คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : เรื่องโกหก *
พอทุกคนมาถึงท่าอากาศยานแห่งชาติกรุงลอนดอน
สิ่งแรกที่พวกไอจิคิดไม่ถึงก็คือ...
"ยินดีต้อนรับครับมายลอร์ดชิสุกะ"
เหล่าคณะตำรวจสากลแห่กันมาต้องรับหัวหน้าสูงสุดกนถ้วนหน้า
เล่นเอาชิสุกะปวดหัวกันเลยทีเดียว
"เอาล่ะ เราคงจะต้องแยกกันตรงนี้ล่ะนะครับคุณหนู"
เซเบอร์พูดกับไอจิพร้อมรอยยิ้ม อีกฝ่ายที่ถูกเรียกคุณหนูก็เอ๋อไปชั่วขณะ
ชิสุกะที่เห็นเช่นนั้นจึงพูดออกไปว่า
"ผู้บัญชาการน่ะไม่ค่อยชอบจำชื่อใครสักเท่าไหร่หรอกนะ เวลาเขาจะเรียกคนอื่นๆ
ที่เป็นรุ่นลูกหรือหลานน่ะมักจะเรียกแบบนี้แหละ ผู้หญิงจะแทนด้วยคำว่า'คุณหนู' ผู้ชายจะแทนด้วยคำว่า 'พ่อหนุ่ม'" พวกไอจิพยักหน้าอย่างงงงัน
"ไอจัง ไคคุง!!" จู่ๆ
เสียงหญิงสาวผมสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำก็ตะโกนเรียกพวกไอจิ
"ดูเหมือนจะมีคนมารับพวกเธอแล้วนะ"
เซเบอร์ยิ้มก่อนจะบอกลาพวกไอจิและกลับที่ทำงานของตนไป
"พี่ซายูริ!" ไอจิและนาโกยะวิ่งไปหาหญิงสาวที่ชื่อซายูริอย่างกระตือรือร้นตามด้วยคนอื่นๆ
"เอาล่ะ พี่จะพาไปบ้านพักนะ อยู่กันสองอาทิตย์
จะมีกิจกรรมให้ทำ และพี่ อาคามิ
ทาคุโตะและฮายาเตะจะเป็นผู้ดูแลพวกเธอร่วมกับคุณมิทซึโนะฮาระในฐานะอดีตนักเรียกชมรมวิจัยภาษา"
ซายูริพูดพลางเก็บของของพวกไอจิเข้ารถ
"เห...พวกพี่ๆ จะมาดูแลด้วยงั้นเหรอ"
เรนพูดพลางมองหน้าคนขับรถจำเป็น
"อา...คนนี้ชื่ออาซากุระ ฮายาเตะจ้ะ" คนอื่นๆ
พากันทำความเคารพฮายาเตะกันถ้วนหน้า ยกเว้นมิทซึโนะฮาระเท่านั้น
จากนั้นทุกคนก็มุ่งหน้าสู่บ้านพักที่พวกไอจิใช้เป็นสถานที่เข้าค่าย
ณ คฤหาสน์ J.T.R
เมื่อสิบสามชีวิตมาถึงก็พลันตะลึงกับคฤหาสน์ นาโกยะ
นาโอกิและมิวะบ่นงึมงำเป็นเสียงเดียวกันว่า
"คราวที่แล้วก็คฤหาสน์ทรานซิเวลเนียสุดสยอง คราวนี้ยังมาคฤหาสน์นี่อีก
ใครเป็นคนคิดดีไซน์คฤหาสน์เนี่ย!"
"เอาล่ะจ้ะ ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์ J.T.R นะจ๊ะเด็กๆ" ซายูริพูดพลางยกของของพวกไอจิออกจากรถ
"เอาล่ะ ของที่เหลือขนกันเองนะ ไปก่อนล่ะ"
ชายหนุ่มที่ชื่ออาซากุระ
ฮายาเตะพูดก่อนจะเดินนำเข้าไปในบ้านพักตามด้วยพวกไอจิที่ยังเอ๋อๆ อยู่
"โอ๊ะ! มาแล้วๆ"
หญิงสาวผมีสีแดงสดพูดพลางมองพวกไอจิพร้อมรอยยิ้ม
"รุ่นพี่มิทซึโนะฮาระครับ เชิญตามผมมาทางนี้นะ"
ฮายาเตะพูดพลางเดินนำมิทซึโนะฮาระไปยังห้องพัก
"เอาล่ะ พวกเราจะแนะนำตัวเลยนะ ฉันชื่อนารุซากิ อาคามิ"
หญิงสาวผมสีแดงนามนารุซากิ อาคามิพูดพร้อมรอยยิ้มก่อนจะมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ
ตน
"ฉันชื่อ คิซารากิ ทาคุโตะ"
ชายหนุ่มผมสีช็อคโกแลตพูดก่อนจะยิ้มบางๆ
"เอ...พี่จะอ่านรายชื่อนะ พวกเธอตอบรับด้วยละกัน โทชิกิ
ไคคุง" อาคามิพูดพลางมองรายชื่อที่ซายูริยื่นให้
"อืม" ตอบรับสั่นๆ ตามแบบฉะบับของตน
อาคามิเหงื่อตกเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาว่า
"แหม่...สมกับเป็นน้องของรุ่นพี่โทชิกิจริงๆ ต่อไป สึซึงาโมริ เรนคุง"
"จ๋า" เรนลากเสียงยียวน ทาคุโตะ
อาคามิและซายูริส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะพูดต่อ "เซ็นโด ไอจิคุง"
"ครับ" ดูเหมือนไอจิจะเริ่มปรับสภาพตัวเองได้แล้ว
จึงยิ้มให้กับพี่ๆ ทั้งสาม
"แหม...น่ารักน่ากอดซะจริงๆ....ต่อไปเซ็นโด นาโกยะคุง"
อาคามิรีบเรียกชื่อคนต่อไปทันทีก่อนที่ไคจะเชือดเธอโดยไม่รู้ตัว
ซึ่งฝ่ายที่ถูกเรียกก็แค่ยกมือขึ้นเฉยๆ เท่านั้น
"ไทชิ มิวะคุง" อาคามิยังเรียกต่อ
ฝ่ายที่ถูกเรียกก็ยิ้มก่อนจะขานรับ "ครับ"
"อิชิดะ นาโอกิคุง" คราวนี้คนเรียกคือซายูริ
เพราะอาคามิจะต้องไปเช็คของในห้องต่างๆ จึงยกหน้าที่นี้ให้กับเธอ
"ครับ" อีกฝ่ายก็ตอบรับเบาๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ยิน
"โซริว เลออนคุง" ซายูริมองหาเด็กหนุ่มผมสีทอง
อีกฝ่ายยกมือขึ้นอย่างเงียบงันก่อนจะหันไปมองเรนที่กำลังกินขนมที่ไอจิเอามาให้
"โอลิเวีย ไกยาร์ลคุง"
ซายูริค่อนข้างสงสัยกับสมาชิกคนสุดท้ายเล็กน้อย
"ครับ" เมื่ออีกฝ่ายตอบรับ เธอจึงยิงคำถามใส่ทันที
"เธอคือลูกชายของคุณคาซึกะใช่มั้ย?" ไกยาร์ลงงเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า ซายูริยิ้มกว้างก่อนจะบอกไกยาร์ลว่า
"คุณคาซึกะตอนนี้ถูกย้ายมาประจำที่ลอนดอนแล้ว ไว้ถ้ามีโอกาส
ฉันจะพาเธอไปหาคุณคาซึกะนะ"
ไกยาร์ลค่อนข้างจะตกใจเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม
"แล้วสองคนนั้นน่ะเป็นใครกัน" ทาคุโตะถามเสียงเรียบ
มิซากะและอายูมิสะดุ้งเฮือก เรนจึงต้องพูดแทนไคที่เอาแต่เงียบว่า
"พวกเธอแอบตามมาน่ะ มาเจอตอนเครื่องบินขึ้นมาแล้ว
จะส่งกลับก็ไม่ทันเลยให้มาด้วยน่ะ พี่ซายูริคงไม่ว่าอะไรนะ"
ซายูริคิดเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าและเตือนว่า "อย่าสร้างปัญหาล่ะ
เพราะเราจะไม่รับรองเรื่องที่'คนภายนอก'ชมรมก่อขึ้น" ซายูริเหมือนจะเน้นคำว่าคนภายนอกเป็นพิเศษ
ส่วนสองสาวนั้นก็หาได้สนใจไม่
เพียงแค่ได้อยู่กับไคและเลออนพวกเธอก็ยินดีที่จะแสร้งทำเป็นเรียบร้อยแล้ว
"จับฉลากบัดดี้คู่ของเรานะ ส่วนสองคนนั้นน่ะ เป็นคู่คนนอก
ตามอาคามิไปที่ห้องพักได้เลย" ทาคุโตะเอ่ยไล่ทางอ้อม
ซึ่งทั้งสองก็ยอมแต่โดยดี
"เอาล่ะจ้ะ ฉลากอยู่ในกล่องนะ หยิบเลย"
ซายูริถือกล่องพลางเดินเข้ามาหาพวกไอจิ ซึ่งต่างคนต่างจับและผลที่ออกมาก็คือ...
คู่เบอร์หนึ่ง ไคกับมิวะ
คู่เบอร์สอง ไอจิและเรน
คู่เบอร์สาม นาโกยะกับเลออน
คู่ที่สี่ ไกลยาร์ดและนาโอกิ
"ได้คู่แล้วสินะ เข้าหาคู่ตัวเองเลย"
ซายูริยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปหาอาคามิ
ตามด้วยทาคุโตะที่เดินนำพวกไคไปยังห้องพักของตน
"ห้องมุมทางเดินใหญ่คือของห้องโทชิกิคุงและไทชิคุง
ห้องตรงข้ามของพวกเธอสองคนคือห้องของนาโกยะคุงและโซริวคุง ห้องข้างๆ
นายคือห้องของไอจิคุงและสึซึงาโมริคุง ห้องข้างๆ
พวกโซริวคุงคือห้องของโอลิเวียคุงและอิชิดะคุง เข้าใจนะ ส่วนข้าวเย็น
ถ้าพวกเธออยากทำเองพวกเราก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ"
ทาคุโตะพูดจบก็เดินไปยังห้องมุมสุดหรือก็คือห้องของมิทซึโนะฮาระนั่นเอง
"รุ่นพี่มิทซึซาดะ
การที่จะให้เด็กสองคนนั้นอยู่นี่จะดีแน่เหรอคะ" อาคามิพูดอย่างไม่เห็นด้วย
มิทซึซาดะคิดชั่วครู่ก่อนจะบอกอาคามิว่า "เรื่องนี้ไคเขาเป็นตัดสิน
และอย่างที่รู้ เขาเป็นประธานชมรม
และเขาก็คิดดูดีแล้วว่าทางมันไกลกว่าจะส่งเด็กสองคนนั้นกลับไป"
"แต่ถ้าเด็กสองคนนั้นก่อเรื่องยุ่งขึ้นมา
เขาจะต้องรับผิดชอบเรื่องทุกอย่างเองนะครับ" ฮายาเตะพูดเสียงเรียบ
ซายูริเปิดอุปกรณ์บางอย่างก่อนจะพิมพ์ชื่อของมิซากะลงไป
"จริงๆ ด้วย โนโนมิยะ มิซากะเป็นลูกของนายกเทศมนตรีโตเกียว
อุปนิสัยเอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้ มีท่าทางเหยียดหยามคนอื่น"
ซายูริอ่านประวัติคร่าวๆ ให้กับคนในห้องฟัง อาคามิพูดออกมาเรียบๆ ว่า
"คงจะโดนโอ๋มาอย่างดีเลยสิ...ลูกนายกเทศมนตรีงั้นเหรอ..."
"เอาเป็นว่า เราลองปล่อยไปดู หากเกิดเรื่องขึ้น
ฉันจะใช้อำนาจตำรวจไปคุยกับโซยะก็แล้วกัน เจ้านั่นน่ะน่าจะช่วยได้นะ" มิทซึซาดะตัดบทพูดด้วยการอ้างโซยะ
ซึ่งทั้งสี่คนก็ไม่ได้ว่าอะไร
หลังจากนั้นก็คุยกันเรื่องสับเพเหระตามประสารุ่นพี่รุ่นน้อง
"ไค ไปทำอาหารเย็นไป" มิวะไล่บัดดี้ของตนไปทำข้าวเย็น
ไคเงียบก่อนจะลากมิวะออกไปด้วย
"ปล่อยฉัน ฉันเดินเองได้เฟ้ย!" มิวะขึ้นเสียงกับไคเล็กน้อย
ไคที่ลากมิวะอยู่ก็ปล่อยเขากระทันหันจนหัวของมิวะกระแทกพื้น
"แหมๆ เสียงดังเชียว"
เรนและไอจิเดินออกจากห้องพร้อมรอยยิ้มก่อนจะตามไคลงไปยังห้องครัว
"เย็นนี้กินข้าวผัดไปละกัน"
ไคพุดพลางเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำอาหาร
"งั้น เดี๋ยวพวกเราช่วยก็แล้วกัน"
มิวะพูดพลางเดินไปเป็นลูกมือของไคเช่นเดียวกับไอจิ
ส่วนเรนก็เอาแต่นั่งกินของหวานพลางมองคนสามคนกำลังทำอาหารเย็น
"เรน ถ้านายกินแพนเค้กหมดแล้วไปตามคนอื่นๆ
มากินข้าวด้วยล่ะ" ไคพูดพลางทำข้าวผัดไปด้วย
เรนตอบรับในลำคอเนื่องจากในปากเต็มไปด้วยแพนเค้ก
"โห หอมจัง" อาคามิเดินเข้ามาสำรวจครัวพูดพร้อมรอยยิ้ม
"อยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ยล่ะ" ไคถามห้วนๆ
อาคามิคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดอย่างร่าเริงว่า "อะไรก็ได้นั่นแหละ
ขอให้กินได้ก็พอ อ้อ! ไอจัง ของหวานหลังกินข้าวเย็นพี่ขอซูเฟลวนิลานะ"
อาคามิสั่งเสียไว้ก่อนจะเดินไปหาพวกซายูริที่กำลังนั่งเล่นจอยเกมอยู่ในห้องนั่งเล่น
"พี่อาคามิรู้ได้ยังไงน่ะว่านายทำขนมเก่ง"
มิวะถามอย่างสงสัย
นาโกยะที่บังเอิญเดินเข้ามาในห้องครัวในจังหวะที่มิวะถามพอดีจึงตอบคำถามแทนไอจิว่า
"ตอนที่พวกพี่ซายูริอยู่ญี่ปุ่นพี่ๆ ทั้งสี่คนชอบมาเที่ยวบ้านพวกเราสามคนน่ะ
ที่มาเพราะพี่โซยะทำอาหารให้และพวกเขาก็ชอบขนมที่ไอจิทำ
เลยกลายเป็นนิสัยส่วนตัวไปแล้ว อีกอย่าง พวกพี่ๆ ทั้งสี่คนก็เอ็นดูพวกไคด้วย
ถึงไคจะไม่ให้ความเคารพเลยก็เหอะ" มิวะพยักหน้าก่อนจะคิดวิธีแกล้งนาโกยะ
"นี่นาโกยะ หันมานี่หน่อยสิ"
มิวะเรียอีกฝ่ายที่กำลังหันหลังให้เขาอยู่ พออีกฝ่ายหันมา
เขาก็ยัดสตอเบอรี่เข้าปากนาโกยะก่อนจะใช่ปากดึงก้านสตอเบอรี่ออกอย่างแผ่วเบา
"อย่าคายเชียวนะ" มิวะจ้อง
อีกฝ่ายที่หน้าแดงแจ๋ยิ่งกว่าอะไรดีก็ต้องจำใจเคี้ยวสตอเบอรี่และกลืนมันลงไป
"ชะ...ชิ แกล้งคนอื่นเขาไปทั้วเลยนะ"
นาโกยะพูดพลางหน้าแดงก่ำ มิวะหัวเราะเสียงทุ่มก่อนจะหันไปช่วยไคทำอาหารเย็นต่อ
"ผมไปเรียกคนอื่นๆ ก่อนล่ะ"
เรนลุกขึ้นพลางเดินออกจากห้องครัวไป ส่วนพวกไคก็เริ่มจัดโต๊ะกินข้าวแล้ว
"ระ เรน ผมไปด้วย!" นาโกยะวิ่งหน้าแดงตามเรนไป
ส่วนมิวะก้เอาแต่หัวเราะอย่างชอบใจที่แกล้งนาโกยะได้สำเร็จ
หลังจากที่เรนและนาโกยะไปเรียกคนอื่นๆ
มากินข้าว(แน่นอนว่าต้องไปเรียกสองสาวนั่นด้วย) ก็เริ่มลงมือทานข้าวทันที
"อื้ม! อร่อยแฮะ
สงสัยคงต้องไปฝึกทำอาหารกับโทชิกิคุงบ้างซะล่ะมั้งเนี่ย"
ทาคุโตะพูดพร้อมรอยยิ้ม ไคเองก็ยิ้มแข็งๆ ให้อีกฝ่ายเหมือนกัน
ส่วนสองสาวมิซากะและอายูมิก็กินไปและจ้องเรนกับไอจิอยังกับจะฆ่าให้ตายไป
"...ผมอิ่มแล้ว ขอตัวนะ" ไอจิพูดพลางเอาจานไปล้างเก็บ
ซึ่งในจากก็ว่างเปล่าไปแล้ว
"ผมด้วย" เรนเองก็ลุกตามไปอีกคน
และจานของเขาก็ว่างเปล่าแล้วเหมือนกัน
"...พวกฉันก็อิ่มแล้วเหมือนกันค่ะ"
มิซากะและอายูมิรีบนำจานไปวางไว้ในซิงค์ล้างจานก่อนจะตามเรนและไอจิไป
"เซ็นโด ไอจิ ตามฉันมาเดี๋ยวนี้" มิซากะสั่งไอจิ
เรนทำท่าประมาณว่าจะไม่ให้ไอจิไปแต่อีกฝ่ายกลับยิ้มให้ก่อนจะเดินตามมิซากะไปอย่างว่าง่าย
"ไอจิคุง..." เรนพึมพำพลางมองไอจิอย่างเป็นห่วง
"รุ่พี่สึซึงาโมริ กรุณตามฉันมาด้วยนะคะ" อายูมิพูดเชิงบังคับ
เรนที่เจอแรงกดดันของอีกฝ่ายไปจึงจำใจต้องตามไปอย่างช่วยไม่ได้
"มีธุระอะไรกับผมเหรอคุณโนโนมิยะ" ไอจิพูดอย่างใจเย็นใจ
อีกฝ่ายมองไอจิอย่างเหยียดหยามก่อนจะพูดออกไปตรงๆ ว่า
"ออกห่างจากรุ่นพี่โทชิกิซะ"
ไอจิไม่ตกใจกับคำพูดของเด็กสาวตรงหน้าแต่อย่างใด ก่อนจะพูดออกไปเรียบๆ ว่า
"ทำไมผมต้องออกห่างจากไคคุงด้วยทั้งๆ ที่และเขาก็เป็นญาติกัน"
เด็กสาวที่ได้ฟังคำพูดของไอจิก็กัดปากตัวเองเพื่อใช้ความคิด
ก่อนจะแสยะยิ้มออกมาและถามไอจิอีกครั้ง
"ยังไงนายก็จะไม่มีวันออกห่างจากรุ่นพี่โทชิกิสินะ" ไอจิเงียบ
เงียบเพราะเขาไม่อยากพูด
พูดไปก็เสียงเวลาเปล่าจึงตัดสินใจหันหลังให้อีกฝ่ายเพื่อจะเดินหนีไปซะ
แต่อีกฝ่ายกลับรั่งตัวเขาไว้ก่อนจะเริ่มฉีดเสื้อผ้าและทำร้างร่างกายตัวเอง
"กรี๊ดดดดด!!! เซ็นโดคุงอย่านะ!!"
อีกฝ่ายแสดงละครไปคนเดียว ส่วนไอจิก็ยืนนิ่ง นิ่งเพราะไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้ากำลังทำอะไร
จู่ๆ เด็กสาวก็ดึงเขาลงไปเพื่อให้ดูเหมือนว่าไอจิกำลังทำร้ายเธอ ไคที่ออกจากห้องกินข้าวได้ยินเสียงของมิซากะก่อนจะรีบวิ่งไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
"เกิดอะไรขึ้น....ไอจิ!!" ไคตกใจเล็กน้อย
ไอจิเองก็ตกใจเช่นกันก่อนจะรีบลุกออกมาจากตัวของมิซากะ
"ฮึก...รุ่นพี่ เซ็นโดคุง....เซ็นโดคุงเขาทำร้ายฉัน..."
มิซากะแสร้งบีบน้ำตา ไคสบถเบาๆ ก่อนจะเข้าไปดูอาการของอีกฝ่าย
"นายทำแบบนี้ทำไมไอจิ" ไคหันไปถามไอจิที่เอาแต่ยืนเงียบ
"ผะ ผม ผมเปล่า...." ไอจิพูดเสียงแผ่วจนน่าตกใจ
ไคหันไปมองอย่างเย็นชาก่อนจะพูดออกมาว่า "ถ้านายไม่ได้ทำแล้วรอยแผลบนตัวของโนโนมิยะมาจากไหน"
ไอจิที่ทำอะไรไม่ถูกก็เอาแต่เงียบและก้มหน้าก้มตา
ไคกัดปากจนเลือดซึมก่อนจะอุ้มมิซากะและเดินจากไป
ช่วงที่เดินผ่านไอจิเขายังพูดสิ่งที่ทำให้ไอจิอยากร้องไห้ออกมาว่า
"ฉันไม่ชอบคนไม่ยอมรับผิด ตอนนี้ฉันคงจะมองนายหรือคุยกับนายเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วล่ะ"
ไอจิกำมือแน่นก่อนจะตัดสินใจวิ่งหนีไป
ไคที่ต้องฝืนพูดออกไปแบบนั้นก็อุ้มมิซากะและเดินไปยังห้องพักของเธออย่างเงียบงัน
ทำให้ผู้ที่ดูเหตุการณ์อยู่ตั้งแต่ต้นอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา "บ้าเอ๊ย!!"
พูดจบก็ทำการชกกำปั้นลงกำแพงแรงๆ หนึ่งทีก่อนจะรีบตามไอจิไป
มาดูทางด้านของเรนและอายูมิ
อายูมิเดินนำเรนมาหยุดอยู่ตรงมุมทางเดินที่ไม่ค่อยมีใครผ่านสักเท่าไหร่ก่อนจะพูดกับเรนตรงๆ
ว่า "รุ่นพี่ ฉันชอบรุ่นพี่โซริวค่ะ" เรนที่ได้ยินคำพูดนั้นก็ยิ้ม
จากนั้นอีกฝ่ายก็พูดต่อไปว่า "ช่วยยกรุ่นพี่โซริวให้ฉันเถอะนะคะ และช่วยออกห่างจากเขาให้มากที่สุดด้วย"
เรนก็ยังคงยิ้มเหมือนเดิมก่อนจะพูดกวนประสาทอีกฝ่ายว่า
"ถ้าออกห่างได้ก็แปลกล่ะ ผมกับเลออนอยู่ชมรมเดียวกัน
และที่นั่งในห้องเรียนก็ติดกัน จะห่างจากกันได้ยังไงกันล่ะคิริซางะจัง"
อายูมิกัดฟันกรอด เรนยิ้มกับท่าทางของอีกฝ่ายก่อนจะถามออกไปว่า
"ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย ผมขอตัวล่ะ"
เรนที่กำลังจะเดินจากไปก็ถูกอีกฝ่ายจับมือไว้
จากนั้นอายูมิก็บังคับมือของเรนให้ไปหยิบแจกันบนที่วางก่อนจะบังคับมือของเรนให้ทุ่มแจกันใส่หัวเธอ!
"เพล้ง!! กรี๊ดดดดดดด!!!!"
หลังจากที่เธอบังคับให้เรนทุ่มแจกันใส่หัวเธอ อายูมิก็กรีดร้องลั่น
ส่วนเรนที่ยังถือแจกันคามืออยู่ก็ตกใจ
ตกใจที่อีกฝ่ายทำถึงขนาดนี้เพียงเพราะผู้ชายคนเดียว
"เสียงอะไรน่ะ!....เรน! คิริซางะ!"
เลออนที่ออกมาตามหาเรนก็ตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า เรนเองก็ตกใจไม่แพ้เลออนเช่นกัน
"นายทำแบบนี้ทำไมน่ะ!" เลออนถามหาเหตุผล ส่วนเรนก็เงียบ
เงียบเพราะเขาตกอยู่ในภวังค์ของตนจนไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง
เลออนมีสีหน้าเสียใจก่อนจะอุ้มอายูมิไปยังห้องพักของตน
"ฉันคงเชื่อใจนายไม่ได้อีกแล้วสินะ" เลออนพูดขึ้น
เรนที่ตื่นจากภวังค์แล้วก็อึ้งกับคำพูดของเลออนก่อนจะก้มหน้าและเงียบไปในที่สุด จากนั้นเลออนก็เดินจากไป
ช่วงที่สวนกัน
เลออนใช้ความเร็วของตัวเองยัดกระดาษแผ่นเล็กลงเสื้อของเรนทันทีก่อนจะจากไปและไม่หันไปมองเรนอีก
เรนที่รู้ว่าเลออนทำอะไรไว้กับเขาจึงรออยู่พักใหญ่
พอเขาได้ยินเสียงปิดและเปิดประตูเขาจึงหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมาอ่านก่อนจะยิ้มบางๆ
ที่มุมปากและเก็บจดหมายแผ่นเล็กนั้นไว้ ซึ่งเนื้อความในจดหมายเขียนไว้ว่า
ฉันเห็นทุกอย่างหมดแล้วล่ะนะ
ขอโทษที่ฉันอาจจะพูดรุนแรงกับนายไป แต่นายช่วยแกล้งทำแบบนี้ไปก่อนแล้วกัน
ตอนนี้เรายังเอาผิดกับสองนนี้ไม่ได้ ปล่อยให้ได้ใจไปสักพักนายคงไม่ว่านะ
แล้วก็...ฉันน่ะ....รักนายแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ
เพราะใจของฉันฝากไว้ที่นายหมดแล้ว และก็ มิวะก็แอบดูอยู่เหมือนกัน ไปหาเขา
แล้วเขาจะอธิบายเรื่องราวฝั่งของไอจิให้รู้
รักนายนะ
เลออน
"จริงๆ เลยนะ....มิวะ!" เรนเรียกอีกฝ่าย
มิวะเดินออกมาจากมุมมืดของทางเดินก่อนจะยิ้มให้กับเรน
"ไปหานาโกยะกัน ไอจิน่ะเหมือนจะหนักกว่าที่คิดเลยล่ะ"
เรนพยักหน้าทันทีก่อนจะรีบตามมิวะไปหานาโกยะและไอจิที่ห้องของเขา
"ไอจิคุง....!!!" พอเรนเข้าไปก็ต้องตกใจเป็นสอบที่สาม
เพราะไอจิเขาร้องไห้ ร้องจนกระทั่งดวงตาทั้งสองข้างบวมเป่ง
"ฮึก...เรนคุง..." เรนไม่รอให้ไอจิพูดอะไรมากไปกว่านี้
เขารีบสวมกอดไอจิทันที ตอนนี้ไอจิต้องการเสาหลักในการยืน
มิวะและนาโกยะที่อยู่ในห้องนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเศร้าใจกับไอจิ
"ฮึก...ไคคุงเกลียดผม...ฮือ....เรนคุง..."
ไอจิกอดเรนแน่นก่อนพลางพูดคำเดิมซ้ำไปซ้ำมาราวกับตุ๊กตา
เรนกัดฟันแน่นก่อนจะกอดไอจิแน่นเหมือนจะเป็นการบอกว่าเขายังไม่ทิ้งอีกฝ่ายไปไหน
"ผมจะไปหาไค!" นาโกยะพูดพลางเดินออกจากห้อง
แต่มิวะกลับจับมืออีกฝ่ายไว้ นาโกยะที่กำลังจะหันมาถามมิวะว่าทำไมถึงหยุดเขาแต่มิวะกลับสวนขึ้นมาก่อนว่า
"ถึงนายไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์
เราต้องรอให้ไคออกห่างจากยัยโนโนมิยะนั่นซะก่อนแล้วค่อยไปอธิบาย ทำแบบนี้
ถึงจะล่าช้าแต่ก็ยังดีกว่าไปโดยพลการ"
นาโกยะเหวอกับท่าทางจริงจังของมิวะเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ
"ตอนนี้เราต้องอยู่กับไอจิ เพราะตอนนี้
เขาเหมือนกับแก้วที่บีบเพียงนิดเดียวก็แตกละเอียดแล้ว
เราจะห่างจากไอจิไม่ได้โดยเฉพาะนายสองคน เรน นาโกยะ"
มิวะพูดพลางจับไหล่นาโกยะและบีบมันเบาๆ
ก่อนจะหันไปมองไอจิที่ยังสะอื้นไห้ไม่หยุดอย่างน่าสงสาร
"ฉันขอกลับห้องก่อนนะ" มิวะพูดพลางออกจากห้องของไอจิและเรนไป
ทางด้านของไค
"ยังเจ็บอยู่รึเปล่า"
ไคที่ปฐมพยาบาลให้อีกฝ่ายถามเสียงเรียบ มิซากะยิ้มก่อนจะพูดเสียงหวานว่า
"หายแล้วค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ" พูดจบก็กอดไคจากด้านหลัง
ไคขมวดคิ้วก่อนจะเข้าสู่ห่วงความคิดของตน
'โดนทำร้ายมาขนาดนี้ยังทำแบบนี้ได้งั้นเหรอ......' ไคใช่ความคิดเพียงเล็กน้อยก็รู้ว่าอีกฝ่ายแต่งเรื่องขึ้นมา
จากนั้นความรู้สึกผิดมากมายที่เขาทำไว้กับไอจิก็พุ่งเข้ามาราวกับจรวด
"ฉันกลับก่อนล่ะ"
ไคพูดอย่างเย็นชาก่อนจะรีบเดินกลับห้องของตน
พอไคมาถึงห้อง มิวะก็เอาแต่จ้องจนไคแทบจะทำอะไรไม่ถูก
"นายรู้มั้ยว่าไอจิน่ะตอนนี้เป็นยังไง!"
มิวะพูดขึ้นเสียงแข็ง ไคก้มหน้าอย่างเงียบงัน มิวะที่เห็นไคเป็นแบบนั้นก็สงสัย
"ฉัน....." ไคพูดเสียงสั่น ไม่ใช่เพียงแค่เสียง
ตัวของไคเองก็สั่นเช่นกัน ที่เขาสั่น เพราะเขากำลังกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเอง
มิวะหลับตาลงอย่างไม่อยากจะนึกเห็นก่อนจะเดินเข้าไปกอดปลอบเพื่อนรักของตนอย่างแผ่วเบา
"เรื่องผิดพลาดน่ะเกิดขึ้นได้ตลอดนั่นแหละ
นายเองก็เรียนรู้ความผิดพลาดนี้ไว้ซะ...." ไคร้องไห้เงียบๆ
พลางพยักหน้าลงช้าๆ มิวะเองก็กอดเพื่อนของตนแน่นราวกับจะปลอบใจและให้กำลังใจเขา
ส่วนไคก็ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาของตนไหลออกไปพร้อมกับความรู้สึกผิด
ทางด้านของเลออน
เขาได้ทำแผลให้อีกฝ่ายจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีเลือดไหลออกมา
"ขอบคุณมากนะคะ" อายูมิยิ้มหวานให้กับอีกฝ่าย
แต่เลออนกลับมองด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วเธอก็กลับห้องไปซะ
นี่มันห้องของฉันและนาโกยะที่เป็นบัดดี้กัน เธอก็รีบไปดูอาการของบัดดี้เธอซะ"
เลออนเอ่ยไล่ทางอ้อม เด็กสาวแอบทำสีหน้าไม่พอใจก่อนจะรีบเดินไปยังห้องของตน
"หึ ช่างคิดนะ"
นาโกยะยิ้มมุมปากให้กับเลออนพลางเดินเข้ามาในห้อง
"เหอะ ผู้หญิงแบบนั้นน่ะไม่อยู่ในสายตาฉันหรอก"
นาโกยะผิวปากให้อีกฝ่ายอย่างถูกใจ เลออนมองนาโกยะก่อนจะถามอีกฝ่ายอย่างกังวลใจเล็กน้อยว่า
"ไอจิเป็นยังไงบ้าง" นาโกยะสีหน้าหมองลงทันทีก่อนจะตอบไปตามจริงว่า
"เอาแต่ร้องไห้ ตอนนี้ตาของไอจิบวมใหญ่เลยล่ะ"
เลออนพยักหน้ารับกับคำพูดของอีกฝ่ายก่อนจะเริ่มจัดที่นอนให้เรียบร้อย
"ไปอาบน้ำเถอะ วันนี้มีเรื่องมากพอแล้ว ฉันขอหลับก่อนนะ
ฝันดี" พูดจบเลออนก็ปิดไฟและนอนลงทันที นาโกยะถอนหายใจเบาๆ
ก่อนจะพึมพำออกมาว่า "เกิดเรื่องเยอะจริงๆ นั่นแหละ"
จากนั้นเขาก็เข้าไปอาบน้ำและเข้านอนทันทีก่อนจะต้องตื่นมามองสภาพนี่ไม่อยากจะมองที่สุดของไอจิ
+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
จบซะที!!
ตอนนี้รู้สึกจะยาวนะ เฮ้อ....ไคกับไอจิจะเป็นยังไงต่อไปนะ......
ตอนหน้า พวกไคจะต้องทำกิจกรรมแก้ปัญหาคฤหาสน์ J.T.R โดยการเข้าไปในห้องใต้ดินเพื่อหาโจทย์ปัญหาที่พวกซายูริทำไว้และจะต้องไปหาของที่เป็นคำใบ้ในกระดาษแผ่นเล็กนั้นออกมา
ตอนหน้าก็ไม่มีอะไรมาก
แค่ไขปัญหาที่พวกซายูริสร้างจากนั้นก็ไปหาคุณแม่ของไกลยาร์ดก็เท่านั้นแหละนะ
เอาล่ะ พูดมาแล้ว ไปน้าาาาาาาาาา
ความคิดเห็น