ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ลำดับตอนที่ 3
ลูกเขย VS พ่อตา
ที่โรงงานแปลรูปของไร่เพลิงตะวัน ที่ตอนนี้ทุกคนกำลังทำงานอย่างขยันขันแข็ง ด้วยเพราะมีออเดอร์จากต่างประเทศเข้ามาเยอะ และเพื่อเอาใจลูกค้า จึงต้องเร่งส่งให้ทันเวลา
วิชิตชายวันหกสิบต้นๆ ที่แม้จะมีอายุมากแล้ว แต่ยังแข็งแรงเพราะดูเเลตัวเองดี อีกทั้งยังคงหล่อเหลาแม้จะมีรอยเหียวย่นตามอายุไข เขามีลูกสาวอยู่เพียงคนเดียวนั่นคือพิลาลัย ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขารักมากแค่ไหน ตั้งแต่ภรรยาจากไปด้วยโรคหัวใจล้มเหลว เขาก็เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับลูก
ในช่วงที่เขาตกต่ำที่สุด จนคิดสั้นจะโดดเหวฆ่าตัวตาย
โชคดีที่มาเจอดารัณและเหมือนเขาได้ชีวิตใหม่ ได้ที่อยู่ได้งานทำ จนมีได้ถึงทุกวันนี้ ดารัณจึงเปรียบสะเหมือนเจ้าชีวิตของเขา และอยากตอบแทนบุญคุณอยู่เสมอ เขาจึงทุ่มเททั้งกายและใจทำงานอย่างสุดความสามารถมากว่า20ปี แต่ถ้ามีอะไรที่พอจะตอบแทนได้มากกว่านี้เขาก็จะทำ แม้แต่ชีวิตเขาก็ให้ได้
ภายในห้องผู้บริหาร ที่ตอนนี้คนงานบางส่วนกำลังยืนตัวสั่น ด้วยความกลัว เพราะอารมณ์ของนายน้อยตอนนี้มันเหมือนพายุทอร์นาโดดีๆนี่เอง
ปัง !
ภูตะวันตบโต๊ะอย่างโมโห ที่ไม่เจอวิชิตอย่างที่ตั้งใจ ถามใครก็ไม่มีใครรู้ มันน่าไล่ออกให้หมดเสียจริง
"ฉันบอกว่ายังไง !!ให้ไปตามไอวิชิตมาพบฉัน ทำไมยังมายืนเสนอหน้าอยู่อีก "
"อะ เอ่อ คุณวิชิตออกไปตรวจงานที่ไร่ยังไม่กลับเลยครับ " ต้นกล้าหัวหน้าแผนกเป็นหน่วยกล้าตายตอบแทน แต่สายตาเย็นยะเยือกที่ส่งกลับมา ทำให้ชายหนุ่มเข่าอ่อน จะโดนไล่ออกหรือป่าวไอต้นเอ้ย...
"แล้วลูกสาวมันล่ะ ยายเด็กกะโปโลนั่นอยู่ไหน " เมื่อเล่นงานพ่อไม่ได้ ก็เอาลูกเนี่ยล่ะ อารมณ์ของเขาตอนนี้มันเกินควบคุมเขาต้องการระบาย ด้วยการทำร้ายใครสักคน และต้องเป็นสองคนพ่อลูกนี้เท่านั้น !
ต้นกล้ามองเจ้านายหนุ่มอยากตกใจ จะให้เขาบอกได้อย่างไรว่าพิลาลัยอยู่ทีไหน ขืนบอกไปสาวเจ้าก็เดือดร้อนนะสิ เขาไม่ทางบอกแน่ๆ
เหมือนพิลาลัยชะตาจะยังไม่ถึงคาด เพราะวิชิตกลับมาถึงพอดี และทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้ามา พนักงานสาวคนนึงก็วิ่งเข้ามาหาหน้าตาตื่น
"แย่แล้วค่ะ คุณวิชิต "
"ขจี มีอะไรค่อยๆพูด ทำอย่างกับเรื่องคอขาดบาดตาย " วิชิตอดขำกับท่าทางของหญิงสาวไม่ได้
"ตายสิค่ะ ตายแน่ๆ คุณตะวันค่ะ คุณตะวันมาอาละวาดที่โรงงาน บอกจะพบคุณวิชิตให้ได้ "
วิชิตที่พอจะรู้เรื่องจากปากของเจ้านายมาบ้างแล้ว ทำเพียงแค่พยักหน้า และถอนหายใจออกมา ก่อนจะบอกให้ขจีกลับไปทำงานตามปกติ
"เดี๋ยวผมจัดการเอง ขจีไปทำงานเถอะ"
จริงๆแล้ววิชิตไม่ได้ไปตรวจงานแต่ไปคุยกับดารัณมาแล้ว เขารู้อยู่แล้วว่าภูตะวันจะต้องมาเล่นงานตนกับลูกสาวแน่ แต่อะไรจะเกิดมันก็คงต้องเกิด เมื่อมันเป็นความต้องการของดารัณผู้มีพระคุณเขาก็มิอาจขัดข้องได้
"หึ ได้เจอกันชะทีนะคุณพ่อตา "
ทันทีที่ก้าวเข้ามาภายในห้อง เสียงทักทายอันแสนจะประชดประชันก็ดังขึ้น
"นายน้อยต้องการพบผม มีอะไรให้ผมรับใช้หรือป่าวคับ "
วิชิตเอ่ยถามอย่างสุภาพ
ภูตะวันทำหน้าสงใสปนล้อเลียนที่เห็นอีกฝ่ายยังยืนสงบนิ่ง ชายหนุ่มนั่งพิงไปกลับเก้าอี้ พลางยกสองเท้าขึ้นมาวางบนโต๊ะ และจงใจใช้ปลายเท้ากวักเรียกให้อีกคนมานั่งตรงข้าม
วิชิตเห็นดังนั้นก็กัดฟันกำมือเข้าหากันแน่น ในฐานะที่เป็นเจ้านายเข้าพอจะเข้าใจ แต่เขาอายุมากกว่าก็น่าจะให้เกียรติกันบ้าง
"เชิญนั่งสิครับคุณพ่อตา ยืนคุยกันเมื่อยแย่ " ยิ่งเห็นอีกฝ่ายไม่พอใจเขาก็ยิ่งชอบ
ในเมื่ออีกฝ่ายยังคงยืนทำหน้านิ่งเหมือนหุ่นยน ภูตะวันจึงหยักไหล่อย่างไม่แคร์ ก่อนจะพูดจาถากถางให้เจ็บใจเล่น
"ก็ตามใจนะ ถ้าไม่นั่ง ก็ดีจะได้ไม่ต้องฆ่าเชื้อโรคให้เหนื่อย "
"รีบพูดธุระของคุณมา ผมมีงานต้องทำต่อ " วิชิตเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ตัวเขาสั่นด้วยความโกรธ แต่ก็ยังคงรักษาน้ำเสียงได้สุภาพดังเดิม
ภูตะวันที่พอจะสังเกตุท่าทางของอีกฝ่ายออก เขายิ้มอย่างพอใจที่ทำให้วิชิตโกรธได้
"แหมขยันเหมือนสมบัติของตัวเองอย่างไงอย่างงั้น คงคิดสินะว่าพ่อไม่ได้ ก็เอาลูกมาแทน ความคิดคุณนี่มันสุดยอดจริงๆ "
ความอดทนที่คิดว่ามีมากพอ หมดลงในทันที ที่อีกฝ่ายพูดจาดูถูกเหยียดหยาม ดูถูกเขากับลูกไม่เท่าไหร่ แต่ภูตะวันกำลังดูถูกแม่ของตัวเอง ด้วยความคิดสกปรก
"ผมไม่เคยคิดอะไรต่ำๆ แบบนั้น ดารัณมีค่ามากสำหรับผม ผมทำทุกอย่างที่เป็นความต้องการของดารัณ ถ้าคุณไม่พอใจเชิญไปคุยกับดารัณเอาเอง ผมคงต้องขอตัว มีงานต้องทำไม่มีเวลามาคุยเรื่องไร้สาระ ! "
ไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดอะไรอีก วิชิตเดินออกมาจากห้องอย่างเสียความรู้สึก ตอนแรกเขาก็คิดว่าการดัดนิสัยชายหนุ่มไม่ใช่เรื่องยาก แต่งานนี้เห็นทีลูกสาวเขาจะต้องรับศึกหนักแล้วล่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น