ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เติมรักให้เต็มใจ(yuri)

    ลำดับตอนที่ #2 : ๒.ใกล้(2.1)

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 53


    +
    +

    -

    -

    ๒.ใกล้...

    เช้าวันถัดมา ณัฏฐ์ตื่นแต่เช้าขึ้นมาชงกาแฟอุ่นๆแล้วเดินมานั่งที่หน้าโน้ตบุค และพิมพ์ตัวบทละครเรื่องใหม่อย่างขะมักเขม้น มินตราเพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จทีหลัง กลิ่นสบู่อ่อนๆโชยมาแตะจมูกให้สาวผิวน้ำผึ้งหลงเคลิ้มแอบลักลอบสูดดมเข้าไปเต็มปอดแล้วยิ้มคนเดียวเงียบๆ มินตราเดินมานั่งข้างๆหล่อนแล้วชะโงกหน้าดูนิ้วมือเรียวที่รัวบนแป้นพิมพ์อย่างสนใจ

    ณัฏฐ์ มินตราสะกิดเรียก

                    ณัฏฐ์ยังคงมีสมาธิจดจ้องกับแป้นพิมพ์ไม่กระดิกตามเสียงเรียกของมินตราและการสะกิดเมื่อครู่

                    ณัฏฐ์... มินตราเข้าไปเขย่าตัว ทำให้เขาหันมามองหน้านิ่ว

                    ขอมินเล่นบ้างสิ เธอฉีกยิ้ม

                    เอ่อ...ณัฏฐ์กำลังยุ่งอยู่อ่ะ ณัฏฐ์ละสายตาจากมินตราแล้วกำลังจะรัวแป้นพิมพ์ต่อบนโน้ตบุ๊กแต่หล่อนกลับชะงักนิ่งแล้วส่ายศีรษะน้อยๆเพราะลืม plotที่ไว้ในหัวเมื่อครู่ไปสนิท

                    เฮ้อ...ณัฏฐ์เคาะหัวเบาๆด้วยความเซ็ง

                    เมื่อกี้จะพิมพ์อะไรต่อลืมเลยเห็นไหม? ณัฏฐ์หันมามองที่มินตรา

    มินตราหน้าจ๋อย ขอโทษนะ... เธอกล่าวเสียงแผ่ว

                    สาวผิวน้ำผึ้งตัดสินใจเซฟงานไว้แล้วหันมาที่มินตราปรับสีหน้ายิ้ม

                    ขยับมาใกล้ๆมา จะให้สอนหรือจะเล่นอะไรคะ ณัฏฐ์ถามมินตราอย่างน่ารัก แล้วอมยิ้มจนลักยิ้มบุ๋มข้างซ้ายเด่นชัดขึ้นมา

                    พิมพ์ดีด...มินอยากพิมพ์เป็น มินตราบอก

    ณัฏฐ์กำลังจะขยับตัวลุกขึ้น แต่ก็โดนมินตราคว้าข้อมือไว้

                    จะไปไหนล่ะ นั่งนี่แหล่ะ

    หล่อนมองสีหน้ามินตราออกงงๆแล้วนั่งท่าเดิมตามที่มินตราบอก เพียงเสี้ยววินาทีมินตราอาศัยจังหวะความรวดเร็วนักทับบนตักของโดยที่ไม่ได้ขออนุญาติ

              เฮ้ย! มิน สาวผิวน้ำผึ้งร้องเสียงหลง

                    ร้องทำไมเสียงดัง  มานี่จับมือมินสอนเร็ว มินตราจับมือคนร่างสูงขึ้นมาวางทับบนมือเธอที่แป้นพิมพ์ แต่ณัฏฐ์กลับนั่งเกร็งเป็นหิน

                    นี่ณัฏฐ์ นั่งเป็นหุ่นยนต์แล้วมินจะเป็นไหมอ่ะ มินตราพูดทำท่าโวยวาย

                    ก็อุตส่าห์ไปเรียนถึงเมืองนอก ให้ตายพิมพ์ไม่เป็น ณัฏฐ์บุ้ยปากพึมพำ

    ...ก็จะไม่ให้เกร็งได้อย่างไรเล่า เล่นนั่งทับลงมาทั่งตัวแบบนี้ ไม่ได้เห็นใจกันเลย...

              “ฮึ่ม... สาวผิวน้ำผึ้งพ่นลมหายใจออกทางจมูก รวบรวมความกล้าอยู่นานแล้วค่อยๆจับมือเนียนนุ่มของมินตราวางบนแป้นพิมพ์ก่อนที่ตนเองจะวางมือเรียวทับด้านบนด้วยอาการประหม่าเล็กน้อย

                    นี่ จากนิ้วก้อยไปนิ้วชี้ข้างซ้ายคือ ฟ---ด ข้างขวาเริ่มจากวรรณยุกต์คือ เอก-อา--ว ส่วนนิ้วโป้งวางตรงspace bar แบบนี้ ณัฏฐ์เริ่มอธิบายอย่างจริงจัง

                    ถามจริงเหอะ ไปเรียนถึงตั้งเมืองนอก ได้ไรมาบ้าง ณัฏฐ์โพล่งถามขึ้นมา

                    เอ๊ะ ก็มินไปเรียนทำกับข้าว ไม่ได้เรียนพิมพ์ เห็นณัฏฐ์พิมพ์เก่ง สอนหน่อยไม่ได้หรอ มินตราหันมาทางณัฏฐ์แต่ด้วยความที่ทั้งสองนั่งใกล้กันมาก จมูกของของมินตราจึงเฉียดกับจมูกที่โด่งเป็นสันของหล่อน กลิ่นแป้งเด็กอ่อนโชยแตะจมูกทำให้สาวผิวน้ำผึ้งสะดุดกึกทันที

                    ณัฏฐ์มองมินตรานิ่งงันไปชั่วขณะเหมือนเวลาหยุดหมุน แต่หัวใจกลับกระหน่ำรั่วถี่โดยไม่รู้สาเหตุ

    มินตรามองดวงตาอันคมเข้มสาวผวน้ำผึ้งที่ชวนมองเพลินอย่างมีเสน่ห์

    ทั้งสองคนนั่งมองตากันพักใหญ่นิ่ง สักพักเสียงริงโทนโทรศัพท์ของมินตราก็ดังขึ้น

                    ...จะให้ฉันทำยังไง จะให้ถอนหัวใจจากเธอ ก็คงสายจนเกินไป...

    ณัฏฐ์หลับตาลงสะกดกลั้นความรู้สึกที่เกิดขึ้นพร้อมๆกับเสียงเพลง ซึ่งตอนนี้เหมือนเป็นเพลงเตือนใจให้หยุดความรู้สึกเอาไว้เพียงเท่านี้แต่ทางมินตรากลับรีบผลุดลุกขึ้นผละออกจากตัวณัฏฐ์แล้วรีบรับโทรศัพท์

    สวัสดีค่ะ...

    เอ่อ จากกองนักข่าวนะคะ คือ มีคนที่ลงสายการบินเมื่อวานซืนเขาเห็นคุณมินตรา บินกลับมาที่เมืองไทยแล้ว ไม่ทราบว่า เอ่อ...จริงใช่ไหมคะ นักข่าวผู้หญิงเสียงใสถามเธอผ่านทางโทรศัพท์ทันทีที่ได้ยินเสียงเธอรับสาย

    มินตราหน้าเหวอไป เอ่อ...ค่ะ

    ณัฏฐ์เงยหน้ามองแล้วแอบขำมินตราทำหน้าแก้มป่อง ขมวดคิ้วโก่งชนกันไม่พอใจ

    แล้วจะรับงานละครต่อเลยหรือเปล่าคะ?นักข่าวยังคงถามต่อ

    คือพี่นักข่าว มินกลับมาจากอังกฤษนี่มินยังไม่ได้พักเลยนะคะ ขอพักสักช่วงแล้วเดี๋ยวยังไงมีผลงานพวกพี่ก็รู้เองล่ะค่ะ มินตราตอบกับนักข่าว เธอคุยโทรศัพท์สักพักแล้วเธอก็วางสายไปสีหน้าแหย

    ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ ณัฏฐ์ละสายตาจากโน้ตบุ๊กเท้าคางมองมินตรา

    ก็นักข่าวสิ โทรมาถามฉันว่ากลับมาเมืองไทยรึยัง

    แล้ว...

    มินตราเดินมาทิ้งตัวที่โซฟา แล้วมินก็บอกว่ากลับมาแล้ว เค้าเลยถามเรื่องละครต่อ มินบอกยังไม่รับ เค้าเลยขออนุญาติเอาข่าวเรื่องกลับมาแล้วลงข่าว... มินตราร้องเสียงครางจนณัฏฐ์อดยิ้มกับท่าทางที่เหมือนเด็กขี้งอแงไม่ได้

    ก็ช่างสิ ยังไม่ชินอีกหรือไง? สาวร่างโปร่งลุกขึ้นจากโน้ตบุคแล้วเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ

    แต่มินตราเผลอกรีดร้องออกมาจนทำให้ณัฏฐ์สะดุ้งเฮือกตกใจ

    อ๊าย! พักก็ไม่ได้พัก หัวใจก็ยังไม่โอเค อะไรกันเนี่ย!!! มินน้อยๆช่างน่าสงสารเวทนา มินตราปิดหน้าบิดตัวดิ้นไปมาบนโซฟาจนทำให้คนที่มองเธออยู่หัวเราะร่วน

    ช่วยไม่ได้ล่ะน้า คนจับตามองก็เพราะสวยเอง... หล่อนพึมพำออกมาเบาๆ

    ว่าไงนะ? มินตราเปิดหน้าทันทีแล้วลุกเด้งหันมามอง

    เปล๊า ใครอะไร ไม่มี เขาทำหน้าเบือนหนีผิวปากกลบเกลื่อน

    ก็เมื่อกี้ได้ยิน อะไรสวยๆ? มินตราลุกขึ้นนั่งชะโงกไปทางณัฏฐ์

    เอ้อ หิวและท้องร้องจ๊อกๆ ไหนฝีมือกุ๊กแถวนี้ ทำอะไรอร่อยๆให้กินได้บ้างน้า... หล่อนชวนเปลี่ยนเรื่อง

    มินตราเกาหัวแกรกๆไม่เข้าใจท่าทางของณัฏฐ์แต่ก็ลุกนำไปที่ห้องครัวเพื่อทำกับข้าวโดยดี

    ณัฏฐ์มองตามหลังแล้วแอบอมยิ้มกับตัวเอง

     

    ที่บ้านของพีรเพชร เขาขับรถสปอร์ตสีขาวมาจอดด้านหน้าประตูบ้าน และกระแทกปิดประตูรถพร้อมกับส่งกุญแจให้คนขับรถเอารถไปเก็บอย่างหงุดหงิด เขาเดินมาที่เก้าอี้หลุยส์และโยนกระเป๋าทำงานวางบนโต๊ะไม้ซึ่งอยู่ใกล้กันอย่างเซ็งๆ

    ไปไหนกันหมดวะ!” พีรเพชรโวยวายเมื่อเห็นบ้านเงียบผิดปกติ

    ขา.... แจ๋ว ที่เป็นคนใช้ในบ้านถือไม้ปัดขนไก่รีบวิ่งเข้ามาหา

    เอาน้ำหวานๆเย็นๆมาให้ฉันกินทีซิ พีรเพชรหงุดหงิด

    ค่ะ... แจ๋วยิ้มแล้วรีบแจ้นไปที่ห้องครัว

    พีรเพชร เป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลวงศ์พิทักษ์ เขาเป็นคนรูปร่างดีและมีเสน่ห์ด้วยคารมคำคายชอบเอาใจสาวๆมากมาย ด้วยความที่เป็นคนสูงโปร่ง ผิวขาว ใบหน้าใสชวนมองต่อสายตาคนรอบนอกและหญิงสาวทั่วไป อีกทั้งเป็นคนที่มีเงินมากที่สุดเนื่องจากพ่อของเขาเป็นประธานบริษัทแบรนด์ออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้าโลโก้ คอสโมพลัสชื่อดังและส่งสินค้าออกขายต่างประเทศอย่างแพร่หลาย เขาเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี เอาใจเก่ง แต่ก็เป็นผู้ชาย Play boy ที่นิยมแสงสี กินเที่ยวไปวันๆ จนมีผู้หญิงหลายคนมาติดพันเขาเต็มไปหมด แต่คนอย่างพีรเพชรกลับเอาตัวรอดเก่ง เขามักสับรางและเป็นคนที่เลือกได้เสมอ

              “นี่ค่ะ คุณเพชร น้ำเย็นๆได้แล้วค่ะ แจ๋วนำน้ำแดงใส่แก้วให้กับพีรเพชร

    พีรเพชรรับมาดื่ม แล้วก็บ้วนลงกับพื้นทันที น้ำอะไรของแกวะ จืดอย่างกับน้ำเปล่า

    แจ๋วสะดุ้ง ก็น้ำแดงหวานๆไงคะ

    หวานบ้าบออะไร ฉันกินน้ำเปล่าดีกว่ามั้ง เอาไปเก็บ วุ้ยหงุดหงิด!” พีรเพชรวางแก้วกระแทกกับโต๊ะจนสาวใช้ต้องหรี่ตาอย่างขยาดกลัวว่าแก้วจะแตก พลางเหลียวตามองตามหลังคนร่างสูงที่เดินฉับๆขึ้นไปบนบ้าน

    พีรเพชรเดินปึงปังขึ้นบันได จนพีรดาผู้เป็นแม่ชะโงกหน้าออกมาจากห้องมองลูกชายอย่างเป็นห่วง เป็นไรไปล่ะลูก หน้าตาไม่ดีเลย

    จะอะไรอีกล่ะครับคุณแม่ ก็น้องมินตราสิมาบอกเลิกผมพีรเพชรเกาหัวยุ่ง

    เอ้า เป็นไงมาไงล่ะเนี่ย? พีรดาซักความ

    เขาคงไปเห็นผมที่บ้านนอนกับผู้หญิงคนอื่น ก็คิดดูสิครับ มันเป็นธรรมชาติของผู้ชาย ทำเป็นรับไม่ได้...

    พีรเพชรอธิบายพยายามหาคนเข้าข้างตนเองสุดความสามารถ

    โอ๋ลูก แม่เข้าใจ แต่ลูกก็ควรง้อน้องนะ เราเป็นคนที่ใครก็รู้จัก เดี๋ยวชื่อเสียงจะเสียหายกันหมด พีรดาเข้ามาลูบหัวปลอบพีรเพชรอย่างเอาใจ

    ไม่ล่ะครับพีรเพชรลุกขึ้นเบี่ยงตัวออกจากพีรดาทันที ผมไม่ง้อผู้หญิง มันเสียศักดิ์ศรี พีรเพชรหันหลังให้กับพีรดาหน้ายุ่ง พลางนึกในใจ...ก็เขาหน้าตาดี เงินก็มี ใครๆก็อยากจะเข้ามา เรื่องอะไรจะให้ไปง้อ...

     โอ๊ะ ไม่ได้นะลูก พอเป็นข่าวเดี๋ยวงานเราก็ขาดทุน งานไม่มากันพอดี รีบๆไปคืนดีกับน้องเขาซะนะ พีรดาเดินมาฉุดข้อมือของพีรเพชรให้เย็นลง

    นี่เพชร ลูกเป็นผู้ชาย ถ้าไม่ได้ก็รวบสิลูก ง่ายจะตายไป ถึงวันนั้นมินก็ปฏิเสธไรไม่ได้หรอก... พีรดาให้ข้อเสนออย่างมีเลศนัย

    พีรเพชรมองหน้าแม่แล้วคิดตาม อมยิ้มอย่างมีแผน ก็ใช่นะครับ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×