topic : สโตกเกอร์
couple : chanyeol x sehun ft.tao
warning : PG-15 , เกรียน
สวัสดีครับคุณผู้ว่าจ้าง ผมปาร์คชานยอล (ปกปิดเป็นความลับ) โค้ดเนม ชานอ้อย นักศึกษาปีสี่ผู้รอรับปริญญา ช่างภาพอิสระที่ตอนนี้กำลังทำงานพิเศษเป็นนักสืบของบริษัทแห่งหนึ่ง
เงื่อนไขที่คุณต้องการคือ รูปถ่ายจำนวน 320 รูป ของ โอเซฮุน นักเรียนชั้นม.6 ในอิริยาบถต่างๆ ตารางการใช้ชีวิตประจำวัน อุปนิสัยโดยสังเขป และทำการส่งมอบงานภายในเวลา 7 วัน ขอบคุณที่ไว้วางใจบริษัทเราครับ..
ร่างสูงโปร่งในชุดยืดสีครีมทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนแขนสั้นและกางเกงยีนส์สีดำเข้ารูปกำลังยืนพิงผนังเย็นเฉียบในเวลาเจ็ดโมงเช้าของวันจันทร์ที่แสนสดใส มือเรียวหยิบกล้องตัวสวยขนาดไม่ใหญ่มากนักเพื่อลดความสะดุดตาขึ้นมาเช็คดูเลนส์และปรับแสงอย่างเตรียมพร้อม เส้นผมหยิกหยอยสีน้ำตาลเปลือกไม้ถูกดัดให้ตรงแล้วซอยสั้นระต้นคอกับเฮดโฟนสีแดงเลือดหมูอันใหญ่เพื่อปกปิดตัวตน
ขายาวๆก้าวตามเด็กม.6 ไปทันทีเมื่ออีกฝ่ายเดินออกมาจากตัวบ้าน มือเรียวหยิบรูปถ่ายขนาด 4x6 นิ้ว ในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาดูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ก่อนดวงตาสีเข้มจะหรี่ลงเล็กน้อยผ่านช่องมองภาพแล้วรัวชัตเตอร์ลงไปสองสามครั้ง
คนที่เค้ามาตามสืบคือ โอเซฮุน เด็ก 4D หลุดมิติของโรงเรียนเอกชนชื่อดังในกรุงโซล ด้วยความที่หน้าตาดีและโด่งดังข้ามโรงเรียนถึงขนาดมีแฟนเพจของตัวเอง ทำให้มีคนจำนวนไม่น้อยต้องการรู้ถึงตัวตนให้มากขึ้นโดยการรวมเงินกันของเหล่าแฟนคลับมาว่าจ้างสำนักงานนักสืบ
ข้อมูลทั่วไปที่ทางฝ่ายนั้นให้มาคือ ส่วนสูงร้อยแปดสิบเซนติเมตร ลำตัวเพรียวบางเหมือนพวกขาดสารอาหาร หน้าตาคล้ายมักเน่วงเอ็กโซเค ผิวขาดซีดเหมือนกระดาษ จมูกโด่งน่าเอาแก้มเข้าไปชน(?) ริมฝีปากบางสีชมพูสวย ชอบกินชานมไข่มุกแถวสี่แยกหน้าเซเว่น ประมาณนี้...
นิ้วเรียวกดชัตเตอร์ลงไปอีกครั้งพร้อมกับย่อตัวลงไปถ่ายภาพในมุมล่างเมื่ออีกคนก้มลงไปค้นหาของในกระเป๋าเป้ใบสวย ทำเอาคนที่เดินผ่านไปมาสงสัยไม่น้อยกับท่าทางที่ดูแปลกประหลาดนั้น ชานยอลแกล้งตีหน้าเข้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและทำเป็นหันเลนส์กล้องไปทางรังนกบนกิ่งไม้แทน
โอเค.. แบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากสโตกเกอร์นี่หว่า!!
ปาร์คชานยอลไม่น่ารับงานนี้เลยจริงๆ ไอ้การมาตามติดชีวิตคนอื่นคล้ายพวกโรคจิตนี่ไม่เคยมีอยู่ในสมองเขาเลยซักนิด ถ้าไม่ติดว่าทำเลนส์กล้องราคาหลายหมื่นของบริษัทนักสืบนั่นแตกคงไม่ต้องมาทำงานอะไรที่น่าอับอายแบบนี้.. อย่ามองหน้าหล่อๆของกูด้วยสายตาเหมือนเห็นอ้วกหมาแบบนั้นครับ ขอร้อง
จากการขุดสำรวจแฟนเพจของโอเซฮุนมาทำให้รู้มาว่าไอ้เด็กตัวขาวนี่เปลี่ยนสีผมบ่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำตาลหลากหลายโทน สีเขียวแบบต้นสน สีชมพูแกมม่วง หรือสีเทาเหมือนคนแก่ ทุกภาพที่อยู่ในอัลบั้มไม่ว่าจะเป็นหน้าตาตอนกำลังหลุดมิติ อายคอนแทคแบบเอ๋อๆ หรือ ท่าทางแปลกๆเวลาขยับร่างกายล้วนมีจำนวนไลค์สูงแบบไม่น่าเชื่อ
ให้ตาย นี่ยานแม่เอาอะไรให้มันกินวะครับ ทำไมถึงได้ดูดีทะลุทะลวงแบบนี้?
กล่องนมจืดเย็นๆถูกปักหลอดลงไปก่อนจะส่งผ่านผ่านริมฝีปากบางไปยังลำคอระหงส์ ชานยอลรัวชัตเตอร์อย่างเป็นสเต็ปตั้งแต่กลีบปากสีชมพูอ้าออกเล็กน้อยตามด้วยการงับหลอดและกลืนนมสีขาวลงไปอึกใหญ่โดยโฟกัสไปที่ลูกกระเดือกแสนเซ็กซี่นั้น
“แค่ก แค่ก แค่ก” มือเล็กถูกยกขึ้นมาป้องปากตามด้วยเสียงไอเบาๆแล้วยัดลงไปในกางเกงนักเรียนเพื่อบรรเทาความหนาว อาการสูดน้ำมูกเบาๆทำให้รู้โดยทันทีว่าอีกฝ่ายโดนโรคหวัดถามหาเสียแล้ว
อากาศหนาวแต่ไม่ใส่เสื้อกันหนาว หายใจไม่ออกเพราะคัดจมูกแต่ก็ยังสูดน้ำมูกต่อไป กินของเย็นๆเหมือนเป็นเรื่องปกติ
ไอ้นี่มันเป็นพวกซาดิสท์ชอบทรมานตัวเองรึไงวะ?
มือเรียวกำกล่องนมที่ดูดหมดแล้วจนยับยู่ยี่ก่อนจะโยนลงไปในถังขยะข้างทางของร้านปะยางติดกับร้านขายหมูปิ้ง ทั้งที่ถังขยะของทางเทศบาลก็ตั้งอยู่ข้างๆกัน
เพื่ออะไร? ทำไมต้องร้านปะยางวะ อินดี้เหรอ?
ใบหน้าหวานก้มลงมองปลายเท้าของตัวเองพร้อมกับเดินไปบนถนนสายเล็กอย่างเคยชินในเวลาเจ็ดโมงยี่สิบของการเดินทางไปโรงเรียน ชานยอลเม้มริมฝีปากแน่นเพราะแสงแดดที่ย้อนเข้ามาทำให้เห็นใบหน้าหน้าของอีกฝ่ายไม่ชัดนักก่อนจะขยับเข้าไปใกล้อีกนิดเพื่อปรับมุมกล้อง
แดดสีส้มอ่อนสาดลงบนกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายสีแดงยิ่งขับให้ผิวที่ขาวอยู่แล้วสว่างขึ้นไปอีก ลิ้นสีชมพูแลบออกมาเลียริมฝีปากเล็กน้อยพร้อมเปลือกตาที่ใกล้จะปิดเพราะความง่วงนอนเผยให้เห็นแพขนตายาวสวย นิ้วเรียวกดชัตเตอร์นับสิบครั้งอย่างลืมตัวเมื่อเจอภาพในอุดมคติ
อื่อหืออออออออออ สเป็คกูเลยครับ
มือเรียวยีผมสีเปลือกไม้ของตัวเองให้ฟูๆเพื่อเป็นการจัดทรงแล้วหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกกำลังใจ ตอนนี้ปาร์คชานยอลกำลังยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนเอกชนชื่อดังเวลาสิบโมงเช้าที่ข้างในเต็มไปด้วยเด็กม.ปลายอายุน้อยต่างจากคุณลุงผู้เรียนจบแล้วในชุดไปรเวทแบบเขา
กูเข้าใจเหตุผลที่นูน่าแฟนเพจมันไม่มาตามน้องฮุนด้วยตัวเองละครับ..
ขายาวก้าวเข้าไปอย่างมั่นใจท่ามกลางสายตาจำนวนมากที่จ้องมองมาก่อนจะโค้งตัวให้อาจารย์ที่เดินผ่านมาอย่างสุภาพเสมือนศิษย์เก่าที่จบไปแล้วกลับมาเยี่ยมโรงเรียนด้วยความคิดถึง โดยไม่ลืมจะเก็บภาพสถานที่ซึ่งเดินผ่านเอาไว้เป็นที่ระลึก
ขอโทษครับ พอดีกูจบโรงเรียนรัฐบาลชายล้วนข้างๆเนี่ย
ดวงตาเรียวเริ่มมองหาเด็กตัวขาวทันทีเมื่อการแอ๊บหน้าให้ตึงๆเหมือนนักศึกษาปีสองผู้รักโรงเรียนทำให้ดูไม่เป็นที่น่าสงสัยมากนัก คือรู้ว่าตัวเองแก่สุดพวกมึงเลิกมองกันได้แล้ว กูอายเป็นครับ
“พี่เซฮุนได้โควตาแพทย์มหาลัย M แหละแก อร๊ายยยยยยย”
“หล่อแล้วยังเรียนเก่งอีก โอ้ยย พ่อของลูกกูอ่ะ”
เสียงแหลมๆของเด็กสาวเป็นชื่อบุคคลที่กำลังตามหากระทบเข้ากับหูกางๆโดยปราศจากเฮดโฟนเรียกความสนใจได้เป็นอย่างดี ชานยอลเดินเข้าไปใกล้ต้นเสียงอีกนิดก่อนจะจดเนื้อหาที่น่าสนใจลงบนสมุดโน้ตเล่มเล็ก
“แต่พี่แกสละสิทธิ์ไปแล้วอ่ะ เห็นบอกอยากได้วิศวะมหาลัย K” โอ้ มหาลัยเดียวกับกูเลยครับ
“หน้าสวยๆตัวบางๆงี้คิดยังไงเรียนวิศวะวะแก แพทย์ดีกว่าเหอะ” เออ ก็ถูกของน้องเค้านะ
“ฉันก็สงสัยแกเลยไปถามมาเรียบร้อยแล้ว ผู้ชายอะไรตัวโคตรหอม กูจะบ้าตาย”
“กรี๊ดดดดดดดด จริงดิ พี่แกว่าไงบ้าง ฮืออ กูอยากได้กลิ่นบ้างอะไรบ้าง” สองคนนี้อาการหนักมากเหอะครับ..
“มึงเอาไปฟังเองละกัน ฟินเหี้ยมาก” หญิงสาวส่งไอโฟนเครื่องสวยไปให้เพื่อนแล้วกัดปากตัวเองเพื่อระงับเสียงกรี๊ด
“มึงอย่าพูดงี้ดิ กูมือสั่นนะ” นิ้วเรียวยัดหูฟังทั้งสองข้างใส่หูอย่างเร่งรีบก่อนจะกดลงบนปุ่มเพลย์ทันที พร้อมเสียงหวานแหบๆเหมือนกระซิบที่ดังขึ้นมาไม่กี่วินาที..
“มึงง อิเหี้ยยยยยย กรี๊ดดดดดดดดดด ชีวิตพังเหอะ” เพื่อนสนิทตัวสั่นไม่หยุดด้วยใบหน้าคล้ายจะร้องไห้
“โอ้ยย กูฟังเป็นรอบที่หมื่นแล้ว โคตรพ่อโคตรแม่ฟินน”
อ้าว ชิปเดล แล้วกูจะรู้มัยครับว่ามันพูดว่าอะไร นี่เป็นงานเป็นงานนะ ฟายเย่อร์
“ทำงี้แ-ม่งเอามีดมาปาดคอเลยดีกว่า พูดมาได้ไง อ่อยกูมากกก(?)
‘พี่อยากได้เฟืองเกียร์ครับ มันเท่ดี’ ”
“พ่อ-มึง กูจะไปขโมย กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด”
*เกียร์ของชาววิศวะนั้นเปรียบเสมือนหัวใจของคนๆนั้น ซึ่งจะได้รับมาเพียงอันเดียวในชีวิต*
เดี๋ยวนะ อยากได้เกียร์วิศวะ? สี่ปีที่แสนยากลำบากมันต้องการแค่เกียร์วิศวะ? เป้าหมายในชีวิตมึงอยู่ไหน บอกกูทีครับ มึงเอามันไปไว้ที่ไหนน
“แค่ก แค่ก แค่ก แค่ก” เสียงไอค่อกแค่กดังขึ้นเป็นรอบที่ร้อยของวันนับจากเช้าวันจันทร์ที่แสนสดใสจนถึงเวลาบ่ายของวันซึ่งอุณหภูมิต่ำจนเกือบติดลบ
ร่างสูงโปร่งยืนหลบอยู่หลังเสาต้นใหญ่บริเวณใต้ตึกเรียนที่มีโต๊ะไม้สีเข้มวางกระจายไว้เป็นกลุ่มๆเพื่อให้นักเรียนได้ใช้ประโยชน์
ใบหน้าหวานกดลงท่อนแขนเปลือยเปล่าแล้วถูไปมาอย่างรู้สึกรำคาญอาการหวัดนี้
“ตอนบ่ายขึ้นเรียนมั้ยเซฮุนนา” เสียงของชายร่างสูงหน้าตาคมเข้มดังขึ้นเป็นภาษาเกาหลีแบบแปล่งๆเรียกอีกคนที่นอนฟุบอยู่บนโต๊ะเงยหน้าขึ้นมามอง
“คงไม่หรอก จื่อเทาอาขอยืมเสื้อกันหนาวหน่อย” แขนเล็กของคนตัวขาวเกี่ยวเข้าที่เอวของเจ้าของชื่อทันทีด้วยน้ำเสียงออดอ้อน นิ้วเรียวเผลอกระแทกลงบนปุ่มกดชัตเตอร์อย่างลืมตัวก่อนจะหมุนเลนส์ซูมเข้าไปใกล้ๆเพื่อให้เห็นท่าทางน่ารักนั่นชัดๆ
ไอ้เด็กตาคมที่ชื่อจื่อเทาคือคนที่มักจะเจอรูปในแฟนเพจคู่กับโอเซฮุนเสมอ ข้อมูลพื้นฐานบอกว่าเป็นเด็กที่ย้ายมาจากประเทศจีนและควบตำแหน่งเพื่อนสนิทไปพร้อมกัน แถมดูเหมือนเด็ก 4D เวลาเจอเพื่อนคนนี้จะมีนิสัยขี้อ้อนเพิ่มขึ้นอีก 20% ด้วย
กูควรอิจฉามึงดีป่ะครับ หวงจื่อเทา?
“อากาศหนาวขนาดนี้ถ้าเป็นหวัดขึ้นมาจะโกรธจริงๆนะ” เทาพูดเสียงเข้มแกมตำหนิแต่ก็ยอมยื่นเสื้อกันหนาวในมือให้อีกฝ่ายแต่โดยดี ที่จริงก็ตั้งใจจะเอามาให้นั่นแหละ
“ไม่เป็นแน่นอน สบายมาก จื่อเทาจะเลือกแพทย์มหาลัย M เหรอ? ” รอยยิ้มหวานวาดขึ้นมาบนริมฝีปากบางสวยทันทีอย่างน่ารักเพื่อไม่ให้เพื่อนเป็นห่วง
ขายาวๆถูกย่อลงบนพื้นหินทรายล้างด้วยความรวดเร็วก่อนจะปรับโหมดให้เข้ากับสภาพแสงน้อยของบริเวณนี้แล้วรัวชัตเตอร์ลงไปแบบไม่คิดชีวิต ไม่น่าเชื่อว่าในหนึ่งวันเขาจะเก็บรูปของโอเซฮุนไปไม่ต่ำกว่าร้อยรูป เอาจริงๆคือนิ้วมันกดลงไปเองโดยที่สมองยังไม่สั่งด้วยซ้ำ
ไอ้เด็กบ้านี่มันเล่นของรึเปล่าวะ ถ่ายออกมายังไง มุมไหน โหมดไหน แ-ม่งดูดีหมดเลย เลนส์กูจะแตกวันละหลายๆรอบ
“คงอย่างงั้นแหละ อุตส่าห์ได้โควตาทั้งที”
“แต่เรียนวิศวะเท่มากเลยนา หล่อกระชากตับนูน่าเหอะ”
“เรียนหมอก็หล่อเหมือนกันนั่นแหละ”
“โด่วววว จื่อเทาไม่ฟินเลย ลองคิดภาพโอเซฮุนตอนใส่เสื้อคณะดูดิ จ๊าบสุด!”
“โอเคๆ เรียนวิศวะอ่ะดีแล้ว หล่อมากกกก” เพื่อนสนิทหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยีหัวเซฮุนที่กำลังยักคิ้วมาให้อย่างหมันเขี้ยว
ชานยอลยืนอ้าปากค้างพร้อมกับแดกจุดจำนวนมากไปหลายวินาที ไม่ว่าจะเป็นความคิดหรือลักษณะนิสัยของเด็กตัวขาวล้วนอยู่นอกเหนือการคำนวณของเขาทั้งหมด
โอเซฮุนคือสิ่งที่มีชีวิตที่ไม่สามรถเข้าใจได้ ผมพูดเลย
เสียงสูดน้ำมูกดังขึ้นไม่หยุดระหว่างการเดินทางไปโรงเรียนของโอเซฮุนในวันพุธ ลมหายใจอุ่นพ่นออกมาจากริมฝีปากบางเป็นควันขาวๆก่อนจะกระชับสายกระเป๋าสะพายให้แน่นขึ้นราวกับว่ามันจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้
นิ้วเรียวกดชัตเตอร์ไปเรื่อยๆอย่างรู้หน้าที่แต่ทว่าใบหน้าหล่อคมกลับไม่ยกยิ้มตามไปด้วยเหมือนทุกครั้งเมื่อภาพของคนในจอดูจะซีดเซียวผิดปกติ ทำให้เค้าไม่มีสมาธิอย่างน่าประหลาด
เสื้อกันหนาวก็ไม่ยอมใส่ ยาก็ไม่ยอมกิน ถึงได้เป็นหนักแบบนี้ไงไอ้เด็กโดนยานแม่ทิ้ง
“แค่ก แค่ก แค่ก แค่ก” ขาเล็กหยุดเดินไปชั่วขณะพร้อมกับไอจนตัวโยนตามด้วยการหอบหายใจหนักๆเพื่อเอาออกซิเจนเข้าปอด บนหัวสีน้ำตาลเข้มประกายแดงนั้นเหมือนมีนาฬิกานับถอยหลังเวลาน็อคอยู่ไม่เกิน 3 ชั่วโมง
มือที่ถือกล้องอยู่สั่นไปมาจนโฟกัสภาพไม่ชัดเพราะความกระวนกระวาย
โว้ยยยยย กูจะต้องไปซื้อยาแก้หวัดมาให้มันเดี๋ยวนี้!
โคตรเยี่ยม เยี่ยมมาก วันนี้ว่าที่คุณหมอหวงจื่อเทาไม่มาโรงเรียนเหลือเพียงเด็กดื้อที่นอนฟุบอยู่บนโต๊ะไม้ที่ประจำในเวลาเที่ยงเท่านั้น ถุงพลาสติกใบเล็กที่ข้างในบรรจุยาสองสามชนิดจากร้านเภสัชกรยังคงอยู่ในมือของเขาไม่ไปไหน
จะฝากรุ่นน้องไปให้ก็ไม่รู้จะบอกยังไง เป็นคนรู้จักก็ไม่ใช่ หน้าตาหล่อๆแบบนี้เดี๋ยวโดนหาว่าเป็นโจรอีก(?) เผลอๆอาจรู้ด้วยว่าเขาเป็นพวกโรคจิตที่กำลังสะกดรอยตามน้องฮุนของนูน่าทั้งหลายอยู่
แล้วกูจะฝากใครไปให้อะไรยังไงวะครับ ฟหกดเสวงผปอืทมใฝ
...สรุป คือกูต้องเอาไปให้เอง...
มือเรียวจัดการเก็บกล้องตัวสวยลงในกระเป๋าเป้ทันทีก่อนจะหยิบไอโฟนห้าขึ้นมาปรับเป็นโหมดวิดีโอแล้วยัดใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตด้านหน้า แล้วพาขาตัวเองไปหาคนที่กำลังฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะอย่างกล้าๆกลัวๆ ขอบคุณความยาวของมันที่ทำให้กล้องโผล่พ้นขอบกระเป๋าออกมาจริงๆ (กูเพิ่งเห็นมันเป็นประโยชน์ก็วันนี้แหละ)
“เอ่อ..น้องเซฮุนรึเปล่าครับ?” ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงทุ้มที่ไม่คุ้นหู ผิวขาวๆไร้รอยขีดข่วนรับกับดวงตาสีดำเข้มและริมฝีปากบางสีสดได้เป็นอย่างดี
HD มากครับมึง โคตรแสบตาเหอะ ถ้ากล้องกูแตกจะทำยังไง?
“อ่า...ครับ พี่เอ่อ..?” มือเล็กยกขึ้นมาขยี้ตาน้อยๆพร้อมกับเสียงหวานแหบพร่าที่เป็นผลกระทบมาจากโรคหวัดด้วยใบหน้าง่วงนอน
“พอดีพี่เจอคุณแม่น้องที่หน้าโรงเรียนน่ะ เค้าฝากของมาให้” ชานยอลส่งถุงพลาสติกในมือไปให้อีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มบางๆ ดูหน้ากูนะครับ ดูหน้ากู ห้ามถามหรืออะไรใดๆทั้งสิ้น..
“หือ..อา ขอบคุณนะครับ” เซฮุนแกะถุงที่ได้รับมาด้วยสีหน้างงๆก่อนจะพบกับเม็ดแคปซูลหลากหลายสีแสนคุ้นเคยในทุกช่วงฤดูหนาว ริมฝีปากบางวาดรอยยิ้มหวานออกมาแล้วกล่าวขอบคุณอย่างน่ารัก
“คุณแม่น่าจะโทรหาผมนะครับ ไม่น่าลำบากพี่ชายเลย...ท่านได้ฝากอะไรมาบอกรึเปล่าครับ?”
ชิปเดลแล้วครับ ปาร์คชานยอลแ-ม่งมั่วเองหมดเลยกูเมคเองหมดเลย แล้วคุณแม่น้องจะฝากอะไรกูมาบอกดีวะ?!
“อ่อ.. ท่านฝากมาบอกว่าให้กินยาแล้วพักผ่อนซะ ถ้าไม่ไหวให้รีบกลับมาบ้านเลย” เซฮุนพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเทยาในซองออกมาใส่มือขาวแล้วมองหาอะไรบางอย่าง
“ถ้าไม่รังเกียจ พี่มีน้ำเปล่านะครับเอามั้ย?” มือใหญ่หยิบขวดน้ำขนาด 600 ml. ออกมาจากกระเป๋าโดยที่อีกคนรับไปแทบจะในทันที ทั้งที่มันเหลืออยู่แค่ครึ่งขวด
คือกูเป็นคนแปลกหน้าไม่ใช่เหรอ มึงทำงี้มันถูกต้องแล้วเหรอ ระแวงกันซักนิดเหอะครับ กูขอ
“ไม่รังเกียจครับ ขอบคุณมาก” ปากขวดจรดเข้าที่ริมฝีปากนุ่มช้าๆก่อนจะส่งผ่านลงไปในลำคอระหงส์พร้อมเม็ดยาสองสามเม็ด ต้นคอขาวๆกับใบหน้าหวานที่เชิดขึ้นพร้อมดวงตาปรือปรอยทำให้เค้าอยากจะเอากล้องในกระเป๋าออกมากดรัวชัตเตอร์ใจแทบขาด ยิ่งน้ำที่ไหลออกมาตามมุมปากนี่แบบ..
อิป้าเจ้าของแฟนเพจอิจฉากูแน่ครับ... นี่ยังไม่นับรวมเสียงกระดกน้ำกับกลิ่นหอมเฉพาะตัวและมือนุ่มๆที่กูได้สัมผัสนะ.. พูดได้คำเดียวเลย
ปาร์คชานยอลแ-ม่งคุ้มสัส
“นอนพักซะนะครับ เดี๋ยวพี่นั่งอยู่เป็นเพื่อนเอง”
“ขอบคุณมากนะครับ ถ้าพี่จะกลับแล้วยังไงฝากปลุกผมหน่อย...” เสียงหวานเงียบลงไปทันทีที่วางหัวทุยสวยลงไปบนท่อนแขน ลมหายใจสม่ำเสมอกับเปลือกตาบางที่หลับพริ้มเพราะฤทธิ์ของยาเรียกรอยยิ้มบนปากของชานยอลได้เป็นอย่างดี
เดี๋ยว.. คือกูเป็นนักสืบไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมต้องมาเดือดเนื้อร้อนใจเรื่องแบบนี้ด้วยวะ? ดูแลเด็กนี่ใช่หน้าที่มั้ย กูทำอะไรลงไปวะครับ ฟัคคคคคคค
ขอบคุณวันศุกร์ที่มาถึงเร็วแบบนี้ครับ ในที่สุดกูก็จะได้หลุดพ้นจากงานพิเศษอันแสนโรคจิตนี้ซักที มันเป็นเรื่องน่าอนาถใจมากจริงๆ เพราะตอนที่ผมเอารูปไปอัดที่ร้านดันโดนนูน่ามองด้วยสายตาแปลกๆ นางมองหน้าผมสลับกับรูปในเมมโมรี่ก่อนจะเอ่ยวาจาที่ทำให้ผมปวดตับ(?)
‘น้องคะ พี่ขออัดเก็บไว้เองด้วยได้มั้ย เซฮุนนาโฟโต้บุ๊คคือความฝันของพี่’
อื่อหืออออ ชัดเลย นูน่าเด็ก 4D โอเซฮุนมันอีกแล้วครับ นี่โดนถามมาหลายร้านแล้วจริงๆ แต่คนละนี่คือถ้าทำได้คงแดกกล้องกูเข้าไปแล้ว ไอ้เด็กติดยานแม่เป็นบุคคลที่ทำให้ชีวิตผมโคตรไม่ปลอดภัยจริงจัง ณ จุดนี้ ถ้าไม่ติดว่าโดนจ้างมาผมคงจะแบ่งรูปไปให้บ้างแต่คิดค่าอายแบบเบาๆเป็นการหารายได้ประทังชีวิต
และด้วยความที่หวงเครดิตมากผมเลยต้องหอบกล้องและเมมโมรี่ของตัวเองกลับไปร้านโฟโต้ของที่บ้านซึ่งอยู่ไกลออกไปแถบชานเมืองอย่างยากลำบากกว่าจะได้กลับก็เที่ยงวันพอดี
กล้องตัวใหญ่ที่มีความละเอียดสูงถูกยกออกมาอย่างทะนุถนอมก่อนจะกดชัตเตอร์ลงสองสามรอบเมื่อร่างโปร่งบางเดินออกมาจากบ้านในชุดเสื้อยืดสีเหลืองอ่อนและกางเกงยีนส์สีเข้มในเวลาบ่ายสองเพราะไม่ได้ไปโรงเรียนตามที่ข้อมูลพื้นฐานได้บอกมาว่าเด็กตัวขาวจะชอบหยุดเรียนทุกวันที่ 7 14 21 และ 28 ของเดือน
ขายาวเดินอาดๆไปที่ร้านชานมไข่มุกแถวสี่แยกใกล้เซเว่นอย่างเคยชินด้วยหน้าตาง่วงนอนก่อนดวงตากลมจะเบิกกว้างทันทีเมื่อมาถึงที่หมาย เสียงที่เคยแหบพร่าดูสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัดพร้อมริมฝีปากบางที่แต่งแต้มไปด้วยสีชมพูสดแบบคนสุขภาพดี ทำเอาชานยอลเผลอยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี
“ขอชานมไข่มุกสองแก้วครับ รสช็อกโกแลต” รอยยิ้มหวานที่วาดขึ้นมาเล็กน้อยตรงมุมปากถูกเก็บไว้ในกล้องคู่ใจอย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องคิดเมื่อเห็นเขี้ยวเล็กๆสีขาวนั้นโผล่ออกมาด้วย
ภาพของเด็กตัวขาวในจอขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนเค้ารู้สึกงงทั้งที่ไม่หมุนซูมเข้าไปใกล้เหมือนทุกที ใบหน้าขาวใสที่คุ้นเคยมาตลอดหลายวันกำลังขยับเข้ามาใกล้พร้อมชานมไข่มุกสองแก้วในมือและเดินตรงมาที่หน้าเลนส์ของเขา
มือเรียวค่อยๆลดกล้องในมือลงเพราะระยะห่างที่ไม่ต้องอาศัยออพติเคิลซูมอีกต่อไป ใบหน้าหล่อคมที่ถูกบดบังด้วยแว่นกรองแสงเหวอออกอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมือบางของอีกคนยื่นแก้วชานมไข่มุกมาให้ด้วยรอยยิ้มกว้าง
มือชื้นเหงื่อที่กำเข้าหากันแน่นและเสียงหัวใจเต้นถี่รัวจนรู้สึกรำคาญไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นนอกจากความคิดในหัวสมองที่ตีกันมากไปกว่าเดิม
กูขอแดกแฟ้บแล้วตายตอนนี้เลยได้ป่ะครับ..
“เหนื่อยหน่อยนะครับ พี่ชานยอล”
B ♔ W
ความคิดเห็น