Fic good bay:-) [อำลาเพื่อนป.6] - Fic good bay:-) [อำลาเพื่อนป.6] นิยาย Fic good bay:-) [อำลาเพื่อนป.6] : Dek-D.com - Writer

    Fic good bay:-) [อำลาเพื่อนป.6]

    ผู้เข้าชมรวม

    162

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    162

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 พ.ย. 59 / 19:10 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     good bay:-)

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปคนจับมือกัน

    ...เบื้องหน้าฉันนั้นมีแต่ความว่างเปล่า...
    ...เป็นสิ่งที่อ้างว้างและโดดเดี่ยว อย่างที่ฉันชินชา...
    ...แต่ครั้งนี้กลับแปลกไป...
    ...มันไม่ใช่ความโดดเดี่ยวที่ฉันคุ้นเคย...
    ...มันราวกับว่าฉันกำลัง 'เสียสิ่งสำคัญ' ไปเพียงหนึ่งอย่าง...
    ...ไม่! ไม่นะ!! อย่าเข้ามา! ฉันไม่เอาแบบนี้!!!...
    ไม่!!!
         'เพื่อน'
    ฉันคิดมาตลอดเสมอว่ามันไม่จำเป็นหรอก การที่จะมีเพื่อนนั้นเปรียบดั่งเหมือน 'ทำร้ายตัวเอง' ยิ่งสนิทเท่าไหร่...ยิ่งดีกันมากเท่าไหร่...ยิ่งทำลายตัวเองมากขึ้นเท่านั้น แต่ก่อนฉันก็เคยอยากมีเพื่อนนะ และเคยมีเยอะด้วย แล้วไงล่ะ พอจบป.เท่านั้นล่ะ ความสัมพันธ์ซึ่งเป็นเส้นดายเส้นแดงถูกตัดออกทันที พวกเขาทิ้งฉันไป... พวกเขาทำร้ายฉัน พวกเขาเดินไปทางของตัวเอง โดยที่ไม่แลเหลียวมาทางด้านหลัง

    อะไรนั่น...ความมืดมันเริ่มเกราะกุมจิตใจของฉันแล้วหรือ?

    ตั้งแต่นั้นมาฉันปิดกั้นตัวเองตลอดเวลา ส่งยิ้มลวงๆให้คนผู้โง่เขลาไม่เคยสังเกตมันเลย ฉันน่ะยิ้มนะ...ยิ้มตลอดเวลา ที่ไหนก็ยิ้ม แม้ตอนแรกๆนั้นจะไม่ยิ้มเลยก็ตามและมันจะมีคำถามมาตลอดว่า 'ทำไมไม่ยิ้มล่ะ' มันเริ่มวนเวียนอยู่รอบตัวจนน่ารำคาญ ฉันพอรู้นะว่าคน 'ยิ้มลวง' มันเป็นยังไง เขายิ้มเพราะอะไร? ทำไมต้องยิ้ม

    กระทั่งฉันขึ้นป.4...

    ฉันคิดว่าพอเรียนจบก็แยกกันเหมือนเดิม...ก็เป็นแบบนี้เหมือนเดิม

    แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าต้องอยู่ร่วมหายใจไปยันป.6!!!

    ตั้งแต่ฉันรู้ว่าต้องอยู่กับพวกเขา3ปี ก็เริ่มรู้สึกหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเขามักจะมาอยู่ข้างกายฉันเสมอ เสียงร้องเฮฮาน่ารำคาญยังก้องให้สมอง เสียงตะโกนสั่งให้เงียบหลายครั้งต่อหลายหน เวลาพวกนั้นฉันแทบไม่ได้ใส่ใจกับมัน แต่สิ่งเดียวที่ฉันสน

    กำแพงล่ะ...มันทลายลงยัง? มันยังพอที่จะสร้างกั้นความรู้สึกพวกนั้นได้มั้ย?

    เวลาพวกนั้นฉันครวญหาแต่วันปัจฉิม รอเพียงวันนั้นมาถึง...แต่มันช่างเนิ่นนานเหลือเกิน เนิ่นนานจนฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองยังยื่นยีนอยู่เคียงข้าง 'ความมืด' อยู่หรือไม่...มักจะมีคนบอกว่าฉันไม่มีความรู้สึก ไม่เคยโกรธ? ฮะๆ ฮ่าๆๆ ฉันตลกกับคำถามพวกนั้นเหลือเกิน ให้ตายสิ! ฮ่าๆๆ ความร้สึกพวกนั้นน่ะฉันแค่เก็บไว้ส่วนหนึ่งใต้ลึกของจิตใจ และจะไม่มีวันไขมันออกมาเด็ดขาด

    หากทันทีที่ฉันไขมันออกมา...

    ความทุกข์ความเศร้าความเหงา ความเดี่ยวดายมันก็จะออกมาด้วยนะสิ...

    เมื่อใกล้เวลาอันควรที่จะถึงวันปัจฉิม...ฉันเลยตั้งคำถามกับเพื่อนๆ ไม่สิ...คนรู้จักต่างหาก

    'นี่ ถ้าทุกคนในห้องหายไปล่ะ จะทำยังไง?'

    'ก็ปกติธรรมดา'

    'ดีใจสิ'

    'ก็ทำอะไรได้ตามสบาย'

    'ดีจะตาย ถ้าหายไปได้'

    'ดีจะตาย ถ้าหายไปได้'

    'ดีจะตาย ถ้าหายไปได้'

    'ดีจะตาย ถ้าหายไปได้'

         โกหกทั้งเพ...
    แล้วสิ่งที่ฉันเห็นมันคืออะไรล่ะ? คนยิ้มดีใจหรือไง น้ำตาของคนต่อคนที่ตอบคำถามไหลเป็นทางยาว กอดเพื่อนรักด้วยหยาดน้ำตา เสียงร้องด้วยความโศกเศร้าดังก้องกังวาลจนไม่ใช่งานที่ทุกคนมีความสุข แววตาของทุกคนส่องสะท้อนความความเศร้า ความรัก ที่มีต่อเพื่อน แววตาของทุกคนบอก....ยกเว้นฉัน ที่ยังยื่นนิ่งมองภาพเบื้องหน้าด้วยแววตาราบเรียบ

    ฉันเกลียดมัน...

    ฉันเกลียดความรัก...

    ฉันรังเกียจความผูกพันธ์...

    ฉันชังความอ่อนแอ...

    หัวใจฉันจึงปราศจากพวกมันโดยสิ้นเชิง...

    ทำไมน่ะเหรอ...แล้วไม่คิดบ้างเหรอว่า ยังไงก็ต้องตาย
    'ความตายทำลายทุกสิ่ง'
    'ความตายพรากทุกอย่าง'
    'ความตายคือความจริงที่แสนโหดร้าย'
    ...
    'ความรักจะมีไว้เพื่ออะไร?'
    'ความรักจะมีไว้ทำไม?'
    'เพราะยังไงความตายก็'พราก'มันไปจากเราอยู่ดี'
    ...
    'ความหวังทำไมต้องมีมันไว้?'
    'ความหวังทำไมต้องพึ่งมัน'
    'เพราะยังไงพอ'ตาย'ไปแล้วมันก็จะถูก'ทำลาย'เสียเอง'
    ...
    ...ฉันคนหนึ่งซึ่งไม่เคยรักใคร...
    ...ฉันคนหนึ่งซึ่งไม่คิดจะรักใคร...
    ...ฉันคนหนึ่งที่ยื่นรอเพียง'ความตาย'เข้ามา...
    ...พราก'ความอ้างว้าง'...และทำลาย'ความเหงา'ออกไป...
    ส่วน 'ชีวิต' น่ะ คือ 'ความลวง' อันแสนสุขไง:-)

    และสิ่งที่ฉันรังเกียจ มันกำลังโจมตีฉัน...

    ฉันกำลังใจหายงั้นเหรอ...?

    เวลากำลังพรากทุกอย่างไปจากฉัน...

    เบื้องหน้าฉันมันไม่เหลือใครเลย...มันไร้ผู้คนโดยสิ้นเชิง...มันว่างเปล่า...มัน...

    เงียบเหงาจนน่ากลัว...

    ห้องเรียนที่ควรมีเสียงหัวเราะ...บัดนี้กลับเงียบสงัด

    ห้องเรียนที่ควรมีเก้าอี้นังรอครู..บัดนี้กลับไม่มีสักตัว

    ห้องเรียนที่ควรมี...ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า...บัดนี้กลับ

    ไม่เหลือใคร...

    ฉันต้องการอะไร...?

    ฉันมาที่นี่ทำไม...?

    ฉันต้องการความสุข ความอบอุ่น งั้นเหรอ? ฉันต้องการให้ทุกคนกลับมานั่งกันพร้อมหน้างั้นเหรอ?

    รู้สึกน่าสมเพชรเป็นบ้า...ไม่แล้ว...ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว...มันไม่ใช่ที่ที่ฉันและ 'พวกเขา' ควรอยู่อีกแล้ว

    ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว...

    ...

    ทางเดินนั้น...

    สายตาของฉันจดจ้องไปทางเดินซึ่งอยู่งข้าหลังของเวทีเกียรติยศ เวทีที่จะมีคนมารับรางวัล แน่นอนว่ามีห้องฉันด้วย...แหะๆ นึกถึงตอนนั้นแล้ว

    ก็เสียดายตอนนี้นะ...ที่จะไม่มีคนนำห้องอีกแล้ว

    พวกเขาคงทางของพวกเขาแล้ว...และไม่มีทางที่จะหวนกลับมาอีก 

    ฉันเคยถามพี่หลายคนนะว่าปัมฉิม มันจำเป็นต้องเศร้าขนาดนี้เลยเหรอ? และคำตอบมักจะบอกว่า 'เศร้าสิ' และจะลงท้ายด้วยสิ่งที่ขานรับว่า 'อือ' จากฉันเอง น่าแปลกนะที่หลาคนร้องให้ ส่วนน้อยดีใจ แล้วฉันล่ะ...ควรดีใจใช่มั้ย บอกฉันที บอกที..

    ใครก็ได้บอกที...

    ทำไมขอบตาฉันร้อนผ่าวแบบนี้...ภาพเบื้องหน้ามันพร่ามัวจนมองไม่เห็นเส้นทาง ไม่...หรือว่ามัน

    น้ำตา...

    "โธ่เว้ย!!!"

    เป็นครั้งแรกในรอบปีที่ฉันโกรธแบบนี้ มือหนาชกลงบนพื้นอย่างไม่ใส่ใจว่ามือข้างนั้นจะเกิดอะไรขึ้น แล้วก็ทำมันซ้ำๆจนพื้นผิวเห็นเป็นรอยเลือดที่ฉาบไว้

    ชกครั้งที่1 ฉันไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไร รู้สึกอย่างไร

    ชกครั้งที่2 ฉันอยากให้ความเจ็บปวดมาแทรกซึมแทนคามรู้สึกบ้าๆนี่

    ชกครั้งที่3 ฉันอยากห้ามน้ำตาไว้แต่ทำมันไม่ได้

    ฉันมันน่าสมเพรช...

    "จะทำอะไรน่ะ!! ชกพื้นทำไม! หยุด!!!"

    เสียงตะโกนของคนหนึ่งซึ่งฉันคุ้นเคย ทำให้หมัดที่จะกระแทกพื้นครั้งที่สี่หยุดลง ดวงตากลมตวัดไปมองทางต้นเสียง ร่างของเพื่อนๆทุกคนเริ่มแหเข้ามามุงดู ไม่รอช้าพวกเขารีบเข้ามาจับแขนฉันไว้ด้วยสีหน้าตื่นตะหนัก ไม่เ้นแม้แต่ชายหญิงก็เข้ามารุมล้อม พอมองกลับไปอีกที

    พวกเขา...

    เพี๊ยะ!!!

    แรงสะบัดออกทำให้คนให้ไปมอง สายตานับสิบมองมาทางฉันอย่างไม่เข้าใจ พวกเขาไม่เคยเข้าใจอะไรเลย!! และไม่เคยเข้าใจ!!!

    พอกันที!! เลิกทำแบบนี้ซักที!

    ร่างฉันเริ่มวิ่ง วิ่งสิ...ฉันต้องวิ่ง วิ่งให้ไกลมากที่สุด มากจนอย่าได้หวนกลับมาเจอกันอีก พวกเขามันปีศาจ พวกเขานั้น...

    ทำให้ฉันเป็นแบบนี้...

    เพราะแบบนี้ไงล่ะฉันถึงเกลียดการจากลา...

    ฉันเกลียดที่สุด...สิ่งพวกนี้...เกลียดมันที่สุด!!!

    "อ๊ะ"

    ทำไม...ฉันมาอยู่ตรงนี้ได้

    ท่ามกลางความมืดมิด รอบกายมันเต็มได้วยปีศาจดวงตาของพวกมันส่องประกายพร้อมจะกลืนกินฉันตลอดเวลา มือของฉันจับเพียงกิ่งไม้ไว้ หากปล่อยล่ะก็...นะ

    ตายแน่ๆ...

    ฉันมักมีคำถามาเสมอว่าทำไมถึงยามขับคันนางเอกต้องขอให้พระเอกมาช่วยตน ถ้านางเอกร้องให้ช่วยก็แสดงว่า รอบกายนั้นมีแต่สิ่งเลวร้า แต่นางเอกยังให้พระเอกก้าวเข้าไปช่วย บ้าหรือเปล่า...? บอกว่ารัก แต่ขอให้ช่วย...ถ้าตรงนั้นมีปีศาจก็ะขอให้ช่วยสินะ

    นี่ล่ะน้าสันดานมนุษย์...

    วงใบหน้าเรียวมุมปากแสยะยิ้มออกมา มือที่จับกิ่งไว้ปล่อยออกมาทิ้งให้ร่างตกลงมาตามแรง 

    สำหรับฉัน 'ความตาย' คือ 'จุดจบ'

    หมับ!

    มือใครน่ะ!!

    มีคนจับแขนฉันเอาไว้! ใคร!!

    "ปล่อย!"

    ฉันตวาดลั่นพลางดิ้นสุดชีวิต ให้หลุดพ้นจากมือของใครบางคนซึ่งกำลังกำแขนฉันเอาไว้ด้วยแรงมหาศาล เขากำไม่ยอมปล่อยจนฉันมองอย่างเขม็ง

    "เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนสิ"

    "ไม่ต้องการ!"

    "...จริงๆแล้วถ้าลืมตาขึ้นมาอีกที แล้วลองคิดใหม่ซะนะ อาจมีความสุขมากกว่าความตายด้วยซ้ำ"

    ...

    "ตื่นได้แล้ว! จะนอนไปถึงไหนกัน!!"

    เฮือก!

    ฉันลืมตาขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงตะคอกของแม่ อะไรกัน...ฝันเหรอ? จริงๆแล้วนี่มันก็ ม.1แล้วนิ ฉันสอบโรงเรียนประจำจังหวัดติดนี่นะ ฝันแบบนั้นแล้วอดนึกถึงวันปัจฉิมไม่ได้เลย

    พวกเขาเป็นยังไงกันบ้างนะ...?

    ตั้งแต่ที่ฉันวิ่งหนีมาก็ขึ้นรถแม่กลับเลย...

    ฉันรีบสลัดความคิดพวกนั้นออกเมื่อสายตาไปปะทะกับนาฏิกาซึ่งมีเวลาสายพอควร 

    นี่...วันหนึ่งเราเดินสวนกันล่ะ

    พวกเขาจะทำอะไรฉันมั้ยนะ?




    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×