คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : บทที่ 9 ความจริง
บทที่ 9
ความจริง
“พวกคุณกำลังทำอะไร”
ซอฮยอนเอ่ยถามด้วยใบหน้าไม่พอใจ ก่อนที่เธอจะเดินตรงไปหาแทยอนที่ยืนอยู่ข้างๆคริส
“...”
ทุกคนได้แต่ยืนนิ่งกับคำถามของซอฮยอน
“ไม่เป็นไรใช่ไหมคะอนนี่?”
ซอฮยอนเอ่ยถาม แทยอนส่ายหน้าแทนคำตอบ
“พวกคุณจะให้คำตอบฉันได้หรือยังคะ ว่าพวกคุณทำอะไรกันอยู่”
ซอฮยอนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเช่นเดิม
“...”
“พวกเราอยากรู้ว่าเธอคือใคร”
เซฮุนเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทุกคนยืนเงียบมานาน โดยสายตาของเขาหันไปมองคนตัวเล็กที่ยืนข้างๆคริสด้วยใบหน้าไม่ไว้ใจเช่นเคย
“อนนี่ก็คืออนนี่ พวกคุณสงสัยอะไร”
ซอฮยอนเอ่ยบอก
“คือ... คุณจำเรื่องที่พวกเราเล่าให้คุณฟังได้หรือเปล่าครับ แทยอนดูเหมือนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น”
เฉินเอ่ยบอก
“ใช่ครับ เราแค่ต้องการคำตอบว่าเธอเป็นใคร เพราะทุกครั้งที่เกิดเรื่องขึ้นแทยอนมักเป็นคนเดียวที่ดูจะเกี่ยวข้องและมีความลับมากที่สุด”
ลู่หานพูดสมทบ
“คุณทำให้เราระแวง”
เทาบอกแทยอนที่ยืนนิ่งอยู่
“แต่จากเมื่อกี้ คุณคงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรจริงๆ เพราะถ้าคุณเกี่ยวข้องคุณคงจะรีบจัดการพวกผมที่อยู่ไม่ครบทั้งสิบสองคนทันที เพราะมันเป็นเรื่องง่าย”
ซิ่วหมินบอก
“พวกเราต้องขอโทษด้วยที่ทำอะไรวู่วามและไม่ทันคิด”
ซูโฮบอก
“ไม่เป็นไรค่ะ”
แทยอนพูด
“แต่ฉันไม่เชื่อ”
เซฮุนที่ยืนนิ่งมานานพูดขึ้น
“เซฮุน?”
ซูโฮเอ่ยชื่อเซฮุน ซึ่งเขาไม่เข้าใจใจสิ่งที่เซฮุนกำลังทำอยู่
“วันแรกที่ฉันมาที่นี่ฉันเห็นมันตามเธออยู่ วันที่เราหาแหล่งกำเนิดเงาเธอก็แอบดูเราที่ดาดฟ้านี่ ฉันมองเห็นการกระทำของเธอทุกอย่าง แล้วอย่างนี้มันจะไม่มีอะไรได้ยังไง!”
เซฮุนบอก
“...”
แทยอนยังคงเงียบ
“มันอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ ใช่ไหมคะอนนี่?”
ซอฮยอนบอกเซฮุนก่อนจะหันมาถามแทยอนที่ก้มหน้าอยู่
“...”
แต่แทยอนก็เงียบเหมือนเคย ทุกคนยังคงจ้องมองแทยอนอยู่อย่างนั้น เพราะคำตอบจากปากของเธอจะทำให้ความสงสัยที่มีอยู่ในตัวทุกคนหมดไป
“ใช่ ฉันแอบดูพวกนาย ดูการกระทำทุกอย่างที่พวกนายทำ”
แทยอนเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้านิ่งสงบ
“...”
ทุกคนยืนนิ่งและฝังคำพูดของแทยอน ไม่เว้นแม้แต่ซอฮยอน
“ฉันเฝ้าดูพวกนายว่าจะทำอะไรกับเงาพวกนั้น ดูการกระทำทุกอย่างที่พวกนายใช้จัดการสิ่งที่จะทำลายโลก”
แทยอนยังคงพูดต่อ
“ฉันเดาเธอไม่ผิดจริงๆ”
เซฮุนพูดด้วยน้ำเสียงโกรธ
“ฉันจะจัดการเธอเอง”
เซฮุนบอกก่อนที่เขาจะถลาตัวไปจับแขนแทยอนอย่างรวดเร็วจนคริสที่ยืนอยู่ข้างๆต้องถอยไปข้างหลัง
“ใจเย็นๆก่อนเธอยังพูดไม่จบ”
คริสที่อยู่ใกล้รีบจับตัวเซฮุนไว้ก่อนที่เขาจะลงมือจัดการกับแทยอนที่ยังพูดไม่จบ
“แต่ฉันไม่ได้เฝ้าดูพวกนายเพราะจะทำลายพวกนาย แต่ฉันจะช่วยพวกนาย เพราะพวกมันมีพลังที่ล้นหลามเกินกว่าที่พวกนายสิบสองคนจะต้านทานมันได้”
แทยอนบอก
“แล้วคุณจะช่วยเราได้ยังไง ในเมื่อคุณไม่ได้มีพลังวิเศษเหมือนพวกเรา?”
ลู่หานถามขึ้นด้วยความสงสัย แทยอนที่แสดงสีหน้านิ่งสงบในตอนแรกค่อยๆเผยรอยยิ้มออกมา
“ฉันก็ไม่ได้บอกนี่คะว่าฉันมีพลังวิเศษ”
แทยอนพูด
“แล้วคุณจะช่วยพวกเราได้ยังไง?”
ไคเอ่ยถามด้วยความสงสัยเหมือนกับทุกๆคน
“อนนี่”
ซอฮยอนเรียกแทยอนด้วยน้ำเสียงเบา แทยอนหันใบหน้ามายิ้มให้ซอฮยอนน้อยๆ
“มันถึงเวลาแล้วล่ะซอฮยอน เราต้องช่วยพวกเขา”
แทยอนบอกก่อนที่เธอจะหลับตาลง ชายหนุ่มทุกคนมองหน้ากันไปมาอย่างไม่เข้าใจกับสิ่งที่แทยอนพูด แต่เพียงไม่นานที่พวกเขาสงสัย เพราะเมื่อแทยอนหลับตาลงและพึมพำคำบางคำกับตัวเอง ร่างเล็กขาวใสของแทยอนก็หลุดออกจากการเกาะกุมของเซฮุนเพราะตัวของเธอลอยขึ้นเหนือพื้นดาดฟ้า แสงสีขาวสว่างแสบตาเรืองทั่วเรือนร่างและใบหน้าของเธอ จนเมื่อเวลาผ่านไปขณะหนึ่งแสงสีขาวก็ค่อยๆจางลงเรื่อยๆก่อนที่มันจะเลือนหายไป ภาพเบื้องหน้าจึงปรากฏแก่สายตาทุกคน ร่างเล็กของแทยอนถูกสวมด้วยชุดกระโปรงสีขาวสวยสง่าแทนที่ชุดเก่าที่เธอใส่ก่อนหน้านี้ ปีกสีขาวสวยงามโผล่ออกมาจากด้านหลังพัดไปมาไม่หยุด มงกุฎสีขาวสว่างส่องแสงระยิบระยับเหนือหัวของเธอสีคล้ายกับแสงสีทองที่ออกจากตัวของเธอในขณะนี้
“นางฟ้า!!”
พวกเขาทุกคนพูดขึ้นพร้อมกัน ใบหน้าของทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นไม่น้อยเลย จะยกเว้นก็แต่ซอฮยอนที่ยืนนิ่งอยู่ เธอถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปใกล้แทยอน
“มันจะไม่เป็นอะไรจริงๆเหรอคะ”
ซอฮยอนเอ่ยถามแทยอนด้วยใบหน้าหนักใจ
“มันถึงเวลาที่เราต้องช่วยพวกเขาแล้วซอฮยอน เวลาของโลกเหลือน้อยเต็มที”
แทยอนบอกก่อนจะเหม่อมองบนท้องฟ้าที่มืดมิด ซอฮยอนเองก็เหม่อมองเช่นกัน แต่จะยกเว้นเพียงชายหนุ่มทั้งแปดคนที่ยังคงอ้าปากค้างอยู่เช่นเดิม
“เจสสิกา!”
เสียงเรียกที่ดังขึ้นส่งผลให้คนบนโซฟาสะดุ้งโหยงทันที
“อะไรเนี่ย”
เจสสิกาที่นอนอยู่บนโซฟาเด้งตัวลุกนั่งก่อนจะเอ่ยตอบเจ้าของเสียงเรียกด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์
“รีบลุกขึ้นเร็ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”
เจ้าของร่างสูงได้สัดส่วนเอ่ยบอกก่อนเจ้าตัวจะวิ่งเข้าห้องด้วยความรีบร้อน
“เกิดเรื่อง? เกิดเรื่องอะไร?”
เจสสิกาเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“รีบลุกขึ้นเร็วเหอะน่า ทุกคนเขาไปที่นั่นกันหมดแล้ว”
ยูริตะโกนบอกมาจากในห้อง
“ที่ไหนอ่ะ?”
เจสสิกาเอ่ยถามอีกครั้ง
“โอ๊ย! ฉันละเบื่อเธอจริงๆเลย รีบลุกได้แล้ว เร็วๆไม่ต้องถามมาก ไปถึงก็รู้เองนั่นล่ะ ลุกสิ!”
ยูริเอ่ยบอกก่อนจะตะโกนซ้ำเมื่อเห็นว่าคนบนโซฟายังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เจสสิกาตอบรับสั้นๆก่อนจะลุกขึ้นวิ่งตามยูริออกไปด้วยความเร่งรีบ
“แน่ใจนะว่าเรามาถูกที่”
ซูยองที่นั่งอยู่บนเบาะด้านหลังเอ่ยถาม ด้านหน้าเธอคือทุ่งกว้างไร้ซึ่งสิ่งก่อสร้างและแสงไฟใดๆ ซึ่งมันดูเปล่าเปลี่ยวและน่ากลัวมากจริงๆ
“แน่ใจสิ ฉันก็ขับมาตามทางที่พวกนั้นบอกเปะเลยนะ”
ฮโยยอนที่นั่งอยู่ที่คนขับเอ่ยบอก เธอไล่สายตามองรอบๆบริเวณอย่างไม่รู้สึกกลัว
“ฮโยยอน เธอมาผิดที่แน่ๆ พวกเขาจะนัดเรามาที่น่ากลัวๆแบบนี้ได้ยังไง”
ทิฟฟานีที่นั่งอยู่ข้างๆคนขับเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น
“นี่เธอ ก็บอกแล้วไงว่าฉันขับมาตามที่พวกเขาบอก เอาเถอะเรารีบลงไปก่อนดีกว่า เผื่อพวกนั้นจะรออยู่ข้างนอก”
ฮโยยอนบอกก่อนจะปลดที่รัดเข็มขัดออก
“เดี๋ยวสิ!”
ทิฟฟานีร้องห้าม
“เดี๋ยวค่อยลงไป ขอเวลาทำใจอีกหน่อยนะ ฉันกลัว”
ทิฟฟานีบอก
“เฮ้อ... งั้นเธอเลิกกลัวเมื่อไรก็บอกฉันด้วยแล้วกัน”
ซูยองบอกก่อนจะทิ้งตัวนอนราบไปกับเบาะอย่างสบายใจ
ก๊อก ก๊อก
“กรี๊ด!!”
เสียงบานกระจกที่ถูกเคาะส่งผลให้ทิฟฟานีที่หวาดกลัวอยู่ถึงกีบกรี๊ดออกมาสุดเสียง
“มาดีๆไม่ได้หรือไง”
ฮโยยอนที่ลดกระจกลงเอ่ยบอกคนข้างนอก ไคส่งยิ้มหวานมาให้ก่อนที่เขาจะเคลื่อนตัวมาหยุดอยู่ทางฝั่งฮโยยอน
“ผมไม่คิดว่าทิฟฟานีจะกลัวขนาดนี้นี่”
ไคบอกด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันสายตามองยังทิฟฟานีที่นั่งก้มหัวแทบจะถึงเท้า
“รีบลงมาเถอะครับ ทุกคนรออยู่แล้ว”
ไคบอกก่อนที่เขาจะเบี่ยงตัวหลบให้ฮโยยอนลงจากรถ
“เธอหลับแล้ว”
เทาที่เปิดบานประตูด้านหลังบอกหลังจากที่เขาได้ยินเสียงหายใจของร่างสูงบนรถที่สม่ำเสมอ
“เธอทำงานหนักเกินไป”
ทิฟฟานีบอกก่อนที่เธอจะส่งยิ้มให้ร่างสูงพอเหมาะที่ปลดเข็มขัดให้เธอเสร็จ
“รีบตามมาละกันนะ ไปครับ”
ลู่หานเอ่ยบอกเทาก่อนจะพูดกับทิฟฟานีและดึงเธอให้ลุกจากที่นั่ง
“คนขี้เซา”
เทาเอ่ยด้วยรอยยิ้มก่อนที่เขาจะโน้มตัวลงไปอุ้มคนตัวสูงที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนและเดินตามทุกคนไปอย่างรวดเร็ว
.......................................................
ความคิดเห็น