ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Alone::โคตรเศร้า..ผมเขา...และคุณ

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter2:เพื่อน

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 58


    Chapter 2 : เพื่อน

    “มองงง” เสียงเริ่มต้นมา ผมหันไปมองทางต้นเสียง

    “เธอสาวเธอสวยฉันได้มองงงงง”และไอพวกเปรตทั้งหลายมันก็ร้องต่อพร้อมทำท่าเดินเหมือนกัน พวกมันเดินหน้าสามก้าวแล้ว แตะเท้าหลังหนึ่งครั้ง แล้วเดินถอยหลังสองก้าวและแตะเท้าหลังเหมือนเคย

    “หากเธอไม่สวยฉันจะไม่มอง หากเธอไม่แจ่มฉันจะไม่จ้อง” มันยังไม่หยุด คือผู้ชายควายๆ สามคน เดินเหมือนกันพร้อมแหกปากลั่นหน้าคณะ ด้วยเพลงที่โคตรบ่งบอกอายุ นี่มันไม่น่าอายหรอครับ?

    “ฉันจะไม่มองให้หัวใจเต้น” จบคำมันก็หมุนตัวพร้อมกันสามคน แล้วหันมามองผมพร้อมขยิบตาและกัดปาก

    ..ขนลุกสัด

    ผมมองพวกมันเอือมๆ แล้ว กรมันก็เดินมานั่งข้างๆ ผม

    “อะแฮ่มม! เป็นอะไรน้องสาว มีเรื่องทุกข์ใจมาซบอกพี่ได้นะน้อง” เรียนมันดัดเสียงหล่อพลางเดินมาหาผม ส่วนไอ้ที่เหลือที่โชว์เพลงแก่เมื่อกี้ก็เลิกเต้นแล้วเดินตามเรียนมา

    “น้องสาวห่าไร พวกมึงเหอะ มาถึงก็ส่งเสียงขอส่วนบุญอย่างเดียวเลย” ผมตวัดตาใส่มัน น้องสาวกับป้ามึงสิครับ

    “เฮ้ยๆ! พูดให้มันดีๆ ดิว่ะ  พวกกูขอส่วนบุญมึงก็ให้มาดิวะ!”ไอ้กรีนทำท่าจะหาเรื่อง มันเดินท่านักเลงเข้ามาใกล้ๆ

    “ไม่ได้มาขอส่วนบุญ แต่จะมาขอเป็นส่วนหนึ่งในใจของเธอว์” เรียนมันดัดเสียงดัดจริตพลางทำมือเป็นรูปหัวใจมาให้ผม

    ...มึงคิดว่ามึงน่ารักมากมั้ย? ถามใจมึงดูนะเพื่อน

    “แล้วสรุป มึงเป็นไร?” อยู่ๆ กรีนแม่งก็ลากเข้าบทจริงจัง ไอ้พวกนั้นมันก็นั่งกันเสร็จสรรพ

    “เรื่องเดิมๆ ว่ะ แก้วแตก” ผมพูดพลางถอนหายใจยาว เชื่อไหมครับ แค่แก้วแตก บ้านผมนี่เรื่องใหญ่โตมากๆ จริงๆ มันก็ไม่ใช่แค่เรื่องนี้หรอกครับ ไม่ว่าจะเป็น น้ำหก ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก มีดบาท ตกบันได ทุกอย่างก็เรื่องใหญ่ได้ ครับ

    ผมไม่เข้าใจเลย กับแค่เรื่องแค่นี้ ต้องทำกับผมขนาดนี้เลยหรอครับ? คงเกลียดผมจริงๆ นั่นแหละ

    “มึงก็หนีๆ จากมันมาดิ” ไอกรพูดขึ้น ผมหันไปมอง หน้ามัน

    “ไม่ได้หรอกว่ะ.. กูทำไม่ได้” ผมพูดประโยคเดิมๆ จนไอ้เพื่อนๆ ที่เหลือต้องถอนหายใจยาว

    แล้วกรีนก็มองผมด้วยสายตาจริงจัง มันจ้องจนผมรู้สึกกดดัน

    “อะ..อะไรวะ?”ผมถามเมื่อเห็นว่ามันเอาแต่จ้องอย่างเดียว ไม่ใช่แค่กรีน ไอ้เรียน ไอ้เรน แม้แค่ไอกร ก็จ้องมาที่ผม

    “มึงหนีมาอยู่กับกูเหอะ” แล้วกรีนก็พูดประโยคเดิมๆ ผมมองตาที่จริงจังของมันแล้วส่ายหน้าช้าๆ ทำให้พวกมันถอนหายใจอีกครั้ง

    “อโลน มึงดูตัวมึงสิ” เรนมันพูดพร้อมกับดึงมือผมไปจับเบาๆ มันลูบตามพลาสเตอร์ที่ผมปิดไว้ “ตัวมึงมีแต่แผล มีแต่รอยช้ำ สีหน้ามึงก็ไม่ดี” มันกระชับมือผมแล้วมองผมด้วยสายตาจริงจัง ดวงตากลมๆ โตๆ คู่นั้น สื่อว่า เป็นห่วงผมจริงๆ

    “พวกกูห่วงมึงนะเว้ย!”  ผมหลบสายตาจริงจังนั่น เอาแต่จ้องขาตัวเอง

    “กูขอโทษ” ผมพูดเบาๆ ได้ยินเสียงถอนหายใจของพวกมันอีกครั้ง ผมกัดปากแน่น ผมทำให้พวกมันต้องเป็นห่วงอีกแล้ว ทำให้พวกมันต้องเดือดร้อน..

    “เหอะ วันไหนทนไม่ไหวอย่าเก็บไว้คนเดียวนะเว้ย” กรีนมันพูดพร้อมกับเอามือวางบนหัวผมเบาๆ ผมเงยหน้าขึ้นมามองพวกมันอีกครั้ง

    พวกมึงแม่งเพื่อนที่ดีจริงๆ

    “เออ มึงเอาเสื้อสูทมาทำหอยไรวะ?” เรียนมันถามพลางหยิบเสื้อที่วางอยู่บนตักผม

    “ของเขา..” ผมตอบแค่นั้น มันทำเสียง อ่อ แล้วไม่ได้พูดอะไรอีก

     

    “กรี๊ดดดด!!!” เสียงกรี๊ดเรียกพวกผม..ไม่สิคนทั้งโรงอาหารใต้ตึกคณะหันมากันให้ควับ พ่อเห็นว่าเป็นเธอ หลายๆ คนก็หันกลับทำภารกิจของตัวเองต่อ แม้แต่พวกผม ถ้าไม่ติดว่าคนที่เธอกรี๊ดคือผมอ่ะนะ

    “เนื้อตัวไปโดนอะไรมาคะ? อโลน? ใครทำคะ? บอกซินมาซินจะไปจัดการให้ค่ะ” เธอพูดพลางถือวิสาสะ ดึงมือผมไปถือไว้

    ปวดแขนอยู่นะเว้ย! ทำอะไรเบาๆ ดิ๊!

    เพี๊ยะ! กรีนปัดมือเธอออกเมื่อเห็นว่าผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

    “ขอโทษนะ พวกผมขอตัว”กรีนมันตวัดสายตาไปมองเธอนิ่งๆ แล้วลุกขึ้นมาแทรกระหว่างผมกับเธอ

    “ฮึ่ยย!!” เธอส่งเสียงไม่พอใจ พวกผมไม่สนคนน่ารำคาญอย่างเธอ เรียนมันประคองให้ผมลุกขึ้นเพื่อให้ออกไปจากตรงนี้อย่างเบามือ

    ผมไม่ได้สนใจอะไรเธออีกต่อให้เธอโวยวายผมก็ไม่ได้สนใจอะไร จนเธอกระฟัดกระเฟียดเดินออกไปเอง เออ ไปได้ก็ดีรำคาญสุดๆ

    ผมค่อยๆ เดินช้าๆ โดยที่เรนมันช่วยประคองแทนเรียน เพราะด้วยความที่เรียนมันบ้า มันไฮเปอร์ มันขี้แกล้ง มันจะพาผมเดินเร็ว อย่างเดียว อ้างแต่ว่า เดี๋ยวเข้าคลาสสาย  

    พร่อง!! อีกครึ่งชั่วโมงกว่าๆ

     

    กว่าจะเดินมาถึงลิฟท์ ก็ยี่สิบนาทีแล้วครับ มีแววว่าจะสายอย่างปากมันบอกจริงๆ ด้วย

    “ทันมั้ยวะเนี่ยยยยย โลนมาขี่หลังกูมา” ไอ้เรียนมันโวยวาย พลางทำท่าจะดึงผมไปขี่หลังจริงๆ จนเรนมันต้องห้าม ดีแล้วเรน

    “เหี้ยมึงดูสภาพโลนก่อนมั้ย? แค่เดินก็จะล้มแล้ว แม่งงง!!” เรนมันโวยวาย พวกเราโวยวายกันอยู่ในลิฟท์ พอลิฟท์เปิด กรีนมันก็กดปุ่มเปิดค้างไว้รอผมออกก่อน ไม่รู้ว่าทำตามมารยาทหรือกลัวลิฟท์หนีบผมตายก็ไม่รู้...

     

    พวกผมเข้าห้องในเวลาพอดิบพอดีเป๊ะ เป็นไง ผู้ตรงต่อเวลา สุดๆ!!

    พอนั่งปุ๊บผมก็ถอนหายใจยาว แม่งเวลาเดินก็ต้องเกร็งไว้ ปวดไปหมด ระบมสุดๆ ทำอะไรไม่ถนัดเลย

    “มึงไม่ไปห้องพยาบาลจริงๆ หรอ?” กรมันถมผม ผมหันไปมองมัน แล้วส่ายหน้า ผมอยากเรียน พอมันเห็นอย่างนั้นมันก็กึ่งๆ พยักหน้าเข้าใจ

    เริ่มรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ยังไงไม่รู้ แอร์มหา’ลัย นี่ คิดว่านั่งอยู่ขั้วโลกเหนือ ผมหนาวจนตัวสั่น เอามือลูบๆ แขนเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย พวกเพื่อนๆ เริ่มหันมามอง กรีนที่นั่งไกลสุดหันมาหา ผมพร้อมขยับปากเป็นคำว่า ไหวมั้ย? ผมพยักหน้าให้มันไป แต่มันก็ยังส่งสายตาเป็นห่วงมาให้ผมอยู่ดี

    จารย์หน้าห้องยังคงบ่นไปตามประสาคนแก่ๆ คนอื่นเขาเรียกว่าสอนแหละครับ ผมหยิบปากกาจะจดแล็กเชอร์ แต่รู้สึกเหมือนอากาศมันหนาวจนมือมันเย็นและไม่มีแรงไปหมด  แค่จับปากกา ยังหลุดมือ

    รู้สึกปวดหัวจี๊ดๆ จนต้องยกมือกุมขมับ ไอ้กรที่นั่งใกล้ผมมันหันมามองแล้วจับแขนผมไว้

    “ไหวจริงๆ หรอ?” กรมันถาม นั่นดิ.. เริ่มรู้สึกไม่ดีสุดๆ แต่ก็ไม่อยากรบกวนพวกมัน เลยพยักหน้าตอบไปแล้ว กระพริบตาถี่ๆ เพื่อตั้งสติใหม่

    “แน่นะ” เรนที่นั่งอีกข้างผม ถามย้ำ ผมพยักหน้าช้าๆ พยักเร็วไม่ได้ ปวดหัวมากๆ หนาวด้วย พวกมันสี่คนเหลือบๆ มองๆ มาที่ผมพร้อมสายตาที่ทุกคนบอกเหมือนกันว่า ไม่เชื่อว่าผมยังไหว

    ผมไหวสิ ผมต้องไหว เพราะ

    ผมไม่อยากเป็นภาระใครอีก..

    ..

    ทนนั่งไปได้อีกแค่สิบนาทีกว่าๆ ก็รู้สึกไม่ดีหนักกว่าเก่า มันหนาวมากๆ และมันก็รู้สึกร้อนๆ ด้วย อธิบายไม่ถูก ตอนนี้อย่าว่าแต่จดเลย แค่วางมือเฉยๆ มือยังสั่นเลยครับ ผมไม่มีสมาธิฟัง ‘จารย์บ่นเลยครับ จริงๆ มันก็ไม่มีตั้งแต่แรกแล้ว

    เหมือนยาที่ทาไว้เมื่อเช้าจะเริ่มหมดฤทธิ์ หรืออาการมันเป็นหนักขึ้นก็ไม่รู้ ผมรู้สึกปวดระบมทั้งตัวมากเลยครับ ผมวางมือบนหน้าท้องตัวเอง หวังช่วยคลายปวดได้ แต่จะบ้าหรอครับ มันช่วยได้ที่ไหน

    “อโลน มึงไม่ไหวแล้ว มึงอย่าฝืน” กรมันพูดพลางจับหน้าผมให้หันไปมองตามัน ผมหลุบตาลง

    “มึงไปห้องพยาบาลเหอะ ไม่ดิไปโรงพยาบาลเลย” เรนช่วยพูดอีกคน

    “แต่..กู..ยัง..ไหว” ผมพูดเบาๆ เสียงผมแหบมากๆ

    “มึงไม่ไหว!!” กรีนันตบโต๊ะแล้วพูดเสียงดังจนทำให้เขาหันมาทั้งห้อง

    “นักศึกษา! ถ้าคุณไม่เรียนก็ออกไปอย่ารบกวนคนอื่น” อาจารย์เอ็ดมาที่พวกผม กรีนมันตวัดตามองอย่างไม่พอใจ มันอารมณ์เสียแล้วครับ

    .. เพราะผม...

    “ไปเหอะ”เรนยังคงขอร้อง “อย่าให้กูเป็นห่วงมากกว่านี้เลย” ผมหันไปมองมัน แล้วหันไปมองกรีนกับเรียน พวกมันต่างบังคับทางสายตาว่า ให้ ผม ไป

    ผมกัดปากแน่นก่อนจะพยักหน้า

    “ก็ได้” จบคำผมก็ค่อยๆ เก็บของตัวเอง ไม่ได้ตังใจค่อย หรอกครับ แค่มันไม่มีแรงแล้วต่างหาก พอเก็บเสร็จ ผมเอามือยันตัวเองขึ้น ไม่ดิ ผมพยายามยันตัวเองขึ้น แต่รู้สึกว่าตัวผม มันหนักอึ้งไปหมด แรงที่จะยันตัวขึ้นมันไม่มีเลย กรมันเห็นมันก็สอดมือมาใต้รักแร้แล้วดึงผมขึ้นช้าๆ ผมบอกมันเบาๆ ว่าผมขอเดินเองเมื่อเห็นว่ามันตั้งท่าจะอุ้มผม มันก็พยักหน้า

    ผมพยายามที่จะทรงตัวเองให้ยืนอยู่แต่มันช่างยากเหลือเกิน เรียนมันทนไม่ไหวมั้ง มันลุกขึ้นแล้วดึงผมออกจากตรงโต๊ะ

    “เบาๆ ดิวะ” เรนมันท้วง เรียนมันพยักหน้าขอโทษ แล้วมันก็อุ้มผมขึ้น

    “อุ่ก” ผมร้องเมื่อรู้สึกเจ็บที่กลางตัว มันบอกขอโทษเบาๆ แล้วเดินออกมาจากห้อง

    อาจารย์ นี่ก็ไม่สนใจอะไรเลยครับ ....

     

    แค่ผมไม่สบายคนเดียวพาพวกมันเกือบทั้งหมาดต้อง ขาดเรียนไปด้วย ที่เกือบก็เพราะ กรีนมันสั่งให้กรนั่งเรียนไป เนื่องขากมันหัวดีและจดแลคเชอร์ได้เข้าใจง่ายที่สุด กรมันก็ไม่เต็มใจแต่ก็ตอบตกลงไป ผมรู้สึกเหมือนตัวเองตัวสั่น รู้สึก หนาวและร้อนในเวลาเดียวกัน และที่รู้สึกได้เด่นชัดที่สุดคือ ปวด ผมปวดๆ ชา ตามแขนขาและนักที่สุดคือช่วงกลางตัว เรียน มันพยายามอุ้มผมให้เบามือมากที่สุด เรนมันกดลิฟท์ให้

    “มึงไปโรงพยาบาลเลยแล้วกัน ห้ามแย้ง!!” มันเอ็ดเมื่อเห็นว่าผมอ้าปากจะพูด ผมได้แต่ทำหน้าหงอยๆ แล้วหุบปากไป

    การหายใจแต่ละครั้งช่างทรมาน มันเจ็บๆปวดๆ ไปหมดเวลากระดูกซี่โครงยกขึ้น ทำให้ผมหายใจไม่ค่อยสุด..

    ผมเรนมองผมด้วยสายตาเป็นห่วงสุดๆ ก่อนภาพนั้นจะพร่าไปเพราะแสงแดดจากข้างนอกตอนลิฟท์เปิด พลันภาพทุกอย่างมืดเป็นสีดำ ได้ยินเพียงเสียงของเรนที่เรียกผมไว้ ราวกับว่าผมจะตาย และนั้นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมรับรู้ก่อนที่ สมองจะสั่งปิดระบบทั้งหมดของผม...
    ----------------------------------

    ตอนนี้ รีไรท์แล้วนาจาาาาาาาาาาา คอมเม้นท์หน่อยจิ ว่าเป็นอย่างไรกันบ้างง 
    อาจจะสั้นกว่าของเดิมนะคะ 
    รักรีดเดอร์ทุกๆ คน

    ติดตามข่าวสาร ได้ที่ เพจ>>>  DanzT

     

    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×