ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EXO & SNSD มหัศจรรย์รักข้ามดวงดาว

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 1 แรกพบ... >3 (ปวดใจ)

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 56


            

    บทที่ 1

    แรกพบ... >3 (ปวดใจ)

     

              “นายทำให้ที่นี่ปั่นป่วน”

              ลู่หานเอ่ยขึ้นเมื่อเขาเห็นพายุลมที่เกิดขึ้นโดยการใช้พลังวิเศษของเซฮุนกำลังพัดไม่หยุด โดยตอนนี้เขา เลย์และเซฮุนกำลังยืนอยู่บนตึกสูงที่ประดับด้วยแสงไฟ ซึ่งมันสว่างพอที่จะทำให้เขาสามารถมองเห็นวิวทั่วโซลได้อย่างดีเยี่ยม

              “แต่อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าพวกมันอยู่ที่นี่”

              เซฮุนบอกโดยที่ตอนนี้สายตาของเขาเหม่อมองไปยังห้องใหญ่บนตึกสูงที่อยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าเป็นกังวล แสงไฟจากในห้องส่องลอดผ้าม่านผืนบางเล็กๆออกมา เงาของคนตัวเล็กที่กำลังเดินวนเวียนอยู่ภายในห้องสะท้อนให้เขาเห็นลางๆ

    “แล้วจะแน่ใจได้ยังไงว่าพวกมันอยู่ที่นี่จริงๆ”

              เลย์เอ่ยถามก่อนที่เขาจะใช้พลังวิเศษให้ต้นไม้ที่ตายอยู่ข้างๆถนนกลายเป็นต้นไม้ที่กำลังแตกใบอ่อนสีเขียวเล็กๆอยู่ เขามองมันด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันไปมองเซฮุนที่อยู่ข้างๆตัวเขาเพื่อรอคำตอบ

              “มองด้านบนตึกนั่นสิ”

              เลย์และลู่หานหันสายตามองไปยังคำบอกของเซฮุน ภาพตรงหน้าปรากฏเงามืดสีดำใหญ่ซึ่งลอยวนเวียนเหนือตึกใหญ่ มันดูน่ากลัวกว่าท้องฟ้าสีดำมืดมิดเมื่อยามมีพายุเป็นไหนๆและมันดูคล้ายกำลังวนเหมือนกับสายน้ำวน

              “ในที่สุดก็หาเจอสินะ”

              เสียงที่ดังขึ้นจากด้านหลังปรากฏคนทั้งสามซึ่งคือ ไค เจ้าของเสียง ซานยอลและเฉิน ซึ่งพวกเขากำลังมองเงามืดสีดำที่กำลังวนไปมาไม่หยุดอยู่ด้วยใบหน้าเรียบเฉยแต่ติดกังวลอยู่เล็กน้อย

              “พวกมันมาถึงหลังเราใช่หรือเปล่า”

              เสียงของแบคฮยอนที่ดังขึ้นข้างๆชานยอล ส่งผลให้ชานยอลที่กำลังมองเงามืดถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ และเมื่อเขามองแบคฮยอนที่ยืนอยู่ข้างๆก็เห็นดีโอและซิ่วหมินกำลังยืนหัวเราะเขาอยู่

              “ใช่ แต่ไม่รู้ทำไมพวกมันถึงเลือกที่จะอยู่ที่นี่”

              เซฮุนตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่เข้าใจน้อยๆ

              “เพราะที่นี่มีสิ่งที่พวกมันต้องการนะสิ”

            คริสเอ่ยขึ้นโดยที่เขายังยืนอยู่บนอากาศ ทุกคนมองเขาด้วยใบหน้าที่ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด แต่ยังไม่ทันที่ทุกคนจะเอ่ยถามออกไป คริสค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้เงามืดที่อยู่เหนือตึกสูง ก่อนที่พวกมันจะค่อยๆสลายไปเมื่อเขาเข้าไปใกล้มัน และเมื่อเขาค่อยๆเคลื่อนตัวออกมาพวกมันก็กลับมารวมตัวกันและวนไปมาอีกครั้ง

              “คริสหมายความว่าถ้าเราจะทำอะไรมักจะต้องมีเหตุผล และที่พวกมันเลือกที่จะอยู่ที่นี่ก็ต้องมีเหตุผลแน่นอน”

              ซูโฮเอ่ยบอกเมื่อเขาปรากฏกายข้างๆเซฮุนพร้อมๆกับเทา ทุกคนพยักหน้าว่าเข้าใจก่อนที่พวกเขาทุกคนจะมองไปที่คริสซึ่งกำลังเคลื่อนตัวขึ้นลงระหว่างเงามืดและตึกสูงนั้นอยู่หลายต่อหลายครั้ง

    “มันหาโลกเจอแล้วแล้วทำไมยังไม่ทำลาย พวกมันคิดจะทำอะไรกันแน่”

              ซิ่วหมินเอ่ยขึ้นเมื่อเขาจ้องมองเงาสีดำมืด โดยที่ทุกคนได้แต่ยืนนิ่งเพราะพวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าผู้ที่ทำลายโลกสวรรค์กำลังคิดจะทำอะไรกับโลกมนุษย์แห่งนี้กันแน่

     

              “เคาะเลย”

    “ไม่เอาอ่ะ ไม่กล้า”

    “จะกลัวอะไรเล่า”

    “ใช่ เคาะเลย ไม่มีอะไรหรอกน่า”

    “ไม่เอาอ่ะ อนนี่ก็เคาะเองสิ หนูเด็กที่สุดในนี้นะ”

    “ใช่ อนนี่เคาะสิ”

    “อ้าว... เฮ้อ... ก็ได้ ฉันเคาะก็ได้”

    มือเรียวสวยที่กำลังจะเอื้อมไปสัมผัสบานประตูไม้ราคาแพงต้องหยุดลงในทันที เมื่อบานประตูถูกเปิดออกจากคนในห้องเสียก่อน หญิงสาวทั้งสามสูดหายใจเข้าด้วยความหวาดหวั่นก่อนจะเงยหน้ามองผู้ที่อยู่ในห้องด้วยใจที่กล้าๆกลัวๆ ภาพตรงหน้าคือชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ผิวขาว ผมสีน้ำตาลอ่อนของเขาสะท้อนแสงไฟดูสวยงามราวกับเปลวเพลิง บนใบหน้าของเขาประดับด้วยรอยยิ้มจางๆที่ดูมีเสน่ห์

    “มีอะไรหรือเปล่าครับ”

    น้ำเสียงนุ่มเอ่ยถามเมื่อเขาพบกับหญงสาวแสนสวยสามคน

    “คือห้องของคุณส่งเสียงดังนิดหน่อยน่ะค่ะ แล้วฉันกับน้องๆ...”

    “ห้องผมน่ะเหรอครับ เป็นไปไม่ได้แน่นอน”

    ยังไม่ทันที่สาวผิวเข้มอย่าง ยูริ จะพูดจบ คนในห้องก็เอ่ยออกมาตัดบทเธอเสียก่อน

    “คะ”

    ยุนอาเอียงคอพูดด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนที่เธอจะหันไปมองคนข้างๆสองคนที่มีใบหน้าไม่เข้าใจไม่ต่างกับเธอ

    “ผมอยู่ที่นี่คนเดียวครับ แล้วจะให้ผมส่งเสียงดังโวยวายได้ไง หรือว่าจะให้ผมคุยกับตัวเองครับ ผมไม่ได้บ้านะครับ”

    คนในห้องบอกด้วยใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มเช่นเคย แต่รอยยิ้มในครั้งนี้ยูริ ซูยองและยุนอารู้สึกรังเกียจมันมากจริงๆ อีตานี่กวนประสาทขั้นเทพ ทั้งสามคนคิดในใจ

    “งั้นถ้าคุณอยู่คนเดียว แล้วแก้วที่วางอยู่ตรงนั้นทำไมถึงเป็นสิบอย่างนั้นละคะ”

    ซูยองเอ่ยถามขึ้นด้วยรอยยิ้มเมื่อเธอมองเห็นแก้วหลายใบวางบนโต๊ะใสหน้าโซฟา

    “เอ่อ... คือ... คือผมชอบกินแล้วเปลี่ยนแก้วไปเรื่อยๆ เพราะแก้วแต่ละใบให้ความรู้สึกแตกต่างกันดีน่ะครับ”

    คนในห้องเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ซูยองยกคิ้วขึ้นแล้วพูด อ๋อ ก่อนที่เธอกับยุนอาจะมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม โดยที่ยูริกำลังยืนจ้องคนตัวสูงด้วยสายตาจับผิด และไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้เอ่ยอะไรออกมาอีก ฝีเท้าเล็กของคนทั้งสองที่อยู่ข้างหลังยูริก็วิ่งผ่านชายหนุ่มเข้ามาภายในห้องอย่างรวดเร็ว โดยที่ชายหนุ่มเองได้แต่ยืนนิ่ง หน้าเอ๋อ ไม่ทันสถานการณที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

    “อนนี่ไม่เห็นมีอะไรเลย”

    ยุนอากระซิบถามซูยองเมื่อพวกเธอทั้งสองก้าวเข้ามาอยู่กลางห้อง

    “นั่นสิ... แต่ว่าอาจจะอยู่ในห้องก็ได้”

    “อืมใช่ เราไปเข้าไปดูในห้องดีหรือเปล่า”

    “จะดีเหรอ”

    “ดีสิ เราจะได้รู้ไงว่านอกจากอีตากวนประสาทนี่จะมีใครอยู่อีกหรือเปล่า ไม่สิ... จะมีคนอยู่กี่คนกันแน่”

    ยุนอาบอกซูยองก่อนที่เธอและซูยองจะรีบวิ่งตรงไปยังห้องที่ปิดประตูสนิททางด้านขวาอย่างรวดเร็ว แต่นั่นก็ไม่เร็วเท่าชายหนุ่มที่ก้าวขายาวมาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องพอดี ใบหน้าของเขาตอนนี้ดูเกรี้ยวกราดอย่างน่ากลัว

    “ออกไปจากห้องผมได้แล้วครับ”

    ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่เรียบเฉย

    “แต่ว่าห้องของคุณส่งเสียงดังจริง...”

    “ผมบอกแล้วไงว่าไม่ใช่!

    ชายหนุ่มเอ่ยเสียงดังจนยุนอาและซูยองถึงกับสะดุ้งโหยง

    “เอ่อ... ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจขึ้นเสียงกับคุณ แต่ผมอยู่ที่นี่คนเดียวจริงๆ... เพราะฉะนั้นกรุณาออกไปด้วยครับ”

    ชายหนุ่มบอกด้วยเสียงเรียบ ก่อนที่เขาจะผายมือไปยังประตูไม้ที่เปิดกว้างซึ่งมียูริยืนมองเขาอยู่ด้วยสายตาจับผิดเช่นเคย ซูยองและยุนอารีบก้าวเท้าและวิ่งออกมาจากห้องอย่างรวดเร็ว

    “ไปกันเถอะอนนี่ อีตานี่ดุยังกับแมว”

    ยุนอาบอกก่อนที่เธอจะดึงยูริและซูยองวิ่งตรงไปยังห้องที่อยู่ข้างๆทันที

     

    “เป็นไงบ้างพวกเขายอมลดเสียงแล้วใช่หรือเปล่า”

    แทยอนเอ่ยถามเมื่อยูริ ยุนอาและซูยองเปิดประตูเข้ามาในห้อง

    “หึ เจ้ากร๊วกนั่น... มันบอกว่ามันอยู่คนเดียว!!

    ยุนอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงดังเคียดแค้นจนแทยอนและทิฟฟานีที่นั่งอยู่บนโซฟาถึงกับหน้าเหวอทันที

    “อยู่คนเดียว เป็นไปได้เหรอ เสียงเมื่อกี้ดังเหมือนพวกเขาอยู่กันเป็นสิบๆเลยนะ”

    ซันนี่ที่เดินออกมาจากห้องครัวเอ่ยถาม

    “ก็ไม่รู้สิ ในห้องมีแค่เขาคนเดียว”

    ยูริบอกก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆแทยอน

    “แต่แก้วที่วางอยู่บนโต๊ะมีเป็นสิบ ฉันว่านายนั่นต้องหลอกเราแหงเลย”

    ซูยองบอกก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้สีขาวข้างๆประตู

    “ใช่ แต่ทำไมถึงเห็นแต่อีตาแมวนี่คนเดียวนะ”

    ยุนอาพูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเช่นเดิม

    “พวกเขาซ่อนตัวอยู่หรือเปล่าคะ”

    ซอฮยอนเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่เธอนั่งฟังบทสนทนา

    “นั่นสิ เสียงเมื่อกี้ฟังยังไงก็สิบคนขึ้นไป เป็นไปได้ที่พวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ในห้อง”

    ฮโยยอนพูด

    “จริงด้วย เพราะพอฉันกับยุนอาจะเข้าไปในห้อง นายนั่นก็เข้ามาขวางซะก่อน อย่างนี้แสดงว่าพวกเขาอีกหลายๆคนต้องอยู่ในห้องนั้นแน่เลย”

    ซูยองบอก

    “แต่ทำไมเขาจะต้องปิดบังตัวเองด้วย”

    ทิฟฟานีเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

    “ก็พวกเขาคงจะหน้าเหมือนแมวเหมือนกับอีตานั้นล่ะมั้ง เลยอายต้องเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้อง อย่างนี้นะขอแช่งให้หาปลากินไม่ได้ทั้งชาติเลยคอยดูสิ หึ่ย”

    ยุนอาบอกก่อนจะเดินตึงตังโกรธแค้นแมวเข้าห้องไป

    “ฉันว่านายแมวอะไรนั่นควรพิจารณาตัวเองได้แล้วล่ะ เพราะคนอย่างเขาทำให้ยุนอาอารมณ์เสียได้จนถึงขนาดนี้”

    ฮโยยอนเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นยุนอาอารมณ์เสียอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

    “นั่นสิคะ”

    ซอฮยอนเอ่ยสมทบ

     

    “นายแกล้งพวกเธอทำไมวะ”

    เสียงของซูโฮดังขึ้นกลางห้องโดยที่น้ำในแก้วใสซึ่งอยู่บนโต๊ะหายวับไปกับตา หลังจากที่ยูริ ซูยองและยุนอาออกจากห้องไป ชานยอลยิ้มน้อยๆก่อนที่เขาจะนั่งลงบนโซฟาและทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ต่อคำพูดของซูโฮ

    “นั่นสิ พวกเราเป็นคนผิดแท้ๆที่ส่งเสียงดัง”

    ลู่หานพูดสมทบซูโฮ

    “นายทำให้พวกเธอไม่ได้รู้จักเรา นายคิดจะกีดกันพวกเธอจากเราใช่ไหม”

    ไคเอ่ยถามเมื่อเขานั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับชานยอล และตอนนี้เขากำลังจ้องมองชานยอลด้วยสายตาจับผิดอยู่ แต่ชานยอลไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านกับการรุมของเพื่อนๆเลยแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้เขาเอาแต่ยิ้มและทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เหมือนเคย

    “นายชอบพวกเธอล่ะสิ ใช่หรือเปล่า”

    ซิ่วหมินเอ่ยถามโดยที่เขากำลังมองหิมะที่โปรยลงมาจากนอกหน้าต่างอยู่

    “นายทำให้พวกเธอโกรธ แถมตอนนี้พวกเธอกำลังด่านายอยู่อีกด้วย ฉันได้ยินล่ะ”

    เลย์บอกหลังจากที่เขาเปิดประตูออกมาจากห้องซึ่งเป็นห้องที่สองสาวสวยกำลังจะเปิดมันออก แต่ถูกหนุ่มขี้เล่นอย่างชานยอลหยุดมันไว้ซะก่อน

              “คงไม่ใช่แค่ด่าหรอก เพราะตอนนี้พวกเธอแช่งนายอยู่”

              คริสเอ่ยสมทบด้วยรอยยิ้มเยาะน้อยๆ

              “โอ้ พวกเธอคงเกลียดนายเข้าเส้นเลือดเพราะเธอถึงกับให้นายเป็นสัตว์เลยล่ะ พวกเธออยากฆ่านายจริงๆ”

              เฉินบอกด้วยรอยยิ้มเมื่อเขาก้าวเท้าออกมาจากห้องที่อยู่ตรงข้ามกับห้องที่เลย์ออกมา

    “อย่างนี้ก็ดีน่ะสิเพราะถ้าฉันให้เธอเห็นหน้าและได้รู้จักนิสัยสุภาพบุรุษของฉันเมื่อไร พวกเธอต้องหลงฉัน...”

    แบคฮยอนพูด

    “ไม่มีทางหรอก”

    เซฮุนตัดบทแบคฮยอนในทันทีเมื่อเขาพูดจบ แบคฮยอนหันมองเซฮุนด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจ แต่เซฮุนก็หันหน้าไปอีกทางและทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ในความไม่พอใจของแบคฮยอน

    “ใช่ ไม่มีทาง เพราะพวกเธอคือคนที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้”

    เทาเอ่ยบอกก่อนที่เขาจะยื่นหนังสือเล่มหนึ่งส่งให้แบคฮยอน โดยที่ทุกๆคนที่อยู่โดยรอบก็รุมล้อมหนังสือเล่มนั้นทันทียกเว้นก็แต่เซฮุนและเทาที่นั่งลงบนโซฟาด้วยใบหน้าเรียบเฉย

    “โซนยอชิแด เกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติ โด่งดังไกลทั่วโลกทั้งเอเชีย อเมริกา และยุโรป”

    ดีโออ่านออกเสียงเมื่อแบคฮยอนเปิดหน้าแรก โดยรูปบนหน้าปกคือภาพหญิงสาวทั้งเก้าคนที่มีหญิงสาวทั้งสามที่ย่างกรายเข้ามาในห้องอยู่ด้วย

    “แทยอน เจสสิกา ซันนี ทิฟฟานี ฮโยยอน ยูริ ซูยอง ยุนอา ซอฮยอน”

    ซูโฮไล่อ่านชื่อในรูปแต่ละใบก่อนที่เขาจะเปิดมาเจอรูปรวมของทั้ง 9 คนซึ่งถูกเขียนไว้ว่า โซนยอชิแด หรือ Girl Generation เก้าสาวที่เปรียบเสมือนนางฟ้าของเกาหลี

    “ฉันอยากตายว่ะ”

    ไคบอกก่อนจะล้มตัวลงนอนราบบนพื้น

    “พวกเธออยู่สูงเกินไป”

    แบคฮยอนบอกเสียงเศร้า

    “หญิงสาวระดับชาติ...”

    ชานยอลพูดด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย

    “พวกเธอสวยกันจริงๆ”

    ลู่หานบอกด้วยรอยยิ้ม

    “พวกเธอเหมือนนางฟ้าจริงๆนั่นล่ะ”

    ซิ่วหมินเอ่ยก่อนจะจ้องมองพวกเธอจากหนังสือด้วยสายตาชื่นชม

    “หญิงสาวระดับชาติ...”

    ชานยอลเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

    “หญิงสาวระดับชาติ...”

    อีกครั้งที่สาม

    “ฮือๆ... ทำไมต้องเป็นหญิงสาวระดับชาติ... แล้วอย่างนี้ฉันจะมีโอกาสได้ไงวะ”

    อีกครั้งพร้อมกับน้ำตาที่รินไหลออกมา

    “ชานยอล ช่างน่าสมเพช”

    ดีโอบอกก่อนจะตบหลังชานยอลเบาๆเพื่อปลอบใจ

     

    ..........................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×