ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -1 day with Lumark.-

    ลำดับตอนที่ #2 : ||MARK LEE|| -A-

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 61





    MARK LEE


    -A-

    .Action.



    -คนเราสามารถแสดงออกได้กี่แบบกัน และอันไหนคือเรื่องจริง?


    ในเช้าที่อากาศดีเหมาะแก่การนั่งร้านกาแฟเงียบๆสักแห่ง เพียงแต่เหมือนแฟนคลับที่รักของลูคัสจะมีอยู่ทุกที่ แม้แต่ในเกาหลีที่ไกลจากฮ่องกงมานับพันไมล์ การนั่งชิวๆในร้านกาแฟเจ้าประจำจึงเป็นสิ่งที่ยากลำบากเมื่อต้องทำงานกับแฟนเก่า บทนิยายเก่า มีทวนความรู้สึกเก่าๆอีก ช่วงนี้ชีวิตคลาสสิคดีนะว่าไหม…


    มาร์คไม่ค่อยชอบพาร่างตัวเองไปเผชิญแดดเผชิญฝนตากลมสักเท่าไหร่ ที่บ้านยังเป็นสวรรค์แสนสุขสบายที่มีทุกอย่างพร้อมในการใช้ชีวิตง่ายๆ แต่งนิยายไปวันๆ มาร์คนัดลูคัสมาที่นี่เพราะลูคัสบอกเขาว่าเอาตามที่สะดวก เขาไม่ได้กลัวการให้แฟนเก่ามาเยี่ยมบ้านหลังใหม่เท่าไหร่ เขาสร้างมันสำหรับความทรงจำไหม่ๆ ลูคัสก็จะมีสถานะใหม่ว่าเพื่อนร่วมงานที่เคยเป็นแฟนเก่า ในอนาคตอาจจะเป็นเพื่อนสนิทกันก็ได้ใคนจะรู้ เรายังต้องพึ่งพาอาศัยทำงานด้วยกัน มาร์คไม่ใช่เด็กเมื่อวานซืนไร้สาระไปวันๆแล้ว


    ตราบใดที่ยังต้องกินต้องใช้ การพบปะกับคนมากหน้าหลายตาเป็นเรื่องประจำไปสำหรับเขา ทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ คนที่ไม่คิดว่าจะเข้ากันได้แต่เมื่อทำงานร่วมกันก็ต้องตัดความรู้สึกออก ทนรับมันให้ได้ ใจเย็นเข้าไว้ ทุกคนไม่ได้ดีขาวสะอาดเหมือนกันหมด มาร์คเริ่มลดนิสัยเสียๆลงพอเจอกับคนมากๆเข้า รู้ว่าตัวเองควรทำยังไงตอนเจอคนแบบไหน


    “อรุณสวัสดิ์ มาเร็วนะ”


    หัวยุ่งกับมือที่ปิดปากตัวเองที่กับลังหาววอดอยู่หน้าประตู แว่นตากลมเหมือนจะหลุดอยู่เต็มที มาร์คลีพึ่งตื่นนอนตอนได้ยินเสียงกริ๊งของคนที่นัดไว้ ตอนนี้สภาพเจ้าบ้านดูตลกนิดหน่อยแต่มาร์คดูจะไม่ใส่ใจเท่าไหร่ว่าสภาพตัวเองเป็นยังไง กับลูคัสอ่ะนะ อยู่ด้วยกันก็เคยอยู่มาแล้ว เห็นหมดแล้วจนไม่ต้องคีพลุคแล้วล่ะ


    “สวนสวยดีนะ”

    “ทำเองกับมือ”


    คนตัวเล็กตอบอย่างภูมิใจ ก่อนจะมาเป็นสวนสวยๆนี่เขาก็เสียเมล็ดพันธ์ไปเยอะกับการทดลองปลูกเองแบบไม่มีไกด์ช่วยสอน ตอนมันออกดอกเบ่งบานทีแทบน้ำตาไหล ไม่น่าเชื่อว่าจะเลี้ยงดูดอกไม้ต้นหนึ่งโตมาได้ขนาดนี้


    “รีบไปอาบน้ำก่อนไป”

    “อื้อๆ นั่งดูทีวีก่อนก็ได้นะ”


    มาร์คพาลูคัสมาที่หน้าห้องนั่งเล่นก่อนจะเดินกลับห้องตัวเองไปจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้ตัวเองดูดี ถึงจะสนิทกันแต่ตอนทำงานมันอีกเรื่องเสมอ


    “กินอะไรไหม?”

    “จะทำให้รึไง”


    เหมือนจะโชคดีที่วันนี้มีพ่อครัวเฉพาะเวลาให้ตอนนี้ อาหารฝีมือลูคัสน่ะ อร่อยมากๆเพราะแม่ของลูคัสทำร้านอาหาร มาร์คเองก็ชอบมากๆ คิดถึงเหมือนกันเมื่อก่อนก็มีลูคัสทำให้กินบ่อยๆ


    “อืม”

    “งั้นเอาข้าวห่อไข่”

    “รีบไปอาบน้ำ”

    “ครับๆ”


    มาร์คตะโกนตอบรับแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำตัวเอง เขากลับออกมาอีกทีพร้อมกับกางเกงขายาวสีดำกับเสื้อยืดง่ายๆที่ใส่อยู่บ้านตลอด มาร์คมีเสื้อแบบนี้เยอะเลยล่ะ กลิ่นหอมลอยผ่านอากาศมาเรียกคนตัวเล็กไปที่จานอาหารบนโต๊ะ ลูคัสไปนั่งดูทีวีแล้ว มาร์คพึ่งสังเกต...วันนี้ลูคัสก็ใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงขายาวเหมือนกัน คิดถึงตอนคบกันไหม่ๆที่ต้องใช้ไอเทมคู่กันตลอดเหมือนกัน วันนี้เหมือนวันระลึกเรื่องเก่าๆของมาร์คในรอบหนึ่งปี ความรู้สึกเขาตอนนี้ไม่ได้ใจเต้นตึกตักตอนเราใจตรงกันหรือมองตากันแล้ว เรื่องบังเอิญมีอยู่ในโลกมากมาย เรื่องของมาร์คกับลูคัสก็นับเป็นความมหัสจรรย์ของความบังเอิญที่พาสองคนวนมาเจอกัน


    อันนี้โรแมนติกขอจดไว้เป็นไอเดียตอนเขียนนิยายหน่อย



    “เคยอ่านมันแล้วใช่ไหม?”


    คนตัวเล็กเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับยื่นหนังสือเล่มหนามาให้


    “เนื้อเรื่องมันเปลี่ยนไป”

    “ความจำสุดยอด คิดว่าจะไม่รู้สึกแล้ว”


    มาร์คตรบมือให้ลูคัส นิยายของเขาที่กำลังจะถูกเอาไปสร้างคือเรื่องราวของผู้ชายที่ย้อนเวลาได้หนึ่งนาที เหมือนจะไร้ค่า แต่ทุกวินาทีล้วนมีคุณค่าเสมอ และคนรักของเขากำลังจะตาย หนึ่งนาทีที่มีค่ากับการย้อนเวลาช่วยเหลือคนรักดูโรแมนติกและน่าสนใจอยู่ใช่ไหมล่ะ ว่าหนึ่งนาทีนั้นจะเปลี่ยนอะไรได้บ้าง


    “เมื่อก่อนตอนจบของมันไม่ได้เป็นแบบนี้”

    “จบแบบ Happy Ending มันไม่น่าจดจำหนิ”

    “ก็ไม่เห็นต้องให้พระเอกตาบอดเลย”


    อ่าใช่… ทุกครั้งที่ย้อนเวลาตัวพระเอกจะยิ่งสูญเสียการมองเห็น และถึงเขาจะช่วยคนรักรอดพ้นจากความตายมานับพันครั้งจนตาบอด แต่คนรักของเขาไม่ได้รู้เรื่อง เธอทิ้งเขาและหาโอกาสที่ดีกว่าให้ตัวเอง คุ้นๆไหม… เรื่องของเขากับลูคัสก็อาจจะคล้ายๆกันก็ได้ มาร์คอาจจะเป็นผู้ชายที่พยายามช่วยเขาอยู่ข้างหลัง ส่วนลูคัสอาจจะไม่เคยรู้ เขากลายเป็นตัวถ่วงอยู่ข้างหลัง ส่วนอีกคนก็เลือกทางที่ดีกว่า โลกทั้งใบของชายตาบอดก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มันมืดมิด สุดท้ายของเรื่องนี้ชายตาบอดอาศัยอยู่กับหมาแก่และสิ้นลมหายใจไปพร้อมกับตะวันที่ลับขอบฟ้า นิยายของเขาจบลงแล้ว


    “ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆหนิ”

    “ความรู้สึกไง”

    “ให้ไปแต่ไม่เคยได้รับกลับเขาเรียกว่ายุติธรรมรึไงคุณลูคัส”

    “มันสัมผัสได้ด้วยเหรอถึงรู้ว่าไม่ได้รับกลับ”

    “ใช้ใจสัมผัสก็รู้”

    “...เหรอ”


    “งั้นลองใช้ใจสัมผัสหน่อยสิ ตอนนี้ความรู้สึกลูคัสเป็นยังไง”


    คนตัวสูงหันมาหาเขาพร้อมกับจับมือเล็กมาที่อกข้างซ้ายของเขา


    “รู้ไหมว่ารู้สึกยังไง”


    ลูคัสถามคนตัวเล็กที่กำลังสัมผัสหัวใจของเขาที่มันกำลังเต้นตึกตักอยู่ในมือ


    “นี่มือสัมผัสใจ ใครจะรู้”


    มือเล็กดึงมือตัวเองออกจากเขตอันตราย นั่งตีหน้านิ่งกอดออกอยู่ไม่ไกล


    “แล้วต้องสัมผัสใจยังไงถึงจะรู้”


    มือหนารวบเอวเล็กคนตัวผอมปลิวตามแรงอย่างง่ายดาย ใบหน้าคมอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่เซ็น แผ่นหลังของเขาแนบชิดกับอกแกร่ง ดวงตาคู่สวยพริ้มตาหลับลงบนบ่าของเขา เหมือนวันนี้จะเป็นวันระลึกความหลังให้กับความรู้สึกเก่าๆด้วยสิ ใจมาร์คเต้นแรงขึ้นตอนที่อยู่บนตักและแนบชิดกัน


    “ตรงนี้ใจมาร์คกับใจลูคัสไกล้กันรึยัง”


    “ใช้ใจสัมผัสของมาร์คบอกหน่อยสิ เราใจตรงกันรึเปล่า?”


    “มันไกล้ขึ้นบ้างไหม”


    หัวใจเต้นเร็วเหมือนกันรึเปล่า? ตอนที่เราอยู่ด้วยกัน”


    มาร์คจะตอบกลับไปยังไงดีกับความรู้สึกของตัวเอง ตอนนี้ คำตอบของมาร์คคือใช่...หัวใจเขาทำงานหนักตอนแนบชิดกับลูคัสจนเหมือนมันจะทะลุออกมาแล้ว แต่มาร์คไม่กล้าพูดได้หรอกเราใจตรงกัน


    เราต่างกันตรงที่มาร์คไม่อยากเป็นเหมือนเดิม…


    โลกทั้งใบของมาร์คมีทุกอย่างเพียงพออยู่ในบ้านหลังนี้แล้ว


    เขาไม่ยอมทำมันพังหรอก


    หัวใจนี้ก็เหมือนกัน ต่อให้เต้นแรงแค่ไหนก็ไม่มีวันทะลุกำแพงร่างกายเขาหรอก


    “ปล่อยได้แล้ว ไม่ทำงานก็กลับบ้าน”


    “มันรบกวน”




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×