ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มัดหัวใจ...คุณชายจอมโหด [ sihan ]

    ลำดับตอนที่ #2 : พบเจอ 100% ค๊าบบบบ ผม

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 52



    "
    เมื่อครู่คุณเรียกผมเหรอครับ  "  

    "  เป็นนายนั้นแหละชั่งกล้านักนะ ถึงกับสาดน้ำใส่รถคุณชายเชว ชีวอน  ของพวกเรา นายคงไม่อยากมี
    ชีวิตอยู่แล้วล่ะมั้ง
    ! "  เสียงคังอินตวาดลั่น

    "  ขอโทษจริง ๆ ผมเพิ่งมาที่นี้เป็นครั้งแรก  วันนี้เป็นวันแรกที่ผมเริ่มทำงาน  ในร้านข้าวผัด เมื่อครู่ผมกำลังเก็บกวาด  ไม่ทราบว่ามีคนผ่านมาจึงทำให้พวกคุณและคุณชายอะไรนั้นของพวกคุณสกปรกเลอะเทอะล้วนเป็นความผิดของผมเอง  ให้อภัยผมด้วยเถอะครับ  "

    เขาเพิ่งจะมาโซลเป็นครั้งแรก ไม่ทราบว่าคนที่นี้มีอารมณ์รุนแรงถึงขนาดนี้  เพียงแค่สาดน้ำเลอะรถก็ทำเสีย
    กับว่าเขาทำความผิดร้ายแรง   อะไรจะขนาดนั้น

    " นี้...นาย ! "  คังอินทำท่าอย่างจะฆ่าเขาให้ตายอยู่ตรงนั้น 

    " เอาอย่างนี้ดีไหม ผมจะช่วยพวกคุณเช็ดรถจนสะอาดเอี่ยม ถ้าหากไม่พอ แม้เสื้อผ้าของพวกคุณผมก็
    จะซักให้  ตกลงหรือ..ไม่ แต่ถ้าเป็นการแสดงความเสียใจของผมไม่พอล่ะก็...เอาเถอะ แต่ขอ

    บอกพวกคุณว่าผมไม่เงินทองพอจะชดใช้รถคันหรูให้แก่คุณชายของคุณหรอกนะ  ถ้าอาจคิดจะ

    รีดไถผมล่ะก็ พวกคุณมาผิดที่แล้ว  เอาอย่างนี้ผมทำงานอยู่ร้านข้าวผัด หากพวกคุณไม่รังเกียจผมเชิญพวกคุณ ทุกคนเลยนะครับ มาทานข้าวผัดของร้านของผมคนล่ะจาน  ถือว่าเป็นการขอโทษก็แล้วกันดีไหมครับ  "   

        ดูจากสีหน้าท่าทางจะโมโหเขาน่าดู  ฮันเกิงจึงได้แต่ยอมถอยให้ก้าวหนึ่ง จำนวนคนกลุ่มนี้นับไปถึงคนในรถอีกหลายสิบกว่าคัน อย่างน้อยก็ประมาณสามสิบสี่สิบคน  ผ่านเลยคราวนี้ไปเขาไม่ขาดทุน ก็แปลกเกินไปแล้ว 

         ดูท่าทางฮันเกิงยังไม่รู้ตัวว่าไปทำอะไรให้คนกลุ่มนี้โกรธเข้า ทั้งยังกล่าวพวกเขาว่าจะมารีดไถเงิน  ทำให้ทุกคนพากันส่ายหน้ามองอย่างสมเพช ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตล่ะคราวนี้

    "  นี้ นายจะบ้าหรือไง  คิดว่าคุณชายของเราเป็นใครกัน ถึงให้มากินอาหารหยาบ ๆ ที่

    นายทำแบบนี้นะ ห๊า !   "   คังอินปวดหัวอย่างยิ่งเพราะดันมาเจอคนบ้าคนบอแบบนี้  แล้วยังมาให้คุณชายของเขาทานอาหารข้างถนนเสียอีก 

     "  อาหารหยาบ ๆ ? หรือข้าวผัดของฉันปรุงมีรสชาติขึ้นชื่อที่บ้านเกิดของฉันที่จีนเลยนะจะบอกให้ 

    เชื่อได้เลยคนใหญ่คนโตที่ได้ลิ้มลองชิมรสจะต้องชมเชยไม่หยุดปากแน่  ๆ แต่พวกนายกลับคิดว่าข้าวผัดเป็นฉันทำเป็นอาหารหยาบ ๆ อย่างนั้นหรอ  " 

      คำพูดนั้นสะกิดอารมณ์ของเขาอย่างไม่คาดฝัน  หลังจากเมื่อครู่เสียงเบาถ่อมเนื้อถ่อมตัว ตอนนี้น้ำเสียงสูงปรี๊ดดังกลบเสียงตวาดของคังอินจนหมด   มันน่าโมโหนัก เขาเป็นคนรับฟังได้ทุกเรื่อง

    แต่ถ้ามีคนมาวิจารณ์ฝีมือให้การทำอาหารของเขาแล้วล่ะก็ เขาก็เตรียมพร้อมที่จะสู้ทันที  ต่อให้ใครคนนั้นยิ่งใหญ่มาจากที่ไหนก็ต้องที เขาจะด่าให้ไม่เลี้ยงเลย ข้อหารู้จักเขาน้อยเกินไป

      คังอินตะลึงจนตาค้าง ขณะจะขยับปากจะแผดเสียงออกมาอีกครั้ง แต่คนที่อยู่ในรถก็เปิดประตูพร้อมกับเอ่ยว่า

    "  คังอิน ฉันอยากกินข้าวผัดของเขา   " 

    " คุ..คุณชาย  คุณชายต้องการทานข้าวผัดของเขาหรือครับ ?  "  คังอินเอ่ยเสียงออกมาอย่างไม่เชื่อหู คุณชายเป็นอะไรไปแล้ว คิดอย่างไรถึงยอมลดตัวไปกินอาหารธรรมดาของชาวบ้าน  คุณชายถือว่าเป็นมหาเศรษฐีระดับต้น ๆ ที่รวยที่สุดในตอนนี้ก็ว่าได้   และยามรับประทานอาหารก็จะใส่ใจพิถีพิถันเป็นพิเศษ  ที่คฤหาสน์มีพ่อครัวที่ขึ้นชื่อหลายสิบคนทำกันสุดฝีมือ ถึงขนาดนั้นก็ยังไม่เคยเอ่ยปากชมเลยสักครั้ง แต่วันนี้คุณชายกลับมาอยากทานข้าวผัดร้านข้างถนน การกระทำเช่นนี้ทำเอาเขาและลูกน้องทุกคนงงเป็นไก่ตาแตก

    "  ไม่ได้หรืออย่างไร  "  ชีวอนยืนอยู่นั้นเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ

    "  เปล่าครับ ไม่ใช่ไม่ได้ครับ ถ้าหากคุณชายต้องการทานข้าวผัด ผมจะรีบไปจัดการให้  "

    "  ไม่ต้องเราจะไปเพียงคนเดียว  "

      เมื่อเขาไปในร้านหย่อนตัวนั่งลง กวาดสายตามองไปรอบ ๆ อย่างใจเย็นจากนั้นก็มาหยุดสายตาลงที่ชายหนุ่มผู้โชคร้าย ภาพที่เห็นนั้นคงอายุเท่า ๆ กันกับเขาหรือถ้าห่างก็คงจะห่างกันเพียงไม่กี่ปี 

    โครงหน้ารูปไข่  ริมฝีปากแดงระเรื่อ ผิวกายเปล่งปลั่งอมเลือดฝาดแสดงถึงสุขภาพแข็งแรงดี  นอกจากนี้สิ่งที่เขาต้องปลายตามองอีกหลายครั้งก็คือดวงตาโตกลมคู่นั้น มิใช่ว่าหวานหยาดเยิ้มเชิญชวนตาแต่อย่างไร กลับตรงกันข้าม...สองตาของเขากับสุกใสเป็นประกาย  ทั้งยังแฝงไปด้วยความคึกคักห้าวหาญมิใช่คนขี้ขลาดประเภทนั้น 

     ดูถ้าท่าทางคงไม่ได้ตั้งใจสาดน้ำใส่รถเขาจริง ๆ

    "  นายน่ะชื่ออะไร "  หลังจากที่เขาประเมินดูอีกฝ่ายจนเป็นที่พอใจแล้ว 

    "  ผมเหรอ  "  ฮันเกิงเองก็ตื่นเต้นจนอ้าปากค้างต่อการปรากฏตัวของชีวอนเช่นกัน  ช่างเป็นคุณชายที่สง่างามอะไรขนาดนั้น  ที่บ้านเกิดเขายังไม่เคยเจอผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลาดูมีราคีแบบนี้มาก่อน  เมื่อเห็นเขาตะลึงอยู่เช่นนั้นอยู่นาน  คังอินจึงตวาดขึ้นว่า 

    "  จะจ้องอยู่แบบนั้นอีกนานไหม  คุณชายถามแล้วยังไม่รีบตอบมาอีก   "

    "  ไม่เป็นไร   "  ชีวอนยกมือห้ามคังอินไว้ น่าแปลก  เวลานี้จิตใจเขากับไม่ถือสาเรื่องเล็กน้อยนี้ 

    จึงไม่ใส่ใจกับท่าทีที่เสียมารยาทของฮันเกิงแม้แต่น้อย 

    "  นายชื่ออะไร   "  ชีวอนเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง   

    "   ฮันเกิง  ชื่อของผม  ฮาน  ฮันเกิง  "

    คราวนี้เขาหายตะลึงแล้ว แต่กลับมองไปที่คังอิน อย่างอารมณ์เสีย

    "  นายมันนิสัยแย่จริง ๆ   ควรจะดูท่าทางคุณชายของนายไว้บ้างนะ  ปฏิบัติต่อผู้อื่นต้องรู้จักเกรงอกเกรงใจและนุ่มนวลเข้าไว้บ้าง "

     เมื่อฮันเกิงกล่าวจบ ผู้ที่เห็นเหตุการณ์อยู่ด้านนอกต่างพากันสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ  เพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับชีวอนมาก่อนนะสิ

    .  ทุกคนจึงพากันดูปฏิกิริยาของคุณชายชีวอน  แต่กลับเห็นว่าเขาแหงนหน้าหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

    "  นายกล่าวได้ถูกต้อง    ฉันออกจะ ดีขนาดนี้ นุ่มนวลขนาดนี้ เกรงใจคนขนาดนี้

    มีเพียงนายเท่านั้นล่ะมั้งที่มองออก   "  ชีวอนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

    "  นี่แสดงว่าคุณนะมีเพื่อนน้อยเกินไป จึงมีน้อยคนที่เข้าใจคุณยังไงล่ะ "

    "  จริงเหรอ  "  ชีวอนคิดอยู่นานเหมือนว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ
    ________________________________________________________________________________

    "  นายบอกว่าชื่อฮาน ฮันเกิง เพิ่งจะมาโซลครั้งแรกใช่ไหม  "  ชีวอนเอ่ยถามฮันเกิงอีกครั้ง

    "  อืม..ถูกต้องแล้ว ใครมันรู้ล่ะว่ามาทำงานวันแรกกับดันมาเจอเรื่องแบบนี้  ผมต้องขอโทษด้วยล่ะกัน  "  ฮันเกิงโค้งพร้อมกับกล่าวขอโทษชีวอนหลายครั้ง 

    "  ในเมื่อนายเพิ่งจะเคยมาโซลครั้งแรก คงไม่เคยรู้ว่าที่นี้ต้องทำตัวอย่างไร  แล้วก็ไม่รู้จักใครมาก่อนใช่ไหมล่ะ "

    "  ใช่แล้ว...ผมกำลังคิดอยู่ว่าคุณคือใคร แต่ดูจากรถที่ขับแล้ว กับจำนวนคนคงไม่ใช่พวกที่หาเช้ากินค่ำแบบผมแน่นอน   หากคิดว่าคุณคือประธานาธิบดีล่ะก็  ผมคงเชื่อคุณแน่เลย  555+   "  ฮันเกิงหัวเราะร่วนกล่าวด้วยท่าทางอารมณ์ดี   

    "  อย่างนั้นหรอ  "  ชีวอนเพียงยิ้มน้อย ๆ  พร้อมกับเอ่ยอีกครั้งว่า

    "  นี้..ฮาน ฮันเกิง  "  ยังไม่ทันที่ชีวอนจะพูดจบ  ฮันเกิงก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน 

    "  55+  นี้คุณ...ชื่ออะไรนะ  "

    "  ชีวอน   "  ชีวอนเอ่ยออกมาเรียบ ๆ

    "  ใช่ ๆ คุณชีวอนไม่ต้องเรียกชื่อผมซะเต็มยศขนาดนั้นก็ได้  เรียกว่าฮันเกิงก็พอแล้ว  เรียกเต็มแบบนั้นฟังแล้วดูแปลก ๆ ชอบกล 555+ "

    เวลาที่ฮันเกิงหัวเราะนั้นเผยให้ลักยิ้มที่แก้ม  ดูน่ารักน่าจับตามอง ชีวอนมองดูใบหน้านั้นรู้สึกตะลึงไปเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็หัวเราะในลำคอเบา ๆ  ผู้ชายคนนี้ทำไมทั้ง ๆ การกระทำของเขานั้นไร้มารยาทถึงขนาดนี้แต่กับทำให้ชีวอนนั้นรู้สึกดีอยู่ไม่น้อย ไม่เสียแรงที่เขายอมลงมาจากรถเพื่อทานข้าวผัดซึ่งเป็นอาหารธรรมดา ๆ แบบนี้ 

    "  อืม...ฮันเกิง  ในเมื่อนายทำรถของฉันสกปรกก็ต้องรับชอบใช่ไหม  "  ฮันเกิงพยักหน้ารับอย่างรุนแรง จนคนที่มองดูอยู่นั้นกลัวว่าศีรษะเขาจะหลุดลงมาจากบ่าเสียจริง ๆ

    ชีวอนเห็นดังนั้นจะเอ่ยต่ออย่างยิ้มแย้ม 

    "  ในเมื่อเป็นแบบนี้ คำพูดของนายคงเชื่อได้ใช่ไหม  "  ฮันเกิงก็พยักหน้ารับอีกครั้ง

    "  ดีมาก ถ้าอย่างนั้นนายไปทำข้าวผัดมา สามร้อยจาน  แบบนี้พวกเราคงอิ่มท้องแล้ว  " ชีวอนนับจำนวนคนของเขาแล้วพวกที่มุงดูอยู่ด้านนอกอีกก็คงประมาณสามร้อยสามจานพอดี 

    "  อะ..อะไรนะ  สาม..สามร้อยจาน  "  นี้ชีวอนคงไม่ได้หมายความว่า จะเล่นงานเขาหมดตัวเลยหรอกเหรอเนี้ย

    "  เป็นอะไรมาเสียใจตอนนี้ไม่สายไปหน่อยหรอ  "  ชีวอนเปลี่ยนสีหน้าเริ่มไม่พอใจฮันเกิงทันที 

    "  เสียใจ...อะไรไม่เลย  คนอย่างฮาน  ฮันเกิง  คนอย่างฮันเกิงพูดไม่คืนคำอยู่แล้วแค่นี้สบาย ๆ "  ฮันเกิงรู้สึกกลัวอยู่บ้าง แต่เพราะความไม่ยากจะเสียหน้าจึงได้แต่เอ่ยออกไปอย่างนั้น 

    "  ช่วยไม่ได้ในเมื่อนายเป็นคนพูดเองนะ  "  ชีวอนเอ่ยน้ำเสียงยียวนเล็กน้อย 

    "  ok ในเมื่อคุณต้องการแบบนั้นผมก็จะทำอย่างที่พูดไว้  เชิญคุณนั่งรอต้องนี้ก่อนแล้วเดี๋ยวผมจะไปทำข้าวผัดมาให้  " 

    " เดี๋ยวก่อน  "  ชีวอนเรียกฮันเกิงอีกครั้ง 

    "  ฮื้อ...  "  ฮันเกิงหันมามองว่าเขาต้องการอะไร 

    "  นายบอกว่าข้าวผัดที่นายเป็นคนทำอร่อยมากใช่ไหม  ถ้าอย่างนั้นก็ทำให้อร่อย ๆ ล่ะ ไม่อย่างนั้นนายโดยดีแน่ ๆ  " 

    "  อะไรนะ O_O  "

    " นายกลัวว่าฉันจะทำอะไรนายหรือไง  "  ชีวอนมองไปที่ฮันเกิงอย่างเจ้าเหล์  ริมฝีปากเหยียดเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย 

    "  กลัว ? ไม่เลย  ใครจะไปกลัวกัน  ข้าวผัดของผมอร่อยที่สุดในจักรวาลอยู่แล้ว  "  ฮันเกิงยิ้มออกมาอย่างถือดี  ทำให้เผยลักยิ้มออกมาอีกครั้ง 

    "  ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปทำสิ  "  ชีวอนรู้สึกไม่พอใจกับท่าทางมั่นใจของฮันเกิง และโมโหตัวเองที่ดันไปรู้สึกแปลก ๆ กันร่างที่อยู่ตรงหน้านี้

     

       ฮันเกิงขยับสะบัดกระทะได้ว่องไวมาก  ไม่นานก็มีข้าวผัดหอมน่ากินออกมาคราวเดียวเจ็ดแปดจาน และแน่นอนว่าจานแรกต้องเป็นของชีวอนก่อน ฮันเกิงเดินเข้าไปทำข้าวผัดต่อโดยไม่ฟังคำ

    ติชมจากเขา แสดงว่าฮันเกิงมั่นใจในการปรุงอาหารของตัวเองเป็นอย่างมาก 

      ชีวอนมองจานข้าวผัดที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา กลิ่นที่หอมเครื่องที่อยู่บนหน้าข้าวผัดก็สีสันสวยงาม  มองดูแล้วน่าชวนให้อยากลองทาน ซึ่งชีวอนนั้นคิดจะกล่าวหาว่าร่างบางโกหกนั้นคงจะยากเสียแล้ว 

     เขายื่นมือไปรับช้อนที่คังอินเอามาให้   เมื่อชีวอนตักคำแรกเข้าปาก ทำให้เขาตะลึงในรสชาติทันที 

    ไม่ว่าจะเป็นรสที่ไม่เค็มไปแล้ว ทุกอย่างก็ยังพอเมาะไม่ขาดไปเกิน  อร่อยจริง ๆ 

    "  คังอิน พวกนายก็กินด้วยสิ "  ชีวอนเอ่ยขึ้น  แน่นอนว่าถ้าเขาไม่สั่งไม่มีใครกล้าที่จะแตะข้าวผัดแน่นอน  เมื่อทุกคนกินข้าวผัดคำแรกก็แอบคิดว่าข้าวผัดจานนี้อร่อยจริง ๆ  

    ฮันเกิงตั้งใจทำข้าวผัดที่อยู่ตรงหน้าอย่างตั้งใจ  ถึงจะเหนื่อยขนาดไหนแต่เขาก็ไม่เคยบ่น  แถมยังทำด้วยอารมณ์ที่ยิ้มแย้ม รอยยิ้มนั้นทำให้ชีวอนแอบมองหน้าฮันเกิงจนแทบไม่อยากจะละสายตา 

    ในที่สุดฮันเกิงก็ทำข้าวผัดสามร้อยจานจนเสร็จ  ทุกคนที่กินข้าวผัดนั้นมีแต่คำชมออกมาอย่างไม่ขาดสาย  แต่มีเพียงชีวอนเท่านั้นที่กินเหลือไว้เพียงครึ่งจาน  ทำให้ฮันเกิงเอ่ยถามอย่าง งง ๆ

    "  ไม่อร่อยหรือไง ถึงกินเพียงครึ่งเดียวน่าเสียดายชะมัดเลย "  ฮันเกิงเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ  แต่ใจจริง ๆ แล้วนั้นกลัวจนสั่นเป็นเจ้าเข้าไปแล้ว 

    "  แล้วที่เห็นนายคิดว่ายังไงล่ะ  "

    "  ใครจะไปรู้ล่ะ  กินไม่หมดแบบนี้แสดงว่าข้าวผัดของผมไม่อร่อยหรือไง  "

    "  ผิดแล้ว คุณชายชอบมากตั้งหากถ้าไม่อร่อยนะคุณชายจะตักเพียงแค่ทำเดียว...  "  แต่เมื่อคังอิน

    เห็นท่าทางของชีวอนจึงรีบหุบปากทันที 

    "  แสดงว่าคุณชอบข้าวผัดของผมใช่ไหมล่ะ  555+  ของมันแน่อยู่แล้ว  "  ฮันเกิงเอ่ยพร้อมกับหัวเราะร่า 

    "  อืม...  "  ว่าแล้วเขาก็เอ่ยอีกครั้ง 

    "  งานต่อไป  "

    "  เอ๊ะ...งาน..งานอะไรอีกล่ะเนี้ย  " ฮันเกิงคิด

    ยังจะมีอีกเหรอเนี้ย   TOT, =_= 

    "  งานต่อไปคือ...ล้างรถให้ฉัน  "  ชีวอนเอ่ยยิ้มมุมปาก เท้าคางอย่างอารมณ์ดี ที่ได้สนุกกับการแกล้งร่างที่อยู่ตรงหน้า

     

       ________________________________________________________________________________________


    ขอบคุณทุกคอมเม้นนะครับ  ผมจะพยายามเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้ 


    ถามกระชู่  ว่าควรจะใช้สำนวนแบบไหนถึงจะถูก  ยัยเพื่อนผู้แสนจะน่ารัก

    ก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย "บอกว่าฟิคชั้นยังไม่รอดเลย "  เซ็ง =_=  ครับพี่น้อง 

      โอ๊ย !!!!! 

    ถ้ามันยุ่งยากนักไปแปลนิยายเหมือนเดิมดีไหมเนี้ย  555+  แต่งเองเนี้ย

    ยากเหมือนกันน่าเคยแต่ใช่คำว่า ข้า, เจ้า ,ท่าน , ขอรับ  555+  ในการแปลนิยาย

    ของจีน แต่ตอนนี้ต้องมาใช่  นาย , ผม,เขา,เรา,เธอ  ผมเลยงงเป็นไก่ตาแตกไปเลย  55+  

    ยังขอบคุนที่ติชมมาทุกเม้นเลยนะครับ  จะแก้ไขปรับปรุง ให้กระชู่มันแต่ง NC  หื่น   ๆ  

    เป็นการแถมด้วย  555+
      
         

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×