ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EXO & SNSD มหัศจรรย์รักข้ามดวงดาว

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 4 (ต่อ) ~ Pair loves

    • อัปเดตล่าสุด 21 มิ.ย. 56


    บทที่ 4 (ต่อ)

    ~ Pair loves

     

    “คุณใช้พลังวิเศษยกนั่นได้หรือเปล่า”

    ทิฟฟานีที่ยืนอยู่ตรงบานหน้าต่างเอ่ยถามคนข้างๆด้วยรอยยิ้ม

    “ได้สิ แต่ถ้าผมยก คนข้างล่างคงได้สลบกันเป็นแถวแน่”

    ลู่หานพูดบอกก่อนจะจ้องมองใบหน้าของทิฟฟานีที่ประดับรอยยิ้มสวยอยู่

    “นั่นสิคะ พวกเขาคงจะมองตาค้าง... ว่าแต่ว่าคุณใช้พลังวิเศษยกตัวฉันได้หรือเปล่าคะ”

    ทิฟฟานีเอ่ยถามก่อนจะเอียงคอมองลู่หานที่จ้องมองเธออยู่ข้างๆเพื่อรอคำคอบ

              “ไม่ต้องใช้พลังวิเศษผมก็ยกได้ครับ”

    ยังไม่ทันที่ทิฟฟานีที่กำลังจ้องมองหน้าลู่หานอยู่จะได้เอ่ยถามอะไรออกไป ลู่หานก็ยกตัวเธอขึ้นจากพื้นด้วยการอุ้มเรียบร้อยแล้ว

    “คุณทำอะไรคะ! ปล่อยฉันลงนะคะ ตัวฉันหนักอ่ะ อีกอย่างถ้าคนอื่นมาเห็นพวกเขาคงแซวฉันแน่”

    ทิฟฟานีบอกอย่างร้อนรน ก่อนที่เธอจะเหลียวหลังไปมองเพื่อนๆของเธอที่นั่งอยู่บนโซฟาซึ่งเหลือเพียงแค่ยุนอาเ ซึ่งยุนอาก็กำลังหันหลังให้เธออยู่ แต่จะมีเพียงชายหนุ่มร่างสูงที่เธอจำได้ว่าเขาชื่อชานยอลนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยุนอา ซึ่งพวกเขาก็เอาแต่มองคนตรงหน้าโดยไม่สนใจเธอ

    “ไม่มีใครเห็นหรอกครับ คุณตัวเบาจัง ผมคิดว่าคุณจะหนักกว่านี้ซะอีก”

    ลู่หานบอกก่อนจะวางทิฟฟานีลงบนพื้น

    “อย่าโกหกซิคะ แล้วก็อย่าเล่นอะไรแบบนี้อีกนะคะ”

    ทิฟฟานีบอกหน้ามุ่ย

    “ตกลงครับ วันหลังผมจะให้คุณขี่หลัง”

    ลู่หานบอกก่อนจะเผยรอยยิ้มหวาน ทิฟฟานีที่ทำหน้ามุ่ยอยู่ตรงหน้าอมยิ้มเล็กๆก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมากับความขี้เล่นของชายหนุ่มน่ารักตรงหน้า

     

    “นี่ นายอย่าขี้โกง ต้องกินให้หมดสิ”

    ยุนอาบอกก่อนจะยื่นไวท์แดงส่งให้ชานยอลซึ่งเขากำลังพยายามซดโซจูจากขวดให้หมดอยู่

    “นี่... เธอ! อึก ฉันกำลังซดไอ้นี่อยู่เลยนะ เธอยังจะให้ฉันกินไอ้นั่นอีกเหรอ”

    ชานยอลที่กระดกโซจูเข้าปากไปจนหมดบอกก่อนจะวางขวดลงแล้วชี้หน้ายุนอาที่กำลังยื่นแก้วไวท์ส่งให้เขาอยู่

    “ก็นายแพ้นี่ เพราะฉะนั้นกินเข้าไปเลย”

    ยุนอาบอกก่อนจะยื่นแก้วไวท์ไปแตะริมฝีปากของชานยอล ชานยอลขยับหน้าหนีก่อนแยกเขี้ยวใส่แต่เขาก็หยิบแก้วแล้วซดมันเข้าปากเหมือนเดิม

    “วันนี้เธอจะต้องเมากลับไปแน่นอน เริ่มใหม่”

    ชานยอลบอกก่อนจะเทโซจูใส่แก้วไวท์เต็มแก้ว ก่อนที่เขาจะเริ่มนับเลข

     “1 2”ยอล

    “3”ยุน

    “4 5 6”

    “7 8 9”

    “10”

    “11 12 13”

    “14”

    “จำไว้ ฉันแพ้นายแค่ครั้งเดียวเท่านั้นล่ะ ฮึ่ย”

    “ดื่มซะ”

    ชานยอลบอกก่อนจะยื่นแก้วโซจูให้ยุนอา ยุนอารับมันมาก่อนจะกระดกรวดในครั้งเดี๋ยว โดยที่สายตาเธอยังคงมองชานยอลที่ยิ้มหน้าระรื่นด้วยความเคียดแค้นอยู่

     

    “นายเคยหยุดเวลาบ้างหรือเปล่า”

    ซูยองเอ่ยถามเทาที่เดินอยู่ข้างๆ

    “อืม... ถ้าบนโลกนี่ผมไม่เคยหยุด แต่ในดาวของผม ผมเคยหยุดมันสักสี่ห้าครั้งเห็นจะได้”

    เทาบอกก่อนจะกัดไอศกรีมรสวานิลลาเข้าปาก

    “งั้นเหรอ ดีเนอะฉันเองก็อยากหยุดเวลาได้เหมือนกัน”

    ซูยองบอกก่อนจะตักไอศกรีมช็อกโกแลตเข้าปาก

    “แล้วทำไมคุณถึงอยากหยุดเวลาล่ะ”

    เทาเอ่ยถามก่อนจะจ้องมองหน้าซูยองที่ตอนนี้หยุดเดิน

    “ฉันอยากหยุดเวลาไว้แค่ตรงนี้ ตรงที่พวกเราทั้งเก้าคนอยู่ด้วยกันจนครบ เพราะกว่าพวกเราจะมาเป็นเราแบบนี้เราต้องใช้เวลาเกือบสิบปีเลยล่ะ”

    ซูยองบอกก่อนที่เธอจะก้าวเดินไปข้างหน้า

    “งั้นผมหยุดเวลาให้เอาไหม”

    เทาบอกก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ข้างๆซูยอง

    “งั้นเหรอ... แต่ว่าไม่เอาดีกว่าฉันยังอยากรู้ว่าวันใหม่ๆของพวกเราจะเป็นยังไงบ้าง และฉัน... จะเจอเนื้อคู่หน้าตาดีหรือเปล่า”

    ซูยองพูดด้วยรอยยิ้มก่อนที่เธอจะเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

    “นี่นายรีบเดินมาซิ เดี๋ยวไอศกรีมที่ซื้อมาก็ละลายหมดหรอก”

    ซูยองบอกเทาที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ เทาพยักหน้าก่อนจะวิ่งตรงไปหาซูยองและพวกเขาสองคนก็เดินไปข้างหน้าพร้อมกับแสงไฟสีส้มที่ส่องสว่างข้างทาง

     

    คุณบินได้จริงๆเหรอคะ”

    ยูริที่ก้าวเท้าออกมาจากห้องเอ่ยถามชายหนุ่มร่างสูงที่อยู่ตรงหน้า เขายิ้มเล็กก่อนจะเอ่ยปากตอบ

    “อืม ผมบินได้ แต่พลังของผมไม่พิเศษเหมือนคนอื่นๆหรอก”

    คริสบอกก่อนจะเดินไปข้างหน้า

    “เขาก็ชอบโกหกแบบนี้ล่ะ พลังของเขาน่ะทำให้พวกเราบินได้”

    เฉินที่ยืนอยู่ข้างหลังยูริเอ่ยบอก

    “ใช่เขาทำให้พวกเราบินได้ แต่เราช่วยให้ใครมีพลังเหมือนเราได้เลยสักคน”

    ไคสมทบ

    “แต่ดูท่าเขาจะไม่ค่อยชอบพลังวิเศษของตัวเองเลยนะ”

    ฮโยยอนที่เดินมากับยูริพูดก่อนจะมองตรงไปยังร่างสูงโปร่งที่หันหลังให้เธอตรงหน้า

    “คงจะเป็นเพราะพลังวิเศษของเขาไม่สามารถช่วยสิ่งที่มีค่าสำหรับเขาไว้ได้นะสิ”

    ซิ่วหมินบอก

    “หมายความว่ายังไงคะ”

    ยูริเอ่ยถามก่อนจะจ้องมองซิ่วหมิน

    “เรื่องแบบนี้ผมคงพูดไม่ได้หรอกถ้าไม่ใช่ตัวเขาพูดเอง”

    ซิ่วหมินบอกก่อนจะเดินตามคริสไป ยูริพยักหน้าน้อยๆก่อนที่เธอจะเดินตามซิ่วหมินไปเช่นกัน

    “พวกคุณนี่มีอะไรที่เป็นความลับเยอะจังนะคะ”

    ฮโยยอนบอกก่อนจะจ้องมองหน้าไค

    “มันแล้วแต่คนครับ”

    ไคบอกพร้อมกับรอยยิ้ม

    “งั้นเหรอคะ แต่ฉันว่าคุณน่าจะเป็นคนมีความลับเยอะสุดเลยนะคะ”

    ฮโยยอนบอกพร้อมกับรอยยิ้ม

    “ไม่ใช่นะครับ! สำหรับผมความลับ... ไม่มีอยู่เลยสักนิด”

    ไคบอกพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก ฮโยยอนพยักหน้าช้าๆอย่างไม่อยากจะเชื่อ

              “เอาเป็นว่าความลับของผมไม่มี งั้นเรา... รีบไปให้ทันพวกเขากันเถอะครับ เดี๋ยวถ้าเราไปช้าเราจะไม่ได้ซื้อของที่เราชอบนะครับ”

    ไคบอกก่อนจะจับมือฮโยยอนให้เดินตามเขามา โดยที่ใบหน้าของเขาตอนนี้เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มกว้างเมื่อคนข้างๆของเขายังคงจับมือเขาอยู่เช่นกันกับที่เขากำมือเธอไว้แน่น

     

    “โห ห้องของพวกคุณน่าอยู่กว่าที่ฉันคิดซะอีกนะเนี่ย”

    เจสสิกาที่เปิดประตูเข้ามาในห้องนอนกว้างเอ่ยบอก

    “นั่นสิ เตียงนอนสองชั้นแบบนี้เราน่าจะมีบ้าง  แต่นั่น...น่ารักจังเลย”

    แทยอนที่เดินตามเจสสิกาเข้ามาเอ่ยบอกก่อนที่เธอจะกระโจนเข้าไปหาตุ๊กตาถั่วสีชมพูที่วางอยู่บนเตียงในทันที

    “นั่นมันตุ๊กตาของแบคฮยอนครับ”

    ซูโฮที่ยืนอยู่ข้างๆบานประตูเอ่ยบอก

    “เอ่อ... คือ... ผมพึ่งซื้อมาน่ะครับเห็นมันน่ารักดี คุณชอบมันเหรอครับ”

    แบคฮยอนที่ยืนอยู่ข้างซูโฮเอ่ยถามแทยอน

    “ค่ะ มันน่ารักมากเลย ฉันเคยเห็นแต่ตัวสีเขียว แต่นี่เป็นสีชมพู”

    แทยอนบอกก่อนจะจ้องมองตุ๊กตาถั่วสีชมพูด้วยความหลงใหล

    “งั้น ผมให้ครับเอาไปได้เลยครับ”

    แบคฮยอนบอกด้วยรอยยิ้มกว้าง

    “จริงเหรอคะ ฉันจะนอนกอดมันทุกวันเลยค่ะ”

    แทยอนบอกก่อนจะหอมตุ๊กตาถั่วสีชมพูด้วยความรัก แบคฮยอนจ้องมองเธอก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมาเช่นกัน

    “ไอ้นี่มันคือรูปอะไรคะ”

    เจสสิกาที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งสีขาวเอ่ยถามพร้อมกับสร้อยรูปร่างประหลาดที่อยู่ในมือ

    “นั่นสร้อยผมเองครับ มันเป็นรูปหยดน้ำน่ะ”

    ซูโฮบอกก่อนจะเดินเข้าไปหาเจสสิกาที่พยักหน้าให้เขา

    “ผมมีเส้นเล็กๆด้วยนะครับ นี่ไง”

    ซูโฮที่เดินเข้าไปหาเจสสิกาบอกก่อนจะหยิบสร้อยเส้นเล็กจากลิ้นชักยื่นให้เจสสิกา

    “โห สวยกว่าอันเมื่อกี้อีกค่ะ คุณได้พวกนี้มาจากไหนเหรอคะ”

    เจสสิกาเอ่ยถามโดยที่สายตาของเธอยังคงจ้องมองสร้อยเส้นเล็กที่มีจี้หยดน้ำประหลาดอยู่อย่างชื่นชม

    “พ่อของผมให้มาน่ะครับ แต่พวกเราทุกคนก็มีสร้อยติดตัวสองเส้นมาเหมือนกันทั้งนั้น เส้นหนึ่งเป็นของพวกเราและอีกเส้น... ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นของใคร”

    ซูโฮบอกก่อนที่เขาจะหยิบสร้อยที่วางอยู่ขึ้นมาสวม เจสสิกาพยักหน้าก่อนที่เธอจะยื่นสร้อยเส้นนั้นให้ซูโฮเก็บไว้ในลิ้นชักเช่นเดิม

     

    “ให้ผมเหรอครับ”

    ดีโอเอ่ยถามเมื่อน้ำส้มถูกยื่นมาตรงหน้าเขา

    “ค่ะ ลองชิมดู ฉันไม่ค่อยได้ทำมันบ่อยไม่รู้ว่ามันจะอร่อยหรือเปล่า”

    ซันนี่ที่ถือน้ำส้มมาอีกแก้วเอ่ยบอกก่อนที่เธอจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ที่วางอยู่หลายตัวรอบโต๊ะอาหาร

    “ห้องครัวของคุณสวยดีนะคะ ดูเรียบร้อยมากๆเลย”

    ซันนี่บอกก่อนจะไล่มองรอบๆห้องอย่างชื่นชม

    “คือ พวกเราเพิ่งมาอยู่ที่นี่สองวันน่ะครับ ก็เลยไม่ได้ใช้อะไรมากมันก็เลยยังเรียบร้อยอยู่”

    ดีโอบอกก่อนจะนั่งลงข้างๆซันนี่

    “งั้นเหรอคะ แต่ว่าพวกคุณอยู่ที่นี่ครบสิบสองคนเลยเหรอคะ”

    ซันนี่เอ่ยถาม

    “ครับ แต่บางครั้งพวกเราบางคนก็ออกไปสำรวจรอบๆที่นี่พวกเราก็เลยไม่ค่อยได้อยู่กันครบสิบสองคนเท่าไร”

    ดีโอบอกก่อนจะยกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่ม

    “มันอร่อยไหมคะ”

    ซันนี่เอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้ม

    “น่ารักครับ... เอ่อคือ... อร่อยครับ มันหวานดีน่ะครับ”

    ดีโอบอกก่อนจะยกน้ำส้มขึ้นจิบด้วยความอายในสิ่งที่ตนพูด โดยเขาไม่รู้เลยว่าคนตรงหน้าอมยิ้มกับความน่ารักของเขาแค่ไหน

     

    “งั้นสายลมที่พัดแรงวันนั้นก็ฝีมือคุณเหรอคะ”

    ซอฮยอนที่ยืนเกาะขอบระเบียงเอ่ยถามคนข้างๆ

    “ใช่”

    เซฮุนที่ยืนข้างๆซอฮยอนตอบสั้นๆ

    “คุณใช้มันเพื่ออะไรเหรอคะ”

    ซอฮยอนเอ่ยถามก่อนจะจ้องมองเซฮุนด้วยรอยยิ้ม

    “... ผมใช้มันเพื่อหาพลังร้ายที่อยู่บนโลกแล้วก็... ใช้มันเพื่อให้รู้สึกสบายใจ”

    เซฮุนนิ่งเงียบก่อนจะเอ่ยปากตอบ พร้อมกับที่เขาหันหน้ามองซอฮยอนที่ก็กำลังมองเขาอยู่เช่นกัน

    “คุณใช้พลังวิเศษเพื่อให้ตัวเองสบายใจ แต่คุณทำให้ที่นี่เกิดพายุและทุกคนก็เดือดร้อน”

    “...”

    เซฮุนนิ่งเงียบเมื่อซอฮยอนพูดออกมาพร้อมกับใบหน้าที่ไม่พอใจเขา

    “ฉันคิดว่าคุณใช้พลังในทางที่ดีกว่าพลังร้ายพวกนั้นซะอีก”

    ซอฮยอนบอกก่อนจะหันหลังเอื้อมมือไปเปิดบานประตู

    “ผมไม่ได้ใช้พลังในทางที่ผิดเหมือนกับพวกนั้น”

    เซฮุนพูดบอกพร้อมกับเอื้อมมือกระชากซอฮยอนเข้าหาตัว

    “คุณไม่มีสิทธิ์พูดแบบนี้”

    เซฮุนบอกแค่นั้นก่อนที่เขาจะปล่อยแขนซอฮยอนให้เป็นอิสระ และไม่ทันที่ซอฮยอนจะได้พูดอะไรออกไปเซฮุนก็ใช้พลังวิเศษหายตัวไปพร้อมกับสายลมที่ปะทะโดนตัวซอฮยอนวูบหนึ่ง

    ………………………………

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×