ตอนที่ 14 : LOADING
14
“โอคิต้าาา!!!!!”
นัตสึมิกรีดร้องสุดเสียง เขย่าคอเสื้อหัวหน้าหน่วยที่ 1 สุดแรงจนโอคิตะหัวสั่น สาเหตุที่ทำให้เด็กหญิงอาละวาดอยู่ไม่ไกล เมื่อกล่องเค้กที่อุตส่าห์เก็บแช่อยู่ในตู้เย็นจนเย็นฉ่ำถูกคู่ปรับตลอดกาลไปแย่งกินเอาซะเฉยๆ แถมหมอนั่นยังไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทำหน้าใสซื่อเหมือนตัวเองไม่ได้ขโมยเค้กเธอไปกินเลยสักนิดเดียว!
นัตสึมิพ่นไฟ รัดคอโอคิตะจนหน้าเขียว ฮิจิคาตะและคอนโด้ที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่มีใครห้ามสักคนเพราะชินกับการทะเลาะเบาะแว้งเล็กๆ
ชิน เพราะหมอนี่ชอบขโมยเค้กเธอไปกินตลอดยังไงล่ะ!!!
ถ้าชอบ ถ้าอยากกิน ทำไมไม่ซื้อเองล่ะวะ!
นัตสึมิได้แต่เข่นเขี้ยวในใจ ออกแรงรัดต้นคอหนาจนโอคิตะน้ำลายฟูมปาก พอโอคิตะทนแรงไม่ไหวก็อุ้มตัวเด็กหญิงออกห่าง นัตสึมิแยกเขี้ยว ดิ้นออกจากอ้อมแขน อยากจะยื่นมือจะไปข่วนหน้าหล่อๆนั่นใจจะขาดแต่ถูกโอคิตะหิ้วคอเสื้อออกห่างเหมือนเป็นูกแมว
“โอ๊ยมันเจ็บนะ!”
“แบร่!”
เด็กหญิงแลบลิ้นปลิ้นตาทันทีที่เล็บยาวๆข่วนเข้าที่แก้มสากเข้าให้ นัตสึมิ/ม่สนใจว่าตัวเองจะทำหน้าตาดูดีของโอคิตะเสียโฉม กลันกันเธอรู้สึกฮึกเหิมกับการกระทำ อยากทำให้หน้าหล่อๆนั่นมีแต่รอยเต็มไปหมด เอาให้ดูไม่ได้ไปเลย! หมั่นไส้นัก! เค้กเธอก็ยังไม่ได้กินสักชิ้น หมอนี่เป็นใครถึงได้กินของเธอหน้าตาเฉย!!
ฮึ่ย หงุดหงิด แต่เอาคืนไม่ได้เพราะมันลงท้องโอคิตะไปหมดแล้ว ครั้นจะให้หมอนั่นอ้วกคืนออกมาเธอก็ทำท่าจะอ้วกก่อนล่อมล่อเพราะนึกภาพตาม
“หน็อยยัยนี่” โอคิตะเข่นเขี้ยว ในขณะที่นัตสึมิเองก็ไม่ยอมแพ้กับศึกครั้งนี้ เรามองหน้ากัน ฟาดฟันผ่านทางสายตาไม่นานก็พุ่งตัวเข้าตะลุมบอน นัตสึมิกระโดดขึ้นหลัง ขยุ้มกลุ่มผมนุ่มแล้วบิดไปมา โอคิตะไม่ยอมแพ้ หมอนั่นพยายามเอาเธอออกห่างที่คล้ายจะจับทุ่มลงทุกเมื่อ
แต่ทำไม่ได้เพราะเธอล็อคตัวแน่นยังไงล่ะ ฮะฮ่า!
“เป็นไงล่ะ เค้กฉันมันอร่อยสินะ ถึงได้กินมันหมดขนาดนั้นน่ะ” เธอปล่อยมือที่ขยุ้มผมโอคิตะลงมาที่สองแก้มฉาก บีบขยี้ใบหน้าจนดูไม่ได้ ยืดแก้มที่คงได้ลิ้มรสสมบัติอันล่ำค่าของเธอไป นัตสึมิยืดแก้มโอคิตะออก ยืดไปมา ดันเข้าหาแล้วยืดออกจนหน้าบู้บี้
“อ้อยอั้นอะอัยอ้า(ปล่อยฉันนะยัยบ้า”
นัตสึมิเอี้ยวตัวข้ามไหล่ไปมองใบหน้าของหัวหน้าหน่วยหนึ่ง เธอเบะปาก มองใบหน้ายับยู่แล้วอยากจะขำกร๊ากแต่แค่นี้ไม่ทำให้พอใจได้หรอก โอคิตะต้องเจอมากกว่านี้ ข้อหาแย่งของเธอไป ฮึ่ย พูดแล้วก็ขอหยิกแก้มสักหน่อย สองแก้มนี้มันเพิ่มขึ้นแน่เลย!
“…” ฮิจิคาตะมองเด็กสองคนที่ตีกันไม่เลิก ปล่อยควันบุหรี่ลอยฟุ้งขึ้นบนอากาศ สายตาเรียบเฉยกับภาพตรงหน้า ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไงกับการที่เห็นสองคนนี้ เหมือนกับเขากำลังเลี้ยงเด็กสองคนอยู่ไม่มีผิด คอนโด้ที่นั่งชมนกชมไม้อยู่ก็หัวเราะกับการทะเลาะเบาะแว้ง
“ดูน่าสนุกดีนะสองคนนั้น”
สนุกกับผีน่ะสิ!
ฮิจิคาตะอยากจะพูดออกไปแบบนั้น อยากจะให้คอนโด้รับรู้เหลือเกินว่าหลานตัวเองกำลังกระทำชำเราหัวหน้าหน่วยหนึ่งอยู่ ตอนแรกก็แค่หยิกแก้มไปมาแต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว… นัตสึมิฉายชัดถึงเจตนาฆ่าแล้วนะ! ถึงจะแค่หยิกแก้ม แต่การดึงริมฝีปากโอคิตะแยกออกจากกันจนเหมือนจะฉีกอยู่ล่อมร่อนั่นน่ะ ไม่ใช่การเล่นแล้ว!
“เอ้อ จริงสิ!” เสียงคอนโด้ที่ทำท่านึกอะไรขึ้นได้ขึ้นมาเรียกความสนใจทุกคน นัตสึมิหยุดแกล้งโอคิตะ ละนิ้วมือจากการแยก(ฉีก)ปากโอคิตะ มีน้ำเหนียวใสไหลออกมาตามนิ้วมือด้วย ดีที่เธอเอาเข้าไปแค่นิ้วชี้เลยไม่ได้ดูน่าสะอิดสะเอียนเท่าไร และเพราะเจ้าของน้ำลายคือโอคิตะ — นัตสึมิเลยจัดการเช็ดน้ำลายกับปกเสื้อเจ้าของมันทันที
ส่วนโอคิตะก็ยืนเฉยๆ ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับการที่เธอเช็ดนิ้วกับปกคอเสื้อ ปล่อยให้เธอขี่หลังอยู่แบบนั่น แล้วหันมองความสนใจกับคอนโด้ที่หันหน้ามามองพร้อมกับชูตั๋วสองใบขึ้นมา นัตสึมิตาวาว ริมฝีปากยิ้มกว้าง ต่างจากฮิจิคาตะที่ยังคงยืนสูบบุหรี่นิ่งเงียบ ใบหน้าราบเรียบไม่แสดงอารมณ์อะไร
“ฉันได้ตั๋วสวนสนุกมาสองใบ จริงๆก็ได้มาเพราะต้องไปคอยจับตาดูความปลอดภัยของที่นั่นน่ะนะ เห็นบอกว่าพักนี้มีคนแปลกๆเข้ามาบ่อยๆเลยอยากได้คนของเราไปรักษาการณ์ดู” นัตสึมิยกมือขึ้น กอดรอบลำคอโอคิตะไว้กั้นตัวเองตก เธอชูแขนจนสุดเหมือนเด็กนักเรียนที่อยากตอบคำถามของอาจารย์ ดวงตาเด็กหญิงเป็นประกายวิบวับ คอนโด้ที่เห็นแบบนั้นก็ยกยิ้มให้กับความกระตือรือร้นของนัตสึมิ
“ไป! ฉันจะไป!” เด็กหญิงอาสา เธอบอกสุดเสียง อยากที่จะทำหน้าที่นี้ ปกติเธอก็ได้แค่ลาดตระเวนกับช่วยงานเอกสาร ไม่ก็นั่งๆนอนๆในหน่วย จะออกไปทีก็ไม่พ้นร้านเค้ก กว่าจะมีงานอื่นมาให้ทำก็เอาเหี่ยวเฉา พอมาถูกเสนอให้แบบนี้ก็อยากจะเสนอตัวขึ้นมาทันที
แถมยังเป็นสวนสนุกด้วย! เท่ากับว่าเราสามารถเล่นเครื่องเล่นได้น่ะสิ!
งานน่ะมันส่วนรอง นี่สิเหตุผลหลัก
“แล้วอีกคนนึงล่ะ” คอนโด้ไม่ต้องถามนานเลยสักนิดเพราะคนที่เธอขี่หลังอยู่เป็นฝ่ายยกมือขึ้นมาบ้างด้วยใบหน้านิ่งเรียบที่นัตสึมิเองก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ฮิจิคาตะปลายตามอง พ่นควันบุหรี่ออกมาแล้วยกขึ้นสูบอีกครั้ง
“โอ้— งั้นช่วงสายพวกเธอก็ไปกันที่นั่นได้เลย จำไว้ว่าถ้าเจอเหตุอะไรขึ้นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก อ้อ แล้วอย่าสร้างปัญหาล่ะ” คอนโด้ยิ้ม ยื่นตัวสองใบมาให้โอคิตะรับไป นัตสึมิกระโดดลงจากหลัง ยื่นหน้ามาดูตั๋วสองใบที่บอกเวลาเข้าชัดเจน
“แล้วทำไมลุงไม่ไปเองล่ะ” ทั้งที่ภารกิจก็ง่าย ถ้าเป็นเธอก็คงงุบงิบไว้คนเดียว อีกใบก็เอาไปขายต่อหรือไม่ก็เอาไปให้สาวที่ชอบ ชวนออกเดทได้แบบไม่ต้องเสียตังค์สักกะแดงเดียว
คอนโด้หัวเราะ “อาไม่ว่างน่ะสิ นัตสึไปเถอะ ถือว่าไปเปิดหูเปิดตาด้วย” นัตสึมิน้องโฮ้ เพิ่งเคยเห็นว่าคอนโด้เองก็มีมุมแบบนี้ แต่ไม่นานนักความนับถือเล็กๆก็ถูกดับไปเพราะว่า
“เดี๋ยววันนี้อาจะไปตามคุณโอทาเอะ ได้ยินมาว่าจะไปจ่ายตลาดซื้อของเลี้ยงว่าจะไปช่วยถือของสักหน่อย ฮ่าๆๆ” คอนโด้หัวเราะร่า นัตสึมิไม่คิดว่าจะเป็นอย่างที่พูด แทนที่จะได้ถือของเจ๊ใหญ่โอทาเอะคงได้ไล่คอนโด้กลับมา เผลอๆไม่ได้แค่ไล่อย่างเดียวเป็นแน่ อาจได้มะกรูดบนหัวมาเป็นของแถม
“แล้วโทชิจังไม่ไปด้วยเหรอ” เธอไม่อยากไปกับโอคิตะเท่าไร เลือกได้ก็อยากไปกับฮิจิคาตะ ถึงถ้าไปด้วยกันจริงจะเหมือนคุณพ่อพาลูกสาวมาเที่ยวเล่นก็ตาม ฮิจิคาตะปรายตามอง ควันบุหรี่ลอยคลุ้งก่อนที่จะตอบคำถาม
“หน้าฉันเหมือนคนดีใจกับอะไรแบบนั้นเหรอ”
เด็กหญิงหน้ามู่ทู่ ฮิจิคาตะกำลังแซะเธอเห็น ๆ ที่ดีใจกับการได้ไปสวนสนุก แต่ช่วยไม่ได้นี่ เธอไม่เคยไปสักหน่อย จะตื่นเต้นหน่อยไม่ได้เหรอ
“ฉันมีงานทำแล้ว” ฮิจิคาตะว่าออกมาที่เห็นใบหน้าง้ำงอของเด็กสาว นัตสึมิถอนหายใจเสียดาย เสียดายสุขภาพจิตที่ต้องเผชิญผน้ากับโอคิตะทั้งวัน ไม่ประสาทเสียสิแปลก
“ไปกับฉันไม่ดีตรงไหน” โอคิตะที่เห็นท่าทางของนัตสึมิมาตั้งแต่ต้นถามขึ้นมาบ้าง เด็กสาวทำหน้าประมาณว่ากล้าที่จะถามออกมาใส่โอคิตะ
“ทุกตรงเลย ไปกับนายแต่ละทีไม่ค่อยจะได้ทำงานหรอก”
“ปกติก็ไม่เห็นจะทำอยู่แล้วนี่”
นัตสึมิร้องกรี๊ดในใจ มองโอคิตะที่ทำหน้าตายพูดออกมา ปากเสีย! ทุกคนรู้ โลกรู้ นัตสึมิตั้งใจทำงานมาตลอดแต่มีแต่คนขัดขวาง งานที่ทำเลยไม่เหมือนตั้งใจทำ เธอน่ะตรวจตราด้วยความตั้งใจตลอดแต่ก็ถูกชักจูงด้วยขนมเค้กและการทะเลาะเล็กๆของกินโทกิ วันดีคืนดีก็เป็นเจ้าตัวนั่นแหละที่ทำงานเธอพัง
อีกอย่าง! เธอไม่เคยได้ทำงานเป็นชิ้นเป็นอันเลยนอกจากตรวจตรา!!!
“คอยดูเถอะ! วันนี้ฉันจะตั้งใจทำงานให้ดู!!”
นี่เป็นภารกิจแรกของเธอ เพราะงั้นจะแสดงให้ดูว่าเธอเองก็ทำได้เหมือนกัน!
“น่าเล่นไปหมดเลยน้อ อากินจัง ลื้อจะเล่นอะไรก่อนดี”
“อืมม ถ้าดูจากแผนพังแล้วเราเริ่มเล่นจากเบาๆเป็นน้ำจิ้มก่อนดีกว่า”
“ผมว่าเล่นรถไฟเหาะก็ดีนะครับ เป็นจุดขายของที่นี่เลย”
นัตสึมิยืนนิ่งไม่ไหวติง ใบหน้าด้านข้างตายด้าน มีโอคิตะที่ยืนดูดน้ำโค๊กดังชู๊ดอยู่ข้างๆ อีกคนดูไม่แปลกใจเลยสักนิดที่เจอร้านรับจ้างสารพัดที่นี่ มีแต่เธอนั่นแหละที่รู้สึกได้ถึงความฉิบหายที่จะเจอ
ภารกิจที่ดูเป็นงานเป็นการครั้งแรกพังลงตั้งแต่เห็นหัวเงินหย็อย ๆ โผล่มาแต่ไกล
ตอนแรกนัตสึมิคิดว่าคงไม่ใช่อย่างที่คิด — ไม่ใช่ที่แปลว่าใช่ เพราะหลังจากนั้นไม่นาน กินโทกิก็ตะโกนเรียกเธอมาแต่ไกล คางุระที่เห็นเธอก็ยิ้มร่าเข้ามาทักทาย แต่พอเห็นโอคิตะที่เป็นคู่ปรับตลอดการก็เปิดมวยไป เพิ่งจะได้เลิกวางมือกันก็เมื่อกี้
สามหน่อบอกว่ากินโทกิชิงโชคมาได้ตั๋วสามใบเลยมาพักผ่อนหย่อนใจสักหน่อยก่อนที่จะลุยรับงานที่ลูกจ้างไม่ได้เงินเดือนสักเดือนเดียว นัตสึมอที่ได้ยินก็เออออไปกับสามหน่อที่เหลือ ในใจก็สวดภาวนาไม่ให้โดนด่าล่วงหน้า
มั่นใจยิ่งกว่าตอนสอบ เธอเชื่อว่างานนี้ไม่มีทางเรียบร้อยหรอก!
มีแต่เละกับเละ! สู้เออออร่วมวงไปกับพวกนั้นจะดีกว่า
“เฮอริเคนก็น่าเล่นนะครับลูกพี่”
โอคิตะเองก็คงคิดเหมือนกันเลยเออออไปกับร้านรับจ้างสารพัด หัวหน้าหน่วย 1 ชะเง้อคอมองแผนผังบนมือชามูไรหัวเงิน ชี้เป้าว่าเครื่องเล่นอะไรน่าเล่น มืออีกข้างยกแก้วโค้กขึ้นมาดูดไปพลาง ชิลๆเหมือนไม่ได้มาทำงานแต่มาเที่ยวเหมือนคนทั่วไป
โอเค ถ้าโอคิตะตามน้ำ เธอตามน้ำไปด้วย ฮิจิคาตะก็คงไม่รู้และไม่บ่นอะไร ใช่ไหม… ใช่แหละ ถ้าไม่มีใครพูดก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าพวกเธอแอบอู้! อีกอย่างคอนโด้ก็ไม่น่าจะว่าอะไรด้วย! ที่น่ากลัวมีแต่รองหัวหน้าเท่านั้นแหละ
ให้ตายเถอะ นับวันเธอยิ่งเกรงใจฮิจิคาตะ ไม่รู้ทำไมต้องเกรงใจด้วย
“อานัตตี้ ลื้อมาเดตกับอาตี๋ซาดิสเหรอน้อ”
“แค่กๆ!!” นัตสึมิสำลักน้ำลายที่กำลังกลืนลงคอ เผลอหายใจไปผิดจังหวะด้วยเลยสำลักทั้งน้ำลายและอากาศ กว่าจะปรับลมหายใจเป็นปกติไม่ได้ก็เล่นเอาน้ำหูน้ำตาไหล นัตสึมิตาเหลือกหันไปมองคนที่เป็นหัวข้อบทสนทนาก็เห็นว่ากำลังคุยอะไรกับกินโทกิอยู่
โอคิตะที่รู้ตัวว่าถูกมองก็หันหน้ามามองเธอ นัตสึมิที่เพิ่งสำลักไปก็ได้แต่ตาลีตาเหลือกกลัวว่าพวกนั้นจะได้ยินที่คางูระถาม
“ไอขนาดนั้นติดเชื้อเหรอ บอกแล้วว่าให้กักตัวก่อน 14 วันไม่เชื่อ เห็นไหมทำคนอื่นเดือดร้อนไปด้วย”
นัตสึมิถลึงตา หมอนี่คงไม่ได้ยินที่คางูระพูดแน่นอนถึงได้พูดจาน่าตีแบบนี้ อีกอย่างเธอไม่ได้ติดเชื้อ! แล้วนี่มันฟิต เธอไม่มีทางติดเชื้อได้หรอกโว้ย นี่นางเอกนะ! นี่นางเอก!!
“หุบปากไปเลย” นัตสึมิแยกเขี้ยว พอโอคิตะยักไหล่แล้วหันไปคุยกับกินโทกิต่อแล้ว นัตสึมิก็หันมามองคนที่อายุน้อยกว่าด้วยสายตาจริงจัง มือทั้งสองขัาวจับไหล่เล็กไว้แล้วกดเสียงต่ำให้ดูว่าเธอเคร่งเครียดกับเรื่องนี้เท่าไหน
“คางูระจังคราวหลังอย่าพูดอะไรแบบนี้อีกนะ มันสาหัสมาก ฉันรู้สึกเหมือนถูกฉีกอก ไม่มีทาง มันไม่มีทางที่จะเป็นแบบนั้น เข้าใจตรงกันนะ อื้ม!” นัตสึมิรัวประโยคครัวเร็ว สมองตีรวนจนพูดอะไรออกไปไม่รู้ แต่ใจความสำคัญคือมันไม่ใช่อย่างที่เด็กสาวยาโตะคิดแน่นอน เธอไม่เคยมีอะไรในก่อไผ่ทั้งนั้น!
“เข้าใจแล้วน้อ อย่างนี้คืออาตี๋อกหักแล้วสินะ”
???
นัตสึมิร้อง “ฮึ?” ด้วยความงุนงง ไม่รู้ว่าได้ยินอะไรผิดไปรึเปล่า พอจะถามอีกรอบให้แน่ใจคางูระก็วิ่งเข้าไปร่วงวงบทสนทนากับสี่หน่อที่เหลือ ปล่อยให้นัตสึมิยืนนิ่งค้างอยู่ที่เดิมพร้อมกับเครื่องหมายคำถามเต็มหัว
ฮะ ฮะ ฮะ
พูดอะไรน่ะคางูระจัง อกหงอกหักอะไร หมอนั่นไม่เคยชายตามองเธอเลยสักนิดเดียว
นัตสึมิหัวเราะแห้งในใจ ส่ายหัวให้กับคำพูดไม่มีมูลของเด็กสาวเผ่ายาโตะ เธอทะเลาะกับโอคิตะตลอด เจอหน้ากันแต่ละทีก็มีแต่เรื่อง เข้ากันก็ไม่ค่อยได้ เอะอะก็กวนประสาท เอะอะก็ยั่วโมโห ทำตัวดีๆไม่มีเรื่องกันได้แค่ไม่กี่ครั้ง …- เอ๊ะ มันมีด้วยเหรอ…
“โฮ่ยนัตสึมิ ยืนบื้อทำอะไรอยู่ตรงนั้น ไปเล่นทอร์นาโดกัน”
นัตสึมิหลุดจากภวังค์ความคิด กินโทกิม้วนแผนผังในมือเป็นกระบอก โบกไปมาเรียกเธอที่ยืนอยู่คนเดียว นัตสึมิสลัดความคิดออกไปหมดแล้ววิ่งเข้าไปหากลุ่มรับจ้างสารพัด
เครื่องเล่นแรกคือทอร์นาโดที่จะแกว่งตัวเราไปมา นัตสึมิเห็นส่วนสูงที่สูงตระหง่าของเครื่องเล่นแล้วดูน่าหวาดเสียวดี
“ทำไมถึงเล่นทอร์นาโดก่อนล่ะ” เธอถามกินโทกิที่ถือวิสาสะวางแขนที่ไหล่
“ก็ตกลงกันไม่ได้เลยเล่นตามแผนที่ก่อน”
เออเฮ้ย มันง่ายขนาดนี้เลยเหรอ นัตสึมิหยิบแผนผังสวนสนุกจากมือกินโทกิ คลี่ดูแผนพังที่บอกที่ตั้งของเครื่องเล่น สองขาก็เดินไปตามทางที่คนอายุมากกว่าเดินไป ไม่ได้เอะใจกับความรู้สึกที่เหมือนมีอะไรอยู่ด้านหลังเลยสักเสี้ยวเดียว
โอคิตะหน้ามืดครึ้ม มองแขนแกร่งที่พาดอยู่บนไหล่เล็ก ท่าทางใกล้ชิดสนิทสนมเกินหน้าเกินตาไปมากโข เขารู้สึกขัดหูขัดตาท่าทางของชามูไรหัวเงิน แต่ก็เลือกที่จะทำอะไรไม่ได้เพราะหมอนั่นตัวติดกับนัตสึมิอยู่ ได้แต่อดทนแล้วค่อยคิดบัญชีเอาทีหลัง
“ตรงนี้มีสวนสัตว์ด้วย สวนสนุกนี่มีสวนสัตว์ด้วยเหรอ” เด็กสาวถาม จิ้มนิ้วตรงส่วนที่ถูกเขียนว่าสวนสัตว์ กินโทกิชะเง้อหน้ามามอง ด้วยส่วนสูงที่ต่างกันมากทำให้คนที่โตกว่าก้มตัวลงมา ใบหน้าตายด้านมองตามนิ้วมือเล็ก ใบหน้าห่างกันแค่คืบแต่ไม่มีใครรู้สึกอะไรเพราะไม่ได้คิดอะไรเกินเลยมากกว่ากัน
“น่าจะเป็นฟาร์มเล็กๆมากกว่า ไม่มีใครเอาสวนสัตว์ใหญ่ๆมาตั้งในที่แบบนี้หรอก เสียงดังน่าหนวกหูจะตายไป”
นัตสึมิร้องอ้อ เสียดายที่ไม่ใช่สวนสัตว์ใหญ่โตอย่างที่คิด เธอไม่เคยไป เลยนึกว่าการมาครั้งนี้เหมือนกับได้สองต่อ กินโทกิที่เห็นใบหน้าที่ฉายแววเสียดายขึ้นมาแวบนึงก็พอเข้าใจ มือหนาเลื่อนขึ้นมาลูบหัวทุย ยีเรือนผมสีดำด้วยความเอ็นดู
“เดี๋ยวก็ได้ไปน่า ไม่ต้องเสียดายอะไรขนาดนั้น”
“เปล่าสักหน่อย แค่รู้สึกว่า…”
นัตสึมิเงียบไป ไม่รู้จะพูดอะไรต่อจากนั้น กินโทกิยกรอยยิ้มจาง เราโตมาด้วยกันทำไมจะไม่รู้ว่าความคิดของเด็กคนนี้เป็นไง กินโทกิลูบหัวแผ่วเบา ประกายความอ่อนโยนมอบให้คนเด็กกว่าอย่างปิดไม่มิด
ชินปาจิเหงื่อตก ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับสถานการณ์ตรงหน้า เหล่มองคางูระที่อ้าปากหาวด้วยความเบื่อหน่ายแล้วค่อยมามองโอคิตะที่ทำเหมือนจะกินคนเข้าไปได้
สรุปตอนนี้มันปูมาให้ใครเนี่ย
______________________
ลงนิดหน่อย เรียกน้ำย่อย
5555555555555555555555555555
คุณกินบอกครึ่งแรกขอก่อน ครึ่งหลังเดี๋ยวขัดขวางต่อ
555555555555555555555555555555565555555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สนุกมาก ไรท์อัพวันละเลยได้มั้ยคะ😢
รอค่ะ สนุกมาก ❤❤แต่จะมีคามุอิเพิ่มเข้ามาด้วยมั้ยนะ??
โอ๊ยยย~ รักไรท์ที่สุดเลย อัพบ่อยๆนะคะ อยากอ่านมากจริงๆ ชอบมาก❤❤❤