คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Flower's Butterfly...ผีเสื้อของดอกไม้
“กระจกวิเศษ บอกข้าเถิด ใครงามเลิศในปฐพี”
“ก็สโนไวท์ฮยอกแจน่ะสิ งามที่สุดในปฐพีไม่มีใครงามกะ...”
เพล้ง!!!
ยังไม่ทันที่กระจกวิเศษนี้จะพูดจบ มือสวยของราชินีฮีชอลผู้เป็นเจ้าของก็ชกมันเสียแตกละเอียดไม่มีชิ้นดี ก่อนจะแผดเสียงกรี๊ดดังลั่นไปทั่วปราสาท
“กรี๊ดดดดดด!!”
เกลียด! เกลียดมันเหลือเกิน!!!
หลายปีก่อน หากจะถามคำถามนี้กับเจ้ากระจกวิเศษ ก็มักจะได้รับรับคำตอบที่น่าพึงพอใจเสมอ ใช่...ผู้ที่งามที่สุดในปฐพีนี้ คือ ราชินีฮีชอล ผู้ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความงามและความสามารถอันล้นเหลือ ราชินีผู้ซึ่งปกครองอาณาจักรแสนยิ่งใหญ่นี้เพียงคนเดียวด้วยความเฉลียวฉลาด ทั้งๆที่ยังเยาว์วัย
จนกระทั่ง อีกสิบปีให้หลัง คำตอบของกระจกวิเศษบานนี้ก็เปลี่ยนไป ในวันที่สโนไวท์ฮยอกแจ หลานแท้ๆของตน ได้กำเนิดขึ้น
ผิวขาวดั่งหิมะแรกเมื่อยามฤดูหนาวมาเยือน จึงได้ชื่ออีกชื่อหนึ่งว่าสโนไวท์ ริมฝีปากอิ่มแดงสดราวกับลูกเชอรี่น่าลิ้มลอง พร้อมกับมีรอยยิ้มที่สดใส เหมือนกับพี่สาวของราชินี ผู้เป็นแม่ของเจ้าตัวไม่มีผิดแปลก!!
“องค์ราชินี!!” ฮันคยอง องครักษ์ผู้ซื่อสัตย์ของราชินีที่เพิ่งเข้ามาตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อเห็นมือบางที่เคยชี้นิ้วสั่งงานอย่างฉะฉาน บัดนี้กลับชุ่มโชกไม่ด้วยโลหิตสีแดง ร่างหนาก้าวข้ามเศษกระจกที่กองอยู่เต็มพื้นเข้ามาหาราชินีของตน จับมือบางขึ้นมาอย่างแผ่วเบาแล้วใช้แขนเสื้อของตนซับเลือดที่มือของราชินีฮีชอลอย่างถะนุถนอม
“ผู้ใดมันบังอาจทำร้ายพระองค์!!” เสียงทุ้มนุ่มแต่แฝงไปด้วยความโกรธเอ่ยถามคนสูงศักดิ์ที่กำลังหอบหายใจหนัก เพราะความโกรธหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ
“…กระจก ไอ้กระจกนี่มันทรยศข้า!!” ตอบกลับพร้อมสะบัดไปทางเศษกระจก ใบหน้าหวานสวยของราชินีคนเก่งฉายแววเคียดแค้น ฮันคยองพ่นลมหายใจแล้วกระตุกยิ้มน้อยๆ ก็กิริยาท่าทางของอีกฝ่ายในตอนนี้ ไม่ต่างกับเจ้าหญิงขี้ฟ้องที่เขาเคยดูแลเมื่อวันวานเลยซักนิด
“ไม่เป็นไรพะยะค่ะ พระองค์ยังมีกระหม่อม...กระหม่อมจะอยู่ข้างพระองค์เสมอ”
สิ้นคำปลอบขององครักษ์หนุ่ม ราชินีผู้งดงามก็โผเข้าซบหน้ากับอกแกร่งทันที ทำเอาเจ้าตัวตกใจ ฮันคยองเอื้อมมือไปแตะที่ไหล่มนหมายจะผลักออก ราชินีผู้สูงส่งกับเขาที่เป็นเพียงองครักษ์รับใช้ ไม่ควรทำกิริยาเช่นนี้ต่อกัน แต่สัมผัสเปียกชื้นบริเวณอกกับเสียงสะอื้นที่เล็ดลอดออกมา และเนื้อตัวที่สั่นเทานี้ทำให้เขาใจอ่อน ยอมเป็นที่ซับน้ำตาให้กับราชินีฮีชอลแทน ไม่เหลือแล้ว ภาพของราชินีใจร้ายขี้อิจฉาเมื่อสักครู่ มือหนาย้ายจากไหล่มนมาที่เส้นผมนุ่มประดุจเส้นไหมชั้นดี ตั้งใจจะลูบเบาๆเพื่อปลอบคนขี้แย แต่ก็ต้องชะงักเมื่อฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า
เขาเอง ไม่ควรทำกิริยาเช่นนี้กับราชินีฮีชอล
ฮันคยองลดมือลงมาไว้ข้างตัวเช่นเดิม ใบหน้าคมเสมองไปด้านข้าง ปล่อยให้อีกฝ่ายกอดตนเองอยู่ฝ่ายเดียว ไม่มีการกอดตอบ หรือลูบผมปลอบใดๆ
แม้อยากทำใจจะขาด..
แต่เพราะ...เขากับราชินีฮีชอล ต่างกันเกินไป..
มีเพียงฮันคยองคนเดียว...ที่ไม่เคยทรยศเขา
ตั้งแต่ยังเด็ก ฮันคยองก็อยู่ข้างเขามาตลอด
ยามที่เขาโดนทำโทษ ฮันคยองก็มักจะเป็นคนขอรับโทษแทนเขาเสมอ
ทำตามคำสั่งของเขาราวกับลูกหมาเชื่องๆ ไม่สนว่าจะผิดถูกดีเลวแค่ไหน
อ๊ะ!! จริงสินะ!!
ใบหน้าหวานผละออกจากอกแกร่ง มือบางยื่นไปประคองหน้าอีกฝ่ายให้หันมามองตน พยายามทำเป็นไม่สนใจหัวใจของตนเองที่กำลังเต้นไม่เป็นจังหวะยามสบตากับองครักษ์ประจำตัว แล้วเอ่ยขอร้อง
“ฮันคยอง...เจ้าช่วยฆ่าฮยอกแจให้ข้าได้ไหม…”
“องค์ราชินี!! พูดอะไรออกมาน่ะ!” ฮันคยองเบิกตากว้างแล้วพูดเตือนสติราชินีคนงาม
ปีศาจตนใดเข้าสิงราชินีของเขากันนี่!!
“มันเป็นมารผจญชีวิตข้า ถ้ามันตายไปซักคน ชีวิตข้าก็จะไร้เสี้ยนหนาม...” ทำเป็นไม่ใส่ใจสายตาขององรักษ์ที่มองมาแล้วพูดต่อ
“พระองค์บ้าไปแล้วหรือ!! นั่นหลานแท้ๆของพระองค์นะพะยะค่ะ!!”
“ทำไมล่ะ ฮันคยอง! เหตุใดเจ้าจึงขัดคำสั่งข้า!! หรือว่า..”ราชินีฮีชอลปรี่เข้ามาจับที่ไหล่ขององค์รักษ์หนุ่มเสียแน่น พลางพูดต่อด้วยเสียงอันดัง
“หรือว่าเจ้าจะหลงเสน่ห์ของมันอีกคน! เจ้าก็จะทรยศข้าอีกคนใช่ไหมฮันคยอง!!”
“ไม่มีทาง!! กระหม่อมไม่มีวันทรยศพระองค์เด็ดขาด!!” บอกด้วยเสียงหนักแน่น นัยน์ตาสีนิลจ้องเข้าไปในดวงตาโตราวกับลูกแก้วใสของอีกฝ่าย คล้ายจะสื่อว่า เขาพูดจริง
“เช่นนั้น ทำไม?..” เสียงหวานเริ่มอ่อนลง เหมือนจะเริ่มรับฟังเหตุผลของฮันคยอง มากกว่าใช้อารมณ์ของตนเอง
“กระหม่อมไม่เห็นประโยชน์ของการฆ่าฮยอกแจนะพะยะค่ะ...ทั้งพระองค์และฮยอกแจต่างก็เป็นที่รักของประชาชนทุกๆคน หากพวกเขารู้ว่า พระองค์เป็นคนสั่งข้าฮยอกแจ พวกเขาจะมองท่านเช่นไร??”
“แต่ไม่มีใครรู้นี่...” โต้เถียงเสียงอ่อยตามนิสัยของตน
“ถึงไม่มีใครรู้ แต่ใจของพระองค์จะไม่ร้อนรุ่มเป็นไฟอยู่ทุกเวลาหรือ?? หากเราทำความผิดไว้ ก็เหมือนมีชนักติดหลังจะไปไหนมาไหนก็ต้องคอยระแวง…และอีกอย่าง ความลับไม่มีในโลก องค์ราชินี” ฮันคยองค่อยๆอธิบายเหตุผลต่อให้ฟังอย่างใจเย็น เมื่อเห็นว่าร่างบางเริ่มจะคล้อยตามเขาบ้างแล้ว
“ความสวยความงามมันเป็นเพียงเปลือกนอก ไม่มีความเที่ยงแท้ ในวันนี้ฮยอกแจอาจจะสวยงามกว่าท่าน แต่ภายภาคหน้า เมื่อฮยอกแจมีอายุมากขึ้น ความสวยความงามก็ต้องโรยราเหมือนกลีบดอกไม้ที่แห้งเหี่ยว”
“…”
“ความดีของคนเรานี่ล่ะ คือเครื่องพิสูจน์ความงามที่แท้จริง ถ้าหากท่านทำหน้าที่องค์ราชินีที่ดี ปกครองแผ่นดินด้วยความยุติธรรม หมั่นทำความดีงาม มีหรือทื่ผู้อื่นจะพากันเกลียดท่าน?”
ใช่...ฮันคยองพูดถูก
เสด็จพ่อเคยสอนเสมอว่า ‘ค่าของคนอยู่ที่ผลงาน’
ให้ตายสิ...โตจนเป็นเจ้าคนนายคนแล้ว ยังต้องให้คนอื่นมาสอนเรื่องที่ตัวเองก็รู้อยู่แล้วอีก หนำซ้ำเขาคิดจะฆ่าเด็กบริสุทธิ์ผู้มีศักดิ์หลานแท้ๆของเขาเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
“ขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยเตือนสติข้า...” ฮันคยองยิ้มออก เมื่ออีกฝ่ายกล่าวเช่นนี้ คงจะเลิกคิดอะไรเลวร้ายแบบนั้นแล้วสินะ ร่างหนาจ้องตาโตๆของอีกฝ่ายก่อนจะพูดต่อว่า
“และข้าเชื่อว่า สักวันจะมีคนที่รักท่านจากภายใน หาใช่รูปกายภายนอก”
เหมือนกันข้า...
คำๆนี้ ฮันคยองไม่ได้พูดออกไปอย่างใจนึก ร่างหนาเก็บมันไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจ และปิดล็อกกุญแจแน่นหนา เก็บมันไว้เป็นความลับที่อยู่กับตัวเขาตลอดไป แม้อยากจะพูดออกให้อีกฝ่ายรับรู้ หากแต่ฐานันดรศักดิ์นั้นต่างกันราวฟ้ากับดิน จึงพูดออกไปไม่ได้ ทำได้แค่เพียงดูแลอยู่ใกล้ๆในฐานะองครักษ์ผู้ซื่อสัตย์
เหมือนผีเสื้อที่คอยอยู่ใกล้ชิดดอกไม้เสมอ...
ผีเสื้อตัวนี้จะขออยู่ข้างดอกไม้งามไปชั่วนิรันดร์..
ความคิดเห็น