คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : something five : สกินชิพ
topic : สกินชิพ
couple : chanyeol x sehun / sehun x chanyeol
warning : PG-13
http://twitpic.com/bm1dtg
“เซฮุนนามาทางนี้” ริมฝีปากอิ่มขยับแผ่วเบาเหมือนเสียงกระซิบพร้อมกับแรงฉุดบริเวณต้นแขนเล็กให้เดินไปด้วยกัน
“ฮะ?” เจ้าของชื่อหน้าเหวอเล็กน้อยก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาอย่างอายๆเมื่อรู้ว่าตัวเองยืนผิดตำแหน่ง ขายาวที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างประหม่าทำใหชนเข้ากับกระถางดอกไม้ประดับอย่างจัง
ชานยอลเอื้อมมือไปรับข้อมือของอีกคนไว้ทันทีเมื่อทำท่าจะเสียหลักก่อนจะจับเอวบางให้มาจัดตำแหน่งให้ยืนอยู่ข้างๆตนอย่างเป็นห่วง
จุนมยอนที่เดินมาถึงคนแรกคว้าไมค์ที่ตั้งรอไว้ก่อนแล้วทันที ลีดเดอร์ของวงเอ็กโซเคสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับความตื่นเต้นก่อนจะตามด้วยถ้อยคำขอบคุณล้านแปดประการที่จะสรรหามาได้ในวินาทีนี้
มือเรียวที่กำลังจะจับชายเสื้อของน้องเล็กปล่อยออกทันทีเมื่อเสียงกรี๊ดของบรรดาแฟนคลับดังขึ้น จึงทำได้เพียงส่งเสียงกระซิบโดยสายตายังโฟกัสไปที่เบื้องหน้าเท่านั้น
“..ระวังหน่อยสิ..”
เมมเบอร์คนอื่นๆพยักหน้าเห็นด้วยเป็นบางครั้งพร้อมกับปรบมือสนับสนุน คนตัวสูงสุดฉีกยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีกับรางวัล Korean Entertainment Arts Awards ที่ได้รับมา ก่อนจะแย่งไมค์จากรุ่นพี่มาพูดบ้าง
เสียงทุ้มดังออกไมค์ไม่กี่ประโยคอย่างตื่นเต้น ขายาวๆที่ขยับไปมาเหมือนว่ามันเกะกะเสียเหลือเกินทำเอามักเน่ของวงแทบกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ เมื่อใบหน้าของชานยอลดูจะหงอยลงเล็กน้อยเมื่อต้องส่งไมค์คืน
ทั้งหกคนก้มหัวก้มลงพร้อมขอบคุณเสียงดังอีกครั้ง ก่อนจะเดินลงเวทีมาด้วยรอยยิ้มกว้างจนจนแก้มจะแตก คนตัวสูงรีบเดินมาประกบเซฮุนทันทีเพราะแยกตัวออกไปคนเดียว
“จะไปไหนน่ะ” มือใหญ่จับเข้าที่ต้นแขนเล็กอย่างเคยชิน ใบหน้าหวานหันมามองคนข้างๆก่อนจะตอบเสียงเรียบ
“เข้าห้องน้ำครับ พี่ตามมาทำไม?”
“นั่นมันประตูหนีไฟแล้วเซฮุนนา” ร่างสูงถอนหายใจเล็กน้อยกับความหลงทิศไม่มีใครเกินของเด็กตัวขาว พร้อมกับดึงให้เดินไปด้วยกันในทางตรงกันข้าม
“อ่อ ฮะๆ ๆ งั้นเหรอครับ” เซฮุนหัวเราะอย่างอายๆ นิ้วเรียวถูกยกขึ้นมาถูแก้มของตัวเองเบาๆแก้เขินก่อนจะบอกให้รุ่นพี่กลับไปหาคนอื่นๆได้เลยเมื่อมาถึงจุดหมาย
“ไม่เป็นไร พี่รอกลับพร้อมเราดีกว่า”
แบบนี้จะปล่อยให้อยู่คนเดียวได้ยังไง..
*
“พี่คิดว่าเคสไอพอดสีแดงหรือสีเทาอันไหนดีกว่ากันครับ?” ใบหน้าคมหันมาหาเสียงเล็กๆที่ดังอยู่ข้างหูทันที ก่อนจะขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ
“นายคิดยังไงมาถามพี่เนี่ย?” รอยยิ้มกว้างประดับอยู่บนริมฝีปากอิ่มพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆเพราะเกรงใจผู้คนในงานประกาศรางวัลMAMA 2012
“ก็ผมเลือกไม่ถูกนี่ สีแดงมันดูเด่นแล้วก็เท่ห์มากๆเลย..” เซฮุนเลียริมฝีปากของตัวเองเล็กน้อยก่อนจะตามด้วยคำพูดยาวๆที่ทำให้ต้องหยุดพักหายใจ
“แต่สีเทาก็สวย มันดูเรียบๆดี ผมชอบนะ” ชานยอลจ้องกลีบปากบางสีชมพูระเรื่อที่ขยับไปมาหลายประโยคกับใบหน้าหวานที่ดูจะเคร่งเครียดไม่น้อยกับการตัดสินใจครั้งนี้
ร่างสูงพยักหน้าน้อยๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เค้าชอบที่จะมองคนตรงหน้าพูดซะมากกว่า..
“พี่คิดว่าไง?” คนถูกถามสะดุ้งเล็กน้อย ใบหน้าที่ยกยิ้มค้างไว้เผลอหลุดหัวเราะออกมาก่อนจะตอบกลับแบบมึนๆเพราะมัวแต่สนใจคนพูดจนลืมจับประเด็น
“สีโอ๊คก็สวยนะ น่ารักดี พี่ชอบ”
“ฮะ?” ใบหน้าเหมือนกำลังติดต่อยานแม่ถูกส่งมาให้ชานยอลอย่างงงๆ
“อ้าว เรากำลังคุยเรื่องสีผมของนายอยู่ไม่ใช่เหรอ” เซฮุนถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะหันไปสนใจการแสดงบนเวทีต่อ
“เปล่าครับ ไม่มีอะไรหรอก” มักเน่ของวงที่เงียบลงทันทีพร้อมใบหน้านิ่งเรียบทำเอาอีกฝ่ายหัวเราะแห้งๆเมื่อรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรผิดไป
“เซฮุนนา..ถามพี่อีกรอบได้มั้ย?”
(ช่องผู้โดยสารขาออก)
ขายาวๆเดินมาประกบคนตัวบางไม่ยอมห่างตั้งแต่มาถึงสนามบินฮ่องกง ริมฝีปากอิ่มพูดขอโทษรัวๆจนเมมเบอร์คนอื่นๆในวงนึกรำคาญแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแค่ส่งสายตาเห็นใจมาให้เท่านั้น
“เซฮุนอย่าเงียบแบบนี้สิ” ร่างสูงมายืนบังหน้าของอีกคนไว้พร้อมใบหน้างอแงเหมือนเด็กเจ็ดขวบที่ไม่ได้ของเล่น
“ผมไม่ได้เงียบ” สายตานิ่งเรียบกับน้ำเสียงเย็นๆทำเอาแบคฮยอนที่ยืนอยู่ใกล้ๆสะดุ้ง คริสที่ยืนห่างออกไปกระตุกยิ้มอย่างนึกขำ เมื่อมักเน่ของวงดูจะมีอำนาจมากขึ้นทุกวัน
เสียงกรี๊ดจากเหล่าแฟนคลับดังขึ้นไม่หยุดยิ่งทำให้รู้สึกกดดันจนน่าอึดอัด คำพูดลอยๆของกลุ่มแฟนคลับหญิงพร้อมการรัวชัตเตอร์ไม่หยุดกระแทกเข้าโสตประสาทของปาร์คชานยอลอย่างจัง
“เซฮุนนี่ไม่สบายเหรอ ทำไมทำหน้างั้นล่ะ”
“น้องหน้านิ่งมากอ่ะแก ไหวมั้ย นูน่าเป็นห่วง”
“เน่เป็นไรรึเปล่าคะ ยิ้มหน่อยน้า”
“กล้องจับอยู่นะ ยิ้มหน่อยสิ” คนตัวสูงเดินเข้ามาใกล้อีกนิดก่อนจะพูดเบาๆเพื่อให้ได้ยินกันแค่สอง
“ผมง่วงครับ ตาจะปิดแล้ว จบนะ” ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่นิ้วสวยกลับกำลังถูไปมาบนจอไอโฟนไม่หยุดพร้อมเสียงเกมส์สุดกวนประสาท
“เซฮุนนา..”
“......”
“หายโกรธนะครับ พี่ขอโทษ” ใบหน้าคมค่อยๆวางลงบนไหล่ลาดบางพร้อมเสียงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู สันจมูกโด่งสูดกลิ่นหอมเฉพาะตัวแสนคุ้นเคยก่อนจะยกยิ้มน้อยๆ
“โกรธ?” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันแทบจะทันที มือเล็กยกขึ้นลูบแผ่นหลังกว้างของอีกคนอย่างเคยชิน
“ก็เราไม่ยอมคุยกับพี่”
“ผมเซ็งๆน่ะครับ”
“หา?” ลมหายใจอุ่นๆที่เป่ามาโดนต้นคอกับน้ำเสียงทุ้มที่ข้างหูทำเอาเซฮุนต้องเบือนหน้าหนีเพราะรู้สึกขนลุก
“มาฮ่องกงทั้งที ยังไม่ได้กินชานมไข่มุกเลย” คนตัวเล็กตอบกลับมาพร้อมริมฝีปากบางที่กดแน่นอย่างขัดใจ
ชานยอลยืนเอ๋อไปซักพักหนึ่งก่อนจะละใบหน้าออกมากจากไหล่บาง มือเรียวจับมักเน่ของวงให้อยู่นิ่งๆแล้วโขกหัวเข้ากับหน้าผากเนียนนั้นเบาๆอย่างหมันเขี้ยว
“ไว้กลับไปพี่จะเลี้ยงชานมเราเอง”
“กินจนเบื่อแล้วครับ..การกินชานมให้ครบทุกประเทศคือความฝันของผม”
“งั้นพี่ค่อยพาเราค่อยมาใหม่ก็ได้” สันจมูกโด่งชนเข้ากับปลายจมูกของอีกคนก่อนจะหัวเราะอย่างชอบใจ ผิดกับเซฮุนที่กำลังทำหน้าง่วงๆแต่กลับยิ้มกว้างจนแก้มแทบแตก
“อย่าลืมทำตามที่พูดนะครับปาร์คชานยอล”
*
เสียงรัวชัตเตอร์ของเหล่าช่างภาพดังขึ้นไม่หยุดภายในงานซึ่งเอ็กโซเคถูกแต่งตั้งให้เป็นทูตแห่ง RCY (Red Cross Youth) ริมฝีปากถูกยกยิ้มค้างเอาไว้หลายนาทีอย่างรู้หน้าที่ก่อนจะถูกสั่งพักเพื่อรอเตรียมพร้อมในการสัมภาษณ์
มือเรียวจับเข้าที่ต้นแขนของน้องเล็กซึ่งยืนอยู่ข้างๆพร้อมแรงบีบเบาๆเพื่อให้อีกฝ่ายหันมาสนใจ
“อย่าเข้าไปใกล้มากนักสิ” ชานยอลพูดเสียงเบาก่อนจะตามด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนตัวบางราวกับเป็นเรื่องตลก
“อะไรของพี่ครับ ฮะๆ ๆ” เซฮุนฉีกยิ้มกว้างอย่างน่ารัก แล้วหันไปหาเลนส์กล้องที่โฟกัสหน้าของตัวเองอยู่นับสิบ
สายตาร้อนรนถูกซ่อนไว้ภายใต้รอยยิ้มสดใสอย่างปิดไม่มิด มือเรียวจับข้อมือบางของอีกคนไว้หลวมๆเพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นจะสามารถดึงเข้ามากอดได้ทันที
เค้าไม่ชอบแฟนบอยที่กำลังทำหน้าตาเจ้าเล่ห์อยู่ตรงแถวหน้าสุดของเซฮุนเลยจริงๆ..
“เซฮุนนี่ ชานยอลโอปป้า กรี๊ดดดดดด”
“บยอนแบคฮยอน ซารังเฮฮ”
“ไคโด้อิสเรียลล จุนมยอนโอปป้า”
เหล่านูน่าจากแฟนไซต์ต่างๆที่ส่งเสียงกรี๊ดไม่หยุด ไม่สามารถทำให้ชานยอลละสายตาไปจากแฟนบอยน่าสงสัยได้เลยแม้แต่น้อย เมื่อมือหยาบนั้นเตรียมยื่นออกมาดึงสายสะพายของคนตัวบางที่กำลังส่งยิ้มให้แฟนๆอยู่ๆ
หมับ
ขาเล็กเซถอยไปข้างหลังทันทีเพราะโดนแรงฉุดตรงข้อมือจากร่างสูง ชานยอลเดินมาบังด้านข้างของเซฮุนไว้ก่อนจะพาเดินออกไปเมื่อเสียงเรียกของพี่สต๊าฟดังขึ้นมาอย่างเหมาะเจาะ
ไม่มีทางให้แตะหรอก..
ริมฝีปากอิ่มกระตุกยิ้มอย่างเหนือกว่า เมื่อใบหน้าของแฟนบอยโรคจิตเหวอไปอย่างเห็นได้ชัดพร้อมกับขบริมฝีปากแน่นอย่างเสียดาย กล้องราคาแพงถูกยกขึ้นมาเปลี่ยนเป็นเลนส์ซูมระยะไกลก่อนจะหันมาที่เด็กตัวขาวข้างๆเค้า
“มีอะไรเหรอครับ?” ดวงตากลมฉายแววงุนงงเล็กน้อย เมื่ออยู่ๆก็โดนดึงออกมาจากวงถ่ายภาพอย่างเร่งรีบ
“เซฮุนนาพาพี่ไปเข้าห้องน้ำหน่อยสิ ไม่ไหวแล้ว”
“เฮ้ อย่าบังสิ!!” แฟนบอยตะโกนขึ้นเสียงดังอย่างหงุดหงิด มือเรียวดึงเซฮุนมาซ้อนไว้ข้างหน้าตัวเองทันที ไหล่กว้างและส่วนสูงที่เหมือนเสาไฟฟ้าบดบังร่างบางจนมิดพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆเพื่อขัดขวางมุมกล้องของบุคคลไม่พึงประสงค์
“อ่อ ครับๆ” มักเน่พยักหน้าเบาๆแล้วสาวเท้าอย่างเร่งรีบเพราะกลัวคนตัวสูงจะทนไม่ไหว ชานยอนกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะหันไปยักคิ้วที่ทำเอาคนเห็นอยากจับใบหน้านั้นมาลูบพื้นรองเท้าซักทีสองที
“นายยืนรอพี่เข้าห้องน้ำหน่อยสิ” ปาร์คชานยอลอยากจะตบปากตัวเองจริงๆที่พูดอะไรปัญญาอ่อนแบบนี้ออกไป..
“ฮะ?” เซฮุนเงยหน้าขึ้นมามองอีกคนทันที คิ้วสวยขมวดเข้าหากันราวกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อกี๊ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไรนัก
“ยืนรอพี่เข้าห้องน้ำ” มือใหญ่ลากคนตัวบางเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่ฟังเสียงบ่นงุ้งงิ้งใดๆทั้งสิ้น
“พี่อายุเท่าไหร่แล้วครับ ไม่เอาน่า”
“ก็มันเงียบนี่ อยู่กันเป็นเพื่อนกันหน่อยนะ นะ นะ” เสียงทุ้มถูกดัดให้เล็กลงแบบที่เจ้าตัวคิดว่าน่ารักอย่างออดอ้อน เซฮุนทำหน้าเหมือนเห็นผีก่อนจะรีบผลักคนเป็นพี่เข้าไปในห้องน้ำเพื่อหยุดเสียงที่คล้ายกระเทยถึกนั้น
“ครับ รู้แล้วครับ รีบๆเข้าเถอะ”
ถ้าไม่ใช่เพราะอยากให้โอเซฮุนอยู่ข้างๆเค้าจะไม่ทำอะไรน่าอายแบบนี้เลยจริงๆ..
ความคิดเห็น