คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ||MARK LEE|| -A-
MARK LEE
-A-
.Action.
-คนเราสามารถแสดงออกได้กี่แบบกัน และอันไหนคือเรื่องจริง?
ในเช้าที่อากาศดีเหมาะแก่การนั่งร้านกาแฟเงียบๆสักแห่ง เพียงแต่เหมือนแฟนคลับที่รักของลูคัสจะมีอยู่ทุกที่ แม้แต่ในเกาหลีที่ไกลจากฮ่องกงมานับพันไมล์ การนั่งชิวๆในร้านกาแฟเจ้าประจำจึงเป็นสิ่งที่ยากลำบากเมื่อต้องทำงานกับแฟนเก่า บทนิยายเก่า มีทวนความรู้สึกเก่าๆอีก ช่วงนี้ชีวิตคลาสสิคดีนะว่าไหม…
มาร์คไม่ค่อยชอบพาร่างตัวเองไปเผชิญแดดเผชิญฝนตากลมสักเท่าไหร่ ที่บ้านยังเป็นสวรรค์แสนสุขสบายที่มีทุกอย่างพร้อมในการใช้ชีวิตง่ายๆ แต่งนิยายไปวันๆ มาร์คนัดลูคัสมาที่นี่เพราะลูคัสบอกเขาว่าเอาตามที่สะดวก เขาไม่ได้กลัวการให้แฟนเก่ามาเยี่ยมบ้านหลังใหม่เท่าไหร่ เขาสร้างมันสำหรับความทรงจำไหม่ๆ ลูคัสก็จะมีสถานะใหม่ว่าเพื่อนร่วมงานที่เคยเป็นแฟนเก่า ในอนาคตอาจจะเป็นเพื่อนสนิทกันก็ได้ใคนจะรู้ เรายังต้องพึ่งพาอาศัยทำงานด้วยกัน มาร์คไม่ใช่เด็กเมื่อวานซืนไร้สาระไปวันๆแล้ว
ตราบใดที่ยังต้องกินต้องใช้ การพบปะกับคนมากหน้าหลายตาเป็นเรื่องประจำไปสำหรับเขา ทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ คนที่ไม่คิดว่าจะเข้ากันได้แต่เมื่อทำงานร่วมกันก็ต้องตัดความรู้สึกออก ทนรับมันให้ได้ ใจเย็นเข้าไว้ ทุกคนไม่ได้ดีขาวสะอาดเหมือนกันหมด มาร์คเริ่มลดนิสัยเสียๆลงพอเจอกับคนมากๆเข้า รู้ว่าตัวเองควรทำยังไงตอนเจอคนแบบไหน
“อรุณสวัสดิ์ มาเร็วนะ”
หัวยุ่งกับมือที่ปิดปากตัวเองที่กับลังหาววอดอยู่หน้าประตู แว่นตากลมเหมือนจะหลุดอยู่เต็มที มาร์คลีพึ่งตื่นนอนตอนได้ยินเสียงกริ๊งของคนที่นัดไว้ ตอนนี้สภาพเจ้าบ้านดูตลกนิดหน่อยแต่มาร์คดูจะไม่ใส่ใจเท่าไหร่ว่าสภาพตัวเองเป็นยังไง กับลูคัสอ่ะนะ อยู่ด้วยกันก็เคยอยู่มาแล้ว เห็นหมดแล้วจนไม่ต้องคีพลุคแล้วล่ะ
“สวนสวยดีนะ”
“ทำเองกับมือ”
คนตัวเล็กตอบอย่างภูมิใจ ก่อนจะมาเป็นสวนสวยๆนี่เขาก็เสียเมล็ดพันธ์ไปเยอะกับการทดลองปลูกเองแบบไม่มีไกด์ช่วยสอน ตอนมันออกดอกเบ่งบานทีแทบน้ำตาไหล ไม่น่าเชื่อว่าจะเลี้ยงดูดอกไม้ต้นหนึ่งโตมาได้ขนาดนี้
“รีบไปอาบน้ำก่อนไป”
“อื้อๆ นั่งดูทีวีก่อนก็ได้นะ”
มาร์คพาลูคัสมาที่หน้าห้องนั่งเล่นก่อนจะเดินกลับห้องตัวเองไปจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้ตัวเองดูดี ถึงจะสนิทกันแต่ตอนทำงานมันอีกเรื่องเสมอ
“กินอะไรไหม?”
“จะทำให้รึไง”
เหมือนจะโชคดีที่วันนี้มีพ่อครัวเฉพาะเวลาให้ตอนนี้ อาหารฝีมือลูคัสน่ะ อร่อยมากๆเพราะแม่ของลูคัสทำร้านอาหาร มาร์คเองก็ชอบมากๆ คิดถึงเหมือนกันเมื่อก่อนก็มีลูคัสทำให้กินบ่อยๆ
“อืม”
“งั้นเอาข้าวห่อไข่”
“รีบไปอาบน้ำ”
“ครับๆ”
มาร์คตะโกนตอบรับแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำตัวเอง เขากลับออกมาอีกทีพร้อมกับกางเกงขายาวสีดำกับเสื้อยืดง่ายๆที่ใส่อยู่บ้านตลอด มาร์คมีเสื้อแบบนี้เยอะเลยล่ะ กลิ่นหอมลอยผ่านอากาศมาเรียกคนตัวเล็กไปที่จานอาหารบนโต๊ะ ลูคัสไปนั่งดูทีวีแล้ว มาร์คพึ่งสังเกต...วันนี้ลูคัสก็ใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงขายาวเหมือนกัน คิดถึงตอนคบกันไหม่ๆที่ต้องใช้ไอเทมคู่กันตลอดเหมือนกัน วันนี้เหมือนวันระลึกเรื่องเก่าๆของมาร์คในรอบหนึ่งปี ความรู้สึกเขาตอนนี้ไม่ได้ใจเต้นตึกตักตอนเราใจตรงกันหรือมองตากันแล้ว เรื่องบังเอิญมีอยู่ในโลกมากมาย เรื่องของมาร์คกับลูคัสก็นับเป็นความมหัสจรรย์ของความบังเอิญที่พาสองคนวนมาเจอกัน
อันนี้โรแมนติกขอจดไว้เป็นไอเดียตอนเขียนนิยายหน่อย
“เคยอ่านมันแล้วใช่ไหม?”
คนตัวเล็กเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับยื่นหนังสือเล่มหนามาให้
“เนื้อเรื่องมันเปลี่ยนไป”
“ความจำสุดยอด คิดว่าจะไม่รู้สึกแล้ว”
มาร์คตรบมือให้ลูคัส นิยายของเขาที่กำลังจะถูกเอาไปสร้างคือเรื่องราวของผู้ชายที่ย้อนเวลาได้หนึ่งนาที เหมือนจะไร้ค่า แต่ทุกวินาทีล้วนมีคุณค่าเสมอ และคนรักของเขากำลังจะตาย หนึ่งนาทีที่มีค่ากับการย้อนเวลาช่วยเหลือคนรักดูโรแมนติกและน่าสนใจอยู่ใช่ไหมล่ะ ว่าหนึ่งนาทีนั้นจะเปลี่ยนอะไรได้บ้าง
“เมื่อก่อนตอนจบของมันไม่ได้เป็นแบบนี้”
“จบแบบ Happy Ending มันไม่น่าจดจำหนิ”
“ก็ไม่เห็นต้องให้พระเอกตาบอดเลย”
อ่าใช่… ทุกครั้งที่ย้อนเวลาตัวพระเอกจะยิ่งสูญเสียการมองเห็น และถึงเขาจะช่วยคนรักรอดพ้นจากความตายมานับพันครั้งจนตาบอด แต่คนรักของเขาไม่ได้รู้เรื่อง เธอทิ้งเขาและหาโอกาสที่ดีกว่าให้ตัวเอง คุ้นๆไหม… เรื่องของเขากับลูคัสก็อาจจะคล้ายๆกันก็ได้ มาร์คอาจจะเป็นผู้ชายที่พยายามช่วยเขาอยู่ข้างหลัง ส่วนลูคัสอาจจะไม่เคยรู้ เขากลายเป็นตัวถ่วงอยู่ข้างหลัง ส่วนอีกคนก็เลือกทางที่ดีกว่า โลกทั้งใบของชายตาบอดก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มันมืดมิด สุดท้ายของเรื่องนี้ชายตาบอดอาศัยอยู่กับหมาแก่และสิ้นลมหายใจไปพร้อมกับตะวันที่ลับขอบฟ้า นิยายของเขาจบลงแล้ว
“ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆหนิ”
“ความรู้สึกไง”
“ให้ไปแต่ไม่เคยได้รับกลับเขาเรียกว่ายุติธรรมรึไงคุณลูคัส”
“มันสัมผัสได้ด้วยเหรอถึงรู้ว่าไม่ได้รับกลับ”
“ใช้ใจสัมผัสก็รู้”
“...เหรอ”
“งั้นลองใช้ใจสัมผัสหน่อยสิ ตอนนี้ความรู้สึกลูคัสเป็นยังไง”
คนตัวสูงหันมาหาเขาพร้อมกับจับมือเล็กมาที่อกข้างซ้ายของเขา
“รู้ไหมว่ารู้สึกยังไง”
ลูคัสถามคนตัวเล็กที่กำลังสัมผัสหัวใจของเขาที่มันกำลังเต้นตึกตักอยู่ในมือ
“นี่มือสัมผัสใจ ใครจะรู้”
มือเล็กดึงมือตัวเองออกจากเขตอันตราย นั่งตีหน้านิ่งกอดออกอยู่ไม่ไกล
“แล้วต้องสัมผัสใจยังไงถึงจะรู้”
มือหนารวบเอวเล็กคนตัวผอมปลิวตามแรงอย่างง่ายดาย ใบหน้าคมอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่เซ็น แผ่นหลังของเขาแนบชิดกับอกแกร่ง ดวงตาคู่สวยพริ้มตาหลับลงบนบ่าของเขา เหมือนวันนี้จะเป็นวันระลึกความหลังให้กับความรู้สึกเก่าๆด้วยสิ ใจมาร์คเต้นแรงขึ้นตอนที่อยู่บนตักและแนบชิดกัน
“ตรงนี้ใจมาร์คกับใจลูคัสไกล้กันรึยัง”
“ใช้ใจสัมผัสของมาร์คบอกหน่อยสิ เราใจตรงกันรึเปล่า?”
“มันไกล้ขึ้นบ้างไหม”
“หัวใจเต้นเร็วเหมือนกันรึเปล่า? ตอนที่เราอยู่ด้วยกัน”
มาร์คจะตอบกลับไปยังไงดีกับความรู้สึกของตัวเอง ตอนนี้ คำตอบของมาร์คคือใช่...หัวใจเขาทำงานหนักตอนแนบชิดกับลูคัสจนเหมือนมันจะทะลุออกมาแล้ว แต่มาร์คไม่กล้าพูดได้หรอกเราใจตรงกัน
เราต่างกันตรงที่มาร์คไม่อยากเป็นเหมือนเดิม…
โลกทั้งใบของมาร์คมีทุกอย่างเพียงพออยู่ในบ้านหลังนี้แล้ว
เขาไม่ยอมทำมันพังหรอก
หัวใจนี้ก็เหมือนกัน ต่อให้เต้นแรงแค่ไหนก็ไม่มีวันทะลุกำแพงร่างกายเขาหรอก
“ปล่อยได้แล้ว ไม่ทำงานก็กลับบ้าน”
“มันรบกวน”
ความคิดเห็น