ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : วันเปิดเทอม
                “โอ้ย! สายแล้ว>_<” ฉันร้องออกมาเมื่อเห็นว่าเข็มนาฬิกาชี้ไปที่7นาฬิกา50นาทีแล้ว ฉันรีบแต่งตัวแล้ววิ่งลงไปที่ชั้นล่าง
    “แม่คะ ทำไมแม่ถึงไม่ปลุกหนูนะ วันนี้เปิดเทอมวันแรกนะคะ” ฉันถามแม่
    “อ้าว? แม่ก็ปลุกแล้วนะ แต่มินไม่ตื่นเองนี่ลูก” ผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้าตอบฉัน ท่าทางเธอคงขึ้นไปปลุกฉันตั้งแต่7โมงแล้วแน่ๆ
    “เหรอค่ะ แล้วพี่มิ้งค์ล่ะค่ะ?” ฉันถามหาพี่สาวที่อายุมากกว่ากัน1ปีที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน
    “พี่เขาไปตั้งนานแล้ว...อย่าลืมสิว่าพี่เขาเป็นกรรมการนักเรียนนะ มีกรรมการนักเรียนโรงเรียนไหนที่ไปสายบ้างล่ะ?-_-“ แม่ว่า
    “ค่ะ งั้นหนูไปก่อนนะค่ะ” แล้วฉันก็วิ่งไปที่มอเตอร์ไซค์คันเก่งแล้วขี่มันออกไป
    “อ้าว?...แล้วไม่กินข้าวเช้าหรือลูก?” ผู้เป็นแม่ถามแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เธอจึงอดที่จะบ่นออกมาไม่ได้ “เฮ้อ...เมื่อไหร่ลูกคนนี้จะทำตัวเป็นผู้หญิงกับเขาซะที-_-“
    ............................................................................................................................
    ฉันมาถึงโรงเรียนทันเวลาก่อนประตูจะปิดลง นี่ถ้าฉันกินข้าวเช้าก่อนล่ะก็......นะ ฉันรีบวิ่งไปที่ป้ายประกาศเพื่อดูห้องเรียน...
    “นางสาวมินตรา สีหวงศ์ ม.4/1” ว้าว.....ฉันได้อยู่ห้อง1 ห้องเดียวกับยายเปิ้ลและยายหวานเพื่อนฉันเลย แล้วฉันก็รีบวิ่งไปที่ห้องเรียนเพื่อให้ทันอาจารย์เช็คชื่อ
    ขณะที่ฉันเร่งฝีเท้าผ่านหน้าห้องดนตรีที่เงียบสงัด เสียงของไวโอลินที่ฟังดูอ่อนโยนเป็นท่วงทำนองที่แสนไพเราะก็ลอยออกมา ฉันเพ่งสายตาเข้าไปดู ในห้องนั้น....มีเด็กหนุ่มหน้าตาดีกำลังสีไวโอลินอยู่ ผิวขาวผ่องราวกับผู้หญิงต้องแสงแดดเป็นประกายดูมีเสน่ห์ ร่างอันสูงใหญ่ทำให้เขาดูสะโอดสะองสมส่วนไปซะหมด เสียงนาฬิกาข้อมือของฉันดังขึ้นตามเวลา9.00น.ตามที่ฉันตั้งปลุกไว้ ผู้ชายคนนั้นจึงหันมาตามเสียง....
    “นั่นใครน่ะ?!” เขาถาม
    ฉันตกใจจึงรีบวิ่งออกมาซะก่อน เสียงฝีเท้าของเขาตามมาติดๆ แต่ด้วยความที่เมื่อก่อนฉันเป็นนักวิ่งที่โรงเรียนเก่า ถึงเขาจะเป็นผู้ชายก็เถอะ...แต่ฉันเล่นชิงออกสตาร์ทก่อนตั้งนาน พอฉันวิ่งมาถึงห้องเรียน ยายเปิ้ลกับยายหวานก็รีบซักฉันซะสะอาด
    “นี่ยัยมิน...ตกลงเมื่อกี้เธอไปไหนมายะ ทำไมถึงไม่เข้าคาบแรก?” หวานถามฉัน
    “ก็ฉันตื่นสายน่ะสิ” ฉันตอบ
    “ให้มันได้อย่างนี้สิเพื่อนฉัน...-_-“ เปิ้ลพูดอย่างหน่ายๆ
    พอถึงเวลาพักกลางวันที่แสนรอคอย ฉันก็ไม่รอช้า...รีบลากเพื่อนตัวดีทั้งสองไปที่โรงอาหารทันที ก็ฉันไม่ได้กินข้าวเช้านี่นา>.<
    พอถึงโรงอาหาร...พวกยัยหวานก็พากันหนีไปห้องน้ำ ฉันเลยเดินไปหาโต๊ะเองคนเดียว แต่แล้วฉันก็เหลือบไปเห็นยัยพี่มิ้งค์คนงามกำลังชูจั๊กกะแร้ (^_^)/ โบกมือเรียกฉันจากโต๊ะหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล รู้สึกเหมือนพี่จะนั่งอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งแฮะ...อย่าบอกนะว่าแฟนน่ะ.....
    “ว่าไง? มิน...เมื่อเช้ามาสายหรือเปล่า? พี่ว่ากำลังจะไปหาที่ห้องอยู่เชียว^^” พี่มิ้งค์ว่า
    “ไม่สายหรอก...แค่เฉียดๆ อ้าว? แล้วนั่นใครกันล่ะ? แฟนเหรอ?^-^” ฉันชิงถามทันทีที่มีโอกาส ก็เขาหล่อมากๆเลย...สงสัยคงเป็นหนุ่มฮอต
    “อ้อ...มินเพิ่งเข้ามาคงไม่รู้จักสินะ นี่ประธานนักเรียนของโรงเรียนเราชื่อว่าพี่บิ๊ก...บดินทร์ ศัลนสิทธิ์ อยู่ห้องเดียวกับพี่น่ะ” พี่มิ้งค์ตอบ “ส่วนนี่น้องมิ้งค์เอง ชื่อมินน่ะ” พี่สาวแนะนำตัวฉัน
    “ยินดีที่ได้รู้จักครับ...น้องมิน^-^” พี่บิ๊กพูดพลางส่งยิ้มให้ฉันอ่อนโยน ว้ายๆ จะละลายแล้วนะ...^^
    “ค่ะ...มินเองก็ยินดีค่ะ^^” ฉันเอ่ย แล้วก็ต้องบูดเมื่อเห็นยัยเปิ้ลกับยัยหวานโบกมือเรียกจากมุมหนึ่งของโรงอาหาร “งั้นมินขอตัวก่อนนะค่ะ...จะไปหาที่นั่งก่อน” ต้องรีบไปก่อนที่จะละลายหมดตัว คนอะไรหล่อชะมัด....ยิ้มสวยจริงๆ
    “ไม่เป็นไรนี่ครับ...นั่งด้วยกันก็ได้ มีที่เหลือเยอะแยะ” พี่บิ๊กเสนอ
    “คือมินมีเพื่อนอีกสองคนน่ะค่ะ...” ฉันพูดออกมาอย่างเกรงใจ พลางเหลือบไปมองเห็นยัยสองคนเริ่มเต้นระบำเด๊งดึ๊งเหมือนวิญญาณเผ่ามาไซเข้าสิง
    “ไม่เป็นไรหรอกมิน...นั่งเถอะ ตอนที่ที่คงเต็มหมดแล้วล่ะ” พี่มิ้งค์บอก
    “ก็ได้ค่ะ อ๊ะ! นั่นเพื่อนมินมาแล้ว” พวกยัยหวานเดินเข้ามาพอดี
    “ยัยมิน...แกหายหัวไปไหนมา? พวกฉันตามหาตั้งนาน...-_-+” เปิ้ลกระซิบถามฉันแล้วเหล่ไปมองพี่บิ๊ก
    “ก็หาที่ให้พวกแกนั่งน่ะแหละ...ไปเข้าห้องน้ำนานเป็นชาติเลย ฉันก็นึกว่าพวกแกตีลังกาโอ้ลัลล้าลงส้วมกันไปแล้วซะอีก-_-“ ฉันตอบอย่างหน่ายๆพลางมองตามสายตาของเพื่อนตัวดี...อ๊ะๆๆ...อยากให้แนะนำอ่ะดิ....รู้นะๆๆ^o^
    “อ้อ...พี่มิ้งค์ พี่บิ๊ก นี่เพื่อนมินค่ะ ชื่อเปิ้ลกับหวาน...” ฉันแนะนำ “แล้วนี่ก็พี่มิ้งค์...พี่สาวเรา กับพี่บิ๊ก...ประธานนักเรียน^-^”
    “สวัสดีค่ะ^o^” พวกยัยเปิ้ลพากันพูดสวัสดีพร้อมกันยิ้มหน้าบานเป็นดอกเป็ด ...ฮิๆเรานี่รู้ใจเพื่อนจริงๆ...
    พอกินข้าวกันเสร็จ...ฉันกับเปิ้ลและหวานก็ขอตัวกันกลับห้องเรียน พอพ้นสายตาพี่มิ้งค์กับพี่บิ๊กเท่านั้นแหละ ยัยพวกนั้นก็ระเบิดคำถามใส่ฉันทันทีราวกับพวกเรากำลังรบกันอยู่ในสงครามโลกครั้งที่4งั้นแหละ....
    “บอกมาซะดีๆเลยยัยมิน...แกรู้จักพี่เขาได้ยังไง? บอกมาน้า~”
    “ก็พี่บิ๊กเขาอยู่ห้องเดียวกับพี่มิ้งค์ไง แล้วพวกแกจะบ้าอะไรกันนักกันหนา?”
    “อ้าว...แกไม่รู้เหรอว่าพี่บิ๊กเป็นหนุ่มหล่ออันดับที่2ของโรงเรียนเชียวนา เป็นถึงประธานนักเรียนและยังสอบได้ที่1ของชั้นปีเลยด้วย^^” ยัยหวาน...นี่แกกลายเป็นเจ้าแม่ดาวกระจายตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย......
    “เหรอ...ฉันไม่เห็นรู้เลย-_-“ฉันตอบหน้าตาย
    “แกจะไปรู้อะไรกับเขาได้ล่ะ วันๆเอาแต่หาเรื่องเล่นบาสฯไม่ก็ซิ่งมอ’ไซค์” เปิ้ลว่า
    “ก็ฉันชอบของฉันนิ...งั้นฉันไปก่อนนะ” ฉันบอกแล้วก็ชิ่งหายไปจากที่เกิดเหตุทันที
    ...............................................................................................................................
   
    #ไม่มีสิ่งไหนต้านอยู่หรอกความรัก...แม้ใจปิดแน่นหนาเท่าไร...ก็หายไป...#
    เสียงโทรศัพท์ฉันดังขึ้น
    “ฮัลโหล...พี่มิ้งค์เหรอ? มีอะไรรึเปล่า?”
    [มิน...วันนี้พี่กลับบ้านช้านะ มาเอาของที่ห้องพี่หน่อยสิ]
    “ได้สิ พี่อยู่ห้องไหนอ่ะ?”
    [ห้อง 5/4 พี่จะฝากไว้ที่เพื่อนชื่อจินนะ แค่นี้นะ บาย] แล้วพี่มิ้งค์ก็วางสายไปดื้อๆ
    ฉันจึงต้องรีบวิ่งไปห้องพี่มิ้งค์ทันที แต่ระหว่างทางฉันก็ดันชนกับผู้ชายคนหนึ่งจนต้องล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น
    “โอ้ย! เดินดูตาม้าตาเรือบ้างสิ!>o<” ฉันร้อง
    ”เธอนั่นแหละ! วิ่งทะเล่อทะล่ามาได้ ควายหายเรอะไง?!” ผู้ชานคนนั้นตอกกลับเป็นชุด
    “จะหายไม่หายมันก็ไม่เกี่ยวกับนาย!”  ฉันลุกขึ้นประจันหน้า...เรื่องอะไรจะยอมให้นายใส่อยู่ฝ่ายเดียวล่ะ...>_< แล้วฉันก็รู้สึกอยากลงไปจูบกับพื้นทันทีเมื่อเห็นหน้าคู่กรณี “อ๊ะ! นายคนเมื่อเช้านี่OoO”
    ”ส่วนเธอยัยจมูกบี้...คนที่มาแอบฟังฉันเล่นไวโอลินเมื่อเช้าทั้งๆที่ไม่ขออนุญาตด้วยนิO_O” นายตัวโย่งว่า...หนอย...ถ้าไม่ถือว่านายสูงซะอย่าง ฉันจะกระโดดดั๋งหัวนายให้ดู
    “อ้าว...พูดงี้ก็สวยสิ ใครจะไปรู้ล่ะ....ว่าต้องขอก่อน ทำเป็นจ้าวลิขสิทธิ์ไปได้ เผอิญหูฉันไม่ได้หนวกนิ ถ้านายไม่อยากให้คนอื่นได้ยินก็ไปเล่นที่บ้านสิ!” ฉันบอก “แล้วหน้าอย่างนายก็ไม่น่าเล่นไวโอลินเป็นเล้ย...!”
    “ทำไม! หน้าอย่างฉันมันเป็นยังไง?!” เขาถามอย่างเดือดๆ
    “หน้าปลากระโห้อย่างนายมันน่านอนตีฉิ่งอยู่บ้านมากกว่าน่ะสิ” ...ฉันไม่รู้จะด่านายนั่นว่าอะไรดี...จู่ๆคำว่าปลากระโห้มันก็ผุดขึ้นมา เอาวะ...ด่าแก้ขัดไปก่อน...
    “นี่เธอ! มันจะมากไปแล้วนะ!-_-+” เขาเริ่มควันออกหู “แล้วหน้าอย่างเธอมันสวยตายล่ะ...หน้าอย่างกับศพเดินได้ปอเต็กตึ๊งลืมเก็บน่ะ สงสัยไม่มีใครเอาล่ะสิ...ถึงได้มาพาลคนอื่นเขาแบบนี้”
    “เฮอะ! ถ้าหน้าอย่างฉันไม่มีใครเอา...หน้าอย่างนายคงต้องมุดท้องแม่กลับไปเกิดใหม่สักร้อยหนถึงจะมีคนเอาแล้วล่ะ” ฉันด่ากลับไปอย่างเจ็บแสบ ฮะๆ มินตราซะอย่าง^o^
    นายหน้าปลากระโห้แสนหล่อกำมือแน่นพลางจ้องมองฉันด้วยท่าทีเดือดๆแทบจะกลั้นไม่อยู่ แล้วพี่มิ้งค์ก็เดินเข้ามาทันก่อนเรื่องจะบานปลายไปใหญ่
    “มินทำอะไรอยู่น่ะ? ได้ของที่พี่ฝากไว้รึยัง?”
    “ยังเลย...หนูยังไม่เจอเพื่อนพี่เลย” ฉันตอบพี่มิ้งค์แต่ตายังคงจ้องหน้านายนั่นอยู่
    “อ้าว ก็นี่ไง...จินเพื่อนพี่” พี่มิ้งค์บอกฉันอย่างงงๆแล้วชี้ไปที่นายนั่น นายปลากระโห้ยักคิ้วให้ฉันอย่างกวนๆแล้วเดินไปยืนข้างพี่มิ้งค์....
    “หา....OoO” ฉันร้องลั่น “นี่น่ะเหรอ...พี่จินที่พี่ฝากของไว้น่ะ?”
    “ใช่...นี่แหละนายจิน จีรวัต เพื่อนสนิทพี่เลยนะเนี่ย...”พี่มิ้งค์ตอบพลางมองฉันอย่างงงๆ
    “จิน...ส่วนนี่ มิน...มินตรา น้องสาวเราเอง อยู่ม.4 เพิ่งเข้ามาปีนี้นะ” พี่มิ้งค์หันไปแนะนำฉันให้นายปลากระโห้รู้จัก นายนั่นมองฉันอย่างไม่เชื่อสายตาแล้วถามพี่มิ้งค์ว่า
    “นี่น้องสาวเธอจริงๆเหรอ? คนที่เธอบอกว่าน่ารัก เรียนเก่ง แถมเป็นนักกีฬาบาสฯโรงเรียนน่ะเหรอ?O_O”
    “อืม...ใช่” พี่มิ้งค์ตอบพลางทำหน้างงๆหนักเข้าไปอีก
    “เธอออกจะเป็นกุลสตรีเพียบพร้อม...แต่ทำไมน้องเธอกลับ....” นายนั่นเอ่ย พร้อมกับใช้สายตาสแกนตัวฉันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
    “ทำไม! ฉันทำไม?” ฉันถามหมอนั่นพลางกำหมัดแน่น
    “ก็ไม่เหมือนกันเลยแม้แต่นิดเดียวไง มิ้งค์ออกเหมือนนางฟ้า ส่วนเธอมันยิ่งกว่ากิ้งกือฟิวชั่นกับเขียดซะอีก” นายนั่นตอบแล้วยักคิ้วให้ฉันอย่างโค-ตรกวน
    “นี่นาย.....!>_<”
    “พอเถอะ! หยุดทะเลาะกันได้แล้ว ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้ทั้งคู่เลย” พี่มิ้งค์รีบห้าม
    “เชอะ!”
    “จิน ของที่ฉันฝากไว้น่ะให้มินเขาไปสิ” พี่มิ้งค์บอกนายนั่น
    “ได้สิ” แล้วนายนั่นก็เดินเข้าไปหยิบของในห้องมาส่งให้พี่มิ้งค์
    “เอ้า! มินพี่ฝากด้วยนะ...แล้วเจอกันที่บ้านนะ^-^” พี่มิ้งค์บอกฉัน
    “ค่ะ...แล้วเจอกัน” ฉันยิ้มนิดๆให้พี่ก่อนจะหันไปส่งสายตาอาฆาตใส่ตานั่นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะวิ่งลงไปหามอเตอร์ไซค์สุดที่รักที่ชั้นล่างแล้วขี่มันออกไปโดยไม่เหลียวกลับไปมองบนตึกอีก
                                                                            ++++++++++++++++++++
    “แม่คะ ทำไมแม่ถึงไม่ปลุกหนูนะ วันนี้เปิดเทอมวันแรกนะคะ” ฉันถามแม่
    “อ้าว? แม่ก็ปลุกแล้วนะ แต่มินไม่ตื่นเองนี่ลูก” ผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้าตอบฉัน ท่าทางเธอคงขึ้นไปปลุกฉันตั้งแต่7โมงแล้วแน่ๆ
    “เหรอค่ะ แล้วพี่มิ้งค์ล่ะค่ะ?” ฉันถามหาพี่สาวที่อายุมากกว่ากัน1ปีที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน
    “พี่เขาไปตั้งนานแล้ว...อย่าลืมสิว่าพี่เขาเป็นกรรมการนักเรียนนะ มีกรรมการนักเรียนโรงเรียนไหนที่ไปสายบ้างล่ะ?-_-“ แม่ว่า
    “ค่ะ งั้นหนูไปก่อนนะค่ะ” แล้วฉันก็วิ่งไปที่มอเตอร์ไซค์คันเก่งแล้วขี่มันออกไป
    “อ้าว?...แล้วไม่กินข้าวเช้าหรือลูก?” ผู้เป็นแม่ถามแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เธอจึงอดที่จะบ่นออกมาไม่ได้ “เฮ้อ...เมื่อไหร่ลูกคนนี้จะทำตัวเป็นผู้หญิงกับเขาซะที-_-“
    ............................................................................................................................
    ฉันมาถึงโรงเรียนทันเวลาก่อนประตูจะปิดลง นี่ถ้าฉันกินข้าวเช้าก่อนล่ะก็......นะ ฉันรีบวิ่งไปที่ป้ายประกาศเพื่อดูห้องเรียน...
    “นางสาวมินตรา สีหวงศ์ ม.4/1” ว้าว.....ฉันได้อยู่ห้อง1 ห้องเดียวกับยายเปิ้ลและยายหวานเพื่อนฉันเลย แล้วฉันก็รีบวิ่งไปที่ห้องเรียนเพื่อให้ทันอาจารย์เช็คชื่อ
    ขณะที่ฉันเร่งฝีเท้าผ่านหน้าห้องดนตรีที่เงียบสงัด เสียงของไวโอลินที่ฟังดูอ่อนโยนเป็นท่วงทำนองที่แสนไพเราะก็ลอยออกมา ฉันเพ่งสายตาเข้าไปดู ในห้องนั้น....มีเด็กหนุ่มหน้าตาดีกำลังสีไวโอลินอยู่ ผิวขาวผ่องราวกับผู้หญิงต้องแสงแดดเป็นประกายดูมีเสน่ห์ ร่างอันสูงใหญ่ทำให้เขาดูสะโอดสะองสมส่วนไปซะหมด เสียงนาฬิกาข้อมือของฉันดังขึ้นตามเวลา9.00น.ตามที่ฉันตั้งปลุกไว้ ผู้ชายคนนั้นจึงหันมาตามเสียง....
    “นั่นใครน่ะ?!” เขาถาม
    ฉันตกใจจึงรีบวิ่งออกมาซะก่อน เสียงฝีเท้าของเขาตามมาติดๆ แต่ด้วยความที่เมื่อก่อนฉันเป็นนักวิ่งที่โรงเรียนเก่า ถึงเขาจะเป็นผู้ชายก็เถอะ...แต่ฉันเล่นชิงออกสตาร์ทก่อนตั้งนาน พอฉันวิ่งมาถึงห้องเรียน ยายเปิ้ลกับยายหวานก็รีบซักฉันซะสะอาด
    “นี่ยัยมิน...ตกลงเมื่อกี้เธอไปไหนมายะ ทำไมถึงไม่เข้าคาบแรก?” หวานถามฉัน
    “ก็ฉันตื่นสายน่ะสิ” ฉันตอบ
    “ให้มันได้อย่างนี้สิเพื่อนฉัน...-_-“ เปิ้ลพูดอย่างหน่ายๆ
    พอถึงเวลาพักกลางวันที่แสนรอคอย ฉันก็ไม่รอช้า...รีบลากเพื่อนตัวดีทั้งสองไปที่โรงอาหารทันที ก็ฉันไม่ได้กินข้าวเช้านี่นา>.<
    พอถึงโรงอาหาร...พวกยัยหวานก็พากันหนีไปห้องน้ำ ฉันเลยเดินไปหาโต๊ะเองคนเดียว แต่แล้วฉันก็เหลือบไปเห็นยัยพี่มิ้งค์คนงามกำลังชูจั๊กกะแร้ (^_^)/ โบกมือเรียกฉันจากโต๊ะหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล รู้สึกเหมือนพี่จะนั่งอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งแฮะ...อย่าบอกนะว่าแฟนน่ะ.....
    “ว่าไง? มิน...เมื่อเช้ามาสายหรือเปล่า? พี่ว่ากำลังจะไปหาที่ห้องอยู่เชียว^^” พี่มิ้งค์ว่า
    “ไม่สายหรอก...แค่เฉียดๆ อ้าว? แล้วนั่นใครกันล่ะ? แฟนเหรอ?^-^” ฉันชิงถามทันทีที่มีโอกาส ก็เขาหล่อมากๆเลย...สงสัยคงเป็นหนุ่มฮอต
    “อ้อ...มินเพิ่งเข้ามาคงไม่รู้จักสินะ นี่ประธานนักเรียนของโรงเรียนเราชื่อว่าพี่บิ๊ก...บดินทร์ ศัลนสิทธิ์ อยู่ห้องเดียวกับพี่น่ะ” พี่มิ้งค์ตอบ “ส่วนนี่น้องมิ้งค์เอง ชื่อมินน่ะ” พี่สาวแนะนำตัวฉัน
    “ยินดีที่ได้รู้จักครับ...น้องมิน^-^” พี่บิ๊กพูดพลางส่งยิ้มให้ฉันอ่อนโยน ว้ายๆ จะละลายแล้วนะ...^^
    “ค่ะ...มินเองก็ยินดีค่ะ^^” ฉันเอ่ย แล้วก็ต้องบูดเมื่อเห็นยัยเปิ้ลกับยัยหวานโบกมือเรียกจากมุมหนึ่งของโรงอาหาร “งั้นมินขอตัวก่อนนะค่ะ...จะไปหาที่นั่งก่อน” ต้องรีบไปก่อนที่จะละลายหมดตัว คนอะไรหล่อชะมัด....ยิ้มสวยจริงๆ
    “ไม่เป็นไรนี่ครับ...นั่งด้วยกันก็ได้ มีที่เหลือเยอะแยะ” พี่บิ๊กเสนอ
    “คือมินมีเพื่อนอีกสองคนน่ะค่ะ...” ฉันพูดออกมาอย่างเกรงใจ พลางเหลือบไปมองเห็นยัยสองคนเริ่มเต้นระบำเด๊งดึ๊งเหมือนวิญญาณเผ่ามาไซเข้าสิง
    “ไม่เป็นไรหรอกมิน...นั่งเถอะ ตอนที่ที่คงเต็มหมดแล้วล่ะ” พี่มิ้งค์บอก
    “ก็ได้ค่ะ อ๊ะ! นั่นเพื่อนมินมาแล้ว” พวกยัยหวานเดินเข้ามาพอดี
    “ยัยมิน...แกหายหัวไปไหนมา? พวกฉันตามหาตั้งนาน...-_-+” เปิ้ลกระซิบถามฉันแล้วเหล่ไปมองพี่บิ๊ก
    “ก็หาที่ให้พวกแกนั่งน่ะแหละ...ไปเข้าห้องน้ำนานเป็นชาติเลย ฉันก็นึกว่าพวกแกตีลังกาโอ้ลัลล้าลงส้วมกันไปแล้วซะอีก-_-“ ฉันตอบอย่างหน่ายๆพลางมองตามสายตาของเพื่อนตัวดี...อ๊ะๆๆ...อยากให้แนะนำอ่ะดิ....รู้นะๆๆ^o^
    “อ้อ...พี่มิ้งค์ พี่บิ๊ก นี่เพื่อนมินค่ะ ชื่อเปิ้ลกับหวาน...” ฉันแนะนำ “แล้วนี่ก็พี่มิ้งค์...พี่สาวเรา กับพี่บิ๊ก...ประธานนักเรียน^-^”
    “สวัสดีค่ะ^o^” พวกยัยเปิ้ลพากันพูดสวัสดีพร้อมกันยิ้มหน้าบานเป็นดอกเป็ด ...ฮิๆเรานี่รู้ใจเพื่อนจริงๆ...
    พอกินข้าวกันเสร็จ...ฉันกับเปิ้ลและหวานก็ขอตัวกันกลับห้องเรียน พอพ้นสายตาพี่มิ้งค์กับพี่บิ๊กเท่านั้นแหละ ยัยพวกนั้นก็ระเบิดคำถามใส่ฉันทันทีราวกับพวกเรากำลังรบกันอยู่ในสงครามโลกครั้งที่4งั้นแหละ....
    “บอกมาซะดีๆเลยยัยมิน...แกรู้จักพี่เขาได้ยังไง? บอกมาน้า~”
    “ก็พี่บิ๊กเขาอยู่ห้องเดียวกับพี่มิ้งค์ไง แล้วพวกแกจะบ้าอะไรกันนักกันหนา?”
    “อ้าว...แกไม่รู้เหรอว่าพี่บิ๊กเป็นหนุ่มหล่ออันดับที่2ของโรงเรียนเชียวนา เป็นถึงประธานนักเรียนและยังสอบได้ที่1ของชั้นปีเลยด้วย^^” ยัยหวาน...นี่แกกลายเป็นเจ้าแม่ดาวกระจายตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย......
    “เหรอ...ฉันไม่เห็นรู้เลย-_-“ฉันตอบหน้าตาย
    “แกจะไปรู้อะไรกับเขาได้ล่ะ วันๆเอาแต่หาเรื่องเล่นบาสฯไม่ก็ซิ่งมอ’ไซค์” เปิ้ลว่า
    “ก็ฉันชอบของฉันนิ...งั้นฉันไปก่อนนะ” ฉันบอกแล้วก็ชิ่งหายไปจากที่เกิดเหตุทันที
    ...............................................................................................................................
   
    #ไม่มีสิ่งไหนต้านอยู่หรอกความรัก...แม้ใจปิดแน่นหนาเท่าไร...ก็หายไป...#
    เสียงโทรศัพท์ฉันดังขึ้น
    “ฮัลโหล...พี่มิ้งค์เหรอ? มีอะไรรึเปล่า?”
    [มิน...วันนี้พี่กลับบ้านช้านะ มาเอาของที่ห้องพี่หน่อยสิ]
    “ได้สิ พี่อยู่ห้องไหนอ่ะ?”
    [ห้อง 5/4 พี่จะฝากไว้ที่เพื่อนชื่อจินนะ แค่นี้นะ บาย] แล้วพี่มิ้งค์ก็วางสายไปดื้อๆ
    ฉันจึงต้องรีบวิ่งไปห้องพี่มิ้งค์ทันที แต่ระหว่างทางฉันก็ดันชนกับผู้ชายคนหนึ่งจนต้องล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น
    “โอ้ย! เดินดูตาม้าตาเรือบ้างสิ!>o<” ฉันร้อง
    ”เธอนั่นแหละ! วิ่งทะเล่อทะล่ามาได้ ควายหายเรอะไง?!” ผู้ชานคนนั้นตอกกลับเป็นชุด
    “จะหายไม่หายมันก็ไม่เกี่ยวกับนาย!”  ฉันลุกขึ้นประจันหน้า...เรื่องอะไรจะยอมให้นายใส่อยู่ฝ่ายเดียวล่ะ...>_< แล้วฉันก็รู้สึกอยากลงไปจูบกับพื้นทันทีเมื่อเห็นหน้าคู่กรณี “อ๊ะ! นายคนเมื่อเช้านี่OoO”
    ”ส่วนเธอยัยจมูกบี้...คนที่มาแอบฟังฉันเล่นไวโอลินเมื่อเช้าทั้งๆที่ไม่ขออนุญาตด้วยนิO_O” นายตัวโย่งว่า...หนอย...ถ้าไม่ถือว่านายสูงซะอย่าง ฉันจะกระโดดดั๋งหัวนายให้ดู
    “อ้าว...พูดงี้ก็สวยสิ ใครจะไปรู้ล่ะ....ว่าต้องขอก่อน ทำเป็นจ้าวลิขสิทธิ์ไปได้ เผอิญหูฉันไม่ได้หนวกนิ ถ้านายไม่อยากให้คนอื่นได้ยินก็ไปเล่นที่บ้านสิ!” ฉันบอก “แล้วหน้าอย่างนายก็ไม่น่าเล่นไวโอลินเป็นเล้ย...!”
    “ทำไม! หน้าอย่างฉันมันเป็นยังไง?!” เขาถามอย่างเดือดๆ
    “หน้าปลากระโห้อย่างนายมันน่านอนตีฉิ่งอยู่บ้านมากกว่าน่ะสิ” ...ฉันไม่รู้จะด่านายนั่นว่าอะไรดี...จู่ๆคำว่าปลากระโห้มันก็ผุดขึ้นมา เอาวะ...ด่าแก้ขัดไปก่อน...
    “นี่เธอ! มันจะมากไปแล้วนะ!-_-+” เขาเริ่มควันออกหู “แล้วหน้าอย่างเธอมันสวยตายล่ะ...หน้าอย่างกับศพเดินได้ปอเต็กตึ๊งลืมเก็บน่ะ สงสัยไม่มีใครเอาล่ะสิ...ถึงได้มาพาลคนอื่นเขาแบบนี้”
    “เฮอะ! ถ้าหน้าอย่างฉันไม่มีใครเอา...หน้าอย่างนายคงต้องมุดท้องแม่กลับไปเกิดใหม่สักร้อยหนถึงจะมีคนเอาแล้วล่ะ” ฉันด่ากลับไปอย่างเจ็บแสบ ฮะๆ มินตราซะอย่าง^o^
    นายหน้าปลากระโห้แสนหล่อกำมือแน่นพลางจ้องมองฉันด้วยท่าทีเดือดๆแทบจะกลั้นไม่อยู่ แล้วพี่มิ้งค์ก็เดินเข้ามาทันก่อนเรื่องจะบานปลายไปใหญ่
    “มินทำอะไรอยู่น่ะ? ได้ของที่พี่ฝากไว้รึยัง?”
    “ยังเลย...หนูยังไม่เจอเพื่อนพี่เลย” ฉันตอบพี่มิ้งค์แต่ตายังคงจ้องหน้านายนั่นอยู่
    “อ้าว ก็นี่ไง...จินเพื่อนพี่” พี่มิ้งค์บอกฉันอย่างงงๆแล้วชี้ไปที่นายนั่น นายปลากระโห้ยักคิ้วให้ฉันอย่างกวนๆแล้วเดินไปยืนข้างพี่มิ้งค์....
    “หา....OoO” ฉันร้องลั่น “นี่น่ะเหรอ...พี่จินที่พี่ฝากของไว้น่ะ?”
    “ใช่...นี่แหละนายจิน จีรวัต เพื่อนสนิทพี่เลยนะเนี่ย...”พี่มิ้งค์ตอบพลางมองฉันอย่างงงๆ
    “จิน...ส่วนนี่ มิน...มินตรา น้องสาวเราเอง อยู่ม.4 เพิ่งเข้ามาปีนี้นะ” พี่มิ้งค์หันไปแนะนำฉันให้นายปลากระโห้รู้จัก นายนั่นมองฉันอย่างไม่เชื่อสายตาแล้วถามพี่มิ้งค์ว่า
    “นี่น้องสาวเธอจริงๆเหรอ? คนที่เธอบอกว่าน่ารัก เรียนเก่ง แถมเป็นนักกีฬาบาสฯโรงเรียนน่ะเหรอ?O_O”
    “อืม...ใช่” พี่มิ้งค์ตอบพลางทำหน้างงๆหนักเข้าไปอีก
    “เธอออกจะเป็นกุลสตรีเพียบพร้อม...แต่ทำไมน้องเธอกลับ....” นายนั่นเอ่ย พร้อมกับใช้สายตาสแกนตัวฉันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
    “ทำไม! ฉันทำไม?” ฉันถามหมอนั่นพลางกำหมัดแน่น
    “ก็ไม่เหมือนกันเลยแม้แต่นิดเดียวไง มิ้งค์ออกเหมือนนางฟ้า ส่วนเธอมันยิ่งกว่ากิ้งกือฟิวชั่นกับเขียดซะอีก” นายนั่นตอบแล้วยักคิ้วให้ฉันอย่างโค-ตรกวน
    “นี่นาย.....!>_<”
    “พอเถอะ! หยุดทะเลาะกันได้แล้ว ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้ทั้งคู่เลย” พี่มิ้งค์รีบห้าม
    “เชอะ!”
    “จิน ของที่ฉันฝากไว้น่ะให้มินเขาไปสิ” พี่มิ้งค์บอกนายนั่น
    “ได้สิ” แล้วนายนั่นก็เดินเข้าไปหยิบของในห้องมาส่งให้พี่มิ้งค์
    “เอ้า! มินพี่ฝากด้วยนะ...แล้วเจอกันที่บ้านนะ^-^” พี่มิ้งค์บอกฉัน
    “ค่ะ...แล้วเจอกัน” ฉันยิ้มนิดๆให้พี่ก่อนจะหันไปส่งสายตาอาฆาตใส่ตานั่นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะวิ่งลงไปหามอเตอร์ไซค์สุดที่รักที่ชั้นล่างแล้วขี่มันออกไปโดยไม่เหลียวกลับไปมองบนตึกอีก
                                                                            ++++++++++++++++++++
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น