คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Let's get married!!...แต่งงานกัน(สักที)เห๊อะ!! P.3 [End]
ในหัวของฮีชอลตอนนี้ว่างเปล่า ไม่รู้ว่าตัวเองว่ามาถึงไหนแล้ว ไม่สนว่าจะวิ่งชนใครบ้าง รู้แต่ว่าต้องวิ่ง วิ่งไปให้ไกลจากความเจ็บปวดนี้ให้เร็วที่สุด
“อ๊ะ!” ขาเล็กของฮีชอลเริ่มอ่อนแรง ส่งผลให้เสียการทรงตัว ร่างบางล้มลงแล้วกลิ้งหลุนๆไปกับพื้น ร่างบางหอบหายใจหนักๆเพราะความเหนื่อย ฮีชอลหลับตาพลางเปิดโสตประสาทการได้ยินให้มากขึ้น
เสียงน้ำ...
ร่างบางขมวดคิ้วก่อนจะเปิดเปลือกตาและยันตัวขึ้นมา ตากลมมองไปรอบๆพลางใช้มือบางปัดกางเกงไปมา ภาพเบื้องหน้าคือคลองน้ำยาวประมาณ 5 เมตรกว่า ที่สะพานมีไฟประดับประดาอย่างสวยงามโดยรอบ รับกับท้องฟ้าสีน้ำเงินในตอนค่ำ คลองนี้เคยเป็นคลองเน่าเสียและตื้นเขิน
นี่เรา...วิ่งมาไกลถึงคลองชองเกชอนเลยหรอเนี่ย
ไม่อยากเชื่อเลยแฮะ...ถ้าเขาไม่สะดุดล้มก่อน เขาคงจะตกน้ำไปแล้ว
“ฮีช๊อลลลลลล!!! หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ” เสียงตะโกนของฮันคยองที่วิ่งตามมาดังลั่นจนคนแถวนั้นมองกันเต็ม บางคนถึงกับสะดุ้งสุดตัวตอนได้ยินเลยด้วยซ้ำ ฮีชอลหันไปมองแล้วเตรียมจะวิ่งหนีแต่ร่างสูงเองก็วิ่งมาคว้าแขนร่างบางไว้
“ปล่อยนะ!!” ฮีชอลดิ้นพราดๆมือข้างที่ว่างอยู่ก็ทำร้ายฮันคยองสารพัด ทั้งจิก ตี ตบ จนร่างสูงต้องรวบตัวมาไว้ในอ้อมแขน
“นี่!! หยุดทำตัวงี่เง่าไร้สาระแบบนี้ได้ไหม! หัดฟังคนอื่นเขาบ้าง!” ฮันคยองตะคอกเสียงแข็งเป็นสัญญานว่าเค้าเองก็เริ่มไม่พอใจบ้างแล้วนะ แต่ร่างบางก็ยังไม่หยุดดิ้น แถมยังทำร้ายฮันคยองรุนแรงขึ้นจนร่างสูงเองทนไม่ไหว จึงเป็นฝ่ายยอมแพ้ ปล่อยตัวฮีชอลจากอ้อมแขน
แต่อย่างที่พูดไว้ตอนต้นว่า...
ฮีชอลยืนอยู่ตรงที่ๆสามารถจะตกน้ำได้ง่ายๆ
โครม!!!
“ฮีชอล!!!” ฮันคยองเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง เพราะทันทีที่เค้าปล่อยฮีชอล ร่างบางก็เซตกลงไปในคลองในตำนานนี่ซะแล้ว
ฮีชอลที่เปียกปอนไปทั้งตัวรู้สึกร้อนฉ่าที่ใบหน้า อารมณ์มันปนเปกันไปหมดทั้งโกรธทั้งอายจนตัวสั่น ริมฝีปากบางเม้มแน่น ดวงตากลมส่งกระแสอาฆาตไปให้ฮันคยองที่ยืนเงอะๆงะๆอยู่บนบก ฮันคยองยิ่งรู้สึกหน้าเสียไปใหญ่เมื่อสายตาที่ฮีชอลส่งมา มีน้ำใสๆคลออยู่เต็มเบ้า...
“ฮีชอล...ฉัน”
“เออ!! ชั้นมันงี่เง่า ชั้นมันไร้สาระ แล้วนายจะมายุ่งกับชั้นทำไมล่ะ!!” ฮีชอลตะโกนกลับไปด้วยแรงทั้งหมดที่มีในตอนนี้ คนที่อยู่ข้างบนบกก็เริ่มให้ความสนใจแก่ทั้งคู่ ฮันคยองได้แต่ตอบเสียงอ่อย
“มันไม่ใช่อย่างงั้น...”
“นายน่ะ...แสนดีกับคนอื่นไปทั่ว กลัวคนอื่นจะเป็นอันตรายแต่ไม่เคยนึกถึงใจชั้นเลย ชั้นไม่เคยชอบที่นายไปยุ่งกับคนอื่น ชั้นหวงนายหึงนายแทบตายนายก็ยังไม่รู้”
“…”
“รู้ไหมชั้นดีใจแทบบ้า ที่นายขอชั้นแต่งงาน ดีใจจนอยากจะตะโกนออกมาดังๆ แต่ถ้าชั้นยอมง่ายๆ ในอนาคตชั้นก็อาจโดนทิ้งไปแบบง่ายๆก็ได้ ที่ตรงนั้น ที่โซลทาวเวอร์นั่น ถึงชั้นจะไม่ชอบมัน แต่ถ้านายขอชั้นแต่งงานชั้นก็ยินดีจะตอบตกลง แต่นายก็ไม่ทำ!!...ฮึก...ฮือ เพราะนายไปสนใจคนอื่นอยู่!!” ฮีชอลระบายความรู้สึกของตัวเองทั้งหมดไปให้ฮันคยอง คนรักที่แสนจะทึ่มของเค้า ใบหน้าหวานเปรอะไปด้วยน้ำตามากมาย ฮีชอลยกมือเปียกๆเย็นๆขึ้นมาปิดปากของตน พยายามกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเอง
ตลอดเวลาที่ฮีชอลกับฮันคยองคบกัน ร่างบางจะเป็นคนเข้มแข็งเสมอ ไม่เคยทำตัวให้ฮันคยองต้องเป็นห่วง ไม่เคยร้องไห้ให้เค้าเห็น เค้าไม่เคยไปรับไปส่งฮีชอลที่บ้านเพราะร่างบางบอกว่ามาเองได้ กลับเองได้ ไม่เคยป้อนขนมหรือทำอะไรแบบที่คู่รักเค้าทำกันเพราะร่างบางบอกว่าตัวเองมีมือมีเท้า เพราะอย่างนั้น ฮันคยองถึงได้เลือกฮีชอล เค้ามั่นใจมากว่าหากแต่งกันไปแล้วตัวเขาเป็นอะไรขึ้นมา ฮีชอลจะสามารถดูแลลูกดูแลทรัพย์สินของเขาต่อไปได้
และเพราะนิสัยแบบนี้ของฮีชอล...เลยทำให้เขาละเลยร่างบางด้วยสินะ
“ฮือ...” ฮีชอลสะอื้นหนัก น้ำตาพากันไหลออกมาหนักขึ้นเรื่อยๆ ฮันคยองตัดสินใจเดินลงคลองตามฮีชอลที่ตกลงไป ก่อนจะค่อยๆพยุงฮีชอลขึ้นมา แล้วกอดร่างบางที่ตัวเริ่มเย็นเสียแนบแน่น ไม่ได้สนว่ามันจะเปียกหรือสกปรก
“ขอโทษนะ...ชั้นขอโทษนะฮีชอล”
“..ฮึก จะลงมาทำไม น้ำมันเย็นนะ!! เดี๋ยวไม่สบาย!!”
“ไม่เป็นไรหรอก”ร่างหนาพูดยิ้มๆ แล้วล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ หยิบกล่องแหวนสีแดงออกมาอีกครั้ง
“ฉันไม่ใช่คนที่ดีที่สุดในชีวิตของนาย ไม่ได้เป็นเจ้าชายเลิศหรูมาจากไหน แต่ว่า ฉันเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่รักนายมากที่สุดในชีวิตและพร้อมทำที่จะทุกอย่างเพื่อให้นายดีใจนะนะ ขอโทษที่ชอบทำตัวให้นายไม่พอใจ”
“…”
“ ที่ตรงนี้ อาจจะไม่ใช่สถานที่ที่นายฝันไว้ แต่..ที่นี่คือที่ๆฉันจะขอให้นายใช้ชีวิตอยู่กับฉัน และรักกันไปจนแก
นะฮีชอล”
“…”
“ได้โปรด...แต่งงานกันฉันนะ” ฮันคยองพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ร่างหนาย่อขาลงคุกเข่า ทั้งๆที่ยังอยู่กลางสายน้ำเย็นๆที่ไหลผ่านกันทั้งคู่ แต่ดูเหมือนว่าความเย็นจะไม่ใช่อุปสรรคเสียแล้วสิ
เพราะถ้าฮันคยองปล่อยโอกาสนี้ไปอีกรอบ ฮีชอลต้องไม่ให้โอกาสอีกเขาแน่ๆ
“ว่าไง??”ร่างสูงถามย้ำอีกที
“อะ...อื้อ แต่งก็แต่ง จะ 30 แล้วเดี๋ยวขึ้นคาน!!” ฮีชอลตอบโดยไม่มองหน้าฮันคยอง ร่างบางตอนนี้ทั้งเขินทั้งอาย หน้าเน้อก็ร้อนผ่าวไปหมด
ฮันคยองยิ้มกว้างทั้งทีที่ได้ยิน รีบเอื้อมไปคว้ามือบางอันเย็นเฉียบของอีกคนมากุมไว้ แล้วค่อยๆบรรจงสวมแหวนเกลี้ยงเกลาให้ที่นิ้วนางข้างซ้าย แล้วยกขึ้นมาจุมพิตเบาๆ ท่ามกลางเสียงปรบมือ เสียงโห่ร้องและเสียงกรี๊ดด้วยความยินดีของเหล่าเกาหลีมุงที่ไม่รู้ว่าก่อตัวกันขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่
“ฉันรักนาย!! คิมฮีชอล!!! รักๆๆ!!!” ฮันคยองอุ้มฮีชอลขึ้นในท่าเจ้าหญิง วิ่งไปรอบๆ ราวกับจะแห่ขบวนอะไรสักอย่างและตะโกนบอกรักคนในอ้อมกอดเสียดังด้วยความดีใจอย่างที่สุดเหมือนอยากให้ฟ้าดินรับรู้
“ปล่อยนะฮันคยอง!! เดี๋ยวตก!! ปล๊อยยยย!! >///<”
+++++
แถมๆ
ระหว่างทางเดินกลับไปที่โซลทาวเวอร์...
“เฮ้ย!”ฮันคยองอุทาน เมื่อฮีชอลของเขาทำท่าจะล้ม ทั้งๆที่พื้นราบเรียบไม่มีสิ่งที่ทำให้สะดุดเลยแท้ๆ ร่างสูงรีบเอื้อมมือไปช้อนตัวคนรักเอาไว้ ก่อนที่จะเอาหน้าสวยๆไปวัดพื้น
“อะไรเนี่ย ฮีชอล??” ถามงงๆพลางมองหน้าคนที่ยิ้มแฉ่งอยู่ในอ้อมกอด
คนดีของเขาจะเล่นอะไร??
“ก็ลองทิ้งตัวดูไง จะได้รู้ว่าผู้ชายคนเนี้ย เค้า ’รับ’ ผิดชอบเราได้หรือเปล่า ^___^” ฮีชอลตอบแล้วยิ้มให้กว้างขึ้นไปอีก เห็นดังนั้นฮันคยองจะอดยิ้มตามไม่ได้
แลดูปัญญาอ่อน...แต่ฮันคยองช๊อบ~~ชอบ ^0^
“อย่าเล่นแบบนี้อีกนะ เดี๋ยวถ้าชั้นหัวใจวายตายไปแล้วใครจะดูแลนาย”
“บ้า!! >///<”
“ถึงจะบ้าแต่ก็รักนะคร๊าบบบ”
+++++
ในที่สุด ก็จบลงจนได้ *ปาดเหงื่อ*
ตอนนี้จบแปลกๆไปไหมเนี่ย??
ความคิดเห็น