลูกค้า..   รู้ไปถึงไหน อายไปถึงนั่น!!


    “มันเห็นเปล่าวะๆๆๆ!!” เสียงหวานบ่นพึมพำไปมาอย่างร้อนรน  เดินไปเดินมาไม่หยุดเหมือนหนูปั่นจักร  


    “เฮ่ย จุนซู  เป็นไรไป” เพื่อนร่วมงานเอ่ยทักด้วยความเป็นห่วง  หัวกลมส่ายไปมา


    “ไม่อะ...ไม่เป็นไร..มีเรื่องนิดหน่อย” ..จะให้บอกหรอว่าต้องบริการลูกน้องต๊อกต๋อยถึงห้องวีไอพี งามหน้านัก!


    ....เราต้องทำอะไรสักอย่าง....


    .


    .


    .


    .


    ที่ทางเข้าหน้าโรงเรียนในเวลาเจ็ดโมงเช้าเป๊ะๆ   ใครที่เดินผ่านไปผ่านมาคงจะเห็นร่างเล็กๆหัวแดงๆซึ่งขึ้นชื่อว่าหัวหน้าแก๊งค์ยืนเป็นผีเฝ้าประตูมา 2 ชั่วโมงแล้ว   เจ้าพ่อโลมาจ้องทุกคนที่เดินผ่านจนเด็กหลายคนเสียวสันหลังวาบ  เหตุผลก็เพราะมารอใครคนหนึ่ง ....และก็พบจนได้......


    “ปาร์ค!!”


    “อุ๊” เมื่อเห็นร่างสูงโปร่งผ่านพ้นเข้ามาในเขตประตูโรงเรียน ร่างเล็กก็ปฎิบัติการตะปบปากแล้วลากเข้าห้องน้ำบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว   หัวกลมหันซ้ายขวาเมื่อไม่เห็นใครจึงปล่อยมือออก


    “..จะ..จับผมมาทำไมครับ”  ยูชอนหน้าซีดกลัวคนตรงหน้าจับใจ  เส้นผมสีดำเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ  มือเล็กยกขึ้นมาแนบที่ริมฝีปากตนเองเป็นสัญญาณให้เงียบ


    “ฟังฉันนะ...”  ยูชอนพยักหน้าหงึกหงักอย่างกล้าๆกลัวๆ


    “เรื่องเมื่อวานน่ะ  แกห้ามเอาไปบอกใคร  เข้าใจไหม”  เสียงหวานกระซิบกระซาบจนแทบไม่ได้ยิน  


    “เรื่องอะไรครับ”


    “ยังจะมาทำไก๋อีก   เมื่อวานน่ะ  เมื่อวานน่ะ” คนตัวเล็กพยายามรื้อฟื้นความจำคนตรงหน้าเร็วๆจึงเผลอเขย่าคอเสื้อซะแรง  นั่นยิ่งทำให้พระเอกของเรากลัวมากขึ้นไปอีก  จุนซูตั้งสีหน้าเครียดเสียจนบรรยากาศอึมครึมขึ้นทุกที ...นี่กุชักร้อนแล้วนะเว้ยยย...     


    “เมื่อวานน่ะ  ที่บาร์  ห้ามเอาไปบอกใคร  เข้าใจไหม”  ยูชอนคิดพักหนึ่งแล้วอ้าปากอ๋อในใจก่อนจะพยักหน้ารัวเร็ว


    “ฉันถามว่าเข้าใจไหม!!”


    “ขะ..เข้าใจครับ”  มือเล็กคลายออกมาจากคอเสื้อที่ยับยู่  


    “ถ้าแกเอาไปบอกใคร ตาย!” ไม่วายหันมาถลึงตาชี้หน้าใส่ก่อนจะเดินออกไป   ร่างสูงถอนหายใจโล่งอกพร้อมกับยิ้มกว้าง   ใบหน้าคมขาวจัดเริ่มรู้สึกร้อนแปลกๆ  จากที่ได้เห็นหัวหน้าแก๊งค์ตัวเล็กในระยะประชิด ตากลมๆใสๆ  ริมฝีปากบางๆแดงๆทำให้ยูชอนหลงได้ไม่ยาก


    “น่ารัก...”  ชายหนุ่มยืนเพ้ออยู่คนเดียวในห้องน้ำก่อนจะเดินออกไปด้านนอกโดยไม่ได้สังเกตเลยว่า


    ...มันเป็นห้องน้ำหญิง...


    นึกภายชายหนุ่มน่าตาดีเดินออกมาจากห้องน้ำผู้หญิงด้วยความสุข  มันคงจะแปลกพิลึกเลยล่ะ..   ทุกสายตาของคนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้มาจับจ้องอยู่ที่เขากันหมด   แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้สึกแถมยังยิ้มให้กับคนที่มองอีก!    ยูชอนเดินขึ้นชั้นเรียนตามปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น    เมื่อวานเขาไม่ได้ขึ้นชั้นเรียนเพราะโดนแก็งค์นักเลงวิ่งไล่  แถมยังโดนขู่เอาชีวิต เหนื่อยแทบตายที่ต้องโดนไล่ตาม  ข้าวก็ต้องกินแบบลับๆล่อๆ


    ...จะว่าไปมันก็สนุกดีแหะ...!


    หลังจากคิดอะไรเพลินๆก็วางหนังสือเรียนลงบนโต๊ะ  ซึ่งน่าจะไม่มีเจ้าของ  ด้านข้างเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้น  ยูชอนแอบเหล่มองคนด้านข้างอย่างกล้าๆกลัวๆ  จู่ๆคนที่นั่งเฉยๆก็หันมาสบตาเขาเต็มๆทำให้ยูชอนผงะตกเก้าอี้เสียงดังลั่น


    ชายหน้าสวยที่นั่งข้างๆยื่นมือมาช่วย  ยูชอนจับไว้แล้วค่อยๆพยุงตัวขึ้นมา


    “สวัสดี ฉันชื่อ คิม แจจุง นายล่ะ”


    “ผมปาร์ค ยูชอนครับ  แต่ว่า....สวยจัง”  ใบหน้าเรียวสวยราวกับนางฟ้าบึ้งตึงทันที


    “ฉันหล่อ  ไม่ใช่สวย”


    “ครับ หล่วยมากๆ  เอ้ย  หล่อมากๆ”  คนตรงหน้านิ่งสนิทเสียจนยูชอนยิ้มไม่ออกเขาได้แต่เกาหัวแก้เก้อ  เมื่อเห็นอาจารย์ผู้สอนใส่แว่นหนาเดินผ่านพ้นประตูห้องเข้ามา  มือหนาก็จับดึงเก้าอี้แล้วนั่งลงเตรียมเรียน  


    ตลอดหลายชั่วโมงที่อาจารย์ยืนสอน   ชายหนุ่มได้เท้าคางในคาบแรก  ตาปิดในคาบที่สอง สัปหงกในคาบที่สาม และน้ำลายไหลในคาบที่สี่  


    สรุปคือ  ไม่ได้เรียน  


    ทันทีที่เสียงออดของโรงเรียนดังขึ้นก็ตามมาติดๆด้วยเสียงไชโยโห่หิ้วของเราบรรดานักเรียนทั้งหลาย    เสียงดังๆนั้นได้เล็ดลอดเข้ามาในแก้วหูของยูชอนเต็มๆ  ดวงตาคมปรือขึ้นมา มองนาฬิกาบนกำแพงชั้นเรียนบอกว่าเที่ยงตรงพอดี  มือหนาจัดการเก็บหนังสือของวิชาสังคมในคาบแรกใส่กระเป๋าหนังชั้นดี


    “นี่นาย  ไปกินข้าวด้วยกันไหม” เพื่อนหน้าสวยหันมาชวน ผมสีทองโดนแสงอาทิตย์จากหน้าต่างสาดเข้ามาทำให้ดูสว่างยิ่งกว่าอะไร  ไหนจะตาโตๆ  ปากแดงๆ  ใบหน้าเรียวๆ ผิวขาวๆ ทำให้ยูชอนเพ้อออกมาเบาๆ


    “...นางฟ้า...”  


    “ห๊ะ?”


    “เปล่าๆ”


    “?....อืม”   


    ทั้งคู่เดินมาเรื่อยๆ ถึงหน้าโรงอาหาร  แต่แล้วสายตาก็ไปสะดุดกับกลุ่มนักเรียนใส่เสื้อสีแดงที่นั่งกินข้าวเสียงดังไม่เกรงใจใคร  ทำให้เขารีบปลีกตัววิ่งอ้อมไปด้านหลังของตึกโดยที่ไม่ได้บอกแจจุง



    “น้องยูฮวานน  เอาไอติมรสสตอเบอรี่อีกถ้วยสิจ๊ะ”  ...เอ๊ะ...ใครกัน น้ำเสียงเหมือนรสที่มันสั่งจัง==”…


    ยูชอนเดินเข้ามาหยิบเก้าอี้จากที่ใกล้ๆลากไปนั่งโต๊ะเดียวกับชางมิน   เด็กตัวสูงไม่มีท่าทีสนใจแม้แต่นิดเดียว เพราะเหตุที่ชางมินมีกำลังใจมาโรงเรียนได้ทุกวันก็เพื่อสิ่งนี้    ชายหนุ่มหน้าหวานผิวขาวจัดเดินถือถ้วยไอศกรีมมาเสิร์ฟ  ชางมินรีบตะครุบมือบางเอาไว้แล้วแนบลงที่อกพรอมกับส่งสายปิ๊งๆ  ....ทำไมมึงไม่จูบซะเลยล่ะ==...


    “น้องยูฮวาน  ทำไมเมื่อวานไม่มาขายไอติมล่ะ  รู้ไหมว่าเมื่อวานพี่เอาแต่คิดถึงจนไม่เป็นอันทำอะไร”  ถ้อยคำหวานเชื่อมที่หาได้ยากจากปากเด็กตัวสูงคนนี้เพิ่มออร่าสีชมพูแผ่กระจายจนยูชอนต้องละออกจากบริเวณนั้นแล้วเปลี่ยนใจซื้อนมกับขนมปังเดินกินตามตึกแทน


    “เฮ่ย ไอ้ปาร์ค!!”  ขณะที่เดินอยู่นั้นเสียงแหบหวานอันเป็นเอกลักษณ์ดังมาจากด้านหลัง  จู่ๆคอเสื้อก็ถูกกระชากทำให้ร่างสูงหมุนไปตามแรง จนปะทะกับใบหน้าหวานพอดี


    “ทำไมไม่ใส่เสื้อสีแดงมา  ห๊า!!!”


    “....ลืม...”  ....อืม จนปัญญากับมันจริงๆ...==”  


    “ค่าลืม” มือเรียวแบเป็นสัญญาณแถมยังกระดิกปลายนิ้วส่งสายตาเย่อหยิ่ง  ยูชอนเหงื่อแตกหยิบกระเป๋าตังค์ออกจากกางเกงแต่ยังโอ้เอ้ไปมา  จะให้หรือไม่


    “แต่มันไม่มีกฎนี้นี่ครับ”  ชายหนุ่มเตรียมจะเก็บกระเป๋าก็โดนมือเรียวกระชากแย่งไปซะก่อน ยูชอนจะแย่งคืน เมื่อปะทะสายตาอันน่ากลัวก็ต้องก้มหัวต่อไป  จุนซูเปิดดูในกระเป๋าทุกซอกทุกมุมรวมถึงบัตรประชาชน บัตรเครดิต  บัตรวีไอพีบาร์CK   วีไอพีฯลฯ   ...รวยเหมือนกันนี่หว่า...   ยูชอนตาโตเมื่อมือเล็กๆนั่นหยิบแบงค์ในกระเป๋าออกไปทั้งปึกแล้วพับยัดเข้ากระเป๋ากางเกงตัวเองน่าตาเฉย


    “แล้ว  พรุ่งนี้ผมจะเอาอะไรกินล่ะครับ”


    “ก็ไปกดบัตรเครดิตดิ”


    “บัตรเครดิตเป็นของพ่อ”


    “ก็ไม่ต้องกินดิ” ...น่าน โลมาแน่มากลูก...


    “.....”  ใบหน้าหล่อสลดลงอย่างเห็นได้ชัด  จุนซูมองแล้วก็รู้สึกสงสารขึ้นมา


    “ถ้าอยากได้ก็มาขอแล้วกัน” คนตัวเล็กไถเงินได้ก็เดินจากไปทิ้งให้พระเอกยืนอื้ออยู่ตรงนั้น    ไม่นานนักหนุ่มหน้าสวยนามว่าแจจุงที่ซุ่มดูเหตุการณ์ก็เดินเข้ามาหา


    “ยูชอน นายอยู่แกงค์เดียวกับคิม จุนซูหรอ”    


    “ครับ”


    “อืม  แล้วเมื้อกี้หายไปไหนมา”


    “ผม  ผมก็ไปกินข้าว”


    “หะ?”


    “ปะ เปล่า”


    “ทำตัวน่าสงสัย  มีอะไรจะอธิบายหรือเปล่า” แจจุงเริ่มคาดคั้นคนตรงหน้าอย่างจริงจัง ผิดปกติกับคนที่พึ่งรู้จักกันใหม่ๆ


    ออดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


    “โอ๊ะ  ออดดังแล้วครับ ขึ้นเรียนกันเถอะ” ราวกับเสียงสวรรค์ ยูชอนจับมือเรียวพาเดินขึ้นเรียนไปด้วยกันโดยไม่รู้ตัวเลยว่า....ทำให้อีกคนใจเต้นแค่ไหน....


    ชั่วโมงแต่ละชั่วโมงผ่านไปช้าเหลือเกินสำหรับยูชอนที่นั่งหาวตลอดคาบ นิ้วก็หมุนปากาเล่นไปด้วย เมื่อเสียงกริ่งครั้งสุดท้ายของวันดังขึ้น  ร่างสูงก็ลุกขึ้นยืดตัวบิดขี้เกียจแล้วแบกกระเป๋าเดินไปรอรถมารับที่หน้าโรงเรียน








    กลางดึกในห้องนอนที่ถูกตกแต่งด้วยเครื่องไม้ราคาแพง  ชายหนุ่มเบิกตาโพลงขึ้นมาและลุกจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า  ฉีดน้ำหอมพรมไปทั่วตัว เขาจ้องมองตนเองที่กระจกเพื่อสำรวจความหล่อ  ผมสั้นธรรมดาถูกเจลจัดเสยขึ้นแล้วหยิบขึ้นเป็นส่วนๆจนออกมาดูทันสมัย  มือหนาหยิบกระเป๋าเงินคู่ใจขึ้นมาเปิดดูด้านในก่อนจะแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์  และเดินออกไปหาความสุขจาบจ้วงอย่างเฉกเช่นที่ทำอยู่ในทุกๆคืน


    ในบาร์เดิม สถานที่เดิมๆที่มีผู้คนหนุ่มสาวมากมายเข้ามาใช้บริการสังสรรค์ปาร์ตี้ หรือนั่งดื่มแล้วควงผู้หญิงขึ้นโรงแรมคราวละสองสามคน  คนตัวเล็กในชุดเสื้อแขนยาวสีขาวติดกระดุมจนสุดคอทับด้วยเสื้อกั๊กและโบสีดำเล็กๆ  พูดง่ายๆคือชุดบ๋อยนั่นเอง    จุนซูเดินไปเดินมาเสิร์ฟไม่หยุดเพราะวันนี้มีคนเยอะมาก  แล้วจู่ๆเขาก็โดนเรียกขึ้นชั้นวีไอพีอีก  จึงรีบๆเสิร์ฟแล้วขึ้นไปตามที่ลูกค้าเรียก   เขาไม่นึกแปลกใจที่มีคนเรียกขึ้นชั้นวีไอพี  


    ...แค่ไปให้ดูหน้า ลูบๆคลำๆนิดๆหน่อยๆมันก็คุ้มค่ากับเงินที่ได้  เพราะจุนซูบริการลูกค้าแต่ไม่ได้ขายตัว...


    ถึงจะแมนเต็มร้อยแต่ก็รู้จักใช้จริตมารยาที่ปั้นขึ้นมาผสมกับร่างกายอรชรอ้อนแอ้นให้เป็นประโยชน์ได้ทุกครั้งไป  ร่างเล็กเตรียมตัวถือถาดแก้วขึ้นไปยังชั้นวีไอพี  เคาะประตูห้องเป็นมารยาท  เมื่อได้ยินเสียงตอบรับแล้วจึงเดินเข้าไป


    “สวัสดี คิม จุนซู” เจ้าของชื่อยืนผงะนิ่งด้วยความตกใจ ถาดในมือแทบร่วงแต่ก็สามารถประคองวางลงบนโต๊ะแก้วได้


    “ไอ้ปาร์ค!!”


    “เรียกลูกค้าแบบนี้ได้ไง”  ตาเรียวจ้องไปยังคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา  การแต่งตัวดูดีมีระดับกว่าที่โรงเรียนมากโข  แล้วไหนจะสายตาแทะโลมนั่นอีก  คนตัวเล็กรู้สึกประหม่าขึ้นมาจึงปรับสีหน้าให้เรียบนิ่งไม่ให้อีกฝ่ายหนึ่งล่วงรู้ทัน


    “คุณปาร์ค ยูชอน  ต้องการน้ำแข็งเพิ่มหรือเปล่าครับ?”


    “ฉันไม่ต้องการน้ำแข็ง  เดินมานี่สิ”  ถ้อยคำที่บ่งบอกว่าต้องการสิ่งหลังมากกว่านั้นทำให้จุนซูรู้สึกแปลกๆ คนตัวเล็กค่อยๆเดินเข้าไปหา  และก็ต้องตกใจเมื่อโดนฉุดให้นั่งลงไปบนตักโดยที่ไม่ได้ตั้งตัว  ด้วยประสบการณ์ที่เคยเจอมามากจึงไม่เผลอต่อยหมัดหนักๆเข้าที่หน้าหล่อๆให้สมใจ  มือหนาเริ่มทำหน้าที่ล้วงเข้าไปใต้เสื้อบางแล้วลูบไล้ผิวกายเนียนไปมาอย่างถือวิสาสะ


    “ถึงขั้นนี้จ่ายแพงนะครับ”  ถึงจะพูดด้วยสีหน้านิ่งขนาดไหนแต่ในใจก็กรีดร้องโวยวายเหมือนคนบ้า  ไม่รู้ว่าอยุ่ดีๆลูกน้องน่าตาใสซื่อจะทำแบบนี้ได้  แถมตัวเองยังอยู่ในสถานะที่ต่ำต้อยกว่ามาก  จะขัดขืนหรือก็กลัวโดนไล่ออก  ไหล่เล็กห่อลงเมื่อถูกพรมจูบซอกคอไปทั่ว  เสียงทุ้มนุ่มหูกระซิบบอกยั่วเย้า


    “แล้วถ้า...ไม่มีเงินล่ะ”


    “งั้นก็ปล่อย อ๊ะ”


    “ไหนบอกว่าอยากได้ก็มาขอไง” ยูชอนจับคนตัวเล็กพลิกให้อยู่ด้านใต้ แผ่นหลังบางสัมผัสกับโซฟานุ่ม ดวงตากลมเบิกโตด้วยความตกใจ  ไม่ว่าจะเคยให้ลูกค้าลูบคลำขนาดไหนก็ไม่มีใครกดเค้าลงกับโซฟา   ยูชอนโน้มใบหน้าเข้าใกล้เสียจนมองไม่เห็นอะไรนอกตาดวงตาคมคู่นั้น  มือเรียวเกร็งขยำแขนเสื้อคนด้านบนแน่น  ไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับเหตุการณ์ไม่คุ้นชินแบบนี้   


    “ตอนนี้...ตอนนี้ฉันไม่มีเงินติดตัวหรอก  เมื่อไหร่จะลุกออกไปสักที”  ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีนิดๆจนต้องเบี่ยงหน้าหนีเพราะถูกสายตาอันร้อนแรงจ้องไม่กระพริบ


    “จริงหรือเปล่า”  มือหนาลูบไล้แล้วบีบก้นนิ่มแรงๆก่อนจะล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของคนใต้ร่าง  หยิบกระเป๋าเก่าๆซอมซ่อขึ้นมาวางไว้กับโต๊ะแก้ว แล้วหันมาสนใจกับกายบางสั่นเทาตรงหน้าแทน  ตอนนี้คิม จุนซูรู้สึกกลัวยูชอนขึ้นทุกวินาที  


    “จะ ทำอะไร  ฉันไม่มีเงินจริง...อื้ม” ริมฝีปากบางถูกฉกฉวยมอบรสจูบผสมกลิ่นแอลกฮอลล์แสนหวานนุ่มลึก  ลิ้นหนาสอดเข้ากวาดทั่วโพรงปากแดงอย่างช่ำชอง  ยิ่งอีกฝ่ายไร้เดียงสาเทาไหร่ก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ดิบออกมาได้มากเท่านั้น  สติเล็กๆถูกสัมผัสจาบจ้วงทว่านุ่มนวลฉุดดำดิ่งสู่หลุมพรางจนยากที่จะตะกายขึ้นมา  เผลอไผลเปิดเส้นทางให้ลิ้นหนากลืนกินทุกซอกทุกมุม  มือบางเอื้อมจับขยำคอเสื้อคนด้านบน  และเมื่อลมหายใจที่ถูกช่วงชิงหมดลง สติน้อยๆก็กลับคืนสู่ความเป็นจริง  


    “โอ๊ยยยย!!” กำปั้นเล็กแต่หนักออกแรงต่อยที่ใบหน้าคมสุดแรง  จุนซูใช้จังหวะที่ยูชอนจับแก้มตัวเองร้องโอดโอย ลุกขึ้นมาแล้วเปิดประตูห้องออกก่อนจะด่าทิ้งท้าย


    “ไอ้เห-ย!!!!”  ร่างบางปิดประตูดังลั่นด้วยความโมโหแต่แก้มใสนั้นแดงยิ่งกว่าอะไร  ขาเรียวก้าวฉับๆตรงไปยังห้องน้ำ  มือเล็กกวักน้ำขึ้นมาบ้วนปากล้างสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ให้หมด  จุนซูจ้องตัวเองในกระจกมองเห็นริมฝีปากบวมช้ำก็ขมวดคิ้วแน่นก้มลงไปล้างปากอีกครั้ง


    “จูบแรก เสียให้ผู้ชาย เหอะๆ”  เขาหัวเราะแห้งๆกับตัวเอง  ที่ดวงซวยโดนลูกน้องจูบปาก ลวนลาม  แล้วตัวเองก็ดันทำอะไรไม่ได้เสียอย่างนั้น   จุนซูเริ่มสับสนกับตัวเองว่า  ...เป็นหัวหน้าหรือลูกน้องของมันกันแน่...  มือเล็กหยิบผ้าในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำออกจนหมดก่อนจะรีบเดินออกไปทำหน้าที่ของตัวเองเช่นเคย





    “ฉันไม่ได้สั่งแก้วนี้”


    “ขอโทษครับ  เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนมาให้ รอสักครู่นะครับ”  คนตัวเล็กก้มหัวขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ เพื่อนที่ทำงานเดินเข้ามากระซิบถาม


    “จุนซู  เป็นอะไรหรือเปล่า  เสิร์ฟผิดมาสามโต๊ะแล้ว”


    “เปล่า  ก็ปกติดีนี่”  ..ใครว่า..ก็มัวแต่คิดเรื่องไอ้ปาร์คนั่นแหละ... มันจูบก็ไม่เท่าไหร่ ที่น่าโมโหคือตัวเองหลงรสจูบของมันเหมือนกัน   คิดไม่ตกว่าพรุ่งนี้จะเอาหน้าที่ไหนไปเจอมัน  แล้วนี่ ลืมหยิบกระเป๋ามาอีก


    “โว๊ะ!!”






    ทางฝั่งยูชอนที่โดนหมัดเน้นๆเข้าไป ถึงกับเขียวแทบจะทันที  เพียงแค่เอานิ้วสัมผัสนิดเดียวก็สะดุ้งร้องซีดเบาๆด้วยความเจ็บ  ...ที่บอกกันว่าจุนซูหมัดหนักน่ะ   ปาร์ค ยูชอนคนนี้รับประกันร้อยเปอร์เซ็น....    คืนนี้ก็แค่อยากจะมาสั่งสอนคนตัวเล็กที่อวดเก่งดูถูกไถเงินคนอย่างเขาเท่านั้นเอง  ไม่คิดว่าจะโดนต่อยจนเขียวแบบนี้


    ....ตอนแรกก็ว่าจะแกล้งให้ตกใจเล่น.....ช่วยไม่ได้ ดันตัวเล็กน่ารักเองก็เลยเผลอจูบลงไป...


    ...และแน่นอน...ถ้าไม่โดนต่อยซะก่อนคงจะต่ออีกยาว...


    ริมฝีปากอิ่มกระตุกยิ้มก่อนจะหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาแล้วกดโทรออก


    “เฮียครับ  คิม จุนซูต่อยหน้าผม  จัดการเด็กเฮียด้วย  แล้วก็ขอของไถ่โทษอย่างที่เคยบอกไว้”  ยูชอนปิดโทรศัพท์ลง  เพียงไม่นานของไถ่โทษที่ว่าก็มาถึง  หญิงสาวหุ่นเซ็กซี่สามคนเดินบิดกายอย่างกับนางแบบมุ่งเข้ามาที่ยูชอนพร้อมกับถาดเหล้าไวน์มากมายในมือ  พวกเธอวางของลงก่อนจะฉวยนั่งลงข้างๆยูชอน พร้อมกับหยิบขวดไวน์เทใส่แก้วส่งมาป้อนถึงปาก  


    ยูชอนยิ้มรับและดื่มเหล้าตามที่พวกเธอป้อน    มือเรียวสวยของหญิงสาวอีกคนซุกซนเข้าไปใต้เนื้อผ้าหยอกเย้ากับท่อนเนื้อจนแข็ง  อีกคนก็ถลกกระโปรงขึ้นคร่อม  ความสุขที่ได้ลุ่มหลงมัวเมากับคาวราคะที่ได้เท่าไหร่ก็ไม่พอนั้นดำเนินเนิ่นนานยากจะหยุดยั้ง  ชายหนุ่มควงสาวทั้งสามไปต่อที่บ้าน ทำรักจนฝ่ายหญิงหมดเรี่ยวหมดแรงถึงรุ่งสาง    เขาก็เผลอหลับไป   ....เป็นสัญญาณว่าอีกด้านหนึ่งกำลังจะกลับมา...


    แสงแดดส่องลอดเข้ามากระทบผิวขาว  เปลือกตาหนาค่อยๆเปิดขึ้น ร่างกายของเขาเปลือยเปล่าไร้สิ่งปกปิดใดๆ   


    ....อีกแล้วหรอ...  ยูชอนค่อยๆยันตัวลุกขึ้น รอบกายเขามีผู้หญิงถึงสามคน ลองนึกย้อนกลับไป  เขาจำผู้หญิงสามคนนี้ไม่ได้เลย  แต่ที่จำได้แน่ๆคือ  เขาได้จูบกับจุนซู  


    ...คนน่ารัก... จำได้แค่นั้นจริงๆ


    แค่คิดก็หน้าแดงขึ้นมา  ยูชอนหยิบเงินในกระปุกหมูออมสินวางแปะไว้กับหน้าของพวกเธอก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัวตามปกติ  


    พอไปถึงโรงเรียนก็โดนคนตัวเล็กดักไว้อีกแล้ว  ใบหน้าหวานบึ้งตึงฉุดกระชากแขนยูชอนพาเข้าห้องเก็บของ ร่างเล็กผลักอีกฝ่ายติดกับกำแพง


    “ไอ้ปาร์ค  กระเป๋าตังค์ฉันล่ะ”  จุนซูจ้องอีกคนใกล้ซะจนเผลอสำรวจใบหน้าอีกฝ่าย ตั้งแต่ตา จมูก แก้มช้ำๆ ปากอิ่ม พอนึกถึงภาพตอนโดนจูบก็ต้องผละออกมาด้วยความอาย  ใบหน้าหวานขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด  ...น่ารักอีกแล้ว...


    “ก็...เอ่อกระเป๋า...กระเป๋าอะไรหรอครับ?”


    “เลิกพูดครับ เลิกตีหน้าซื่อได้แล้วปาร์ค ยูชอน” ...แล้วทำไมต้องอายมันด้วยฟร่ะ...


    “.....”


    “เมื่อคืนแกทำให้ฉันโดนด่า  หักเงินเดือน  กระเป๋าตังค์หาย  เสิร์ฟผิดโต๊ะ  แล้วก็จูบฉันด้วย  แกต้องชดใช้ทั้งหมด!!”  ยูชอนตาโต นึกไม่ออกว่าเมื่อคืนทำวีรกรรมอะไรไว้บ้าง


    “ผมทำขนาดนั้นเชียว”


    “เออดิวะ!  ยังจะทำเป็นไม่รู้เรื่องอีก  เรื่องอื่นไม่เอาก็ได้  แต่กระเป๋าตังค์ต้องได้”


    “งั้นผม....ผมซื้อให้ใหม่..นะครับ”


    “แล้วมันเหมือนใบเดิมหรอห๊า!!!   เอาเป็นว่า อาทิตย์นี้พาไปซื้อด้วย  ไม่เหมือนใบเดิมก็ต้องแพงกว่าใบเดิม!  เข้าใจหรือเปล่า!!!!!”


    “คะ..ครับ..เข้าใจครับ”     


    “วันอาทิตย์ 8  โมงตรง  มาเจอที่หน้าโรงเรียน  ไม่มาตายแน่!”  คล้ายจะเป็นการนัดเดทกลายๆ  ยูชอนพยักหน้าหงึกหงักเข้าใจ    สายตาเรียวจดจ้องร่างสูงตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะยกมือขึ้นมาจับเสื้อนักเรียนของยูชอนแล้วดึงเบาๆ


    “ทำไมไม่ใส่เสื้อสีแดงมา...ห้ามบอกว่าลืม”   ...แล้วจะให้กระผมพูดว่าอะไรล่ะครับ==”...


    “แน่ะ ถามแล้วไม่ตอบอีก  อยากลองดีหรือไง!!”    จุนซูง้างกำปั้นขึ้นทำท่าจะต่อย ด้วยสัญชาตญาณ ยูชอนรีบยกมือขึ้นมาบังใบหน้าของตนเอง  ร่างเล็กเห็นดังนั้นก็รู้สึกกระหยิ่มใจขึ้นมาทันใด  ..แหม รู้สึกว่าเหนือกว่ามันจริงๆก็วันนี้แหละ...  


    “นี่ ไอ้ปาร์ค ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่ใส่เสื้อสีแดงมาอีก  ฉันจะให้แกใส่กางเกงในเดินรอบโรงเรียน” ขู่เสร็จสรรพก็เดินจากไป  ร่างเล็กผ่านพ้นประตูออกมาก็พบกับลูกน้องมือขวาพอดี  สายตาเรียวจ้องเขม็งใส่จนชายชองหัวหด


    “ผมไม่ได้มาแอบฟังนะครับ  ไม่ได้ยินอะไรเล้ยยยย ไม่ได้ยินจริงๆ”  


    “เออ ฉันเชื่อ  แล้วแกมาทำอะไรตรงนี้”


    “มาหาหัวหน้าแหละครับ  ผมอยากได้สมุด”  จุนซูล้วงหยิบสมุดในกระเป๋าส่งให้  เขาทำแบบนี้เป็นประจำ คือให้มันลอกการบ้าน  แล้วต้องยอมเป็นลูกน้อง คัดแต่คนซื่อบื้อ  พาไปสังสรรค์เป็นครั้งคราว  ถึงพวกมันจะดูโง่ในสายตาจุนซูแต่เขาก็รักพวกมันทุกคน  เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาด้วยกัน  ยกพวกต่อยกับเด็กโรงเรียนอื่น วิ่งหนีแก็งค์ยากูซ่า  ขับมอเตอร์ไซค์หนีตำรวจ   ให้ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน  นี่แหละ ข้อดีที่หาได้ยากจากการเป็นเด็กหัวโจกสร้างชื่อเสียให้แก่โรงเรียน


    “แล้วเรื่องไอ้ช่างกิน ถึงไหนแล้ว”


    “ก็ปกติดีครับ  โอ๊ย!! ตบหัวผมทำไมครับ”


    “ก่อนตอบอะไรก็หัดคิดซะบ้าง  เฮ้อ” คนตัวเล็กถอนหายพรืดใหญ่และพาตัวเองไปยังรังที่สิงอยู่เป็นประจำ   ห้องยามเก่าและพื้นที่บริเวณนั้น รวมไปถึงตึกเรียนสองตึกที่อยู่ทางทิศตะวันออกเป็นเขตของจุนซู   ส่วนอีกฟากฝั่งนึงอยู่ทางทิศตะวันตกเป็นเขตของชีวอน  ทั้งสองฝ่ายจะไม่มีใครลุกล้ำเข้าไปในเขตใคร  ยกเว้นตรงกลางซึ่งเป็นที่สาธารณะ  เป็นที่ๆพวกเขาใช้ทะเลาะกันและวิ่งไล่เจ้าชางมิน   ถึงมันจะดูข้ามหัวครูบาอาจารย์มากไปหน่อยที่กักกั้นตั้งเขตการปกครอง  แต่ก็ต้องยอมรับว่า ...เสือสองตัวมันอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้...


    จุนซูเดินมาถึงห้องที่ดูจะเก่าและแก่  มีทั้งอยากไย่เพิ่มความดึกดำบรรพ์  โต๊ะนักเรียนหักเก่าที่ถูกเช็ดจนคราบฝุ่นหมดไม่กี่ชุด พัดลมหมุนติดเพดานหนึ่งตัว  ห้องยามเก่าซึ่งไม่น่าจะอยู่ได้ ทุกคนที่อยู่ในแก็งค์ต่างรู้ว่า ...อยู่ทนไม่ใช่ทนอยู่... จุนซูเป็นคนพูดเองว่าไม่อยากเปลี่ยนบรรยากาศของห้องนี้ เดี๋ยวมันจะไม่มีเอกลักษณ์==”  


    “หัวหน้าครับ ผมคิม ยองอุน รายงานตัวครับ”  พอมาปุ๊บเจ้าคังอินก็รายงานตัวปั๊บ  คนที่มาเช้าๆก็มีแต่เจ้านี่แหละ   คนอื่นมาช้าบ้างสายบ้างไม่เป็นไรอยู่แล้ว   จุนซูหย่อนก้นลงเก้าอี้ตัวเก่าหยิบใบรายชื่อขึ้นมานั่งเปิดอ่านการเข้าเวร? เฝ้ารัง





    คิม     ยองอุน ครั้งที่เข้า 6  เวลาที่เข้า 7 ชั่วโมง


    ปาร์ค  ยูชอน  ครั้งที่เข้า 0  เวลาที่เข้า 0 ชั่วโมง      




    จุนซูกัดฟันกรอด  ...มันจะเกินไปแล้ว..เห็นแก๊งค์เราเป็นเรื่องเล่นๆหรือไง...  ไม่ทันที่จะคิดอะไรไปมากกว่านี้ เสียงลำโพงตัวใหญ่ของโรงเรียนก็ดังขึ้น


    “คิม จุนซู  ให้ไปพบอาจารย์ซูยองที่ห้องปกครอง ในเวลานี้ด้วยค่ะ”   มือเล็กตะปบโต๊ะแรงๆด้วยความหงุดหงิดก่อนจะลุกจากเก้าอี้ไปยังห้องปกครอง


    “สวัสดีครับอาจารย์”  คนตัวเล็กแสดงความเคารพแล้วนั่งบนเก้าอี้อย่างไม่เกรงกลัว  


    “สวัสดีจ้ะ”     


    “อาจารย์เรียกผมมา มีปัญหาอะไรหรอครับ”  


    “คือว่า  จุนซูน่ะ  เป็นเด็กหัวดี มีความเป็นผู้นำ”  เธอเริ่มเกริ่นๆให้คล้อยตาม  คนตัวเล็กพยักหน้าเข้าใจแต่อยากฟังความต้องการจริงๆมากกว่า  เรียกเข้ามาถึงห้องแบบนี้  พูดจาดีๆแบบนี้คงต้องขอร้องให้ทำอะไรบางอย่างแน่ๆ   


    “มีนักเรียนคนนึงที่อยู่ห้องเดียวกับเรา  เค้าเรียนไม่ค่อยเก่ง  แบบทดสอบที่ผ่านมาก็ทำได้ 0 คะแนน  การบ้านก็ไม่ส่ง  ตอนเรียนก็ไม่ฟัง”    ...ใครฟร่ะ โง่ชิป....ขนาดไอ้ยุนกามั่วยังไม่ได้ 0 คะแนนเลย==”...


    “ครูคิดว่าก็มีแต่จุนซูที่จะช่วยเค้าได้  อยากให้จุนซูช่วยติวเค้าหน่อยน่ะจ้ะ”


    “ได้ครับ แต่ว่าใครหรอครับ” เธอยิ้มกว้างแบบนางงามใจดีก่อนจะยื่นเอกสารประวัติพร้อมรูปถ่ายให้   มือเล็กรับมาเปิดอ่านอย่างตั้งใจ....ขอดูหน้าไอ้โง่คนนี้หน่อย...


    ....ชื่อ ปาร์ค ยูชอน.....   ตาเรียวเบิกกว้างอย่างตกใจ  ...ทำไมชีวิตเขาต้องมาพัวพันกับไอ้โง่นี่ด้วย...


    “จุนซู  ช่วยครูหน่อยนะจ๊ะ  ครูก็งานเยอะ  พ่อแม่เค้าก็งานเยอะ  จึงไม่มีใครคอยดูแล  ครูมองๆดูแล้ว จุนซูเหมาะสมที่สุดแล้วล่ะ”  เธอยิ้มอีกครั้งจับมือเรียวขึ้นมาส่งสายตาอ้อนวอนจนคนตัวเล็กต้องใจอ่อน


    “ครับ  เดี๋ยวผมจะช่วยติว”  ราวกับเอาหนามออกจากอก  แต่หนามพวกนั้นดันมาทิ่มใส่ที่ตัวจุนซูแทน  ร่างเล็กรับคำและมุ่งไปยังห้องเรียน   เสียงเปิดประตูดังขึ้นราวกัยจะทำลายให้พัง นักเรียนทั้งห้องต่างหันมามองเป็นตาเดียว ....ชั่วนาตาปีหัวหน้าแก๊งค์ใหญ่ของโรงเรียนผู้ไม่เคยเข้าเรียนเลยแม้แต่ชั่วโมงเดียว จู่ๆก็โผล่มาแบบแอคชั่น..(แบบไหนวะ  -*-)


    “ไอ้ปาร์ค!!”  เจ้าพ่อเรียก  ไม่ขาน ตาย!


    ...มันไม่ขาน...   ตาเรียวกวาดไปทั่วห้องจนเจอเป้าหมาย  ว่าแล้วก็ก้าวฉับๆไปยังคนที่มัวแต่ก้มหัวนั่งลอกการบ้านอยู่นั่น  มือเรียวกระชากสมุดเล่มที่ถูกลอกขึ้นชูไว้กลางอากาศ   ยูชอนเงยหน้าขึ้นมาจ้องจุนซูตาแป๋ว


    “ลอกใครเนี่ย”  


    “ฉันเอง  ทำไมหรอ” คนหน้าสวยที่นั่งข้างๆหันมาตอบอย่างไม่เกรงกลัว


    “เปล่า  กำลังคิดว่าคนโง่อย่างปาร์คยูชอนจะมีเพื่อนแบบไหนกัน”  เคะสองเคะจ้องตากันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อก็มิปาน  ไม่มีใครคอยห้ามสงครามจิตวิทยาคราวนี้ได้  จุนซูลากเก้าอี้มานั่งตรงหน้ายูชอนพอดิบพอดี


    “ปาร์ค  ตอนเรียนแกต้องฟังอาจารย์  การบ้านก็ต้องทำเอง  งานก็ต้องส่ง เข้าใจไหม!!”


    “คะ...ครับ”


    “เออดี  ภายในอาทิตย์นี้ ถ้าแกไม่โผล่ไปที่รังแม้แต่นิดเดียว  ตายแน่!!” ยูชอนพยักหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆ   จุนซูลุกจากที่นั่ง สายตาเรียวจ้องคนหน้าสวยไม่กระพริบ แล้วลอบมองชื่อที่เสื้อแวบหนึ่ง  



    ...คิม แจจุงหรอ...เป็นใครกัน...อวดดีเกินไปแล้ว...  









    ----------------------------------------



    สวัสดีจ้า   ปั่นเสร็จก็เอาลง  (แรกๆก็ไวงี้แหละ   หลังๆเดี๋ยวตัน555+)


    แต่ยังไงก็จบแน่ๆ เรื่องนี้  จบทุกเรื่อง  

    ช้าหรือเร็ว  อันนี้ก็แล้วแต่เหตุการณ์

    รอบนี้คงจะแก้ข้อสงสัยหลายๆอย่างนะ  เรื่องนี้เด่นที่จุนปาร์คก็จริง    แต่่ตัวประกอบหลายๆตัวก็สำคัญนะเออ -  -+


    แล้วจะปั่นเอามาลงใหม่   





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×