ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Vanguard] Mystery School ชมรมลับ โรงเรียนปริศนา ภาค 1

    ลำดับตอนที่ #14 : อุบัติเหตุ *

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 59


     "ไอ้เจ้าบ้าไค...." เรนเดินกระทืบเท้าไปที่ห้องของไคอย่างหงุดหงิดก่อนจะยกขาขึ้นและถีบประตูห้องของอีกฝ่าย
    ปัง!! "!!!" เสียงประตูกระแทกกับผนังดังลั่น ส่วนไคที่กำลังแต่ตัวอยู่ก็สะดุ้งจนเกือบจะทำผ้าคลุมอาบน้ำตก
    "นายมีธุระอะไร" ไคถามเสียงห้วน เรนจ้องไคยังกับจะกินเลือกินเนื้อก่อนจะเดินกรทืบเท้าเข้ามาใกล้
    "นายแอบเปลี่ยนเค้กกับผมใช่มั้ย!!" เรนโวยวายพลางทุบตีไคอย่างเอาเรื่อง
    "โอ้ย! เดี๋ยวก่อนสิเรน!" ไคที่หันหลังให้เรนอยู่ไม่สามารถป้องกันตัวได้จึงร้องให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำ
    "ไม่เดี๋ยวแล้ว!!!" เรนโวยวายพลางทุบตีไคด้วยความแค้น 'บังอาจมาเปลี่ยนขนมหวานสุดยอดของผมเป็นขนมขมสุดยอด ตายซะ!!'
    "ก็บอกให้หยุดไง!" ไคหันมารวบมือเรนไว้ทันที เรนที่เห็นไคใส่แค่บ็อกเซอร์ก็หน้าแดงแจ๋ก่อนจะดิ้นพล่านเป็นปลาขาดน้ำ
    "อย่าดิ้นสิ" ไคพูดขึ้น แต่เรนไม่ฟังอะไรเอาแต่ดิ้นจนทั้งสองเสียหลักในการยืน
    "เหวอ! / เฮ้ย!" โครม!! ทั้งไคและเรนต่างล้มลงกับพื้นห้องในสภาพที่ไคแทบจะเปลือยทั้งตัวส่วนเรนก็นอนหลับตาแน่นอยู่บนตัวของไคโดยที่อีกฝ่ายก็กอดเรนไว้แน่นกันไม่ให้ตัวกระแทกพื้น
    "ปละ ปล่อยผม" เรนหน้าแดงแจ๋พลางมองสภาพตัวเองและไค
    "เสียงดังอะไรกัน....." นาโกยะเดินเข้ามาในห้องก่อนจะชะงัก...และยังมีคนอีกคนเข้ามาด้วยนั่นก็คือเลออน อีกฝ่ายไม่พูดพร่ำทำเพลง จู่ๆ ก็เดินออกจากบ้านของไคทันที
    "ดะ เดี๋ยวเลออน!!" เรนรีบลุกขึ้นพลางวิ่งตามเลออนไป
    "เฮ้อ....ก็ดันอยู่ในสภาพซะล่อแหลมขนาดนี้นี่นะ" นาโกยะพูดพลางเดินเข้ามาในห้อง หยิบเสื้อเชิร์ตกับกางเกงวอร์มและโยนส่งไปให้ไคที่กำลังนั่งกุมขมับอยู่
    "ปวดหัวเหรอ?" ไคพยักหน้าเบาๆ พลางเอื้อมมือไปแตะศีรษะก็พบว่าตัวเองหัวแตก
    "ไปหาไกยาร์ลก่อนนะ" พูดจบไคก็เดินไปหาไกยาร์ลทันทีเพื่อให้อีกฝ่าทำแผลให้
    "เลออนเดี๋ยว! ฟังผมก่อน!" เรนวิ่งตามเลออนมาพลางจังมืออีกฝ่ายไว้แต่เลออนกลับสะบัดแขนตัวเองออกก่อนจะรีบเดินออกจากบ้านของไคไปทันที
    "เดี๋ยวก่อนสิเลออน!!" เรนวิ่งตามอีกฝ่ายไป...ในจังหวะเดียวกันก็มีรถบรรทุกคันหนึ่งแล่นมาพอดี
    "เรนคุง!! อันตราย!!" ไอจิตะโกนพลางโยนของไปให้นาโอกิถือ ส่วนตัวเองก็วิ่งไปผลักเรนออกจากเลนถนนก่อนที่เรนจะโดนรถชน
    "ไอจิ! เรน! ไม่เป็นไรนะ!!" นาโอกิวิ่งมาดูอาการของทั้งคู่ เรนมีแผลถลอกเล็กน้อยตามบริเวณข้อศอกและขาส่วนไอจิที่โดนรถเชี่ยวก็หัวแตกกับแขนขาถลอก
    "ผมไม่เป็นไร แต่เรนคุง...." ไอจิหันไปมองเรนที่กำลังกำหมัดแน่นพลางร้องไห้โดยไม่มีเสียง
    "เลออนคุงเป็นอะไรไปน่ะ......" ไอจิพูดเบาๆ พลางพยุงเรนกลับเข้าบ้านของไค
    "ไคก็หัวแตก นี่ไอจิก็ยังหัวแตกอีกเหรอ ผมเหนื่อยใจนะเนี่ย...."นาโกยะบ่นพลางนั่งทำแผลให้กับไอจิ
    "ขอโทษนะ" ไอจิยิ้มแห้งๆ ให้กับแฝดน้องของตนก่อนจะมองไปที่เรน
    "เรนคุงไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวเลออนคุงก็หายโกรธ เชื่อผมสิ" ไอจิพยายามปลอบเรนอย่างสุดความสามารถ เรนหันมามองไอจิก่อนจะยิ้มเศร้าๆ เหมือนเป็นการขอบคุณ
    "ยะโฮ! ไอจัง ไค" จู่ๆ เด็กสาวผมสีเปลือกไม้ก็ตะโกนลั่นพลางเดินเข้ามาเกาะไหล่ไค
    "อะ อ้าว...เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?" เด็กสาวคนเดิมถามขึ้น
    "เลออนคุงทะเลาะกับเรนคุงน่ะครับซางิริ" เด็กสาวที่ชื่อนัตสึซากิ ซางิริ.....หรือจริงๆ ชื่อเซ็นโด ซางิริพยักหน้าเข้าใจก่อนจะนั่งลงข้างๆ เรน
    "ทำใจให้สงบนะเรน อ่ะนี่ น้ำผลไม้ ดื่มซะแล้วทำตัวให้ผ่อนคลายนะ" ซางิริยิ้มแป้น เรนมองก่อนจะแย้มรอยยิ้มออกมาบางๆ พลางรับน้ำผลไม้มาจากซางิริและดื่มมันเข้าไปจนหมด
    "สบายใจขึ้นมั้ย" เรนพยักหน้าเล็กน้อย ซางิริยิ้มแป้นพลางเดินไปทำขนมมานั่งกินเล่น(ซางิริคือศิษย์ทำขนมของไอจิ) พลันจู่ๆ เรนก็รู้สึกหน้ามืดตาลาย ก่อนจะค่อยๆ ล้มหมดสติลงบนตักของไอจิ
    "เรนคุง!!" ไอจิตกใจเล็กน้อย ไคจึงรีบอุ้มเรนไปที่ห้องนอนที่ใกล้ที่สุดทันที
    "น้ำผลไม้นนั่น...." นาโกยะหยิบขวดน้ำผลไม้ขวดนั้นขึ้นมาดมทันที
    "นี่มันยาของคุณอาซาโตรุนี่!" นาโกยะขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองซางิริ
    "เอ๋...ได้ไงเนี่ย...เดี๋ยวนะ ขอคิดก่อน..." ซางิริคิดถึงเหตุการณ์ก่อนที่ตนจะมาที่บ้านไค
    'พ่อคะ เมื่อไหร่พี่ยูเอะจะเรียนจบเนี่ย' เด็กสาวบ่นพลางนั่งมองหลอดทดลองยาของพ่อตน
    'ซางิริ ลูกจะย้ายไปอเมริกาหลังจากจบปีนี้นี่ และก็กว่าซายูเอะจะเรียนจบก็อีกตั้งสามปีนะ' ผู้เป็นพ่อทดลองยาอะไรบางอย่างเสร็จก็เทลงขวดพร้อมกับปิดผนึกขวดให้เรียบร้อย
    'นั่นยาอะไรคะพ่อ' เด็กสาวถามอย่างสนใจ ผู้เป็นพ่อยิ้มบางๆ ก่อนจะตอบคำถามของลูกสาวของตนว่า "ยาลบความทรงจำที่เราไม่ต้องการจะจำน่ะ' เด็กสาวมองยาที่มีสีสันดุจน้ำผลไม่อย่างสนอกสนใจ
    'แย่ล่ะ หนูต้องไปหาไคแล้ว ลาล่ะค่ะพ่อ' เด็กสาวหอมแก้มพ่อของตนหนึ่งทีก่อนจะคว้าน้ำผลไม้ของตนที่วางไว้ข้างๆ ขวดยาของซาโตรุ

    "ฉันหยิบมาผิดขวด! นั่นมันยาลบความจำ!" ซางิริโผล่งออกไปทำเอานาโกยะถึงกับกุมขมับกับความช่างคิดช่างประดิษฐ์ของพิลึกพิลั่นของเซ็นโด ซาโตรุ
    "ฉันโทรไปตามเลออนก่อนล่ะ"นาโกยะพูดพลางคว้าโทรศัพท์บ้านกดเบอร์ของเลออนทันที

    Koukai shinai ichido kiri no kyou ga Yume wo tsukamu egao niriruyo...

    "มีอะไรนาโกยะ" เลออนพูดเรียบๆ นาโกยะเกาหัวแกรกๆ อย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี จู่ๆ ซางิริก็แย่งโทรศัพท์จากมือของเขาไปและตะคอกใส่เลออนว่า "ตอนนี้เรนกำลังจะแย่ ถ้าไม่รีบมาฉันจะให้พี่ริวตัดหงอนนาย!!" ซางิริพูดจบเลออนก็ตัดสายทันที ผ่านไปประมาณสิบกว่านาที เลออนก็เปิดประตูบ้านไคเข้ามาพลางหอบจัด
    "เร็วดีนี่" ซางิริพูดพร้อมรอยยิ้ม เลออนค้อนใส่เพื่อนสาวก่อนจะหันไปจ้องนาโกยะที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
    "เรนอยู่ไหน" เลออนถามด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์ ซางิริกระดิกนิ้วเหมือนจะเป็นเชิงจะให้ตามไป ซึ้งซางิริก็พาเข้าไปยังห้องที่อยู่ใกล้ที่สุด เมื่อเลออนเห็นเรน ความรู้สึกผิดก็เข้ามาเกาะกุมจิตใต้สำนึกทันที
    "เกิดอะไรขึ้นกับเรน" แต่ละคนส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่รู้
    "รอให้เรนฟื้นเดี๋ยวก็รู้เอง" ซางิริพูดอย่างใจเย็น หลังจากนั้น คนที่นอนก็เริ่มมีปฏิกิริยา
    "งืม.....ที่นี่มัน....ห้องของเรย์จังนี่" เรนลุกขึ้นนั่งพลางมองรอบๆ ห้อง
    "ผมทำให้ทุกคนเป็นห่วงสินะ...." ทุกๆ คนพยักหน้าเป็นคำตอบแทนการพูด เรนก้มหน้าสำนึกผิดก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองเลออนอย่างสงสัย
    "นายเป็นใครกันเหรอ??" เรนพูดเหมือนกับไม่เคยรู้จักเลออน ซึ่งทำให้หลายๆ คนอึ้ง มีแต่ซางิริกับนาโกยะเท่านั้นที่ขมวดคิ้วจนหว่างคิ้วแทบบี้ยุงได้
    "ยาลบความจำที่ไม่ต้องการ....ได้ผลจริงๆ" นาโกยะและซางิริพึมพำ ซึ่งนั้นก็กลายเป็นเป้าสายตาของทุกคนในห้องได้
    "หมายความว่ายังไง" ไคถามอย่างสงสัย ซางิริขมวดคิ้วก่อนจะตอบคำถามของไคว่า "ฉันหยิบผิด ไปหยิบขวดยาของพ่อเข้าเพราะสีมันเหมือนกับน้ำผลไม้ที่ฉันวางไว้ข้างๆ ขวดยานั่น" เรนเอียงคอมองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปก่อนจะหันไปมองไอจิที่นั่งลงขอบเตียงข้างๆ เขา
    "ไอจิคุง ผมอยากกินแพนเค้กจังเลย" เรยพูดพร้อมรอยยิ้มเนือยๆ ไอจิพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าครัวไปทำขนมให้กับเรน
    "คงจะลืมทุกอย่างที่เกียวกับเลออนไปสินะ" ไคหันไปถามซางิริที่กำลังคิดหาทางช่วยเรน
    "ใช่ แต่ทางแก้น่ะมี" ซางิริพูดอย่างมั้นใจ ไคมองด้วยความสงสัยเล็กน้อย
    "เรน...." เลออนพูดพลางดึงเรนเข้ามากอดแนบอก
    "!! นะ นี่นายน่ะ กะ กอดผมทำไม" เรนตะกุกตะกักแต่หลังจากนั้น เขาก็รู้สึกได้....ว่าเขาเคยกอดคนๆ นี้....
    "วะ ว่าแต่นายชื่ออะไรงั้นเหรอ? ผมชื่อเรน...สึซึงาโมริ เรน" เรนพูดพร้อมรอยยิ้ม เลออนยิ้มบางๆ ก่อนจะพูดขึ้นเสียงเบาว่า "ฉันโซริว เลออน" เรนยิ้มแป้นเหมือนเด็กๆ เขารู้สึกดีใจที่ได้เพื่อนใหม่มาอีกคน โดยหารู้ไม่ว่าเพื่อนคนนี้คือคนที่ตนรัก
    "แพนเค้กหวานพิเศษกับนมมาแล้วครับเรนคุง" ไอจิยกขนมมาเสิร์ฟให้กับทุกๆ คนที่อยู่ในห้อง และแน่นอนว่าขนมของเรนย่อมหวานพิเศษกว่าคนอื่นๆ
    "นี่ๆ เลออนนายอยู่ชมรมไหนงั้นเหรอ?" เรนหันไปถามเลออนที่นั่งกินขนมอยู่ๆ ข้างๆ เด็กหนุ่มที่ถูกถามเงยหน้ามองอีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนจะตอบไปว่า "ชมรมเดียวกับนายนั่นแหละ" เรนพยักหน้ารัวๆ พลางยัดแพนเค้กเข้าปากด้วยสีหน้ามีความสุข
    "นี่ไค เรื่องไปเข้าค่ายตกลงจะไปชิสุโอกะหรืออังกฤษ" นาโกยะถามเสียงเรียบ ไคคิดเล็กน้อยก่อนจะยื่นตั๋วเครื่องบินเฟิร์สคลาสที่พ่อของไอจิเตรียมไว้ให้พวกเขาโดยเฉพาะ
    "ไปอังกฤษสินะ" นาโกยะพูดก่อนจะบ่นถึงพ่อของตนพลางกินเค้กไปเรื่อยๆ
    "โห ได้ไปเข้าค่ายที่ต่างประเทศ....พ่อนายลงทุนไปมั้ยเนี่ย รู้หรอกนะว่าพวกนายเข้าขั้นเศรษฐี แต่ถึงกับไปอังกฤษนี่...." นาโอกิพูดเหมือนจะไม่เห็นด้วยเพราะความเกรงใจ นาโกยะปัดมือไปมาเหมือนไม่ให้คิดมากก่อนจะพูดออกมาอย่างเบื่อหน่าย "ช่างเถอะๆ ที่ให้ไปที่อังกฤษน่ะจะให้ไปหาพี่ซายูริด้วย" คนนอกครอบครัวของพวกไอจิต่างงกับชื่อซายูริ ซางิริที่ยืนกอดอกอยู่หัวเตียงก็พูดออกมาว่า "เซ็นโด ซายูริ พี่ฉันเอง" มิวะถึงกับงงถึงที่มาที่ไปของครอบครัวนี้ซะเหลือเกิน ตกลงไอจิมีญาติกี่คนกันแน่เนี่ย
    "พี่คนโตคือพี่ซายูริ พี่เขาทำงานเป็นศัลยแพทย์ที่อังกฤษ คนรองลงมาคือพี่ซายูเอะ ตอนนี้กำลังเรียนต่อโท อีกสามถึงสี่ปีก็จะจบแล้ว คนเล็กสุดคือซางิริ เข้าใจแล้วรึยัง" ไคตอบปัญหาคาใจเกี่ยวกับครอบครัวของพวกไอจิให้กับคนอื่นๆ รู้
    'ทำไมแต่ล่ะคนต้องมีลูกสองคนขึ้นไปด้วยเนี่ย' นี่คือความคิดของแต่ละคนที่มองดูว่าครอบครัวนี้จะมีลูกเยอะเกินไปมั้ย
    "เอาเถอะ ว่าแต่....ไอจัง ฉันหิวแล้ว" ซางิริพองแก้มพลางหันไปจ้องไอจิที่กำลังดื่มชาอยู่
    "ครับๆ เดี๋ยวผมจะไปทำข้าวกลางวันล่ะ" พูดจบไอจิก็ลากไคไปที่ห้องครัวทันที

    ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ไอจิก็เดินมาตามทุกคนไปกินข้าว
    "อาหารเที่ยงวันนี้เป็นอาหารง่ายๆ ก็ซูชินั่นแหละนะ" ไคพูดเรียบๆ พลางชงชา มิวะมองก่อนจะเผลอจินตนาการไปว่าไคเป็นแม่ศรีเรือนที่รอสามีกลับบ้านและใส่กิโมโนเหมือนในสมัยเฮอัน
    "นายรีบหยุดความคิดติ๊งต๊องของนายเดี๋ยวเลยนะมิวะ" ไคพูดพลางวางกระแทกแก้วชาลงข้างๆ มิวะ
    "ทะ....โทษที" มิวะยิ้มแห้งๆ ก่อนจะดื่มชาแก้ความกลัวของตน
    "แหะๆ....ทุกคนรีบๆ กินเถอะครับ เรนคุงน่ะต้องนอนพักเยอะๆ นะ" ไอจิพูดพร้อมรอยยิ้ม เรนพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะลงมือกินข้าว

    ปิ๊งป่อง....

    จู่ๆ ก็มีคนมากดกริ่งประตูบ้านของไค ไอจิที่นั่งใกล้ทางออกที่สุดจึงต้องเดินออกไปเปิดประตู
    "ครับ.....พี่ริว!?" ไอจิเงยหน้ามองชายหนุ่มผมสีทองดวงตาสีม่วงอ่อนอย่างตกใจก่อนจะรีบเชิญอีกฝ่ายเข้ามาในบ้าน
    "เลออนคุง พี่ริวมาหาน่ะ" ไอจิโผล่หัวเข้ามาในห้องพลางตะโกนะบอกเลออนเสียงค่อนข้างเบา อีกฝ่ายแทบจะสำลักชาที่กำลังดื่มก่อนจะเดินออกไปหาพี่ชายของตน
    "มีอะไรพี่" เลออนถามเสียงห้วนพลางเหลือบมองพี่ชายของตน ริวหรือโซริว ริออนไม่พูดไม่จา จับข้อมือของเลออนและพาเลออนเข้าไปในห้องนอนของไอจิโดยที่เจ้าของห้องก็ตามไปด้วย
    "เกิดอะไรขึ้นกับเรน" ริวถามเสียงเรียบเหมือนที่เขาเคยใช้ตอนที่สอบปากคำนักโทษ เลออนหน้าซีดก่อนจะตอบออกไปเรียบๆ ว่า "ความจำเสื่อม" ริวจ้องจับผิดน้องชายจนอีกฝ่ายรู้สึกกดดัน จึงต้องยอมบอกความจริงไปตรงๆ ว่า "แค่โมโหนิดหน่อยเท่านั้นเองแหละ" ริวมองน้องชายอย่างเคลือบแคลง เลออนรู้สึกร้อนรนจนผู้เป็นพี่สังเกตุได้ จึงคาดคั้นต่อไปว่า "พูดความจริงออกมาซะเลออน" เลออนกลอกตาไปมาอย่างครุ่นคิด ก่อนจะยอมบอกความจริงกับริวไป
    "ที่แท้ก็เกิดอาการหวงเรน จนสุดท้ายเรนก็ความจำเสื่อมเฉพาะเรื่องของนายด้วยยาของคุณซาโตรุสินะ" ริวส่ายหัวไปมาอย่างระอาใจ เลออนยืนก้มหน้าไม่พูดไม่จาก่อนที่น้ำตาหยดเล็กๆ จะไหลออกมาจากตาของเด็กหนุ่ม
    "เลออน! / เลออนคุง!" ทั้งริวและไอจิที่อยู่ด้วยกันต่างพากันตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เลออนโผเข้ากอดพี่ชายของตนแน่นก่อนจะร้องไห้ออกมาเงียบๆ ด้วยความสำนึกผิด
    "ไม่เป็นไรๆ ยังไงเราก็ต้องหาทางแก้ได้" ริวพยายามปลอบน้องชายเพียงคนเดียวของตน ไอจิที่ยืนอยู่ข้างๆ ยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้เลออนเพื่อให้เขาเช็ดน้ำตาของตัวเอง
    "ถ้านั่นเป็นสิ่งที่คุณอาเป็นคนทำ เพราะฉะนั้นคำตอบก็ต้องอยู่กับคุณอา" ไอจิพูดให้ความหวัง เลออนยิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้า แต่ใบหน้าของเขาก็ยังเจือไปด้วยความรู้สึกที่มีต่อเรน
    "ไว้วันพรุ่งนนี้เราไปหาคุณอากันนะครับเลออนคุง ให้ซางิรินำทางไปล่ะกันนะ" ไอจิตบบ่าเลออนเบาๆ อย่างให้กำลังใจเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไป
    "พยายามเข้าล่ะ ถ้าความทรงจำของเรนไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม ไม่ต้องมาหาพี่อีก" ริวเอ่ยคำสั่งอย่างเด็ดขาด เลออนอึ้งก่อนจะพยักหน้าตอบรับเบาๆ
    "พี่ไปล่ะ ขืนให้เรย์ทำงงานคนเดียวมีหวังนครบาลล่มแน่" ริวพูดเป็นเชิงตลกเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไป เลออนยืนคิดอยู่ในห้องนั้นสักพักก่อนจะตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะต้องฟื้นความจำของเรนให้ได้

     

         ณ ห้องอาหารบ้านโทชิกิ
     

    เลออนเดินเข้าไปหาพวกไคที่กำลังทำความสะอาดห้องกันอยู่ โดยรวมแล้วในห้องอาหารมีคนอยู่แค่สามคนคือไค มิวะและซางิริ
    "คิดได้แล้วเหรอ" ไคถามโดยที่ไม่หันไปมองอีกฝ่ายพลางล้างจาน
    "อืม ซางิริ พรุ่งนี้....." เลออนพูดติดๆ ขัดๆ ซางิริยิ้มพลางเดินมาตบหลังเลออนแรงๆ หนึ่งทีจนอีกฝ่ายถึงกับจุกก่อนจะพูดว่า "พรุ่งนี้ฉันจะพาไปหาคุณพ่อกับคุณแม่ล่ะกัน คงอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในป่าอาซึสะนั่นแหละ" เลออนพยักหน้า มิวะเดินเข้ามาหาเลออนพลางยื่นของสิ่งหนึ่งให้
    "เรนบอกว่านายไปหาพี่ริวก่อนจะได้กินข้าว เขาเลยเก็บขนมปังไว้ให้ กินซะ อ้อ! แล้วนี่ด้วย" พูดจบมิวะก็โยนกล่องนมให้กับเลออน เด็กหนุ่มยิ้มบางๆ ก่อนจะดื่มนมเข้าไป
    "ขนาดความจำเสื่อมยังห่วงกันขนาดนี้ ถ้าความจำกลับมาไม่ใช่ว่าจะหนักกว่าเดิมนะ" ไคที่ล้างจานเสร็จแล้วพูดเสียงห้วน เลออนทำท่าประมาณว่าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะเดินออกจากห้องอาหารไปที่ห้องพักของเรน
    "ไกยาร์ล เรนเป็นยังไงบ้าง" เลออนถามด้วยความเป็นห่วง ไกยาร์ลมองก่อนจะยิ้มบางๆ และตอบคำถามของเลออนว่า "ตอนนี้ต้องนอนพักก่อน เพราะเมื่อเช้าพี่เรนเกือบจะโดนรถชน แล้วร่างกายก็ค่อยข้างอ่อนเพลียด้วย ฝากดูแลพี่เรนหน่อยนะ ผมจะไปดูอาการของไอจิคุง" ไกยาร์ลฝากฝังหน้าที่ให้กับเลออนเสร็จก็เดินออกจากห้องของเรนไปยังห้องของไอจิ
    เด็กหนุ่มนั่งลงบนขอบเตียง มองอีกฝ่ายที่กำลังหลับไหลในนิทรารมย์อย่างเป็นสุข เห็นแล้วช่างเหมือนเด็กไร้เดียงสามากกว่าจะเป็นเด็กมัธยมทั่วไป
    "ฉันอยากให้นายจำฉันได้เร็วๆ นะ....เรน" เลออนเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าปรกตาของเรนออก ก่อนจะค่อยๆ ก้มลงจูบหน้าผากอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาด้วยใบหน้ารู้สึกผิดสุดๆ
    "ท่าทางเลออนคุงเหมือนจะแย่นะ" ไอจิที่พึ่งเปลี่ยนผ้าพันแผลได้ไม่นานแอบมองเรนกับเลออนอยู่หน้าประตูโดยที่คนด้านในไม่รู้ถึงการมาของพวกเขา
    "อือ สงสารทั้งสองคนอยู่นะครับ" ไกยาร์ลพูดพลางมองทั้งคู่อย่างเห็นใจ นาโกยะตบบ่าไกยาร์ลเบาๆ ก่อนจะทำสีหน้าหดหู่
    "คงต้องคอยช่วยอยู่ห่างๆ ซะแล้วสิ ตอนนี้น่ะนะ" นาโกยะมองเข้าไปในห้องก่อนจะจับลูกบิดประตูแล้วค่อยๆ ปิดประตูอย่างเงียบเชียบ
    "แต่ตอนนี้ต้องคอยเช็คด้วยว่าพวกพี่มีงานอะไรเข้ามาบ้างรึเปล่า งานเยอะเลยล่ะนะ" มิวะพูดพลางกอดคอนาโกยะจากด้านหลังก่อนจะขโมยหอมแก้มอีกฝ่าย
    "ไอ้บ้ามิวะ!" นาโกยะตวาดเสียงเบาพลางหน้าแดงแจ๋ ส่วนต้นเหตุกลับทำท่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนเด็กหนุ่มที่มีปลิงเกาะอยู่รู้สึกหมั่นไส้
    "เฮ้อ ไปทำขนมกันดีกว่านะไอจิ ส่วนนายมิวะ ไม่ต้องกิน" พูดจบนาโกยะก็ลากไอจิไปห้องทำขนมทันที
    "เฮ้! เดี๋ยว ทำขนมเผื่อด้วยสิ น้าาาาาาาาาา" มิวะวิ่งตามพวกนาโกยะไป ส่วนไกยาร์ลที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ก่อนจะเดินไปช่วยไคทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อย

    +*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+

    แต่งแค่นี้ก็จบแล้วไรท์จะค้างไปเพื่ออะไรเนี่ย =w="
    ตอนหน้า พวกไอจิจะต้องไปผจญภัยที่ป่าลึกลับ ซะที่ไหนล่ะ พวกไอจิจะต้องไปที่ป่าอาซึสะ ป่าที่เลื่องชื่อว่ามีคนตายเยอะที่สุด(แล้วพวกซาโตรุไปสร้างบ้านพักตากอากาศที่นั้นโดยไม่กลัวผีหลอกเนี่ยนะ!)
    ตอนหน้าจะเป็นยังไง เลออนจะนำความทรงจำของเรนกลับมาได้มั้ย จะเป็นไงต่อรออ่านตอนหน้านะคะ^^
    และขอขอบคุณท่านผู้อ่านด้วยนะคะที่มาอ่าน ไรท์จะพยายามต่อไปน้าาาาา

    ลาก่อนจ้าาาาาาา >w<





     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×