ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Alone::โคตรเศร้า..ผมเขา...และคุณ

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter3:ใคร?

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 58


    Chapter 3

    ผมลืมตาขึ้นช้าๆ แสงไฟแยงเข้ามาในตาทำให้ผมต้องหรี่ตาลง ไม่นานผมก็ปรับโฟกัส เพดานสีขาวแบบนี้ โรงพยาบาลชัวร์ ผมค่อยๆ ขยับนิ้วตัวเองเพื่อเรียกประสาทรับรู้ การขยับแต่ละนิ้วยังคงลำบากเหมือนเคย

    น้ำเกลือที่เสียบอยู่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แถมเพิ่มความเจ็บให้อีกต่างหาก..

    ผมใช้มือข้างที่ไม่มีสายน้ำเกลือยันตัวขึ้น

    “จะทำไร?” เสียงคุ้นหูดังขึ้นนิ่งๆ ผมหันไปมอง ...คุณเกรน..?

    ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงงว่า คุณเกรนมาที่นี่ได้อย่างไร

    “นอนลงไป” เขาพูดขึ้นอีกครั้ง ผมรีบเด้งตัวนอนลงทันที

    อุก.... สงสัยจะแรงไป ทำให้ผมรู้สึกนิดๆ เพราะขยับเร็วๆ หลังจากเพิ่งตื่นขึ้นมา

    แอบได้ยินเสียงคุณเกรน จิ๊ ปากเบาๆ อย่างไม่พอใจ..

    เพราะผมอีกแล้วสินะ..

    “คุณ....” ผมลากเสียงยาว เหมือนกับว่าไม่แน่ใจว่าจะพูดดีมั้ย

    “กูโทรหามึง แต่เพื่อนมึงรับสาย กูเลยตามมา ส่วนเพื่อนมึงกูไล่กลับไปนาน แล้ว” คุณเกรนตอบมายาว ทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้พูดอะไร ไม่สิ... ทั้งๆ ที่ผมยังพูดไม่จบ

    ผมพยักหน้าเข้าใจ แล้วหลบสายตามามองตัวเอง ผ้าห่มสีขาวสะอาดลงไปกองอยู่ที่ขอบเอว ผลมาจากการลุกขึ้นนั่งของผมเมื่อกี้ เสื้อสีเขียวอ่อนๆ แสดงถึงสถานะว่า ผมเป็นคนไข้เลิกขึ้นมานิดๆ จากการที่ผมล้มตัวนอนงอย่างแรง

    มือหนาดึงชายเสื้อผมลงไปปิด พุงที่โผล่ ออกมา แล้วดึงผ้าห่มขึ้นให้ผมจนถึงไหล่

    ผมมองการกระทำแปลกๆ ของคนตรงหน้า ด้วยความรู้สึกที่...เรียกว่า อบอุ่น.. มั้ง

    ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองผม มือหน้ายกขึ้นจากพุงมาที่ใบหน้าผมช้าๆ แล้วเกลี่ยผมที่ทิ่มตาผมอยู่ ออกเบาๆ

    ผมมองหน้าคุณเกรนอย่างไม่เข้าใจ สายตาที่แสดงถึงความ ห่วงใยส่งมาถึงผม... สายตาที่ผมแทบไม่เคยได้รับมากว่า 19 ปี ผมมองคุณเกรนนิ่งค้าง สายตาเราสอดประสานกัน น่าแปลกที่ผมไม่หลบตาอย่างทุกครั้ง สายตาที่ผมเฝ้ารอมานาน รอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนที่ เคยแต่ทำหน้าโมโห อยู่ตลอดเวลา ผมรู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ราวกับว่านี่คือความฝัน

    ใบหน้าคุณเกรนเลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ลมหายใจอุ่นๆ ปะทะกับปลายจมูกของผม รู้สึกเหมือน ช่วงเวลาได้หยุดไป ทุกๆ สิ่งหยุดเคลื่อนไหว ยกเว้นแต่ใบหน้าของคนข้างหน้า และ หัวใจผมที่เต้นถี่รัวขึ้น ปากผมเผยอออกเล็กน้อยโดยที่ผมไม่รู้สึกตัว ลมหายใจอุ่นๆ ใกล้เข้ามาจนปลายจมูกเราสัมผัสกัน

    ฟุ่บ! อยู่ๆ คุณเกรนก็ชะงัก แล้ว ดึงหน้าออกอย่างและหันหน้าหนีไปอีกข้างอย่างรวดเร็ว

    แกร็ก! ประตูสีขาวถูกเปิดออกเบาๆ พร้อมกับชายในชุดกาวน์ และพยาบาลสาวอีกหนึ่งคน เธอเข็นที่วาง อุปกรณ์ ต่างๆ ตามเข้ามา

    “ตื่นแล้วหรอครับ?” คุณหมอถามยิ้มๆ ผมพยักหน้าช้าๆ สติผมยังคงอยู่กับเหตุการณ์ก่อนหน้า ความรู้สึกที่ลมหายใจอุ่นๆ ปะทะกับปลายจมูก ยังคงตราอยู่ในใจ

    “ไข้ยังขึ้นอยู่หรอ หน้าแดงเชียว” หมอถาม ผมรีบยกมือขึ้นจับแก้มตัวเอง ดัง แป๊ะ!

    อุ่นๆ จริงๆ ด้วย นี่ผมหน้าแดงหรอ แต่ผมรู้สึกว่าไม่มีไข้แล้วนะ?

    “หมอขอตรวจร่างกายหน่อยแล้วกัน” หมอว่าพลางรูดม่านปิด แล้วหันมายิ้มให้ผม พยาบาลที่ตามมา เอาปลอกวัดความดันมารัดแขนผม และ วัดไข้ นู่นนี่นั่น

    หมอเดินมาอีกฝั่งของเตียง

    “ยังเจ็บหน้าท้องอยู่มั้ย?”

    “นิดหน่อยครับ” ผมตอบ หมอพยักหน้าเข้าใจ แล้วหมอก็เลิกเสื้อเขียวๆบางๆ ขึ้น วางมือลงบนหน้าท้อง หรือพุง ของผมเบาๆ ก่อนที่จะกดเบาๆ ลงบนเหนือสะดือ แล้วกดไล่ไปเรื่อยๆ

    “เจ็บตรงไหน”  ผมเลื่อนมือไปจับตรงใต้กระดูซี่โครงตัวเอง

    “ตรงนี้ครับ” หมอพยักหน้าเข้าใจอีกครั้ง ก่อนจะดึงเสื้อปิดไว้เหมือนเดิม

    ผมมองหน้าหมออยู่นาน ปกติแล้ว ผมจะรักษากับหมอคนเดิมตลอดแต่ครั้งนี้ ไม่ใช่ ผมขมวดคิ้วนิดๆ

    พอหมอเห็นว่าผมกำลังจ้องอยู่ก็ยิ้มบางๆ

    “หมอชื่อ ศิลป์ ครับ เพิ่งมาทำแทนคนเก่า” หมอพูดแค่นั้น เป็นอันว่า ผมเข้าใจ

    ผมหันไปมองพยาบาลที่เริ่มจะเลิกวุ่นวายกับแขนของผม

    “ไม่มีไข้แล้วนะคะ” เธอพูด ผมพยักหน้ารับ ผมรู้สึกเหมือนว่ามีคนจ้องอยู่เลยหันไปดู เห็นหมอศิลป์ยืนมองผมด้วยสายตาที่ผมบอกไม่ถูก มันดูเศร้าๆ แปลกๆ

    “เฮ้ หมอเสร็จยัง” เสียงคุณเกรนเรียกหมอศิลป์ ทำให้หมอศิลป์เลิกเหม่อแล้วตอบกลับไป

    “อีกนิดนึงครับ” หมอตอบกลับไป ทั้งๆ ที่ผมก็เห็นว่าอะไรๆ มันน่าจะเสร็จหมดแล้ว หมอหันมายืนมองผมด้วยสายตาแปลกๆ อีกครั้ง ก็ที่จะหลบสายตาผมแล้วเดินไปรูดม่านเปิด

    คุณเกรนยืนกอดอกขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจอะไรสักอย่างอยู่ข้างหลังม่านนั่น

    “ทำไมนานจังวะ?” คุณเกรนบ่นเบาๆ อย่างหงุดหงิดกับตัวเอง “ออกจากโรงบาลได้ยัง?” คุณเกรนหันมาถามหมอต่อ

    “...วันนี้ก็ได้เลยครับ หมอแนะนำว่าให้คนไข้พักผ่อนเยอะๆ นะครับ” หมอพูด สายตาหมอดูเศร้าเมื่อบอกว่าผม สามารถกลับบ้านได้ในวันนี้

    คุณเกรนยกยิ้มมุมปาก แล้วหันมาหาผม

    “ตอนบ่ายสามกูจะมารับ” ผมพยักหน้าเข้าใจ แต่..

    “แล้วคุณเกรนไม่ทำงาน..หรอครับ?” ผมถามเสียงเบา

    “กูบอกจะมารับ ก็คือมารับไง!” คุณเกรนขึ้นเสียงเล็กน้อยจากตอนแรก ผม ได้แต่เม้มปากแน่นแล้วพยักหน้าเป็นอันเข้าใจ

    “อะไรหมอ เสร็จแล้วก็ออกไปสิวะ มายืนรบกวนคนไข้อยู่ได้!” คุณเกรนหันไปหงุดหงิดกับหมอ

    “งั้นขอตัวนะครับ” พูดจบหมอก็เดินออกไป พร้อมกับพยาบาลสาวที่ดูจะส่งสายตาหวานเยิ้มให้กับคุณเกรนเหลือเกิน

    ผมเห็นหมอหันมาหาผมก่อนที่จะเปิดประตูออกไป

    “เตรียมตัวให้พร้อม บ่ายสามจะมา” พูดจบคุณเกรนก็เดินออกจากห้องไป

    ..

    ทั้งห้องตกสู่ความเงียบสักพัก ไม่นานเสียงโทรศัพท์บนหัวเตียงก็ดังขึ้น

    แบตเต็ม...

    คุณเกรนชาร์ตให้ผมหรอ?

    สุภาพบุรุษสุดหล่อเรียนเอง. ผมยิ้มเจื่อนๆ ให้กับชื่อที่มองทีไรผมก็เหนื่อยใจได้ทุกที

    มันเป็นคนเมมเองครับ ผมคงไม่พิศวาสตั้งให้มันแบบนี้หรอก

    ผมเลื่อนเครื่องหมายสีเขียวๆ รับสาย

    “มีอะไร” ผมถามเสียงนิ่งๆ

    (อโลนนนน มึงโกรธกูหรอ? คือกูไม่ได้ไม่อยากอยู่เฝ้านะเว้ยแต่--)

    “ไม่ต้องพูดหรอกกูรู้แล้ว” ผมตัดบทมัน

    (เอ่อ.. ไม่โกรธใช่มั้ยวะ?) มันถามเบาๆ คล้ายไม่แน่ใจ

    “เออ ไม่ได้โกรธกูจะโกรธมึงทำไมวะ?”

    (ก็...ก็.. งั้นมึงก็เลิกทำเสียงเหมือนกูไปฆ่าพ่อมึงแบบนี้สักทีสิวะ) มันทำเสียงแหยๆ เหมือนเด็กๆ ง้องแง้ง

    “อะไรของมึง” ผมยังคงทำเสียงนิ่งๆ ราวกับมันมาฆ่าพ่อผมจริงๆ ก็ชอบเวลาเรียนมันง้องแง้งอ่ะ

    (อโลนนนนนนนนนนนนนนนนน) มันลากเสียงง้องแง้งยาวๆ

    (โลนเลิกแกล้งมันดิ๊ เห็นหน้าง้องแง้งมันแล้วสงสารดวงตาตัวเอง นี่กูจะไปตามหาแอลกอฮอล์มาล้างตาแล้วนะเนี่ย!) กรีนมันดึงสายไปพูด

    “ฮะๆๆ เออๆ ก็กูชอบของกูป้ะล่ะ?” ผมหัวเราะลั่น

    (เออๆ นี่ตื่นแล้วช้ะ? เดี่ยวบ่ายๆ ไปหานาจา)

    “ถ้าไม่ตื่นจะมาคุยกับมึงได้มั้ยละครับเพื่อน? ใช้หมองหน่อยๆ” ผมเอามือจิ้มหัวตัวเอง แม้ว่ามันจะไม่เห็นก็ตาม แต่มันเป็นแอคติ้งครับ ไม่เข้าใจกันหรอ?

    (หายแล้วปากดีนะมึง แค่นี้นะ เดี๋ยวเจอกนจุ๊บๆ) จุ๊บเสร็จมันก็กดวางสายไป

    ...

    พอพวกมันวางสายไปห้องก็กลับสู่ความเงียบอีกครั้ง ผมมองซ้ายมองขวา ไม่มีอะไรทำเลยล้มลงนอนต่อ

    พออยู่นิ่งๆ แล้วสมองมันก็คิดถึงภาพที่คุณเกรนเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ พอนึกถึงสายตาอ่อนโยนนั่นก็เขิน จนอยากจะม้วนหน้าสักสองสามตลบ ติดที่ว่ามีสายน้ำเกลืออยู่นี่สิ

     

    แกร๊ก! เสียงประตูสีขาวถูกเปิดออกอีกครั้ง พร้อมกับผู้มาใหม่ ชายหน้าตาจดว่าดีมากกกก สูงราวๆ ร้อยแปดสิบแปดได้ ใส่แจ๊คเก็ตพร้อมฮู้ดสีน้ำเงินเข้ม เดินเข้ามา

    “ไง ได้ข่าวหลับไปหนึ่งวันเต็มๆ” เขาเดินเข้ามาใกล้พร้อมมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม พระเจ้า...

    หล่อโคตร...

    แต่เดี๋ยวนะ นี่ผมหลับไปหนึ่งวันเต็มๆ เลยหรอ..?

    แล้วคนนี้คือใครกัน?

    “คุณ...” ผมมองงงๆ เขาเดินมาใกล้แล้วลากเก้าอี้มานั่งข้างหน้าผม เขายิ้มนิดๆ แล้วหยิบอะไรบางอย่างจากในกระเป๋าเสื้อแล้วส่งมาให้ผม

    กระดาษ

    ผมเปิดข้างในดู มันเป็นกระดาษที่ถูกซีรอกไว้ แล้วเอามาตัดแปะ ในนั้นเขียนคำนึงสั้นๆ ที่ผมไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าจะอ่านถูกมั้ย

    ไจรน์

    อ่านว่า ไจ ใช่มั้ย แล้วทำไมต้องมี รน์ ด้วยละ?

    “อะไรครับ?” ผมเงยหน้าถามเมื่อรู้สึกว่าไม่สามรถอ่าน คำในกระดาษใบนั้นได้

    “ชื่อกูเอ้ย ฉันไง” เขายิ้มบางๆ ส่งมาให้

    “...ไจ? เนี่ยหรอ” แปลกชะมัด ใครเขาตั้งชื่อลูกแบบี้เนี่ย ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

    “ฮะๆ ไม่ใช่หรอก เจไรน์... พูดเร็วๆสิ” เขาเฉลยขึ้นมา ผมพยายามพูดตามที่เขาบอกอยู่สองสามครั้ง

    และพบว่า

    แม่งออกเสียงยากมาก

    ผมถอนหายใจยาว เขาคือใครกันเนี่ยยย ผมเหลือกตามองเขานิดๆ แล้วถอนหายใจอีกครั้ง

    “ถ้าการเรียกชื่อกู เอ้ย ฉันมันลำบากละก็ เรียกอะไรก็ตามใจเถอะ อโลน..” เขายิ้มบางๆ มาให้ผม โอ้ยย ยอ่ายิ้มมาก จะแสบตา ออร่าฟุ้งมากก

    “...พี่ไรน์” ผมพูดเบาๆ

    “เอาสิตามใจ” เขายิ้มให้ผมอีก ..

    อ่า...

     

    ผมชอบเขาจังเลย..

    .

    .

    .

    เอ๊ะ? เดี๋ยวนะ...

    -----------------------------------
    รีไรท์เสร็จแล้วจย้าาาาาาาาาาาาาาาา 
    สั้นกว่าเดิมเยอะเยย อะเฮ่อะเฮ่อะเฮ่อะเฮ่อะเฮ่อะ <<<<<<<< หัวเราะ


    คอม
    เม้น
    ให้
    หน่อย
    ได้
    มั้ย 
    5
    5

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×