คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : คนแมน 3 : แมนๆ
มองสำรวจรอบๆห้องถึงได้รู้ว่านี่คือห้องของตัวเอง
มาที่นี่ได้ไง? นึกสงสัยได้แปบเดียวก็ร้องอ้อที่นึกขึ้นได้ว่าอยู่ๆตัวเองก็หน้ามืดขึ้นมากระทันหัน ต่อหน้าคนที่ชอบด้วยไงประเด็น จินฮวานถอนหายใจ หลุบตาลงตํ่าแต่พอเห็นใบหน้าหลับปุ่ยของบ็อบบี้ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
มีแต่ผู้ชายคนนี้คนเดียวนี่แหละที่เป็นห่วงเขา
“จินฮวานฟื้นแล้ว!!”เจ้าของชื่อสะดุ้ง หันไปมองประตูห้องก็เห็นแจบอมยืนยิ้มร่าอยู่ตรงหน้าประตูห้องพร้อมชามข้าวต้ม เสียงของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูดังลั่นพอที่จะปลุกคนที่หลับข้างๆให้ตื่นได้ บ็อบบี้ขยี้ตา หน้ามุ่ย มองแจบอมด้วยสายตาที่ค่อนข้างหงุดหงิดกลับการรบกวนเวลานอนของตัวเอง
แหงล่ะ บ็อบบี้ไม่ชอบให้ใครมารบกวนเวลาตัวเองนอนที่สุด
“เสียงดังถึงข้างล่างเลยนะมึง”จินฮวานยิ้มกว้าง มองคนมาใหม่ที่เดินมาเขกหัวแจบอม จินยองยิ้มให้คนตัวเล็กแล้วเดินมายีหัวจินฮวานอย่างเอ็นดู“หลับเต็มอิ่มไหมฮึ หลับไปหนึ่งวันเต็มๆเลยนะรู้รึเปล่า?”
จินฮวานส่ายหัวดิก
“เด็กเอ้ย”จินยองหลุดขำกับความน่ารักของคนที่นั่งอยู่บนเตียง ใบหน้าหวานหันไปมองแจบอมที่ยืนปากยื่นมองแฟนตัวเองยีหัวจินฮวานด้วยความอิจฉาปนน้อยใจ
งี้ไง กับเพื่อนทำเป็นดูแมน ยีหัวยีนั้น ทีเขาล่ะแทบจะใช้ตีนสกิด
/ความในใจของอิมแจบอม
“ยืนทำหน้าโง่อยู่ได้ เอาข้าวมาให้จินกินสิ”
นั้นไง พูดยังไม่ทันขาดคำ ใช้เขาเยี่ยงทาสอีกละ /ยิ้มทั้งนํ้าตา
“แจบอม”
จ้า เมียจ๋าว่าไงผัวจ๋าว่างั้นจ้าาา
แจบอมแทบจะคลานเข่าวางชามข้าวต้มให้จินฮวานบนเตียงเล็ก สองมือประสานกันบนหน้าตัก ยืนข้างเมียอันเคารพรักแล้วทำหน้าสงบเสงียมประหนึ่งไม่เคยตบตีทำร้ายใครรักสัตว์มีเมตตาทำบุญทำวัดทำวาทุกวัน
ต่อหน้าเมีย ผัวจะไม่ขัดขืนอะไรจ๊ะ ._.
/ความอิมแจบอม
“แล้วนี่ตายังไม่สร่างพอเหรอ ต้องเอานํ้าสาดไหมถึงจะลุกขึ้นออกไปได้เนี่ย เกะกะจริง”
เหมือนมีก้อนสะอึกจุกที่คอของคนเพิ่งตื่น บ็อบบี้จำใจต้องลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นอนเฝ้าจินฮวานไปยืนข้างแจบอม ใบหน้าง่วงชุนมีความงงงวยปิดไม่มิด หันมามองผัวของคนหน้าหวานปากร้ายที่ยิ้มแหยก็ได้แต่ทำหน้าหน่าย
มันไปรักกับคนแบบนี้ได้ไงเนี่ย -_-
หลังมือของคนหน้าหวานแปะลงที่หน้าผากของจินฮวาน คนตัวเล็กกลืนข้าวต้มลงคอแล้วมองเจ้าของมือด้วยสายตาสงสัยไม่แพ้กับสองคนข้างหลังเหมือนกัน จินยองผลิกมือไปมา วางมือลงที่ต้อคอของจินฮวานบ้าง แก้มบ้างก่อนที่จะจบลงที่เอาหน้าผากชนกับจินฮวานจนแจบอมทำตาโตประหนึ่งมึงทำเหี้ยไร
“อื้มม.. ตัวอุ่นดี ช่วงนี้ก็นอนเยอะๆหน่อยนะเดี๋ยวหน้ามืดอีก”จินฮวานพยักหน้าแล้วตักข้าวต้มคำโตเข้าปากไป แก้มทั้งสองข้างยังคงทำหน้าเคี้ยวตุ้ยๆเหมือนเด็กอนุบาลไม่หยุด มันอดไม่ได้ที่จินยองจะยีหัวอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดูอีกรอบ
“พอเลยๆ ยีอยู่นั้นแหละ ถ้าอยากมากนักมาทำกับฉันนี่”คนที่ยืนอยู่มานานสุดท้ายความหึงหวงก็เข้าครอบงำ แจบอมดึงมือสวยออกจากหัวของจินฮวานแล้วทำหน้าดุใส่จินยองแต่อีกฝ่ายกลับทำหน้านิ่งแล้วตอบกลับมาด้วยประโยคที่เจ็บจี๊ด
“มึงไม่น่ารักเหมือนจินกูไม่ยีหัวให้เสียเวลาหรอก”
ทำกับผัวได้ลงคอ /ทรุด
“นี่”
บ็อบบี้หันมามองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนเตียง กลืนขนมลงคอก่อนที่จะเลิกคิ้วมองจินฮวานที่หันมามองเขา
“แล้วอยากไปไหนไหมล่ะ”
คำพูดของเพื่อนสนิทตัวโตทำเอาจินฮวานยิ้มกว้าง คนตัวเล็กรีบหันไปมองหน้าบ็อบบี้ตรงๆทันที ท่าทางของจินฮวานช่างดูน่ารักน่าชั่งไม่น้อยในสายตาของคิมจีวอนคนนี้ แต่คำพูดที่ออกมาจากปากของเพื่อนตัวเล็กกลับทิ่มแทงใจคนตัวโตกว่า มันบีบรัดแน่นจนแทบแตกสลาย
แต่ถึงอย่างนั้นบ็อบบี้ก็ทำได้เพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น
“ไปหาฮันบินได้ปะ”
ก็รู้ว่าชอบกันมาก.. แต่ทำไมต้องถามหากันตลอดด้วยล่ะ
“ได้ดิ ถ้านายอยากไปก็ไปได้ ฉันไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
ทั้งๆที่ใจมันอยากจะรั้งไว้แทบใจจะขาด
“จริงเหรอ! งั้นไปกัน”จินฮวานดี๊ด๊า รีบลุกขึ้นไปหยิบเสื้อผ้าแล้วหายเข้าไปในห้องนํ้าทันที บ็อบบี้ยังคงยิ้มไล่ตามแผ่นหลงเล็กจนสุดสายตา พอเห็นประตูห้องนํ้าปิดลง ขาทั้งสองมันก็อ่อนแรงขึ้นมาซะเฉยๆ มือหนายกขึ้นมาก่ายหน้าผาก
ทำดีมากแค่ไหน เขาก็ยังแพ้คนในใจจินฮวานเสมอ ทุกเวลาที่จินฮวานเอาแต่เรียกชื่อฮันบินหัวใจบ็อบบี้มันเหมือนจะแหลกสลายคามือที่มองไม่เห็นเสมอ อยากจะโผล่พูดออกไปว่าไม่ให้ไปนะ ห้ามไปหามันนะ อยู่กับฉันเถอะ ปากมันก็ไม่ให้ความร่วมมือเลยสักนิด พูดออกไปก็ได้แต่คำว่า อือ ไปกันเถอะ แค่นี้เท่านั้น..
บ็อบบี้เองก็อยากที่จะเป็นที่หนึ่งในใจจินฮวานบ้างเท่านั้น..
ทำไมจินฮวานถึงไม่หันมามองเขาที่อยู่ข้างหลังบ้างล่ะ.. ถ้ามือมันเอื้อมไปหาฮันบินไม่ถึงก็หันมาจับมือเขาก็ได้..
มือเขา อกเขา ไหล่เขา อ้อมกอดเขา หัวใจของเขาเป็นของจินฮวานหมดแล้ว
เป็นของคนที่ไม่เคยหันมามองเขาเลย..
น่าเศร้าเนอะ
ทำไมเขาถึงเป็นได้แค่ตัวสำรองนะ ทำไมถึงเป็นได้แค่คนที่โอบกอดจินฮวานได้ในฐานะแค่เพื่อน ทำไมนะทำไม...
ตึง!
บ็อบบี้หลุดจากภวังค์ รีบลุกขึ้นหันไปตามเสียงที่ดังเล็ดลอดออกมาจากในห้องนํ้า ไม่รอช้า หัวสมองมันก็สั่งการให้ขาทั้งสองข้างวิ่งเข้าไปในห้องนํ้าทันที ในใจมันภาวนาให้คนตัวเล็กที่เพิ่งเข้าไปไม่เป็นอะไรมากเกินไปมากกว่าเจ้าตัวเผลอทำของตกเท่านั้น
แต่พอเปิดประตูเข้าไปแล้วเห็นร่างเล็กคุ้นตานอนสลบคาพื้นอยู่ใจมันก็แหลกสลายมากกว่าตอนที่เจ้าตัวบอกจะไปหาฮันบิน
อ้อมแขนหนาประคับประคองร่างเล็กเข้ามาอยู่ในอก บ็อบบี้เรียกชื่อจินฮวานซํ้าๆ นํ้าเสียงที่ใช้เรียกมันตระกุกตระกักจนไม่ใช่ตัวเขาเอง ไม่รู้เป็นเพราะอะไร วิสัยทัศน์ตรงหน้าเขาถึงได้เบลอไปหมด รู้ตัวอีกทีหยดนํ้าสีใสก็หล่นกระทบแก้มเล็กของคนที่นอนอยู่ในอ้อมอก
“อาการกำเริบ?”
บ็อบบี้พยักหน้ารับ ก้มมองจินฮวานนี่นอนนิ่งอยู่บนเตียง จินยองวางมือที่ไหล่ของเขาแล้วลูบไปมาเหมือนเป็นการปลอบประโลม เห็นหน้าคนตัวเล็กที่นอนซ่มอยู่บนเตียงแล้วมันก็อดไม่ได้ที่จะส่งมือไปลูบเรือนผมของจินฮวานเบาๆ
“เดี๋ยวจินก็ฟื้น”
ยิ่งได้ยินคำบอกเล่าของจินยองชายหนุ่มก็เม้มปากแน่น มือหนากำเข้าหากันแน่น ไม่รู้ว่าควรจะวางไว้ตรงไหนแล้ว สมองของบ็อบบี้ตอนนี้มันว่างเปล่าไปหมด
“แล้วถ้าจินฮวานไม่ฟื้นขึ้นมาล่ะ..”
จินฮวานมีโรค โรคประจำตัวที่รักษาไม่ได้ มีอาการหน้ามืดทุกครั้ง มักดับวูบตลอดเวลา เดาทางไม่ได้ว่าอีกคนจะวูบตอนไหนและหลับนานมากเท่าไร มากสุด.. ที่โรคนี้กำเริบแล้วร้ายแรงสุดๆจินฮวานหลับยาวไปถึงสองเดือนเต็มๆ ข้าวปลาก็ไม่ได้กินนอกจากต้องเจาะนํ้าเกลือให้เป็นประจำ
พอฟื้นขึ้นมาก็เป็นเขาที่ดีใจโลดเต้น พุ่งไปกอดอีกคนด้วยความคิดถึง หวังว่าอะไรมันจะเหมือนเดิมแต่มันกลับตรงกันข้าม วันนั้น.. เหมือนเขาถูกฆ่าแล้วตายทั้งเป็นด้วยนํ้ามือของคนที่มองไม่เห็น
จินฮวานหันมามองหน้าเขาด้วยสายตางุนงงแล้วถามออกมาด้วยนํ้าเสียงที่เหมือนจะกระซิบ แต่เพราะตอนนั้นมีแค่เขากับจินฮวานสองคน คำพูดของคนตัวเล็กเลยดังสะท้อนไปทั่ว
‘ เรารู้จักกันด้วยเหรอ? ’
เจ็บไม่น้อยเลยล่ะ..
“มันจะไม่มีทางเกิดขึ้น”จินยองพูดเสียงกระซิบ บีบไหล่หนาให้เพื่อนหนุ่มผ่อนคลายลงแต่มันไม่ได้ช่วยอะไรบ็อบบี้เลยสักนิด“พอจินฟื้นขึ้นมา เขาต้องจำมึงได้”
“แน่ใจได้แค่ไหนกันเชียว”บ็อบบี้นั่งลงกับเก้าอี้เยี่ยมผู้ป่วย ขาทั้งสองมันไม่มีแรงแม้แต่จะขยับเขยื้อน มือหนาสั่นจนควบคุมไม่อยู่“ถ้ามันเป็นแบบนั้นอีกกูจะทำยังไงดีวะ จินยอง”
“กูกลัว..”
“กลัวว่าจินฮวานที่กูรู้จักจะไม่เหมือนเดิม”
“กลัวว่าเขาจะระแวงกูเหมือนคราวนั้น”
“กลัวว่าเขาจะกลายเป็นคนอื่นที่กูไม่รู้จัก”
เด็กหนุ่มมองลอดผ่านบานประตูห้องผู้ป่วยของโรงพยาบาล ดวงตาคมมองไปยังคนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ไม่รู้ว่าตอนนี้ควรรู้สึกยังไงดี ข้างในมันหนึบๆบีบกันแน่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มองคนที่ทำตัวตามติดเขามาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาที่นอนเป็นเจ้าชายนินทราก็ได้แต่บังคับให้ทำหน้านิ่งตามฉบับแบบคิมฮันบิน
ทั้งๆที่ข้างในมันเต้นลงช้าๆ..
จะบอกว่าเป็นห่วงไหม เขาไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ หลังจากที่เห็นคนตัวเล็กทรุดไปต่อหน้าต่อตาร่างกายมันก็เข้าไปรับร่างจินฮวานโดยอัตโนมัติ แต่หลังจากนั้นเพื่อนร่างโตของคนตัวเล็กก็อุ้มจินฮวานไปที่ไหนสักแห่ง.. ที่เขาไม่ได้ตามไป
และตั้งแต่วันนั้น เขาก็ไม่ได้เจอกับคนตัวเล็กอีกเลย
ไม่มีใบหน้าน่ารักที่ชอบพองแก้ม ทำท่าเขินอายที่อยู่ต่อหน้าเขา
ไม่มีเสียงใสที่คอยกรอกหูเป็นประจำว่าจะอยู่เป็นเพื่อน
ไม่มีคนตัวเล็กที่คอยมาดักรออยู่ที่หน้าบ้านและหน้าโรงเรียน
ไม่มีข้อความจากคิมจินฮวานที่คอยบอกฝันดีตลอด
ไม่มี...
จนมาถึงวันนี้ ยองแจกับยูคยอมวิ่งมาบอกเขาว่าจินฮวานเข้าโรงพยาบาล เหมือนทุกอย่างมันหยุดนิ่งและถูกใครสักคนควบคุมร่างกายให้ก้าวขาและวิ่งไปหาจุดมุ่งหมายที่อยู่ในหัว สิ่งเดียวที่ฮันบินคิดคือเขาต้องไปหาจินฮวานให้ได้
และพอเป็นแบบนี้เขาถึงได้รู้ใจตัวเอง..
รู้ว่าเขาเป็นห่วงคนตัวเล็กมากแค่ไหน
พอเห็นประตูผู้ป่วยที่เขียนชื่อของคนที่คุ้นเคยก็อยากจะผลักประตูเข้าไปหาแล้ววิ่งไปเกาะราวเตียงเหมือนในหนังที่พระเอกชอบทำตอนที่นางเอกป่วยแต่ความเป็นจริงเขากลับทำได้แค่เปิดแง้มประตูออกแล้วมองคนสองคนจูบกันอย่างเงียบๆ
ใช่.. เขาเห็น ใครสักคนที่กำลังโน้มตัวลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากของรุ่นพี่ตัวเล็กที่ทำเขาหัวหมุนอยู่ในตอนนี้
นั้นคือสาเหตุที่ทำคิมฮันบินคนนี้ไม่กล้าที่จะเยี่ยงกายเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยของจินฮวาน
เขารู้ดีว่าเพื่อนของจินฮวานที่ชื่อบ็อบบี้แอบชอบคนตัวเล็กที่ตามจีบเขา เพราะรู้ไงถึงได้ทำเป็นไม่รู้สึกอะไรเวลาคนตัวเล็กทำตัวน่ารักใส่ ทำเป็นตีหน้านิ่ง มองอีกคนด้วยสายตาเมินเฉย ทั้งๆที่ในใจแม่งอยากจะดึงจินฮวานเข้ามากอดให้สมกับความหมั่นเขี้ยวในใจ
แต่นั้นแหละ..
ก็เพราะว่าเป็นคิมฮันบินคนขี้เก๊ก.. เขาเลยทำเพียงแค่เดินผ่านคนตัวเล็กไปเท่านั้น..
“บ็อบบี้ กลับได้แล้ว”ฮันบินวิ่งไปแอบหลังกำแพงตรงทางเลี้ยว เหล่มองคนตัวบางหน้าหวานที่เดินไปเปิดประตูห้องผู้ป่วยของจินฮวานแล้วตระโกนเรียกคนที่อยู่ในนั้น ไม่สิ มันไม่เชิงตระโกนเรียก ก็แค่แถวนี้มันเงียบเกินไป แค่คนคนนึงพูดออกมาก็อาจจะได้ยินกันทุกคนในบริเวณนี้
ฮันบินมองร่างหนาของบ็อบบี้ที่เดินออกจากห้องไปก่อนที่จะพาตัวเองเดินกลับไปที่หน้าห้องผู้ป่วย ดวงตาคมมองเข้าไปในห้องก่อนที่จะตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่นอนอยู่โดยไม่ลืมที่จะปิดประตูตามท้าย
“...”
เขาไม่พูดอะไร ทำเพียงแค่ส่งมือตัวเองไปลูบเรือนผมสีดำที่เป็นไปตามธรรมชาติของจินฮวานที่ครั้งนึงเขาเคยวางคางไว้ตอนที่กอดปลอบเจ้าตัว ฮันบินปล่อยตัวปล่อยใจให้ทำตามใจตัวเองและเป็นไปตามคาดมือของเขามันลูบเข้าที่แก้มเล็กเบาๆ
มองริมฝีปากเล็กที่เผลยออกก็ได้แต่คิดถึงภาพเมื่อกี้ ก็เพราะเป็นแบบนี้ล่ะมั้งผู้ชายคนนั้นถึงได้ขัดใจตัวเองมาแอบจูบจินฮวานแบบนั้นและเพราะเป็นแบบนั้นเขาถึงควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป
ฮันบินก้มจูบคนที่นอนอยู่ ริมฝีปากหนาทาบแตะลงที่ริมฝีปากเล็กเบาๆ มองสำรวจใบหน้าของจินฮวานที่หลับตาเพริ้มไม่รู้สึกตัวในตอนนี้ก่อนที่จะหลับตาลง ปล่อยใจและความต้องการผ่านรสจูบครั้งนี้ ริมฝีปากหนาทาบลงทันที กดจูบหนักๆและดูดดุนริมฝีปากเล็กจนบวมเจ่อ เหมือนจะลบล้างรอยจูบของบ็อบบี้ที่เพิ่งประทับไปเมื่อกี้
“จำเอาไว้นะ..”
เสียงแหบพร่าที่เอ่ยออกมาเหมือนไม่ใช่ของคิมฮันบิน
“ว่าพี่เป็นของผมคนเดียว”
ไม่รู้ว่าอีกคนจะได้ยินรึเปล่าแต่เขาก็จะพูด พูดในสิ่งที่เขาคิด
“ไม่ว่าจะเป็นตา หู จมูก ปากและตัวของพี่ ทุกอย่างที่เป็นของพี่คือของผม”
และครั้งนี้เขาจะทำตามใจตัวเองจะไม่สนใครหน้าไหนอีกต่อไป
“เพราะผมหวงของผม ผมชอบพี่นะ”
“มองตาหมอนะครับ”คนตัวเล็กทำตามคำสั่งของผู้ชายที่ใส่ชุดกาวน์สีขาวตรงหน้า มองตาคู่สวยภายใต้กรอบแว่น
ปล่อยผ่านให้แสงไฟจากไฟฉายกระทบตาเขาไป พออีกฝ่ายลดไฟสายลงก็ปรี่ตาหรี่มองอีกคน เพราะสภาพการปรับตัวของจินฮวานยังไม่ลงตัวอะไร
การมองเห็นของเขาในตอนนี้เลยเห็นแค่มัวๆเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน
ก่อนที่จะค่อยๆชัดขึ้นจนเป็นปกติ
“แล้วจำญาติได้ไหมครับ”คุณหมอหน้าหล่อหันมาถามเขาหลังจากที่จดอะไรยิกๆลงกระดานถือสีดำ จิ นฮวานหันไปมองบุคคลสามคนที่ยืนเรียงเป็นแนวระนาบอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย
จินยองเม้มปากแน่น แจบอมทำหน้าเครียด บ็อบบี้.. ไม่มีแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองเขา
“จำได้ครับ”
จินฮวานพยักหน้า
ยิ้มตอบอีกฝ่ายตามมารยาท ไม่รู้ว่าสามคนที่ยืนแข็งทื่อในตอนแรกจะแสดงท่าทีดีใจโอเวอร์ออกมาทำไม
ก็แค่เขาจำทุกคนได้มัน่าดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ? ความสงสัยทั้งหมดมันถูกกส่งออกมาจากสีหน้าของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนเตียง
จินฮวานเลิกคิ้วด้วยความงุนงง
“งั้นแสดงว่าทุกอย่างปกติดี
เดี๋ยวต้องให้คนไข้นอนพักฟื้นสักวันสองวันนะครับ”คุณหมอหันไปบอกพวกแจบอม
สามหน่อพยักหน้าหงึกหงัก หลังพ้นคุณหมอหน้าหล่อออกไปบ็อบบี้คือคนแรกที่วิ่งพรวดเข้ามากอดเขาซะเต็มรัก
“ฉันคิดว่านายจะจำฉันไม่ได้แล้ว”
จินฮวานกระพริบตาปริบ
มองคนตัวหนาที่กอดรัดเขาให้จมอยู่ในอก มือทั้งสองข้างมันเผลอโอบรัดปลอบร่างสูงโดยอัตโนมัติ
เป็นครั้งแรกที่เห็นเพื่อนสนิทคนนี้เป็นแบบนี้ บ็อบบี้ไม่คิดที่จะเงยหน้าจากซอกไหล่ของคนตัวเล็กที่กอดเขางงๆในตอนนี้เลย
ยิ่งทำแบบนี้จินฮวานก็ยิ่งงง
พอหันไปมองขอคำอธิบายจากจินยองกับแจบอมคำตอบที่ได้มามีแค่
“เราควรไปว่ะเมีย
ปล่อยให้เขาจู๋จี๋กันไปละกันเนอะ”
อ้าว.. ไหงงั้น
“แล้วทำไมฉันจะจำนายไม่ได้?”จินฮวานลูบหลังเพื่อนสนิท ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่าถึงได้รู้สึกถึงแรงสั่นๆจากตัวของบ็อบบี้
เขาอาจจะคิดไปเองล่ะมั้ง เพราะอยู่ๆแรงสั่นที่ว่าก็หายไป
“กะ
ก็.. นายหลับไปนานมากอ่ะ”บ็อบบี้พูดเสียงแผ่วแทบไม่ได้ยิน แต่เพราะหน้าของอีกคนอยู่ที่ไหล่ของเขา
จินฮวานจึงได้ยินเต็มสองหู“ฉันก็นึกว่า.. เออ ช่างมันเถอะ”
“ห๊ะ??”อยู่ๆก็ตัดบทออกมาเห็นๆ คนที่รอฟังอยู่ก็ถึงกับงง บ็อบบี้ถอนกอด ก้มมองคนตัวเล็กกว่าที่เงยหน้ามองเขา
มือหนาหยาบกร้านตามฉบับผู้ชายถูกยกขึ้นมาแนบแก้มใส ไม่รู้เพราะอะไรคนตรงหน้าถึงได้ทำกับเขาแบบนี้
“ฉันชอบ..”
ก๊อก
จินฮวานหันไปมองคนที่มาใหม่ สิ่งที่บ็อบบี้กำลังพูดเมื่อกี้ถูกตัดจบเพราะเสียงเคาะประตูห้อง อยู่ๆหัวใจมันก็เต้นรัวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ยิ่งเห็นคนหน้านิ่งเดินมาหาเขาความรู้สึกที่เรียกว่าดีสุดๆก็ปะทุขึ้นมา
อะไร อะไรน่ะ อะไร ฮันบินมาเยี่ยมเขาเหรอ? จริงเหรอ
หัวสมองมันวนเวียนอยู่แต่คำพวกนี้ไปหมด ตาทั้งสองข้างมันโฟกัสอยู่ที่เด็กหนุ่มหน้านิ่งที่เดินมาทิ้งกระเป๋าตรง เก้าอี้เยี่ยมผู้ป่วย ฮันบินหันมามองหน้าบ็อบบี้แล้วลากสายตามาที่มือหนาที่กุมแก้มเขาอยู่ พอเห็นอย่างนั้นจินฮวานก็เอามือบ็อบบี้ออกโดยอัตโนมัติ
โดยไม่รู้ว่าคนที่ถูกทำอย่างนั้นหันมามองเขาด้วยสายตาแบบไหน
“มีคนมาเยี่ยมนาย ฉันไปก่อนนะเดี๋ยวแวะมาหาตอนเย็น”บ็อบ บี้หันมาบอกคนตัวเล็กแล้วเดินตรงดิ่งไปยังประตูทันที ไม่คิดจะหันมาโบกมือให้จินฮวานที่กำลังยกมือขึ้นมาโบกเหมือนทุกที แต่พอก้าวยังไม่พ้นจากเส้นของประตู นํ้าเสียงนิ่งๆตามแบบฉบับคิมฮันบินก็ดังขึ้นให้ร่างกายของคนตัวโตหยุดไปทุก ส่วน
“ไม่ต้องแวะมา คืนนี้กูเฝ้าคนคนของกูเอง”
เป็นอีกครั้งที่ก้อนเนื้อด้านซ้ายมันเต้นไม่เป็นจังหวะ มันอึกเหิมเหมือนมีคนมารัวตีกลองอยู่ข้าง สิ่งที่ได้ยินเมื่อกี้ถ้าเขาไม่ได้หูฝาดฮันบินบอกว่าเขาเป็นของฮันบินใช่ ไหม? ให้ตายเถอะ แค่คิดแบบนั้นหน้ามันร้อนขึ้นมาซะเฉยๆ
บ็อบบี้เดินออกไปแล้ว ตอนนี้มีแค่ฮันบินกับเขาแค่สองคนในห้องนี้ จินฮวานก้มหน้างุด มองมือตัวเองที่จับกันอยู่บนผ้าห่มสีขาวของโรงพยาบาล ปล่อยให้เสียงหัวใจที่เต้นโครมครามดังต่อไป มันไม่คิดจะหยุดหรือช้าลงเลยสักนิด คนตัวเล็กเม้มปากกลัวว่าเสียงก้อนเนื้อตัวเองเต้นมันจะดังไปสร้างความรำคาญ ให้แก่ร่างสูง
“เบื่อ”
คำบอกเล่าของฮันบินทำจินฮวานเม้มปากแน่นขึ้นไปอีก แค่นี้ตัวเองก็ทำอีกคนเบื่อแล้วแล้วทีนี้เขาควรจะทำตัวยังไงต่อไปดี? ทำตัวไม่น่าเบื่อ ไม่ให้ฮันบินรำคาญเขา..
หัวสมองมันคิดสารพัดแต่อยู่ๆมันก็ผุดหายไปเพราะคำประโยคที่ดูเชิงชวนของอีก คนที่หันมามองหน้าเขา
“ไปเดินเล่นกัน”
เหมือนหัวใจรู้สึกพองโตอีกครั้ง พองจนจินฮวานรู้สึกว่าตัวเองสามารถลอยขึ้นมาได้
จินฮวานไม่ได้ตอบอะไรฮันบินเพียงแค่อมยิ้มแล้วพยักหน้าน้อยๆในขณะที่อีกคนก็ เอือมมือมาจับเขาให้ลุกขึ้น สายนํ้าเกลือที่เชื่อมกับหลังมืออีกข้างถูกคนตัวโตยกถุงนํ้าเกลือห้อยติดกับ เสาเก้าอี้เข็ญ เป็นอีกครั้งที่จินฮวานรู้สึกอบอุ่นอย่างไม่ถูก หัวใจตอนนี้มันชุ่มฉํ่าเหมือนดอกไม้ที่ได้รับการดูแล ตาทั้งสองข้างมองตรงไปยังภาพข้างหน้าที่ค่อยๆเข้าไปใกล้ๆ ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าเขาจะถูกฮันบินเข็ญรถให้แบบนี้
แถมเจ้าตัวยังชวนไปเดินเล่นด้วยกันอีก
“เบื่อไหม”ฮันบินหยุดเข็ญรถหลังจากที่พาเขามาถึงสวนหย่อมของโรงพยาบาล จินฮวานไม่รู้ว่าอีกฝ่ายสื่อว่าอะไรแต่ก็เลือกที่จะส่ายหัวไว้ก่อน ถ้าอีกคนสื่อว่าเบื่อเขาที่ทำตัวเฉยชาแบบนี้ไหม จินฮวานตอบได้เลยว่าไม่ เพราะเขาชอบฮันบิน ชอบทุกอย่างที่เป็นฮันบิน ไม่ว่าอีกคนจะนิสัยเป็นแบบไหนก็จะชอบ
ก็เพราะว่าชอบไปแล้วจะให้หยุดง่ายๆก็ไม่ใช่
“เหนื่อยไหม”
จินฮวานทำหน้างงกับสิ่งที่ฮันบินพูด เด็กหนุ่มเดินอ้อมมาหาเขา มือหนาตะบบเข้าที่เรือนผมดกของคนตัวเล็กที่นั่งหน้างงอยู่บนเบาะรถเข็ญ
“ไม่ต้องวิ่งตามผมแล้ว”
ยิ่งได้ยินคำพูดที่แทนตัวเองว่าผมก็ยิ่งรู้สึกงงเข้าไปอีก จินฮวานตอนนี้ดูสนใจไม่น้อยว่าฮันบินกำลังจะพูดอะไร
ทำไมถึงได้แทนตัวเองได้สุภาพแบบนี้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนเจ้าตัวแทบไม่นับถือเขาเลย
และเหมือนจะมีอะไรสักอย่างมาทำให้หัวใจเขาพองตัวเข้าไปอีก
“เพราะผมจะเป็นคนไล่ตามพี่เอง”
“จะเป็นคนวิ่งตามพี่”
“พี่แค่ยืนอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร”
“ปล่อยให้ผมวิ่งมาหาพี่เอง”
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น..”มือหนาเลื่อนจากเรือนผมสีดำมากุมมือของคนตัวเล็ก
ที่อยู่บนตัก ฮันบินนั่งยองๆอยู่ตรงหน้า สื่อสายตาที่มีความหมายบางอย่างให้คนตัวเล็ก“ผมจะไม่ปล่อยมือพี่”
“ถ้าพี่ยังรู้สึกดีกับผมอยู่”
“ให้ผมเป็นคนดูแลพี่นะ”
“รวมถึงหัวใจพี่ด้วย”
จบตอน เย้ จบแล้วววววว
แต่งเองฟินเอง ฮื่อออ//-//
อย่าลืมติดสกีนแท็ค #พี่จินโครตแมน และเม้นนะแจ้ะ
ความคิดเห็น