ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 5... ~ร่างไร้สติ~
    ‘ประเทศไทยตั้งอยู่บริเวณทวีปเอเชีย บริเวณ.....................’  เสียงคุณครูประจำชั้นสอนหนังสือไปตามปกติ...หากแต่สติของสาวน้อยไม่ได้จดจ้องอยู่ที่หนังสือที่วางกางข้างหน้าอยู่ซักนิด ปุ่นนั่งกระสับกระส่ายไปมาด้วยใจร้อนรนพาลคิดไปถึงอีกหนึ่งบุรุษที่นอนสลบไสลอยู่ที่โรงพยาบาล หวังเพียงอยากให้จบคาบเร็วๆ เพื่อเธอจะได้ไปหาผู้เป็นที่รักเสียที...
‘เอ้า หัวหน้าบอก’ เสียงที่รอคอยมานานมาถึงเธอรีบสะพายเป้ใบน้อยเตรียมไว้ทันที
‘นักเรียน...เคารพ’ ไม่ทันสิ้นเสียงห้าวๆของกอล์ฟ หัวหน้าห้องจอมทะเล้น ปุ่นรีบวิ่งปรู๊ด ออกไปจากห้องเรียนแทบจะในทันที
‘นั่นเขาเป็นอะไรของเขาน่ะ’  กอล์ฟเกาหัวอย่างแปลกใจ นี่ยัยปุ่นจอมอืดอาดคนเดิมหายไปไหนแล้วเนี่ย...
   
‘ปล่อยเขาไปซักวันเหอะน่า แฟนนอนอาการสาหัสอยู่ที่โรงพยาบาลถ้ามามัวใจเย็นอยู่ก็แปลกคนล่ะ’ น้ำหวานที่นั่งอยู่ข้างๆชิงตอบขึ้นมา
‘หมายถึงเกมส์ที่อยู่ห้องข้างๆน่ะเหรอ’ กอล์ฟขยับแว่นที่อยู่บนจมูกให้เข้าที่เบาๆ
‘นอกจากเขาจะมีใครอีกล่ะ’ น้ำหวานพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนเดินจากไปเงียบๆ...โดยไม่ได้สังเกตสีหน้าที่เปลี่ยนไปของคู่สนทนาเมื่อครู่เลยซักนิด...
‘เกมส์จ๋า...ปุ่นมาหาแล้วนะจ๊ะ’ เด็กสาววางกระเป๋าเป้ไว้ที่โต๊ะไม้ข้างๆก่อนทรุตัวนั่งลงข้างเตียงผู้ป่วย เมื่อหันซ้ายแลขวาพบว่าไม่มีใครแล้ว...เด็กสาวก็ค่อยๆโน้มตัวนอนซบไปกับมืออุ่นๆของเด็กชาย...มือนุ่มค่อยๆลูบไล้ไปตามผิวหน้าที่หยาบกร้านกว่าตนเพียงเล็กน้อยเบาๆ
‘ขอโทษนะเกมส์...ที่ปุ่นทำให้เกมส์ต้องเป็นอย่างนี้’ ปุ่นกล่าวกับร่างไร้สติ
‘ไม่เป็นไรนะ...ปุ่นจะอยู่ๆข้างเกมส์ๆเอง...’ เด็กสาวถูแก้มนุ่มๆไปกับฝ่ามือของเกมส์ ก่อนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้...
‘จริงสิ...ปุ่นซื้อหนังสือที่เกมส์ชอบมาให้ด้วยนะ...เดี๋ยวปุ่นอ่านให้ฟังละกัน’ เด็กน้อยหยิบหนังสือเทพนิยายที่เธอเคยเกลียดนักเกลียดหนาที่มันแย่งเกมส์ไปจากเธอมาถือไว้ในมือช้าๆ เรื่องราวนับสิบจากหนังสือถูกเรียงร้อยถ้อยคำเสียใหม่แล้วกล่าวเล่าเบาๆจากปากของเด็กสาวข้างกาย...
    เด็กสาวเริ่มต้นอ่านอย่างเพลิดเพลินเล่มแล้วเล่มเล่าจนเหลือเพียงหนังสือบางๆขาดๆวิ่นๆเล่มสุดท้ายที่เธอค้นมาจากกองหนังสือที่บ้าน...
‘กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชาวไม้อยู่คนหนึ่งนาม เกมิส เขาแอบหลงรักเทพี พาเธน่าผู้งดงามอย่างหัวปักหัวปำ หากแต่พระองค์ไม่เคยได้สนใจใยดีหนุ่มน้อยเลยแม้แต่นิด ซ้ำร้ายยังแกล้งเด็กหนุ่มไปนานาสารพัด หากแต่เกมิสก็ไม่เคยคิดถดถอยกำลังใจ รังแต่จะเคารพเทิดทูนบูชาเทพีพาเธน่ามากยิ่งขึ้นไปอีก...
ทุกเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกเขาต้องนำดอกไม้และผลไม้สดไปสักการะเทพีคนสวยเป็นประจำ วันแล้ววันเล่าๆ...จนนานวันเข้าเกราะกำแพงภายในใจพระองค์ก็ค่อยๆทลายลงทีละน้อยๆ ไม่รู้ว่าเมื่อไร เด็กหนุ่มนามเกมิสก็เข้ามานั่งอยู่ในใจของพระนางเสียแล้ว หากแต่นางยังคงไม่ละทิ้งศักดิ์ศรีแห่งเทพ...แกล้งทำเมินเฉยกับชายหนุ่ม...ทั้งๆที่ในใจกลับเร้าร้อนไปด้วยเปลวเพลินแห่งปรารถนา...                       
แต่แล้ววันหนึ่ง...เกมิสเกิดป่วยหนักขึ้นมา...ไม่มีแรงจะลุกเดินเหินไปไหน ได้แต่นอนซมอยู่อย่างนั้น...ฝ่ายเทพีพาเธน่าก็เฝ้ารอชายหนุ่มอยู่จนกระทั่งอาทิตย์ตกดิน รอแล้วรอเล่าอยู่สามวันสามคืน แต่ก็กลับไม่มีวี่แววของหนุ่มน้อยเลยซักนิด ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังคงทำใจแข็งไม่ถามหาหรือแสดงท่าทีใดๆทั้งนั้น ทั้งๆที่ในใจร้อนรนแทบคลั่ง        
ในที่สุด...ในเช้าวันที่ 4... ความอดทนของเทพีคนสวยก็ได้ขาดผึงลง พระนางได้ส่งนกพิราบไปส่งสารเรียกเกมิสให้มาพบ ...ฝ่ายชายหนุ่มซึ่งเพิ่งหายจากไข้  ก็กระโดดโลดเต้นดีใจกับจดหมายนัดพบฉบับแรกจากพระนาง เที่ยวป่าวประกาศไปทั้งหมู่บ้านว่าตนได้รับเลือกจากเทพีคนงามแล้ว...แต่เรื่องนี้ก็ไม่อาจพ้นหูของท้าวไกเซอร์บิดาของเทพีพาเธน่าไปได้ ท้าวเธอทรงกริ้วเป็นอย่างมากที่ธิดาเพียงคนเดียวมีข่าวฉาวกับมนุษย์โลก ดังนั้นพระองค์จึงคิดขัดขวางการพบกันของทั้งสอง...                   
เย็นวันนัดพบ...ทั้งคู่ต่างนั่งรอคนละฝั่งฟากของก้อนหิน...โดยไม่สามารถมองเห็นได้ซึ่งกันและกันด้วยอำนาจของท้าวไกเซอร์นั่นเอง...รอแล้วรอเล่าจนเทพีสาวเริ่มจะเอะใจ จากข่าวที่พระนางรู้มาเกมิสก็หายป่วยแล้ว แล้วเหตุอันใดเขาถึงไม่มาตามนัด ด้วยสติปัญญาอันฉาดเฉลียวของพระนางจึงทรงฉุกใจคิดขึ้นได้ เทพีพาเธน่ารีบกลับไปยังสรวงสวรรค์แห่งหล่าทวยเทพทันใด แล้งก็เป็นดังคาด...พระนางทรงทอดพระเนตรเห็นท้าวไกเซอร์ผู้เป็นบิดากำลังร่ายเวทย์กางอาณาเขตอยู่...เทพีพาเธน่าทรงกริ้วพระบิดาเป็นอย่างมาก จึงได้ตรงเข้าทำลายเขตอาคมของพระบิดาทันใด ก่อนจะรีบกลับไปหาคนรักโดยพลัน...
ทันทีที่ทั้งสองได้พบหน้าซึ่งกันและกัน ฝ่ายเทพีผู้สูงศักดิ์ ก็โผเข้ากอดเกมิสทันใดด้วยความสิเหน่หา ฝ่ายชายหนุ่มแม้จะงงงวยอยู่บ้างแต่ก็สวมกอดเทพีในดวงใจด้วยเช่นกัน....ฝ่ายท้าวไกเซอร์ที่ดูอยู่บนสรวงสวรรค์นั้นก็ทรงพิโรธเป็นอย่างมากและได้สาปหนุ่มน้อยผู้น่าสงสารให้กลายเป็นหิน!!!
เทพีพาเธน่าสัมผัสได้ถึงผิวกายของชายหนุ่มที่เริ่มแข็งกร้าวขึ้นทีละนิดๆ...กร้าวจนเกินกว่าจะเป็นผิวหนังของคน! พระองค์ทรงผละกายออกมาโดยพลัน และพบว่าคนรักของตนกลายร่างเป็นหิน พระนางเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก ถ้าชายผู้นี้ไม่มาพบกับนาง...เขาก็คงไม่ต้องงกลายเป็นหินแบบนี้...ท้าวเธอทรงกรรแสงอยู่นานนับเดือน...จนน้ำตาเหือดแห้งจนแทบจะไม่มีเหลือ...จนในที่สุดร่างของพระนางก็กลายเป็นธารน้ำสายเล็กๆ...ห่อหุ้มรูปปั้นเกมิสผู้เป็นที่รักไว้ตลอดกาล...ฮึก’  ปุ่นสะอื้นออกมาเล็กน้อยกับเทพนิยายที่เธอกำลังอ่านให้เกมส์ฟัง...ไม่ใช่เพราะสงสาร...ไม่ใช่เพราะเห็นใจ...หากแต่เธอกำลังอิจฉา...
‘ดีจังเลยนะเกมส์...พวกเขา...ได้อยู่ด้วยกันด้วย...แล้วเราล่ะ...จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปเหมือนในเรื่องนี้รึเปล่า...’ พูดได้แค่นั้นเด็กสาวก็เคลิ้มหลับฟุบไปกับมือเย็นเยียบของเด็กชายเพราะเพลียจากการเล่านิทานมายาวนาน...น้ำตาที่เอ่อล้นอยู่ริมขอบตาค่อยๆไหลลงมาช้าๆ...และเมื่อหยาดน้ำตาไหลหยดลงมาบนมือกร้านของเด็กชาย นิ้วเรียวก็ขยับเป็นเชิงตอบรับเล็กน้อยโดยที่ร่างที่สลบไสลอยู่ข้างบนไม่อาจรู้เรื่องใดๆ....
______________________________________________________________________________________________________
กลัวกลั๊วกลัว  T^Tม่มั่นใจเรื่องเทพนิยายมากๆอ่ะ (แล้วหล่อนใส่ไปทำไม -_-++) คือแบบ...เมคสด = = แต่งเองพิลึกพิลั่นไปอย่าว่ากัน...ที่สำคัญ...พวกเทพเขากั้นม่านบาเรียได้ด้วยเรอะ!!! (ไม่ใช่พวกพ่อมดนะ -*-) ช่างเหอะอย่าไปสน(ซะงั้น...)
คือ อาทิตย์หน้าอาจเบี้ยวๆอ่ะค่ะ แฮะๆ เรียนพิเศษนิโหน่ย... แง้ๆๆ ทำไม๊ทำไมช่วงเวลาปิดเทอมถึงผ่านไปเร็วน๊ากก TTT^TTT
ฮือๆๆๆ (เทพเจ้าแห่งความขี้เกียจครอบงำ -*-) รีบไปปั่นงานดีกว่า...TT^TT
‘เอ้า หัวหน้าบอก’ เสียงที่รอคอยมานานมาถึงเธอรีบสะพายเป้ใบน้อยเตรียมไว้ทันที
‘นักเรียน...เคารพ’ ไม่ทันสิ้นเสียงห้าวๆของกอล์ฟ หัวหน้าห้องจอมทะเล้น ปุ่นรีบวิ่งปรู๊ด ออกไปจากห้องเรียนแทบจะในทันที
‘นั่นเขาเป็นอะไรของเขาน่ะ’  กอล์ฟเกาหัวอย่างแปลกใจ นี่ยัยปุ่นจอมอืดอาดคนเดิมหายไปไหนแล้วเนี่ย...
   
‘ปล่อยเขาไปซักวันเหอะน่า แฟนนอนอาการสาหัสอยู่ที่โรงพยาบาลถ้ามามัวใจเย็นอยู่ก็แปลกคนล่ะ’ น้ำหวานที่นั่งอยู่ข้างๆชิงตอบขึ้นมา
‘หมายถึงเกมส์ที่อยู่ห้องข้างๆน่ะเหรอ’ กอล์ฟขยับแว่นที่อยู่บนจมูกให้เข้าที่เบาๆ
‘นอกจากเขาจะมีใครอีกล่ะ’ น้ำหวานพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนเดินจากไปเงียบๆ...โดยไม่ได้สังเกตสีหน้าที่เปลี่ยนไปของคู่สนทนาเมื่อครู่เลยซักนิด...
‘เกมส์จ๋า...ปุ่นมาหาแล้วนะจ๊ะ’ เด็กสาววางกระเป๋าเป้ไว้ที่โต๊ะไม้ข้างๆก่อนทรุตัวนั่งลงข้างเตียงผู้ป่วย เมื่อหันซ้ายแลขวาพบว่าไม่มีใครแล้ว...เด็กสาวก็ค่อยๆโน้มตัวนอนซบไปกับมืออุ่นๆของเด็กชาย...มือนุ่มค่อยๆลูบไล้ไปตามผิวหน้าที่หยาบกร้านกว่าตนเพียงเล็กน้อยเบาๆ
‘ขอโทษนะเกมส์...ที่ปุ่นทำให้เกมส์ต้องเป็นอย่างนี้’ ปุ่นกล่าวกับร่างไร้สติ
‘ไม่เป็นไรนะ...ปุ่นจะอยู่ๆข้างเกมส์ๆเอง...’ เด็กสาวถูแก้มนุ่มๆไปกับฝ่ามือของเกมส์ ก่อนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้...
‘จริงสิ...ปุ่นซื้อหนังสือที่เกมส์ชอบมาให้ด้วยนะ...เดี๋ยวปุ่นอ่านให้ฟังละกัน’ เด็กน้อยหยิบหนังสือเทพนิยายที่เธอเคยเกลียดนักเกลียดหนาที่มันแย่งเกมส์ไปจากเธอมาถือไว้ในมือช้าๆ เรื่องราวนับสิบจากหนังสือถูกเรียงร้อยถ้อยคำเสียใหม่แล้วกล่าวเล่าเบาๆจากปากของเด็กสาวข้างกาย...
    เด็กสาวเริ่มต้นอ่านอย่างเพลิดเพลินเล่มแล้วเล่มเล่าจนเหลือเพียงหนังสือบางๆขาดๆวิ่นๆเล่มสุดท้ายที่เธอค้นมาจากกองหนังสือที่บ้าน...
‘กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชาวไม้อยู่คนหนึ่งนาม เกมิส เขาแอบหลงรักเทพี พาเธน่าผู้งดงามอย่างหัวปักหัวปำ หากแต่พระองค์ไม่เคยได้สนใจใยดีหนุ่มน้อยเลยแม้แต่นิด ซ้ำร้ายยังแกล้งเด็กหนุ่มไปนานาสารพัด หากแต่เกมิสก็ไม่เคยคิดถดถอยกำลังใจ รังแต่จะเคารพเทิดทูนบูชาเทพีพาเธน่ามากยิ่งขึ้นไปอีก...
ทุกเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกเขาต้องนำดอกไม้และผลไม้สดไปสักการะเทพีคนสวยเป็นประจำ วันแล้ววันเล่าๆ...จนนานวันเข้าเกราะกำแพงภายในใจพระองค์ก็ค่อยๆทลายลงทีละน้อยๆ ไม่รู้ว่าเมื่อไร เด็กหนุ่มนามเกมิสก็เข้ามานั่งอยู่ในใจของพระนางเสียแล้ว หากแต่นางยังคงไม่ละทิ้งศักดิ์ศรีแห่งเทพ...แกล้งทำเมินเฉยกับชายหนุ่ม...ทั้งๆที่ในใจกลับเร้าร้อนไปด้วยเปลวเพลินแห่งปรารถนา...                       
แต่แล้ววันหนึ่ง...เกมิสเกิดป่วยหนักขึ้นมา...ไม่มีแรงจะลุกเดินเหินไปไหน ได้แต่นอนซมอยู่อย่างนั้น...ฝ่ายเทพีพาเธน่าก็เฝ้ารอชายหนุ่มอยู่จนกระทั่งอาทิตย์ตกดิน รอแล้วรอเล่าอยู่สามวันสามคืน แต่ก็กลับไม่มีวี่แววของหนุ่มน้อยเลยซักนิด ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังคงทำใจแข็งไม่ถามหาหรือแสดงท่าทีใดๆทั้งนั้น ทั้งๆที่ในใจร้อนรนแทบคลั่ง        
ในที่สุด...ในเช้าวันที่ 4... ความอดทนของเทพีคนสวยก็ได้ขาดผึงลง พระนางได้ส่งนกพิราบไปส่งสารเรียกเกมิสให้มาพบ ...ฝ่ายชายหนุ่มซึ่งเพิ่งหายจากไข้  ก็กระโดดโลดเต้นดีใจกับจดหมายนัดพบฉบับแรกจากพระนาง เที่ยวป่าวประกาศไปทั้งหมู่บ้านว่าตนได้รับเลือกจากเทพีคนงามแล้ว...แต่เรื่องนี้ก็ไม่อาจพ้นหูของท้าวไกเซอร์บิดาของเทพีพาเธน่าไปได้ ท้าวเธอทรงกริ้วเป็นอย่างมากที่ธิดาเพียงคนเดียวมีข่าวฉาวกับมนุษย์โลก ดังนั้นพระองค์จึงคิดขัดขวางการพบกันของทั้งสอง...                   
เย็นวันนัดพบ...ทั้งคู่ต่างนั่งรอคนละฝั่งฟากของก้อนหิน...โดยไม่สามารถมองเห็นได้ซึ่งกันและกันด้วยอำนาจของท้าวไกเซอร์นั่นเอง...รอแล้วรอเล่าจนเทพีสาวเริ่มจะเอะใจ จากข่าวที่พระนางรู้มาเกมิสก็หายป่วยแล้ว แล้วเหตุอันใดเขาถึงไม่มาตามนัด ด้วยสติปัญญาอันฉาดเฉลียวของพระนางจึงทรงฉุกใจคิดขึ้นได้ เทพีพาเธน่ารีบกลับไปยังสรวงสวรรค์แห่งหล่าทวยเทพทันใด แล้งก็เป็นดังคาด...พระนางทรงทอดพระเนตรเห็นท้าวไกเซอร์ผู้เป็นบิดากำลังร่ายเวทย์กางอาณาเขตอยู่...เทพีพาเธน่าทรงกริ้วพระบิดาเป็นอย่างมาก จึงได้ตรงเข้าทำลายเขตอาคมของพระบิดาทันใด ก่อนจะรีบกลับไปหาคนรักโดยพลัน...
ทันทีที่ทั้งสองได้พบหน้าซึ่งกันและกัน ฝ่ายเทพีผู้สูงศักดิ์ ก็โผเข้ากอดเกมิสทันใดด้วยความสิเหน่หา ฝ่ายชายหนุ่มแม้จะงงงวยอยู่บ้างแต่ก็สวมกอดเทพีในดวงใจด้วยเช่นกัน....ฝ่ายท้าวไกเซอร์ที่ดูอยู่บนสรวงสวรรค์นั้นก็ทรงพิโรธเป็นอย่างมากและได้สาปหนุ่มน้อยผู้น่าสงสารให้กลายเป็นหิน!!!
เทพีพาเธน่าสัมผัสได้ถึงผิวกายของชายหนุ่มที่เริ่มแข็งกร้าวขึ้นทีละนิดๆ...กร้าวจนเกินกว่าจะเป็นผิวหนังของคน! พระองค์ทรงผละกายออกมาโดยพลัน และพบว่าคนรักของตนกลายร่างเป็นหิน พระนางเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก ถ้าชายผู้นี้ไม่มาพบกับนาง...เขาก็คงไม่ต้องงกลายเป็นหินแบบนี้...ท้าวเธอทรงกรรแสงอยู่นานนับเดือน...จนน้ำตาเหือดแห้งจนแทบจะไม่มีเหลือ...จนในที่สุดร่างของพระนางก็กลายเป็นธารน้ำสายเล็กๆ...ห่อหุ้มรูปปั้นเกมิสผู้เป็นที่รักไว้ตลอดกาล...ฮึก’  ปุ่นสะอื้นออกมาเล็กน้อยกับเทพนิยายที่เธอกำลังอ่านให้เกมส์ฟัง...ไม่ใช่เพราะสงสาร...ไม่ใช่เพราะเห็นใจ...หากแต่เธอกำลังอิจฉา...
‘ดีจังเลยนะเกมส์...พวกเขา...ได้อยู่ด้วยกันด้วย...แล้วเราล่ะ...จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปเหมือนในเรื่องนี้รึเปล่า...’ พูดได้แค่นั้นเด็กสาวก็เคลิ้มหลับฟุบไปกับมือเย็นเยียบของเด็กชายเพราะเพลียจากการเล่านิทานมายาวนาน...น้ำตาที่เอ่อล้นอยู่ริมขอบตาค่อยๆไหลลงมาช้าๆ...และเมื่อหยาดน้ำตาไหลหยดลงมาบนมือกร้านของเด็กชาย นิ้วเรียวก็ขยับเป็นเชิงตอบรับเล็กน้อยโดยที่ร่างที่สลบไสลอยู่ข้างบนไม่อาจรู้เรื่องใดๆ....
______________________________________________________________________________________________________
กลัวกลั๊วกลัว  T^Tม่มั่นใจเรื่องเทพนิยายมากๆอ่ะ (แล้วหล่อนใส่ไปทำไม -_-++) คือแบบ...เมคสด = = แต่งเองพิลึกพิลั่นไปอย่าว่ากัน...ที่สำคัญ...พวกเทพเขากั้นม่านบาเรียได้ด้วยเรอะ!!! (ไม่ใช่พวกพ่อมดนะ -*-) ช่างเหอะอย่าไปสน(ซะงั้น...)
คือ อาทิตย์หน้าอาจเบี้ยวๆอ่ะค่ะ แฮะๆ เรียนพิเศษนิโหน่ย... แง้ๆๆ ทำไม๊ทำไมช่วงเวลาปิดเทอมถึงผ่านไปเร็วน๊ากก TTT^TTT
ฮือๆๆๆ (เทพเจ้าแห่งความขี้เกียจครอบงำ -*-) รีบไปปั่นงานดีกว่า...TT^TT
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น