OneShot :: SOAP :: [ChoMi]
จำได้ว่าสบู่ในห้องหมดนี่หน่า ซื้อใหม่ดีกว่า... ฟิคเกือบอิงวงที่ว่าด้วยเรื่องหอมๆ
ผู้เข้าชมรวม
869
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
SOAP
ในวันที่รายการข่าวพยากรณ์อากาศบอกว่าอากาศจะร้อนเกิน32องศาเซลเซียสและจะร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงสองสามวันนี้
ถือว่าเป็นโชคดีที่วันนี้ 'ยุนโบมี' หนึ่งในสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง
ไม่ได้มีงานอะไรที่ต้องออกไปทำในวันที่ร้อนสุดๆแบบนี้
ร่างบางทิ้งตัวลงบนโซฟากลางห้องนั่งเล่นในหอพักด้วยความเบื่อหน่าย
ก็วันนี้คนอื่นมีงานมีธุระออกไปข้างนอกกันหมด ทิ้งให้ยุนโบมีอยู่หอคนเดียว
นิ้วเล็กๆกดรีโมททีวีเพื่อหารายการที่น่าสนใจดูไปเรื่อย นิ้วเล็กๆหยุดชะงักเมื่อเห็นใครบางคนในจอสี่เหลี่ยมตรงหน้า
มือบางโยนรีโมททิ้งลงข้างตัวอย่างขัดใจเมื่อในจอกำลังฉายละครที่ลีดเดอร์วงร่วมแสดงถูกนำมารีรันให้ดูกันใหม่ในเวลานี้
แต่ไอ้ที่กำลังทำให้คนดูหงุดหงิดก็คงไม่พ้นฉากจูบในห้องสมุดของ 'พัคโชรง' กับนักแสดงชายที่เป็นรุ่นน้องค่ายเดียวกันกับพวกเธอนั่นแหละ
"ตาหวานไปมั้ยนั่น"
โบมีบึนปากใส่จอทีวีราวกับว่าคนในจอจะได้ยินอย่างนั้นแหละ
บอกตรงๆว่าไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่เวลาเห็นโชรงใช้สายตาแบบนั้นมองคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ
"แล้วจะเขินอะไรนักหนา
แค่โดนจูบเนีย" โบมียังคงวิจารณ์ละครอย่างต่อเนื่อง
ถึงจะไม่ค่อยสบอารมณ์แต่ก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนช่อง ก็คงเพราะลึกๆอยากเห็นอยากได้ยินเสียงใครคนนั้นถึงจะแค่ในจอก็ยังดี
พอละครจบรีโมทก็ถูกใช้งานอีกครั้ง
จนได้รายการที่คิดว่าโอเคที่สุดจึงหยุดดูอีกครั้ง
แกร๊ก !
ประตูหน้าถูกเปิดออกโดยคนที่พึ่งกลับมาจากการออกไปทำธุระข้างนอก
โบมีเหลือบตามองเล็กน้อยก่อนจะรีบเบี่ยงสายตากลับมาที่จอทีวีเหมือนเดิม
"กลับมาแล้ว"
คนมาใหม่พูดขึ้นขณะถอดรองเท้า แต่ไม่ได้รับเสียงตอบรับใดๆกลับมา
ท่าทางของคนที่เอาแต่สนใจทีวีอยู่บนโซฟากำลังทำให้โชรงเหล่ตาไปมอง
ทั้งที่ปกติต้องได้ยินเสียงสดใสตอบกลับมาทุกครั้งที่กลับมาถึง
นี่แสดงว่าโบมีกำลังตั้งใจเมินเขาอยู่ชัดๆ โชรงยู่ปากใส่เข้าเด็กน้อยอย่างเคืองๆ
ใช่
โบมีกำลังเมินอีกคนเพราะแค่อยากแกล้ง ข้อหาที่ทำให้เธอคิดถึง
"โบมียา"
เสียงเล็กๆเรียกอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ แต่เจ้าของชื่อกลับไม่ตอบสนองอะไรเลยสักนิด โบมีกำลังพยายามอย่างมากที่จะไม่หันไปสนใจอีกคน
หลายคนบอกว่าลีดเดอร์วงเป็นคนนิ่งๆ
แต่ใครจะรู้มั้ยว่าพัคโชรงมีมุมน่ารักเยอะแยะเต็มไปหมด
โบมีรู้ดีว่าอีกคนขี้เหงาและต้องการให้เธอสนใจ ลองเธอเมินแบบนี้
อีกไม่นานจะต้องมาเรียกร้องความสนใจแน่นอน ไม่เชื่อคอยดูนะ
สาม สอง หนึ่ง
โบมีนับถอยหลังในใจพร้อมขยับตัวนั่งชิดพนักพิงอย่างเนียนๆ
พรึบ ! คนแก่เรียกร้องความสนใจด้วยการกระโดดทิ้งตัวนั่งตักคนที่อยู่บนโซฟา
แต่เหมือนโบมีจะรู้ทันจึงกางขาออกทันทำให้กลายเป็นว่าเด็กน้อยกำลังนั่งซ้อนหลังอีกคนไปโดยปริยาย
"ดูอะไรอยู่"
เสียงอ้อนๆนั่นกำลังทำให้อีกคนแทบทนไม่ไหวกับความน่ารักของคนตรงหน้า
แต่ก็ยังทำเป็นไม่รับรู้เช่นเคย ตายังคงมองจอทั้งที่ไม่รู้เลยว่ารายการตรงหน้าคืออะไร
ใจมันลอยไปอยู่กับคนตรงหน้าตั้งแต่เขาเปิดประตูเข้ามาแล้วล่ะ
"โบมอาาาา~"
โชรงเห็นอีกคนยังเมินอยู่จึงเงยหน้าเอนตัวพิงไหล่คนเด็กกว่า
ก่อนจะเอาหัวถูกับแก้มอีกคนเพื่อให้เด็กน้อยสนใจเขาสักที โบมีกลั้นยิ้มแทบตาย เจอแบบนี้เข้าไป
โอเค ยอมแพ้เลย คนข้างหลังหัวเราะคิกๆพร้อมสอดแขนเข้ากอดเอวคนข้างหน้าไว้
โชรงยิ้มออกทันทีที่เด็กน้อยกลับมาสนใจตัวเองสักที
"รู้ป่าว
เมื่อกี้Plus nine boysเอามารีรันให้ดูด้วย"
เด็กน้อยพูดถึงละครที่โชรงเคยเล่น
"จริงหรอ
สนุกป่ะ" โชรงถามกลับแบบไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
"สนุกมั้ง
ฉากในห้องสมุดน่ะ" โบมีประชดออกมาอย่างเอือมๆ ให้ตายสิ ภาพยังติดตาอยู่เลย
"ฉากจูบน่ะหรอ"
โชรงแหย่เล่นกลับเป็นการเอาคืนที่เด็กนี่กล้าเมินเขาเมื่อกี้ โบมีหายใจฟึดฟัดด้วยความหงุดหงิดพร้อมเมินหน้าหนีเพื่อแสดงออกว่าไม่พอใจ
"เป็นอะไร
ก็เคยดูไปแล้วหนิ จะหงุดหงิดทำไม" โชรงพูดขึ้นเสียงเรียบๆ
"ก็ไม่ชอบอยู่ดีนั่นแหละ"
เด็กน้อยงึมงำออกมาเบาๆ แต่ก็ดังพอที่ทำให้อีกคนได้ยินอยู่ดี
พอโชรงเห็นอาการของอีกคนก็อมยิ้มออกมา
ครั้งที่แล้วที่เด็กนี่ดูตอนออนแอร์ก็เป็นแบบนี้แหละ เหมือนเดิมแป๊ะ
"ย้าาา
แค่เอาปากแตะกันเฉยๆ ไม่ใช่จูบสักหน่อย"
โชรงเชยคางคนเด็กกว่าให้หันกลับมามองตัวเอง แต่ดูเหมือนโบมีจะยังเคืองอยู่หน่อยๆ
"ถ้าจูบ
มันต้องแบบนี้" พอพูดจบโชรงก็ประคองหน้าเด็กน้อยเพื่อรับจูบทันที
ริมฝีปากบางประกบลงกับริมฝีปากเล็กๆของอีกคนช้าๆก่อนจะเริ่มจูบด้วยความอ่อนโยน คนเป็นพี่ค่อยๆเม้มชิมกลีบปากสวยก่อนจะส่งลิ้นเรียวเข้าไปลิ้มรสความหอมหวานภายในโพรงปากคนน้อง
โบมีจูบตอบแบบไม่ยอมแพ้เช่นกัน
ดีกรีความร้อนพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆเมื่อสองลิ้นยังหยอกล้อกันอย่างไม่หยุดหย่อน จังหวะถอนจูบออกเพื่อหายใจมีเพียงแค่เสี่ยววินาทีเท่านั้น
ทั้งคู่จูบกันอย่างไม่รู้จักเบื่อ สองร่างเบียดกันจนติดมุมโซฟา
ร่างกายเสียดสีกันจนแทบไม่มีช่องว่างให้อากาศผ่าน
"อะแฮ่มมมมๆ
!!" เสียงจากทางประตูทำให้ทั้งคู่ดีดตัวออกจากกันแบบไม่ทัน
โบมีหันไปมองผู้มาใหม่ด้วยใบหน้าตกใจไม่ใช่น้อย
ขณะที่โชรงได้แต่ก้มเขินไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองด้วยซ้ำว่าใครเป็นผู้เห็นเหตุการณ์เมื่อกี้
"ก
กลับมาแล้วหรอ"
โบมีเกาท้ายทอยถามเพื่อนร่วมวงเหมือนไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
"อือ
กลับมาแล้ว ข้างนอกร้อนชะมัด แต่ดูเหมือนว่าข้างในจะร้อนกว่านะ"
อึนจีตอบไม่วายแอบแซวทั้งคู่
"นั่นดิร้อนเนอะ
ไปอาบน้ำดีกว่า" พูดจบโชรงก็ก้มหน้าเดินหนีไปอาบน้ำทันที
"พี่รงนี่เขินน่ารักเนอะ"
อึนจีพูดขึ้นพร้อมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเพื่อน หลังจากโชรงหายเข้าห้องไปแล้ว
โบมีหันมาแยกเขี้ยวใส่เพื่อนที่เข้ามาขัดจังหวะ
"ย้า
ไม่ต้องมามองอย่างนั้นเลย เธอนั่นแหละผิด มาทำอะไรกันบนโซฟา ห้องนอนก็มีไม่เข้าไปทำกันข้างใน
ถ้าคนที่กลับมาเห็นไม่ใช่ฉันแต่เป็นพวกน้องๆจะทำไงห๊ะ" อึนจีบ่นร่ายยาว
ตามสไตล์ของตัวเอง โบมีพยักหน้ารับคำบ่นอย่างเอือมๆก่อนจะเดินเข้าห้องโชรงไป
นั่งรอสักพักเจ้าของห้องที่พึ่งอาบน้ำเสร็จก็เดินเข้ามาในห้องเหลือบตามองอีกคนเล็กน้อยก่อนจะเดินไปนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
สักพักแขนเรียวของเด็กน้อยก็เข้ามาโอบรอบคอจากข้างหลัง ทั้งยังวางคางบนหัวเขาอีก
โชรงเลิกคิ้วถามเป็นเชิงว่ามีอะไร
แต่คำตอบที่ได้รับกลับเป็นรอยยิ้มน่ารักๆแทน
ฟอดดด
อยู่ดีๆคนเด็กกว่าก็ก้มลงมาหอมแก้มกันหน้าตาเฉย เล่นเอาโชรงตกใจไม่น้อย
คนถูกกระทำเบะปากเหมือนไม่พอใจ
แต่ใครจะไปรู้ว่าจริงๆข้างในชอบการกระทำแบบนี้ของคนข้างหลังมากแค่ไหน
"เอ๊ะ
เดี๋ยวนะ" โบมีคิ้วกระตุกเล็กๆก่อนจะก้มลงหอมแก้มโชรงอีกครั้ง
แถมยังไล่จมูกลงไปบริเวณคอด้วย ทุกการกระทำกำลังทำให้โชรงเคลิ้มตามได้ง่ายๆ
แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินประโยคถัดไปจากปากเล็กๆของอีกคน
"พี่เปลี่ยนสบู่หรอ"
โบมีออกมาด้วยความสงสัย ก็กลิ่นสบู่ที่โชรงใช้มันเปลี่ยนไปนี่หน่า เธอจำได้
"อ่อ
อืม อันเก่าหมดเลยเปลี่ยนกลิ่นดู" โชรงพยักหน้าตอบเล็กๆ
"อ่อ
อย่างนี้นี่เอง" โบมีพยักหน้าเข้าใจตาม
"ทำไมล่ะ
มันไม่ เอ่อ.. ม ไม่หอมหรอ" โชรงกำลังสูญเสียความมั่นใจไปเล็กน้อย
อีกอย่างคือกลัวอีกคนไม่ชอบกลิ่นนี้ด้วยแหละ
"ป่าว
แค่ไม่ชินเฉยๆ" เด็กน้อยตอบกลับทั้งที่แขนยังโอบรอบคออีกคนอยู่เช่นเดิม
"เธอไม่ชอ.."
คนแก่กว่ากำลังจะถามว่าอีกคนชอบรึป่าวแต่ก็โดนสายเรียกเข้าของโบมีขัดขึ้นมาซะก่อน
ครืดๆ
โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่นทำให้เจ้าของเครื่องละมือออกจากคอคนตรงหน้ามารับสาย
"ค่ะ
... ค่ะ... โอเคค่ะ" เด็กน้อยคุยกับปลายสายสองสามประโยคก่อนจะวางสายไป
"ใครโทรมาหรอ"
โชรงถามอีกคนพร้อมมองผ่านกระจก
ถึงจะอยากรู้มากแค่ไหนแต่ก็ทำเป็นจับนู่นจับนี่เหมือนไม่ได้สนใจเท่าไหร่
ตามประสาคนขี้เก๊ก
"พี่ผู้จัดการโทรมาบอกเรื่องงานพรุ่งนี้น่ะค่ะ
งั้นฉันไปอ่านสคริปก่อนนะ ขี้เกียจโดนพี่ผู้จัดการบ่น"
โบมีตอบพร้อมเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม
"อือ"
โชรงพยักหน้าตอบรับ ก่อนเด็กน้อยจะเดินออกจากห้องไป ก็พวกเรามีงานเดี่ยวต่างกันออกไปหนิเนอะ
ยิ่งคนมีความสามารถเยอะแบบโบมีแล้วด้วย งานยิ่งเยอะเข้าไปใหญ่
โบมีมีงานติดต่อกันมาสามสี่วันแล้ว
เวลาพักแทบไม่มี กลับดึกแทบทุกวัน ไม่มีเวลาคุยกันด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่คุยเลย
เห็นหน้ายังนับครั้งได้ และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่พี่ผู้จัดการโทรมาบอกว่ายุนโบมีจะเลิกงานดึก
โชรงนั่งมองประตูมาเป็นชั่วโมงๆแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าใครคนนั้นจะกลับมาเลย
แกร๊ก !
เสียงเปิดประตูทำให้คนที่นั่งดูทีวีอยู่หันควับทันที
แต่ความหวังก็พังลงเมื่อคนที่กลับมาคืออึนจีกับนาอึนที่ออกไปกินข้าวด้วยกันตั้งแต่ตอนเย็น
แต่พึ่งจะกลับตอนห้าทุ่ม
"พี่โชรง
ยังไม่นอนหรอคะ" เป็นนาอึนที่เอ่ยทักทายพี่ก่อน
"อ่อ
ยังไม่ง่วงเท่าไหร่" โชรงตอบแห้งๆ
"ไม่ใช่ว่ารอโบมอยู่หรอ"
อึนจีแซวทันทีที่เห็นสายตาผิดหวังตอนที่ที่เปิดประตูเข้ามา
"ป่าว"
โชรงตอบนิ่งๆ
"ไม่ต้องรอหรอกพี่
วันนี้มันก็กลับดึกเหมือนเดิมแหละ" อึนจีบอกตามความจริง
"อือ
รู้แล้วน่า" โชรงตอบก่อนจะกดปิดทีวีแล้วเดินเข้าห้องหงอยๆ
"พี่โชรงคงคิดถึงพี่โบมีสินะคะ"
นาอึนพูดด้วยความเห็นใจ
"คงงั้นแหละ
ก็เล่นว่างไม่ตรงกันมาเกือบอาทิตย์แล้วหนิ พอพี่รงว่างไอ้โบมก็มีงาน
พอโบมมันว่างพี่รงก็ออกไปทำงาน อยู่บ้านเดียวกันแต่กลับไม่ได้เจอกันเลย
ถึงจะว่างตรงกัน โบมมันก็เหนื่อยจนหมดแรงจะไปเล่นกับพี่รงแล้วแหละ"
อึนจีพูดไปพลางส่ายหน้าไป
"น่าสงสารนะคะแบบนี้"
นาอึนหันมาพูดกับอึนจีตามที่คิด
"ใช่
งั้นคืนนี้พี่ไปนอนกับนาอึนอานะ ทดเวลาบาดเจ็บตอนที่พี่ต้องไปถ่ายละครไง"
อึนจีหันมายิ้มทะเล้นให้เด็กสาวข้างๆ
"ไม่ได้ค่ะ"
คำตอบที่ได้ยินทำให้อึนจีหันควับ ก็คนที่ตอบไม่ใช่คนข้างกายน่ะสิ
แต่กลับเป็นเจ้าเด็กโย่งที่ยืนกอดอกพิงประตูห้องนอนอยู่
"พี่นาอึน
จะออกไปข้างนอกกับพี่อึนจีไม่เห็นบอกฉันเลย" ฮายองเข้ามาอ้อนคนที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆอึนจี
"ก็พี่เห็นเธอหลับอยู่"
นาอึนตอบกลับตามจริง
"แล้วทำไมกลับดึกขนาดนี้ล่ะคะ
หรือพี่อึนจีทำอะไรพี่รึป่าว"
ฮายองถามต่อแต่ประโยคหลังหันมาชี้เอาเรื่องอึนจีแทน
"เฮ้ย
อย่ามากล่าวหากันมั่วๆนะ พี่ดูแลนาอึนเป็นอย่างดี" อึนจีตอบพร้อมยักคิ้วให้เจ้าเด็กโย่ง
"พอแล้วค่ะ
ไปๆ ฮายองเข้าห้องได้แล้ว" นาอึนรีบตัดจบก่อนจะเกิดสงครามขึ้น
พร้อมดันหลังฮายองเข้าห้องนอน ฮายองหันมายักคิ้วให้อึนจีอย่างเป็นต่อ
อึนจีกัดฟันกรอก
ใช่สิเจ้าเด็กโย่งมันเป็นรูมเมทนาอึนเลยได้เปรียบ หงุดหงิดชะมัด
"พี่อึนจีคะ"
ขณะที่อึนจีกำลังจะหันไปห้องตัวเองก็ได้ยินเสียงเรียกขึ้นมา จึงหันกลับไปมอง
"ฝันดีนะคะ"
นาอึนบอกเสียงหวานพร้อมรอยยิ้ม
"ฝันดีค่ะ"
อึนจีตอบกลับด้วยรอยยิ้มเช่นกัน ทำเอาฮายองที่ยิ้มในชัยชนะเมื่อกี้เหวอไปเลย
เป็นอันสรุปได้ว่าว่ายกนี้อึนจีชนะไป
หลังสงครามประสาทจบลงทั้งหมดก็แยกย้ายกันเข้าห้องนอนไป
แกร๊ก !
ประตูห้องนอนถูเปิดออกด้วยคนที่สภาพเหมือนซอมบี้
โบมีมาถึงก็พุ่งเข้าเตียงตัวเองทันที เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว
"เหมือนศพเลย"
นัมจูมองสภาพรูมเมทที่นอนตายอยู่บนเตียงอย่างเวทนา
"โบมอา"
เสียงเรียกจากเพื่อนที่เป็นรูมเมทอีกคนทำให้คนนอนคว่ำอยู่บนเตียงขานรับในลำคอด้วยความขี้เกียจ
"ไม่ไปหาพี่รงหน่อยหรอ"
อึนจีถามขึ้น เพราะเห็นอาการลีดเดอร์เมื่อชั่วโมงที่แล้วก็อดห่วงไม่ได้
"ไฟใต้ช่องประตูดับไปแล้วน่ะ
เลยไม่อยากไปกวน" โบมีปรือตาขึ้นมาตอบเพื่อน
ก็ก่อนที่จะเข้าห้องตัวเองเธอไปเช็คมาแล้วว่าห้องโชรงปิดไฟรึยัง
แล้วผลก็เป็นตามที่ตอบเพื่อนไป
"แต่ฉันว่าไปดูหน่อยก็ดีนะคะ
เห็นนั่งหงอยมาหลายวันแล้ว แถมยังชอบถามอะไรแปลกๆกับฉันอีก" นัมจูพูดขึ้น
เรียกความสนใจจากรูมเมทอีกสองคนได้เป็นอย่างดี
"ยังไง"
อึนจีถามกลับด้วยความสงสัย
"ก็ถามประมาณว่า
ถ้าเปลี่ยนนิสัยหรือของใช้อะไรบางอย่างแล้วคนใกล้ตัวมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป
ไม่เข้าใกล้เราเหมือนเดิม มันหมายความว่าเขาไม่ชอบรึป่าว"
นัมจูนึกเล็กน้อยก่อนจะตอบพี่ๆ
"แล้วเธอตอบว่าไง"
คราวนี่เป็นโบมีที่เด้งตัวขึ้นมานั่งเป็นคนถาม
"ฉันก็ตอบไปว่า
เขาคงไม่ชอบล่ะมั้งถึงตีตัวออกห่าง" คำตอบของนัมจูเล่นเอาอึนจีกับโบมีกุมขมับทันมี
"ย้า
เธอก็รู้ว่าพี่รงเป็นคนคิดมากยังจะตอบแบบนั้นอีก"
อึนจีจัดการล็อคคอทำโทษน้องที่ตอบอะไรไม่คิด
"แอ๊กๆ
ฉันขอโทษๆ" นัมจูรีบยกมือยอมแพ้ก่อนจะโดนอึนจีฆ่า
"โบม
เธอไปทำอะไรให้พี่รงคิดมากรึป่าว" คำถามของอึนจีทำให้โบมีคิ้วขมวดเป็นปม
"ไม่รู้สิ
คิดไม่ออกเลย" โบมีตอบหน้าบื้อๆ คิดว่าไม่ได้ทำอะไรนะ หรือทำ
แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนี่หว่า
เถียงกับตัวเองสักพักก็ลุกพรวดออกไปจากห้องทันที
ไม่รู้ล่ะ ไม่สบายใจแบบนี้ยังนอนไม่หลับแน่นอน
คนที่กำลังหลับรู้สึกตัวตื่นเมื่อรับรู้ถึงความอบอุ่นจากวงแขนของใครบางคนที่สอดเข้ามากอดเอวเอาไว้
"กลับมาแล้วหรอ"
โชรงลืมตาขึ้นมาก่อนจะพลิกตัวหันมาถามผู้บุกรุกยามวิกาลที่ขึ้นมานอนเบียดบนเตียงเรียบร้อย
"ค่ะ
เหนื่อยจัง" โบมีตอบพร้อมซุกตัวเข้าหาคนพี่เชิงอ้อน โชรงยิ้มออกมาอย่างปิดไม่อยู่พร้อมลูบผมเด็กน้อยเพื่อให้กำลังใจไปด้วย
"ได้ข่าวไปถามอะไรแปลกๆกับนัมจู
เป็นอะไรรึป่าวคะ" โบมีเงยหน้ามาถามด้วยสายตาที่เป็นห่วง
"ป
ป่าว" โชรงตอบไม่เต็มเสียง ทำให้โบมีจับได้ว่าไม่จริง
"เค้าเป็นห่วงพี่นะ
รู้มั้ย" เด็กน้อยพูดเสียงอ่อน พร้อมเข้าไปคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ
ก่อนจะกดปลายจมูกที่แก้มเนียนของคนเป็นพี่ กลิ่นที่คุ้นเคยกำลังทำให้อาการเหนื่อยจากงานดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
โบมีสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะหยุดชะงักไป
"พี่กลับมาใช้สบู่อันเดิมแล้วหรอคะ"
ก็เธอจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่หอมแก้มพี่โชรง เขาบอกเธอว่าเปลี่ยนสบู่หนิ
แต่ที่ได้กลิ่นเมื่อกี้มันกลิ่นเดิมนี่หน่า
"อื้มม
ก็.. เธอบอกว่าไม่ชินกลิ่นนั้นหนิ พี่ ก็ เลย กลับมาใช้ อันเดิม"
โชรงตอบตะกุกตะกักพร้อมเบี่ยงสายตาหลบไปทางอื่น
แก้มแดงๆนั่นกำลังบอกว่าพัคโชรงกำลังเขินกับคำพูดนั้น
โบมีหัวเราะออกมาเบาๆ
เธอรู้แล้วว่าคนตรงหน้ากังวลเรื่องอะไร
"อยากให้เค้าหอมขนาดนั้นเลยหรอคะ"
โบมีกระซิบข้างหูแกล้งอีกคน
เพี๊ยะ!
แล้วเหมือนจะได้ผลเมื่อโดนฝ่ามือตีเข้าที่ต้นแขนอย่างจัง
"หลงตัวเอง"
โชรงว่าอีกคนก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้คนที่ชอบทำให้เขินอยู่เรื่อย
"อันที่จริง
สบู่กลิ่นไหนก็ไม่สำคัญหรอกนะ แค่พี่เป็นคนใช้มัน
เค้าก็ว่าหอมหมดทั้งนั้นแหละ" ไม่พูดเปล่า
โบมีจับรวบผมคนตรงหน้าก่อนจะกดจมูกลงที่ท้ายทอยของคนตรงหน้าเพื่อบอกว่าคนตรงหน้าหอมจริงๆ
หอมไปทั้งตัว จนเธอเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว
"โบมอาาา~" โชรงเรียกอีกคนเพ้อๆ เมื่อโบมีไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่ท้ายทอย
จมูกซนๆกำลังเลื่อนไปตามสันกรามเขาอยู่ตอนนี้
โบมีจับไหล่คนพี่ให้หันกลับมา
สองสายตาประสานกันหวานเยิ้ม หัวใจกำลังเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
เด็กน้อยโน้มหน้าเข้าไปทาบริมฝีปากลงตำแหน่งเดียวกับคนตรงหน้า
และก่อนที่อารมณ์จะร้อนไปกว่านี้โชรงเป็นคนดันไหล่น้องออกให้มีระยะห่างเล็กน้อย
"อย่าเพิ่ง"
โชรงเอ่ยห้ามทั้งที่ยังหายใจหอบ โบมีจึงเลิกคิ้วถามถึงสาเหตุที่หยุดกลางคันแบบนี้
"ตอบก่อน
ว่า ชอบสบู่กลิ่นไหนมากกว่ากัน"
เป็นคำถามที่ทำเอายุนโบมีอยากจะเอาหัวโขกกำแพงจริงๆ
"ก็ตอบไปแล้วไงคะ
ว่าหอมเหมือนกันหมด"
เด็กน้อยตอบพร้อมกดจมูกไปที่หลังมือที่จับไหล่เธออยู่ด้วยความหมันเขี้ยว
"ถ้างั้น
แล้วทำไมสามสี่วันมานี้ไม่เห็นมา เอ่อ มา หอมพี่เหมือนเคยเลยล่ะ"
โชรงถามสิ่งที่คาใจออกไป
"ก็เค้ากลับดึก
กลับมาพี่ก็ปิดไฟนอนแล้ว เค้าเลยไม่อยากกวน"
โบมีตอบพร้อมจับมืออีกคนมาทาบแก้ม
"แล้วทำไมคืนนี้มาหาล่ะ"
ยังไม่หมดคำถาม
"คิดถึง"
คำตอบสั้นๆก่อนที่เด็กน้อยจะปิดโอกาสการถามของอีกคนด้วยริมฝีปากตัวเอง
"อือออ โบมอา~" เสียงแห่งความสุขแว้วออกจากปากโชรงทุกครั้งที่โบมีกดปลายจมูกและริมฝีปากลงไปตามร่างกายของโชรง
ความคิดถึงถูกเปลี่ยนเป็นความโหยหา
กลิ่นกายทุกซอกทุกมุมของโชรงถูกยุนโบมีสำรวจในทุกความหอม ไม่มีส่วนไหนที่ปลายจมูกคนเด็กกว่าจะเข้าไม่ถึงในค่ำคืนแห่งนี้
ปล่อยให้ประสาทรับสัมผัสกับความรู้สึกในจิตใจทำงานคู่กันไปตามความต้องการของคนทั้งคู่
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ PPlluuss ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ PPlluuss
ความคิดเห็น