ตอนที่ 2 : KATSURA [100%]
-2-
KATSURA
ผ่านไปสามวันแล้วกับการอยู่หน่วยซินเซ็นงุมิในตำแหน่งหน้าที่พิเศษซึ่งตอนนี้เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร ลาดตระเวน ทำงานเอกสารหรือการช่วยแม่ครัวทำกับข้าว พวกในหน่วยต่างเรียกเธอเหมือนเป็นแม่คนที่สองไปแล้ว ไม่มีความน่าเกรงขามของลูกสาวหัวหน้ากองบัญชาการตำรวจเลยสักนิด
แล้วหน้าที่ที่เอาดูๆมาเนี่ยมันไม่เห็นต่างจากหน้าที่ของเบ๊เลยสักนิด!
นัตสึมิลุกขึ้นจากที่นอน เช้าวันใหม่ที่น่าเบื่อถูกดำเนินด้วยเรื่องเดิมๆ ถึงจะวุ่นวายกว่าอยู่ในบ้านหลังใหญ่โตแต่มีคนเท่าหยิบมือนั่นก็เถอะแต่มันไม่เห็นจะสนุกกว่าเก่าเลยสักนิด
เธอพับฟูกเก็บเข้าที่เดิม เปลี่ยนชุดนอนกลายเป็นเครื่องแบบตำรวจ เด็กสาวยืนขึ้น สวมถุงน่องสีดำเข้าที่เรียวขา นัตสึมิคิดว่ามันโล่งเกินไปถ้าจะให้ใส่แค่กระโปรงหนังธรรมดาๆเลยหาซื้อถุงน่องมาใส่กันลมที่ปะทะ อย่างน้อยก็กันลมเย็นๆได้น่ะนะ ไม่ใส่แล้วมันโล่งเหมือนไม่ได้ใส่ชั้นในเลยล่ะ
มือเรียวเลื่อนประตูที่กั้นกับข้างนอกออกเพื่อรับอากาศที่สดชื่นในเช้าวันนี้ ท้องฟ้าแจ่มใส ปลาในบ่อกระโดดโลดเต้นผ่านพ้นผิวน้ำสีใสขึ้นมาทักทาย พวงหญ้าสีเขียวขจี ลมอ่อนๆที่พัดโชยมาและ..
"หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว มีลูกแมวเหมียว~"
คนบ้าที่กำลังเทนมใส่ถาดอาหารแมว
นัตสึมิมองผู้ชายตรงหน้า ใบหน้าเรียบเฉยเหมือนทุกวันที่ต้องตื่นมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ หัวหน้าหน่วยที่ 1 กำลังยืนเทนมใส่ถาดด้วยใบหน้าที่โคตรจะกวนส้นตีน
"โอ๊ะ"และเพราะยืนเทของเหลวแบบนั้น ด้วยส่วนสูงกับถาดอาหารแมวที่อยู่บนพื้นมันไม่แปลกอะไรเลยที่นมบางส่วนจะกระเด็นออกนอกเป้าหมายไปกระเด็นใส่รองเท้าของโอคิตะ เขามองหยดนมสีขาวนั่น ชูเท้าที่เลอะมาทางเธอ ใบหน้าคมถูกแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มโรคจิต
"เน้ คุณลูกแมวช่วยมาเลียนมตรงนี้หน่อยสิ"
ปี๊ดด
เหมือนนัตสึมิจะรู้สึกว่าเส้นความอดทนของเธอมันขาดลงไปเส้นนึง
เก็หนาวเลือกที่จะไม่สนใจ เดินไปใส่รองเท้าที่วางอยู่โดยมีโอคิตะมองตาม ด้วยความสัตย์จริงถ้าลุงคอนโด้และโทชิไม่ค้านหัวชนฝาไม่อยากให้เธอพกอาวุธ นัตสึมิเชื่อเลยว่าตัวเองจะคว้าดาบแล้วฟาดฟันคนที่แก่กว่าที่อยู่ตรงนี้
คนบ้าอะไรน่าส่งไปยมโลกนัก
"เห คุณลูกแมวตรงนั้นน่ะจะไปไหนเหรอครับ"
และด้วยความรำคาญนัตสึมิหันไปมองขวางคนที่เรียกอยู่ข้างหลัง โอคิตะยังยืนขาเดียว น้ำนมหยดแล้วหยดเล่าล่วงลงสู่พื้นตามแรงโน้มถ่วง ใบหน้าคมเอียงไปทางขวา
"จะไม่มาเลียนมที่เลอะเท้าเจ้านายเหรอ?"
ใครเจ้านายเธอฟะ
"ทั้งๆที่ฉันดูแลเธอขนาดนี้น่ะนะ อุตส่าห์ซื้อนมมาให้ทุกเช้าเลยนะ"
เธอได้ขอไหมนะ ก็ไม่หนิ
"นี่คุณลูกแมว ฉันอุตส่าห์ซื้อปลอกคอกับสลักชื่อเธอลงในถาดอาหารแมวเลยนะ จะไม่ตอบแทนกันหน่อยเหรอแค่เลียนมเองนะ อกตัญญูจริงๆเลย"
โป๊ก!
นัตสึมิคิดว่าเส้นฟางความอดทนไม่เหมาะกับคนที่กวนส้นแบบโอคิตะ โซโกะ
คิ้วเธอกระตุกก็ตั้งแต่ที่หมอนี่พูดออกมาคำแรก เด็กสาวปล่อยมือจากถาดนมที่ถูกใช้เป็นอาวุธในครั้งนี้ลง น้ำนมกระจายออกไปทั่วทุกทิศโดยที่ส่วนใหญ่เลอะเข้าที่คนที่เทมันเอง นัตสึมิคิดว่าวันนี้คงได้เขียนรายงานเรื่องการตายของหัวหน้าหน่วยที่ 1 สาเหตุการตายก็คงจะเป็นโดนถาดนมแมวทุบหัวจนน็อคล่ะมั้ง
"ช้าไปสามนาทีนะนัตสึมิ"
เจ้าของชื่อไม่ได้พูดอะไรนอกจากเดินไปนั่งประจำที่ข้างคนที่มีตำแหน่งสูงสุดในห้อง คอนโด้กำลังจะบ้าตายกับการเขียนเอกสารรายงานในขณะที่คนที่เพิ่งพูดประโยคสุดเนี๊ยบเมื่อกี้นั่งทำโดยไม่บ่นอิดออด
"พอดีไปไล่หมาน่ะเลยเสียเวลานิดหน่อย"เธอว่า กางสมุดรายงานและกองเอกสารของคอนโด้มาบนโต๊ะตัวเอง หนึ่งในหน้าที่ของหน่วยพิเศษ ตอบเอกสารทั้งหมดนี่และเขียนรายงาน
เห้อ ดูๆก็เหมือนจะเป็นงานของเบ๊แต่ดูจากกองเอกสารตั้งมากมายที่อยู่เต็มห้องก็ไม่กล้าที่จะเอาเปรียบบ่น ช่วยๆไปละกัน ยังไงก็เป็นหน้าที่เธอที่ต้องช่วยแบ่งเบาภาระพวกนี้อยู่แล้ว
"หมา? ซินเซ็นงุมิไม่มีหมาตำรวจนี่"
"อ้อ หมาข้างถนนน่ะ ดูท่าอยากกินนมเลยเอาไปให้สักหน่อย"ด้วยการฟาดหัว
"เหรอ"ฮิจิตาตะว่าเท่านั้นแล้วกลับไปเขียนรายงานของตนต่อ เด็กหญิงลอบมองใบหน้าของรองหัวหน้าก่อนจะกลับมาสนใจงานตัวเองอีกครั้ง หวังว่าจะไม่ถามอะไรขึ้นมาอีกเพราะเธอเองก็ขี้เกียจจะตอบแล้วเหมือนกัน
"ว่าแต่เจ้าโซโกะมันหายไปไหน"
...
โอเค คำขอของเธอมันคงยากไปสินะ
คอนโด้ถามขึ้นมา เงยหน้าออกจากกองเอกสารที่พรากชีวิตเขาไปครั้งนึง นัตสึมิไม่ได้ตอบ ไม่ใช่ไม่อยากแต่เธอคิดว่าคงไม่จำเป็นที่จะต้องตอบเกี่ยวกับคนพันธ์นั้น
"นั่นสิ เธอไม่เห็นมันรึไง?"
"หือ?"นัตสึมิเงยหน้าจากกองเอกสารบ้าง เรียวคิ้วถูกยกขึ้นด้วยความสงสัยกับคำพูดของรองหัวหน้า
"หมอนั่นบอกจะไปปลุกเธอจนปานนี้ยังไม่กลับมา นึกว่าจะได้เจอกันซะอีก?"
อ้อ นั้นก็คือวิธีการปลุกของหมอนั่นเหรอ
"ไม่นะ ไม่เห็นเจอ"นัตสึมิลงมือเขียนรายงานต่อ"ที่เจอมีแต่หมาข้างถนน"
"แปลกแฮะ"คอนโด้ลูบคางตัวเอง ทำท่าครุ่นคิดท่าทางจริงจัง นัตสึมิเริ่มยิ้มแห้ง เธอว่าคนที่เก่งขนาดจะเป็นหัวหน้าหน่วยได้คงไม่ตายเพราะถาดนมแมวหรอก เนาะ...
แต่ก็เริ่มหวั่นใจแล้วแหะ ตอนที่ฟาดลงไปก็ไม่ยั้งแรงด้วยแถมตอนเดินออกมาเจ้านั้นก็ไม่กระดิกตัวสักแอะมากวนเธอเหมือนที่ทำประจำ
เฮ้ย..หรือว่ามันวิบัติทำให้หมอนั่นอ่อนแอขึ้นมาเฉยๆ นี่เธอจะได้เขียนรายงานการตายของหัวหน้าหน่วยที่ 1 จริงจ้งดิ ซินเซ็นงุมิตายเพราะถาดนมแมวฟาดครั้งเดียว อนาถแท้
"โย่ว"
ก็ว่าไปนั่น
นัตสึมิมองคนที่มาใหม่ โอคิตะยกมือทักทายทุกคนทั้งที่สภาพเลือดท่วมหัวแถมตามตัวยังเปียกไปด้วยน้ำนมอีกต่างหาก เธอมองตามคนที่เดินผ่านหัวหน้าและรองหัวหน้าไปอย่างชิลๆมานั่งที่ประจำตัวเอง
คอนโด้กับฮิจิคาตะทำหน้าเหมือนเจอผี
"แกไปทำอะไรมาถึงได้มีสภาพแบบนั้น"เป็นโทชิจังของเธอที่อ้าปากเอ่ยถาม ท่าทางเหมือนมีคำตอบในใจแต่ไม่มั่นใจ
"อ้อ ไปเล่นกับแมวมาน่ะครับ"เขาว่า ถอดฝักดาบไว้ข้างตัว"แต่มันดันแยกเขี้ยวใส่เนี่ยสิ ไม่น่ารักเลยนะครับว่าไหม?"
นัตสึมิเบะปากใส่คนที่เหล่มามอง ปากดีไม่สนเลือดที่ท่วมหัว น่านับถือจริงๆ
บทสนทนาจบลงเพียงแค่นั้น เธอไม่เข้าใจเท่าไรว่าทำไมสองคนที่เหลือทำหน้าอยากจะตายขนาดนั้น มือเล็กบรรจงเขียนตัวอักษรลงในกระดาษเอสี่
ห้องนี้ถูกใช้ให้เป็นห้องรวมของพวกเธอเพื่อการสนทนา วางแผนและทำเอกสารบ้าๆนี่เพราะกองมันเยอะเกินไปรึเปล่าก็ไม่รู้ โอคิตะถึงได้ชอบมาป้วนเปี้ยนกวนเธอตลอด ไม่ได้ใส่ใจกับกองเอกสารโง่ๆเลยด้วยซ้ำ อีกอย่างหมอนั่นก็ชอบที่จะกวนฮิจิคาตะด้วย จะเรียกว่ากวนก็ไม่ถูกเหมือนจะหาวิธีลอบฆ่าซะมากกว่า เป็นคนที่ไม่สนใจอะไรจริงๆเล้ย
โครกครากกก
"โอ๊ะ"
ทุกอย่างถูกหยุดกระทำทั้งหมด แก้มสีใสถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงจางๆแต่เจ้าของต้นเหตุกลับตีหน้าเข้ม ไม่รับรู้เรื่องที่ท้องตนเองร้องดังออกมาไม่อายใครเป็นครั้งที่ 2
นัตสึมิเม้มปาก เธอไม่อยากยอมรับว่าตัวเองหิวแต่เธอก็ยอมรับได้นะถ้าไอ้หัวหน้าหน่วยที่ 1 ไม่มองมาด้วยท่าทางเยาะเย้ยนั่นน่ะ จะขายขี้หน้ากับใครก็ได้แต่ถ้าต่อหน้าโอคิตะ เธอไม่ยอม!
โครกครากกก!
แต่บางเรื่องก็น่าจะยอมนะ
"น่าจะได้เวลาข้าวเที่ยงแล้วล่ะ ไปโรงครัวกันเถอะ"
ไม่ไหวแล้ววว หิวโว้ยยย
"นี่เพิ่ง 8 โมง ยังไม่เที่ยงซะหน่อยยัยเบ๊อะ"
นัตสึมิวางมือจากพู่กัน แผ่นหลังพิงเข้าที่พนังห้อง หน้าตาอดอยากอย่างเห็นได้ชัด ลืมไปสนิทว่าตัวเองไม่ได้ทานข้าวเช้าเพราะมีหมาตัวนึงมาขวางทางไว้ สรุปตั้งแต่เช้าเธอยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย โรงครัวที่พึ่งสุดท้ายก็เปิดเป็นรอบๆอีก เปิดอีกทีก็เป็นเที่ยงตรงจนถึงครึ่ง บ้าเอ้ย นี่เธอต้องอดตายในหน่วยตำรวจเนี่ยนะ โอ้โห สภาพทุเรศกว่าโอคิตะเมื่อเช้าซะอีก
"ทำใจดีๆไว้นัตสึ! นี่เธอไม่ได้กินข้าวเช้ามาใช่ไหม"ลุงคอนโด้ที่รัก รู้ใจหลานสาวซะจริง หลานอยากกินขนมปังยากิโซบะซื้อให้หน่อยจะได้รึเปล่านะ
"ช่วยไม่ได้"
นัตสึมิมองไปทางคนพูด เหมือนเห็นแสงสว่างออกมาจากตัวฮิจิคาตะ นัตสึมิหวังว่าตัวเองจะมีอะไรตกถึงท้องบ้างไม่มากก็น้อย เธอหิวจนแทบจะกินช้างได้ทั้งตัว
"ฮิจิคาตะมายองเนสสเปเชี่ยล"
หลอดสีขาวๆเหลืองๆถูกยื่นมา รองหัวหน้าทำท่าเหมือนมันเป็นสิ่งที่วิเศษมากกว่าอะไรทั้งหมด นัตสึมิมองมันนิ่งๆก่อนที่จะ
ปั่ก! อั่ก!
"ใครมันจะไปกินลงฟะะะ!"
เตะมันออกไปพร้อมกับเจ้าของมัน!
นัตสึมิไม่ชื่นชอบมายองเนส มันหวานๆเปรี้ยวๆไม่ถูกปาก พูดได้คำเดียวว่าโคตรแหยะ แค่ได้ลองครั้งแรกก็แทบจะอ้วก เธอสาบานกับตัวเองว่าจะไม่มีทางแตะมันอีกเป็นอันขาด นัตสึมิไม่เคยคิดว่าตัวเองจะกระเดือกมันลงได้เยอะๆนอกจากช็อคโกแลต เธอไม่รังเกียจฮิจิคาตะที่ชื่นชอบมายองเนสแต่บอกเลยว่าตอนเห็นเขาเขมือบมันเข้าไปด้วยใบหน้ามีความสุขนั่นเธออ้วกออกมาทุกครั้ง
"งั้นนมไหม?"
"ห๊า?"
คราวนี้นัตสึมิหันไปมองโอคิตะด้วยท่าทางไม่เข้าใจ เขาดูเป็นคนที่จะเยาะเย้ยเธอมากกว่าที่จะช่วยเหลือแต่เธอก็ไม่รังเกียจนะถ้าหมอนั่นจะช่วยให้เธอคลายจากความหิว จะนม น้ำอะไรก็ได้ที่ทำให้เธออิ่มท้อง
"แต่ส่วนใหญ่มันแห้งๆไปหมดแล้ว"โอคิตะยกยิ้มใจดี ยื่นแขนทั้งสองข้างที่มีหยดน้ำนมประปรายมาตรงหน้า"เลียสิ นมที่เธอให้มาน่ะ"
ไอ้นี่..
ปั่ก! อั่ก!
คิ้วเรียวกระตุกขึ้นมาเป็นอีกรอบของวันหลังจากที่ส่งโอคิตะไปสมทบกับคนก่อนหน้านี้
นัตสึมิถอนหายใจ พึ่งกับเจ้าพวกนี้ไม่เคยได้เลยทั้งๆที่โตกว่าเธอเป็นไหนๆ เด็กสาวถือวิสาสะหยิบโทรศัพท์ของลุงตัวเองขึ้นมา มันตกตอนที่คอนโดีวิ่งไปหาเจ้าพวกงั่ง นิ้วเล็กๆกดแป้นเรียกโทรหาคนที่น่าจะช่วยได้
"ฮัลโหล นั่นร้านพิชช่าปะ เออ เอาหน้าไรมาก็ได้สองถาด ให้ไว"แล้วก็กดตัดสายแบบไม่สนใจปลายสาย นัตสึมิโยนโทรศัพท์ออก
เธอกุมท้องตัวเองที่พร้อมจะบิดเป็นเกลียวได้ตลอดเวลา ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยกินข้าวตรงเวลาอยู่แล้วแต่มันไม่ใช่ปัญหามาตลอด แต่ก็นั่นแหละ อยู่ๆมันก็ดันมามีตอนหลัง ท้องร้องขึ้นมาเฉยๆแล้วตามด้วยความหิว เหมือนเป็นนาฬิกาบอกเวลาอาหารอะไรเถือกนั้น
"เฮ้ย อย่าลืมเตรียมเงินไว้ด้วย เงินลุงน่ะ"เธอกดตาลงต่ำ มองคอนโด้ด้วยสายตาอำมหิตเพราะความหิวโหย โอคิตะกับฮิจิคาตะยังนอนหมดสภาพอยู่ที่เดิม
"อ..อืม"คนเป็นลุงทำได้แค่ตอบอึมอำ
โครกคราก
"โอ้ยยยยๆๆๆๆ"นัตสึมิตัวบิด เต้นเร้าด้วยความเจ็บปวดจากท้องน้อย ลำตัวกริ้งไปมากับพื้นเสื่อ ความหิวเริ่มกัดกร่อนกระเพาะเธอจนแทบจะขาดออกจากกัน เมื่อไรพิซซ่าจะมา มันช้าเกินไปแล้ว ถึงจะผ่านไปแค่ 3 นาทีก็เถอะ! แค่สามนาทีก็อาจจะฆ่าคนตายได้ ใช่ เธออาจจะตายเพราะพิซซ่ามาส่งช้าและซินเซ็นงุมิจะถูกบันทึกไปตลอดว่ามีนักรบตายเพราะความหิว อ่า อนาถ อนาถมาก..
"ไม่ทันการแล้วโซโกะ ให้เธอกินฮิจิคาตะมายองเนสสเปเชี่ยลซะ!ไม่งั้นเราอาจจะได้จัดงานศพลูกสาวผบ.ตร.!"
"เยสเซ่อร์ครับคุณฮิจิคาตะ!"
ยังไม่ทันได้ตั้งตัวนัตสึมิก็ถูกล็อคตัวด้วยท่านรอง ข้างหน้าคือโอคิตะที่พยายามจะยัดมายองเนสใส่ปากเธอ
"แล้วทำไมพวกแกถึงได้สามัคคีกันขนาดนี้เนี่ย!!"
มันจะฆ่าเธอ! พวกนี้รวมหัวจะลอบฆ่าเธอแน่ๆ!!
โอคิตะล็อคหน้าเธอไม่ให้หนีไปไหน มือหนาพยายามจะยัดเยียดมายองเนสใส่ปากเธอไม่ลดละแถมฮิจิคาตะยังล็อคตัวจนตัวลอยจากพื้น ถ้าเป็นเวลาปกตินัตสึมิคงดีดตัวเองถีบโอคิตะออกไปได้แต่นี่แค่จะพยายามดิ้นยังทรมาณท้องไม่หายเลย
"ลุง!!-- อื้อ!"จะร้องเรียกให้คอนโด้ที่เอาแต่นั่งนับเงินในกระเป๋าด้วยใบหน้าอมทุกข์ช่วยก็ไม่ทันการ โอคิตะทำสำเร็จ หมอนั่นยัดเข้ามาในปากเธอได้ด้วยการบีบกระพุ้งแก้ม
นัตสึมิตาเหลือก ใบหน้าของโอคิตะที่ทำหน้าซาดิสต์เป็นสิ่งสุดท้ายที่ของเหลวสีขาวเหลืองเข้ามาในคอ
"กินเข้าไปเร็วจะได้มีแรง"
ยังมีหน้ามาพูดกับคนที่ทำหน้าจะตายได้อีกเหรอ!!
"อ่อก!"
รสชาติฝาดๆที่ไหลเข้าสู่คอทำเอาหน้าเปลี่ยนสี นัตสึมิหน้าซีด ร่างกายหยุดดิ้นหลังจากต้องฝืนกล้ำกลืนมายองเนสเข้าไป โอคิตะเอามายองเนสออกจากปากเธอแล้ว ฮิจิคาตะยื่นหน้ามามองสถานการณ์
อ้วกกกกกก
"เอ้ะ/เฮ่ย!"
ผู้หญิงเพียงคนเดียวของหน่วยปล่อยของเหลวออกมาจากปากใส่หัวหน้าหน่วยที่ 1 อย่างห้ามไม่อยู่เพราะฮิจิคาตะที่ยังล็อคตัวเธอไว้ทำให้มีระดับความสูงใกล้เคียงกับโอคิตะที่อยู่ข้างหน้า เจ้านั่นเลยโดนรับผลกรรมไปเต็มๆ
นัตสึมิรู้สึกว่าคอตัวเองฝาดกว่าตอนถูกยัดมายองเนส ขนาดตอนนี้ที่ฮิติคาตะปล่อยตัวแล้วกระโดดไปที่อื่นเธอก็ยังคงอ้วกไม่หยุด เธอไม่ได้สนใจโอคิตะที่โดนอ้วกอีกต่อไปถึงจะรู้สึกผิดเพราะมันสกปรกแต่ตอนนี้ร่างกายเธอก็ไม่ไหวจะเคลียร์
อ้วกกกกกก
"นัตสึ!"ลุงคอนโด้วิ่งมาหา ช่วยลูบหลังขณะที่เธอถ่ายของเสียลงสู่พื้น นัตสึมิเหมือนวิญญาณจะออกร่างตลอดเวลา ไม่คิดว่าความหิวจะทำให้เธอได้ตายจริงๆ
"ล..ลุง ฝะ ฝากลูกเมียข้าด้วย"
"แล้วเอ็งไปมีลูกเมียตอนไหนห้ะ!"
ถึงแม้สภาพจะใกล้ขึ้นไปบนฟ้าแล้วก็ตามเธอก็ยังไม่วานบอกสิ่งที่คาใจ ลูกเมีย(ที่ไม่มี)ต้องได้รับความสุขสบาย ฮิจิคาตะว้ากออกมาหลังจากที่ได้ฟังแต่เธอหาได้สนใจไม่
นัตสึมิพลิกตัวเองไปอยู่ในอ้อมอกของคนที่เชื่อใจที่สุด ริมฝีปากแย้มยิ้มให้กับลุงตัวเอง แววตาแวววับด้วยหยาดน้ำที่เอ่อล้น
"นัตสึ! แข็งใจไว้ เราต้องได้กลับไปหาลูกเมียเธอแน่นอน พวกเขารอเธออยู่นะ!!"
คอนโด้น้ำตาซึม มองหลานสาวที่ริมฝีปากเลอะไปด้วยอ้วกอย่างไม่รังเกียจ มือหนากุมมือเล็กของหลานสาวแน่นไม่ยอมปล่อย นัตสึมิไม่ได้ตอบอะไรต่อ ริมฝีปากยังคงยิ้มอยู่เหมือนเดิม เปลือกตาค่อยๆปิดลง แรงเธอหมดแล้ว ไม่ไหวแม้แต่จะอ้าปากแต่สิ่งที่สุดท้ายที่เห็นคือใบหน้าของกอลิล่าที่พร่ำร้องไห้เพราะเธอ อ่า.. ลุงเธอช่างน่ารังเกียจจริงๆ
"นัตสึ!! ม่ายยย"คอนโด้กอดร่างไร้วิญญาณแน่น น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินเป็นสาย ฮิจิคาตะได้แต่มองลุงหลานกอดกัน เขาไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไง ช็อคจนไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ยยยย
"เอ่อ หัวหน้าครับ...มีใครได้สั่งพิซซ่ามาไหมครับ"
ไม่รู้ว่าพละกำลังมาจากไหน นัตสึมิลืมตาโพล่ง ผลักคอนโด้ออกแล้วสับขาไปยังหน้าประตูหน่วย พิซซ่าคือคำเดียวที่ลอยเคว้งอยู่ในหัว มาช้าขนาดนี้เธอต้องฟ้องผู้จัดการ ช้าไป 15 นาทีใช้ได้ที่ไหน มันต้องสั่งปุ๊บได้ปั๊บเซ่!
เธอรับกล่องพิซซ่าสองถาดมาจากคนส่งพิซซ่า มือเล็กเปิดฝาออกเพื่อหยิบขึ้นมากินด้วยความหิวแต่ลูกกลมๆที่อยู่ด้านในทำให้เธอซะงัก มันส่งเสียงติ๊ดๆเป็นระยะแถมยังมีตัวเลขบอกเวลา
ระเบิด?
"เอ่ะ?"
ตู๊ม!!
"คาสึร้าาาาา!!!!"
นัตสึมิสำลักควัน ที่ระเบิดไม่ใช่ลูกกลมที่อยู่ในมือแต่เป็นลูกกระสุนบาชูก้า?ที่มาจากอีกฝั่ง ควันได้จางลงจนเห็นอะไรได้ชัดขึ้น ยังดีที่เธอไไวตัวทันเลยไม่ได้เป็นอะไรมาก นัตสึมิหวังว่าสิ่งที่เฝ้าคอยมาตลอดจะไม่เป็นอะไร
"ชิ รอดไปได้เหรอเนี่ย"โอคิตะเดินมาพร้อมกับบาชูก้าที่อยู่บนบ่า นัตสึมิมองพิซซ่าที่เละไม่ต่างจากขยะด้วยสายตาว่างเปล่า
"โอคิต้าาา!!!"เอาพิซซ่าไปกินซะไอ้เวรโว้ยยย
เธอปาพิซซ่าใส่คนที่จงใจยิงมันมาโดนเธอมากกว่าศัตรูที่พลันตัวมาส่งพิซซ่าหน้าระเบิดให้แต่คนที่ทำตัวเป็นศัตรูเธอในตอนนี้มันต้องไม่ตายดี โอคิตะหลบทันแบบฉิวเฉียด นัตสึมิก่อสงครามขนาดย่อมๆด้วยความโมโหหิว โอคิตะพยายามที่จะดึงเธอห่างแต่นั่นแหละที่ต้องการ เธองับเข้าที่แขนภายใต้ชุดตำรวจไม่ปล่อย ต่อให้สลัดออกมากเท่าไรนัตสึมิก็ไม่ปล่อยแขนนี่แน่ ทำร้ายพิซซ่าของเธอก็สมควรที่จะให้เธอกินเนื้อนี่ซะ!
"เล่นอะไรกันอยู่ ได้เวลาทำงานแล้ว"
นัตสึมิเปลี่ยนจากกัดแขนมากัดหัวโอคิตะแทน เธอวาดแขนขากอดพันเข้ากับลำตัวของโอคิตะเหนียวแน่น
"หนูหนีออกจากกรงจะให้ปล่อยไปได้ยังไง จับตัวคาสึระให้ได้ จะเป็นจะตายไม่เกี่ยง" รองหัวหน้าออกคำสั่ง ดวงตาแวววับ นัตสึมิกระพริบตาปริบ เธอกอดคอโอคิตะที่เลิกพยายามแกะตัวเธอออกแน่นเพราะกลัวตกพื้น บรรยากาศโดยรอบเริ่มเย็นลง ดูท่าจะไม่ใช่เวลาเล่นแล้ว โอคิตะเองก็เงียบลงแล้วรับฟังคำสั่งอย่างโดยดี
เขากำลังจะไปล่าหัวของคาสึระ ผู้ชายที่เป็นนักขับไล่ต่างแดน
"จะไปด้วย!"
ไม่คิดสับสน ปากก็ไปก่อนสมอง เธอชอบความวุ่นวาย อยากเจอผู้ชายคนนั่นตัวเป็นๆถึงจะได้เจอเพียงชั่วแวบเดียวตอนส่งพิซซ่ามันก็ไม่พอใจ ใบหน้าของผู้ชายที่ตอนเห็นหน้าเธอยังคงเตะตา เธอยังไม่ได้กล่าวทักทายเลยด้วยซ้ำ ใครมันจะบ้าปล่อยคนที่ยื่นระเบิดให้เธอกินกัน?
"ไม่ได้/ไม่ได้"
ไม่ใช่แค่ฮิจิคาตะที่ปฎิเสธแต่รวมถึงลุงที่เธอเคารพรักด้วย คอนโด้เดินมาทางนี้ ท่าทางสุขุมสมเป็นหัวหน้าขึ้นมา น้ำเสียงจริงจังของคอนโด้ทำให้เธอหน้ามู่ เป็นอันเด็ดขาดว่าเธอไม่สมควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว
"แต่ฉันอยากไป"คนหัวดื้อก็ยังดื้อวันยังค่ำ เด็กหญิงเม้มปาก"ขอแค่ดูห่างๆก็ได้ จะไม่เข้าไปยุ่ง"ซะที่ไหน
"ยังไงก็ไม่ได้"เป็นคอนโด้ที่เด็ดขาด
"นั่นเป็นชายที่ขับไล่ต่างแดน สร้างความเสียหายให้บ้านเมืองมาเยอะจนขึ้นชื่อว่าอาชญากร---"ฮิจิคาตะเสริม
"ฉันรู้.. ฉันรู้ แต่ฉันอยากเห็นการทำงานของที่นี่ พวกนายจะให้ฉันอยู่แต่ให้ห้อง นั่งตอบเอกสารแล้วทำงานง่ายๆเหรอ ฉันเองก็อยากลองลงสนามสักครั้งต่อให้ครั้งนี้จะอยู่บนรถเฉยๆรอดูพวกนายก็ยอม"
"นัตสึ"คอนโด้ร้องเรียกชื่อหลานสาว นัตสึมิส่งสายตาออดอ้อนไปหาแม้จะอยู่ในสภาพที่เหมือนจะขี่หลังโอคิตะอยู่ก็ตาม สุดท้ายคนเป็นลุงก็ได้แต่ถอนหายใจ
"ห้ามลงมาจากรถล่ะ"
"เย้!"
"คุณคอนโด้!"
ดูท่าจะมีคนไม่เห็นด้วยด้วยแหละ
*.❅· °。·❆
เรากำลังไปยังแหล่งกบดานของนักขับไล่ต่างแดน บนรถตำรวจ เธอนั่งอยู่ที่เดิมข้างๆคอนโด้ ทุกอย่างถูกวางล็อคไว้ทั้งหมด ฮิจิคาตะสานสืบจนเจอแหล่งที่อยู่ บรรยากาศในรถเคร่งขรึม ทุกคนจับฝักดาบไว้ตลอดเวลาเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันแต่ที่ไม่คาดฝันกว่าน่ะคือเธอ..
โครกครากกก
หิว!!!!
นัตสึมิลืมไปสนิทว่ายังไม่มีอะไรตกถึงกะเพาะตั้งแต่เช้านอกจากมายองเนสที่ทำเธอคะยั้นคะยอเอาของเสียออกมาจนหมด ท้องว่างกว่าเดิมแถมอาการก็กำเริบให้ปวดมากกว่าเดิมอีก เอาเข้าจริงก็อยากอดทนต่อไปเผื่อเจอฉากเด็ด แต่ให้ตาย เธอจะตายอีกรอบเพราะความหิว
พิซซ่าที่สั่งมาก็เละจนกินไม่ได้ อันนี้ต้องยกความผิดให้กับโอคิตะที่เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง ดวงตาสีแดงสอดส่องไปยังพื้นที่ทุกส่วนของเมืองก่อนจะเอะใจกับร้านร้านนึง
"เฮ้ย.." เธอคว้าคอโอคิตะที่ขับรถให้ติดกับเบาะส่งผลให้รถถูกเบรกจนเกือบหน้าทิ่ม ฮิจิคาตะจะหันมาด่าเธอแล้วแต่สุดท้ายก็ไม่พูดอะไรออกมานอกจากอ้าปากพะงาบๆ นัตสึมิหน้าซีดคล้ายศพเดินได้ คอนโด้เป็นห่วงหลานสาวถึงขนาดทำอะไรไม่ถูก ด้วยความหิวที่คลอบงำเธอยอมพลาดซ็อตเด็ดระหว่างตำรวจกับผู้ร้าย
เด็กหญิงเปิดประตูรถออก เดินโชซัดโซเซไปร้านดังโงะที่อยู่ไม่ไกล นัตสึมิบอกให้พวกเขาไปเลยไม่ต้องรอ คอนโด้ที่ไม่อยากให้หลานสาวเข้ามาเสี่ยงตั้งแต่แรกก็ออกคำสั่งให้โอคิตะออกรถไปทันที
"เอ้อ ป้า เอามาทั้งหมดนั่นแหละ หนูหิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว"
สั่งเสร็จสรรพก็ทรุดตัวนั่งลงที่เบาะ ข้างหลังเธอมีนักบวชอยู่คนนึง ผมยาวรุงรังแต่ไม่ได้บดบังออร่าได้ นัตสึมิมองดังโงะที่เหลืออยู่ไม้เดียวบนจาน เขาเลื่อนมันให้และเธอเองก็ไม่ปฎิเสธที่จะหยิบขึ้นมากินด้วยเป็นการรักษาน้ำใจ
เด็กสาวผ่อนลมหายใจแผ่วเบา เอนหลังไปพิงกับคนที่อยู่ด้านหลัง แผ่นหลังอบอุ่นและผมที่ยาวจนเหมือนผู้หญิงยังคงเหมือนเดิม
"รับของศัตรูไปกินแบบนั้นไม่กลัวโดนวางยารึไง"
นัตสึมิยกยิ้ม"ศัตรูที่ว่าเขาทำหน้าตาใจดีแบบนั้นเหรอ?"
ใจดีตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอจนถึงตอนนี้ นัตสึมิวางไม้ที่ว่างเปล่าลงบนจาน ได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบาจากด้านหลัง
"เพิ่งรู้ว่าหมารับใช้รัฐบาลจะมีผู้หญิงอยู่ด้วย"
"ฉันก็เพิ่งรู้ว่าผู้ชายที่ช่วยโลกจากชาวสวรรค์ดันมาเป็นอาชญากรที่เขาตามจับกันจนหัววุ่น ตลกร้ายเนอะว่าไหมที่น้องสาวดันกลายเป็นตำรวจมาจับตัวเองน่ะ ซึจัง?"
"ไม่ใช่ซึจัง คาสึระต่างหาก"
เธอหัวเราะ นิสัยของผู้ชายที่อยู่ด้านหลังยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน นัตสึมิบอกขอบคุณป้าเจ้าของร้านที่ยกจานดังโงะมาให้ถึงจะบอกว่าเอาทั้งหมดแต่ที่ให้มามีไม่ถึง 20 ไม้เลยด้วยซ้ำ ไอ้ลูกกลมๆสามชิ้นที่เสียบไม้ไม่ถึง 20 อันเนี่ยไม่พออิ่มหรอก
"กินเท่าที่อยากกิน ถือว่าฉันเลี้ยง"คาสึระว่า วางถุงสีน้ำตาลข้างตัว มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นถุงเงิน ใจป๋าดีแท้
"ขอโทษด้วยที่ยื่นระเบิดให้เธอกิน"
"อ๋อ พี่ทำฉันโมโหหิวด้วยแหละ"แทบจะกินหัวเจ้าโอคิตะนั้นได้อยู่แล้ว"แต่หน้าเหวอๆตอนเห็นฉันใช่หน้าของอาชญากรที่เขาตามหากันรึเปล่านะ"เธอตั้งข้อสงสัย นึกย้อนไปตอนรับพิซซ่าจากคาสึระ ใบหน้าเหวอจนตลก
"ก็ใครจะไปคิดว่าน้องตัวเองจะไปอยู่ตรงนั้นเล่า!"
"โวยวายเก่งจริ๊ง"
"ฮึ่ย กินๆเข้าไปเลย กินเสร็จก็ไปได้แล้วเดี๋ยวคนจะมาเห็นว่าตำรวจกับผู้ร้ายญาติดีกัน"
"ไล่เก่งแต่ในใจยังอยากอยู่คุยกับฉันเนี่ยนะ? ซึนเดระจังเลยนะซึจังอ่าา"
"ไม่ใช่ซึจัง คาซึระต่างหาก!"
นัตสึมิหัวเราะเสียงใส หูแดงๆที่โผล่พ้นออกมาทำเธอขำ ต่อให้ผ่านไปกี่ปี คาซึระ โคทาโร่ก็ยังพ่ายแพ้ต่อเธอทุกครั้ง ไม่รู้เป็นเพราะเขินน้องตัวเองหรือไม่รู้จะพูดอะไรต่อถึงได้คว้าดังโงะของเธอไปกินหน้าตาเฉย นัตสึมิไม่ได้ว่าอะไร เธอยินดีที่จะแบ่งเพราะเสียยังไงเจ้าพี่ชายที่ไม่ได้เกี่ยวข้อบกันทางสายเลือดก็เป็นคนจ่าย
"แล้วพี่จะเอายังไงต่อ"เธอกลืนดังโงะที่ถูกเคี้ยวละเอียดลงคอ"ชินเซ็นงุมิคงไม่ปล่อยพี่ไว้แน่ ตอนนี้ที่พักพวกพี่คงถูกค้นหมดแล้ว ไม่แน่พวกของพี่บางคนจะถูกจับไปด้วย"
"หึ ฉันให้พวกนั้นกระจัดกระจายแฝงตัวกับคนธรรมดาไปทุกคนแล้ว"เธอร้องอ้อ ชี้ไปทางตัวขาวๆที่เดินไปมาปนกับประชาชน แต่งตัวคล้ายก็นับถืออยู่หรอกแต่หน้าตาเนี่ยมันไม่ได้นะจะบอกให้
"ใช่ตัวที่มองมาทางพี่ตรงนั้นปะ 'คุณคาซึระ เราจะไปไหนต่อดีครับ'เขียนป้ายแบบนั้นถ้ามีคนมาเห็นความก็แตกนะพี่"
"อลิซาเบธพูดไม่ได้น่ะ หัดเขียนลงในป้ายก็ดีเท่าไหนแล้ว"
"'คุณคาซึระ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เธอจะมาจับพวกเราเหรอครับต้องกำจัดไหม'โอ้โห โหดแท้"
"จะ ใจเย็นอลิซาเบธนี่น้องสาวฉันเอง"คาซึระแก้ต่าง อลิซาเบธเลยอยู่เงียบๆไม่โชว์ป้ายต่อ เขาถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ นัตสึมิเหล่มองนิดหน่อยก่อนที่จะตัดสินใจยื่นกระดาษที่ถูกพับไปให้ เธอคิดว่าเขาคงสงสัย
"ที่อยู่บ้านว่าง ตรงนั้นไม่มีคนพลุกพล่านเท่าในเมืองแต่หลังใหญ่พอที่จะบรรจุคนได้เยอะ"เด็กสาวยืดตัวมานั่งดีๆ ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าคาสึระหันมามองด้วยความไม่เข้าใจ "พี่คงหนักใจเรื่องนี้อยู่ ฉันรู้น่าว่าพี่ให้ความสำคัญกับพวกพ้องมากขนาดไหน แหล่งกลบดานของพี่น่าจะถูกยึดหลังจากที่พวกนั้นตรวจพบแล้วไม่เจอพวกขับไล่ต่างแดนสักคน ไม่มีทางที่พวกนั้นจะปล่อยให้พี่ลอยตัวไปง่ายๆโดยเฉพาะโทชิคุง ท่าทางเขาจริงจังมากถึงขนาดจะให้จับตายพี่ก็ไม่โกรธ"
เธอเว้นช่วง"อีกอย่างเขาคงไม่รู้ว่าในหน่วยก็มีคนกบฎอยู่ แล้วคนที่กบฎที่ว่าดันเป็นน้องสาวของอาญชากรซะด้วย ฉันช่วยพี่ได้แค่นี้หากตอนเราเจอกันแล้วพวกนั้นอยู่ด้วยฉันคงไม่ลังเลที่จะวาดดาบใส่พี่"
คาซึระขยับปีกหมวก กำเศษกระดาษไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เบาะที่เด้งขึ้นทำให้รู้ว่าเขากำลังจะไป
"รีบไปก่อนที่พวกนั้นจะมารับฉัน อย่าให้เขาเด็ดหัวมาได้ล่ะพี่ชาย"ริมฝีปากบางยกยิ้ม เธอเงยหน้ามองท้องฟ้าที่แปรเปลี่ยนสีส้ม"แล้วก็ยินดีที่ได้เจอนะคะ"
"อ่า ยินดีที่ได้เจอเหมือนกัน"อาชญากรที่แสร้งทำตัวเป็นนักบุญว่า วางไม้ดังโงะสุดท้ายที่เหลือเพียงชิ้นเดียวให้กับเธอ "แล้วก็ต้อนรับกลับบ้านนะ นัตสึ"
เธอแค่นหัวเราะ บ้านเหรอ จะบอกว่าเอโดะไม่ใช่บ้านของเธอก็ไม่ผิดนัก เธอเกิดและโตที่บ้านนอกแต่มีสิ่งหนึ่งที่นัตสึมิยอมรับเสมอ บ้านของเธอเคลื่อนที่ได้ รวมถึงผู้ชายที่กำลังเดินไปนั่นก็คือส่วนหนึ่งในบ้านของเธอ
บ้านที่มีพวกเธอห้าคน
ที่ไม่น่าจะมีทางเป็นไปได้เพราะตอนนี้เหลือเพียงแค่สี่
กริ้ง~
"สบายดีไหมนะ"ข้อมือที่ผูกด้วยกำไรห้อยกระดิ่งถูกยกขึ้นมา ฉากหลังคือท้องฟ้าสีส้มที่เขาชอบนักหนา เธอถามหาเจ้าของกระดิ่งที่อยู่บนฟ้า
เขาจะตอบกลับมาแล้วเฝ้ามองลูกสาวตัวเองเติบโตรึเปล่านะ
*.❅· °。·❆
คาซึระหนีไปได้พร้อมกับลูกสมุนที่เหลือ ชินเซ็นงุมิคว้าน้ำเหลวหลังจากที่ไปตรวจค้นบ้านทุกหลังแต่ไม่พบเจ้าวายร้าย ฮิจิคาตะหัวเสียอย่างหนักที่ไม่สามารถจับกุมคนที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาได้สักทีแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังส่งลูกน้องไปเฝ้าแหล่งกบดานของคาซึระและบริเวณใกล้เคียง ถือว่าเป็นความพยายามที่ดีแต่น่าเสียดายที่กบฎตัวน้อยอ่านแผนทุกอย่างออกและให้ความช่วยเหลือเจ้าวายร้ายอย่างลับๆ
เธอแกว่งขาตัวเองไปมา ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว พระจันทร์กำลังออกมาฉายแสงตัวเองแทนพระอาทิตย์ นัตสึมิเปลี่ยนชุดจากยูนิฟอร์มของตำรวจเป็นกิโมโนพร้อมนอนเรียบๆแทน
"อยู่ข้างนอกนานๆเดี๋ยวยุงก็กัดตายหรอก"
นัตสึมิเงยหน้ามองคนที่ยืนค้ำหัวอยู่เป็นโอคิตะ โซโกะที่อยู่ในชุดกิโมโนเหมือนกัน ดูเหมือนหน้าที่ของเขาจะหมดแล้วถึงได้แวะมาเกาะแกะเธอ
"ก็มันเย็นดีนี่นา"
เกิดความเงียบชั่วขณะหลังจากที่เธอตอบออกไป นัตสึมิยังอยู่ที่เดิม โอคิตะเองก็เช่นกัน เธอมองเงาที่ทาบทับลงมาจากแสงไฟ คนที่อยู่ด้านหลังไม่ได้ขยับไปไหน ไม่มีคำจิกกัดอย่างที่ให้มาทุกวันมีแต่เสียงหายใจของเราที่ดังสม่ำเสมอ
มีคนบอกว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ
นัตสึมิไม่ปฎิเสธประโยคนี้ จะกี่ครั้งที่เธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของใครเธอมักรู้เสมอว่าเขาคิดเช่นไร แต่จะเป็นอะไรไหมที่ตอนนี้เธอเองก็อยากรู้ความคิดของตัวเอง
"ฉันจะทำเป็นไม่รู้ว่าเธอช่วยเหลือคาซึระ"
ดวงตาเธอสั่นไหวยามที่ได้ยิน ไม่ได้กลัวสิ่งที่ยื่นมาจ่อที่คอ แสงของไฟกระทบกับปลายดาบวาววับถึงได้รู้ว่ามันคมมากเพียงใด หัวสมองตอนนี้ไม่ได้ประมวลถึงอะไร มันว่างเปล่าจนเธอเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่
นัตสึมิไม่รู้ว่าโอคิตะทำหน้ายังไง เธอขี้เกียจเกินกว่าที่จะหันไปมอง ถึงแม้จะอยากรู้ความคิดที่อยู่ในหัวอีกคนก็ตามแต่ท้ายที่สุด เงาที่ทาบทับลงมาก็บอกได้ทุกอย่าง
โอคิตะเก็บดาบเข้าที่ของมันแล้วเดินจากไป
"ถ้ามีครั้งที่สอง ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่"
เธอแย้มยิ้มอย่างเช่นเคย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรถึงได้เชื่อสนิทใจว่าโอคิตะไม่มีทางทำแบบที่พูดได้
ก็นะคำพูดที่เด็ดขาดนั้นไม่เหมาะกับน้ำเสียงที่ไม่มั่นคงเลยว่าไหมล่ะ?
นัตสึมิลุกจากที่เดิม ได้เวลาเข้าห้องตัวเองแล้วแต่ก่อนที่จะเดินไปยังห้องของตัวเอง ขาทั้งสองข้างกลับพาเจ้าของไปยังห้องครัว เด็กหญิงเปิดตู้เย็น หยิบกล่องสีขาวรูปร่างบิดเบี้ยวออกมา ปากกาเมจิกที่เขียนว่าลูกแมวเหมียวไม่ได้ทำให้เธอสนใจมากเท่าไร
ไหนๆก็หยิบออกมาแล้ว ไหนๆมันก็เป็นของเธอคงไม่ต้องขออนุญาตใครกินหรอกใช่ไหมล่ะ
อ่า รสชาตินมนี่ยังดีกว่ามายองเนสของฮิจิคาตะจริงๆด้วย
--------------------------------
จบไปกับตอนที่ 2 แล้ว สนุกหรือไม่สนุกยังไงก็บอกได้นะคะ แงง
รบกวนอ่านแล้วเม้นหน่อยน้า เราจะได้มีกำลังใจในการแต่ง
ไม่มีใครเม้นแล้วมันหมดกำลังใจอ่ะ555555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

นมเชื่อมสัมพันธ์555
น่ารักกก ทุกอย่างเลยย
เขียนดีมากๆๆ
รู้สึกสงสารตอนโดนยัดมายองอยู่นะแต่ขอโทษ 5555555555กลั้นหัวเราะไม่ไหวจิมๆ
อ้อ นิยายสนุกมากเลยค่ะ^^