คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 2 สิบสองคน (อบอุ่นดี)
บทที่ 2
สิบสองคน (อบอุ่นดี)
“พวกมันอยู่นั่น”
เสียงของเซฮุนเรียกความสนใจของคริส เฉินและชานยอลที่กำลังไล่องรอบๆบริเวณตึกสูงได้ในทันที แสงสีดำมากมายลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว คริสทะยานบินตามแสงสีดำนั้นไปในทันที
“ฉันจะไปดักหน้า นายตามคริสไปนะ”
เฉินบอกชานยอลก่อนที่เขาจะหายไปในทันที ชานยอลตอบรับก่อนที่เขาจะรีบทะยานขึ้นสูงตามคริสและเซฮุนไปเช่นกัน
พรึบ
ไฟลุกขึ้นทันทีเมื่อชานยอลใช้พลังวิเศษเผาแสงสีดำ เสียงร้องโหยหวนดังมาจากแสงสีดำนั้นก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นผงเล็กๆตกลงสู่พื้นดิน
เปรี้ยง!
สายฟ้าจากเฉินฟาดลงกลางลำแสงนั้น เสียงกรี๊ดร้องโหยหวนดังขึ้นทันทีก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นผงเล็กสีดำที่ลอยอยู่บนอากาศที่ค่อยๆตกลงสู่พื้นดินเหมือนเช่นเปลวเพลิงของชานยอลที่เผามัน
พรึบ
แสงไฟแผดเผาต่อเนื่อง ชานยอลยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจในพลังวิเศษของตน ก่อนที่เขาจะใช้พลังวิเศษตรงไปยังแสงสุดท้ายที่อยู่ตรงหน้าเขา
“กรี๊ด”
และมันก็ไม่พลาด แสงสีดำเป็นผงเล็กร่วงลงสู่พื้นดินทันทีเมื่อไฟร้อนจากชานยอลส่งถึงมัน
“ชานยอลหยุดเผามัน เราต้องการมันเพื่อรู้เหตุผล จับมันไว้”
คริสบอกก่อนที่เขาจะไล่ตามแสงสีดำสุดท้ายที่รวดเร็วกว่าแสงอื่นๆ เซฮุนใช้สายลมทำให้มันเสียการควบคุมและช้าลงเล็กน้อย ชานยอลตอบรับคำก่อนที่เขาจะไล่ตามแสงนั้นไป
เปรี้ยง!
สายฟ้าจากเฉินส่งผลให้แสงนั้นหยุดชะงักลง และในทันทีคริส เซฮุน และชานยอลทะยานเข้าจับมัน แสงสีดำนั้นแปรเปลี่ยนเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ผิวสีดำสนิท มันพยายามหาทางหลบหนีโดยใช้พลังเพื่อจะกลับมาเป็นแสงสีดำอีกครั้งแต่การเกาะกุมของมนุษย์วิเศษทั้งสามคนไม่อาจทำให้มันด้านทานพลังนั้นได้เลย
“นายแข็งได้ทุเรศจริงๆเลยว่ะ”
ไคเอ่ยขึ้นเมื่อเขามองดูร่างสูงใหญ่ที่ถูกแช่แข็งโดยหิมะของซิ่วหมินมาเนิ่นนาน ดวงตาสีดำของมันเบิกกว้างด้วยความโกรธทันทีเมื่อไคพูดจบ ก่อนที่มันจะใช้มือสองข้างทุบน้ำแข็งนั้นอย่างบ้าคลั่ง
“ทุบไปก็เท่านั้น พลังพวกเราแข็งแกร่งเว้ย”
ชานยอลบอกก่อนที่เขาจะใช้มือชกน้ำแข็งสองสามครั้งเพื่อพิสูจน์ว่าน้ำแข็งนี่แข็งแกร่งจริงๆ ซึ่งนั่นเป็นการยั่วโมโหร่างสูงใหญ่นั้นได้เป็นอย่างดี
“แกต้องตาย อ๊าก”
มันบอกชานยอลด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น ก่อนที่มันจะลงทุบน้ำแข็งอย่างบ้าคลั่งอย่างน่ากลัวอีกครั้งเป็นครั้งที่สอง
“มันไม่เจ็บบ้างหรือไง ทุบน้ำแข็งอยู่ได้”
เทาเอ่ยถามเมื่อมองร่างสูงใหญ่ทุบน้ำแข็งอยู่ ดวงตาของมันโตขึ้นกว่าเก่าจนแทบจะถลนออกมา
“พวกนายพอได้แล้วน่า ไปแกล้งเขาอยู่ได้”
ซูโฮบอกก่อนจะใช้นิ้วเรียวเคาะน้ำแข็งตรงดวงตาสีแดงของมัน จนมันถึงกับรีบหลับตาในทันที
“ว่าแต่คนอื่น นายยิ่งกว่าทุกคนซะอีก”
คริสบอกก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้หน้าร่างสูงใหญ่ที่ถูกแช่แข็งอยู่
“ว่าแต่ว่านายแข็งได้ทุเรศจริงๆนั่นแหล่ะ”
คริสบอกด้วยรอยยิ้มเยาะ
“อ๊าก!!”
ร่างสูงใหญ่ตรงหน้าระเบิดความโกรธลงกับน้ำแข็งในทันที มันใช้ฝ่ามือทุบไม่หยุดอย่างรุนแรง
เปี๊ยะ เปี๊ยะ
“ทุกคนน้ำแข็งกำลังจะแตก”
ชานยอลเอ่ยบอกเมื่อเขามองเห็นน้ำแข็งที่กำลังค่อยๆร้าว ร่างสูงใหญ่ที่ถูกแช่ยกยิ้มก่อนที่มันจะใช้พลังทุบอย่างบ้าคลั่งกว่าเก่า
“หึ่ย พวกนายจะยั่วโมโหอะไรนักหนาเล่า เดือดร้อนฉันจนได้”
ซิ่วหมินบ่นก่อนที่เขาจะใช้พลังวิเศษทำให้น้ำแข็งกลับมาแข็งตัวเหมือนเดิม และคงจะต้องทำให้มันแข็งขึ้นกว่าเก่าอีกด้วย
“เฮ้อ... เกือบไปแล้ว”
คริสบอกก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ก็เพราะพวกนายไง ยั่วโมโหมันอยู่ได้”
ลู่หานบอกก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ที่มีเลย์ เซฮุนและดีโอนั่งอยู่
“โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว”
เสียงของยุนอาที่ดังขึ้นเมื่อบานประตูสีขาวถูกเปิดออก ส่งผลให้คนที่นั่งอยู่บนโซฟาต้องเหลียวหน้ามามองน้อยๆ
“เป็นอะไรยุนอา ยังไม่หลับเหรอเห็นเข้าไปตั้งนานแล้วนี่”
ซันนี่เอ่ยถามก่อนจะหยิบน้ำส้มฝีมือยูริขึ้นมาดื่ม
“ก็ห้องข้างๆนะสิ เสียงดังอีกแล้วอ่ะ”
“จริงค่ะอนนี่ พวกเขาส่งเสียงรบกวนจนหนูที่อยู่ห้องข้างๆก็นอนไม่ได้เหมือนกัน”
ซอฮยอนที่ก้าวเท้าออกมาจากห้องเอ่ยสมทบด้วยใบหน้าบึ้งตึงน้อยๆ
“ห้องนั้นเสียงดังอีกแล้วงั้นเหรอ”
ยูริที่เปิดประตูห้องเข้ามาเอ่ยถามก่อนจะถอดรองเท้าวางไว้ที่ชั้น
“ใช่ แล้วตอนนี้ก็ดังกว่าเดิมด้วย หนูหลับไม่ได้เลย”
ยุนอาเอ่ยบอกก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆทิฟฟานีที่กำลังนั่งจ้องโทรทัศน์อยู่
“เห็นทีเราคงไม่มีวันได้นอนหลับสบายๆเหมือนแต่ก่อนแล้วล่ะ”
ซูยองที่พึ่งเดินตามยูริเข้ามาเอ่ยบอกก่อนที่เธอจะยื่นถุงขนมให้แทยอนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างๆประตู แทยอนยิ้มน้อยๆก่อนจะหยิบพายชิ้นเล็กให้ตัวเองและยื่นถุงส่งต่อให้คนอื่นๆ
“อร่อยมากๆเลยใช่ไหมล่ะ นั่งอยู่บนรถน่ะฉันกับยูริกินไปเกือบสี่ชิ้นแน่ะ”
ซูยองบอกแทยอนด้วยรอยยิ้ม แทยอนยักคิ้วก่อนจะกัดพายเข้าปากอีกครั้ง
“ฮ่าๆๆๆ เจ๋งจริงอะไรจริงอ่ะ”
“เออ นั่นดิ”
“โอ๊ย ฮาสุดๆ”
“อ๊าก!”
“อนนี่...”
ยุนอาพูดกับทิฟฟานีด้วยใบหน้าเศร้าและน้ำเสียงเล็กเมื่อเธอได้ยินเสียงที่ดังมาจากห้องข้างๆ
“หนูทนไม่ไหวแล้ว!”
ยุนอาบอกแค่นั้นก่อนจะลุกขึ้นวิ่งออกจากห้องไปทันที
“เฮ้ย!”
ทุกคนในห้องอุทานออกมาพร้อมกัน ก่อนที่จะพากันวิ่งตามยุนอาที่ออกจากห้องมาอย่างรวดเร็ว
“นี่ เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ ออกมาคุยกันหน่อยสิ”
ยุนอาบอกก่อนจะลงมือเคาะประตูรัวไม่หยุด
“ยุนอาใจเย็นๆหน่อยสิ”
ฮโยยอนที่ยืนอยู่ข้างๆบอกยุนอา
“ไม่เย็นแล้วอนนี่ นี่มันครั้งที่สองแล้วนะ เขาไม่มีมารยาทเลยหรือไง”
ยุนอาบอกแค่นั้นก่อนจะเอื้อมมือไปเคาะประตูรัวอีก
“ยุนอาหยุดเคาะเถอะ เรียกเขาดีๆก็ได้”
ทิฟฟานีเอ่ยบอก
“ไม่ต้องเรียกหรอกครับ”
เสียงนุ่มเจ้าเก่าเอ่ยขึ้น หญิงสาวทั้งเก้าคนที่กำลังหันหลังให้ประตูจึงรีบหันหน้ามามองเจ้าของเสียงนั้นในทันที
“โอ๊ะ... ขอตัวเดี๋ยวนะครับ”
เจ้าของเสียงพูดบอกก่อนจะปิดประตู
“เจ้ากร๊วกเอ๊ย แค่นี้ก็กลัวแล้วหรือไงหะ!!”
ยุนอาเอ่ยเสียงดังจนพี่สาวและมักเน่ถึงกับสะดุ้งโหยง
พรึบ
บานประตูถูกเปิดออกพร้อมกับชายหนุ่มทั้งสิบสองที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า หญิงสาวทั้งเก้าคนขมวดคิ้วเข้าหากันน้อยๆด้วยความสงสัย
“นายแมว ไหนนายบอกอยู่ที่นี่คนเดียวไง”
ยุนอาเอ่ยถามด้วยใบหน้าบึ้งตึง
“ครับ?”
ชานยอลเอ่ยถามด้วยใบหน้าไม่เข้าใจ
“นายนั่นล่ะ ไหนนายบอกว่าอยู่ที่นี่คนเดียว แล้วคนพวกนี้ล่ะเป็นใคร”
ยูริเอ่ยถามอีกครั้งหลังจากที่ชานยอลยืนหน้าเอ๋ออยู่
“โอ๊ย ไอ้นี่มันก็ชอบพูดเล่นอย่างนี้ตลอดล่ะครับ ความจริงพวกผมอยู่ที่นี่กันทั้งสิบสองคนเลย”
หนุ่มผิวเข้มอย่าง ไค พูดบอกด้วยรอยยิ้ม
“สิบสองคน!!”
หญิงสาวทั้งเก้าเอ่ยออกมาพร้อมกันก่อนจะเอ่ยอ้าปากค้าง
“สิบ... สิบสองคนเนี่ยนะ ไม่แน่นไปหน่อยเหรอ”
เจสสิกาเอ่ยถามก่อนจะไล่มองคนที่อยู่ในห้องทีละคน
“ไม่แน่นหรอกครับ แบบนี้อบอุ่นดี”
เทาบอกด้วยรอยยิ้มกว้าง
“อุ่นไปมั้ง”
ฮโยยอนพูดกับซูยองเบาๆ ก่อนที่เธอจะยิ้มแหยๆส่งไปให้ชายหนุ่มที่ยืนเรียงรายอยู่ด้านหน้าเธอทั้งสิบสองคน
“นั่นสิ อุ่นจนร้อนเลยล่ะ”
ซูยองบอกก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มทั้งสิบสองเช่นกัน
“แล้วนี่ ที่พวกคุณมาที่นี่มีอะไรหรือเปล่าครับ”
ซิ่วหมิน เอ่ยถามหลังจากที่ทั้งสองฝ่ายเอาแต่มองหน้ากันไปมาหลายนาที
“มีสิก็พวกคุณ...”
“เอ่อ... คือห้องของพวกคุณส่งเสียงดังนิดหน่อยน่ะค่ะ พวกเราเอ่อ... เลยอยาก... อยากจะมาขอความกรุณาพวกคุณช่วยลดเสียงลงหน่อยได้ไหมคะ”
ยังไม่ทันที่ยุนอาจะเอ่ยขึ้น ซันนี่ก็พูดตัดบทเสียก่อน
“อ๋อ ได้สิครับ
ดีโอบอก
“ใช่ครับ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว พวกเราจะลดเสียงลงมากๆเลยครับ”
ลู่หานบอกด้วยรอยยิ้ม
“ค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ”
ทิฟฟานีเอ่ยขอบคุณด้วยรอยยิ้มหวานจนลู่หานที่มองหน้าเธออยู่ถึงกับนิ่งงัน
“งั้นพวกเราขอตัวกลับก่อนนะคะ”
ซอฮยอนพูดบอก
“ใช่ค่ะ ขอโทษที่มารบกวนนะคะ ลาก่อนค่ะ”
แทยอนเอ่ยสมทบด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ก่อนที่เธอจะหันเดินตรงไปยังห้องในทันที
“เอ่อ เดี๋ยวก่อนครับ”
เสียงเรียกของแบคฮยอนส่งผลให้แทยอนและคนอื่นๆที่กำลังจะเดินถึงห้องถึงกับต้องหยุดชะงักลงในทันที
“รบกวนช่วยเป็นเกียรติให้กับเราได้ไหมครับ”
“คะ”
หญิงสาวทั้งเก้าคนอุทานขึ้นมาพร้อมกันเมื่อซูโฮเอ่ยขึ้น
“วันนี้เป็นวันเกิดของมักเน่ของเราน่ะครับ”
ไคที่ยืนอยู่หน้าสุดเอ่ยบอกก่อนจะชี้ไปยังเซฮุนที่ยืนมองสาวๆทั้งเก้าคนอยู่ด้วยใบหน้าเรียบเฉยซึ่งเขาถึงกับหลุดใบหน้าเรียบเฉยเป็นใบหน้าเหวอในทันที
“ใช่ครับ เป็นเกียรติให้มักเน่ของเราหน่อยนะครับ”
ชานยอลเอ่ยสมทบด้วยรอยยิ้มกว้าง
“เอ่อคือ...”
แทยอนลากเสียงยาวก่อนจะไล่มองสมาชิกที่ยิ้มให้เธอแบบที่จะบอกว่า ให้เธอคือผู้ตัดสินใจ
“นะครับ”
ชานยอลพูดอีกเป็นครั้งที่สอง
“เอ่อ... ตกลงค่ะ”
แทยอนบอกก่อนจะมองหน้าสมาชิกแต่ละคนที่ต่างส่งสีหน้ามาว่าเธอตัดสินใจผิด
...........................................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
ความคิดเห็น